“ท่านผู้โดยสารคะ ขณะนี้สายการบินวิงส์แอร์เวย์นำพาทุกท่านสู่ทาอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เพื่อความปลอดภัยของท่าน กรุณานั่งประจำที่และรัดเข็มขัดจนกว่าสัญญาณรัดเข็มขัดเหนือศีรษะของท่านดับลง สำหรับข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ ของสายการบินสามารถติดตามได้ที่ https://www.f******k.com/peegoongwriter สำหรับวันนี้ขอบคุณและสวัสดีค่ะ”
แบงค์รับสัมภาระแล้วนำขึ้นไปยังสำนักงานขายตั๋วชั้น 4 ของอาคารผู้โดยสารฝากกระเป๋าไว้ที่สำนักงาน แล้วออกเริงร่าติดปีกสวยๆ เป็นผีเสื้อเริงราตรี เขาไปทีจีผับ แหล่งบันเทิงประจำของเขา แบงค์แสดงลีลาร้องเพลงได้อย่างเมามัน ในห้องวีไอพีนี้มีเพียงชีพและเด็กอาร์ม ส่วนวินไม่ได้เข้ามาในคืนนี้ ทั้งสามกินดื่มอย่างสนุกสนาน ชีพไปตกลงกับอาร์มไว้เรียบร้อยแล้ว เด็กอาร์มรับหน้าที่เป็นผู้ให้ความบันเทิงต่อแบงค์
“ผับใกล้ปิดแล้ว ท่านจะพาอาร์มไปไหนดีครับ” ชีพถาม
“ไปขึ้นสวรรค์ดิ หาโรงแรมม่านรูดดีๆ สะอาดๆ หน่อยนะ” แบงค์สั่งกับชีพ
“ทำไมไม่พาผมไปที่คอนโดท่านล่ะครับ” เด็กอาร์มแกล้งทำน้อยใจ
“อย่าน้อยใจไปเลยนา ฉันไม่อยากให้ใครที่คอนโดเห็น พวกที่คอนโดปากหอยปากปูจะตายไป”แบงค์ปฏิเสธไปด้วยเหตุผลสวยๆ อันที่จริง การพาใครสักคนที่ไม่ได้รู้จักคุ้นเคยเข้าถ้ำเสือเพื่อระเริงรักเป็นเรื่องอันตราย อาจจะนำไปการปล้นฆ่าได้
ชีพสรรหาโรงแรมม่านรูดละแวกใกล้ทีจีผับ ตอบโจทย์แบงค์ได้อย่างที่เขาต้องการ แม้จะไม่มีอุปกรณ์โลดโผนใดๆ ให้ประกอบกิจกรรม แต่ก็สะอาดสะอ้านเงียบสงบ ชีพส่งเสร็จก็ขับรถเก๋งออกไป เหมือนอย่างที่เขาทำมา แบงค์และเด็กอาร์มนั่งลงบนเตียง เด็กหนุ่มกวาดสายตาสำรวจไปรอบๆ ห้อง
“นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่า” แบงค์ลูบไล้เคล้าคลึงร่างกายเด็กหนุ่มด้วยราคะจริตอันแรงกล้า “ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ฉันทำเธอไม่เจ็บหรอก”
“ครั้งแรกครับ” อาร์มตัวสั่นเพราะความเขินอายหรือเพราะกลัวเจ็บก็ไม่ทราบ
“กลัวหรืออาร์ม” แบงค์ถามขณะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้เด็กหนุ่ม
“ไม่ครับ”
“เธอเป็นของฉันนะ คืนนี้ฉันจะพาเธอไปเที่ยวสวรรค์” แบงค์ผลักอาร์มให้นอนลงบนเตียง ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ใจแบงค์คิด ค่ำคืนนี้ร้อนเร่าด้วยไฟราคะที่เป็นเชื้อเพลิงชั้นดีขับเคลื่อนคนทั้งสองไปสู่สวรรค์ชั้นเจ็ด...
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือดังขึ้น แบงค์ตื่นขึ้นงัวเงีย ใช้มือคว้าหยิบโทรศัพท์ที่วางเอาไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง
“สวัสดีครับท่าน ผมโทรศัพท์มาปลุกท่านตามที่ท่านสั่งเอาไว้แล้วนะครับ” กรรายงานต่อแบงค์ตามที่สั่งแบงค์เอาไว้
“อืม ผมจะเข้าออฟฟิศอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า คุณจัดการเรื่องรถให้เรียบร้อยนะ”แบงค์สั่งงาน หลังจากวางสายโทรศัพท์ลง แบงค์ลุกเตียง หอบสารร่างอันเปลือยเปล่าเข้าสู่ห้องน้ำทำธุระส่วนตัว อาบน้ำชำระล้างคราบคาวกามโลกีย์
“อาร์มๆ” แบงค์สะกิดปลุกเรียกอาร์มให้ตื่น
“ครับท่าน” อาร์มขานรับด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“ฉันต้องไปแล้วล่ะ เธอจะนอนต่อก็ได้นะ” แบงค์บอกขณะสวมใส่เสื้อผ้า
“ครับ”
“อ้อ! เกือบลืมไปแล้ว” แบงค์ล้วงกระเป๋าเงินจากกระเป๋ากางเกง “นี่คือเงินตามที่ได้ตกลงกันไว้ รับไปสิ”
“ขอบคุณครับ” อาร์มรับเงินจำนวนนั้นมาแล้วกราบลงแนบออกของแบงค์
“ฉันไปล่ะ” แบงค์เปิดประตูเดินออกจากห้องไป
2 ชั่วโมงหลังจากนั้น แบงค์เดินทางมาถึงอาคารไกรลาศตามเวลาที่กำหนดไว้พอดิบพอดี ที่จริงแล้วกำหนดการไปสำนักงานใหญ่โรงแรมรอยัลไดมอนด์เป็นวันพรุ่งนี้แต่วิชญะ-เลขาของนายพิชัยซึ่งแบงค์ซื้อตัวได้รายงานกับกรว่า นายพิชัยจะเข้ามาเก็บของในวันนี้เพื่อหลบหน้าแบงค์ เขาเลยตลบหลังเปลี่ยนแผนเข้าไปตรวจสอบ พูดคุยกับพนักงานที่เหลืออยู่ในวันนี้แทน และถือโอกาสแถลงข่าวเข้าเทคโอเวอร์อย่างเป็นทางการ
สำนักงานใหญ่โรงแรมรอยัลไดมอนด์ตั้งอยู่ย่านสีลม ชั้น1-15 เป็นโรงแรมและพื้นที่จัดเลี้ยง ชั้น16-20 เป็นสำนักงานของโรงแรม แบงค์ กรและเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายอีก 2 คนมาถึงโรงแรมแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุด ชั้นบนเป็นชั้นของผู้บริหารระดับสูง แม้ว่าจะมีพนักงานระดับสูงอยู่ประจำห้องทำงานแต่ก็ไม่ได้ทำงาน เพราะรอฟังนโยบายการทำงานจากแบงค์อยู่ ทั้งสี่คนไปยังห้องทำงานประธานกรรมการบริหารซึ่งเป็นห้องทำงานของนายพิชัย ภายในห้องนายพิชัยในชุดเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนๆ กางเกงแสลคสีดำกำลังรีบเก็บของใช้ส่วนตัว
“ไม่ต้องรีบก็ได้” แบงค์ประชด “ยังไงแกก็ต้องออกไปอยู่ดี”
“มาทำไม” นายพิชัยอารามตกใจขึ้นเสียง
“ฉันเป็นเจ้าของโรงแรมนี้ ฉันจะเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้” แบงค์ตอบด้วยท่าทีกวนๆ
“คุณเกลียดผมทำไม ผมไปทำอะไรให้คุณต้องมาจงเกลียดจงชังนักหนา” นายพิชัยตะคอกถาม
“ความทรงจำแกสั้นไปแล้ว แกเคยทำอะไรกับพวกฉันไว้ โบราณเขาถึงว่าแก้แค้น 10 ปีก็ยังไม่สาย แกจำผู้หญิงที่ชื่อพัชรินทร์ สุริยะกุลได้เปล่า”
นายพิชัยนึกอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “อดีตเลขาผม เธอลาออกไปตั้งหลายปีแล้วนี่”
“แค่เลขาหรือ” แบงค์กัดฟันกรอด “แกใช้ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเครื่องมือบำบัดความใคร่ ทั้งๆ ที่แกกำลังจะแต่งงานอยู่แล้ว พอหายใคร่แล้วเกิดความรู้สึกอับอาย เซ็นใบลาออกให้พี่น้ำ เขี่ยหล่อนออกไปพ้นทางราวกับว่าเป็นเศษอาหารที่เหลือจากการกินแล้ว รู้ไหมแกไข่ทิ้งไว้ด้วย”
“ไม่รู้” พิชัยทำหน้าอึ้ง
“ก็แหงล่ะสิ อีแก่แม่แกไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้แกรู้อยู่แล้ว พี่สาวฉันไปหาอีแก่ โดนขับไล่ไสส่ง ปัดความรับผิดชอบทิ้ง เสียดายหน่อยนึงอีแก่น่าจะได้อยู่เห็นความพินาศย่อยยับ แต่ไม่เป็นไรฉันซื้อบ้านนิตยนาถสุนทรของแกไว้แล้ว ฉันจะเอาบ้านหลังนั้นทำเป็นคลับ ให้วิญญาณอีแก่นั่นไม่ได้อยู่เป็นสุข” แบงค์บอกกับพิชัย
“แกนี่เลวจริงๆ” พิชัยโกรธที่แม่ผู้ล่วงลับของตนถูกลบหลู่
“ก็พอๆ กับแกนั่นแหละ ฉันน่ะรักสงบแต่อย่ามีใครมาทำเลวใส่ฉันและคนที่ฉันรัก ฉันจะเอาคืนให้แสบสรร อ้อ! ยังมีสิ่งที่แกไม่รู้ วินเป็นคนที่ฉันส่งมาเพื่อนำพาแกไปสู่ความฉิบหาย” แบงค์เฉลยความจริงด้วยสีหน้าสะใจ
“ฉันอยากจะฆ่าแก” พิชัยเงื้อมือหมายจะบีบคอแบงค์เพราะความโกรธเกรี้ยว แต่คนของแบงค์ได้ขัดขวางเอาไว้ เขาแค้นแบงค์และแค้นตัวเองเสียเต็มประดา
“ฉันไปล่ะ ต้องไปชี้แจงกับพนักงานทุกคนก่อน ขอให้โชคดีนะ ถ้าไม่งอมืองอตีน ก็ลืมตาอ้าปากได้ ว่าแต่ผีพนันที่สิงอยู่ออกไปยัง ถ้ายังอยู่ก็ลำบากหน่อยนะ ไม่เหลืออะไรให้ขายแล้วนี่ จะไปอยู่บาร์โฮสต์ คงได้แค่เก็บกวาดบาร์ให้เขา แก่ขนาดนี้แล้วใครจะซื้อ” แบงค์อำลาพิชัยอย่างแสบสรรแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป
ในห้องแกรนด์บอลรูม...
“ผมถือโอกาสนี้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนและพนักงานในเครือรอยัลไดมอนด์ทุกๆ คนนะครับ” แบงค์เกริ่นนำไปสู่การแถลงการณ์ถึงข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อหน้าสื่อมวลชนและพนักงานที่นั่งรอฟังอยู่ “อย่างที่ทราบกันดีว่านายพิชัย นิตยนาถสุนทรเป็นบุคคลล้มละลาย ทรัพย์สินของนายพิชัยทั้งหมดต้องถูกนำขายทอดตลาดเพื่อชดใช้หนี้ ผมเลยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าก่อนจึงซื้อกิจการโรงแรมและบ้านนิตยนาถสุนทรไว้ ส่วนนายพิชัยไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมรอยัลไดมอนด์แล้ว ปัญหาของรอยัลไดมอนด์ในตอนนี้มีเพียงแต่ขาดสภาพคล่องทางการเงินเพราะนายพิชัยเอาเงินไปใช้หนี้จนหมด ส่วนการบริหารจัดการยังเป็นอยู่เช่นเดิม เพราะภาพลักษณ์และสินค้าของรอยัลไดมอนด์ยังอยู่ในระดับดีเยี่ยม ผมจะไม่เลย์ออฟพนักงาน ทุกคนจะไม่ตกงาน แต่จะลาออกไม่ทำงานก็ได้ ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด และถือโอกาสนี้ประกาศผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการผู้บริหารคนใหม่คือ นายวิชญะ ลิ้มวิสุทธิคุณ นายวิชญะจะดำรงตำแหน่งนี้นับจากวันนี้เป็นต้นไป”
สิ้นเสียงประกาศจากแบงค์สร้างความฮือฮาต่อสื่อมวลชนและพนักงานได้มากเลยทีเดียว เพราะมันน่าแปลกที่เลขาคนสนิทของนายพิชัยกลายเป็นผู้บริหารสูงสุดตำแหน่งเดียวกันแต่ต่างวาระกัน
“เลื่อยขาเก้าอี้ชัดๆ”
“คุณพิชัยคงจะกระอักเลือดตายแล้วมั้ง โดนแทงช้างหลังขนาดนี้”
หลังจากนั้น แบงค์รับประทานอาหารเที่ยงภายในโรงแรมระหว่างรับประทานได้พูดคุยและให้แนวทางการบริหารงานแก่ผู้บริหารระดับสูงจนผ่านพ้นไปแล้วเดินทางกลับ แบงค์ลงบันไดใหญ่มา พนักงานกำลังช่วยกันปลดรูปคุณหญิงสุดา นิตนาถสุนทรลงจากผนังเหนือชานพักบันได
“เดี๋ยวก่อนนะ” แบงค์สั่งให้ทุกคนหยุด “ขอแชมเปญแก้วนึง ผมจะฉลองชัยชนะเย้ยอีแก่นี่”
สักครู่แก้วแชมเปญเสิร์ฟถึงมือของแบงค์ “ดื่มให้แก่ความพินาศย่อยยับของมึงและโคตรเหง้าของมึงอีแก่” แบงค์จิบแชมเปญไปหนึ่งอึกแล้วสาดแชมเปญที่เหลือใส่รูปภาพคุณหญิงสุดา ยังไม่หนำใจแบงค์เคาะแก้วแชมเปญจนแตกเป็นปากฉลามเอาไปกรีดรูปภาพเป็นริ้วๆ พลางหัวเราะเยาะเย้ย ผู้ติดตามแบงค์ไม่ว่าจะเป็นกร เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย 2 คน พนักงานถอดรูป พนักงานเสิร์ฟตกตะลึงกับพฤติกรรมของแบงค์
“เอาไปเก็บซะ รูปภาพอีแก่นี่เอาไปทิ้งซะ อย่าให้รกหูรกตา” แบงค์เรียกพนักงานเสิร์ฟมารับเศษแก้วแชมเปญแล้วควักเงินให้ทิปแก่พนักงานเสิร์ฟและพนักงานถอดรูปคนละ 500 บาท “กลับกันเถอะ ผมจะกลับไปอ่านเอกสารแผนการรับมอบเครื่องแอร์บัสเอ-380 กรโทรไปสั่งกับกานต์วดี ผมไปถึงต้องเห็นเอกสารอยู่บนโต๊ะทำงานแล้วนะ”
“ครับท่าน” กรรับคำสั่งจากแบงค์แล้วรีบโทรศัพท์ไปสั่งการกับผู้ช่วยทันที
การแก้แค้นของแบงค์สำเร็จอย่างสวยงาม ธุรกิจโรงแรมรอยัลไดมอนด์ภายใต้การบริหารโดยนายวิชญะซึ่งมีแบงค์เป็นผู้ให้นโยบายและให้คำปรึกษา คงจะไปได้สวยอย่างแน่นอน ส่วนนายพิชัยได้หายไปจากวงสังคมชั้นสูง เขาหย่ากับภรรยาแล้วไปทำงานต่างจังหวัดและไม่รับทราบข่าวอะไรอีกเลย
... ... ...
แชร์สนั่นโซเชียล ตบกันกลางสนามบินดอนเมือง!
เกิดการแชร์คลิปวีดีโอผู้หญิง 2 คนตบตีกันบริเวณหน้าทางเข้าอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศนานาชาติดอนเมือง ในคลิปจะเห็นมีผู้หญิงเสื้อดำ ตบตีกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าใส่ชุดยูนิฟอร์มของสายการบินหนึ่ง โดยเนื้อหาในคลิปได้บอกว่าผู้หญิงชุดดำได้กล่าวหาผู้หญิงชุดยูนิฟอร์มว่าเป็นกิ๊กกับสามีของตน แล้วตบตี มีผู้ชายหวังดีมาช่วยห้ามแต่ถูกผู้หยิงชุดดำตบตีไล่ไปแลเวก็ตบตีกับผู้หญิงชุดยูนิฟอร์มสายการบินอีก
กานต์วดีและพนักงานชายหญิงหลายคนสุมหัวกันอ่านข่าวที่ขึ้นหน้าหนึ่งหน้าห้องทำงานของแบงค์
“นี่มันชุดยูนิฟอร์มแอร์โอสเตทสกุณาแอร์นี่ครับ” นิพนธ์-เลขาผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเริ่มเปิดประเด็น
“แปลว่าผัวมนุษย์ป้าชุดดำนี่เป็นนักบินแน่เลย” วิชุดา-เลขานุการผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์คาดเดา
“โดยสามีของผู้หญิงเสื้อดำคือนายพันธศิลป์ ภัทราสิริกุลซึ่งเป็นนักบินของสายการบินได้รับผิดชอบจ่ายค่าปรับให้แก่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง” กานต์วดีเอ่ยชื่อตงเสียดังลั่นจนแบงค์และกรที่เดินมาได้ยิน
“เมาท์มอยอะไรกันสาวๆ มีข่าวอะไรหรือกานต์วดี ถึงได้เรียกเลขามาเมาท์กัน” แบงค์แซว
“ข่าวมนุษย์ป้าตบแอร์หน้าสนามบินดอนเมืองค่ะ” กานต์วดีตอบพร้อมส่งหนังสือพิมพ์ให้แบงค์
แบงค์รับหนังสือพิมพ์แล้วอ่านเนื้อหาของข่าว เมื่อแบงค์เห็นชื่อของตงปรากฏอยู่ในข่าวในฐานะสามีของนุชจรี เขาอารามตกใจเข้าทำงาน
“ผมจะอยู่คนเดียว ห้ามใครรบกวน รวมทั้งคุณด้วยกร” แบงค์สั่งขณะผลักประตูเข้าไปในห้องทำงาน
“งานเข้าแล้วยัยบื้อ” กรตำหนิกานต์วดี “ถ้าเธอได้เห็นท่านวันนี้ที่โรงแรมรอยัลไดมอนด์รับรองเลยว่าต้องฉี่ราด”
“ยังไงคะ” กลายเป็นว่าแบงค์เปิดโอกาสให้เลขานินทานาย
แบงค์นั่งลงที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดคอมพิวเตอร์ดูข่าวน่าสนใจนี้ เขาได้ดูคลิปทะเลาะวิวาทของผู้หญิงทั้งสอง แล้วชมคลิปข่าวจากสื่อมวลชน
“แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านมาหลายวันแล้ว แต่สังคมยังคงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ใครเป็นฝ่ายถูกฝ่ายผิดยากที่จะตัดสินได้ รายการไก่โต้งแฉแหลกได้ส่งคุณวาสิฏฐี-ผู้สื่อข่าวภาคสนามได้ลงพื้นที่เพื่อหาข้อเท็จจริง” ปิติ-ผู้ดำเนินรายการไก่โต้งแฉแหลกกล่าวนำการค้นหาความจริง
“ค่ะ คุณปิติคะ ดิฉันได้ยืนอยู่ประตูทางเข้าอาคารผู้โดยสารขาออกของท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ดิฉันได้รับความร่วมจากหัวหน้ารักษาความปลอดถภัยเป็นอย่างดี หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยได้อนุญาตให้ดิฉันชมคลิปจากกล้องวีดีโอวงจรปิดของสนามบินแต่ไม่สามารถนำออกเผยแพร่หรือออกอากาศใดๆ ได้ ดิฉันขออธิบายเท่าที่เห็นภาพได้จากภาพวีดีโอวงจรปิดจะเห็นได้ว่ามีผู้ชายสวมชุดนักบินและผู้หญิงใส่ชุดเครื่องแบบแอร์โอสเตทของสายการบินออกมาจากอาคารผู้โดยสารด้วยกัน ทั้งคู่พูดคุยกันเล็กน้อย ก่อนที่ฝ่ายชายเดินแยกไปอาคารจอดรถ โดยที่ไม่มีสังเกตรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ห่างจากตรงนั้นไปไม่มากซึ่งเป็นรถที่ผู้ก่อเหตุอีกคนใช้เป็นพาหนะ เหตุการณ์ต่อจากนั้นก็เป็นไปตามคลิปวีดีโอที่เผยแพร่ไปตามโซเชียลเน็ตเวิร์คค่ะ วาสิฏฐี-รายงานจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองค่ะ”
“ทางด้านคุณอาทิตย์ อัตถาการซีอีโอสายการบินสกุณาแอร์ได้ออกมาชี้แจงว่า”
“จากคลิปดังกล่าวผู้หญิงที่สวมชุดยูนิฟอร์มเป็นแอร์โอสเตทของสายการบินสกุณาแอร์จริงๆ ทางสายการบินได้ลงโทษพนักงานด้วยการพักงาน 3 เดือนเช่นเดียวกัน แต่นักบินต้นเหตุของการทะเลาะวิวาทได้รับการลงโทษพักงาน 3 เดือนเช่นเดียวกันครับ แต่นายพันธศิลป์ ภัทราสิริกุลลาออกจากตำแหน่งนักบินของสายการบินสกุณาแอร์ ทำให้พ้นสภาพจากเป็นพนักงานของสายการบินนับจากบัดนี้เป็นต้นไป ไม่มีความข้องเกี่ยวใดๆ กับสกุณาแอร์แล้ว” ซีอีโอสายการบินสกุณาแอร์ได้ชี้แจงและสรุปผลทั้งหมดผ่านสื่อ
“คุณกรยังอยู่ข้างนอกไหม เข้ามานี่หน่อย” แบงค์กดอินเตอร์คอมเรียกเลขาหน้าห้อง
“มีอะไรครับท่าน” กรผลักประตูเข้ามาคอยรับคำสั่งจากแบงค์
“ตอนนี้ผมต้องการพันธศิลป์ ภัทราสิริกุลมาทำงานกับสายการบินของเรามากที่สุด คุณไปติดต่อให้เขามาทำงานกับเราให้ได้นะ” แบงค์สั่งงานกับกร
“ครับท่าน” กรรับคำสั่งอย่างงงๆ
“ไปทำงานได้แล้ว ผมจะอยู่คนเดียวเงียบๆ” แบงค์สั่งให้กรออกไปทำงานที่สั่งไว้ เมื่อกรปิดประตูห้องทำงาน เขาออกมายืนมองทิวทัศน์แล้วครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง
เรายังรักพี่ตงไม่ใช่สินายตง เพราะความจริงแล้วเราสองคนอายุเท่ากัน เพียงแต่เขาเรียนไปก่อนเรา 1 ปี เขาจึงได้เป็นรุ่นพี่ ตั้งแต่วันนั้นวันที่เราสองคนได้พบเจอกันที่ซุ้มร้านค้าชมรมอาสาพัฒนาหน้าหอ 2 มาถึงวันนี้ความรู้สึกของเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่เราสองคนจะรักกัน ไม่มีทางที่ตงจะรักเรา แม้จะรักกันก็รักกันแค่ในความฝัน เรายังคงเก็บเขาไว้อยู่ลึกสุดใจ ทุกๆ ครั้งที่เรานึกถึงเขา เรารู้สึกเสียดาย... เสียดายว่าทำไมให้เรามาเจอกับตงแต่ทำไมไม่ให้เรารักกัน
“พี่รักแบงค์” ตงกระซิบเบาๆ ตรงหูของแบงค์ ประโยคสั้นๆ แต่มีความหมายเหลือล้น
“เรารักกันได้จริงๆ เหรอครับ?” แบงค์รู้สึกไม่แน่ใจอะไรเลยสักอย่าง แบงค์ผ่านความรักที่ผิดหวังมาแล้ว ถ้าหากความรักของแบงค์สมหวัง แบงค์และตงจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคร้อยแปดพันเก้าเพราะโลกใบนี้ไม่ได้มีแต่เขาสองคน
“แบงค์รักพี่ใช่ไหม” คำถามสั้นๆ จากผู้ชายที่ชื่อตงเป็นคำถามที่ตรงไปตรงมา คงถึงวาระของมันแล้วกระมัง แบงค์จะต้องพูดความจริงเสียที
”ครับ ผมรักพี่ตง” แบงค์สารภาพโดยไม่มองหน้าเขา
“อย่ารักพี่ในแบบคนรักเลยนะแบงค์” ควันบุหรี่ที่เขาพ่นออกมาทำให้ดูราวกับว่าบ้านพิกุลทองคือดินแดนแห่งความหนาวเหน็บจะพูดจะจากันเป็นไอเป็นควัน แบงค์คาดเดาคำตอบได้อย่างถูกต้อง ดีมากแค่ไหนแล้วที่ตงไม่ไล่ตะเพิดเขาออกไปจากของตง “พี่ไม่ได้เป็นเกย์ พี่รักผู้หญิงและมีแฟนอยู่แล้ว แบงค์อย่าเสียใจ อย่าฟูมฟาย ตีอกชกตัวเองโทษโชคชะตาตนเอง หากแม้แบงค์จะเป็นผู้หญิง พี่ก็เก็บความรักของแบงค์ไว้ไม่ได้ เพราะความรักนั้นไม่ถูกต้อง รักสามเส้ามันเจ็บกันทุกคน ส่วนจะรักพี่ข้างเดียวต่อไปหรือไม่นั้นสุดแท้แล้วแต่แบงค์ ถ้าแบงค์มึความสุขอยู่กับการรักพี่ก็รักต่อไป หากทุกข์ทรมานใจเพราะความรักข้างเดียวก็อย่าเลย บาปกรรมเสียเปล่า”
“แต่รู้บ้างไหม ผมไม่เคยเลิกรักคุณได้เลยนะตง มันผ่านมานานเป็นสิบๆ ปีแล้ว เพราะอะไรกัน ผมยังรอคุณอยู่ เพราะเราจากกันโดยไม่ได้ร่ำลาหรือเปล่า” แบงค์เอ่ยรำพันกับตัวเอง “แต่ในความฝันเรารักกันไม่ใช่หรือตง ทุกวันนี้ผมยังฝันถึงคุณอยู่นะ”
“เดี๋ยวสิ” ตงรั้งแบงค์แล้วฉุดเขามาจูบอย่างดูดดื่มชนิดไม่อายใคร ผีสางเทวดานางไม้ “เรารักกันนะแบงค์ อย่าลืมล่ะ เราสองคนรักกัน”
มันคืออะไร การฝันถึงใครซ้ำซาก เรื่องเดิมๆ มันเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของเราต้องการนั่นหรือ เราอยากจะทำฝันให้เป็นจริงได้หรือ แต่ตงมีเมียอยู่แล้วแถมเมียของเขาก็หึงโหดซะด้วย หรือว่าความสุขของเรา คือการได้มองเห็นตงอยู่ในสายตา ได้รักเขาแค่ภายในใจของเรา คงได้พียงเท่านี้
... ... ...
“เครื่องบินแอร์บัสเอ380 ลำแรกมีชื่อว่า ‘ศรีสุราษฎร์’ที่จะมอบในอีกสองเดือน ตามแผนงาน ผมจะให้พี่นุไปรับเครื่องบินที่โรงงานแอร์บัสเมืองตูลูส ส่วนผมและพนักงานที่เหลือจะคอยรับเครื่องที่โรงเก็บเครื่องบิน จากนั้นนิมนต์พระคุณเจ้าเจิมเครื่องบินเพื่อความเป็นสิริมงคล ทำบุญถวายภัตตาหารเพล หลังจากพระสงฆ์กลับแล้ว มีการแสดงระบำไกรลาศสำเริงตามประเพณีของวิงส์แอร์เวย์ เชิญสื่อมวลชนและแขกร่วมงานรับประทานอาหารกลางวัน ช่วงบ่ายแถลงการณ์แล้วเชิญสื่อมวลชนและแขกขึ้นชมเครื่องบิน” แบงค์กล่าวสรุปขั้นตอนพิธีการเจิมเครื่องแอร์บัสเอ380ต่อผู้บริหารระดับสูง
“แล้วอาหารที่จัดเลี้ยงล่ะครับ” คณิน-ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดถาม
“ผมให้ยุพินแคทเทอริ่งประดิษฐ์เมนูอาหารมา นอกเหนือจากจะเป็นอาหารที่ใช้จัดเลี้ยงในวันนั้นแล้ว ยังจะเป็นเมนูอาหารที่ใช้เสิร์ฟผู้โดยสารจริงๆ ในแต่ละเที่ยวบินอีกด้วย ซึ่งผมได้นำเมนูอาหารของชั้นรูบี้คลาสมาลองให้ทุกท่านได้รับประทานในมื้อกลางวันหลังจากประชุมเสร็จแล้ววิจารณ์ว่าดีหรือไม่ดี” แบงค์ตอบคำถามอย่างละเอียด
“อย่างนี้เราจะต้องปรับแผนรับลูกเรือเพิ่มเร็วขึ้นกว่าแผนที่กำหนดไว้หรือเปล่าคะ” มุฑิตา-ผู้อำนวยฝ่ายทรัพยากรมนุษย์สอบถาม
“ไม่ต้องปรับเร็วขึ้น ชะลอลูกเรือที่ปลดลงกราวด์ก่อน” แบงค์ให้คำตอบ “ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังไม่มีอะไรสำคัญมาก แผนงานรายไตรมาสสามารถทำได้ไม่มีอะไรติดขัด คุณนวลนาถให้ส่งเอกสารรายงานข้อร้องเรียนและการปฏิบัติงานจากฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ด้วยนะครับ อ้อ! ฝ่ายปฏิบัติการ ส่งข้อมูลของเครื่องบินโบอิ้ง 734 มาหน่อยนะ ผมว่าควรจะปลดระวางเสียทีแล้วล่ะ”
“ค่ะ” นวลนาถ-ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และการบริการลูกค้ารับงานจากแบงค์
“แล้วอย่างนี้ต้องสรรหาเครื่องบินรุ่นใหม่มาทดแทนหรือเปล่าครับ” อธิป-ผู้อำนวยฝ่ายปฏิบัติการถาม
“คุณถามก็ดีแล้วล่ะ คุณเตรียมข้อมูลมาให้ผมด้วย เอาข้อมูลเครื่องบินทางเดินเดียวมาเปรียบเทียบกัน ค่อยว่ากันทีหลัง” แบงค์สั่งการไป
“ได้ครับ” อธิปรับคำ
“ไม่มีอะไรแล้วครับ ขอเชิญทุกท่านไปรับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตามโนราห์ชั้นล่างได้ครับ” แบงค์ปิดการประชุมแล้วเชิญผู้บริหารทั้งหมดลงไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารมโนราห์เป็นอีกธุรกิจหนึ่งของหน่วยธุรกิจบริษัทยุพินแคทเทอริ่งแอนด์เซอร์วิส จำกัด
“ทำได้ดีมากคุณตง” ครูคำแหง-กัปตันอาวุโสผู้ฝึกสอนนักบินเอ่ยชมตงหลังจากทดสอบการบินกับเครื่องบินจำลอง(Flight Simulator)
“ขอบคุณครับครู” ตงยกมือไหว้ครูคำแหงแล้วเดินออกมาจากเครื่องฝึกบินจำลอง
“คุณตงครับมีเมสเซจจากคุณกรครับ” เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานปฏิบัติการนักบินยืนรอบอกกับตงที่หน้าห้องเครื่องฝึกบินจำลอง
“ว่าไงครับ” ตงหยุดถาม
“ท่านประธานต้องการพบคุณครับ เวลาบ่ายสอง” .เจ้าหน้าที่ถ่ายทอดคำสั่งถึงตง
“ครับ แล้วผมจะไปพบกับแบงค์ เอ๊ย! ท่านประธาน” ตงบอกกับเจ้าหน้าที่ “ผมขอตัวไปกินข้าวก่อนนะครับ”
ระหว่างที่ตงรับประทานอาหารมื้อกลางวันในโรงอาหาร เขานึกคิดถึงเรื่องราวในอดีต ภาพของแบงค์ในความทรงจำของเขาเป็นเพียงแค่เด็กผู้ชายธรรมดาๆ ไม่มีความโดดเด่นอะไร แบงค์เคยรักเขาแต่เขาไม่อาจจะรับความรักที่แสนบริสุทธิ์นั้นได้ แต่ปัจจุบันนี้แบงค์มีทุกสิ่งทุกอย่างทั้งความโดดเด่น ความรักที่งดงาม ต่างจากเขาที่ต้องสูญเสียอิสรภาพไปกับอิสรภาพทางการเงิน
“นี่เธอ นั่นนักบินคนใหม่ใช่ไหม ที่เมียตบกับแอร์โฮสเตทสกุณาแอร์ใช่ไหม” พนักงานหญิงของสายการบินจับกลุ่มนินทาตงอยู่โต๊ะข้างๆ แม้จะพูดคุยแผ่วเบาแต่ตงก็ยังได้ยิน
“หน้าตาก็ใช้ได้อยู่นะ แต่ฉันกลัวเมียเขามาแหกอกฉันน่ะซี” ผู้หญิงอีกคนร่วมนินทาด้วย
“ก่อนจะโดนเมียเขาแหกอกเธอ เธอสวยพอพ่อโคไพล็อตสนใจเธอหรือเปล่า” พนักงานหญิงที่เปิดหัวข้อนินทาระยะเผาขน
ตงหันไปมองกลุ่มพนักงานหญิงที่นินทาเขาอยู่ กลุ่มพนักงานหญิงหลบหน้าหลบตารับประทานอาหารอย่างเงียบๆ ตงหันกลับมาก็เจอ...
“พี่มาจากสกุณาแอร์หรือครับ” มีผู้ชายคนหนึ่งแต่งชุดนักบินฝึกหัดเข้ามาร่วมโต๊ะรับประทานอาหาร
“ใช่แล้ว พี่ลาออกจากสกุณาแอร์มาบินกับวิงส์” ตงตอบ
“ตอนนี้ผมเป็นนักบินฝึกหัดอยู่ ผมชื่อสินธรครับ เรียกว่าสินก็ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่...” สินแนะนำตัว
“พี่ชื่อตงนะ หวังว่าคงจะได้ร่วมงานกันนะ” ตงยื่นมือไปเพื่อจับมือแสดงความยินดีที่ได้รู้จัก
“ครับพี่ตง” สินยื่นมือจับมือตงอย่างเคารพนอบน้อม
“แล้วสินไม่มีบินหรือวันนี้” ตงถาม
“ไม่มีครับ วันนี้ผมมาเทสต์กับซิมครับ ผมเทสต์ตอนบ่ายสามครับ แล้วพี่ล่ะ ไม่มีบินเหมือนกันหรือครับ” สินถามขณะเดินกลับสำนักงานฝ่ายปฏิบัติการการบิน
“ไม่มีบินหรอก พี่บินไปตรังเช้าวันศุกร์นี้แล้วต่อด้วยเชียงใหม่ไฟลท์บ่าย อุบลไฟลท์ดึก” ตงตอบ “เออสิน ท่านประธานนี่เป็นคนยังไงเหรอ”
“ท่านเหรอพี่ ผมก็เป็นแค่พนักงานระดับล่างๆ ไม่ได้คลุกคลีกับท่านเท่าไหร่หรอก ท่านก็ใจดีไม่ดุนะ เวลาทำงานท่านซีเรียสมาก ท่านทำงานแทบจะทุกตำแหน่งในสายการบินนี้” สินตอบ
“ยังไง แทบจะทุกตำแหน่ง” ตงสงสัย
“ท่านแอบไปทำงาน ดูหน้างานจริงๆ ลงทำงานจริงๆ แม้กระทั่งไปขัดห้องน้ำบนเครื่องบิน มีคนบอกว่า ถ้าท่านเป็นนักบินได้ ท่านก็ขับเครื่องบินเองแล้ว” สินตอบแล้วหัวเราะ “แล้วพี่ถามเรื่องท่านไปทำไมครับ”
“ท่านเรียกพี่ไปพบ” ตงตอบแล้วหน้านิ่วคิ้วขมวด
“แปลกแฮะ ท่านจะเรียกพี่ไปพบทำไม ปกติท่านจะไม่ค่อยยุ่งกับพวกนักบินเท่าไหร่นัก แต่ท่านไม่น่ากลัวเท่าไหร่ ท่านนุพี่ชายท่านน่ากลัวกว่าอีก”
“น่ากลัวยังไง”
“ท่านนุเป็นทหารเก่า ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบ ท่านไม่ค่อยเข้ากรุงเทพหรอก วันนี้ท่านเข้ามา ที่ออฟฟิศได้เละแน่ๆ ท่านชอบความเป็นระเบียบ ถ้าไม่เป็นไปตามมาตรฐานของท่านนุแล้ว ท่านด่าเละไม่ไว้หน้าใคร” สินเล่า
พวกเราล้วนชาวไกรลาสคีรี รื่นเริงฤดี เกษมสุขศรีสโมสร
ขอรำร่ายกรีดกรายฝ่ายฟ้อน ให้สุนทรทัศนาสุขารมณ์
ร่วมเริงสำราญ ระรื่นชื่นบานในงานฉลอง
กล่าวคำทำนอง ให้สอดประสานเสียงประสม…
“ได้ยินเสียงไรมั้ยสิน ใครทำอะไรกันหรือ” ตงได้ยินเสียงดนตรีไทยแว่วมาจากห้องทำงาน ห้องใดห้องหนึ่งเลยถามกับสิน
“ซ้อมระบำไกรลาศสำเริงกันครับ” สินตอบ “เครื่องบินลำใหม่เข้ามาจะต้องมีพิธีการเจิมเครื่องบิน ช่วงท้ายพิธีจะมีระบำไกรลาศสำเริง รับขวัญแม่ย่านางเครื่องบินและอวยพรให้ชาวไกรลาศและแขกมาร่วมงาน”
“ชาวไกรลาศคืออะไร” ตงถาม
“คือผู้บริหารและพนักงานของสายการบินทุกๆ คนครับ ท่านเลยตั้งชื่อออฟฟิศใหญ่ว่าอาคารไกรลาศครับ” สินตอบคำถามอย่างมีที่มาและที่ไป “อย่างเดือนหน้าเอ 380 ลำแรกของสายการบินได้รับมอบ ท่านจัดงานใหญ่ ผมน่ะอยากจะได้ขับเครื่องเอ 380 ดู”
“ก็ตั้งใจฝึกบินให้ดี แล้วได้บินกับเอ 380 แน่นอน” ตงบอก
“ครับพี่ ขอให้พี่ตงทำงานที่นี่อย่างมีความสุขนะครับ” สินอวยพร ทั้งสองเดินกลับสู่สำนักงานปฏิบัติการการบินด้วยกัน
อีก 5 นาทีจะบ่ายสองโมง ตงมองเวลาบนหน้าปัดนาฬิการาคาแพงระหว่างรอลิฟต์ทะยานสู่ชั้นบนสุดของอาคารไกรลาศ เมื่อลิฟต์หยุดที่ชั้นบนสุด ตงออกมาจากลิฟต์แล้วเดินไปตามทางเดินสู่ห้องทำงานของประธานสายการบิน
“มาพบท่านประธานครับ” ตงบอกกับกานต์วดี
“ท่านคะ คุณพันธศิลป์มาแล้วค่ะ” กานต์วดีกดอินเตอร์คอมบอกกล่าวต่อแบงค์
“ให้เข้ามาได้” แบงค์สั่งกลับมา
“เชิญค่ะ” กานต์วดีไปเปิดประตูห้องทำงานของแบงค์ให้ตงเข้าไป ในสายตาของตงเห็นว่า ห้องทำงานของแบงค์กว้างขวางพอควร ประดับตกแต่งห้องด้วยโมเดลเครื่องบินรุ่นต่างของสายการบิน รวมไปถึงโมเดลเครื่องบินแอร์บัสเอ 380 ลำใหญ่ตั้งอยู่ข้างโต๊ะทำงาน มุมทางเป็นเป็นชุดโซฟารับแขกสีครีม ฝาผนังประดับภาพแบงค์ในชุดสูทนักธุรกิจสีเทาควันบุหรี่ถ่ายคู่กับเครื่องบินโบอิ้ง 737-400 ลำแรกของสายการบิน
“มาแล้วหรือ” แบงค์หันเก้าอี้ทำงานกลับมา “นั่งสิ”
“ครับ” ตงนั่งลงอย่างงกๆ เงิ่นๆ เพราะเขาไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง เขาดีใจหรือว่าตกใจที่ได้มาพบมาเจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้มาเจออีกแล้วแถมยังเป็นเจ้านายของตนเองอีก
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” แบงค์ทักทาย “สบายหรือเปล่า”
“ครับสบายดี ไม่ได้ทุกข์ไม่ได้สุขอะไร” ตงตอบ
“ตั้งใจทำงานให้ดีล่ะคุณตง ผมให้โอกาสคุณเป็นพิเศษ ไม่ใช่ว่าผมยังคงพิศวาสคุณอยู่ แต่ผมให้โอกาสคุณในฐานะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาก่อน เพราะนี้ไม่ใช่ฤดูกาลที่รับสมัครนักบิน ผมไม่ชอบให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียในองค์กรของผม เข้าใจไหมคุณตง” แบงค์บอกกับตงด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่ใช่แบงค์ที่ตงรู้จักแล้ว
“ครับ” ตงกลืนน้ำลายอึกหนึ่งก่อนรับคำ
“ไม่เจอกันนาน กลับมาเจอกันอีก คราวนี้คงจะได้เจอกันจนเบื่อเลยนะ ตั้งใจทำงาน ผมมอบหมายงานอะไรให้คุณทำ คุณต้องทำให้ได้นะ แสดงศักยภาพออกมานะคุณตง” แบงค์พูด
“ครับ” ตงไม่รู้ว่าจะสนทนากับแบงค์อย่างไร ก่อนเคยขึ้นมึงขึ้นกู เดี๋ยวนี้มองแค่รองเท้าก็รู้ว่าเราต่างกัน
“จะดิ่มชาไหม ชารสพีชอร่อยนะ” แบงค์คว้าถ้วยชามาแล้วหยิบกาชาหมายจะรินชาลงถ้วย
“ไม่ดีกว่าครับ ขอบคุณ” ตงปฎิเสธอย่างสุภาพ
“เรามาทำความรู้จักกันใหม่นะ ผมเปลี่ยนไปแค่ฐานะ หน้าที่การงานเท่านั้น” แบงค์บอก
“ได้ครับ” ตงรับคำ
“เอาไว้เท่านี้แหละ เราเริ่มต้นเพียงแค่นี้ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป”
หลังจากนั้นทั้งสองก็แยกย้ายกันไป แบงค์ตรวจเอกสารต่างๆ ที่แต่ละฝ่ายส่งมา ส่วนตงกลับไปสำนักงานฝ่ายปฏิบัติการการบิน
เช้าวันศุกร์... วันแห่งความวุ่นวาย แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันว่างแต่แบงค์ก็รีบมาสนามบินสุวรรณภูมิ เขามาตรวจงาน อันที่จริงคำว่าตรวจงานคือข้ออ้าง เขาแอบมาดูการขึ้นบินครั้งแรกของตง
“สวัสดีครับท่านผู้โดยสาร วิงส์แอร์เวย์ร่วมกับสายการบินแอร์เมขลาและ Star Alliance มีความยินดีต้อนรับท่านผู้โดยสารบนเที่ยวบินที่ WS 241 ซึ่งจะออกเดินทางไปตรังโดยจะใช้เวลาในการบิน 1 ชั่วโมง 20 นาที กัปตันสุรศักดิ์และนักบินผู้ช่วยพันธศิลป์และลูกเรือทุกคนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะได้รับความสะดวกสบายตลอดเที่ยวบินครับ” แบงค์รับหน้าที่กล่าวต้อนรับผู้โดยสารทุกท่านที่ใช้บริการสายการบินในเที่ยวบิน WS 241 สุวรรณภูมิ-ตรัง “โปรดให้ความสนใจชม สาธิตการใช้อุปกรณ์ต่อไปนี้ จากพนักงานต้อนรับของเรา...”
จากนั้นลูกเรือ เริ่มสาธิตการใช้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย และข้อปฏิบัติต่างๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในระหว่างรอเครื่องขึ้นบิน โดยมีแบงค์อธิบายกำกับในการสาธิตตั้งแต่การรัดเข็มขัด การใช้หน้ากากอ็อกซิเจน การใช้เสื้อชูชีพ และทางออกฉุกเฉินโดยอธิบายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จากนั้นแบงค์มอบหน้าที่การดูแลผู้โดยสารระหว่างทำการขึ้นบินให้แก่หัวหน้าลูกเรือ เขากับไปนั่งประจำที่ในชั้นธุรกิจ
“Cabincrew prepare for takeoff.” หัวหน้าลูกเรือประกาศหลังจากกัปตันให้สัญญาณพร้อมทะยานขึ้นสู่น่านฟ้า ทุกๆ คนประจำที่นั่งหลังติดเบาะของตนเรียบร้อยแล้ว กัปตันเร่งความเร็วเครื่องจนเครื่องทะยานขึ้นท้องฟ้าจนได้ระดับแล้ว
ตึ้ง...
ไฟสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง การบริการอาหารและเครื่องดื่มได้เริ่มต้นขึ้น เมนูสำหรับชั้นธุรกิจเป็นอาหารเช้าแบบอเมริกันสไตล์และข้าวต้มปลา ส่วนชั้นประหยัดเป็นไข่ม้วน ตลอดทางเครื่องบินมีอาการสั่นเพราะฝ่าหลุมอากาศไป สภาพอากาศวันนี้ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก เกิดความวุ่นวายเข้าจนได้ เมื่อคุณลุงที่นั่ง 31H เกิดอาการพาร์กินสันกำเริบเพราะตกใจกับเครื่องบินตกหลุมอากาศ คุณลุงมือสั่นจนทำอาหารตกหล่นกระจาย แล้วโวยวายลุกขึ้นจากที่นั่งแหวกม่านกั้นระหว่างชั้นธุรกิจกับชั้นประหยัด หมายจะไปที่ประตูทางออกเครื่องบิน
“ลุงจะลง” คุณลุงพูดซ้ำไปซ้ำมาด้วยสำเนียงปักษ์ใต้ แต่สจ๊วตและแอร์โฮสเตท 2 คนช่วยกันห้ามและจับตัวลุงและห้ามไว้แต่คุณลุงปัดป้องตัวเองสลัดสะบัดสจ๊วตและแอร์โฮสเตท
แบงค์ดูเหตุการณ์แล้ว ลูกเรือทั้งสองคงจะเอาไม่อยู่ เขายุติการรับประทานอาหารเช้า แล้วเขามาระงับสถานการณ์
“พ่อลุง ใจเย็นหิดตะ ลุงไม่ต้องกลัวนา เดี๋ยวเรือบินแค่ลงแล้ว พ่อลุงมานั่งนี่ตะ” แบงค์ปลอบคุณลุงด้วยภาษาปักษ์ใต้ เพื่อให้คุณลุงคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน คุณลุงเริ่มสงบลงแบงค์พาคุณลุงกลับมานั่งที่นั่ง แต่ที่นั่งของคุณลุงเลอะอาหารไม่สามารถกลับไปนั่งได้ แบงค์จึงให้คุณลุงนั่งที่นั่งชั้นธุรกิจข้างที่นั่งของแบงค์
“ลุงกลัว เรือบินสั่นฉิบหาย กลัวติตกตายลูกบ่าวเห้อ” ลุงบอกกับแบงค์
“พ่อลุงนั่งนิ่งๆ นะ อย่าด้น พ่อลุงมาแต่สวนหรือครับ” แบงค์ย่อตัวคุกเข่าลงแล้วถาม
“ลุงมาแต่สวน เมียลุงตายไปนานแล้ว ขึ้นกรุงเทพมาหาหมอและเยี่ยมลูกบ่าว ลุงอยู่บ้านแค่ตรังกับลูกสาว ลุงหลบบ้านลูกบ่าวซื้อตั๋วเรือบินให้ เลยได้เข่เรือบิน” คุณลุงตอบแบงค์ด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“พ่อลุงกินยาแล้วยัง” อาการมือไม้สั่นของคุณลุงยังคงกำเริบอยู่ เลยต้องถามหายาเพื่อช่วยทุเลาอาการ
“ยาลุงอยู่ในเป้า สาวนุ้ยเอาเป้าลุงไปไว้ในซองเหนือหัว”
“คุณญาณีไปเอากระเป๋าของคุณลุงมาให้ผม” แบงค์สั่งแอร์โฮสเตท “คุณจิราพรเข้าไปค็อกพิทนะ ถามว่าไปให้ถึงตรังก่อนกำหนดได้ไหม”
สักครู่ญาณีกลับมาหาแบงค์พร้อมกระเป๋าลูกเล็กของคุณลุง แบงค์ค้นหายาในกระเป๋าจนเจอ ยานี้เป็นยาหลังอาหาร ต้องทำการเสิร์ฟอาหารใหม่หมด “คุณญาณีไปอุ่นข้าวต้มปลามาที่หนึ่งนะ”
“ได้ค่ะ”
“เดี๋ยวพ่อลุงกินข้าวต้มปลานะ แล้วกินยา” แบงค์บอกกับลุง “คนอื่นๆ กลับไปทำงานของตนเองนะ”
“ท่านผู้โดยสารคะ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ทางลูกเรือกลับมาให้บริการอาหารและเครื่องดื่มเป็นปกติต่อไปค่ะ ทางสายการบินต้องกราบขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ” ญาณีประกาศแจ้งเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษกับผู้โดยสารทุกท่าน โซนหลังยังไม่ได้รับอาหารและเครื่องดื่มแต่ผู้โดยสารทุกท่านเข้าใจและรับทราบปัญหาและความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ไม่โวยวายและอดทนรอรับบริการอย่างสงบ เมื่อญาณีประกาศเสร็จก็นำข้าวต้มปลาจากเตาอุ่นอาหารในห้องครัวของเครื่องบินมาเสิร์ฟอาหารบนโต๊ะอาหารประจำที่นั่ง
“เดี๋ยวผมป้อนนะครับ”แบงค์คนข้าวต้มเพื่อให้ความร้อนถ่ายเทแล้วบรรจงป้อนให้คุณลุงได้รับประทาน
“ท่านคะ สถาพอากาศไม่ค่อยดี แต่กัปตันได้พยายามที่สุดแล้วค่ะ” จิราพรบอกกับแบงค์
“พ่อลุงต้องการไหรเพิ่มหม้าย” แบงค์ไถ่ถามเพื่อหาให้คุณลุงได้คลายความกังวล
“มีเพลงให้ฟังหม้าย ถ้าเป็นเพลงลูกทุ่งก็ดีนะ ลุงจะได้บายใจขึ้น” คุณลุงร้องขอ
“ได้ครับพ่อลุง คุณจิราพรเปิดเพลงลูกทุ่งหน่อยนะ” แบงค์ถ่ายทอดคำสั่งไปยังหัวหน้าลูกเรือ แล้วป้อนข้าวต้มให้คุณลุงต่อไปจนหมด ในระหว่างนั้น ตงออกมาจากห้องค็อกพิท[1]มาเข้าห้องน้ำ เห็นแบงค์คุกเข่าป้อนข้าวต้มให้คุณลุง เขายืนดูอยู่พักหนึ่ง
นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมรับรู้ว่า แบงค์คนนั้นในอดีตยังคงอยู่ เขายังอยู่ อยู่ในแบงค์คนใหม่ เพียงแต่มีเหตุการณ์คับขัน แบงค์คนนั้นจะกลับมา...
“ท่านผู้โดยสารคะ ขณะนี้เรากำลังลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานตรังค่ะ กรุณานั่งประจำที่ รัดเข็มขัดอยู่กับที่นั่ง ปรับพนักเก้าอี้ให้อยู่ในระดับตรง เก็บโต๊ะหน้าที่นั่ง เปิดม่านหน้าต่าง และปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดด้วยครับ เวลาที่ตรังขณะนี้คือ 08.30 ครับ ขอบคุณค่ะ Ladies & Gentlemen, We have descending to Trang Airport, Please keep fasten seat belt, Return a seat back up right, Open your window shade and turn off all electronic devices, The time in New York is now 08.30 am Thank You.” จิราพรนั่งประจำที่นั่งลูกเรือใกล้ประตูทางออกประจันหน้ากับแบงค์และคุณลุง มีเพียงแผงกั้นห้องโดยสารกั้นเท่านั้น แบงค์ช่วยเข็มขัดให้คุณลุง หลังจากคุณลุงรับยาแล้วมีอาการง่วงซึม อาการมื้อไม้สั่นค่อยๆ ทุเลาลงแล้ว
“Cabincrew Prepare for landing.” หัวหน้าลูกเรือแจ้งกับกัปตัน เครื่องบินค่อยๆ ร่อนลดระดับลงเรื่อยๆ จนแตะพื้นรันเวย์อย่างนุ่มนวล
“ท่านผู้โดยสารค่ะ ขณะนี้เราได้นำท่านมาสู่ท่าอากาศยานตรังแล้วค่ะ กรุณานั่งรัดเข็มขัดอยู่กับที่ ปรับพนักเก้าอี้ให้อยู่ในระดับตรง ปิดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้จนกว่าสัญญาณรัดเข็มขัดจะดับครับและโปรดตรวจสอบเอกสารการเดินทางและสิ่งของของท่านก่อนที่จะออกจากเครื่องบินค่ะ ในนามของสายการบินวิงส์แอร์เวย์ กัปตันสุรศักดิ์ นักบินผู้ช่วยพันธศิลป์พร้อมทั้งลูกเรือทุกคน ขอขอบพระคุณที่ท่านเลือกใช้บริการกินรีของวิงส์แอร์เวย์ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสต้อนรับท่านอีก ขอบคุณและสวัสดีค่ะ Ladies & Gentlemen, Now, We have landed at Trang Airport, Please keep your fasten seat belt, Return a seat back up right, Open your window shade and turn off your mobile phone and electronic devices until the fasten sign has been turn off, Please check your personal belonged and travel documentary before you leave the aircraft, On behalf of Wings Airways, Captain Surasak Co-pilot Panthasin and together with our crew would like to thank you for flying with us and we look forward to see you again, Thank You for Flying, Sawasdee Kha.” จิราพรประกาศ เครื่องบินเข้าจอดในหลุมจอด ไฟรัดเข็มขัดนิรภัยดับลง ผู้โดยสารปลดเข็มขัดลุกจากที่นั่งเปิดช่องใส่สัมภาระหยิบสัมภาระของตนเองแล้วยืนออกันตรงทางเดิน จิราพรเปิดประตูเครื่องบิน เจ้าหน้าที่ภาคพื้นนำบันไดมาเทียบ ผู้โดยสารท่านอื่นๆ ทยอยออกลงจากเครื่องบินเข้าสู่อาคารผู้โดยสารจนหมด แบงค์พาลุงไปส่งลูกสาวที่รออยู่ที่ประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้าพร้อมสัมภาระ
“ขอบคุณนะคะ คงจะวุ่นวายน่าดูเชียว”ลูกสาวของคุณลุงกล่าวขอบคุณ
“ยินดีครับ” แบงค์ยิ้มด้วยความจริงใจ คุณลุงและลูกสาวเดินจากไป แบงค์จะเดินกลับเข้าเกทเพื่อขึ้นเครื่อง แต่เห็นตงนั่งคุยกับชายวัยกลางคนในร้านกาแฟ ต่อมความอยากรู้ของแบงค์เริ่มต้นทำงาน เขาเลยหาที่เหมาะๆ ลับตา แอบฟังคนทั้งสองพูดคุยกัน
“ลื้อจะไม่กลับมาอยู่บ้านจริงๆ หรืออาตง” เสี่ยเส็งคุยกับลูกชาย
“ไม่หรอกป๊า อั๊วทำงานเป็นนักบินก็สุขสบายดี ส่วนงานที่บ้าน ป๊ายกให้ซ้งไปเลย” ตงดูดกาแฟเย็นแล้วตอบ
“ลื้อไม่กลับไป เพราะลื้อไม่อยากเจอหน้าอานุชจรีใช่ไหม อั๊วคงไม่มีวันได้อุ้มหลานที่เป้นลูกของลื้อแล้วใช่ไหม”
“อั๊วเป็นหมัน มีลูกไม่ได้หรอก” ตงยังบอกเรื่องเดิมๆ ให้เส็งเลิกคิดมีหลาน
“แล้วทำไมลื้อจะต้องมีเล็กมีน้อยให้อานุชช้ำใจทำไม”
“อั๊วเกลียดอี อั๊วไม่ได้รักอี อั๊วเคยพยายามทำใจปรับตัวเข้าหา แต่อั๊วก็อดทนกับนิสัยของนุชจรีไม่ได้ อั๊วอยากจะหย่าแต่อีไม่ยอม มันเลยยืดเยื้อคาราคาซังมานาน ล่าสุดก็เป็นข่าวฉาวที่ดอนเมือง อั๊วขอหย่ากับนุชอีกครั้ง คราวนี้นุชจรียื่นข้อเสนอให้ผมหาเงิน 50 ล้านบาทแล้วจะเซ็นใบหย่าให้ อั๊วอยากจะหาเงินก้อนนี้มาปลดโซ่ตรวนให้ตัวเองซะที” ตงบรรยายความอึดอัดภายในใจให้บิดาฟัง
“อั๊วว่าอานุชจรีแกล้งยื่นข้อเสนอมากกว่านะมันไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่ทำให้ลื้อต้องยอมหาเงินมากมายจำนวนนั้นเพื่อหย่ากับอี อานุชจรีรักลื้อนะ ผู้หญิงที่รักลื้อจริงๆ มีเพียงอานุชจรีเท่านั้น”
“อั๊วว่านุชจรีเป็นคนไม่ดี เป็นผู้หญิงหน้าเงิน เอาแต่ใจ อั๊วไม่อยากทนได้ชื่อว่าเป็นผัวของผู้หญิงคนนี้ นี่ก้ได้เวลาที่อั๊วต้องกลับไปทำงานแล้ว วันนี้อั๊วบินครั้งแรกกับสายการบินนี้ อั๊วอยากให้ทุกๆ คนประทับใจ ยิ่งวันนี้ท่านประธานมาดูหน้างานเองด้วย ยิ่งต้องตั้งใจทำงาน” ตงลาจากเส็งเข้าเกทไปทำงานขับเครื่องบินต่อไป
แบงค์ออกมายืนหน้าร้านกาแฟ มองดูตงเดินเข้าเกทแล้วยิ้มมุมปาก เขามีแผนการบางอย่างผุดขึ้นในหัว ถ้าโชคชะตาลิขิตให้ตงมีภรรยาแต่ไม่ได้รัก โชคชะตาคงจะให้แบงค์ปลดโซ่ตรวนแห่งความทุกข์นี้ ก็เป็นไปได้
ชาวเน็ตแซ่ซร้อง ซีอีโอวิงส์แอร์เวย์บริการทุกระดับประทับใจ
สื่อโซเชียลทั้งหลายได้ชื่นชมการทำงานของคุณพงษ์ชิษณุ สุริยะกุล ประธานกรรมการบริหารสายการบินวิงส์แอร์เวย์ โดยเนื้อกล่าวถึงในเที่ยว WS 241 สุวรรณภูมิ-ตรัง คุณพงษ์ชิษณุได้เดินทางไปด้วยนั้น เมื่อเครื่องบินขึ้นสู่ท้องฟ้าไต่ระดับเพดานบินจนเสถียรแล้ว ลูกเรือให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม ทว่าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ตกหลุมอากาศสั่นไปทั้งลำ มีคุณท่านหนึ่งเกิดอาการแพนิค ท่านมีโรคประจำตัวและได้เดินทางเพียงลำพังเกิดมีอาการกำเริบ มือไม้สั่นจนอาหารหกเลอะเทอะ วิ่งวุ่นจะออกจากเครื่องบิน คุณพงษ์ชิษณุแก้ไขปัญหาอย่างนุ่มนวล วางท่าทีประดุจลูกหลานของคุณลุง ใช้ภาษาท้องถิ่นพูดคุยกัน จนคุณลุงสงบลง คุณพงษ์ชิษณุพาคุณลุงมานั่งที่นั่งชั้นธุรกิจแล้วป้อนข้าวต้มให้คุณลุง ซึ่งมีการแอบถ่ายภาพคุณพงษ์ชิษณุป้อนข้าวต้มคุณลุงไว้เป็นหลักฐานประกอบด้วย
“ผมขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกสื่อและคุณแพทย์ศรีตรังที่ตั้งใจเขียนกระทู้ ผมถือว่าการทำอะไรต้องทำอย่างจริงจังและจริงใจ แล้วจะประสบความสำเร็จ แม้ไม่มีใครเห็นแต่เราได้ทำดีที่สุด เราก็รู้สึกเป็นสุขใจแล้ว ผมถือว่าผู้โดยสารทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นชั้นเฟิร์สต์คลาส บิสซิเนสคลาสหรืออีโคโนมี่คลาสต่างก็ควรได้รับการบริการที่ดีประดุจญาติมิตร ผมมั่นใจได้ว่าหากเกิดปัญหาอะไรบนเครื่องบินของสายการบินวิงส์แอร์เวย์ นักบินและลูกเรือจะช่วยเหลือท่านผูโดยสารทุกคนอย่างเต็มที่ครับ” แบงค์โพสต์ข้อความขอบคุณลงหน้าเฟสบุ๊คแฟนเพจสายการบินวิงส์แอร์เวย์ เขาหวังว่ากระแสด้านบวกนี้จะส่งผลให้ยอดขายที่นั่งในเส้นทางบินต่างๆ ภายในประเทศมียอดเพิ่มขึ้น หลังจากตกอยู่ในภาวะเป็นรองให้กับสายการบินโลว์คอสต์อย่างไทยเรดแอร์และสกุณาแอร์ จนบางครั้งเขาท้อใจกับการบินเส้นทางในประเทศ อยากจะยกเลิกเส้นทางที่ไม่ค่อยจะทำกำไรเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป
จบบท
[1] ห้องค็อกพิท(Cockpit) คือห้องนักบิน เป็นห้องเฉพาะที่มีเตียงแต่นักบินสามารถเข้าใช้งานเพราะเป็นห้องใช้บังคับและควบคุมการบินของนักบิน เป็นส่วนที่ระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
“ท่านผู้โดยสารครับ ขณะนี้เรากำลังลดระดับลงสู่ตึกเกือกม้า กรุณานั่งประจำที่ กอดนักบินให้แน่นด้วยความรักขอบคุณครับ” ตงรับหน้าที่เป็นกัปตันขับรถจักรยานยนต์สีแดงของแบงค์ เจ้าของรถกอดตงไว้เสียแน่น ทั้งคู่สวมชุดนักศึกษา เมื่อทุกพร้อม ตงปล่อยรถจักรยานยนต์ลงเนินเขาไปโดยไม่ออกแรงขับเคลื่อน ทั้งคู่ยิ้มแย้มร่าเริงมีความสุขตามประสาคนรักกัน จนมาถึงสามแยกสวนทุเรียน ตงสตาร์ทรถจักรยานยนต์แล้วขับมาถึงตึกเกือกม้า “ถึงโดยสวัสดิภาพ” ตงจอดรถไว้ที่จอดรถ “ขอบคุณครับ” แบงค์เอ่ย “กัปตันตงบริการทุกระดับประทับใจ” ตงพูดเสร็จคว้าตัวแบงค์มาโอบรัดไว้ แล้วค่อยๆ จูบอย่าอ่อนโยน ตี๊ด... มันก็แค่ความฝัน เราสองคนรักกันได้แค่ในค
มากกว่าการเดินทาง สัมผัสความสะดวกสบายกับเครื่องพาณิชย์ลำใหญ่ที่สุดในโลก แอร์บัส เอ 380 Wings Ariways We care everyone. สายการบินวิงส์แอร์เวย์ บินไปด้วยรัก… เจฟดูโฆษณาของสายการบินวิงส์แอร์เวย์แล้วรู้สึกระทมเสียใจ โชคชะตาเล่นตลกกับเขาและแบงค์เหลือเกิน หลังจากที่ความทรงจำของเขากลับมา เขาต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างทรมานใจ ความสัมพันธ์ระหว่างเจฟกับเตยหอมแย่ลงไปเจฟเห็นภรรยาเหมือนเป็นคนอื่น เป็นคนแปลกหน้า มีเพียงความรักและรับผิดชอบให้แค่ของขวัญ ลูกสาวตัวน้อย นางจารุณี แม่ของเจฟ ผู้เจ้ากี้เจ้าการ ผู้อาศัยจังหวะทองที่ความทรงจำของลูกชายหายไปเนื่องจากอุบัติเหตุ ใส่ข้อมูลเรื่องของเตยหอมเข้ามาแทนที่แบงค์ พอความทรงจำที่หายไปกลับคืนมาเรื่อยๆ ก็ไม่มีแบงค์แล้ว เจฟเสียใจ ยังคงรักและถวิลหาแบงค์โดยตลอด ดึกดื่นคืนนั้น เจฟแยกต้วมานอนเพียงคนเดียว ให้เตยนอนหลับอยู่กับลูกอีกห้องนอนห้องหนึ่ง มานานมากแล้ว เขา นอนไม่หลับ เอามือก่ายหน้าผากคิดอะไรมากมาย จนคิดไม่ตก เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เขาบอกความต้องการหย่าร้างกับเต
เมื่อเครื่องบินลงสู่สนามบินเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส สิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อนได้เกิดขึ้น นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่จากบริษัทแอร์บัสแล้ว ยังมีจอร์จและโรนัลด์-เลขาคนสนิทยืนต้อนรับการมาถึงของแบงค์ ตงและวินเซนต์ “ทำหน้ายังกะเห็นผี เห็นคนตายแล้วฟื้นหรือไง” จอร์จทักทายแบงค์ที่ทำหน้าประหลาดใจ “ผมไม่คิดว่าคุณจะมาได้” แบงค์พูด “คุณดูสดใสเหมือนคนไม่ได้ป่วยเลยนะ” “ผมค่อยเล่าให้คุณฟังที่โรงแรมก็แล้วกัน” โรงแรมที่พักตั้งอยู่ใจกลางเมืองตูลูส เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่เก่าแก่ ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศติดกับประเทศสเปน ปัจจุบันเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนักที่สิ่งแวดล้อมอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นตัวอย่างของเมืองอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม&n
หลายเดือนต่อมา... นุชจรีนั่งจิบกาแฟลาเต้อย่างกระสับกระส่ายภายในร้านกาแฟ สายตาของหล่อนจับจ้องไปที่นาฬิกาเป็นระยะๆ สีหน้าหล่อนทวีความหงิกงอจนเมคอัพเครื่องสำอางไม่สามารถปกปิดไว้ได้ มีชายผู้หนึ่งผลักประตูเข้ามาในร้าน เขามองสอดส่ายสายตาไปทั่วร้านจนหยุดสายตามามองนุชจรีแล้วเดินมาหาหล่อน “ฉันรอเธอนานมากแล้วนะ” นุชจรีทักทายอย่างไม่สบอารมณ์ “ขอโทษทีครับ” ชายหนุ่มกล่าวขอโทษขอโพยแล้วสั่งกาแฟกับบริกรที่ยืนรอรับรายการเครื่องดื่ม “ขอสั่งเอสเพรสโซ่ร้อนครับ” “ไหนล่ะหลักฐานที่ให้หา” นุชจรีทวงงานที่ให้ชายหนุ่มสืบมาให้ “นี่ครับ ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในซองนี้” ชายหนุ่ม
เป็นเวลาพลบค่ำพอดีที่ตงลงจากรถตู้ข้ามสะพานลอยมายืนรอตรงปากทางซอยพิเศษ เขายืนรอได้ไม่นานเท่าไหร่ก็มีรถเก๋งคันกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งมาจอดเทียบข้างถนนระยะประชิดกับเขา “ขึ้นมาเถอะ” แบงค์คือคนขับรถเก๋ง เปิดกระจกเชื้อเชิญให้ตงขึ้นรถ ตงจะเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแต่เจ้าภีมเด็กน้อยนั่งอยู่ ตงไปเปิดประตู “ไม่ยักกะรู้ว่าคุณขับรถเป็นด้วย เห็นไปไหนมาไหนก็มีคนขับรถให้หรือไม่ก็ใช้ระบบขนส่งมวลชน” ตงทักหลังจากนั่งรถเรียบร้อยแล้ว “มีอีกหลายเรื่องของผมที่คุณยังไม่รู้” แบงค์พูดเปรยขับรถไปอย่างช้าเพื่อให้ตงได้ซึมซับกับบรรยากาศสองข้างทางซอยพิเศษที่เปลี่ยนแปลงไป “เด็กนี่เป็นหลานคุณเหรอ” ตงถาม “ไม่ใช่ ลูกผม” แบงค์ตอบ&nbs
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลาบ่ายแก่ๆ แบงค์เปลี่ยนใจไม่ไปพบวินที่ทีจีผับและนัดพบเจอตง ตามตารางงานวันนี้ตงทำงานเที่ยวบินจากเชียงใหม่เวลาดึก เที่ยวสุดท้ายของวัน แบงค์ถอดเสื้อสูท ผูกไทค์สีส้มติดบัตรเจ้าหน้าที่เช็คอินลงช่วยงานฝ่ายเช็คอินในบริเวณชั้นผู้โดยสารขาออกเพื่อเป็นการฆ่าเวลารอตง จนเวลาล่วงเลยมาถึง 5 ทุ่มเศษๆ ตงก็ขึ้นมารับแบงค์ ทั้งสองออกจากสนามบินด้วยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มาสู่สถานีปลายทางพญาไท “หิวมั้ยครับ” แบงค์ถามตงในระหว่างเดินลงจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมกับตง “หิวอ่ะ” ตงตอบ “ผมอยากกินผัดไทย” “ผัดไทยตอนเกือบเที่ยงคืนนี่ต้องผัดไทยประตูผีที่เดียวแล้วล่ะ เรียกแท็กซี่ไปร้านผัดไทยประตูผีก็แล้วกัน” แบงค์และตงเรียกแท็กซี่มาร้านผัดไทยประตูผีย่านสำราญราษฎร์ สั่งผัดไทย หมูสะเต๊ะ น้ำส้ม
“ใครมีปืนเถื่อน มาขายฉันได้ไหมคะ พูดจริงนะจ๊ะจะซื้อไปยิงอกคน” นุชจรีนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้เอน เธอเหนื่อยทั้งกายทั้งใจ สุดแค้นคนชั่วที่พรากสามีสุดที่รักไปให้ตนนอนกอดทะเบียนสมรสต่างกอดสามี นุชจรีสู้ทนทวงสามี ตากหน้าจนด้านชา ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตงกลับมาแต่มืดมนเสียเหลือเกิน เธอไม่อาจข่มตาหลับ จิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ เธอตอบโต้คนที่ขัดใจเธอได้อย่างแสบสรร การมีศัตรูเป็นแบงค์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่กำจัดออกไป การทำลายชื่อเสียง การไปพูดจาดีๆ ขอสามีคืน การลักพาตัวคนในครอบครัวของแบงค์ ผลลัพธ์ที่ได้คือการยื้อสถานภาพความเป็นสามีภรรยาของตงกับเธอไว้ไประยะหนึ่ง พอเกิดเรื่องไฟไหม้ที่บ้านพ่อแม่ รู้ดีว่าแบงค์อยู่เบื้องหลังแต่เหมือนคนน้ำท่วมปากไม่กล้าบอกเหตุ หากพูดไปกลายเป็นขว้างงูไม่พ้นคอจะต้องบอกถึงเรื่องการลักพาตัวน้ำและภีม ผ่านมาเรื่อยๆ การอยู่เงียบๆ ดูสามีตนเองเล่นชู้กับชายอื่นอย่างมีความสุข เธอได้แค่เจ็บแค้นและรอเวลาเหมาะสมต้องสะสางแค้นในสักวันหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องการยิงปืนไม่ใช่เรื่องยากและเรื่องง่าย การที่นุชจรีตัดสินใจเรียนยิงป
สงครามสงบลงด้วยความบอบช้ำทั้งสองฝ่าย แม้ว่านุชจรีจะประกันตัวออกมาเพื่อรอสู้คดี ใช้ชีวิตเงียบๆ ในบ้านของตนเองที่ตรัง นุชจรียอมเซ็นใบหย่ามอบอิสรภาพให้แก่ตง ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลร้าวฉานยากจะเยียวยาและเป็นบทเรียนให้คนอื่นๆ เรียนรู้ว่าการคลุมถุงชนมันใช้ไม่ได้ในยุคนี้แล้ว ไม่ได้รักกันแล้วมาอยู่ด้วยกันมันทรมานจนแตกหักกันไป ส่วนแบงค์ต้องจัดการพิธีศพของจอร์จอย่างเรียบร้อย แม้ว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าแต่แขกที่มางานก็มาร่วมงานและแอบซุบซิบนินทาเจ้าภาพอย่างสนุกปากเพราะนอกจากแบงค์ นุ น้ำและลูกหลานที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกแก่แขกมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ ยังมีตงร่วมงานอยู่ในฐานะกึ่งแขกกึ่งเจ้าภาพ “น่าสงสารมิสเตอร์จอร์จนะคะ” มลดาเปรยในระหว่างนั่งพนมมือฟังพระสวดสาธยายพระอภิธรรม “มันก็น่าอยู่นะ มิสเตอร์จอร์จนี่เป็นคนน่าสงสาร คิดดูนะพ่อแม่มาตายตอนเกิด 911 ที่นิวยอร์ค ใช้ชีวิตเงียบเหงาอยู่กับงานธุรกิจที่ต้องสืบต่อ จนมาเจอกับแบงค์เกิดความรักกัน ท
4 ปีต่อมา... ดูเหมือนว่า ผลประกอบการของวิงส์แอร์เวย์ ภายใต้การบริหารของอนุพงษ์ไม่สดใสนัก ขาดทุนสะสมต่อเนื่อง เพราะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป การบริการต่างๆ ก็ด้อยลงไปจากเดิม แม้กระทั่งนักรีวิวการเดินทาง ต่างก็วิจารณ์ไปใสทางที่ไม่ดี “นี่นะหรือบินไปด้วยรัก บินชั้นอีโคโนมี่ไปฮ่องกงเหมือนนรกแตก เริ่มจากเที่ยวบินดีเลย์ เปลี่ยนเวลาออกเดินทางอยู่หลายครั้ง ในช่วงที่นั่งรอเครื่องออก น่าเบื่อมาก จะดูหนังฟังเพลงจากระบบ IFE ฆ่าเวลา ลูกเรือก็ไม่แจกหูฟังอีก จนกระทั่ง เครื่องบินถอยออกจากงวงช้าง เปิดวิดีโอสาธิตความปลอดภัย ลูกเรือเพิ่งมาแจกหูฟัง สภาพหูฟังก็กิ๊กก๊อก เหมือนที่ขายในตลาดนัด คงจะใช้ทีเดียวทิ้ง ไม่น่าจะนำกลับมาใช้ใหม่ได้ อาหารบนเครื่องแล้วแต่ลิ้นผู้โดยสาร สำหรับผม ไม่ถูกปากครับ ไม่ต้องให้ดีเลิศแค่อยากให้เหมือนเมื่อก่อน ที่ทำให้เชื่อว่าบินไปด้วยรักจริงๆ” คุณเนสซี่เจ้าของช่องเนสซี่ไฟลท์ในบ้านแดง เขาเป็นอินฟลูเอน
สงครามสงบลงด้วยความบอบช้ำทั้งสองฝ่าย แม้ว่านุชจรีจะประกันตัวออกมาเพื่อรอสู้คดี ใช้ชีวิตเงียบๆ ในบ้านของตนเองที่ตรัง นุชจรียอมเซ็นใบหย่ามอบอิสรภาพให้แก่ตง ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลร้าวฉานยากจะเยียวยาและเป็นบทเรียนให้คนอื่นๆ เรียนรู้ว่าการคลุมถุงชนมันใช้ไม่ได้ในยุคนี้แล้ว ไม่ได้รักกันแล้วมาอยู่ด้วยกันมันทรมานจนแตกหักกันไป ส่วนแบงค์ต้องจัดการพิธีศพของจอร์จอย่างเรียบร้อย แม้ว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าแต่แขกที่มางานก็มาร่วมงานและแอบซุบซิบนินทาเจ้าภาพอย่างสนุกปากเพราะนอกจากแบงค์ นุ น้ำและลูกหลานที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกแก่แขกมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ ยังมีตงร่วมงานอยู่ในฐานะกึ่งแขกกึ่งเจ้าภาพ “น่าสงสารมิสเตอร์จอร์จนะคะ” มลดาเปรยในระหว่างนั่งพนมมือฟังพระสวดสาธยายพระอภิธรรม “มันก็น่าอยู่นะ มิสเตอร์จอร์จนี่เป็นคนน่าสงสาร คิดดูนะพ่อแม่มาตายตอนเกิด 911 ที่นิวยอร์ค ใช้ชีวิตเงียบเหงาอยู่กับงานธุรกิจที่ต้องสืบต่อ จนมาเจอกับแบงค์เกิดความรักกัน ท
“ใครมีปืนเถื่อน มาขายฉันได้ไหมคะ พูดจริงนะจ๊ะจะซื้อไปยิงอกคน” นุชจรีนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้เอน เธอเหนื่อยทั้งกายทั้งใจ สุดแค้นคนชั่วที่พรากสามีสุดที่รักไปให้ตนนอนกอดทะเบียนสมรสต่างกอดสามี นุชจรีสู้ทนทวงสามี ตากหน้าจนด้านชา ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตงกลับมาแต่มืดมนเสียเหลือเกิน เธอไม่อาจข่มตาหลับ จิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ เธอตอบโต้คนที่ขัดใจเธอได้อย่างแสบสรร การมีศัตรูเป็นแบงค์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่กำจัดออกไป การทำลายชื่อเสียง การไปพูดจาดีๆ ขอสามีคืน การลักพาตัวคนในครอบครัวของแบงค์ ผลลัพธ์ที่ได้คือการยื้อสถานภาพความเป็นสามีภรรยาของตงกับเธอไว้ไประยะหนึ่ง พอเกิดเรื่องไฟไหม้ที่บ้านพ่อแม่ รู้ดีว่าแบงค์อยู่เบื้องหลังแต่เหมือนคนน้ำท่วมปากไม่กล้าบอกเหตุ หากพูดไปกลายเป็นขว้างงูไม่พ้นคอจะต้องบอกถึงเรื่องการลักพาตัวน้ำและภีม ผ่านมาเรื่อยๆ การอยู่เงียบๆ ดูสามีตนเองเล่นชู้กับชายอื่นอย่างมีความสุข เธอได้แค่เจ็บแค้นและรอเวลาเหมาะสมต้องสะสางแค้นในสักวันหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องการยิงปืนไม่ใช่เรื่องยากและเรื่องง่าย การที่นุชจรีตัดสินใจเรียนยิงป
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลาบ่ายแก่ๆ แบงค์เปลี่ยนใจไม่ไปพบวินที่ทีจีผับและนัดพบเจอตง ตามตารางงานวันนี้ตงทำงานเที่ยวบินจากเชียงใหม่เวลาดึก เที่ยวสุดท้ายของวัน แบงค์ถอดเสื้อสูท ผูกไทค์สีส้มติดบัตรเจ้าหน้าที่เช็คอินลงช่วยงานฝ่ายเช็คอินในบริเวณชั้นผู้โดยสารขาออกเพื่อเป็นการฆ่าเวลารอตง จนเวลาล่วงเลยมาถึง 5 ทุ่มเศษๆ ตงก็ขึ้นมารับแบงค์ ทั้งสองออกจากสนามบินด้วยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มาสู่สถานีปลายทางพญาไท “หิวมั้ยครับ” แบงค์ถามตงในระหว่างเดินลงจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมกับตง “หิวอ่ะ” ตงตอบ “ผมอยากกินผัดไทย” “ผัดไทยตอนเกือบเที่ยงคืนนี่ต้องผัดไทยประตูผีที่เดียวแล้วล่ะ เรียกแท็กซี่ไปร้านผัดไทยประตูผีก็แล้วกัน” แบงค์และตงเรียกแท็กซี่มาร้านผัดไทยประตูผีย่านสำราญราษฎร์ สั่งผัดไทย หมูสะเต๊ะ น้ำส้ม
เป็นเวลาพลบค่ำพอดีที่ตงลงจากรถตู้ข้ามสะพานลอยมายืนรอตรงปากทางซอยพิเศษ เขายืนรอได้ไม่นานเท่าไหร่ก็มีรถเก๋งคันกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งมาจอดเทียบข้างถนนระยะประชิดกับเขา “ขึ้นมาเถอะ” แบงค์คือคนขับรถเก๋ง เปิดกระจกเชื้อเชิญให้ตงขึ้นรถ ตงจะเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแต่เจ้าภีมเด็กน้อยนั่งอยู่ ตงไปเปิดประตู “ไม่ยักกะรู้ว่าคุณขับรถเป็นด้วย เห็นไปไหนมาไหนก็มีคนขับรถให้หรือไม่ก็ใช้ระบบขนส่งมวลชน” ตงทักหลังจากนั่งรถเรียบร้อยแล้ว “มีอีกหลายเรื่องของผมที่คุณยังไม่รู้” แบงค์พูดเปรยขับรถไปอย่างช้าเพื่อให้ตงได้ซึมซับกับบรรยากาศสองข้างทางซอยพิเศษที่เปลี่ยนแปลงไป “เด็กนี่เป็นหลานคุณเหรอ” ตงถาม “ไม่ใช่ ลูกผม” แบงค์ตอบ&nbs
หลายเดือนต่อมา... นุชจรีนั่งจิบกาแฟลาเต้อย่างกระสับกระส่ายภายในร้านกาแฟ สายตาของหล่อนจับจ้องไปที่นาฬิกาเป็นระยะๆ สีหน้าหล่อนทวีความหงิกงอจนเมคอัพเครื่องสำอางไม่สามารถปกปิดไว้ได้ มีชายผู้หนึ่งผลักประตูเข้ามาในร้าน เขามองสอดส่ายสายตาไปทั่วร้านจนหยุดสายตามามองนุชจรีแล้วเดินมาหาหล่อน “ฉันรอเธอนานมากแล้วนะ” นุชจรีทักทายอย่างไม่สบอารมณ์ “ขอโทษทีครับ” ชายหนุ่มกล่าวขอโทษขอโพยแล้วสั่งกาแฟกับบริกรที่ยืนรอรับรายการเครื่องดื่ม “ขอสั่งเอสเพรสโซ่ร้อนครับ” “ไหนล่ะหลักฐานที่ให้หา” นุชจรีทวงงานที่ให้ชายหนุ่มสืบมาให้ “นี่ครับ ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในซองนี้” ชายหนุ่ม
เมื่อเครื่องบินลงสู่สนามบินเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส สิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อนได้เกิดขึ้น นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่จากบริษัทแอร์บัสแล้ว ยังมีจอร์จและโรนัลด์-เลขาคนสนิทยืนต้อนรับการมาถึงของแบงค์ ตงและวินเซนต์ “ทำหน้ายังกะเห็นผี เห็นคนตายแล้วฟื้นหรือไง” จอร์จทักทายแบงค์ที่ทำหน้าประหลาดใจ “ผมไม่คิดว่าคุณจะมาได้” แบงค์พูด “คุณดูสดใสเหมือนคนไม่ได้ป่วยเลยนะ” “ผมค่อยเล่าให้คุณฟังที่โรงแรมก็แล้วกัน” โรงแรมที่พักตั้งอยู่ใจกลางเมืองตูลูส เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่เก่าแก่ ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศติดกับประเทศสเปน ปัจจุบันเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนักที่สิ่งแวดล้อมอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นตัวอย่างของเมืองอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม&n
มากกว่าการเดินทาง สัมผัสความสะดวกสบายกับเครื่องพาณิชย์ลำใหญ่ที่สุดในโลก แอร์บัส เอ 380 Wings Ariways We care everyone. สายการบินวิงส์แอร์เวย์ บินไปด้วยรัก… เจฟดูโฆษณาของสายการบินวิงส์แอร์เวย์แล้วรู้สึกระทมเสียใจ โชคชะตาเล่นตลกกับเขาและแบงค์เหลือเกิน หลังจากที่ความทรงจำของเขากลับมา เขาต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างทรมานใจ ความสัมพันธ์ระหว่างเจฟกับเตยหอมแย่ลงไปเจฟเห็นภรรยาเหมือนเป็นคนอื่น เป็นคนแปลกหน้า มีเพียงความรักและรับผิดชอบให้แค่ของขวัญ ลูกสาวตัวน้อย นางจารุณี แม่ของเจฟ ผู้เจ้ากี้เจ้าการ ผู้อาศัยจังหวะทองที่ความทรงจำของลูกชายหายไปเนื่องจากอุบัติเหตุ ใส่ข้อมูลเรื่องของเตยหอมเข้ามาแทนที่แบงค์ พอความทรงจำที่หายไปกลับคืนมาเรื่อยๆ ก็ไม่มีแบงค์แล้ว เจฟเสียใจ ยังคงรักและถวิลหาแบงค์โดยตลอด ดึกดื่นคืนนั้น เจฟแยกต้วมานอนเพียงคนเดียว ให้เตยนอนหลับอยู่กับลูกอีกห้องนอนห้องหนึ่ง มานานมากแล้ว เขา นอนไม่หลับ เอามือก่ายหน้าผากคิดอะไรมากมาย จนคิดไม่ตก เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เขาบอกความต้องการหย่าร้างกับเต
“ท่านผู้โดยสารครับ ขณะนี้เรากำลังลดระดับลงสู่ตึกเกือกม้า กรุณานั่งประจำที่ กอดนักบินให้แน่นด้วยความรักขอบคุณครับ” ตงรับหน้าที่เป็นกัปตันขับรถจักรยานยนต์สีแดงของแบงค์ เจ้าของรถกอดตงไว้เสียแน่น ทั้งคู่สวมชุดนักศึกษา เมื่อทุกพร้อม ตงปล่อยรถจักรยานยนต์ลงเนินเขาไปโดยไม่ออกแรงขับเคลื่อน ทั้งคู่ยิ้มแย้มร่าเริงมีความสุขตามประสาคนรักกัน จนมาถึงสามแยกสวนทุเรียน ตงสตาร์ทรถจักรยานยนต์แล้วขับมาถึงตึกเกือกม้า “ถึงโดยสวัสดิภาพ” ตงจอดรถไว้ที่จอดรถ “ขอบคุณครับ” แบงค์เอ่ย “กัปตันตงบริการทุกระดับประทับใจ” ตงพูดเสร็จคว้าตัวแบงค์มาโอบรัดไว้ แล้วค่อยๆ จูบอย่าอ่อนโยน ตี๊ด... มันก็แค่ความฝัน เราสองคนรักกันได้แค่ในค