Share

บทที่ 136

Author: เหยียนซี
นางอยู่ห้องเดียวกับหรงซี

ทันใดนั้นในหัวของเจียงหวานหว่านก็ปรากฏภาพหรงซีกำลังนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำ

นางส่ายหน้าไปมาเพื่อเรียกสติตัวเองกลับมา ไม่ให้ตัวเองคิดมาก

เถ้าแก่โรงเตี๊ยมสั่งให้เสี่ยวเอ้อมาต้อนรับ พาหรงซีกับเจียงหวานหว่านขึ้นไป

เจียงหวานหว่านเดินตามหลังหรงซีไปอย่างช้าๆ

แม้ว่านางจะชอบเขา แต่หญิงชายอยู่ด้วยกันลำพังสองต่อสองในห้องเดียวกันเช่นนี้ นางก็ลำบากใจเช่นกัน

เสี่ยวเอ้อพาทั้งสองไปส่งเข้าห้อง จากนั้นก็ปิดประตูห้องลง

“เอ่อ….”

เจียงหวานหว่านไม่รู้ว่าต้องเอ่ยปากกล่าวสิ่งใดออกมาดี

ดวงตาอันลึกล้ำแคบยาวนั้นของหรงซีจ้องมองเจียงหวานหว่าน และค่อยๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนดวงตาคู่นั้นจะพลันเปลี่ยนเป็นหยอกล้อขึ้น

“เจียงหวานหว่าน เจ้ามีใจทะเยอทะยานต่อข้ามาก หากคืนนี้ข้าจะทำให้ความปรารถนาของเจ้าเป็นจริงล่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงหวานหว่านก็เกิดความคิดมากมายขึ้น แต่นางยังรักษาระยะห่างเอาไว้ได้ดี

“ท่านอ๋อง ได้โปรดเคารพตัวเองด้วย”

หลังกล่าวคำนี้จบ ใจของเจียงหวานหว่านก็เต้นเร็วขึ้น อารมณ์และความรู้สึกแปลกประหลาดทำให้ใจนางสั่นขึ้น

“เจียงหวานหว่าน ข้าเจ้ายอมข้า ข้าจะปกป้องเจ้าไปตลอด
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 137

    เมื่อเนื้อเข้าไปในปาก จู่ๆ หรงซีก็เกิดความรู้สึกพึงพอใจขึ้นเห็นหรงซีกินอย่างหยุดไม่ได้เช่นนี้ เจียงหวานหว่านก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ“เอาถ้วยกับตะเกียบมาเพิ่มกินด้วยกันสิ คืนนี้เราต้องเดินทางกันต่อ”เจียงหวานหว่านคิดว่าจะพักที่นี่หนึ่งคืน นึกไม่ถึงเลยว่าจะต้องรีบเดินทางต่ออีก“ข้าไม่หิว ข้าแค่รู้สึกเหนื่อยล้านิดหน่อย ท่านอ๋องกินเถอะ ข้าจะขอตัวไปพักผ่อนสักหน่อย”เจียงหวานหว่านอ้าปากหาว และเดินขึ้นเตียงไปพักผ่อนไม่นานนักลมหายใจอันแผ่วเบาก็ดังขึ้นและเมื่อนางตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว นางพบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในห้องที่โรงเตี๊ยมแล้ว แต่อยู่บนรถม้าคันหนึ่งและสิ่งที่ทำให้นางตื่นตระหนกตกใจนั่นก็คือ หรงซีกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนแม้ระหว่างทั้งสองจะมีเสื้อคลุมกั้นอยู่ แต่มันก็ไม่สมควรนางจะลุกอย่างเงียบๆ แต่เพียงขยับเล็กน้อย หรงซีก็กอดนางเอาไว้แน่นเจียงหวานหว่านไม่กล้าขยับตัวผลีผลาม นางจึงลืมตาขึ้นแล้วจ้องมองหรงซีใบหน้าของหรงซีอยู่ใกล้มากอย่างเห็นได้ชัด เจียงหวานหว่านกัดริมฝีปากเหมือนอยากจูบเขา และเมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นในใจ เจียงหวานหว่านก็รู้สึกดูถูกตัวเองมาก นี

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 138

    รถม้าเคลื่อนตัวไปช้าๆ เข้าไปในเมืองชิงเหอ ทุ่วตรงไปยังจวนท่านเจ้าเมืองเมื่อท่านเจ้าเมืองเว๋ยซื่อเจี๋ยท่านเจ้าเมืองชิงเหอรู้ว่าหรงซีมา ก็นำเหล่าขุนนางภายใต้สังกัดออกไปต้อนรับทันที“กระหม่อมเว๋ยซื่อเจี๋ย คารวะท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”เว๋ยซื่อเจี๋ยมองหรงซีด้วยสายตาที่เปล่งประกายเมื่อก่อนเขาเคยเป็นลูกน้องของหรงซี เนื่องจากอาการป่วยของเขา เขาจึงถอนตัวออกจากทัพรบหลังจากได้รับการเลื่อนขึ้นมาจากท่านอ๋อง เขาก็เข้ามารับตำแหน่งท่านเจ้าเมืองเมืองชิงเหอท่านอ๋องเป็นผู้มีพระคุณต่อเขา ดังนั้นเมื่อเมืองชิงเหอเกิดเรื่องขึ้น เขาก็รีบขอความช่วยเหลือจากท่านอ๋องเป็นคนแรก“แม่นางคนนี้ชื่อว่าเจียงหวานหว่านนางเป็นหมอ นางเป็นศิษย์ของปรมาจารย์หมอเซียน”หรงซีแนะนำเจียงหวานหว่านให้เว๋ยซื่อเจี๋ยรู้จักเมื่อได้ยินเชื่ปรมาจารย์หมอเซียน เว๋ยซื่อเจี๋ยก็รู้สึกตกใจมากเดิมทีคิดว่าแม่นางที่อยู่ข้างกายท่านอ๋องจะเป็นหญิงงามของท่านอ๋องเสียอีกนึกไม่ถึงเลยแม้แต่น้อยว่าจะมีหมอที่ฝีมือวิเศษเช่นนี้ อีกทั้งยังเป็นหมอหญิงที่อายุน้อยเช่นนี้อีกด้วยเขาผิดเองที่ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ศิษย์ของปรมาจารย์หมอเซียน

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 139

    หากเจียงหวานหว่านเป็นอันใดไป เขาจะทำเช่นไรเขารู้สึกเหมือนหัวใจของเขาถูกดึงไปดึงมาและเมื่อเขาคิดจะเรียกเจียงหวานหว่านกลับมา เจียงหวานหว่านได้ย่างเท้าก้าวเข้าไปในประตูอารามชิงเหอแล้วทหารที่เฝ้าประตูปิดประตูอารามลง“หวังว่าท่านหมอเจียงจะรักษาได้”เว๋ยซื่อเจี๋ยกล่าวอย่างทอดถอนใจภายในอารามชิงเหอมีหมออยู่หลายท่าน พวกเขารักษาไม่ได้ และพวกเขาก็ออกไปไม่ได้เช่นกันและเมื่อหมอเหล่านั้นเห็นหม่นางน้อยผู้หนึ่งเดินเข้ามา ต่างก็พากันถอนหายใจออกมา“แม่นางน้อย มาให้ข้าตรวจดูหน่อยว่าเจ้าไม่สบายตรงไหน”หมอชราผมหงอกท่านหนึ่งกล่าวถามเจียงหวานหว่านด้วยความเป็นห่วง“ท่านหมอเหมียว แม่นางผู้นี้ดูไม่เหมือนคนป่วยไข้เลย”หมอวัยหลางคนท่านหนึ่งสังเกตสีหน้าของเจียงหวานหว่าน และพบว่านางไม่ได้ป่วยอันใด“ท่นาหมอเหมียว ท่านหมอข่ง แม่นางน้อยผู้นี้หน้าตาไม่คุ้นเลย เหมือนไม่ใช่คนเมืองชิงเหอ”ท่านหมอเคอเป็นหนึ่งในสามของหมอที่อายุน้อยที่สุดกล่าวออกมาท่านหมอข่งก็เห็นด้วยกับคำพูดของท่านหมอเคอ เขาเองก็รู้สึกไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเจียงหวานหว่านเลยสายตาของหมอเคอจ้องมองเจียงหวานหว่านอย่างพิจารณานางเห็

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 140

    เจียงหวานหว่านจับชีพจรของคนป่วยหลายคน และพบว่าอาการป่วยของแต่ละคนนั้นมีความรุนแรงต่างกัน แต่เป็นพิษชนิดเดียวกันเป็นเพราะในร่างกายของทุกคนมีพิษ แต่เนื่อจากร่างกายของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันคนที่โดนพิษมีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็ก พวกเขาไม่มีกำลังวังชาเลย ราวกับกำลังจะตายไปในไม่ช้าก็มิปานนางเข้าใจอาการทั่วไปของโรคนี้แล้ว นางส่งสัญญาณบอกให้หมอเหมียวและหมอคนอื่นๆ ออกไป“หมอเจียง ข้ามีชีวิตอยู่มาหลายสิบปีก็ไม่เคยพบเคยเห็นโรคนี้มาก่อนเลย”หมอเหมียวกล่าวอย่างทอดถอนใจสายตาของเจียงหวานหว่านกวาดมองไปที่หมอเหมียว และกล่าวถามว่า “ท่านหมอเหมียว ขอข้าจับชีพจรท่านดูหน่อย”หมอเหมียวได้ยินคำพูดนี้ของเจียงหววานหว่านก็ตกตะลึงขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยื่นมือให้เจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านจับชีพจรเขาและะขมวดคิ้วขึ้น และพบว่าเป็นเหมือนที่นางคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดนางหยิบกระดาษกับพู่กันที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมา และเขียนบางอย่างไปก่อนจะยื่นให้ทหารเฝ้าเวรยาม“เอาจดหมายนี้ไปส่งให้ท่านอ๋องหน่อย ข้าจะรอคำตอบจากท่านอ๋อง”ทหารไม่กล้ารีรอจึงรีบไปรายงานทันทีเจียงหวานหว่านเดินไปที่ม้านั่ง และนั่งลง“ท่านหม

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 141

    เจียงหวานหว่านยิ้ม “เช่นนั้นรบกวนอาจารย์กัวแล้ว”หมอเคอได้ยินคำพูดของกัวอี้เทียนก็ตกใจจนอ้าปากค้างอาจารย์กัวเป็นบุคคลสำคัญอันดับต้นๆ ของเมืองชิงเหอ นอกจากเจ้าเมืองแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าเรียกใช้เขากัวอี้เทียนหยิบกระดาษและพู่กันออกมา “เป็นเกียรติของข้าที่สามารถช่วยทำงานเบ็ดเตล็ดให้ท่านหมอเจียงได้”กัวอี้เทียนมองหมอเคอที่มีตาหามีแววไม่แล้วเยาะเย้ยในใจท่านหมอเจียงเป็นปรมาจารย์หมอเซียนในตำนาน ด้วยความสนใจที่ท่านอ๋องมีต่อท่านหมอเจียง เขาเองก็ต้องประจบประแจงให้ดี“ข้าจะทำตามคำสั่งของท่านหมอเจียง แยกแยะผู้ป่วย สมุนไพรที่ท่านหมอเจียงต้องการกำลังจัดเตรียมอยู่ แล้วก็ช่างตัดเย็บสิบห้าคนกำลังเร่งทำหน้ากากผ้าตามที่ท่านหมอเจียงต้องการ...”ท่าทางของอาจารย์ทำให้เจียงหวานหว่านเข้าใจ เป็นเพราะสถานะของหรงซีใช้การได้แล้วหมอเคอยืนงงอยู่ที่เดิม ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอาจารย์กัวถึงได้ปฏิบัติต่อสตรีนางหนึ่งด้วยความเคารพเช่นนี้“อาจารย์กัว ท่านและพวกเทียนซูสวมหน้ากากก่อน อย่าได้ติดโรคระบาด ให้ทหารข้าหลวงหน้าหอบรรพชนชิงเหอมาทั้งหมดมาตรวจชีพจร ดูว่าพวกเขามีคนติดโรคระบาดเท่าไหร่”เขาเอาแต่สนใจทำความดี

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 142

    เจียงหวานหว่านนับถือในคุณธรรมความเป็นหมอของหมอเหมียว “ท่านหมอเหมียว ข้าจะพยายามสุดความสามารถ”แม้นางไม่มั่นใจเต็มร้อย แต่นางก็ถอยได้ไม่เช่นกันหมอเหมียวเหลือหมอข่งเอาไว้ ให้เขาช่วยเหลือเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วก็เริ่มรักษาหมอเหมียวใช้เวลาหนึ่งชั่วยามเต็มๆ ในที่สุดเจียงหวานหว่านก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกนางเก็บเข็มแล้วเอ่ยกับหมอข่ง “รบกวนท่านหมอข่งดูและท่านหมอเหมียวด้วย”“ท่านหมอเจียง ท่านไปพักผ่อนสักครู่เถอะ”หมอข่งเองก็เป็นหมอคนหนึ่งเช่นกัน เขารู้ว่าการฝังเข็มนั้นใช้สมาธิอย่างมากอีกทั้งหมอเจียงก็ได้รักษาให้ผู้ป่วยอาการหนักหลายรายแล้ว หากยังฝืนทนต่อไป เกรงว่าจะกระทบถึงร่างกาย“ท่านหมอข่ง วิธีการฝังเข็มนี่ท่านเรียนเป็นแล้วหรือไม่?”เจียงหวานหว่านเงยหน้ามองหมอข่ง“ต้องดูสักหลายรอบหน่อย”สิ่งที่สำคัญที่สุดของการฝังเข็มคือความถูกต้องแม่นยำ หากผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็จะสร้างผลกระทบที่ต่างกันมาก เขาไม่กล้ารับประกันว่าตัวเองทำได้แล้ว“ท่านหมอข่ง อาการป่วยของท่านเบากว่าท่านหมอเหมียวมาก หากท่านรักษาโรคหายก่อน ก็สามารถช่วยแบ่งเบาหน้าที่ข้าได้บ้

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 143

    “เอ่อ...ท่านอ๋อง เพื่อป้องกันคนที่อยู่เบื้องหลังหนีไป ไม่สู้พวกเราซุ่มโจมตี รอให้พวกเขาติดกับ”หรงซีกล่าวอย่างไม่พอใจ “เจ้าเป็นเจ้าเมืองชิงเหอ เจ้าตัดสินใจเองดีกว่า”เว๋ยซื่อเจี๋ยได้ยินคำตอบของหรงซีก็รู้ว่าตอนนี้ท่านอ๋องไม่มีกะจิตกะใจฟังว่าเขาพูดสิ่งใด“ท่านอ๋องคงเหนื่อยกับการเดินทาง ข้าไม่รบกวนท่านพักผ่อน ขอตัวก่อน!”เว๋ยซื่อเจี๋ยกล่าวอย่างจนปัญญาหรงซีโบกมือให้เขาจากไปเว๋ยซื่อเจี๋ยหงุดหงิดและกังวลอย่างมาก เรื่องของเมืองชิงเหอคับขันอยู่ตรงหน้าหลังจากเว๋ยซื่อเจี๋ยจากไป หรงซีจัดการกับอารมณ์ของตนเองแล้วเขาสั่งให้ลูกน้องแอบเฝ้าดูเว๋ยซื่อเจี๋ยเขาไม่เชื่อผู้ใดทั้งนั้น เขาเชื่อเพียงตัวเขาเอง……หลายวันมานี้เจียงหวานหว่านทำงานอยู่ท่ามกลางผู้ป่วย ไม่มีเวลาว่างแม้แต่น้อย“ท่านหมอเจียง หลายวันมานี้ สถานการณ์โรคครั้งนี้ก็จะควบคุมได้แล้ว ไม่ระบาดออกไปข้างนอก ล้วนเป็นความดีความชอบข้าท่าน หากไม่มีท่าน พวกเราคงไม่มีวิธีเอาชนะพิษชนิดนี้ในเวลานี้”เจียงหวานหว่านกล่าวอย่างถ่อมตน “พิษครั้งนี้สกัดมาจากพิษหลายสิบชนิด ข้าเองก็ได้ความช่วยเหลือจากอาจารย์ ถึงได้เข้าใจพิษชนิดนี้”

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 144

    หมอเคอมองเจียงหวานหว่านด้วยความโกรธเคือง “ผู้ป่วยกินยาตามที่ท่านหมอเจียงสั่งถึงได้ตาย นางยากจะพ้นความผิดหมอคงได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว “หมอเคอ อย่าพูดเหลวไหล”ผู้ป่วยที่อยู่หน้าประตูพากันมองเจียงหวานหว่านด้วยสายตาโกรธเคือง“รีบจับนางไว้ ต้องเป็นนางที่วางยาพิษแน่นอน”“นังเพศยาชั่วร้าย ถุย!”“ฆ่านางปีศาจ”“ฆ่านาง...”……บรรดาผู้ป่วยตะโกนด่าทอด้วยความโกรธเคือง หากไม่ใช่ว่าตรงหน้าประตูมีทหารเฝ้าอยู่ พวกเขาคงพุ่งเข้าไปฉีกเจียงหวานหว่านเป็นชิ้นๆ แล้วเดิมทีการที่ถูกพิษก็ทำให้พวกเขาได้รับความทรมานทั้งร่างกายและจิตใจมากพอแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะยังมีคนคิดทำร้ายพวกเขา พวกเขาจะไม่โกรธเคืองได้เช่นไรเจียงหวานหว่านไม่สนใจว่าคนเหล่านั้นจะเอะอะโวยวายเช่นไร นางตรวจสอบศพผู้ป่วยอย่างละเอียด ไม่พลาดร่องรอยใดไปแม้แต่น้อยเวลานี้เองประตูหอบรรพชนถูกเปิดออก ชายคนหนึ่งกับชายชราอีกครั้งก้าวเข้ามาทหารที่พวกเขาพามาวิ่งล้อมหอบรรพชนไว้ทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทำให้คนในหอบรรพชนตื่นตระหนกขึ้นมา“อยู่ในความสงบ”ชายหนุ่มมองไปรอบๆ สายตารังเกียจ เจ้าพวกฝูงหมด“องค์ชายรอง หอบรรพชนถูกพ

Latest chapter

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 210

    เจียงหวานหว่านตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองชาติก่อน หรงมู่หานขังนางเอาไว้ในห้องลับ ยังมีสตรีอีกนางหนึ่งอยู่ด้วยตอนที่นางถูกจับเข้าไป สตรีนางนั้นก็ถูกนำตัวออกไปสตรีนางนั้นหายใจโรยรินตอนที่หิ้วสตรีนางนั้นออกไป นางได้เห็นใบหน้าสตรีนางนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจตอนนั้นคิดว่าสตรีนางนั้นหน้าตาคุ้นตามากเมื่อรวมกับใบหน้าของหรงซี สตรีนางนั้นและหรงซีมีความคล้ายกันอยู่แปดส่วนคงเป็นเสด็จแม่ของหรงซีซ่างกวนเสวี่ยเจียงหวานหว่านมองหรงซีด้วยสายตาสับสนนางรู้แล้ว เป็นความลับที่ชาติก่อนนางกับหรงซีไม่ล่วงรู้นางคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับหรงซีเช่นไรหรงซีเห็นสีหน้าเจียงหวานหว่านก็คิดว่านางต้องรู้เรื่องบางอย่าง“เจ้ารู้จักเสด็จแม่ข้า?”หรงซีกล่าวประโยคนี้ออกมาสัญชาตญาณเขาบอกเขาว่าเจียงหวานหว่านเคยพบเสด็จแม่ของเขาเจียงหวานหว่านสับสนในใจห้องลับอยู่ในห้องอักษรของฝ่าบาทหากสตรีนางนั้นเป็นเสด็จแม่ของหรงซีจริงเช่นนั้นใครเป็นผู้บงการเรื่องการหายตัวของเสด็จแม่หรงซี ก็ไม่ต้องคาดเดาแล้วเป็นฝ่าบาทองค์ปัจจุบันฝ่าบาทมีประสงค์ใดจึงได้กักขังเสด็จแม่ของหรงซีเอาไว้ในห้องลับหรือเพื่อควบคุมอำนาจทหารในมือหรง

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 209

    “เจียงหวานหว่าน เจ้าเคยทำอาหารให้เซียวหวายกินหรือไม่?”เจียงหวานหว่านยิ้ม “นอกจากท่านแม่และสือหลิ่วแล้ว ข้าเคยทำอาหารให้ท่านอ๋องแค่คนเดียว”หรงซีพอใจกับคำตอบของเจียงหวานหว่านมาก“ต่อไปทำอาหารให้ข้ากินได้คนเดียวเท่านั้น”เจียงหวานหว่านคิดสักพัก “ได้”หรงซีพอใจมากเมื่อเห็นคราบโจ๊กที่มุมปากนางหรงซีใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดให้ ทำเอาเจียงหวานหว่านเขินจนหน้าแดง“ท่านอ๋อง มือท่านไม่มีแรงไม่ใช่หรือ?”เจียงหวานหว่านถามอย่างรู้ทัน“อืม”หรงซีหน้าไม่แดง ใจไม่เต้นเร็วเจียงหวานหว่านเบะปาก หรงซีกำลังโกหกชัดๆแต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่หรงซีถูกพิษเพราะขนมของนาง นางก็ยอมให้ความร่วมมือกับเขา“ท่านอ๋องต้องกินให้มากหน่อย ไม่แน่พรุ่งนี้ก็อาจลุกจากเตียงได้แล้ว”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยความหงุดหงิด“ยาพิษกลืนวิญญาณ จะหายเร็วเพียงนั้นได้เช่นไร”“ตุบ”ชามในมือเจียงหวานหว่านร่วงลงพื้น“ท่านถูกยาพิษกลืนวิญญาณ?”ผู้ถูกยาพิษกลืนวิญญาณจะต้องตายภายในสามวันนางจับมือของหรงซีแล้ววางนิ้วมือตัวเองทาบลงไปหรงซีเห็นท่าทางร้อนใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นในใจ“ชีพจรท่านอ๋องได้รับความเสียหาย ยังดีที่ยายใบ้อยู่ด้วย

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 208

    เจียงหวานหว่านส่ายหน้า นางไม่ได้วางยาหรงซี“ปล่อยนาง”หรงซีได้ยินเสียงจึงเอ่ยปาก“ท่านอ๋อง พิษถอนหมดแล้ว พักผ่อนมากๆ”หญิงชรานั่งอยู่ข้างเตียงหรงซีกล่าวเสียงทุ้มต่ำ“ขอบคุณมากยายเฒ่า”หรงซีกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรงหญิงชราลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปตอนที่เจียงหวานหว่านได้เห็นใบหน้าหญิงชราก็ใจกระตุกหญิงชราก็คือยายใบ้ อาจารย์ของซิ่วกู่“เทียนซู เจ้าก็ออกไปด้วย”“ท่านอ๋อง แต่ว่า...”เทียนซูไม่ไว้ใจกลัวว่าเจียงหวานหว่านจะคิดร้ายต่อท่านอ๋อง“ออกไป...”แม้เสียงของหรงซีจะอ่อนแรง แต่น้ำเสียงนั้นก็เกินพอแล้วเทียนซูมองเจียงหวานหว่านด้วยสายตาเตือน จากนั้นก็ออกจากห้องไปเจียงหวานหว่านเห็นหรงซีใบหน้าซีดขาว นางไม่กล้าเข้าไปหานางนึกถึงฉากที่หรงซีตายเพื่อนางในชาติที่แล้วขึ้นมา“เข้ามา”หรงซีขมวดคิ้วเจียงหวานหว่านน้ำตาตก เดินเข้าไปหาหรงซี“เจียงหวานหว่าน เป็นโชคดีของเจ้าที่ข้ายังไม่ตาย”หรงซีมองเจียงหวานหว่านที่กำลังตื่นตระหนกทำสิ่งใดไม่ถูกเขาถูกพิษหลังจากที่กินขนมของเจียงหวานหว่านแต่เขาไม่สงสัยในตัวเจียงหวานหว่านสักนิด“ท่านอ๋อง ข้าไม่รู้เหตุใด...”“เจ้าไม่ใช่คนวางยา ข้ารู้”

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 207

    “ไอ้หยา”เจียงจิ่นเซวียนแกล้งทำเงินตกพื้นอย่างไม่ตั้งใจสือหลิ่วเห็นดังนั้นก็วางกล่องอาหารลงและวิ่งไปเก็บเศษเงินที่ตกกระจายอยู่ทั่วพื้นเจียงจิ่นเซวียนค่อยๆ ขยับและเปิดกล่องอาหารอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โรยผงบางอย่างลงไปสือหลิ่วเก็บเศษเงินกลับมาหมดแล้ว เจียงจิ่นเซวียนกล่าวขอโทษ “แม่นางสือหลิ่วลำบากแล้ว”“ไม่เป็นไร คุณชายสี่ ข้าไปก่อนเจ้าค่ะ”สือหลิ่วหยิบกล่องอาหารขึ้นมาแล้วบอกลาเจียงจิ่นเซวียนเจียงจิ่งเซวียนกล่าวอย่างนุ่มนวล “แม่นางสือหลิ่วเดินทางระวังด้วย”“เจ้าค่ะ”สือหลิ่วรู้สึกเขินอายหลังจากพยักหน้าให้เจียงจิ่นเซวียนแล้ว นางก็เดินทางไปจวนอ๋องในมุมที่สือหลิ่วมองไม่เห็น เจียงจิ่นเซวียนยิ้มเยาะเย็นชานี่คือบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาให้เจียงหวานหว่านสือหลิ่วไม่สงสัยสักนิด นางเดินถือกล่องอาหารมาถึงจวนอ๋องหลังส่งกล่องอาหารเรียบร้อย นางไปร้านหนังสือเพื่อซื้อกระดาษให้เจียงจิ่นเซวียนซื้อกระดาษเสร็จแล้ว สือหลิ่วกลับถึงจวนและนำกระดาษไปส่งให้เจียงจิ่นเซวียน“แม่นางสือหลิ่ว เรื่องซื้อกระดาษในวันนี้ ไม่ต้องบอกน้องหก นางไม่ชอบให้ข้าเข้าใกล้คนเรือนเหมย หากนางรู้ว่าข้าเรียกใช้คนข

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 206

    เจียงหวานหว่านมองดูรถม้าจวนอ๋องจากไปรถม้าจวนอ๋องไปไกลแล้ว เจียงหวานหว่านเก็บสายตากลับมาและเดินเข้าจวนไป“น้องหก รอก่อน”เจียงจิ่นเซวียนเรียกเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหยุดเดินแล้วถามเสียงเย็น “มีเรื่องใด?”“น้องหก ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋อง เป็นวาสนาของเจ้านัก ต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าทำให้ท่านอ๋องโกรธจนลากคนในจวนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”เจียงจิ่นเซวียนเดินมาข้างกายเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหงุดหงิด เจียงจิ่นเซวียนไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปจริงด้วย คอยแต่จะหาโอกาสถากถางนางน้ำเสียงดูแคลนหาว่านางไม่คู่ควรกับท่านอ๋อง ช่างเป็นพี่ชายแท้ๆ ของนางจริงๆ“พี่สี่คอยปรนนิบัติรัชทายาทมาตั้งหลายปี การประจบสอพลอคงเป็นสิ่งที่พี่สี่ถนัดนัก หน้าไหว้หลังหลอกเป็นความสามารถโดดเด่นของพี่สี่ พี่สี่ใช้ชีวิตได้อย่างหน้าซื่อใจคดจริงๆ”รอยยิ้มจอมปลอมของเจียงจิ่นเซวียนเลือนหายไปเขานึกไม่ถึงว่าเจียงหวานหว่านจะด่าเขาไม่ไว้หน้าสักนิดเจียงหวานหว่านไม่มองเจียงจิ่นเซวียนแม้แต่น้อย นางเดินเข้าไปในประตูจวนหากอยู่นานกว่านี้หน่อยนางยิ่งรู้สึกขยะแขยง เจียงจิ่นเซวียนน่ารังเกียจกว่าเจียงจิ่นหนิงเสียอีกเจียงจิ่น

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 205

    นางเปิดผ้าม่านเตรียมตัวลงรถม้าทันใดก็ถูกแรงกระชากนางกลับเข้ามาในรถม้าเจียงหวานหว่านจมเข้าสู่อ้อมกอดหรงซีกลิ่นหอมอำพันทะเลลอยเข้าจมูกนางหรงซีกุ้มหน้ามองเจียงหวานหว่านไม่พูดไม่จาเจียงหวานหว่านคิดจะลุกขึ้นกลับถูกหรงซีกอดเอาไว้แน่นคนสองคนจ้องตากันและกัน ไม่มีใครพูดจา“เหตุใดรถม้าจวนอ๋องถึงจอดอยู่ตรงนี้?”เจียงจิ่นเซวียนกลับมาถึงจวนพอดีและเห็นรถม้าจวนอ๋องจอดอยู่หน้าบ้านของตนเจียงหวานหว่านได้ยินเสียงเจียงจิ่นเซวียน ดวงตาก็กลับมาแจ่งชัดอีกครั้ง“ท่านอ๋อง พี่สี่ข้าอยู่ข้างนอก รีบปล่อยข้า”หรงซียิ้มเย็น “ข้าต้องกลัวเขาด้วย?”เจียงหวานหว่านกัดฟัน “ท่านอ๋องไม่กลัว แต่ชื่อเสียงข้าไม่เหลือแล้ว วันหน้าหากแต่งงานก็จะถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์เอาได้”“เจ้าคิดจะแต่งกับใคร? กู้ฉางชิง? หรือเซียวหวาย?”เจียงหวานหว่านประหลาดใจ นางแต่งงานเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเขาฝีเท้าของเจียงจิ่นเซวียนเดินเข้ามาใกล้เจียงหวานหว่านกดร่างต่ำลงแล้วกล่าวอย่างออดอ้อน “ท่านอ๋อง ขอร้องท่านล่ะ”หรงซีได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเจียงหวานหว่าน ความโมโหในใจลดไปไม่น้อย“เจียงหวานหว่าน เจ้าติดค้างข้า ครั้งหน้าข้าไม่ปล่อ

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 204

    เจียงหวานหว่านได้ฟังคำพูดของหรงซีก็หันไปยิ้มให้เซียวหวายอย่างจนปัญญา“เซียวหวาย ขอโทษด้วย พรุ่งนี้ข้าจะไปพบเจ้า”เซียวหวายยิ้มแย้ม “แม่นางเจียง พรุ่งนี้ข้ามารับเจ้า”“ก็ดี...”ยังไม่ทันได้กล่าวจบประโยค เจียงหวานหว่านรู้สึกว่าตัวเองถูกจับข้อมือเอาไว้ไม่รู้ว่าหรงซีลงมาจากรถม้าตั้งแต่เมื่อใดเขาสีหน้าบึ้งตึง ดึงข้อมือเจียงหวานหว่าน ลากนางขึ้นรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง โปรดปล่อยแม่นางเจียงด้วย”เซียวหวายเห็นเจียงหวานหว่านถูกหรงซีผลักขึ้นรถม้า เขาจึงตามไปขวางแต่ถูกเทียนซูขวางเอาไว้ เซียวหวายผลักเทียนซู ทว่าเทียนซูไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยหรงซีทำเหมือนไม่ได้ยินเซียวหวายโกรธเจียงหวานหว่านหันหน้ามากล่าวกลับเซียวหวายที่อยู่ด้านหลัง“คุณชายเซียว ข้าไปก่อนนะ”มือของหรงซีดึงศีรษะเจียงหวานหว่านเข้าไปในรถม้าเซียวหวายนั่งอยู่บนรถม้าสกุลเซียว กำลังตามท้ายรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง รถม้าของคุณชายเซียวตามอยู่ด้านหลัง”เทียนซูที่อยู่ด้านนอกกล่าวรายงานหรงซี“สะกดรอยตามราชวงศ์ มีเจตนาไม่ดี เทียนซู ส่งคุณชายเซียวไปยังสถานที่ที่เขาควรไป”เทียนซูลังเล“ท่านอ๋อง คุณชายเซียวเป็นน้องชายเซียวกุ้ย

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 203

    เซียวกุ้ยเฟยยิ้มอย่างอบอุ่น“ฝีมือของอ้ายเฟย ข้าชอบยิ่งนัก”ฝ่าบาทตรัสด้วยถ้อยคำสองแง่สองง่ามเซียวกุ้ยเฟยหุบตาลงด้วยความเขินอาย จากนั้นก็พยุงฝ่าบาทเดินไปด้วยกันรอจนกระทั่งไม่เห็นเงาฝ่าบาทแล้วหรงซีสีหน้าเย็นชา ดวงตาเย็นชายิ่งกว่า จับจ้องมองหรงมู่หานหรงมู่หานรับรู้ถึงความโกรธท่วมท้นของหรงซี“เสด็จอา หลานขอตัวก่อน”ระหว่างที่กล่าว สายตาเขาเหล่มองเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านกรอกตาบนใส่หรงมู่หานนัยน์ตาหรงซีใกล้ระเบิดแล้วเขาขยับข้อมือก้อนเงินถูกดีดออกไปดีดโดนบริเวณกระดูกขาของหรงมู่หาน“เอื้อ...”หรงมู่หานรู้สึกถึงกระแทกที่ขาความเจ็บปวดจู่โจมกะทันหัน ทำให้เขาทรุดเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเจียงหวานหว่าน”“องค์ชายรอง รู้ว่าผิดรู้จักแก้ไข เป็นสิ่งที่ดียิ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองเช่นนี้”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยท่าทางใจกว้าง“เจ้า พวกเจ้า...”หรงซีและเจียงหวานหว่านเดินเคียงข้างกันจากไปโดยไม่สนใจหรงมู่หานหรงมู่หานรู้ว่าเป็นฝีมือหรงซีความรู้สึกอัปยศอดสูพุ่งเข้าสู่หน้าอกใบหน้าของเขาถูกหรงซีกับเจียงหวานหว่านทำลายจนป่นปี้หรงมู่หานมองแผ่นหลังทั้งสองคนแล้วสาบานกับตัวเอง

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 202

    วิชาการแพทย์ของเจียงหวานหวานล้ำเลิศ พิษในร่างกายของน้องชายจะกำจัดไปได้เมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว เขาต้องวางแผนเอาไว้“น้องชาย ช่วงนี้สุขภาพเจ้าดีหรือไม่ เจ้าไม่ได้ไปให้หมอหลวงตรวจนานแล้ว”หรงซีหุบสายตาลง จากนั้นก็ประสานมือ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงนึกถึง ช่วงนี้น้องชายสุขภาพไม่ดี วันนี้จะไปให้หมอหลวงตรวจอาการ”ฝ่าบาทเมื่อได้รับฟังก็เบาพระทัยลงมากพิษในตัวน้องชายถูกถอนไปแล้วหรือไม่ ถามหมอหลวงก็รู้แล้วฝ่าบาทหรี่พระเนตร มีแผนการในพระทัยแค่หมอหลวงจับชีพจรก็จะรู้ว่าหรงซีถอนพิษไปแล้วหรือไม่“แม่นางเจียง โรคของหรงซี เจ้ามีวิธีรักษาหรือไม่?”ฝ่าบาททอดพระเนตรเจียงหวานหว่าน“ฝ่าบาท แม่นางเจียงก็รักษาโรคของข้าไม่หายเช่นกัน”หรงซีกล่าวประโยคหนึ่งเจียงหวานหว่านรู้สึกว่าหรงซีประหลาดมาก เหตุใดกล่าวเช่นนั้นทว่าเมื่อเห็นสายพระเนตรฝ่าบาท นางเข้าใจทันทีฝ่าบาทต้องการให้หรงซีประคองความมั่นคงของแคว้น เขาไม่มีทางเปิดโอกาสให้หรงซีได้ครองบัลลังก์ในสมองเจียงหวานหว่านผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาพิษหนอนกู่ในร่างกายหรงซีเป็นของฝ่าบาทจังหวะหัวใจนางเต้นเร็วขึ้น หากเป็นเช่นนี้ หรงซีก็จะถูกฝ่าบาทควบคุม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status