56 : มอบสมรสพระราชทาน (จบเล่ม1) หลี่เมิ่งเหยาหวังว่าเขาจะปฏิเสธตนเอง ตำแหน่งรองแม่ทัพน่าจะมีศักยภาพในการเลือกคู่ครองของตนเองได้ ยิ่งไม่รู้ว่าเขากับคู่หมั้นก่อนหน้า มีใจให้กันมากน้อยเพียงใด การมีนางเข้ามาแทรกตรงกลาง ไม่เรียกว่าทำลายเรื่องดี ๆ ของผู้อื่นหรอกหรือ “หานเฟิงตัวเจ้า
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ! เสียงกระแอมเตือนเบา ๆ จากเจียงหยุนฟ่านดังขึ้น เซี่ยโหวหานเฟิง “กระหม่อมน้อมรับราชโองการพ่ะย่ะค่ะ” เมื่ออีกฝ่ายน้อมรับราชโองการไปแล้ว ตัวนางจะคัดค้านได้อย่างไร นางกลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ “หม่อมฉันน้อมรับราชโองการเพคะ” หลี่เมิ่งเหยาเ
57 : ท่านแม่ข้าไม่อาจตัดใจจากพี่หานเฟิงได้ จวนแม่ทัพเซี่ยโหว เมื่อเซี่ยโหวหานเฟิงกลับมาจากท้องพระโรง ได้ตรงดิ่งเข้าไปยังลานฝึกในทันที ใช้เวลาหนึ่งชั่วยาม กว่าจะหยุดการฝึกฝนกระบี่ เขาไม่เคยคิดอยากเกี่ยวดองกับราชวงศ์แม้แต่น้อย คิดไม่ถึงว่า สลัดทิ้งไปหนึ่งกลับต้องมาเจออีกหนึ่ง
หลี่เมิ่งเหยาเห็นมารดานั่งซึมกะทือ พร้อมถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า พลันรู้สึกเหนื่อยหน่ายใจอยู่ไม่น้อย “จะเศร้าไปไยท่านแม่ สตรีสามพันนางในวังหลัง บางคนยังไม่เคยเห็นหน้าของฮ่องเต้เลยด้วยซ้ำ ท่านแม่เป็นเพียงน้องสาวที่พลัดพรากจากกันตั้งแต่เกิด บุญสัมพันธ์อันน้อยนิดเช่นนี้ อย่าได้คิดอะไรไกลเ
58 : เสี้ยนจู่อย่างข้า ต้องฟังความเห็นเจ้าด้วยรึ เมื่อลับหลังคนนอกไปแล้ว เฉาซูหลิ่งเรียกสาวใช้ให้มาเปิดกล่องของขวัญดู พบว่าด้านในเป็นผ้าไหมผืนงามหลายสิบพับ กับเครื่องประดับอีกหลายกล่อง รีบให้คนนำไปเก็บไว้ในคลังสมบัติของตน “นั่นพวกเจ้าขนหีบห่ออะไรกัน” หลี่เมิ่งเหยาเอ่ยถามสาวใช
หลังจากเดินตามหลังผู้เป็นนายทั้งสอง พร้อมแมวอีกหนึ่งตัวมาได้ราวสองเค่อ ซีจงจึงเข้าใจว่าทั้งคู่ไม่ได้ทำตัวแตกต่าง จากชาวบ้านทั่วไปแม้แต่น้อย ยังซื้อขนมเดินกินเล่นตามท้องถนนกันได้ ทั้งยังเผื่อแผ่มายังเขาอีกด้วย ที่ทำให้เขาทึ่งมากที่สุด ก็คือเจ้าแมวตัวอ้วนกลมสีขาวเสี่ยวไฉ พอคุณชายน้อยวางมัน
59 : เจ้าไปสืบดูว่านางเป็นใคร หลี่เมิ่งเหยาเดินมาหยุดอยู่หน้าชุดเหมันต์ หันไปบอกกับคนงานที่เดินถือชุดตามหลังนางมา “ข้าเอาชุดนี้ด้วย” “ได้เจ้าค่ะ” นางกำลังจะปลดชุดลง พลั่ก ! กลับถูกฮู่อวิ้นเซียนผลักจนล้มลงไปนั่งอยู่บนพื้น หลี่เมิ่งเหยามึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง เหตุใดถึงไ
ฮู่อวิ้นเซียนได้ยินเช่นนั้นก็นึกสนใจขึ้นมา องครักษ์วังหลวงเหตุใดมาติดตามสตรีชาวบ้าน คนที่นางไม่ถูกชะตาผู้นี้ “เสี่ยวหยวนอยากได้ชุดไหน เจ้าก็ตามใจเขาเถอะ” หลี่เมิ่งเหยาหันไปเอ่ยกับซีจง “ขอรับคุณหนู” “งั้นข้าเอาชุดนี้แล้วก็ชุดที่เลือกไว้นั่นหมดเลย” เสี่ยวหยวนทำท่าไม
ฤดูร้อนปีนี้ไม่ได้ร้อนมากอย่างที่คิด บรรยากาศกำลังเย็นสบาย สายลมพัดเอื่อยสายน้ำไหลฉ่ำ หลี่เมิ่งเหยากำลังอ้าปากรับเนื้อปลาย่าง ที่สามีป้อนให้อย่างมีความสุข นางมองเด็ก ๆ ที่นั่งกินข้าวกันอย่างเพลิดเพลิน ชีวิตแสนเรียบง่ายนั้น ต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงใด นางค่อนข้างหวงแหนพวกเขาทุกคน
“เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะเอาออกให้” เซี่ยโหวหานเฟิงรีบตรงไป ดึงหนามกิ่งไม้ออกจากตัวของเขา “ขอบคุณขอรับพี่เขย” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม ไม่คิดว่าตอนทำธุระเสร็จ เดินกลับออกมานั้น กิ่งไม้หนามดันมาเกี่ยวเสื้อผ้า และบาดนิ้วมือของเขาเข้า บอกว่าไม่เจ็บก็คงไม่ใช่ “พี่หญิงใหญ่ข้าเจ
147 : เหมยเอ๋อร์นี่คือเมืองของแม่เจ้า (จบ) เข้าสู่คิมหันตฤดู หลี่เมิ่งเหยาตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว แต่เพราะเป็นครรภ์แรก ท้องของนางจึงไม่ได้ใหญ่เหมือนเช่นผู้อื่น นางเคยให้สัญญากับน้องชาย ว่าจะพาเขาออกไปท่องเที่ยว เมื่อสะสางงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงจัดตั้งขบวนรถม้า มุ
“ท่านรู้จักพี่ชายข้าด้วยหรือ” “รู้จัก วันก่อนข้าเพิ่งพาหลานชายไปสมัครเรียนที่นั่น” “เช่นนี้นี่เอง” สวีฟางจิงยืดอกน้อย ๆ ขึ้น นางรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในหัวใจ ทำให้ไม่อาจหุบยิ้มลงได้ เสี่ยวหยวนมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้ทันทีว่าสตรีนางนี้ หมายปองเสิ่นหร
“เสี่ยวหยางโตเร็วมาก ตอนนี้ข้าอุ้มแทบไม่ไหวแล้ว” นางนั่งลงด้านข้างกับมารดา จ้องมองหน้าท้องของนางด้วยความรู้สึกยินดี “เจ้าไม่ต้องมองข้า เรื่องแบบนี้ข้าควบคุมไม่ได้” เฉาซูหลิ่งแอบอายเล็กน้อย นางตั้งครรภ์อีกแล้ว ทั้งยังท้องพร้อมกับบุตรสาวอีกด้วย “ข้าไม่ได้ว่าอะไรเสีย
146 : หยางเป่ยจวิ้นจู่ ฮ่องเต้ที่อยู่เมืองหลวงได้รู้ข่าวนี้ กลับรู้สึกพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ใครจะรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ฮ่องเต้ทรงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมากมายนัก ราชครูฮู่ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์ มีสายเลือดของราชวงศ์เก่าไหลเวียนอยู่ในกาย และพยายามก่อกบฏอยู่หลายครั้ง
ใบหน้าของคนเป็นสามีซีดเผือดหลังได้ยิน “เป็นปีเลยหรือ” “อื้ม” “เช่นนั้นยังไม่ต้องมีก็ได้” เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ หลี่เมิ่งเหยาหัวเราะจนตัวงอ เรื่องนี้นางเลือกที่จะคุมกำเนิดด้วยการกินยาไว้ก่อน เกิดนางกับมารดาท้องพร้อมกัน คงเหนื่อยไม่น้อย เอาไว้ให้น้องของนางโตได้ส
145 :มาตกลงเรื่องงานแต่งกันเถอะ เมื่อถูหลิวได้มาเยือนที่เรือนของเฉาซูหลิ่งอย่างเป็นทางการ เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว กลับพาแม่สื่อมากับเขาด้วย เฉาซูหลิ่งยังไม่ได้บอกเรื่องตั้งครรภ์กับเขา นางกำลังนั่งเหม่อกับคำพูดของแม่สื่อ ราวกับได้ย้อนเวลาไปเป็นบุปผาแรกรุ่น ซ่งฉีโหย่งกับหลิวอี๋เฉ
“ว่าอย่างไรได้หรือไม่” อย่าอ้อนข้า หลี่เมิ่งเหยาก้มหน้าลงต่ำ ดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า เขาพร้อมขนาดนี้ หากนางปฏิเสธจะดูใจร้ายใจดำเกินไปไหม “เหยาเอ๋อร์” เสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของสามี นางจะทำสิ่งใดได้ นอกจากพยักหน้าลงช้า ๆ เอวนางถูกรว