“เราต้องรีบจับตัวผู้หญิงคนนี้ ไม่เช่นนั้นต้องยุ่งยากมากแน่!”เมื่อพูดเช่นนั้น ต้าหู่ก็รีบก้าวไปข้างหน้าพร้อมที่จะจับผู้หญิงคนนี้!เมื่อหวังหยวนเห็นดังนั้น เขาก็ห้ามต้าหู่ทันที“ไม่ต้อง ข้าถามนางก่อนว่าทำไมนางถึงไม่ให้เรามาที่นี่”สีหน้าหวังหยวนดูเคร่งขรึม เขายกปืนขึ้นและพูดอย่างจริงจังกับผู้หญิงตรงหน้าว่า “เจ้าเป็นใคร ทำไมเจ้าถึงห้ามพวกเราไม่ให้ไปที่แคว้นหมาน?”“ข้าไม่มีเหตุผลที่จะต้องบอกเจ้า”สายตาของผู้หญิงคนนั้นเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ท่าทีของนางก็เต็มไปด้วยความดูถูก“นั่นคือเหตุผล”หวังหยวนโบกปืนคาบศิลาในมือแล้วพูดเสียงเบา “ถ้าเจ้าไม่พูด กระสุนนัดถัดไปจะอยู่หัวเจ้า”หญิงสาวสะดุ้งตกใจขึ้นมา ถึงนางจะไม่รู้ว่ากระสุนคืออะไร แต่นางก็เข้าใจตั้งแต่วินาทีที่หวังหยวนฆ่าม้าของนาง หวังหยวนไม่ใช่คนที่นางจะยุ่งด้วยได้ตามใจชอบดังนั้นนางจึงตอบอย่างไม่พอใจนัก “ข้าชื่อหมานจิ้ง”“เจ้าแซ่หมาน”เมื่อหวังหยวนได้ยินแซ่นี้ก็ตกใจ เขาอดจะถามอย่างลังเลใจไม่ได้ว่า “ข้าได้ยินมาว่าแซ่ของกษัตริย์องค์ใหม่คือ หมาน งั้นเจ้าคือ …”“ใช่แล้ว!”ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่หวังหยวนอย่างเย่อหยิ่งและพูดอย่างเย็นช
หวังหยวนพูดอย่างใจเย็น “ตระกูลเซิ่งเป็นคนที่สนับสนุนพี่ชายของเจ้า และนั่งในตำแหน่งกษัตริย์แคว้นหมาน เจ้าคิดว่าพวกเขาจะใจดีขนาดนี้เลยหรือ?”“พี่ชายของเจ้าเป็นแค่หุ่นเชิดที่ได้รับความเมตตาจากตระกูลเซิ่ง หากตระกูลเซิ่งไม่พอใจ พวกเขาโบกมือทีเดียวสามารถเตะพี่ชายของเจ้าออกไปแล้ว”หมานจิ้งตกใจ หัวใจนางเต้นเร็ว!นี่เป็นความลับ!หวังหยวนรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?“ทำไมข้าต้องเชื่อสิ่งที่เจ้าพูดด้วย”หมานจิ้งโกรธและด่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “สิ่งที่เจ้าพูดนั้นผิดแล้ว เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลเซิ่ง!”เมื่อเห็นว่าหมานจิ้งปฏิเสธไม่ยอมรับ หวังหยวนจึงไม่รีบพูดอะไรอย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้ขวางพวกเขาเอาไว้ พวกเขาก็ไปไหนไม่ได้สักพัก ดังนั้นหวังหยวนจึงพาต้าหู่ไปตั้งกระโจมที่นั่น และเตรียมตัวพักผ่อนสักพักหวังหยวนหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาแล้วจุดไฟ นำไก่ย่างและเป็ดที่เขาเตรียมไว้ออกมาเสียบไม้และเริ่มเร่งไฟหลังจากนั้นทันที กลิ่นหอมก็ลอยมาและลอยไปเตะจมูกหมานจิ้งไม่หยุดนางอยู่ที่นี่นานแล้ว ขนมที่นางเตรียมไว้ก็ใกล้หมดแล้วด้วย บริเวณโดยรอบรกร้างและไม่มีสัตว์ให้ล่านี่เป็นครั้งแรกที่นางได้กลิ่นหอมเช่นนี้
หวังหยวนมองไปที่หมานจิ้งอย่างยิ้ม ๆ และถามว่า “บอกข้าหน่อยสิว่า ถ้าต้าเย่กลายเป็นของตระกูลเซิ่งจริง ๆ แคว้นหมานของเจ้าจะเป็นรายแรกที่ถูกกวาดล้างหรือไม่?”หมานจิ้งไม่พูดอะไร แต่มองเขาอย่างเคร่งเครียดนางไม่รู้ว่าหวังหยวนกำลังพูดยั่วยุหรือเปล่า แต่ถ้านางลองคิดให้รอบคอบ บางทีที่เขาพูดมาอาจเป็นจริงก็ได้!เมื่อเห็นว่าหมานจิ้งเงียบอยู่สักพัก หวังหยวนก็พูดขึ้นมาเบา ๆ ทันที “ข้าบอกเจ้าได้เลยว่าตระกูลเซิ่งจะเป็นคนแรกที่ทำลายแคว้นหมาน”“เหตุผลก็ง่ายมาก ตระกูลเซิ่งวางแผนมานานแล้วเพื่อให้ได้ครองต้าเย่ หากเรื่องนี้แพร่ออกไป คนรุ่นหลังจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน และกลายเป็นความอัปยศเสื่อมเสีย”“หากพวกเขาอยากครองบัลลังก์อย่างชอบธรรม พวกเขาต้องกำจัดทุกสิ่งออกไปให้หมดไปอย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้ผู้คนในใต้หล้าพูดถึงพวกเขา!”หมานจิ้งใจเต้นรัว และแอบคิดว่าหวังหยวนพูดถูกแล้วจริงๆ!พี่ชายของนางเล่าเรื่องนี้ให้นางฟังหวังหยวนมองไปที่หมานจิ้งและพูดอีกครั้ง “ตระกูลเซิ่งสนับสนุนพี่ชายเจ้าขึ้นสู่อำนาจ แต่เขาฆ่าพ่อของเจ้า เจ้าและตระกูลเซิ่งมีหนี้แค้นที่ตายไปก็ไม่อาจลบเลือนได้ เจ้าไม่อยากแก้แค้นเหรอ?”“แล้วอ
“ที่เจ้าพูดก็ถูก”“แต่ตระกูลเซิ่งจะทำลายแคว้นหมานของพวกเจ้าด้วยเหตุนี้ เหตุผลที่ทำไมแคว้นหมานของพวกเจ้ามาถึงทุกวันนี้ได้ ก็ต้องขอบคุณจักรพรรดิต้าเย่ของเรา”“มันหมายความว่าอะไร?”หมานจิ้งดูงุนงงและถามว่า “จักรพรรดิต้าเย่ของเจ้าก็ไม่ได้ช่วยพวกเรามากนัก”หวังหยวนยิ้มเล็กน้อยและพูดอีกครั้ง “จักรพรรดิแห่งต้าเย่เป็นกษัตริย์ทรราชอย่างแท้จริง”“ถ้าหากเขายังอยู่ในอำนาจ แคว้นหมานก็จะสงบสุขและเจริญรุ่งเรือง สามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างน้อยอีกสิบปี”“หากตระกูลเซิ่งเข้าควบคุมต้าเย่ และยึดครองต้าเย่ได้จริง ๆ ในอนาคตแคว้นหมานของเจ้าก็จะไม่มีวันสงบสุขได้อีกต่อไป”“เมื่อเกิดสงครามขึ้น ประชาชนทั่วไปก็จะไม่พอใจ รากฐานอันยาวนานของแคว้นหมานถูกทำลายไปหมดสิ้น ทุกคนด่าสาปไร้ที่อยู่อาศัย นี่คือสิ่งที่เจ้าอยากจะเห็นใช่ไหม”หมานจิ้งได้ฟังสิ่งที่หวังหยวนพูด สีหน้านางก็ตกใจมากนางอดไม่ได้ที่จะมองไปทางหวังหยวนด้วยความตกใจและถามว่า “จักรพรรดิแห่งต้าเย่เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด แต่เจ้ากลับเนรคุณ พูดจาดูหมิ่นจักรพรรดิของเจ้า!”“ที่ข้าพูดมันเป็นความจริง”หวังหยวนตอบด้วยรอยยิ้ม“ทำไมถึงเป็นทรราชได้? เขาทำให้เจ้าขุ่นเ
"ใช่แล้ว"จู่ ๆ หมานจิ้งก็หันกลับมามองหวังหยวนสีหน้าของนางดูเคร่งเครียดและพูดย้ำทีละคำว่า “ครั้งนี้เจ้ามาแคว้นหมานของเรา เจ้าต้องระวังใครบางคนไว้ด้วย”“ใครรึ?”หวังหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงว่าหมานจิ้งจะเตือนเขาเรื่องเช่นนี้หมานจิ้งหยุดชั่วคราวแล้วพูดอย่างจริงจัง “แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นหมาน เมิ่งกัว”“เขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลเซิ่งมาก แม้ว่าพี่ชายของข้าและข้าจะไม่จัดการเจ้า แต่เขาคงไม่ปล่อยโอกาสดี ๆ ที่จะฆ่าเจ้าไปหรอก”“เรื่องนี้เกรงว่าเราคงช่วยเจ้าไม่ได้มาก เจ้าต้องระมัดระวังทุกอย่าง ข้าพูดได้แค่นี้!”คำเตือนของหมานจิ้ง ทำให้หวังหยวนประทับใจมากนางยิ้มเล็กน้อยพยักหน้าแล้วตอบว่า “ขอบคุณที่เตือนข้า”“ไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยเจ้าแก้ปัญหานี้อย่างแน่นอน”“เชอะ รอเจ้าทำก่อนเถอะแล้วค่อยพูด ไม่งั้นคงคุยโวเปล่า ๆ!”หลังจากที่หมานจิ้งพูดจบก็คว้าม้าของหวังหยวนแบบไม่พูดไม่จาก และกระโดดขึ้นม้าไปนางคว้าสายบังเหียนม้า นางแต่งตัวด้วยชุดสีแดงเก๋ไก๋ และมองหวังหยวนอย่างเชิดหน้า“ม้าของเจ้าเป็นของข้าแล้ว”“ห๊ะ?”หวังหยวนอึ้งไปครู่นึง จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดอย่างทำอะไรไม
หมานจิ้งไม่ได้สนใจมากนัก และตรงไปยังพระตำหนักที่พี่ชายของนาง หมานต๋าถู กษัตริย์แคว้นหมานอยู่ทันทีที่เข้าไปก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากภายในห้อง ตามมาด้วยเสียงเพลงดังแว่วออกมาหมานจิ้งเดินเข้ามา เห็นพี่ชายของเขาดื่มเหล้าและเพลิดเพลินกับบรรดาสาวงามเต้นรำอยู่ตรงหน้าเขาเมื่อหมานต๋าถูเห็นหมานจิ้งเดินเข้ามา เขาก็โบกมือให้สาวงามออกไปทันที “พวกเจ้าออกไปก่อน”“เพคะ”สาวงามค่อย ๆ ถอยออกไปทันที และก่อนจะออกไปพวกนางก็ไม่ลืมปิดประตูให้หมานต๋าถูมองหมานจิ้งอย่างยิ้ม ๆ แล้วถามว่า “ได้เจอเขาหรือไม่?”“อืม”หมานจิ้งพยักหน้า“เขาพูดอะไรกับเจ้าบ้าง”หมานต๋าถูมีสีหน้าเรียบเฉย ดูผ่อนคลาย แต่เขาจะจดจำทุกคำพูดไว้ในใจ“เขาคุยกับข้าเยอะมาก เขาบอกว่าจะช่วยเราครองแคว้นหมานอย่างมั่นคง และเขายังบอกอีกว่าเขาจะแยกเราออกจากตระกูลเซิ่ง”หมานจิ้งหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เขาบอกว่าตระกูลเซิ่งไม่ใช่คนที่จัดการได้โดยง่าย หากพวกเขายึดครองต้าเย่ พวกเขาจะกำจัดแคว้นหมานของพวกเราก่อนแน่นอน!”“ท้ายที่สุดแล้ว วิธีที่พวกเขาจะยึดครองต้าเย่นั้นต้องเล่นลูกไม้สกปรกแน่ เพื่อเลี่ยงการถูกใต้กล้าวิพากษ
ไม่นานหวังหยวนและต้าหู่ก็มาถึงชนเผ่าแห่งหนึ่ง ที่นี่คือชนเผ่าไททา มีคนจำนวนมาก มีกระโจมอยู่ทั่วทุกที่และมีทหารยามมากมายที่ทางเข้าด้วยหวังหยวนจะพาต้าหู่เดินเข้าไปข้างใน จากนั้นเขาเห็นคนในชนเผ่าหลายคนเดินมาพร้อมกับหอกในมือ เข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพวกเขามองหวังหยวนด้วยสายตาดุร้าย ทันใดนั้นก็ยกหอกขึ้นชี้ไปที่ทั้งสองคน และถามด้วยสีหน้าจริงจัง “เจ้าเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่”ทหารยามของชนเผ่าบอกได้ทันทีว่าพวกเขาทั้งสองคนไม่ได้มาจากแคว้นหมานของพวกเขา ทั้งเสื้อผ้าและท่าทางของพวกเขาแตกต่างกับคนในแคว้นหมานมากต้าหู่รีบเข้ามาขวางหวังหยวนทันที เพื่อป้องกันไม่ให้คนกลุ่มนี้ลงมือกับหวังหยวนอย่างกะทันหัน ถึงตอนนั้นเรื่องต่าง ๆ จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากแน่หวังหยวนยิ้มอย่างสุภาพและพูดว่า “สวัสดี เรามาจากต้าเย่ ข้าเป็นทูตของต้าเย่ ข้าผ่านมาที่นี่และอยากซื้อม้า”“คนของต้าเย่?”ทหารยามของเผ่าหลายคนมองหน้ากันเองไปมา หนึ่งในนั้นพึมพำเสียงเบาว่า “ข้าเห็นว่าเรื่องนี้ ต้องแจ้งหัวหน้าหรือไม่?”“เจ้าพูดถูก เราตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้ ดังนั้นเจ้ารออยู่ที่นี่ ข้าจะไปหาหัวหน้าเผ่
“ตระกูลเซิ่งได้ขอให้เราลงมือแล้ว หากเราไม่สังหารเด็กคนนี้โดยเร็วที่สุด เมื่อถึงเวลานั้น เราจะคุยกับตระกูลเซิ่งอย่างไร?”“มันไม่ง่ายเลยใช่หรือไม่?”เหมิงคั่วยิ้มอ่อน แล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “ข้าจะใช้กลยุทธ์ยืมดาบสังหารคน ป้ายความผิดให้เขา”“ถ้าเขาตายด้วยน้ำมือของคนอื่น ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา”หลังจากได้ยินดังนั้น คนสนิทของเขาก็พยักหน้าด้วยความตื่นเต้นทันที“ท่านผู้บัญชาการใหญ่ยังคงรอบคอบเช่นเคย กลยุทธ์ยืมดาบสังหารคนนั้นน่าทึ่งมากขอรับ!”“หึหึ”เหมิงคั่วยิ้มเยาะ หยิบจอกสุราตรงหน้าขึ้นมาจิบ“หวังหยวนช่างโชคร้ายนักที่มาพบกับข้า”...ในตอนกลางคืน หวังหยวนและหัวหน้าเผ่าอาวุโสนั่งอยู่ในกระโจมหัวหน้าเผ่า ร่ำสุราพลางพูดคุยกัน“หวังหยวน แม้ว่าเจ้าจะยังเด็กมาก แต่เจ้าเป็นทูตไปยังหมานอี๋ได้ เห็นได้ว่าเจ้าไม่ใช่คนธรรมดา ข้าชื่นชมเจ้ายิ่งนัก”หัวหน้าเผ่าอาวุโสหัวเราะ แล้วดื่มอวยพรให้แก่หวังหยวนหวังหยวนยิ้ม แล้วพูดว่า “มันอยู่นอกเหนือความตั้งใจของข้า แต่ว่า... ท่านไม่ต้องกังวล ท่านหัวหน้าเผ่าอาวุโส ข้ามาที่นี่เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งสองแผ่นดินต้องต่อสู้รบกัน”“เยี่ยมมาก... เฮ้อ... สงคราม...
“ยิ่งกว่านั้น พวกข้าก็เหมือนคนที่ทรยศ นำดินแดนของเผ่าตัวเองมาถวายท่าน หากกลับไปเผ่า คงไม่อาจอธิบายกับสมาชิกเผ่าได้!”“ท่านเป็นผู้ปกครอง ย่อมรู้ดีว่าหากสูญเสียใจของผู้คนไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?”ไท่สื่อลี่จ้องมองหวังหยวน ใบหน้าแสดงความกังวลว่าหวังหยวนจะโกรธอยู่เสมอหวังหยวนโบกมือด้วยรอยยิ้ม แล้วกล่าวว่า “จริงอย่างที่ท่านว่า แต่ข้าไม่ได้คิดจะปกครองเผ่า เพียงแต่ต้องการเป็นพันธมิตรกับพวกท่านเท่านั้น!”“ข้าจะคอยช่วยเหลือให้เผ่าของพวกท่านพัฒนาขึ้น ส่วนสิ่งที่ข้าต้องการก็ง่ายมาก คือหากข้าต้องการความช่วยเหลือ พวกท่านต้องช่วยเหลือข้าโดยไม่มีเงื่อนไข ตอนนี้ท่านคงเข้าใจแล้วกระมัง?”เป็นเช่นนี้เอง!ไท่สื่อลี่เข้าใจในทันที นี่ช่างเป็นข้อเสนอที่ดี!ตราบใดที่หวังหยวนไม่เข้ามายุ่งเรื่องภายใน แถมยังคอยช่วยเหลือ ใครบ้างจะไม่ยอมร่วมมือด้วย?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าจะรับหน้าที่นี้เอง ประเดี๋ยวข้าจะไปปรึกษากับพวกพ้อง บอกความคิดของท่านให้พวกเขารู้ก่อนนะขอรับ!”“พวกเขาล้วนเป็นคนมีเหตุผล คงจะให้คำตอบที่ท่านพอใจ!”“จะไม่ทำให้ท่านหวังผิดหวังขอรับ!”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ด้วยความพึงพอใจ เพียงแค่
“ท่านหวัง ท่านให้ข้าอยู่ที่นี่ต่อ มีเรื่องใดจะปรึกษาหรือขอรับ?”“หรือว่าข้าเผลอทำสิ่งใดผิดพลาด จนทำให้ท่านไม่พอใจ?”ไท่สื่อลี่มองหวังหยวนด้วยความหวาดหวั่น พลางเอ่ยถามตะกุกตะกักหวังหยวนมีภูมิหลังและอำนาจยิ่งใหญ่ แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าเผ่า แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหวังหยวน เขาก็ทำได้เพียงถ่อมตนเหมือนเด็กน้อยเกรงว่าจะทำให้หวังหยวนไม่พอใจ สุดท้ายตนเองก็จะไม่ได้ประโยชน์ ผลลัพธ์ย่อมเป็นไปในทางที่ไม่ดี!หวังหยวนโบกมืออย่างใจเย็น เดินไปข้างกายไท่สื่อลี่ รินสุราให้เขา แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านไท่สื่อไม่ต้องกังวลหรอก”“ที่ข้าให้ท่านอยู่ต่อ เพราะมีเรื่องอยากปรึกษาหารือด้วย แต่จะไม่ทำให้ท่านลำบากใจ”“ไม่ว่าเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ ก็จะไม่กระทบความสัมพันธ์ของเรา”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ พลางกล่าวไท่สื่อลี่พยักหน้า ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าท่านหวังมีเรื่องใดจะปรึกษาหรือขอรับ?”ตอนนี้เขารู้สึกกังวลใจ ไม่สามารถคาดเดาความคิดของหวังหยวนได้ครู่ต่อมา หวังหยวนก็กล่าวตามตรง “แท้จริงแล้วเป็นเรื่องง่ายมาก ที่ข้ามาที่นี่ ไม่เพียงเพื่อช่วยราชวงศ์ต้าเย่เท่านั้น แต่เพื่อช่วยเหลือตัวเองด้ว
แม้แต่ในอากาศยังคงมีกลิ่นคาวเลือด!หวังหยวนเชื่อมั่นในความสามารถของเกาเล่อ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่เคยเจอเจียงเซี่ยวมาก่อน คาดว่าเกาเล่อคงตรวจสอบแล้วว่าไม่ผิดตัว เขาจึงไม่ได้สนใจดูอีก!หวังหยวนกวาดสายตามองกลุ่มคนตรงหน้า ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขณะโบกมือให้ทุกคน แล้วชี้ไปที่ที่นั่งสองข้าง “ทุกท่านไม่ต้องเกรงใจ ข้าไม่ใช่เสือดุร้ายกินคน ไม่ต้องเกรงใจกันเกินไป นั่งลงได้เลย!”“ขอบพระคุณท่านหวัง!”ทุกคนกล่าวขอบคุณ แล้วนั่งลงหวังหยวนนั่งบนบัลลังก์ ก่อนจะถามด้วยรอยยิ้ม “ข้าสงสัยว่าพวกท่านต่อต้านราชวงศ์ต้าเย่มาตลอด ถึงขั้นจะเอาชีวิตกัน แต่พอได้ยินว่าข้ามาก็ยอมแพ้เลยหรือ?”“หรือว่าชื่อเสียงของข้าเลื่องลือมาก เมื่อรู้ว่าต้องสู้กับข้าจึงยอมสยบเลยงั้นหรือ?”หวังหยวนรู้สึกค่อนข้างภูมิใจหากเรื่องนี้เล่าลือออกไปคงเป็นเรื่องเล่าขานกันเป็นตำนาน!ทุกคนมองหน้ากัน คนที่อยู่ใกล้หวังหยวนที่สุดกล่าว “ใช่แล้ว!”“พวกข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับท่านหวัง ยิ่งกว่านั้น พวกข้ารู้ดีว่าพวกข้ากับท่านหวังต่างชั้นกัน หากเปิดศึก แม้จะใช้ภูเขาเป็นกำแพง ป้องกันทุกวิถีทาง แต่คงไม่สามารถต้านทานได้นาน!”“ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมคาดเดาได
“เมื่อครู่มีกลุ่มคนมา ข้าเข้าไปสอบถามจึงรู้ว่าเป็นหัวหน้าเผ่าใหญ่!”“ตอนนี้พวกเขาได้ฆ่าเจียงเซี่ยวผู้นำพันธมิตรแล้ว และต้องการเจรจาสงบศึกกับพวกเรา!”“ท่านผู้นำคิดเห็นว่าอย่างไรขอรับ?”เกาเล่อกล่าวด้วยรอยยิ้มศัตรูแตกคอกันเอง ช่างเป็นเรื่องดี!ไม่เพียงแต่ลดการสูญเสียเท่านั้น แต่ยังไม่ทำให้เกิดความแค้นกับชนเผ่าเหล่านี้ด้วย ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการควบคุมดินแดนในอนาคต!ดวงตาของหวังหยวนเป็นประกาย เขารีบเดินไปหาเกาเล่อ แล้วจับมือเขาไว้ด้วยความตื่นเต้น “เจ้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วหรือ? จะมีกลอุบายอะไรซ่อนอยู่หรือไม่?”“ไม่มีแน่นอน!”เกาเล่อรีบส่ายหน้า “ก่อนมาที่นี่ ข้าได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่าต่าง ๆ ในกลุ่มพันธมิตรนี้ ย่อมรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดีขอรับ!”“ครั้งนี้พวกเขานำหัวของเจียงเซี่ยวมาให้ และเจียงเซี่ยวก็เป็นผู้นำพันธมิตรจริง ๆ!”“หากท่านไม่เชื่อ คุณหนูไป๋คงยืนยันได้ พวกนางสู้รบกับชนเผ่าทางเหนือมาตลอด คงคุ้นเคยกับศัตรูดีใช่หรือไม่?”ขณะที่กล่าว เกาเล่อก็มองไปที่ไป๋ลั่วหลีไป๋ลั่วหลีไม่ลังเล รีบพยักหน้าทันที“ถูกต้อง!”“ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดคือเจียงเซี่ยว เขาไม
“ปกติพวกเจ้าล้วนองอาจกันไม่ใช่หรือ?”“ก่อนหน้านี้ ตอนที่คิดจะโจมตีราชวงศ์ต้าเย่ พวกเจ้าต่างก็อยากจะแบ่งปันดินแดนกันไม่ใช่หรือ? แล้วตอนนี้ล่ะ? แค่ทหารที่พวกนั้นเชิญมาก็ทำให้พวกเจ้าหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้แล้วหรือ?”“พวกเจ้าอย่าลืมว่าภูมิประเทศของที่นี่อันตราย หากพวกเราไม่ยอมออกจากภูเขา แม้หวังหยวนจะเก่งกาจและมียอดฝีมือมากมายก็ทำอะไรเราไม่ได้! หรือว่าเขาจะสามารถคุกคามเราได้จริง ๆ?”ทุกคนมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดการหลบอยู่ในหุบเขา ไม่ใช่แผนการระยะยาว!“หากผู้ใดกล้าพูดจาบั่นทอนกำลังใจอีก อย่าหาว่าข้าใจร้ายแล้วกัน!”เจียงเซี่ยวตวาดอีกครั้ง ทุกคนจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก เพียงแค่พยักหน้าเห็นด้วยคนเราเมื่ออยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่นย่อมต้องยอมก้มหัว!รุ่งเช้า หวังหยวนและกองทัพเริ่มมุ่งหน้าสู่ภูเขาแห่งนี้!ชนเผ่าต่าง ๆ ล้วนได้รับข่าว บัดนี้หวาดผวาไปหมด เพียงแค่เสียงลมพัดก็คิดว่าเป็นศัตรู!ทุกคนต่างเกรงกลัวอำนาจของหวังหยวน ใครจะกล้าต่อกรกับเขา?แม้จะหลบอยู่ในภูเขา แต่หากหวังหยวนตีฝ่าแนวป้องกันมาได้จะทำเช่นไร?ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมเดาได้!เมื่อคิดได้เช่นนี้ เหล่าหัวหน้าเผ่าจึงมารวมตัวกัน“พวก
“ส่วนเรื่องของตานสยงเฟย ข้าจะจัดการภายหลัง”ตานสยงเฟยเป็นคนดื้อรั้นและแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจไต่เต้าสร้างพรรคทมิฬขึ้นมาได้!หวังหยวนเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงไม่โทษต่งอวี่“ขอบพระคุณท่านผู้นำขอรับ!”ต่งอวี่รับคำ แล้วเดินออกไปพรุ่งนี้มีศึกใหญ่ ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ จึงจะมั่นใจได้ว่าจะไม่พลาด!แม้ว่าจะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว หวังหยวนและคนอื่น ๆ นั้นหลับสนิท แต่ในเวลานี้ ชนเผ่าต่าง ๆ ที่เป็นศัตรูกับหวังหยวนกลับยังไม่พักผ่อน เหล่าหัวหน้าเผ่ารวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้!แต่ทุกคนล้วนมีสีหน้ากังวล!“พวกท่านคงได้ยินแล้วกระมัง?”“หวังหยวนนำทัพมาเอง บัดนี้ใกล้จะเปิดศึกกับพวกเราแล้ว จะทำเช่นไรดี?”“ทุกคนคงรู้จักชื่อเสียงของหวังหยวนดี เขาไม่ใช่คนอ่อนแอเลย!”“หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แม้มีความกล้าหาญกว่านี้สิบเท่า ข้าก็ไม่กล้าไปยั่วยุราชวงศ์ต้าเย่!”ตอนนี้ทุกคนต่างเสียใจ อยากถอนตัวกลับกันทั้งนั้นช่างน่าเจ็บใจยิ่งนัก!เดิมทีคิดว่าราชวงศ์ต้าเย่ใกล้สิ้นอำนาจ แผ่นดินจะวุ่นวาย!แต่ไม่คาดคิดเลยว่าพวกเขายังมีแผนสำรอง ยอมทุ่มเทกำลังคนและทรัพย์สินเพื่อเชิญหวังหย
หวังหยวนโบกมือ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “กองทัพไม่ได้อยู่ที่จำนวนมาก แต่อยู่ที่ความแข็งแกร่ง พวกนั้นเป็นแค่ชนเผ่าป่าเถื่อน จะทำอะไรข้าได้?”“เพียงทหารห้าหมื่นนายของข้าก็เพียงพอแล้ว!”“ท่านขุนพลแค่ประจำการอยู่ในเมือง รอฟังข่าวดีจากข้าก็พอ!”หวังหยวนกล่าวด้วยความมั่นใจแน่นอนว่าหวังหยวนไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมรู้ดีว่าหากให้ซือฟางนำทหารออกรบพร้อมกัน เมื่อถึงเวลาแบ่งปันดินแดนจะทำเช่นไร?ช่างยุ่งยากยิ่งนัก!สู้ให้เขานำทัพไปปราบชนเผ่าต่าง ๆ เอง เมื่อสำเร็จ ดินแดนเหล่านั้นก็ตกเป็นของเขาย่อมดีกว่า!แม้มีผู้ใดคิดแย่งชิงก็คงไม่มีโอกาส!ยิ่งกว่านั้น คาดว่าซือฟางคงไม่กล้าเช่นนั้น!หากทั้งสองฝ่ายเปิดศึก ผลลัพธ์ย่อมเป็นหายนะ!ยิ่งไป๋เหยียนเฟยประชวรหนักย่อมกระทบขวัญกำลังใจ ราชวงศ์ต้าเย่จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปสู้รบ?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าก็จะรอฟังข่าวดี”“ขอให้ท่านหวังได้รับชัยชนะ!”ซือฟางประสานมือกล่าวทุกคนสนทนากันอีกสักพัก จากนั้นก็แยกย้ายกันไปซือฟางต้องดูแลการป้องกันเมืองจึงกลับไปก่อน ส่วนไป๋ลั่วหลีอยู่ที่ค่าย คอยช่วยเหลือหวังหยวนวางแผนรบ!ต้องมีคนรู้จักภูมิประเทศนำทาง หวังหยวนจึงจะ
นอกเมืองหลวงหวังหยวนเดินทางพร้อมกับไป๋ลั่วหลีกลับมายังค่ายของตนทันทีที่ทั้งสองก้าวเข้ามา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังมาจากด้านนอก ซือฟางในชุดเกราะเดินเข้ามาต้อนรับเนื่องจากไป๋ลั่วหลีได้แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันแล้ว หวังหยวนจึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้ากำลังสงสัยว่าเป็นผู้ใด ที่แท้ก็เป็นท่านขุนพลนี่เอง! เชิญเข้ามาเถิด!”“ท่านหวังเกรงใจเกินไปแล้วขอรับ!”“ท่านมาไกล แถมยังช่วยข้าปราบกบฏทางเหนือ เชิญท่านเข้าไปก่อนเถิดขอรับ!”ซือฟางกล่าวตอบอย่างสุภาพไม่นาน ทุกคนต่างเข้าไปในกระโจมใหญ่ต้าหู่และต่งอวี่ยืนขนาบข้างหวังหยวน ดูองอาจน่าเกรงขาม!ซือฟางมองไปที่ทั้งสอง แล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย “ไม่ทราบว่าสองท่านนี้คือใครหรือขอรับ?”ทั้งสองดูสง่างาม เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ คงไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่!ซือฟางเป็นขุนพลมายาวนานย่อมมีสายตาที่เฉียบคม!หวังหยวนแนะนำด้วยรอยยิ้ม “ท่านที่อยู่ทางซ้ายมือข้าคือต่งอวี่ นักธนูมือหนึ่งในใต้หล้า ยิงธนูไม่เคยพลาดเป้า เป็นขุนพลเอกในกองทัพ!”“กองกำลังพลธนูที่ข้าฝึกฝนล้วนอยู่ภายใต้การบัญชาการของเขา!”ต่งอวี่พยักหน้าทักทาย“ส่วนท่านที่อยู่ทางขวาคือพี่น
“หรือว่าแผ่นดินนี้จะต้องตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น?”สิ้นคำพูด ซือฟางก็ซัดกำปั้นลงบนกำแพงเมืองอย่างเดือดดาล!เหล่าขุนพลที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างไม่กล้าเข้าไปใกล้ หรือแม้แต่จะเอ่ยปาก!“ท่านขุนพลไม่ต้องกังวล!”ทันใดนั้น ขุนนางชราผู้หนึ่งก็เดินออกมา บนใบหน้ามีเคราสีขาวโพลน เพียงดูก็รู้ว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน!คนผู้นี้คือที่ปรึกษาคนสำคัญของไป๋เหยียนเฟยนามว่า เจี๋ยงโฉ่วอี!ในราชสำนัก ผู้ที่อยู่เหนือเขามีเพียงจักรพรรดินีเท่านั้น!บัดนี้ไป๋เหยียนเฟยป่วยหนัก ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนพึ่งพาเจี๋ยงโฉ่วอี ราชกิจสำคัญล้วนตกเป็นภาระให้เขาตัดสินใจทั้งสิ้น!เห็นได้ชัดว่าเขามีอำนาจสูงส่งล้นฟ้า!“ปรากฏว่าเป็นท่านเจี๋ยงนี่เอง!”“ท่านคงได้ยินสิ่งที่ข้าพูดไปเมื่อครู่แล้วกระมัง?”ซือฟางประสานมือคารวะเจี๋ยงโฉ่วอี แล้วเอ่ยถามเจี๋ยงโฉ่วอีพยักหน้า กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ข้ารู้ว่าท่านขุนพลจงรักภักดี ย่อมคิดถึงฝ่าบาท แต่พระองค์ก็มีเรื่องที่ต้องกังวลเช่นกัน!”“ครั้งนี้พระองค์ไม่เพียงต้องการให้หวังหยวนช่วยปราบปรามอริทางเหนือเท่านั้น แต่ยัง...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง เจี๋ยงโฉ่วอีก็หยุดพูด พร้อมกับเหลือบมองขุนพลน