หลายปีต่อมา...
ข่าวด่วน!
วิงส์แอร์เวย์เทคโอเวอร์กิจการโรงแรมรอยัลไดมอนด์...
สายการบินวิงส์แอร์เวย์ตัดสินใจซื้อกิจการโรงแรมรอยัลไดมอนด์ของตระกูลนิตยนาถสุนทรทั้งหมด หลังจากนายพิชัย นิตยนาถสุนทรถูกฟ้องล้มละลาย ทางวิงส์แอร์เวย์ยังไม่ได้แถลงการณ์อะไร หากมีความคืบหน้าอย่างไร ผู้สื่อข่าวภาคสนามจะรายงานจากสำนักงานใหญ่สายการบินวิงส์แอร์เวย์ อาคารไกรลาศ ถนนรัชดาภิเษกต่อไป...
บนชั้น 28 ของอาคารไกรลาศเป็นที่ตั้งของห้องทำงานผู้บริหารระดับสูงในสายการบินวิงส์แอร์เวย์และบริษัทในเครือ ณ ห้องประธานผู้บริหาร แบงค์กำลังยืนชมทัศนียภาพเมืองกรุงอย่างสบายอารมณ์
“ได้เวลาดื่มชาแล้วครับท่าน วันนี้เป็นชารสพีชครับ เอาไปเสิร์ฟสิยัยบื้อ” กรเลขาคนสนิทของแบงค์เร่งให้กานวดีผู้ช่วยเลขานุการเสิร์ฟชาตรงโต๊ะรับแขก
“ข้างล่างคงจะวุ่นวายน่าดูเลยใช่ไหมคุณกร” แบงค์สอบถามระหว่างเดินไปนั่งดื่มชาที่โต๊ะรับแขก
“ครับท่าน พวกนักข่าวต้องการสัมภาษณ์ท่านอยู่ ท่านจะลงไปให้ข่าวเองไหมครับ หรือจะให้พวกนักข่าวกลับไปให้หมดก่อน” กรรินชาพีชจากกาน้ำชาลงถ้วยชาเนื้อพอร์ซเลนหรูหราราคาแพงวาดลวดลายราคาแพงมีสัญลักษณ์ของสายการบินเป็นรูปปีกนกสีทองประดับอยู่รอบปากถ้วยชาเข้าชุดกับจานรอง นอกเหนือจากใช้เสิร์ฟเครื่องดื่มของผู้บริหารระดับสูงแล้ว ชุดถ้วยชาเหล่านี้ใช้เสิร์ฟชาให้แก่ผู้โดยสารชั้นไดมอนด์คลาสหรือชั้นหนึ่งในทุกเที่ยวบินที่มีให้บริการชั้นหนึ่งอีกด้วย
“ไม่ดีกว่า ความจริงมันไม่ได้สำคัญอะไรเลย คุณลงไปบอกกับพวกนักข่าวว่า ผมซื้อกิจการโรงแรมรอยัลไดมอนด์เพื่อต่อยอดธุรกิจเท่านั้น ส่วนรายละเอียดต่างๆ จะชี้แจงให้ในโอกาสต่อไป หลังจากฝ่ายกฎหมายของเราเข้าตรวจสอบรายการทรัพย์สินที่เหลือของรอยัลไดมอนด์เสร็จสิ้นแล้ว” แบงค์สั่งการให้กรชี้แจงกับสื่อมวลชนที่รอทำข่าวอยู่ชั้นล่าง กรและกานวดีเดินถอยออกไปจากห้องเพื่อความเป็นส่วนตัวของแบงค์ สักครู่มีใครบางคนโทรศัพท์เข้ามา แบงค์ดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือ พอเห็นว่าเป็นชื่อใครก็ยิ้มทันที
“ว่าไงครับวิน”
“เป็นไงบ้างครับ ฝีมือของผม” เสียงปลายสายไต่ถามถึงผลงานที่ตั้งใจทำ ตามคำสั่งของแบงค์
“เยี่ยมมากเลย จะเอาค่าตอบแทนเลยไหม” แบงค์ถาม
“เอาสิครับ เงินตั้ง 20 ล้าน คืนนี้คุณว่างไหมล่ะครับ”
“ว่างสิ แต่ให้ถึงเที่ยงคืนเท่านั้นนะ พรุ่งนี้ต้องบินไปสุราษฎร์ตั้งแต่เช้า” แบงค์บอก
“โอ.เค. เจอกันที่ทีจีผับ 2 ทุ่มนะครับ”
“โอ.เค. บาย” แบงค์กดวางสาย
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนมีเหตุให้เกิดขึ้น การล้มละลายของตระกูลนิตยนาถสุนทรมิใช่ความบังเอิญ แบงค์และครอบครัวสุริยะกุลมีความแค้นฝังลึกกับตระกูลนี้ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว แต่สิ่งที่แบงค์และน้ำผู้เป็นพี่สาวได้พบเจอมันโหดร้ายมากกว่าการล้มละลายของตระกูลนิตยนาถสุนทรหลายเท่า แบงค์นึกย้อนไปในอดีต
“ฉันไม่มีวันยอมรับนังบ้านนอกชั้นต่ำนี่มาเป็นลูกสะใภ้หรอก” คุณหญิงสุดาพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“แต่เด็กที่อยู่ในท้องของดิฉันเป็นลูกของคุณพิชัยนะคะ” น้ำพูดละล่ำละลัก น้ำตาหยดไหลรินอาบแก้ม ไม่ได้สร้างความสงสารเวทนาให้แก่คุณหญิงสุดาเลยแม้แต่น้อย
“สันดานดอกร้อยเล่ห์อย่างหล่อนใครจะไปเชื่อ คนชั้นต่ำอย่างหล่อนจ้องจะจับผู้ชายรวยๆ อยู่ในสังคมชั้นสูง เธอพลีกายให้ผู้ชายมากี่คนแล้วล่ะ ปล่อยผู้ชายจำนวนมากมายชนิดยกนิ้วมานับจาระไนยคงไม่หมดได้ไถที่นาผืนน้อยของหล่อน เด็กในท้องของหล่อน ฉันจะแน่ได้อย่างไรว่าเป็นลูกหลานฉัน เธอเอาเงินนี่ไปแล้วไสหัวไปจากบ้านนี้ซะ” คุณหญิงสุดาใช้วาจาเชือดเฉือนน้ำอย่างไร้ความเมตตาปรานี คำพูดจากปากผู้ดีแต่ละคำเหมือนผลมะเดื่อที่สวยสดงดงามแต่ภายในแฝงเร้นด้วยความเน่าเฟะมีหนอนขอนไช
“ดิฉันไม่ต้องการเงิน” น้ำพูด
“หล่อนไม่ได้ต้องการเศษเงินจากฉัน แต่หล่อนต้องการทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลนิตยนาถสุนทร หล่อนนี่ร้ายจริงๆ ไสหัวออกไปซะ อิ่มติ๋มลากอีนี่ออกไปจากบ้านนี้ซะ” คุณหญิงสุดาออกปากให้คนรับใช้รองมือรองเท้า ลากพาน้ำออกไปทุ่มทิ้งไว้นอกรั้วบ้านนิตยนาถสุนทรราวกับเป็นขยะ
“ไม่ต้องร้องหรอกพี่ เขาไม่สนใจเด็กในท้องพี่ พวกเราก็มีปัญญาเลี้ยงเขา พวกเราจะเลี้ยงเขาให้ดี” แบงค์ปลอบใจน้ำ “แต่ถ้าผมมีโอกาส ผมจะทำให้พวกนิตยนาถสุนทรพังพินาศย่อยยับ พวกมันทั้งหมดจะเป็นศัตรูของผม”
การแก้แค้นของแบงค์เริ่มต้นช้าๆ แต่มั่นคง ชีวิตคู่ของนายพิชัยกับนางมลฤดีระหองระแหงมาโดยตลอด แม้ทั้งคู่จะมีทายาทด้วยกัน 2 คนคือด.ญ.พิชญาพร และด.ช.พลพัฒน์ แต่การบริหารของนายพิชัยผิดพลาดซ้ำซาก ผู้ถือเริ่มไม่เชื่อมั่นพยายามเทขายหุ้นออกมา คุณหญิงสุดาเสาหลักของรอยัลไดมอนด์ที่แบงค์เรียกว่า จัญไรตัวแม่ ล้มป่วยเป็นโรคมะเร็งช่องปากขั้นสุดท้าย นายพิชัยเอาเงินธุรกิจมาใช้ในการรักษาตัวมารดา ความกลัดกลุ้มรุมล้อมนายพิชัยจนเขาหาทางออกด้วยการเที่ยวเตร่สำมะเลเทเมา จนมาเจอกับวินซึ่งเป็นหมากตัวหนึ่งในแผนการของแบงค์ วินชักนำนายพิชัยสู่บ่อนการพนัน แรกๆ เขาชนะได้เงินมาเป็นกอบเป็นกำ ด้วยความย่ามใจนายพิชัยปล่อยให้ผีพนันเข้าสิง เมื่อเสียก็ยังดื้อด้านเล่นจนต้องหยิบยืมเงินกับเจ้ามือ นานวันเข้าหนี้ก็พอกพูนทบต้นทบดอก ความพังพินาศแห่งตระกูลนิตยาถสุนทรจังบังเกิดขึ้น จริงหรือที่มันคือเวรกรรม หรือว่าเป็นแค่การแก้แค้นสมบูรณ์แบบ
เสียงเพลงเร้าใจและแสงสีชวนให้ลูกค้าที่มาทีจีผับ แบงค์ลงจากรถแท็กซี่แล้วเดินตรงเข้าผับ ค่ำคืนนี้เขาแต่งตัวธรรมดาๆ เสื้อยืดพื้นๆ สีดำ กางเกงยีนส์เพื่อไม่ให้สะดุดสายตาของใคร เขาเดินแหวกผู้คนชายหญิงขึ้นสู่ชั้นลอยของผับ แล้วกำลังเดินไปสู่โซนวี.ไอ.พี.
“ขอโทษนะครับคุณผู้ชาย นั่นมันโซนวี.ไอ.พี. คุณเข้าไปไม่ได้ครับ” บริกรชายรั้งแบงค์ไว้ เพราะเขาตัดสินความสำคัญของลูกค้าด้วยเสื้อผ้า
“เหรอ แย่จัง ผมนัดเพื่อนไว้ที่โซนวี.ไอ.พี อย่างนี้ผมต้องทำไง” แบงค์แกล้งเด็กหนุ่มบริกร
“คุณอยู่ได้แต่โซนปกติครับ ต้องขออภัยด้วย” บริกรยังคงยืนกรานไม่ให้แบงค์เข้าไปในโซนวี.ไอ.พี. ตามหน้าที่และคำสั่งที่เขาได้รับมอบหมายมา
“อาร์มให้ท่านเข้ามา” ชีพลูกน้องของวินเดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้า เขาเกือบจำแบงค์ไม่ได้ “ต้องขอโทษท่านด้วย คุณวินรอท่านอยู่ครับ มึงอยู่แถวนี้ก่อน เดี๋ยวกูไปส่งท่านแล้วค่อยมาจัดการกับมึง”
“ไม่เห็นต้องดุขนาดนั้นเลยชีพ ดูซิน้องอาร์มสั่นไปหมดแล้ว ฉันชอบคนที่รักษากฎเกณฑ์ คืนนี้ฉันมาเงียบๆ ไม่ต้องการให้เป็นจุดสนใจของใครทั้งนั้น น้องอาร์มมานี่สิ นี่เป็นค่าทำขวัญและทิป” แบงค์ล้วงกระเป๋าสตางค์หยิบมาจำนวนห้าพันบาทยัดใส่กระเป๋าเสื้อกั๊กสีดำแล้วหาเศษหาเลยด้วยการจับเป้ากางเกงของเด็กหนุ่มไปหนึ่งที
ชีพนำพาไปสู่ห้องส่วนตัวสำหรับแขกวี.ไอ.พี. วินชายหนุ่มวัย 30 ผู้เป็นเจ้าของทีจีผับกำลังดื่มวิสกี้ออนเดอะร็อคอย่างสบายอารมณ์
“เชิญนั่งเลยครับ” วินผายมือเชื้อเชิญให้แบงค์นั่งลงบนโซฟาสีดำที่เขานั่งอยู่
“ไม่ทราบว่าจะรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ” ชีพถาม
“เอาบรั่นดีก็แล้วกัน”
“คุณกรไม่มาด้วยหรือครับ” วินถาม
“ไม่ได้มาหรอก ไม่ได้บอกเขา เดี๋ยวนี้เขาทำตัวเป็นพระไม่ข้องเกี่ยวกับโลกีย์ ไม่ได้สนใจเรื่องเที่ยวกลางคืน เหมือนอย่างเก่าแล้ว” แบงค์กระดกบรั่นดีดื่มหลังตอบ
“หมอนั่นคงจะแค้นใจน่าดูเลยทีเดียว” วินเกริ่นนำ เพียงแค่วินเอ่ยถึงพิชัย แบงค์ทำสีหน้าเมินเฉยแต่แววตาดุดันชิงชัง
“แค่มันรู้ว่าฉันจะเข้าไปเทคโอเวอร์กิจการของตระกูลมัน มันก็ทำหน้าไม่ถูกแล้ว เสียดายอีแก่แม่มันชิงตายไปก่อน ส่วนบ้านมันตอนนี้ฉันไล่ซื้อมาจากการธนาคาร วิญญาณอีแก่นั่นจะได้เป็นสัมภเวสีผีเร่ร่อน” แบงค์ดื่มบรั่นดีแล้วตามด้วยน้ำเปล่า
“ตายเป็นผีแล้วยังไม่เว้น ช่างน่ากลัวเสียจริง” วินพูด
“ใช่ ฉันเกลียดใครแล้วอย่าหวังเลยว่าคนๆ นั้นจะได้พบกับความสุข ฉันจะเอาบ้านนั้นทำเป็นคลับของไฮโซไซตี้ดีไหม เธอเข้าไปดูแลแทนฉันด้วยนะวิน” แบงค์ล้วงเช็คเงินสดมูลค่า 20 ล้านบาทให้วินตามที่ตกลงกันไว้ “งานเสร็จแล้วต้องได้รับผลตอบแทน”
“ขอบคุณครับท่าน” วินรับเช็คมาแล้วกราบตรงอกแบงค์ เขาเริ่มลูบไล้ชอนไชซอกซอนให้แบงค์มีอารมณ์ เกิดราคะกำเริบ
“อย่านะ ฉันไม่พร้อม พรุ่งนี้ฉันต้องเดินทางแต่เช้า” แบงค์ปัดป้องวินให้ยุติการกระทำนั้นลง
“ไปหาฝรั่งขี้นกมะเร็งอัณฑะนั่น อยู่กับมันก็เหมือนอยู่กับซากศพที่ยังหายใจได้” วินพูดจาประชดประชัน
“อย่าว่าจอร์จนะ ฉันมีทุกอย่างในวันนี้เพราะจอร์จ ฉันทำงานแทบจะทุกวัน ฉันต้องไปหาเขาบ้างแล้ว ฉันจะกลับแล้วล่ะ ถ้าฉันจัดการเรื่องทรัพย์สินของไอ้พิชัยเสร็จแล้ว ฉันจะนัดเธอมาคุยอีกที” แบงค์ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องเพื่อเดินทางกลับบ้าน
“ท่านเอารถมาเองหรือเปล่าครับ” ชีพถามขณะเดินตามมาส่งแบงค์
“เปล่า ฉันมาแท็กซี่”
“แล้วท่านจะมาอีกทีเมื่อไหร่ครับ” ชีพถาม “ผมจะได้ให้ไออาร์มรับใช้”
“เร็วสุดก็สัปดาห์หน้า ชีพเกลี้ยกล่อมให้ดีนะ ฉันชอบ เธอก็รู้ว่าฉันเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ แต่ก็ต้องได้คุ้มค่ากับที่เสียไป” แบงค์สั่งกับชีพแล้วขึ้นรถกลับบ้านย่านบางแคไป
... ... ...
เครื่องบินโบอิ้ง 737-400 แตะพื้นรันเวย์ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานีอย่างนุ่มนวล เมื่อเทียบสะพานเทียบเครื่องบินแล้ว สัญญาณรัดเข็มขัดดับลง ผู้โดยสารปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วลุกขึ้นพร้อมจะเดินออกจากเครื่องบินแล้วไปรับสัมภาระที่ชั้นล่างของอาคารผู้โดยสาร แบงค์ลุกขึ้นมาสมทบกับลูกเรือ เพื่อยืนส่งผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้มีอุปการะคุณของสายการบิน
“ขอบคุณครับโอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ” แบงค์ยกมือไหว้ผู้โดยสารที่ผ่านออกจากเครื่องบินไป พูดซ้ำไปวนมา จนผู้โดยสารออกไปจนหมด ลูกเรือแยกย้ายกันไปผ่อนคลาย บ้างก็ออกไปเดินยืดเส้นยืดสายในอาคารผู้โดยสาร บางคนนั่งพักผ่อนสงบๆ หรือไม่ก็จับกลุ่มพูดคุยสัพเพเหระ “ผมไปล่ะ ตั้งใจทำงานกันล่ะ”
“สวัสดีค่ะ” ลูกเรือที่อยู่ใกล้เคียงส่งแบงค์ เขาเดินออกจากเครื่องบินลงไปรับสัมภาระที่สายพานลำเลียง
“สวัสดีค่ะท่าน รถรออยู่ที่ประตูทางออกแล้วนะคะ” เจ้าหน้าที่กราวด์ของสายการบินแจ้งให้แบงค์ทราบเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา แบงค์ไม่ได้เดินทางไปบ้าน แต่นั่งรถกระบะของสายการบินไปสำนักงานสายการบินสาขาสุราษฎร์ธานีที่ถนนกาญจนวิถี เพราะนุและน้ำทำงานอยู่ที่นั่นกัน นุดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ส่วนน้ำดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี
“วิ่งออกเส้นในบางเลยนะ” แบงค์สั่งกับพนักงานขับรถ ถนนเส้นในบางเป็นถนนเส้นตัดใหม่เพื่อเลี่ยงเมืองสุราษฎร์ธานีออกไปทางนครศรีธรรมราช
“ครับท่าน” พนักงานขับรถรับคำ เขาขับรถมาตามถนนหมายเลข 417 เมื่อผ่านสะพานข้ามคลองน้อย มีทางแยกไปจังหวัดนครศรีธรรมราช พนักงานขับเลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทาง ถนนเส้นทางเป็นถนน 2 เลนตัดผ่านสวนมะพร้าวและคลองหลายคลอง การมาถึงของถนนทำให้วิถีชีวิตชาวในบางเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมใช้เรือเป็นยานพาหนะสัญจรตามแม่น้ำลำคลองกลายเป็นรถราสองล้อสี่ล้อไปตามถนนลาดยางตัดซอกซอนไปตามบางต่างๆ เส้นทางนี้ตัดผ่านแลนด์มาร์คสำคัญใหม่ล่าสุดของสุราษฎร์ธานีคือ สะพานศรีสุราษฏร์ สะพานสูงที่สุดในภาคใต้ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำตาปีแห่งใหม่ เหตุที่สร้างสูงเพราะให้เรือขนส่งสินค้าสามารถลอดผ่านได้ ยามเย็นตะวันยอแสงผู้คนจะมาชมสะพานถ่ายภาพคู่กับสะพาน และแล้วพนักงานขับรถนำพาแบงค์มาถึงสำนักงานสายการบิน น้ำและนุคอยอยู่ที่โถงชั้นล่าง
“หวัดดีครับพี่ๆ” แบงค์ยกมือไหว้ทักทาย
“มีเรื่องจะคุยกันหลายเรื่องเลย” นุบอก
“พี่ต้องถามเรื่องเทคโอเวอร์รอยัลไดมอนด์” พี่น้ำพูดเกริ่นถึงประเด็นที่เธออยากรู้
“ครับ แล้วผมจะตอบคำถามทุกคำถาม” แบงค์ยิ้ม
พนักงานชายเข้ามาถอนจานอาหารไป หลังจากสามพี่น้องรับประทานอาหารเสร็จสิ้น และแทนที่ด้วยทีรามิสุเสิร์ฟพร้อมกาแฟ
“เมนูเซ็ทนี้เป็นไงบ้างแบงค์” นุถาม รายการอาหารกลางวันนี้เป็นชุดอาหารที่จะใช้เสิร์ฟผู้โดยสาร ในเที่ยวบินที่ใช้เครื่องบินแอร์บัสเอ-380 ที่จะรับมอบเครื่องบินลำแรกในอีกสามเดือนหน้า “ฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มได้คิดเมนูชุดนี้มา แล้วส่งมาให้ชิมกัน”
“อร่อยดีครับ ผมว่าน่าจะปรับรสผัดไทยให้เข้มข้นกว่านี้ได้ ต้องแต่งรสให้เปรี้ยวน้ำมะขามมาตัดความเลี่ยนออกไป” แบงค์วิจารณ์อาหารอย่างตรงไปตรงมา เพราะเขาต้องการอาหารที่ดีที่สุดที่จะนำขึ้นเครื่องบินไปเสิร์ฟให้บริการนแก่ผู้โดยสารทุกๆ คน
“แบงค์ เล่าสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับรอยัลไดมอนด์ พี่เห็นนักข่าวเล่นข่าวนี้อยู่ เขาต้องการจะทราบความจริง พี่นุกับพี่ก็โดนนักข่าวถามมาเหมือนกัน แต่พี่ก็โบ้ยไปให้แก” พี่น้ำซักถาม
“ถ้าตอบแบบโลกสวย ก็ตอบไปว่าผมต้องการขยับขยายธุรกิจให้ครบวงจร ลูกค้าสามารถจองแพคเกจทัวร์ ตั๋วเครื่องบิน ที่พักและการท่องเที่ยวโดยใช้โรงแรมรอยัลไดมอนด์เป็นที่พัก แต่ถ้าตอบเอาจริง เพราะผมแค้นไอ้พิชัย อยากจะเห็นความพินาศของมันและโคตรเหง้าของมัน ผมสร้างผีพนันเข้าไปสิงสู่มัน จนเป็นหนี้สินรกรุงรังแล้วล้มละลายในที่สุด สะใจดีแท้” แบงค์เล่าความจริงด้วยสีหน้าสะใจ
“น่ากลัวดีแท้แกกลายเป็นคนที่น่ากลัวได้ขนาดเชียวเหรอแบงค์” นุทำสีหน้าตกใจ เขาประเมินแบงค์ต่ำไปเสียแล้ว แต่ก็เอาเถอะ ถึงแบงค์จะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนก็ยังคงเป็นน้องชาย ผู้นำพาความร่ำรวยมั่งคั่งเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตระกูลสุริยะกุล
“แล้วแบงค์ไปเจอเขาหรือยัง” น้ำถาม
“ยังพี่ ตอนนี้ผมส่งฝ่ายกฎหมายเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินที่เราจะได้อยู่ ไอ้อพิชัยแจ้งว่าจะเก็บของย้ายออกจากโรงแรมแถวสีลมที่เป็นออฟฟิศของมันวันอังคารนี้ หลังจากเคลียร์หนี้สินและย้ายบ้านออกไป”
“บ้านก็โดนด้วยหรือ” พี่น้ำตกใจเมื่อได้ทราบว่านายพิชัยสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่เหลือแม้กระทั่งบ้าน
“น่าจะใช่นะ เพราะบ้านถูกธนาคารยึด ผมไปไล่ซื้อมา แต่คนอย่างไอ้พิชัยไม่สิ้นลายง่ายๆ หรอก คงอาศัยเงินเมีย อาศัยเกาะเมียไปก่อนมั้ง บ้านเมียมันก็รวยนี่ ว่าแต่ภีมเป็นไงบ้างครับ”
“ก็ร่าเริงสดใสไปตามประสาเด็ก” น้ำตอบ
“ถ้าเขาโต ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำ จะตกเป็นของเขา” แบงค์บอกกับพี่ชายและพี่สาวแล้วดื่มกาแฟ “เด็กคนนี้เกิดมาเพื่อเป็นลูกของผม แม้ว่าพ่อของน้องจะไม่รับรู้และไม่ต้องการน้อง แต่ผมได้ทุ่มเทความรักให้น้องภีม เพื่อไม่ให้น้องภีมรู้สึกขาด”
หลังจากรับประทานอาหารและพูดคุยกันเสร็จสิ้น แบงค์และพวกพี่ๆ เลิกงานกลับมาพักผ่อนที่บ้าน หลังจากบ้านเสม็ดเรียงถูกเวนคืนที่เพื่อสร้างถนน แบงค์มาจัดการซื้อหาที่ดินปลูกบ้านหลังใหม่ เขาได้ที่ดินย่านนิคมซอยสองจำนวน 2 ไร่ สร้างบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ให้นุและครอบครัว รวมไปถึงน้ำและลูกชายได้อาศัยอยู่ ส่วนแบงค์ก็เทียวไปเทียวมา ถ้าช่วงไหนงานบริหารสายการบินไม่หนักหรือไม่ต้องออกพบสื่อก็จะกลับมาบ้านและทำงานผ่านสำนักงานสาขาสุราษฎร์ แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จอร์จคู่ชีวิตของแบงค์ป่วยเป็นมะเร็งอัณฑะระยะลุกลามต้องตัดอัณฑะทิ้งไปและต้องรับประทานยาพักฟื้น แบงค์พาเขามาอยู่เมืองเพราะมีเขาและพี่น้องลูกหลานได้ดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ทุกๆ 3 เดือนจอร์จต้องเดินทางกลับไปอเมริกาเพื่อยื่นเรื่องต่อวีซ่าและนัดพบแพทย์ตรวจร่างกายและรับยา
“พ่อคร้าบ พ่อมาหาภีมแล้ว” น้องภีมวิ่งปรี่มาหารับแบงค์ทันทีที่รถเก๋งคันหรูจอดหน้าบ้าน
“ใช่แล้ว พ่อมาหาน้องภีมด้วยความคิดถึงยังไงล่ะครับ” แบงค์ย่อตัวลงกอดเด็กน้อยให้คลายความคิดถึง “น้องภีมอยากทำอะไรกับพ่อบอกเลยนะครับ”
“น้องภีมไม่ขออะไร ไม่อยากจะทำอะไร แค่พ่อไปไหนน้องภีมจะไปด้วย”
“ช่างปากหวานจริงนะ พ่อไม่อยู่น้องภีมดื้อกับแม่ กับลุงนุ ลุงจอร์จหรือเปล่าครับ”
“ไม่ครับไม่ น้องภีมไม่ดื้อเลย”
“อย่าใช้คำว่าดื้อเลยแบงค์ ใช้คำว่าซนดีกว่านะ” นุบอก “ปีนต้นไม้ เล่นซนไปเรื่อยๆ”
“จอร์จล่ะครับ” แบงค์เอ่ยถาม
“นั่นแหละดื้อของแท้ ช่วงนี้ไม่ค่อยกินยา แอบกินเหล้า กินของไม่มีประโยชน์” น้ำฟ้องแบงค์ “จัดการกันเองนะ ฉันเหนื่อย เหมือนมีลูกชายคนโตอีกคน เขาอยู่ที่ห้องกระจก”
แบงค์เดินปรี่ไปห้องกระจก ห้องๆ นี้อยู่ชั้นล่าง เป็นห้องเอนกประสงค์ใช้สำหรับพักผ่อน จัดงานเลี้ยงเล็กๆ แบงค์ใช้ห้องนี้รับประทานอาหารเช้า วันที่เหนื่อยล้าจะใช้ห้องนี้เป็นห้องพักผ่อนด้วยการเปิดเพลงเบาๆ ฟังคลอไปพร้อมกับจิบแชมเปญ จอร์จนั่งพักผ่อนเอกเขนกบนเก้าอี้ยาว จอร์จดูแก่ก่อนวัยไปมากเพราะอาการข้างเคียงจากอาการป่วยและความวิตกกังวลสะสม ผมสีดำของเขามีเส้นผมสีขาวหงอกแซมอยู่ ใบหน้าผิวพรรณเหี่ยวเป็นริ้วรอย มีตกกระให้เห็นประปลาย
“เฮลโลวจอร์จ” แบงค์ทักทาย
“เฮลโลว” จอร์จทักตอบมา
“กินข้าวยัง”
“กินแล้ว แต่กินนิดเดียวเพราะไม่อร่อย”
“จอร์จหยุดทำตัวงี่เง่าซะที จอร์จป่วยกายแต่อย่าป่วยใจด้วยสิ ตอนนี้อาการยังดี แต่อย่าทำตัวเบื่อโลกได้ไหม” แบงค์ขึ้นเสียงตักเตือนจอร์จ “ผมและทุกๆ คนที่นี่รักจอร์จนะ เขาหวังดี ปรารถนาดีต่อจอร์จ อยากให้เป็นปกติเท่าที่จะเป็นไปได้”
“ผมเบื่อ ผมอยากจะทำงาน”
“ทุกอย่างต้องอยู่ที่หมอ ถ้าหมอตรวจคุณแล้ว ไม่มีอาการอะไรรุนแรง คุณกลับมาทำงานได้ ผมว่านะคุณทำจิตใจให้แข็งแรง แล้วทุกอย่างมันก็จะดีเอง”
“ขอบคุณนะ” จอร์จเอ่ยเบาๆ เขาลุกขึ้นมาจับมือของแบงค์
“ผมจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้านะ” แบงค์ผละมือจากจอร์จแล้วเดินออกจากห้องกระจก ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิม นี่คือสิ่งที่จอร์จอยากจะบอก สิ่งที่เขาต้องการคือการได้อยู่กับแบงค์แต่แบงค์ทุ่มเทเวลาให้กับงาน ความไม่เข้าใจกันทำให้คนทั้งสองเหินห่างมากไปกว่าเดิม แบงค์กลายเป็นผู้ปกครองของจอร์จที่คอยควบคุมให้จอร์จเป็นไปตามที่เขาต้องการ ส่วนจอร์จกลายเป็นเด็กที่เรียกร้องความรักความเอาใจใส่จากแบงค์
… … …
“ท่านผู้โดยสารคะ ขณะนี้สายการบินสกุณาแอร์นำพาทุกท่านสู่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เพื่อความปลอดภัยของท่าน กรุณานั่งประจำที่และรัดเข็มขัดจนกว่าสัญญาณรัดเข็มขัดเหนือศีรษะของท่านดับลง สำหรับข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ ของสายการบินสามารถติดตามได้ที่ https://www.f******k.com/peegoongwriter สำหรับวันนี้ขอบคุณและสวัสดีค่ะ” เสียงประกาศจากหัวหน้าลูกเรือจบลง เครื่องบินโบอิ้ง 737-400 กำลังวิ่งอย่างช้าๆ ไปตามแท็กซี่เวย์แล้วจอดเข้าสะพานเทียบเครื่องบิน
“ลงนิ่มจริงครับ” ขจรนักบินผู้ช่วยกล่าวชื่นชม
“อยู่แล้วไอ้น้อง ระดับกัปตันพันธศิลป์ซะอย่างบริการทุกระดับประทับใจ” ตงบอกกับขจร
“เลิกงานพี่จะไปกินเหล้าก่อนกลับไหมครับ” ขจรชวน
“ไม่ล่ะ พี่เหนื่อย” ตงปฏิเสธเพราะค่ำคืนนี้เขามีภารกิจสำคัญที่จะต้องทำกับใครคนหนึ่ง
“กัปตันคะ...” ดรีม-แอร์โฮสเตทสาวสวยเดินมาขวางตงแล้วทักทาย “ไม่ไปเที่ยวต่อหรือคะ”
“ไปกับพี่มั้ยครับน้องดรีม พี่เหงา” ตงกระเซ้าแอร์สาว
“เราตกลงกันแล้วนี่คะ”
“เดี๋ยวพี่ไปเอารถมารับนะครับน้องดรีม” ตงเดินออกจากอาคารผู้โดยสารสนามบินไปยังอาคารจอดรถ ดรีมยืนคอยอย่างสงบ มีรถแท็กซี่คันเข้ามาจอดเทียบริมบาทวิถี ผู้หญิงใส่เสื้อสีดำกางเกงสีขาวลงมาจากรถคันนั้น แล้วเดินตรงมายังดรีมด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม ดวงตากลมโตดุดัน ปากเชิด ดรีมทราบทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มาหาเธอด้วยความเป็นมิตร
“ต้องการอะไรคะ” ดรีมถาม
“เธอชื่อดรุณีใช่ไหม” ผู้หญิงคนนี้ถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ค่ะใช่ค่ะ” ดรีมตอบ
ผัวะ!
ผู้หญิงคนนี้ใช้ฝ่ามือตบประทับลงพวงแก้มขาวๆ ของดรีมหนึ่งฉาดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนผู้คนที่อยู่รายล้อมหันมามอง แก้มของแอร์โฮสเตทสาวเป็นรอยฝ่ามือบวมแดง
“คุณเป็นใครมาตบฉันทำไม” ดรีมยังงงอยู่ว่าผู้หญิงคนนี้มีความแค้นกับเธอตั้งแต่ชาติปางไหน นึกเท่าไหร่ก็ยังนึกไม่ออก
“ฉันชื่อนุชจรี ภัทราสิริกุล คุ้นๆ ไหมล่ะ เธอพอจะนึกออกไหมว่าฉันเป็นใคร แต่ผู้หญิงไร้ยางอายเช่นเธอ คงไม่ใส่ใจหรอกว่าฉันเป็นใคร” นุชจรีตบตีดรีมต่อไปไม่หยุดยั้ง “ฉันเป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายของพันธศิลป์ ภัทราสิริกุล เธอจำใส่กลีบสมองอันน้อยนิดเท่าขี้มดของเธอด้วย นี่ผลพวงของการมายุ่งผัวชาวบ้าน โดยเฉพาะผัวผู้หญิงที่ชื่อนุชจรี”
“คุณครับหยุดเถอะ” มีชายผู้หนึ่งเข้ามาห้าม
“อย่าเสือก” นุชจรีไล่ทุบตีถีบชายผู้นั้นไปพ้น ดรีมได้ทีพยายามวิ่งหนีแต่ก็หนีไม่รอดเมื่อนุชจรีกลับไปกระชากผมดรีมจนหลุดร่วงแล้วมาตบตีต่อ “จะหนีไปไหนอีหน้าด้าน อีช็อคกะรี วันนี้ฉันจะเอาเลือดชั่วออกจากหัวแกให้ได้”
“นึกว่าแกมีมือมีตีนอยู่คนเดียวหรือไง อีแก่” ความโกรธเร่งรัดให้ดรีมถอดปีกถอดหางนางฟ้าทิ้ง เธอไม่ยอมให้เป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ดรีมตบตีนุชจรีอย่างลืมตัว ผู้คนที่มุงดูเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วใช้สมาร์ทโฟนถ่ายคลิปวีดีโอเก็บเอาไว้ คนเราเมื่อความโกรธเข้าครอบงำความรู้สึกนึกคิดแล้ว จากคนดีๆ กลายเป็นสุนัขที่กัดกันเช่นนี้
“หยุดครับ หยุดเดี๋ยวนี้” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป่านกหวีดให้นุชจรีและดรีมหยุดตบตีกัน แต่ไม่เป็นผล ทั้งคู่ยังผลัดกันตบตีด่าทออีกฝ่ายอย่างไม่รู้จักเจ็บปวดหรือเหนื่อย
“ไม่หยุดหรอกครับยาม ใครไปห้ามก็ไม่หยุด มีคนพยายามแยกแล้ว แต่โดนผู้หญิงชุดดำไล่ตบตีจนเจ็บไปเหมือนกัน” คนที่อยู่ในเหตุการณ์บอกกับรปภ.
ตงขับรถเก๋งสปอร์ต 2 ที่นั่งคันหรูมาจอดเทียบกับบาทวิถีใกล้ทางออกที่เขาได้นัดแนะกับดรีมไว้ แต่เขาเห็นว่าบริเวณที่เขาแยกจากดรีมมามีผู้คนมากมายกำลังมุงดูอะไรบางอย่าง เขามองไปเห็นแว้บๆ ว่าผู้หญิงในชุดแอร์โฮสเตทกำลังตบตีกับผู้หญิงชุดดำ แรงของนุชจรีเริ่มแผ่วลงจึงเสียเปรียบดรีม
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าผัวใครของใคร คราวหลังก็ทำป้ายโตๆ แขวนคอผัวเอาไว้ด้วย แต่ดูท่า เธอก็คงเป็นเมียที่ผัวไม่เอา เพราะสันดานเลวๆ ไปไล่กัดคนไปทั่ว พี่ตงไม่เคยพูดกับใครว่ามีเมียเลวๆ แบบนี้” ดรีมใช้เครื่องทุ่นแรงด้วยรองเท้า พูดคำนึงตบหน้านุชจรด้วยส้นรองเท้าหนึ่งที
“ฉิบหายแล้ว” ตงอุทานแล้วรีบลงจากรถ รีบวิ่งมาดูเหตุการณ์
นุชจรีรวบรวมพลังเฮือกสุดท้าย ถีบส่งดรีมจนล้มลงแล้วขึ้นคร่อมตบแล้วบีบคอและโขกศีรษะดรีมกับพื้น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ นุชจรีพอได้แล้ว” ตงกระชากตัวนุชจรีออกมา
“ปล่อยฉัน ฉันจะไปตบมัน” นุชจรีพุ่งไปหมายจะตบตีดรีมอีกครั้งแต่ตงรั้งไว้ทัน
“พอสักทีนะ เธอไม่อายคนอื่นบ้างหรือไง”
“ฉันจะอายไปทำไม คนที่ต้องอายคือนังหน้าด้านนั่น อีช็อคกะรี”
“หยุด” ตงตบหน้านุชจรีไปเต็มมือฉาดนึงเพื่อให้อารมณ์เดือดดาลของนุชจรีสงบลง
“คุณตำรวจครับ นี่แหละครับ ตบตีกันไม่หยุดที ผมไปห้ามก็โดนตบตีเหมือนกัน” ชายผู้หวังดีซึ่งโดนนุชจรีตบตีไปก่อนหน้านั้น ไปแจ้งความเรียกตำรวจมาจับตัว
และแล้วทั้งตง นุชจรี ดรีมและหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายไปให้ปากคำแก่ตำรวจที่สถานีตำรวจ ท้ายที่สุดนุชจรีและดรีมต้องเสียค่าปรับคนละ 500 บาทในข้อหาทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ
“เมื่อไหร่เธอจะหยุดทำแบบนี้สักที” ตงพูดหลังจากพาตัวนุชจรีกลับมาสู่คอนโดย่านเจริญนคร
“เมื่อพี่ตงมีความรักให้แก่นุชซะทีไงคะ” นุชตอบ
“ไม่มีทางหรอกนุช พี่ไม่ได้รักนุชเลย นุชก็รู้ดีอยู่แก่ว่าทำไมพี่ต้องแต่งงานกับนุช” ตงเอาความจริงมาพูดตอกย้ำให้นุชจรียอมรับความจริงให้ได้
“ปล่อยพี่เป็นอิสระซะทีได้ไหมนุช พี่ไม่มีทางจะรักนุชได้” ตงอ้อนวอนต่อนุชจรี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตงขอความอิสระจากนุชจรี เพราะการแต่งงงานกับนุชจรีคือการติดโซ่ตรวนให้เขาต้องทุกข์ระทม
“ถ้าพี่หาเงินมาให้นุช 50 ล้านได้ นุชจะปล่อยพี่ไป” นุชจรีงัดไพ่ใบสุดท้ายยื่นข้อเสนอที่ตงไม่มีทางทำได้ หล่อนรู้ดีว่าแม้รายได้ของนักบินจะสูงมากแต่มันก็ไม่มากพอที่จะสมสมเงิน 50 ล้านในระยะเวลาอันรวดเร็วได้ นุชจรีกับตงยังคงสถานภาพสามี-ภรรยาไปอีกสักพักใหญ่อาจจะ 3 ปี 5 ปีหรือมากกว่านั้น มันอาจจะเป็นทางเดียวแล้วที่เหนี่ยวรั้งตงเอาไว้ หล่อนหวังเวลายืดเยื้อเอาไว้จะมากพอที่จะเปลี่ยนตงได้ เหมือนอย่างที่เธอเชื่อมาตลอด
“ต่อให้นุชใช้เชือกวิเศษผูกพี่เอาไว้ เหนี่ยวรั้งให้ตายคงได้แค่ตัวพี่ นุชทำอยู่มันมีความสุขหรือ ถ้ารักคนที่ไม่ได้รัก แล้วผูกมัดพี่เอาไว้ มันคือความเห็นแก่ตัว สุดท้ายแล้วมันจะไม่เหลืออะไร” ตงเอ่ยทิ้งท้ายไว้แล้วออกจากห้องไป
นุชจรีหลั่งน้ำตาร่ำไห้ หล่อนเจ็บทั้งตัวและใจ สุดท้ายแล้วไม่เหลืออะไรอย่างที่ตงบอก หล่อนเหนื่อยแต่เพราะรักตงจึงยอมทำอะไรโง่ๆ แบบนั้น มันเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหน ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา หล่อนและตงแต่งงานกันด้วยความเห็นชอบของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
“หนูรักพี่ตง ลูกชายอาเจ๊กเส็ง ถ้าหนูไม่ได้แต่งงานกับพี่ตง หนูจะไม่แต่งงานกับใคร” นุชจรีนึกย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นการแต่งงานของเธอ ที่มีเพียงเธอ แปะฮง-ผู้เป็นบิดา และนางเขียว-ผู้เป็นมารดารับรู้กันเท่านี้
“ถ้านุชอยากแต่ง ป๊าก็มีวิธี อาเส็งติดหนี้อั๊วอยู่ตั้ง 35 ล้าน อั๊วจะไปให้ข้อเสนอ ถ้าอาตงแต่งงานกับนุช อั๊วจะยกหนี้ให้” แปะฮงไม่คัดค้านความรักเพียงข้างเดียวของนุชจรีแต่กลับส่งเสริมด้วยการใช้เรื่องหนี้สินมาเป็นเงื่อนไข ที่ฝ่ายครงข้ามไม่อาจจะปฏิเสธได้
นี่แหละ หนี้ 45 ล้านบาทที่กลายเป็นเชือกวิเศษผูกรั้งตงเอาไว้ จนทั้งคู่บอบช้ำและเหนื่อยล้า เพราะอีกฝ่ายรักหมดใจแต่อีกฝ่ายไม่เคยรักเลยแม้สักนิด ถ้าหากตงหาเงิน 50 ล้านมาได้ในเร็ววันนี้ นุชจรีคงหมดปัญญาแล้ว ได้แต่ก้มหน้ารับกรรมเซ็นใบหย่าปล่อยตงให้เป็นอิสระ มันคงเป็นไปอย่างที่ว่า...
ต่อให้เชือกวิเศษผูกเราเอาไว้ เหนี่ยวรั้งให้ตายคงได้แค่ตัว ยิ่งห้ามเท่าไหร่ ยิ่งยื้อแค่ไหน ยิ่งเห็นแก่ตัว...
จบบท
“ท่านผู้โดยสารคะ ขณะนี้สายการบินวิงส์แอร์เวย์นำพาทุกท่านสู่ทาอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เพื่อความปลอดภัยของท่าน กรุณานั่งประจำที่และรัดเข็มขัดจนกว่าสัญญาณรัดเข็มขัดเหนือศีรษะของท่านดับลง สำหรับข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ ของสายการบินสามารถติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/peegoongwriter สำหรับวันนี้ขอบคุณและสวัสดีค่ะ” แบงค์รับสัมภาระแล้วนำขึ้นไปยังสำนักงานขายตั๋วชั้น 4 ของอาคารผู้โดยสารฝากกระเป๋าไว้ที่สำนักงาน แล้วออกเริงร่าติดปีกสวยๆ เป็นผีเสื้อเริงราตรี เขาไปทีจีผับ แหล่งบันเทิงประจำของเขา แบงค์แสดงลีลาร้องเพลงได้อย่างเมามัน ในห้องวีไอพีนี้มีเพียงชีพและเด็กอาร์ม ส่วนวินไม่ได้เข้ามาในคืนนี้ ทั้งสามกินดื่มอย่างสนุกสนาน ชีพไปตกลงกับอาร์มไว้เรียบร้อยแล้ว เด็กอาร์มรับหน้าที่เป็นผู้ให้ความบันเทิงต่อแบงค์ “ผับใกล้ปิดแล้ว ท่านจะพาอาร์มไปไหนดีครับ&
“ท่านผู้โดยสารครับ ขณะนี้เรากำลังลดระดับลงสู่ตึกเกือกม้า กรุณานั่งประจำที่ กอดนักบินให้แน่นด้วยความรักขอบคุณครับ” ตงรับหน้าที่เป็นกัปตันขับรถจักรยานยนต์สีแดงของแบงค์ เจ้าของรถกอดตงไว้เสียแน่น ทั้งคู่สวมชุดนักศึกษา เมื่อทุกพร้อม ตงปล่อยรถจักรยานยนต์ลงเนินเขาไปโดยไม่ออกแรงขับเคลื่อน ทั้งคู่ยิ้มแย้มร่าเริงมีความสุขตามประสาคนรักกัน จนมาถึงสามแยกสวนทุเรียน ตงสตาร์ทรถจักรยานยนต์แล้วขับมาถึงตึกเกือกม้า “ถึงโดยสวัสดิภาพ” ตงจอดรถไว้ที่จอดรถ “ขอบคุณครับ” แบงค์เอ่ย “กัปตันตงบริการทุกระดับประทับใจ” ตงพูดเสร็จคว้าตัวแบงค์มาโอบรัดไว้ แล้วค่อยๆ จูบอย่าอ่อนโยน ตี๊ด... มันก็แค่ความฝัน เราสองคนรักกันได้แค่ในค
มากกว่าการเดินทาง สัมผัสความสะดวกสบายกับเครื่องพาณิชย์ลำใหญ่ที่สุดในโลก แอร์บัส เอ 380 Wings Ariways We care everyone. สายการบินวิงส์แอร์เวย์ บินไปด้วยรัก… เจฟดูโฆษณาของสายการบินวิงส์แอร์เวย์แล้วรู้สึกระทมเสียใจ โชคชะตาเล่นตลกกับเขาและแบงค์เหลือเกิน หลังจากที่ความทรงจำของเขากลับมา เขาต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างทรมานใจ ความสัมพันธ์ระหว่างเจฟกับเตยหอมแย่ลงไปเจฟเห็นภรรยาเหมือนเป็นคนอื่น เป็นคนแปลกหน้า มีเพียงความรักและรับผิดชอบให้แค่ของขวัญ ลูกสาวตัวน้อย นางจารุณี แม่ของเจฟ ผู้เจ้ากี้เจ้าการ ผู้อาศัยจังหวะทองที่ความทรงจำของลูกชายหายไปเนื่องจากอุบัติเหตุ ใส่ข้อมูลเรื่องของเตยหอมเข้ามาแทนที่แบงค์ พอความทรงจำที่หายไปกลับคืนมาเรื่อยๆ ก็ไม่มีแบงค์แล้ว เจฟเสียใจ ยังคงรักและถวิลหาแบงค์โดยตลอด ดึกดื่นคืนนั้น เจฟแยกต้วมานอนเพียงคนเดียว ให้เตยนอนหลับอยู่กับลูกอีกห้องนอนห้องหนึ่ง มานานมากแล้ว เขา นอนไม่หลับ เอามือก่ายหน้าผากคิดอะไรมากมาย จนคิดไม่ตก เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เขาบอกความต้องการหย่าร้างกับเต
เมื่อเครื่องบินลงสู่สนามบินเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส สิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อนได้เกิดขึ้น นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่จากบริษัทแอร์บัสแล้ว ยังมีจอร์จและโรนัลด์-เลขาคนสนิทยืนต้อนรับการมาถึงของแบงค์ ตงและวินเซนต์ “ทำหน้ายังกะเห็นผี เห็นคนตายแล้วฟื้นหรือไง” จอร์จทักทายแบงค์ที่ทำหน้าประหลาดใจ “ผมไม่คิดว่าคุณจะมาได้” แบงค์พูด “คุณดูสดใสเหมือนคนไม่ได้ป่วยเลยนะ” “ผมค่อยเล่าให้คุณฟังที่โรงแรมก็แล้วกัน” โรงแรมที่พักตั้งอยู่ใจกลางเมืองตูลูส เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่เก่าแก่ ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศติดกับประเทศสเปน ปัจจุบันเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนักที่สิ่งแวดล้อมอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นตัวอย่างของเมืองอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม&n
หลายเดือนต่อมา... นุชจรีนั่งจิบกาแฟลาเต้อย่างกระสับกระส่ายภายในร้านกาแฟ สายตาของหล่อนจับจ้องไปที่นาฬิกาเป็นระยะๆ สีหน้าหล่อนทวีความหงิกงอจนเมคอัพเครื่องสำอางไม่สามารถปกปิดไว้ได้ มีชายผู้หนึ่งผลักประตูเข้ามาในร้าน เขามองสอดส่ายสายตาไปทั่วร้านจนหยุดสายตามามองนุชจรีแล้วเดินมาหาหล่อน “ฉันรอเธอนานมากแล้วนะ” นุชจรีทักทายอย่างไม่สบอารมณ์ “ขอโทษทีครับ” ชายหนุ่มกล่าวขอโทษขอโพยแล้วสั่งกาแฟกับบริกรที่ยืนรอรับรายการเครื่องดื่ม “ขอสั่งเอสเพรสโซ่ร้อนครับ” “ไหนล่ะหลักฐานที่ให้หา” นุชจรีทวงงานที่ให้ชายหนุ่มสืบมาให้ “นี่ครับ ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในซองนี้” ชายหนุ่ม
เป็นเวลาพลบค่ำพอดีที่ตงลงจากรถตู้ข้ามสะพานลอยมายืนรอตรงปากทางซอยพิเศษ เขายืนรอได้ไม่นานเท่าไหร่ก็มีรถเก๋งคันกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งมาจอดเทียบข้างถนนระยะประชิดกับเขา “ขึ้นมาเถอะ” แบงค์คือคนขับรถเก๋ง เปิดกระจกเชื้อเชิญให้ตงขึ้นรถ ตงจะเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแต่เจ้าภีมเด็กน้อยนั่งอยู่ ตงไปเปิดประตู “ไม่ยักกะรู้ว่าคุณขับรถเป็นด้วย เห็นไปไหนมาไหนก็มีคนขับรถให้หรือไม่ก็ใช้ระบบขนส่งมวลชน” ตงทักหลังจากนั่งรถเรียบร้อยแล้ว “มีอีกหลายเรื่องของผมที่คุณยังไม่รู้” แบงค์พูดเปรยขับรถไปอย่างช้าเพื่อให้ตงได้ซึมซับกับบรรยากาศสองข้างทางซอยพิเศษที่เปลี่ยนแปลงไป “เด็กนี่เป็นหลานคุณเหรอ” ตงถาม “ไม่ใช่ ลูกผม” แบงค์ตอบ&nbs
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลาบ่ายแก่ๆ แบงค์เปลี่ยนใจไม่ไปพบวินที่ทีจีผับและนัดพบเจอตง ตามตารางงานวันนี้ตงทำงานเที่ยวบินจากเชียงใหม่เวลาดึก เที่ยวสุดท้ายของวัน แบงค์ถอดเสื้อสูท ผูกไทค์สีส้มติดบัตรเจ้าหน้าที่เช็คอินลงช่วยงานฝ่ายเช็คอินในบริเวณชั้นผู้โดยสารขาออกเพื่อเป็นการฆ่าเวลารอตง จนเวลาล่วงเลยมาถึง 5 ทุ่มเศษๆ ตงก็ขึ้นมารับแบงค์ ทั้งสองออกจากสนามบินด้วยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มาสู่สถานีปลายทางพญาไท “หิวมั้ยครับ” แบงค์ถามตงในระหว่างเดินลงจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมกับตง “หิวอ่ะ” ตงตอบ “ผมอยากกินผัดไทย” “ผัดไทยตอนเกือบเที่ยงคืนนี่ต้องผัดไทยประตูผีที่เดียวแล้วล่ะ เรียกแท็กซี่ไปร้านผัดไทยประตูผีก็แล้วกัน” แบงค์และตงเรียกแท็กซี่มาร้านผัดไทยประตูผีย่านสำราญราษฎร์ สั่งผัดไทย หมูสะเต๊ะ น้ำส้ม
“ใครมีปืนเถื่อน มาขายฉันได้ไหมคะ พูดจริงนะจ๊ะจะซื้อไปยิงอกคน” นุชจรีนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้เอน เธอเหนื่อยทั้งกายทั้งใจ สุดแค้นคนชั่วที่พรากสามีสุดที่รักไปให้ตนนอนกอดทะเบียนสมรสต่างกอดสามี นุชจรีสู้ทนทวงสามี ตากหน้าจนด้านชา ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตงกลับมาแต่มืดมนเสียเหลือเกิน เธอไม่อาจข่มตาหลับ จิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ เธอตอบโต้คนที่ขัดใจเธอได้อย่างแสบสรร การมีศัตรูเป็นแบงค์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่กำจัดออกไป การทำลายชื่อเสียง การไปพูดจาดีๆ ขอสามีคืน การลักพาตัวคนในครอบครัวของแบงค์ ผลลัพธ์ที่ได้คือการยื้อสถานภาพความเป็นสามีภรรยาของตงกับเธอไว้ไประยะหนึ่ง พอเกิดเรื่องไฟไหม้ที่บ้านพ่อแม่ รู้ดีว่าแบงค์อยู่เบื้องหลังแต่เหมือนคนน้ำท่วมปากไม่กล้าบอกเหตุ หากพูดไปกลายเป็นขว้างงูไม่พ้นคอจะต้องบอกถึงเรื่องการลักพาตัวน้ำและภีม ผ่านมาเรื่อยๆ การอยู่เงียบๆ ดูสามีตนเองเล่นชู้กับชายอื่นอย่างมีความสุข เธอได้แค่เจ็บแค้นและรอเวลาเหมาะสมต้องสะสางแค้นในสักวันหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องการยิงปืนไม่ใช่เรื่องยากและเรื่องง่าย การที่นุชจรีตัดสินใจเรียนยิงป
4 ปีต่อมา... ดูเหมือนว่า ผลประกอบการของวิงส์แอร์เวย์ ภายใต้การบริหารของอนุพงษ์ไม่สดใสนัก ขาดทุนสะสมต่อเนื่อง เพราะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป การบริการต่างๆ ก็ด้อยลงไปจากเดิม แม้กระทั่งนักรีวิวการเดินทาง ต่างก็วิจารณ์ไปใสทางที่ไม่ดี “นี่นะหรือบินไปด้วยรัก บินชั้นอีโคโนมี่ไปฮ่องกงเหมือนนรกแตก เริ่มจากเที่ยวบินดีเลย์ เปลี่ยนเวลาออกเดินทางอยู่หลายครั้ง ในช่วงที่นั่งรอเครื่องออก น่าเบื่อมาก จะดูหนังฟังเพลงจากระบบ IFE ฆ่าเวลา ลูกเรือก็ไม่แจกหูฟังอีก จนกระทั่ง เครื่องบินถอยออกจากงวงช้าง เปิดวิดีโอสาธิตความปลอดภัย ลูกเรือเพิ่งมาแจกหูฟัง สภาพหูฟังก็กิ๊กก๊อก เหมือนที่ขายในตลาดนัด คงจะใช้ทีเดียวทิ้ง ไม่น่าจะนำกลับมาใช้ใหม่ได้ อาหารบนเครื่องแล้วแต่ลิ้นผู้โดยสาร สำหรับผม ไม่ถูกปากครับ ไม่ต้องให้ดีเลิศแค่อยากให้เหมือนเมื่อก่อน ที่ทำให้เชื่อว่าบินไปด้วยรักจริงๆ” คุณเนสซี่เจ้าของช่องเนสซี่ไฟลท์ในบ้านแดง เขาเป็นอินฟลูเอน
สงครามสงบลงด้วยความบอบช้ำทั้งสองฝ่าย แม้ว่านุชจรีจะประกันตัวออกมาเพื่อรอสู้คดี ใช้ชีวิตเงียบๆ ในบ้านของตนเองที่ตรัง นุชจรียอมเซ็นใบหย่ามอบอิสรภาพให้แก่ตง ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลร้าวฉานยากจะเยียวยาและเป็นบทเรียนให้คนอื่นๆ เรียนรู้ว่าการคลุมถุงชนมันใช้ไม่ได้ในยุคนี้แล้ว ไม่ได้รักกันแล้วมาอยู่ด้วยกันมันทรมานจนแตกหักกันไป ส่วนแบงค์ต้องจัดการพิธีศพของจอร์จอย่างเรียบร้อย แม้ว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าแต่แขกที่มางานก็มาร่วมงานและแอบซุบซิบนินทาเจ้าภาพอย่างสนุกปากเพราะนอกจากแบงค์ นุ น้ำและลูกหลานที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกแก่แขกมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ ยังมีตงร่วมงานอยู่ในฐานะกึ่งแขกกึ่งเจ้าภาพ “น่าสงสารมิสเตอร์จอร์จนะคะ” มลดาเปรยในระหว่างนั่งพนมมือฟังพระสวดสาธยายพระอภิธรรม “มันก็น่าอยู่นะ มิสเตอร์จอร์จนี่เป็นคนน่าสงสาร คิดดูนะพ่อแม่มาตายตอนเกิด 911 ที่นิวยอร์ค ใช้ชีวิตเงียบเหงาอยู่กับงานธุรกิจที่ต้องสืบต่อ จนมาเจอกับแบงค์เกิดความรักกัน ท
“ใครมีปืนเถื่อน มาขายฉันได้ไหมคะ พูดจริงนะจ๊ะจะซื้อไปยิงอกคน” นุชจรีนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้เอน เธอเหนื่อยทั้งกายทั้งใจ สุดแค้นคนชั่วที่พรากสามีสุดที่รักไปให้ตนนอนกอดทะเบียนสมรสต่างกอดสามี นุชจรีสู้ทนทวงสามี ตากหน้าจนด้านชา ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตงกลับมาแต่มืดมนเสียเหลือเกิน เธอไม่อาจข่มตาหลับ จิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ เธอตอบโต้คนที่ขัดใจเธอได้อย่างแสบสรร การมีศัตรูเป็นแบงค์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่กำจัดออกไป การทำลายชื่อเสียง การไปพูดจาดีๆ ขอสามีคืน การลักพาตัวคนในครอบครัวของแบงค์ ผลลัพธ์ที่ได้คือการยื้อสถานภาพความเป็นสามีภรรยาของตงกับเธอไว้ไประยะหนึ่ง พอเกิดเรื่องไฟไหม้ที่บ้านพ่อแม่ รู้ดีว่าแบงค์อยู่เบื้องหลังแต่เหมือนคนน้ำท่วมปากไม่กล้าบอกเหตุ หากพูดไปกลายเป็นขว้างงูไม่พ้นคอจะต้องบอกถึงเรื่องการลักพาตัวน้ำและภีม ผ่านมาเรื่อยๆ การอยู่เงียบๆ ดูสามีตนเองเล่นชู้กับชายอื่นอย่างมีความสุข เธอได้แค่เจ็บแค้นและรอเวลาเหมาะสมต้องสะสางแค้นในสักวันหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องการยิงปืนไม่ใช่เรื่องยากและเรื่องง่าย การที่นุชจรีตัดสินใจเรียนยิงป
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลาบ่ายแก่ๆ แบงค์เปลี่ยนใจไม่ไปพบวินที่ทีจีผับและนัดพบเจอตง ตามตารางงานวันนี้ตงทำงานเที่ยวบินจากเชียงใหม่เวลาดึก เที่ยวสุดท้ายของวัน แบงค์ถอดเสื้อสูท ผูกไทค์สีส้มติดบัตรเจ้าหน้าที่เช็คอินลงช่วยงานฝ่ายเช็คอินในบริเวณชั้นผู้โดยสารขาออกเพื่อเป็นการฆ่าเวลารอตง จนเวลาล่วงเลยมาถึง 5 ทุ่มเศษๆ ตงก็ขึ้นมารับแบงค์ ทั้งสองออกจากสนามบินด้วยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มาสู่สถานีปลายทางพญาไท “หิวมั้ยครับ” แบงค์ถามตงในระหว่างเดินลงจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมกับตง “หิวอ่ะ” ตงตอบ “ผมอยากกินผัดไทย” “ผัดไทยตอนเกือบเที่ยงคืนนี่ต้องผัดไทยประตูผีที่เดียวแล้วล่ะ เรียกแท็กซี่ไปร้านผัดไทยประตูผีก็แล้วกัน” แบงค์และตงเรียกแท็กซี่มาร้านผัดไทยประตูผีย่านสำราญราษฎร์ สั่งผัดไทย หมูสะเต๊ะ น้ำส้ม
เป็นเวลาพลบค่ำพอดีที่ตงลงจากรถตู้ข้ามสะพานลอยมายืนรอตรงปากทางซอยพิเศษ เขายืนรอได้ไม่นานเท่าไหร่ก็มีรถเก๋งคันกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งมาจอดเทียบข้างถนนระยะประชิดกับเขา “ขึ้นมาเถอะ” แบงค์คือคนขับรถเก๋ง เปิดกระจกเชื้อเชิญให้ตงขึ้นรถ ตงจะเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแต่เจ้าภีมเด็กน้อยนั่งอยู่ ตงไปเปิดประตู “ไม่ยักกะรู้ว่าคุณขับรถเป็นด้วย เห็นไปไหนมาไหนก็มีคนขับรถให้หรือไม่ก็ใช้ระบบขนส่งมวลชน” ตงทักหลังจากนั่งรถเรียบร้อยแล้ว “มีอีกหลายเรื่องของผมที่คุณยังไม่รู้” แบงค์พูดเปรยขับรถไปอย่างช้าเพื่อให้ตงได้ซึมซับกับบรรยากาศสองข้างทางซอยพิเศษที่เปลี่ยนแปลงไป “เด็กนี่เป็นหลานคุณเหรอ” ตงถาม “ไม่ใช่ ลูกผม” แบงค์ตอบ&nbs
หลายเดือนต่อมา... นุชจรีนั่งจิบกาแฟลาเต้อย่างกระสับกระส่ายภายในร้านกาแฟ สายตาของหล่อนจับจ้องไปที่นาฬิกาเป็นระยะๆ สีหน้าหล่อนทวีความหงิกงอจนเมคอัพเครื่องสำอางไม่สามารถปกปิดไว้ได้ มีชายผู้หนึ่งผลักประตูเข้ามาในร้าน เขามองสอดส่ายสายตาไปทั่วร้านจนหยุดสายตามามองนุชจรีแล้วเดินมาหาหล่อน “ฉันรอเธอนานมากแล้วนะ” นุชจรีทักทายอย่างไม่สบอารมณ์ “ขอโทษทีครับ” ชายหนุ่มกล่าวขอโทษขอโพยแล้วสั่งกาแฟกับบริกรที่ยืนรอรับรายการเครื่องดื่ม “ขอสั่งเอสเพรสโซ่ร้อนครับ” “ไหนล่ะหลักฐานที่ให้หา” นุชจรีทวงงานที่ให้ชายหนุ่มสืบมาให้ “นี่ครับ ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในซองนี้” ชายหนุ่ม
เมื่อเครื่องบินลงสู่สนามบินเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส สิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อนได้เกิดขึ้น นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่จากบริษัทแอร์บัสแล้ว ยังมีจอร์จและโรนัลด์-เลขาคนสนิทยืนต้อนรับการมาถึงของแบงค์ ตงและวินเซนต์ “ทำหน้ายังกะเห็นผี เห็นคนตายแล้วฟื้นหรือไง” จอร์จทักทายแบงค์ที่ทำหน้าประหลาดใจ “ผมไม่คิดว่าคุณจะมาได้” แบงค์พูด “คุณดูสดใสเหมือนคนไม่ได้ป่วยเลยนะ” “ผมค่อยเล่าให้คุณฟังที่โรงแรมก็แล้วกัน” โรงแรมที่พักตั้งอยู่ใจกลางเมืองตูลูส เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่เก่าแก่ ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศติดกับประเทศสเปน ปัจจุบันเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนักที่สิ่งแวดล้อมอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นตัวอย่างของเมืองอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม&n
มากกว่าการเดินทาง สัมผัสความสะดวกสบายกับเครื่องพาณิชย์ลำใหญ่ที่สุดในโลก แอร์บัส เอ 380 Wings Ariways We care everyone. สายการบินวิงส์แอร์เวย์ บินไปด้วยรัก… เจฟดูโฆษณาของสายการบินวิงส์แอร์เวย์แล้วรู้สึกระทมเสียใจ โชคชะตาเล่นตลกกับเขาและแบงค์เหลือเกิน หลังจากที่ความทรงจำของเขากลับมา เขาต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างทรมานใจ ความสัมพันธ์ระหว่างเจฟกับเตยหอมแย่ลงไปเจฟเห็นภรรยาเหมือนเป็นคนอื่น เป็นคนแปลกหน้า มีเพียงความรักและรับผิดชอบให้แค่ของขวัญ ลูกสาวตัวน้อย นางจารุณี แม่ของเจฟ ผู้เจ้ากี้เจ้าการ ผู้อาศัยจังหวะทองที่ความทรงจำของลูกชายหายไปเนื่องจากอุบัติเหตุ ใส่ข้อมูลเรื่องของเตยหอมเข้ามาแทนที่แบงค์ พอความทรงจำที่หายไปกลับคืนมาเรื่อยๆ ก็ไม่มีแบงค์แล้ว เจฟเสียใจ ยังคงรักและถวิลหาแบงค์โดยตลอด ดึกดื่นคืนนั้น เจฟแยกต้วมานอนเพียงคนเดียว ให้เตยนอนหลับอยู่กับลูกอีกห้องนอนห้องหนึ่ง มานานมากแล้ว เขา นอนไม่หลับ เอามือก่ายหน้าผากคิดอะไรมากมาย จนคิดไม่ตก เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เขาบอกความต้องการหย่าร้างกับเต
“ท่านผู้โดยสารครับ ขณะนี้เรากำลังลดระดับลงสู่ตึกเกือกม้า กรุณานั่งประจำที่ กอดนักบินให้แน่นด้วยความรักขอบคุณครับ” ตงรับหน้าที่เป็นกัปตันขับรถจักรยานยนต์สีแดงของแบงค์ เจ้าของรถกอดตงไว้เสียแน่น ทั้งคู่สวมชุดนักศึกษา เมื่อทุกพร้อม ตงปล่อยรถจักรยานยนต์ลงเนินเขาไปโดยไม่ออกแรงขับเคลื่อน ทั้งคู่ยิ้มแย้มร่าเริงมีความสุขตามประสาคนรักกัน จนมาถึงสามแยกสวนทุเรียน ตงสตาร์ทรถจักรยานยนต์แล้วขับมาถึงตึกเกือกม้า “ถึงโดยสวัสดิภาพ” ตงจอดรถไว้ที่จอดรถ “ขอบคุณครับ” แบงค์เอ่ย “กัปตันตงบริการทุกระดับประทับใจ” ตงพูดเสร็จคว้าตัวแบงค์มาโอบรัดไว้ แล้วค่อยๆ จูบอย่าอ่อนโยน ตี๊ด... มันก็แค่ความฝัน เราสองคนรักกันได้แค่ในค