“ท่านผู้โดยสารครับ ขณะนี้เรากำลังลดระดับลงสู่ตึกเกือกม้า กรุณานั่งประจำที่ กอดนักบินให้แน่นด้วยความรักขอบคุณครับ” ตงรับหน้าที่เป็นกัปตันขับรถจักรยานยนต์สีแดงของแบงค์ เจ้าของรถกอดตงไว้เสียแน่น ทั้งคู่สวมชุดนักศึกษา เมื่อทุกพร้อม ตงปล่อยรถจักรยานยนต์ลงเนินเขาไปโดยไม่ออกแรงขับเคลื่อน ทั้งคู่ยิ้มแย้มร่าเริงมีความสุขตามประสาคนรักกัน จนมาถึงสามแยกสวนทุเรียน ตงสตาร์ทรถจักรยานยนต์แล้วขับมาถึงตึกเกือกม้า
“ถึงโดยสวัสดิภาพ” ตงจอดรถไว้ที่จอดรถ
“ขอบคุณครับ” แบงค์เอ่ย
“กัปตันตงบริการทุกระดับประทับใจ” ตงพูดเสร็จคว้าตัวแบงค์มาโอบรัดไว้ แล้วค่อยๆ จูบอย่าอ่อนโยน
ตี๊ด...
มันก็แค่ความฝัน เราสองคนรักกันได้แค่ในความฝัน...
ตงตื่นจากความฝันอย่างุนงง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาฝันถึงแบงค์ในทำนองคนรักกัน เขานอนครุ่นคิดอยู่บนเตียงสักพักใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง วันนี้เขาไม่มีบินแต่มีงานที่สุวรรณภูมิ เขาต้องไปร่วมพิธีเจิมเครื่องบินแอร์บัสเอ 380 ตงยังได้รับใบสั่งให้ร่วมถ่ายทำวีดีทัศน์นำเสนอเครื่องบินลำใหม่นี้ ที่สำนักงานเต็มไปด้วยบุคลากรที่มาร่วมพิธีการ
“ไม่มีบินหรือพี่” สินเดินเข้ามาทักตง หลังจากเขายืนงกๆ เงิ่นๆ หาที่ทางของตนเอง
“โดนใบสั่งให้ถ่ายวีทีอาร์ด้วย วันนี้ก็เลยไม่ได้บิน งานไม่ใหญ่แน่นะวิ” ตงพูดอย่างติดตลก
“อยู่แล้วพี่ ปกติก็ใหญ่เวอร์แล้ว แต่นี่เป็นเครื่องรุ่นใหม่ ตอนนี้สื่อไปรอเก็บภาพเครื่องบินแลนดิ้งตรงหัวรันเวย์แล้ว พนักงานขับรถไปพระมาเจิมเครื่องบินแล้ว ช่วงสายๆ พวกดาราเซเลปก็มา” สินบอก
“พี่หิวจัง มีอะไรให้กินรองท้องก่อนไหม”
“ไปตรงด้านโน้นเลยพี่ มีชากาแฟ เบเกอรี่ให้กิน” สินเดินนำพาตงไปที่มุมอาหารเช้า ทั้งสองรับกาแฟและมารับขนมปังไส้สังขยาใบเตยมารับประทาน ตรงที่พักรับประทานอาหาร ตงเห็นแบงค์กำลังจิบชาร้อนและเบเกอรี่อยู่เพียงลำพัง เขาจ้องมองโทรศัพท์มือถืออยู่ หน้าจอแสดงภาพเครื่องบินกำลังบินเหนือแผนที่ประเทศต่างๆ เป็นแอพพลิเคชั่นคล้ายหน้าจอเรดาร์แสดงตำแหน่งเครื่องบินบนท้องฟ้าว่าเป็นเครื่องบินของสายการบินไหน เที่ยวบินอะไร บินจากไหนไปไหน
“มานั่งกับผมก็ได้นะคุณตง” แบงค์เอ่ยชวนตงให้มาร่วมนั่งรับประทานอาหารเช้าร่วมโต๊ะเดียวกัน
“ครับ” ตงรับคำเชิญชวนของแบงค์ แล้วพาสินมานั่งร่วมด้วยอีกคน
“สวัสดีครับท่าน” สินยกมือไหว้
“เป็นโคไพล็อทหรือ” แบงค์ถามสิน
“ครับ วันนี้ท่านคงต้องเหนื่อยน่าดู” สินตอบ
“ก็คงจะอย่างนั้น ตอนนี้เครื่องบินบินผ่านอินเดียแล้วล่ะ” แบงค์พูดคุยกับตงและสิน “อยากขับไหมเอ 380 น่ะ”
“อยากสิครับท่าน ราชาแห่งท้องฟ้า มันคือความท้าทายและความใฝ่ฝันของนักบินทุกคนอยู่แล้วครับ” สินตอบคำถามพลางยิ้มอย่างมีความสุขเหมือนกับพูดถึงสิ่งที่ตัวเองรัก
“คุณตงปรับตัวเข้าที่นี่ได้แล้วหรือยัง” แบงค์ไถ่ถามตงด้วยความห่วงใย
“ปรับตัวได้แล้วครับ” ตงตอบ
“ท่านคะ “ กานต์วดีเดินเข้ามาหา “นี่คือรายละเอียดงานทั้งหมดในวันนี้ค่ะ”
“อืม กำลังรออยู่เลย” แบงค์รับเอกสารมาจากกานต์วดี “เครื่องบินแลนดิ้งตามเวลา มาจอดหน้าแฮงการ์ ท่านและบุคลากรต้อนรับเครื่องบินและท่านุรวมทั้งทีมรับมอบ พร้อมบันทึกภาพทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว พระสงฆ์จำนวน 9 รูปมาถึงแฮงการ์ มีพิธีการเจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเพลระหว่างนั้น พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณจะเจิมเครื่องบินตามฤกษ์ พระสงฆ์กลับ ปิดท้ายพิธีด้วยการแสดงระบำไกรลาศสำเริง ผู้บริหารและแขกผู้มีเกียรติรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันที่ภัตตาคารกินรีทอง”
ทุกคนฟังกานต์วดีอธิบายงานอย่างอย่างตั้งใจ ตงรู้สึกประหลาดใจที่มีการร้องเพลงขับกล่อมเครื่องบิน ไม่มีสายการบินใดในโลกที่ปฏิบัติต่อเครื่องบินซึ่งเป็นยานพาหนะเหล็กลอยในอากาศได้ราวกับสิ่งมีชีวิตเทียบเท่าวิงส์แอร์เวย์แล้ว
“ผมจะออกไปคอยที่หน้าแฮงการ์นะ” แบงค์ลุกขึ้นจากโต๊ะรับประทานอาหาร “คุณสองคนทานเสร็จแล้ว รีบตามออกไปนะ”
“ครับ” สินรับคำ แบงค์เดินแยกไปพร้อมกับกานต์วดี-ผู้ช่วยเลขานุการ ตงและสินดื่มกาแฟรับประทานขนมเสร็จก็เดินตามออกไป ภายนอกแฮงการ์เต็มไปด้วยผู้บริหารและบุคลากร ยืนรอคอยเครื่องบิน บ้างก็ถ่ายรูปเซลฟี่ลงโซเชียลเน็ตเวิร์ค บ้างก็ยืนพูดคุยกัน พนักงานภาคพื้นจำนวน 2 คนถือป้ายผ้าพื้นสีส้มทองพิมพ์ตัวอักษรภาษาอังกฤษสีเขียวอ่อนว่า Welcome The First Airbus A380 Wings Airways Srisurat.
“เครื่องกำลังแลนดิ้งแล้ว แจกธงวิงส์แอร์แวยส์เร็วเข้า” เจ้าหน้าดูแลงานออกคำสั่ง พนักงานผู้ช่วยแจกธงสายการบินขนาดเล็ก ไว้ให้บุคลากรทั้งหลานได้โบกสะบัดต้อนรับเครื่องบิน เมื่อผู้บริหารและบุคลากรตั้งแถวต้อนรับแล้ว ท้องฟ้าฝั่งใต้ของสนามบินเบื้องหน้าแฮงการ์ เครื่องบินลำใหญ่สีส้มทองกำลังลดระดับลงสู่สนามบิน เสียงปรบมือเกรียวกราว ตงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ภาพน่าประทับใจนี้ไม่ต่างจากแบงค์และคนอื่นๆ เครื่องบินลำใหญ่แล่นอย่างช้าๆ จนมาถึงหน้าแฮงการ์ พนักงานเทคนิคภาคพื้นนำบันไดมาเทียบ อนุพงษ์และอรดี-ภรรยานำผู้ติดตามทั้งหลายลงจากเครื่องบินท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น พนักงานทั้งหลายโบกสะบัดธงสายการบิน สื่อมวลชนบันทึกภาพทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เมื่อได้ภาพที่สวยงามแล้ว ทุกๆ คน แยกย้ายกันกลับเข้าไปในแฮงการ์ พระสงฆ์จำนวน 9 รูปมาถึงปรัมพิธีภายในแฮงการ์แล้ว แขกรับเชิญพิเศษทั้งหลายทยอยมาถึง ผู้บริหารและแขกพิเศษนั่งประจำเก้าอี้ที่จัดไว้แยกกับเก้าอี้ของบุคลากรไม่ปะปนกัน เมื่อพร้อมแล้ว แบงค์จุดเทียนธูป บูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์จนเสร็จสิ้น ถวายภัตตาหารและเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณเจิมเครี่องบินตรงส่วนหน้าสุดของเครื่องบินตาม จากนั้นพระเดชพระคุณเจ้าไปเข้าสู่ห้องค็อกพิทแล้วใช้แป้งกระแจะเจิมตรงเพดานห้องเหนือที่นั่งของของนักบิน พระเดชพระคุณท่านประพรมน้ำมนต์ไปทั่วทั้งเคบิน แกลลี่ และบังเกอร์โดยมีแบงค์คอยถือหม้อน้ำมนต์ติดตาม พิธีการทางศาสนาเสร็จสิ้นลง พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณกลับลงจากเครื่องบินไปสมทบกับหมู่พระสงฆ์ พนักงานขับรถไปส่งคณะสงฆ์กลับวัด พิธีการช่วงสุดท้าย ทุกๆ คนกลับมารวมที่แฮงการ์
“ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านคะ งานพิธีการต้อนรับและเจิมเครื่องบินแอร์บัสเอ 380 ลำแรกของสายการบินวิงส์แอร์เวย์ได้ดำเนินการมาถึงช่วงสุดท้ายแล้วค่ะ ตามประเพณีของชาวไกรลาศเรา เมื่อได้รับเครื่องบินใหม่เข้าประจำการ จะมีพิธีการรับขวัญเครื่องบินใหม่ เพราะชาวไกรลาศเราถือว่าเครื่องบินทุกลำมีชีวิต เมื่อเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่แล้ว จำต้องทำการต้อนรับ นอกเหนือไปจากการเจิมเครื่องบินเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังมีอีกประเพณีหนึ่งที่ท่านประธานคุณพงษ์ชิษณุ สุริยะกุลได้สร้างไว้ คือ การแสดงระบำไกรลาสสำเริงเพื่อเป็นการรับขวัญเครื่องบินและอำนวยอวยพรให้ทุกท่านประสบความสวัสดีมีชัย บัดนี้ได้เวลาอันเหมาะสมแล้ว ขอเชิญทุกท่านรับชมระบำไกรลาศสำเริงจากคณะลูกเรือสายการบินวิงส์แอร์เวย์ได้เลยค่ะ” พิธีกรสาวสวยเสียงหวานเสนาะกล่าวจบลง เสียงดนตรีไทยบรรเลง เหล่าลูกเรือเยื้องย่างกรีดกรายออกมาสู่เบื้องบนเวที ทุกคนๆ สวมชุดกินนรและกินรีร่ายรำฟ่ายฟ้อนไปตามจังหวะเสียงเพลง ความงดงามอ่อนช้อยสะกดสายตาทุกสายตาจดจ้องอยู่กับการระบำ
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับพิธีการต้อนรับและเจิมเครื่องบินแอร์บัสเอ 380 ลำแรกของสายการบินวิงส์แอร์เวย์ ช่วงบ่าย แบงค์ยังต้องให้สัมภาษณ์กับสกู๊ปข่าวเศรษฐกิจพาชมภายในเครื่องบินแอร์บัสเอ 380 รวมไปถึงแผนธุรกิจในปีนี้ ต่อจากนั้นก็ต้องร่วมถ่ายทำวีดีทัศน์แนะนำเครื่องบิน สมิตรา-แอร์โฮสเตทในชุดไทยประยุกต์สีฟ้าอ่อนผู้ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้อธิบายการตกแต่ง ภายในเครื่องบิน ชั้นโดยสาร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
“เครื่องบินลำนี้นะคะ มีชั้นบนและชั้นล่าง แบ่งชั้นโดยสารเป็นสี่ชั้นโดยสารค่ะ เริ่มจากชั้นโดยสารไดมอนด์คลาสหรือชั้นเฟิร์สท์คลาส เป็นห้องสวีทที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว จำนวนที่นั่ง 14 ที่นั่งด้วยกัน ตกแต่งอย่างหรูหราโทนสีทองและวัสดุเทียมไม้ นอกจากที่นั่งเป็นห้องสวีท ให้ความเป็นส่วนตัวแล้ว จุดเด่นของชั้นโดยสารไดมอนด์คลาสคือห้องน้ำค่ะ ห้องส่วนหน้าจะมีส่วนอาบน้ำด้วยค่ะ นับว่าเป็นบริการใหม่ของวิงส์แอร์เวย์ค่ะ ต่อไปเป็นชั้นโดยสารรูบี้คลาสหรือชั้นธุรกิจ เป็นที่ปรับราบได้ร้อยแปดสิบองศาค่ะ จำนวนที่นั่งหกสิบที่นั่งค่ะ ความสะดวกสบายในชั้นโดยสารนี้คือทุกที่นั่งติดกับทางเดินทุกที่ค่ะ แต่ที่นั่งออกแบบให้ส่วนยื่นออกมา หากผู้โดยสารนั่งประจำที่ แทบจะไม่มองเห็นผู้โดยสารท่านอื่นเลยค่ะ ในส่วนต่อไป เรายังอยู่กันที่ส่วนชั้นบนของเครื่องบินที่เรียกว่าสตาร์เด็ค ณ จุดๆ นี้ เป็นอีกจุดเด่นของเครื่องบินแอร์บัสเอ 380-800 ของสายการบินวิงส์แอร์เวย์ นี่ค่ะเฟเธอร์เลาจน์ เป็นเลาจน์ที่ให้บริการเฉพาะผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ ผู้โดยสารอาจจะรู้สึกเบื่อหน่าย ท่านสามรถมาดื่มมาดริงค์หรือรับประทานอาหารว่างได้ที่เฟเธอร์เลาจน์ โดยมีลูกเรือประจำเลาจน์ให้บริการเครื่องดื่มทั้งมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ และของว่างมากมายอาทิ คานาเป้ ชีสบอร์ด ของขบเคี้ยวต่างๆ ค่ะ ต่อไปลงบันไดใหญ่มาชั้นล่างกันค่ะ ชั้นล่างนี้เรียกว่าสกายเด็คค่ะ ดิฉันขอเดินย้อนไปส่วนหน้านะคะ เครื่องบินทั้งยาวทั้งใหญ่ใช้เวลาเดินครู่หนึ่งค่ะ เดินมาถึงส่วนหน้าแล้วค่ะ นี่ค่ะ ชั้นโดยสารโทปาซหรือชั้นโดยสารพรีเมียมอีโคโนมี่ จัดที่นั่งแบบ 2-3-2 จำนวน 35 ที่นั่งค่ะ ให้ความรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น ถัดมาคือเพิร์ลคลาสหรืออีโคโนมี่คลาสชั้นประหยัด จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 เพื่อความกว้างสบายมากยิ่งขึ้นค่ะ วิงส์แอร์เวย์เราใส่ใจในการให้บริการแก่ผู้โดยสารทุกท่าน ให้ผู้โดยสารสุข สะดวกสบายและปลอดภัยในทุกเที่ยว เพราะเราบินไปด้วยรัก” สมิตราพูดแนะนำจบลงแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของแบงค์สรุปและปิดการถ่ายทำ
“สำหรับเครื่องบินแอร์บัสเอ 380 นั้น เริ่มต้น เราจะบินรูทฮ่องกงก่อน เมื่อได้ลำที่สองคือ HS-WUB ศรีตรัง เราจะทำการบินรูทปารีส ลำที่สาม HS-WUC ศรีจิตรา ได้มาปลายปีจะใช้บินรูทโตเกียวนาริตะ เมื่อได้ครบ 8 ลำ ภายในปีหน้า เราจะบินรูทลอนดอน แฟรงค์เฟิร์ต ซิดนีย์ โซลและปักกิ่ง เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้โดยสารทุกท่านที่เลือกเดินทางไปกับเราจะได้รับความสุขกายสบายใจ เพราะเราใส่ใจ วิงส์แอร์เวย์ บินไปด้วยรัก” แบงค์กล่าวปิดท้ายการบันทึกวีดีทัศน์แนะนำเครื่องบินได้อย่าง สมบูรณ์แบบ การทำงานอันแสนเหนื่อยของเขาและทุกๆ คนคงจะนำพาความเจริญรุ่งโรจน์ให้แก่วิงส์แอร์เวย์
ผ่านพ้นพิธีการต้อนรับและเจิมเครื่องบินลำใหม่ไปหลายวัน ตงไม่ได้พบเจอกับแบงค์อีกเลย ต่างคนต่างทำงานทำหน้าที่ของตน แบงค์ขลุกตัวอยู่อย่างเงียบๆ ทำงานอยู่บนหอคอยงาช้างชั้นบนสุด ไม่ลงมาออกหน้างานให้ลูกน้องอกสั่นขวัญหายส่วนตงยังคงเก็บชั่วโมงบินอยู่กับเที่ยวบินภายในประเทศ ตงอยากรู้เรื่องของแบงค์จึงเริ่มสืบจากผู้ร่วมงาน
“พี่มล ท่านไม่มีเมียหรือครับ” ตงถามอย่างซื่อๆ กับนักบินรุ่นพี่หลังจากประครองเครื่องบินไต่ระดับเพดานบินมาถึงระดับหนึ่งแล้วเปลี่ยนระบบการบินเป็นระบบอัตโนมัติ
“ท่านมีครอบครัวนะ แต่จะอธิบายยังไงดี ถ้าเป็นอย่างพี่ อย่างเราก็แต่งงานมีเมีย แค่คนที่ท่านแต่งงานเป็นชายชาวอเมริกัน ชายผู้นั้นเป็นถึงเจ้าของบริษัทน้ำมัน เป็นมหาเศรษฐี” มลตอบ
“ทำไมไม่เห็นเลยล่ะ แล้วไม่ค่อยมีใครพูดถึง” ตงยังคงเก็บข้อมูลต่อไป
“ช่วงแรกๆ ตอนก่อตั้งสายการบิน คุณจอร์จก็ถือหุ้นเป็นรายใหญ่อันดับต้นๆ ดูแลเรื่องเชื้อเพลิงเครื่องบิน ที่วิงส์รอดมาได้เพราะคุมต้นทุนเชื้อเพลิงอยู่ แถมยังขายเชื้อเพลิงให้สายการบินอื่น ช่วงก่อนหน้านี้สัก 2-3 ปี คุณจอร์จล้มป่วยเป็นโรคมะเร็งอัณฑะ ต้องบำบัดรักษาตัวจึงโอนหุ้นให้ท่านแต่ท่านแบ่งหุ้นไปให้ท่านนุและคุณน้ำ” มลเล่า
“คุณน้ำนี่ใครกัน ใช่ผู้หญิงที่ลงเครื่องมาพร้อมกับท่านนุในวันที่มีงานเจิมเครื่องบินหรือเปล่า”
“ไม่ใช่ นั่นคุณอรดี-เมียท่านนุ คุณน้ำเป็นพี่สาวของท่าน ตระกูลนี้มี 3 พี่น้อง ท่านนุเป็นพี่ชายคนโต คุณน้ำเป็นพี่คนกลาง ท่านเป็นน้องสุดท้อง คุณน้ำไม่ค่อยออกงานหรอก แกอยู่ที่สุราษฎร์ ถ้าไม่ใช่งานประชุมผู้บริหารประจำปีไม่ขึ้นมาหรอก แกดูแลลูกให้ท่าน”
“ท่านเป็นเกย์แล้วจะมีลูกได้ไงพี่มล” ตงถาม
“ลูกคุณน้ำนี่แหละ เมื่อก่อนคุณน้ำทำงานเป็นเลขาให้ลูกชายเจ้าของโรงแรมรอยัลไดมอนด์ โชคร้ายคุณน้ำโดนลูกชายเจ้าของโรงแรมหลอกฟันจนตั้งท้อง คุณหญิงไม่ยอมรับ คุณน้ำระเห็จออกจากงาน หนีไปคลอดลูกที่อเมริกา ท่านรับลูกของพี่สาวเป็นลูก ข่าววงในว่าที่ท่านเข้าไปเทคโอเวอร์โรงแรมเป็นผลพวงจากแผนการแก้แค้นของท่าน คฤหาสน์ของนายพิชัยถูกขายทอดตลาด ท่านไปซื้อมาเอาทำคลับให้พวกไฮโซไซตี้ได้สำเริงสำราญ” นักบินกมลเล่าเรื่องของแบงค์ให้ตงฟัง ตามที่เขาได้ยินมา
“แหม! พี่รู้ลึกรู้ดีราวกับคลุกคลีตีโมงกับท่าน” ตงแซว
“ก็เล่าตามที่ได้ยินมา เอาล่ะๆ ประกาศให้ผู้โดยสารรู้ดีกว่าเรามาถึงไหนกันแล้ว ท่านผู้โดยสารครับ...” กมลยุติการสนทนานินทาเจ้านาย แล้วประกาศแจ้งสภาพอากาศ เวลาในการบิน เวลาของปลายทาง สภาพอากาศที่สนามบินปลายทางเป็นเช่นไร
... ... ...
ในวันหนึ่ง ช่วงพักเที่ยง ณ. ศูนย์อาหารอาคารไกรลาศ...
ตงรับประทานอาหารกลางวันอยู่เพียงลำพัง วันนี้จนถึงสุดสัปดาห์ เขาไม่มีบินจึงมาหัดขับเครื่องบินรุ่นอื่นๆ เขาเห้นแบงค์เดินถือถาดอาหาร สายตาของแบงค์กวาดหาโต๊ะว่าง ตรงสุดทางเดินมีดต๊ะว่างอยู่ แบงค์รีบเดินปรี่ไปที่นั่งตรงนั้น
“มานั่งกับผมก็ได้ครับ” ตงพูดทัก พนักงานที่นั่งรับประทานอาหารอยู่โต๊ะอื่นๆ รายล้อมสุมหัวกันซุบซิบนินทากัน
“น้อยครั้งนักที่คุณตงจะมีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อผม มีหรือที่ผมจะปฏิเสธมิตรจิตมิตรใจจากคุณได้” แบงค์นั่งลงร่วมรับประทานอาหารโต๊ะเดียวกันกับตง
“ท่านสบายดีไหมครับ” ตงถามด้วยน้ำเสียงพินอบพิเทา
“ก็สบายดีอยู่หรอก ทุกคนในองค์กรทำงานไปตามหน้าที่ของตน ไม่มีปัญหาให้ต้องดีเลย์ แคนเซิลไฟลท์ให้ต้องตามแก้ไข แต่ผมก็เหนื่อยหลังจากผ่านงานรับและเจิมเครื่องบินใหม่ จึงไม่ออกไปเสนอหน้าที่หน้างาน” แบงค์ตอบ
“แล้วทำไมท่านกินข้าวคนเดียว มันแปลกนะ ผมคิดว่าท่านจะต้องกินหรู กับข้าวกับปลาที่ท่านรับประทานต้องมาจากภัตตาคารหรูปรุงโดยเชฟมิชลิน” ตงถาม
“อย่าประชดผมเลย ผมไม่ใช่คนลืมกำพืด ไม่ใช่วัวลืมตีน” แบงค์พูด
“ผมนึกว่าท่านจะลืมติ่มซำ หมูย่างเมืองตรัง ไปกินฮ็อทด็อกในเมืองศิวิไลซ์เสียแล้ว” ตงยังคงพูดจาประชดประชันต่อไป
“ไม่หรอก ผมยังไม่ลืม แต่ชีวิตคนเราต้องอยู่กับความเป็นจริง เพราะถ้ารู้ว่าความฝัน มันก็เป็นความฝันที่ไม่มีทางจะเป็นจริงไปได้ แล้วจะไปยึดติดอยู่กับมันเพื่ออะไร ชีวิตคนเราต้องเดินไปข้างหน้า เอาเถอะ ผมยังไม่พร้อมเปิดเผยเรื่องของผม รีบๆ กินเถอะ เดี๋ยวได้ขึ้นไปคุยธุระกัน” แบงค์ตัดบทสนทนากับตงแล้วรับประทานอาหารต่อไป
บนชั้น 28 อาคารไกรลาศดูเงียบเหงา ผู้บริหารหลายท่านไม่ได้เข้ามาทำงานกัน แบงค์เดินนำตงจนมาถึงมาถึงหน้าห้องทำงานของเขา
“กรลาพักผ่อน คงเหลือแต่กานต์วดีทำงานอยู่ คุณกานต์วดีเตรียมชากุหลาบกับของว่างหน่อยนะ เอกสารที่ผมให้เตรียมเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” แบงค์สอบถามกับกานต์วดี
“ค่ะ เรียบร้อยแล้วค่ะท่าน ดิฉันขอเวลาเตรียมชากับของว่างก่อนนะคะ” กานต์วดีขอตัวไปเตรียมอาหารและเครื่องดื่มในบริเวณแพนทรี่ แบงค์และตงเข้ามาในห้องทำงาน แบงค์นั่งลงที่เก้าอี้ทำงาน ส่วนตงนั่งอยู่บนเก้าอี้อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะทำงาน
“ผมไม่อ้อมค้อมเลยนะ คุณมีปัญหาบางอย่างที่ก้าวผ่านไปไม่ได้และไม่อาจบอกใครใช่ไหม?” แบงค์นั่งที่โต๊ะทำงาน เอามือประสานซ้อนใต้คางแล้วถามตง
“ไม่มีครับ ไม่มี ผมสบายดี ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร” ตงแสร้งปฏิเสธด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่จะพูดถึงปัญหาครอบครัวที่เขาทนอยู่กับมันมานาน
“ผมอาจจะตั้งคำถามผิด เพราะปัญหาที่คุณพบเจออยู่ได้กลายเป็นความเคยชินไปเสียแล้ว คุณกับภรรยาของคุณยังมีสัมพันธภาพที่ดีอยู่หรือ?” แบงค์ไม่ละความพยายาม ถามอยู่นั่นแหละ
“เอ่อ... ตงอึกอักกับคำถามตรงๆ ของแบงค์ คงต้องตอบไปตามความเป็นจริงเพราะว่าแบงค์คงจะมีข้อมูลบางอย่างอยู่แล้ว “ครับ การแต่งงานกับคนที่ผมไม่ได้รักคือหายนะที่สุดในชีวิตของผม ผมไม่อยากจะนึกถึงเรื่องนี้ให้มันรำคาญใจ ทุกวันนี้ผมกับเธอแยกกันอยู่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อันใดอีกเลย”
“น่าเห็นใจนะ แล้วทำไมคุณไม่หย่าล่ะ ทุกอย่างจะได้จบลง คุณจะได้เป็นอิสระ” แบงค์แนะนำ
“ผมหย่าไม่ได้ ผู้หญิงเห็นแก่เงินคนนั้นเรียกเงินจากผม 50 ล้านบาทเพื่อแลกกับอิสระ” ตงเรียกคะแนนความน่าสงสารจากแบงค์ “ผมอยากเร่งวันเร่งคืน เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อไถ่ตัวเองออกจากพันธนาการ”
“ถ้าผมช่วยปลดเปลื้องพันธนาการของคุณได้ คุณจะให้อะไรผมเป็นการตอบแทนล่ะ โลกใบนี้ไม่มีอะไรฟรีหรอกนะคุณตง คนอย่างผม ถ้ายื่นมือเข้าไปช่วยใคร ย่อมหวังผลตอบแทน ถึงเวลานั้นคุณเต็มใจที่จะจ่ายคืนผมไหมล่ะ” แบงค์ลุกมาแนบอิงแอบกับตงแล้วกระซิบบอก “ยังใช้น้ำหอมกลิ่นเดิมอยู่อีกหรือ ผมยังจำได้นะ”
“ครับ ผมยังใช้น้ำหอมกลิ่นเดิม ถ้าท่านต้องการอะไรจากผม หากไม่เกินกำลังของผมแล้ว ผมยินดีที่จะตอบแทนท่าน” ตงตอบรับข้อเสนอของแบงค์
“เป็นของผมได้ไหมล่ะ” แบงค์หยอกตงแล้วหัวเราะ
ตงทำหน้าเอ๋อแดก ไม่คิดว่าแบงค์จะยื่นข้อเสนอแบบนี้มา
“ผมทำอย่างนั้นกับคุณไม่ได้หรอก คุณสูงส่งเกินไป ถ้าผมให้คุณทำแบบนั้น มันก็เป็นการดูถูกความสามารถของคุณเกินไป รับนี่ไปซะ อ่านทำความเข้าใจกับมัน” แบงค์ส่งแฟ้มเอกสารให้ตง
“แผนธุรกิจสายการบินวิงส์สมายล์แอร์” ตงอ่านชื่อเอกสารหลังจากรับมาจากแบงค์
“ผมอยากให้คุณรับหน้าที่ผู้อำนวยการสายการบินนี้นะ”
“ทำไมต้องเป็นผม” ตงไม่มั่นใจกับงานที่แบงค์กำลังมอบหมายให้เลย
“ผมเลือกคุณ เพราะผมกับคุณเรียนรู้บิสซิเนสเมนเนจเมนต์มาจากที่เดียวกันนะ ถ้าแอตทิจูดในการทำงานตรงกัน การทำอะไรก็เป็นไปได้สวย ผมเชื่อใจคุณนะตง” แบงค์อธิบายเหตุผล “มีอยู่อย่างหนึ่งที่ผมไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ตอนผมเรียนปีสี่ เรียนวิชาบิสซิเนสแพลน ผมทำแพลนสายการบิน เพราะผมได้ยินข่าวว่าคุณไปเรียนนักบิน ผมอยากจะเปิดสายการบินเพื่อรอคุณ แต่ผมไม่เคยเหตุผลนี้ให้ใครรู้ เพื่อนๆ เขียนแผนเปิดร้านล้างรถบ้างล่ะ ร้านกาแฟ แต่ผมเล่นใหญ่กว่าคนอื่น ทำแผนธุรกิจสายการบิน แม้ว่าจะถูกใครๆ เย้ยหยันว่า มันจะเป็นไปได้หรือ คิดอะไรใหญ่เกินโต ผมตั้งใจศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด นำเสนอแผนธุรกิจ อาจารย์ดั้งคำถามอะไรมาผมซัดตอบได้ จนอาจารย์รุ้งเอ่ยปากชม ลงเอยที่ผมได้เอในวิชานั้นไป”
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
“ได้เวลาอาหารว่างแล้วค่ะท่าน” กานต์วดีเคาะประตูแล้วเดินเข้ามาในห้องทำงาน มีแม่บ้านติดตามมาด้วยอีกคนช่วยถือถาดใส่กาน้ำชาและของว่าง “ชากุหลาบกับช่อม่วงค่ะ”
“ค่ำคืนนี้ว่างไหม” แบงค์เอ่ยถามตง ในระหว่างดื่มชาและรับประทานช่อม่วง
“ว่างครับ”
“ไปกินเหล้ากับผมไหม” แบงค์ชักชวน “วิคตอรี่คลับ ไม่วุ่นวาย ไม่มีคนนอกมายุ่มย่าม มีเพียงสมาชิกหรือคนที่สมาชิกนำพาเข้าไปได้เท่านั้น”
“ครับ” ตงรับคำเชิญชวน
“บุ๊คไว้ไหมครับท่าน” พนักงานต้อนรับชายสอบถามกับตงในขณะที่ตงเข้ามาในคลับแล้วยืนฟังนักร้องสาวขับกล่อมเพลงแสนไพเราะบนเวที “เปิดเมมเบอร์ไว้หรือเปล่าครับหรือว่ามากับเมมเบอร์ท่านไหน”
“ผมนัดกับคุณพงษ์ชิษณุไว้” ตงตอบกับพนักงานต้อนรับ
“เชิญชั้นสองเลยครับ” พนักงานต้อนรับเดินนำสู่ชั้นสองของคลับ ชั้นสองนี้เป็นห้องรับรองส่วนตัวสมาชิกได้จองไว้เพื่อสังสรรค์กัน พนักงานต้อนรับนำตงมาถึงห้องในสุดแล้วเปิดประตูห้อง แบงค์กำลังจิบแชมเปญนั่งเอกเขนกบนโซฟาอย่างสบายอารมณ์
“ยินดีต้อนรับสู่วิคตอรี่คลับอย่างเป็นทางการครับ” แบงค์ลุกขึ้นต้อนรับตงทันทีเมื่อเขาก้าวล่วงเข้ามาสู่ห้องรับรอง
“ที่นี่หรูดีแฮะ แต่รู้สึกน่ากลัวพิกลๆ” ตงบอกไปตามความรู้สึกระหว่างกวาดสายตาสำรวจห้องรับรองที่ตกแต่งด้วยศิลปะวัตถุโบราณมากมายที่แบงค์ได้มาจากการประมูลตามงานการกุศลต่างๆ
“ก่อนจะมาเป็นวิคตอรี่คลับ บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าของขุนนาง พวกนิตยนาถสุนทรไปโกงเขามาแล้วเข้ามาอยู่อาศัย ห้องๆ นี้ เมื่อก่อนเป็นห้องนอนใหญ่ของบ้านหลังนี้ อีแก่สุดาก็ตายคาห้องนี้ จะกลัวไปทำไม ผีอย่างอีแก่สุดาจะทีเรี่ยวแรงทำอะไรใครได้ ผมมาอยู่ที่นี่ อยู่ในห้องนี้ไม่เคยพบเจออะไรให้น่าหวาดหวั่น ว่าคุณจะรับอะไรดื่มที่นี่เรามีวิสกี้ ไวน์ ตาร์กีล่า ค็อกเทล เบียร์อิมพอร์ต แชมเปญ วอดก้า แต่เบียร์ถูกๆ 3 ขวด 100 ไม่มีหรอกนะ”
“ผมขอเบียร์ก็แล้วกัน” ตงตอบ เมื่อพนักงานชายได้ยินตงสั่งเครื่องดื่มก็รีบออกจากห้องเพื่อไปเตรียมเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ “คุณเปลี่ยนไปมากนะแบงค์”
“ผมเป็นคนแบบไหนก็ได้ที่ผมอยากเป็น” แบงค์หยิบขวดแชมเปญจากถังแล้วรินลงแก้วแชมเปญจิบดื่ม
“แบงค์คนที่ผมรู้จัก เขาไม่เคยร้ายกับใคร เขาไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นแบบนี้ คุณเปลี่ยนไปซะจนผมรู้สึกกลัว” ตงดื่มวิสกี้ออนเดอะร็อค
“คุณจะรู้อะไร แบงค์คนนั้นได้ตายไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว ผมมาถึงจุดนี้ได้ไงกันหนอ มันคือความทรงจำที่ผมอยากจะลืมไปมากที่สุด ผมเคยคิดนะถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นั้น ผมคงจะเป็นแค่คนธรรมดา เป็นนักเขียนโนเนมมีรายได้จากค่าต้นฉบับกับค่าเช่าบ้านที่พ่อทิ้งไว้ให้เป็นมรดก หลังจากคุณเรียนจบไปจากมหาวิทยาลัย ผมยังคงไม่มีใคร ผมขึ้นปี 4 แล้ว เจฟกับตุ่มลดความสัมพันธ์จากคนรักกันเป็นแค่เพื่อน ดูเหมือนว่าผมจะมีความหวังบ้าง แต่ผมก็ได้แต่ประวิงเวลา จนช่วงสุดท้ายก่อนเรียนจบแยกย้ายกันไป ผมรวบรวมความกล้าเพื่อไม่ให้เสียความรักไป เหมือนอย่างที่ผมเคยสูญเสียคุณ ผมกับเจฟได้ปรับความเข้าใจกัน เราทั้งสองต่างคนต่างรักมาเนิ่นนาน เราทั้งสองเป็นคนรักกัน ช่วงเวลานั้นอาจจะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดแต่ผมก็มีความสุข แต่ความสุขที่มีก็ไม่ยั่งยืน เจฟถูกรถสิบล้อชนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนสูญเสียความทรงจำ แม่ของเจฟซึ่งทราบว่าผมกับเจฟรักกันได้ใช้สารพัดสารพันวิธีขัดความรักของผม ได้ใช้โอกาสทองนี้ตัดความสัมพันธ์ของผมกับเจฟให้ขาดสะบั้นลง ผมตกอยู่ในสภาวะจำยอมต้องสูญเสียเจฟไป ไม่ใช่เพราะผมไม่รักเขาแต่เพราะเจฟคนที่ฟื้นคืนมาไม่ใช่เจฟที่ผมรักและคุ้นเคย เจฟคนนั้นไม่ได้มีผมอยู่ในความทรงจำ สุดท้ายผมก็สละเจฟไป สิ่งที่ผมได้คือคำชื่นชมว่าผมเป็นคนดี แต่การเป็นคนดีที่ไม่เหลืออะไรจะมีค่าอะไร ผมระเห็จไปรักษาแผลใจและเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อเมริกา ในดินแดนอิสรเสรีผมเรียนรู้และปรับแอตทิจูดใหม่ การเป็นคนดีแล้วไม่เหลืออะไรสู้เป็นคนชั่วแล้วครอบครองทุกอย่างไม่ได้หรอก ผมทำงานดูแลร้านอาหารให้ป้ายุพิน คงเป็นบุพเพสันนิวาสหรือเวรกรรมจองจอร์จได้ชักนำพาเขามาเจอกับผม เขามอบความรักให้แก่ผม ต้องใช้ความอดทนมากมายเพื่อให้เชื่อใจ ผมรับรักเขาโดยไม่ได้รู้สึกนึกรักตอบ มาถึงจุดนี้ผมยอมรับว่าผมรักกลิ่นเงินของเขามากว่าสิ่งใดๆ มากกว่าความรักความจริงใจที่เขามอบให้ ผมไม่ต่างโสเภณีที่หิวกระหายเงิน ในอเมริกาการแต่งงานของคนเพศเดียวกันคือสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่ต่างจากชายหญิงทั่วไป นอกจากกรีนการ์ดและสิทธิเทียบเท่าพลเมืองอเมริกันแล้ว ยังมีทรัพย์สินเงินทองรออยู่ จอร์จเป็นถึงเจ้าของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ในอเมริกา วิงส์แอร์เวย์ได้คลอดดอกมาโดยมีจอร์จเป็นแบคอัพ ผมทุ่มเทดูแลวิงส์แอร์เวย์ให้เติบโตมาจนทุกวันนี้ แต่มันก็ทำให้เราสองคนสูญเสียเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน จนห่างเหินออกไปทุกที” แบงค์เล่าเรื่องราวชีวิตของเขาให้ตงฟังอย่างไม่ปิดบังแล้วจิบแชมเปญแก้กระหาย
“ทำไมไม่หย่าให้จบไป” ตงถาม
“หย่าไม่ได้ มันมีปัจจัยทางธุรกิจเข้าเกี่ยวเนื่อง ผมทำวิงส์แอร์เวย์ได้อย่างรอดปลอดภัยถึงวันนี้ได้เพราะผมคอนโทรลต้นทุนเชื้อเพลิงได้ มิหนำซ้ำยังขายเชื้อเพลิงให้กับสายการบินต่างๆ อีกด้วย ถ้าผมหย่ากับจอร์จ วิงส์แอร์เวย์ก็จะพังครืน และตอนนี้จอร์จเข้าป่วยเป็นมะเร็งอัณฑะ การจะทิ้งเขาในยามยากเช่นนี้จะดูเป็นการโหดร้ายมาก แม้ผมอาจจะไม่ได้ดูแลเขาอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังต้องเป็นกำลังใจประคับประครองชีวิตของจอร์จอยู่ยาวนาน ถึงไม่รักแต่ผมก็สงสารเขานะ เอาล่ะผมเล่าเรื่องของผมให้คุณฟังมามากพอแล้ว คุณเล่าเรื่องชีวิตคู่ของคุณให้ผมได้รับรู้ได้ไหมตง”
“เอ่อ... เริ่มต้นยังไงดีล่ะ ตอนนั้นผมทำงานเป็นนักบินแล้ว ป๊าของผมเรียกตัวกลับตรัง แล้วเจรจาขอร้องแกมบังคับให้ผมแต่งงานกับนุชจรี ผมไม่ได้รู้สึกเต็มใจเลย ป๊าอ้างเอาสภาพทางการเงินอันร่อแร่ของครอบครัวมาเป็นไม้เด็ดผูกมัดผม เบื้องลึกแล้วป๊าอยากจะเป็นทองแผ่นเดียวกันกับพ่อของนุชจรี ผมรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น นุชจรีไม่มีอะไรดีเลยมากพอที่ผมจะใช้ชีวิตคู่ของเธอได้อย่างราบรื่น นุชจรีไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยผุดผาด แต่นั่นพอทำให้ผมทำเนาได้ ถ้าหากนุชไม่มีนิสัยเสีย มีนิสัยที่ดื้อรั้นเอาแต่ใจแต่ตน ซ้ำร้ายเธอยังเจ้าอารมณ์โมโหร้ายเมื่อมีใครขัดใจ ทำให้เราสองคนไม่มีทางเข้ากันได้เลย เราสองคนอยู่ด้วยกันอย่างขมขื่น แม้นุชจรีจะพยายามยัดเยียดเอาอกเอาใจผมแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีถ้าเรามีความคิดเห็นไม่ตรงกันนุชจรีจะเอาชนะผม สุดท้ายผมเลือกจะเดินหนีออกมา หากมีปัญหาอะไรนุชจรีจะใช้อารมณ์และเงินแก้ปัญหา โชคดีที่หน้าที่การงานทำให้ผมแยกกันอยู่กับนุชจรีได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมรักษาระยะความห่างเหินเอาไว้ ผมพยายามสร้างเรื่องมากมายให้เธอระอาและหย่าร้างกับผม ทั้งการแอบคบกับคนอื่นๆ ทำตัวเจ้าชู้ ผมมีความลับอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ผมแอบไปทำหมันเพื่อป้องกันการมีลูกกับนุชจรี เพราะหากผมมีลูกนุชจรีจะใช้ลูกผูกมัดผมเอาไว้ แม้ว่าการมีลูกสืบสกุลเป็นเรื่องสำคัญของคนจีน แต่ผมยอมทำหมันเพราะผมเกลียดนุชจรีเข้ากระดูกดำ พ่อผมเข้าใจว่าผมเป็นหมันโดยธรรมชาติ ผมหวังว่าสักวันหนึ่งนุชจรีจะเบื่อหน่ายชีวิตคู่ที่ไม่มีความสุขจนหย่าร้างกับผมในที่สุด แต่มันก็ไม่เป็นผล นุชจรียังเลือกยึดมั่นถือมั่นกับทะเบียนสมรส ไม่รู้ว่าเธอเหนี่ยวรั้งผมไว้หรือเห็นแก่เงินจึงยื่นคำขาดหาเงิน 50 ล้านบาทแลกกับอิสระของผม” ตงเล่าเรื่องของเขาอย่างจริงจัง สายตาที่เหม่อลอยของเขาสะท้อนความทุกข์ในใจของชายผู้หนึ่งออกมา.
“กอดหน่อยนะ” แบงค์สวมกอดตงเอาไว้เพื่อปลอบประโลมตง
“อยู่กับผมได้ไหมแบงค์” ตงร้องขอ
“ได้สิ ผมยังคงรักคุณอยู่นะตง ผมยังเก็บความรักของคุณไว้ลึกสุดใจ รู้ไหมผมยังคงต้องการคุณอยู่เสมอ”
ตงช้อนค้างของแบงค์ขึ้นแล้วจุมพิตหน้าผากไล่ลงมาที่จมูกจนถึงปาก ทั้งสองจูบกกันอย่างดูดดื่ม มันคือฝันหรือความจริงไม่อาจล่วงรู้ได้
หากเป็นเมื่อตื่นขึ้นมาแบงค์จะตื่นขึ้นมาบนเตียงเพียงลำพัง แต่นี่คือความจริงเขาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของตง แบงค์นึกทบทวนว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แบงค์พาตงมาร่วมอภิรมย์กันที่คอนโดของเขา แม้ว่านี่เป็นครั้งแรกของตงกับผู้ชายด้วยกันแต่ผ่านไปด้วยดี แบงค์แกล้งปลุกตงให้ตื่นด้วยการเขี่ยจมูกของตงเล่น
“แกล้งผมหรือแบงค์” ตงกระชากตัวแบงค์มากอดรัดแน่นแล้วระดมจูบไปทั่วทั้งหน้าและร่างกาย
“ตื่นได้แล้วครับ ผมต้องไปตึกไกรลาศเซ็นเอกสารอีก คุณต้องกลับไปได้แล้ว”
“ใจร้ายจัง พอเสร็จสมอารมณ์หมายแล้วก็ผลักไสไล่สงผมทันที” ตงแสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อน
“อย่าน้อยใจไปเลยครับ แม้ผมจะมีอะไรกับใครมากมาย แต่ผมจะหยุด หยุดที่คุณ เพราะคุณเป็นคนเดียวที่ผมรัก และอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับคุณมากที่สุด ผมจะไม่ถามว่าคุณจะรักผมไหม แค่วันนี้ผมมีคุณอยู่ ผมก็พอใจแล้ว” แบงค์นอนซบอกตงหลังจากพูดปลอบประโลมตง
“ผมก็รักคุณนะแบงค์” ตงบอก “เราสองคนอยู่กันไปแบบนี้ก็ได้ เพียงแต่คุณอย่าทิ้งผมไป ผมไม่อยากจะเป็นแค่คู่นอนให้คุณปลดปล่อยอารมณ์แทนจอร์จ”
“ผมไม่เคยคิดเช่นนั้นเลย คุณคือรักแรกที่มีอยู่ของผม อดทนนะ ปัญหาต่างๆ ของเราสองคนจะคลี่คลายไป เมื่อถึงเวลานั้น เราสองคนจะได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน” แบงค์และตงกอดกระชับแนบแน่น แรงราคะผลักดันให้สองคนร่วมอภิรมย์กันภายใต้ผ้าห่มผืนหนาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าความรักหรือราคะผลักดันให้ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน นิยายเรื่องยาวของแบงค์ได้ปิดฉากจบเสียที ความรักระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องที่ไม่อาจลงเอยได้ มาจบลงบนเตียงแห่งนี้
จบบท
มากกว่าการเดินทาง สัมผัสความสะดวกสบายกับเครื่องพาณิชย์ลำใหญ่ที่สุดในโลก แอร์บัส เอ 380 Wings Ariways We care everyone. สายการบินวิงส์แอร์เวย์ บินไปด้วยรัก… เจฟดูโฆษณาของสายการบินวิงส์แอร์เวย์แล้วรู้สึกระทมเสียใจ โชคชะตาเล่นตลกกับเขาและแบงค์เหลือเกิน หลังจากที่ความทรงจำของเขากลับมา เขาต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างทรมานใจ ความสัมพันธ์ระหว่างเจฟกับเตยหอมแย่ลงไปเจฟเห็นภรรยาเหมือนเป็นคนอื่น เป็นคนแปลกหน้า มีเพียงความรักและรับผิดชอบให้แค่ของขวัญ ลูกสาวตัวน้อย นางจารุณี แม่ของเจฟ ผู้เจ้ากี้เจ้าการ ผู้อาศัยจังหวะทองที่ความทรงจำของลูกชายหายไปเนื่องจากอุบัติเหตุ ใส่ข้อมูลเรื่องของเตยหอมเข้ามาแทนที่แบงค์ พอความทรงจำที่หายไปกลับคืนมาเรื่อยๆ ก็ไม่มีแบงค์แล้ว เจฟเสียใจ ยังคงรักและถวิลหาแบงค์โดยตลอด ดึกดื่นคืนนั้น เจฟแยกต้วมานอนเพียงคนเดียว ให้เตยนอนหลับอยู่กับลูกอีกห้องนอนห้องหนึ่ง มานานมากแล้ว เขา นอนไม่หลับ เอามือก่ายหน้าผากคิดอะไรมากมาย จนคิดไม่ตก เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เขาบอกความต้องการหย่าร้างกับเต
เมื่อเครื่องบินลงสู่สนามบินเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส สิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อนได้เกิดขึ้น นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่จากบริษัทแอร์บัสแล้ว ยังมีจอร์จและโรนัลด์-เลขาคนสนิทยืนต้อนรับการมาถึงของแบงค์ ตงและวินเซนต์ “ทำหน้ายังกะเห็นผี เห็นคนตายแล้วฟื้นหรือไง” จอร์จทักทายแบงค์ที่ทำหน้าประหลาดใจ “ผมไม่คิดว่าคุณจะมาได้” แบงค์พูด “คุณดูสดใสเหมือนคนไม่ได้ป่วยเลยนะ” “ผมค่อยเล่าให้คุณฟังที่โรงแรมก็แล้วกัน” โรงแรมที่พักตั้งอยู่ใจกลางเมืองตูลูส เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่เก่าแก่ ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศติดกับประเทศสเปน ปัจจุบันเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนักที่สิ่งแวดล้อมอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นตัวอย่างของเมืองอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม&n
หลายเดือนต่อมา... นุชจรีนั่งจิบกาแฟลาเต้อย่างกระสับกระส่ายภายในร้านกาแฟ สายตาของหล่อนจับจ้องไปที่นาฬิกาเป็นระยะๆ สีหน้าหล่อนทวีความหงิกงอจนเมคอัพเครื่องสำอางไม่สามารถปกปิดไว้ได้ มีชายผู้หนึ่งผลักประตูเข้ามาในร้าน เขามองสอดส่ายสายตาไปทั่วร้านจนหยุดสายตามามองนุชจรีแล้วเดินมาหาหล่อน “ฉันรอเธอนานมากแล้วนะ” นุชจรีทักทายอย่างไม่สบอารมณ์ “ขอโทษทีครับ” ชายหนุ่มกล่าวขอโทษขอโพยแล้วสั่งกาแฟกับบริกรที่ยืนรอรับรายการเครื่องดื่ม “ขอสั่งเอสเพรสโซ่ร้อนครับ” “ไหนล่ะหลักฐานที่ให้หา” นุชจรีทวงงานที่ให้ชายหนุ่มสืบมาให้ “นี่ครับ ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในซองนี้” ชายหนุ่ม
เป็นเวลาพลบค่ำพอดีที่ตงลงจากรถตู้ข้ามสะพานลอยมายืนรอตรงปากทางซอยพิเศษ เขายืนรอได้ไม่นานเท่าไหร่ก็มีรถเก๋งคันกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งมาจอดเทียบข้างถนนระยะประชิดกับเขา “ขึ้นมาเถอะ” แบงค์คือคนขับรถเก๋ง เปิดกระจกเชื้อเชิญให้ตงขึ้นรถ ตงจะเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแต่เจ้าภีมเด็กน้อยนั่งอยู่ ตงไปเปิดประตู “ไม่ยักกะรู้ว่าคุณขับรถเป็นด้วย เห็นไปไหนมาไหนก็มีคนขับรถให้หรือไม่ก็ใช้ระบบขนส่งมวลชน” ตงทักหลังจากนั่งรถเรียบร้อยแล้ว “มีอีกหลายเรื่องของผมที่คุณยังไม่รู้” แบงค์พูดเปรยขับรถไปอย่างช้าเพื่อให้ตงได้ซึมซับกับบรรยากาศสองข้างทางซอยพิเศษที่เปลี่ยนแปลงไป “เด็กนี่เป็นหลานคุณเหรอ” ตงถาม “ไม่ใช่ ลูกผม” แบงค์ตอบ&nbs
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลาบ่ายแก่ๆ แบงค์เปลี่ยนใจไม่ไปพบวินที่ทีจีผับและนัดพบเจอตง ตามตารางงานวันนี้ตงทำงานเที่ยวบินจากเชียงใหม่เวลาดึก เที่ยวสุดท้ายของวัน แบงค์ถอดเสื้อสูท ผูกไทค์สีส้มติดบัตรเจ้าหน้าที่เช็คอินลงช่วยงานฝ่ายเช็คอินในบริเวณชั้นผู้โดยสารขาออกเพื่อเป็นการฆ่าเวลารอตง จนเวลาล่วงเลยมาถึง 5 ทุ่มเศษๆ ตงก็ขึ้นมารับแบงค์ ทั้งสองออกจากสนามบินด้วยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มาสู่สถานีปลายทางพญาไท “หิวมั้ยครับ” แบงค์ถามตงในระหว่างเดินลงจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมกับตง “หิวอ่ะ” ตงตอบ “ผมอยากกินผัดไทย” “ผัดไทยตอนเกือบเที่ยงคืนนี่ต้องผัดไทยประตูผีที่เดียวแล้วล่ะ เรียกแท็กซี่ไปร้านผัดไทยประตูผีก็แล้วกัน” แบงค์และตงเรียกแท็กซี่มาร้านผัดไทยประตูผีย่านสำราญราษฎร์ สั่งผัดไทย หมูสะเต๊ะ น้ำส้ม
“ใครมีปืนเถื่อน มาขายฉันได้ไหมคะ พูดจริงนะจ๊ะจะซื้อไปยิงอกคน” นุชจรีนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้เอน เธอเหนื่อยทั้งกายทั้งใจ สุดแค้นคนชั่วที่พรากสามีสุดที่รักไปให้ตนนอนกอดทะเบียนสมรสต่างกอดสามี นุชจรีสู้ทนทวงสามี ตากหน้าจนด้านชา ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตงกลับมาแต่มืดมนเสียเหลือเกิน เธอไม่อาจข่มตาหลับ จิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ เธอตอบโต้คนที่ขัดใจเธอได้อย่างแสบสรร การมีศัตรูเป็นแบงค์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่กำจัดออกไป การทำลายชื่อเสียง การไปพูดจาดีๆ ขอสามีคืน การลักพาตัวคนในครอบครัวของแบงค์ ผลลัพธ์ที่ได้คือการยื้อสถานภาพความเป็นสามีภรรยาของตงกับเธอไว้ไประยะหนึ่ง พอเกิดเรื่องไฟไหม้ที่บ้านพ่อแม่ รู้ดีว่าแบงค์อยู่เบื้องหลังแต่เหมือนคนน้ำท่วมปากไม่กล้าบอกเหตุ หากพูดไปกลายเป็นขว้างงูไม่พ้นคอจะต้องบอกถึงเรื่องการลักพาตัวน้ำและภีม ผ่านมาเรื่อยๆ การอยู่เงียบๆ ดูสามีตนเองเล่นชู้กับชายอื่นอย่างมีความสุข เธอได้แค่เจ็บแค้นและรอเวลาเหมาะสมต้องสะสางแค้นในสักวันหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องการยิงปืนไม่ใช่เรื่องยากและเรื่องง่าย การที่นุชจรีตัดสินใจเรียนยิงป
สงครามสงบลงด้วยความบอบช้ำทั้งสองฝ่าย แม้ว่านุชจรีจะประกันตัวออกมาเพื่อรอสู้คดี ใช้ชีวิตเงียบๆ ในบ้านของตนเองที่ตรัง นุชจรียอมเซ็นใบหย่ามอบอิสรภาพให้แก่ตง ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลร้าวฉานยากจะเยียวยาและเป็นบทเรียนให้คนอื่นๆ เรียนรู้ว่าการคลุมถุงชนมันใช้ไม่ได้ในยุคนี้แล้ว ไม่ได้รักกันแล้วมาอยู่ด้วยกันมันทรมานจนแตกหักกันไป ส่วนแบงค์ต้องจัดการพิธีศพของจอร์จอย่างเรียบร้อย แม้ว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าแต่แขกที่มางานก็มาร่วมงานและแอบซุบซิบนินทาเจ้าภาพอย่างสนุกปากเพราะนอกจากแบงค์ นุ น้ำและลูกหลานที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกแก่แขกมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ ยังมีตงร่วมงานอยู่ในฐานะกึ่งแขกกึ่งเจ้าภาพ “น่าสงสารมิสเตอร์จอร์จนะคะ” มลดาเปรยในระหว่างนั่งพนมมือฟังพระสวดสาธยายพระอภิธรรม “มันก็น่าอยู่นะ มิสเตอร์จอร์จนี่เป็นคนน่าสงสาร คิดดูนะพ่อแม่มาตายตอนเกิด 911 ที่นิวยอร์ค ใช้ชีวิตเงียบเหงาอยู่กับงานธุรกิจที่ต้องสืบต่อ จนมาเจอกับแบงค์เกิดความรักกัน ท
4 ปีต่อมา... ดูเหมือนว่า ผลประกอบการของวิงส์แอร์เวย์ ภายใต้การบริหารของอนุพงษ์ไม่สดใสนัก ขาดทุนสะสมต่อเนื่อง เพราะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป การบริการต่างๆ ก็ด้อยลงไปจากเดิม แม้กระทั่งนักรีวิวการเดินทาง ต่างก็วิจารณ์ไปใสทางที่ไม่ดี “นี่นะหรือบินไปด้วยรัก บินชั้นอีโคโนมี่ไปฮ่องกงเหมือนนรกแตก เริ่มจากเที่ยวบินดีเลย์ เปลี่ยนเวลาออกเดินทางอยู่หลายครั้ง ในช่วงที่นั่งรอเครื่องออก น่าเบื่อมาก จะดูหนังฟังเพลงจากระบบ IFE ฆ่าเวลา ลูกเรือก็ไม่แจกหูฟังอีก จนกระทั่ง เครื่องบินถอยออกจากงวงช้าง เปิดวิดีโอสาธิตความปลอดภัย ลูกเรือเพิ่งมาแจกหูฟัง สภาพหูฟังก็กิ๊กก๊อก เหมือนที่ขายในตลาดนัด คงจะใช้ทีเดียวทิ้ง ไม่น่าจะนำกลับมาใช้ใหม่ได้ อาหารบนเครื่องแล้วแต่ลิ้นผู้โดยสาร สำหรับผม ไม่ถูกปากครับ ไม่ต้องให้ดีเลิศแค่อยากให้เหมือนเมื่อก่อน ที่ทำให้เชื่อว่าบินไปด้วยรักจริงๆ” คุณเนสซี่เจ้าของช่องเนสซี่ไฟลท์ในบ้านแดง เขาเป็นอินฟลูเอน
4 ปีต่อมา... ดูเหมือนว่า ผลประกอบการของวิงส์แอร์เวย์ ภายใต้การบริหารของอนุพงษ์ไม่สดใสนัก ขาดทุนสะสมต่อเนื่อง เพราะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป การบริการต่างๆ ก็ด้อยลงไปจากเดิม แม้กระทั่งนักรีวิวการเดินทาง ต่างก็วิจารณ์ไปใสทางที่ไม่ดี “นี่นะหรือบินไปด้วยรัก บินชั้นอีโคโนมี่ไปฮ่องกงเหมือนนรกแตก เริ่มจากเที่ยวบินดีเลย์ เปลี่ยนเวลาออกเดินทางอยู่หลายครั้ง ในช่วงที่นั่งรอเครื่องออก น่าเบื่อมาก จะดูหนังฟังเพลงจากระบบ IFE ฆ่าเวลา ลูกเรือก็ไม่แจกหูฟังอีก จนกระทั่ง เครื่องบินถอยออกจากงวงช้าง เปิดวิดีโอสาธิตความปลอดภัย ลูกเรือเพิ่งมาแจกหูฟัง สภาพหูฟังก็กิ๊กก๊อก เหมือนที่ขายในตลาดนัด คงจะใช้ทีเดียวทิ้ง ไม่น่าจะนำกลับมาใช้ใหม่ได้ อาหารบนเครื่องแล้วแต่ลิ้นผู้โดยสาร สำหรับผม ไม่ถูกปากครับ ไม่ต้องให้ดีเลิศแค่อยากให้เหมือนเมื่อก่อน ที่ทำให้เชื่อว่าบินไปด้วยรักจริงๆ” คุณเนสซี่เจ้าของช่องเนสซี่ไฟลท์ในบ้านแดง เขาเป็นอินฟลูเอน
สงครามสงบลงด้วยความบอบช้ำทั้งสองฝ่าย แม้ว่านุชจรีจะประกันตัวออกมาเพื่อรอสู้คดี ใช้ชีวิตเงียบๆ ในบ้านของตนเองที่ตรัง นุชจรียอมเซ็นใบหย่ามอบอิสรภาพให้แก่ตง ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลร้าวฉานยากจะเยียวยาและเป็นบทเรียนให้คนอื่นๆ เรียนรู้ว่าการคลุมถุงชนมันใช้ไม่ได้ในยุคนี้แล้ว ไม่ได้รักกันแล้วมาอยู่ด้วยกันมันทรมานจนแตกหักกันไป ส่วนแบงค์ต้องจัดการพิธีศพของจอร์จอย่างเรียบร้อย แม้ว่าบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าแต่แขกที่มางานก็มาร่วมงานและแอบซุบซิบนินทาเจ้าภาพอย่างสนุกปากเพราะนอกจากแบงค์ นุ น้ำและลูกหลานที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกแก่แขกมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพ ยังมีตงร่วมงานอยู่ในฐานะกึ่งแขกกึ่งเจ้าภาพ “น่าสงสารมิสเตอร์จอร์จนะคะ” มลดาเปรยในระหว่างนั่งพนมมือฟังพระสวดสาธยายพระอภิธรรม “มันก็น่าอยู่นะ มิสเตอร์จอร์จนี่เป็นคนน่าสงสาร คิดดูนะพ่อแม่มาตายตอนเกิด 911 ที่นิวยอร์ค ใช้ชีวิตเงียบเหงาอยู่กับงานธุรกิจที่ต้องสืบต่อ จนมาเจอกับแบงค์เกิดความรักกัน ท
“ใครมีปืนเถื่อน มาขายฉันได้ไหมคะ พูดจริงนะจ๊ะจะซื้อไปยิงอกคน” นุชจรีนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้เอน เธอเหนื่อยทั้งกายทั้งใจ สุดแค้นคนชั่วที่พรากสามีสุดที่รักไปให้ตนนอนกอดทะเบียนสมรสต่างกอดสามี นุชจรีสู้ทนทวงสามี ตากหน้าจนด้านชา ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตงกลับมาแต่มืดมนเสียเหลือเกิน เธอไม่อาจข่มตาหลับ จิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ เธอตอบโต้คนที่ขัดใจเธอได้อย่างแสบสรร การมีศัตรูเป็นแบงค์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่กำจัดออกไป การทำลายชื่อเสียง การไปพูดจาดีๆ ขอสามีคืน การลักพาตัวคนในครอบครัวของแบงค์ ผลลัพธ์ที่ได้คือการยื้อสถานภาพความเป็นสามีภรรยาของตงกับเธอไว้ไประยะหนึ่ง พอเกิดเรื่องไฟไหม้ที่บ้านพ่อแม่ รู้ดีว่าแบงค์อยู่เบื้องหลังแต่เหมือนคนน้ำท่วมปากไม่กล้าบอกเหตุ หากพูดไปกลายเป็นขว้างงูไม่พ้นคอจะต้องบอกถึงเรื่องการลักพาตัวน้ำและภีม ผ่านมาเรื่อยๆ การอยู่เงียบๆ ดูสามีตนเองเล่นชู้กับชายอื่นอย่างมีความสุข เธอได้แค่เจ็บแค้นและรอเวลาเหมาะสมต้องสะสางแค้นในสักวันหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องการยิงปืนไม่ใช่เรื่องยากและเรื่องง่าย การที่นุชจรีตัดสินใจเรียนยิงป
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลาบ่ายแก่ๆ แบงค์เปลี่ยนใจไม่ไปพบวินที่ทีจีผับและนัดพบเจอตง ตามตารางงานวันนี้ตงทำงานเที่ยวบินจากเชียงใหม่เวลาดึก เที่ยวสุดท้ายของวัน แบงค์ถอดเสื้อสูท ผูกไทค์สีส้มติดบัตรเจ้าหน้าที่เช็คอินลงช่วยงานฝ่ายเช็คอินในบริเวณชั้นผู้โดยสารขาออกเพื่อเป็นการฆ่าเวลารอตง จนเวลาล่วงเลยมาถึง 5 ทุ่มเศษๆ ตงก็ขึ้นมารับแบงค์ ทั้งสองออกจากสนามบินด้วยรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มาสู่สถานีปลายทางพญาไท “หิวมั้ยครับ” แบงค์ถามตงในระหว่างเดินลงจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมกับตง “หิวอ่ะ” ตงตอบ “ผมอยากกินผัดไทย” “ผัดไทยตอนเกือบเที่ยงคืนนี่ต้องผัดไทยประตูผีที่เดียวแล้วล่ะ เรียกแท็กซี่ไปร้านผัดไทยประตูผีก็แล้วกัน” แบงค์และตงเรียกแท็กซี่มาร้านผัดไทยประตูผีย่านสำราญราษฎร์ สั่งผัดไทย หมูสะเต๊ะ น้ำส้ม
เป็นเวลาพลบค่ำพอดีที่ตงลงจากรถตู้ข้ามสะพานลอยมายืนรอตรงปากทางซอยพิเศษ เขายืนรอได้ไม่นานเท่าไหร่ก็มีรถเก๋งคันกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งมาจอดเทียบข้างถนนระยะประชิดกับเขา “ขึ้นมาเถอะ” แบงค์คือคนขับรถเก๋ง เปิดกระจกเชื้อเชิญให้ตงขึ้นรถ ตงจะเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแต่เจ้าภีมเด็กน้อยนั่งอยู่ ตงไปเปิดประตู “ไม่ยักกะรู้ว่าคุณขับรถเป็นด้วย เห็นไปไหนมาไหนก็มีคนขับรถให้หรือไม่ก็ใช้ระบบขนส่งมวลชน” ตงทักหลังจากนั่งรถเรียบร้อยแล้ว “มีอีกหลายเรื่องของผมที่คุณยังไม่รู้” แบงค์พูดเปรยขับรถไปอย่างช้าเพื่อให้ตงได้ซึมซับกับบรรยากาศสองข้างทางซอยพิเศษที่เปลี่ยนแปลงไป “เด็กนี่เป็นหลานคุณเหรอ” ตงถาม “ไม่ใช่ ลูกผม” แบงค์ตอบ&nbs
หลายเดือนต่อมา... นุชจรีนั่งจิบกาแฟลาเต้อย่างกระสับกระส่ายภายในร้านกาแฟ สายตาของหล่อนจับจ้องไปที่นาฬิกาเป็นระยะๆ สีหน้าหล่อนทวีความหงิกงอจนเมคอัพเครื่องสำอางไม่สามารถปกปิดไว้ได้ มีชายผู้หนึ่งผลักประตูเข้ามาในร้าน เขามองสอดส่ายสายตาไปทั่วร้านจนหยุดสายตามามองนุชจรีแล้วเดินมาหาหล่อน “ฉันรอเธอนานมากแล้วนะ” นุชจรีทักทายอย่างไม่สบอารมณ์ “ขอโทษทีครับ” ชายหนุ่มกล่าวขอโทษขอโพยแล้วสั่งกาแฟกับบริกรที่ยืนรอรับรายการเครื่องดื่ม “ขอสั่งเอสเพรสโซ่ร้อนครับ” “ไหนล่ะหลักฐานที่ให้หา” นุชจรีทวงงานที่ให้ชายหนุ่มสืบมาให้ “นี่ครับ ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในซองนี้” ชายหนุ่ม
เมื่อเครื่องบินลงสู่สนามบินเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส สิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อนได้เกิดขึ้น นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่จากบริษัทแอร์บัสแล้ว ยังมีจอร์จและโรนัลด์-เลขาคนสนิทยืนต้อนรับการมาถึงของแบงค์ ตงและวินเซนต์ “ทำหน้ายังกะเห็นผี เห็นคนตายแล้วฟื้นหรือไง” จอร์จทักทายแบงค์ที่ทำหน้าประหลาดใจ “ผมไม่คิดว่าคุณจะมาได้” แบงค์พูด “คุณดูสดใสเหมือนคนไม่ได้ป่วยเลยนะ” “ผมค่อยเล่าให้คุณฟังที่โรงแรมก็แล้วกัน” โรงแรมที่พักตั้งอยู่ใจกลางเมืองตูลูส เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่เก่าแก่ ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศติดกับประเทศสเปน ปัจจุบันเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนักที่สิ่งแวดล้อมอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นตัวอย่างของเมืองอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม&n
มากกว่าการเดินทาง สัมผัสความสะดวกสบายกับเครื่องพาณิชย์ลำใหญ่ที่สุดในโลก แอร์บัส เอ 380 Wings Ariways We care everyone. สายการบินวิงส์แอร์เวย์ บินไปด้วยรัก… เจฟดูโฆษณาของสายการบินวิงส์แอร์เวย์แล้วรู้สึกระทมเสียใจ โชคชะตาเล่นตลกกับเขาและแบงค์เหลือเกิน หลังจากที่ความทรงจำของเขากลับมา เขาต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างทรมานใจ ความสัมพันธ์ระหว่างเจฟกับเตยหอมแย่ลงไปเจฟเห็นภรรยาเหมือนเป็นคนอื่น เป็นคนแปลกหน้า มีเพียงความรักและรับผิดชอบให้แค่ของขวัญ ลูกสาวตัวน้อย นางจารุณี แม่ของเจฟ ผู้เจ้ากี้เจ้าการ ผู้อาศัยจังหวะทองที่ความทรงจำของลูกชายหายไปเนื่องจากอุบัติเหตุ ใส่ข้อมูลเรื่องของเตยหอมเข้ามาแทนที่แบงค์ พอความทรงจำที่หายไปกลับคืนมาเรื่อยๆ ก็ไม่มีแบงค์แล้ว เจฟเสียใจ ยังคงรักและถวิลหาแบงค์โดยตลอด ดึกดื่นคืนนั้น เจฟแยกต้วมานอนเพียงคนเดียว ให้เตยนอนหลับอยู่กับลูกอีกห้องนอนห้องหนึ่ง มานานมากแล้ว เขา นอนไม่หลับ เอามือก่ายหน้าผากคิดอะไรมากมาย จนคิดไม่ตก เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เขาบอกความต้องการหย่าร้างกับเต
“ท่านผู้โดยสารครับ ขณะนี้เรากำลังลดระดับลงสู่ตึกเกือกม้า กรุณานั่งประจำที่ กอดนักบินให้แน่นด้วยความรักขอบคุณครับ” ตงรับหน้าที่เป็นกัปตันขับรถจักรยานยนต์สีแดงของแบงค์ เจ้าของรถกอดตงไว้เสียแน่น ทั้งคู่สวมชุดนักศึกษา เมื่อทุกพร้อม ตงปล่อยรถจักรยานยนต์ลงเนินเขาไปโดยไม่ออกแรงขับเคลื่อน ทั้งคู่ยิ้มแย้มร่าเริงมีความสุขตามประสาคนรักกัน จนมาถึงสามแยกสวนทุเรียน ตงสตาร์ทรถจักรยานยนต์แล้วขับมาถึงตึกเกือกม้า “ถึงโดยสวัสดิภาพ” ตงจอดรถไว้ที่จอดรถ “ขอบคุณครับ” แบงค์เอ่ย “กัปตันตงบริการทุกระดับประทับใจ” ตงพูดเสร็จคว้าตัวแบงค์มาโอบรัดไว้ แล้วค่อยๆ จูบอย่าอ่อนโยน ตี๊ด... มันก็แค่ความฝัน เราสองคนรักกันได้แค่ในค