ในขณะนี้ หลังจากที่วังฉงโหลวเปิดจดหมาย เขาก็ถอนหายใจทันที มีร่องรอยของความผิดหวังฉายชัดในดวงตาของเขา!นั่นคือความหวังแห่งต้าเย่!ยังมีความชื่นชมอีกด้วย!นั่นคือความชื่นชมหวังหยวน!ไปเผชิญชะตากรรมคนเดียวในหวงเหยียน ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าน แต่หวังหยวนไปที่นั่นโดยไม่ลังเล!“ดูเหมือน... ข้าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว!”วังฉงโหลวกล่าวขณะออกจากหมู่บ้านต้าหวัง พร้อมจดหมาย...ไม่เพียงแต่วังฉงโหลวเท่านั้น แต่หูเมิ่งอิ๋งก็ได้รับจดหมายเช่นกัน นางถึงกับหลั่งน้ำตาเงียบ ๆ“ข้าจะรอให้เจ้ากลับมา… จะปกป้องฐานทัพนี้ให้กับเจ้า…”หูเมิ่งอิ๋งรีบเช็ดน้ำตา สายตาของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น!ในขณะนี้ ในหุบเขาชิงหลง หงเยี่ยและคนอื่น ๆ ก็ได้รับจดหมายนี้เช่นกัน!หลายคนอ่านจดหมายแล้วเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง“เจ้าสารเลว! ฮ่องเต้ชั่วร้ายยอมให้หวังหยวนไปหาหวงเหยียนจริง ๆ! รวบรวมกองกำลังแล้วไปรับหวังหยวนกลับมา!”ในเวลานี้ หงเยี่ยออกคำสั่งทันที!แต่ในขณะนี้ จ้าวป๋อเซี่ยวรีบพูดว่า “นายท่านใหญ่ ทำอย่างนั้นไม่ได้!”“เหตุใดจะไม่ได้ล่ะ? เราจะปล่อยให้หวังหยวนไปยังสถานที่อันตรายเช่นนั้นได้จริงหรือ!”หงเยี่ยมีสีหน้า
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเซี่ยซานหู่และอู่จั้งโหว รู้สึกว่าหวังหยวนมีไหวพริบและมีพรสวรรค์ สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้แต่หงเยี่ยพูดว่า “ไม่รู้ รีบบอกมาสิ”ตอนนี้ความคิดของหงเยี่ยสับสนมาก ไม่สามารถฟังสิ่งใดได้เลยจ้าวป๋อเซี่ยวจะไม่รู้ได้อย่างไร ว่านายท่านใหญ่กำลังกังวลในขณะนี้ เขาจึงพูดทันที “ที่ท่านเสนาธิการทหารตัดสินใจไป ก็เพราะได้วางแผนทุกอย่างไว้แล้ว และทุกอย่างจะเรียบร้อยดี”“อีกทั้งท่านเสนาธิการทหารยังกล่าวอีกว่า ยังไม่ถึงเวลา ข้าคิดว่าเสนาธิการทหารอาจกำลังรอโอกาสนี้อยู่ เขาอยู่ห่างไกลในถิ่นหวงเหยียน เขาจึงสามารถสังเกตความสับสนวุ่นวายภายใน แล้วรอให้ผู้อื่นก่อกบฏก่อนได้”“ตราบใดที่ยังมีโอกาสนี้ ข้าคิดว่าเสนาธิการทหารจะกลับมาแน่นอน และสิ่งที่เราต้องทำคือเตรียมกองกำลังของเรา เฝ้ารอจนกว่าวันที่เสนาธิการทหารจะกลับมา!”หลังจากจ้าวป๋อเซี่ยวพูดจบ หัวใจของทุกคนก็สั่นเทา“เขาคิดเช่นนี้จริงหรือ?”หงเยี่ยพูดด้วยความประหลาดใจ“แน่นอนว่ามีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น นั่นคือ... ท่านเสนาธิการทหาร เห็นใจพวกเราด้วย…”ทุกคนไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของจ้าวป๋อเ
สิ่งแรกที่อู๋หลิงพูดเมื่อเขาเจอหวังหยวน ก็คือจะพาเขาออกไปเรื่องนี้ทำให้หวังหยวนรู้สึกซาบซึ้งมาก เขาเข้าใจว่าความรู้สึกส่วนตัวของอู๋หลิง ในใจเขา ความเคียดแค้นชิงชังนั้นไม่สำคัญเท่ากับความชอบธรรมของแผ่นดินจะเห็นได้ว่าอู๋หลิงใส่ใจเขาจริง ๆ ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่กล้าฝ่าฝืนราชโองการ ด้วยการคิดจะพาหวังหยวนกลับไป!“อู๋หลิง เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม ส่วนอู๋หลิงหายใจเข้าลึก ๆ “ในถิ่นหวงเหยียน อาจรอดจากปากเหยี่ยวปากกา แต่ท่านกับอากู่ฉามีความแค้นใจต่อกัน ความเกลียดชังที่ท่านฆ่าพ่อของเขานั้น ไม่อาจลบล้างได้ เขาย่อมจะฆ่าท่าน!”“ดังนั้น... ไม่อาจไปถิ่นหวงเหยียนได้!”เมื่ออู๋หลิงพูดเช่นนี้ เขาพูดด้วยเสียงดังทรงพลัง แต่หวังหยวนก็ถอนหายใจ แล้วพูดว่า “หากเจ้าดึงข้ากลับไป เจ้าจะขัดราชโองการ เจ้าไม่กลัวหรือ?”“ไม่กลัว! ข้าจะขอร้องฝ่าบาทให้ส่งคนอื่นไปเป็นทูตหวงเหยียนแทน!”อู๋หลิงพูดทันที ดูเหมือนจะไม่กลัวจริง ๆ“หากทำเช่นนั้นได้ เหตุใดข้าต้องไปล่ะ? ก่อนข้ามา ข้าได้รับจดหมายจากเสนาบดีฝ่ายซ้าย แม้แต่เขาก็ยังทำอะไรไม่ได้เลย เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำอะไรได้บ้าง?”แม้ว่าประโยคนี้จะค่อนข้างโ
“ท่านพ่อ... แม้ว่าข้าจะสัญญากับท่านว่าข้าจะปกป้องต้าเย่ แม้ว่าข้าจะไม่ต้องการก็ตาม แต่ข้าก็ไม่อยากไม่เชื่อฟังท่าน”“แต่ว่า... หลังจากวันนี้ ข้ายังมีบางอย่างที่ข้าต้องทำให้สำเร็จในชีวิตนี้ นั่นก็คือ... ข้าจะไม่ยอมให้หวังหยวนต้องตกอยู่ในอันตรายเหมือนวันนี้อีก! แม้ว่าข้าต้องแลกชีวิตก็ตาม!”อู๋หลิงแอบสาบานในใจ!หลังจากออกจากที่นี่ หวังหยวนและกลุ่มของเขาก็เดินทางบนหลังม้า ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก ในดินแดนต้าเย่ ทุกอย่างจะยังราบรื่นปลอดภัยดี“พรุ่งนี้เราจะถึงชายแดน ซึ่งมีอันตรายซ่อนอยู่”ในเวลานี้หวงเจียวเจียวเหลือบมองหวังหยวน แล้วพูดเบา ๆ ด้วยรอยยิ้ม“คุณหนูหวงกลัวหรือเปล่า?” หวังหยวนอดยิ้มไม่ได้หวงเจียวเจียวหรี่ตา “เมื่อมีคุณชายอยู่ที่นี่ด้วย จะกลัวได้อย่างไร?”“ฮ่าฮ่าฮ่า...”หวังหยวนหัวเราะและไม่พูดอะไรอีก เป็นเวลาดึกแล้ว กลุ่มของพวกเขาก็ไปโรงเตี๊ยมเพื่อพักผ่อนพรุ่งนี้จะถึงชายแดนแล้ว ในต้าเย่จะมีอันตรายได้อย่างไร?ประโยคนี้มันไม่จริงเลย!หากเป็นเขา เขาจะฆ่าศัตรูที่เขาต้องการจะฆ่าในแผ่นดินของคนอื่น!เหตุผลง่าย ๆ คือ เขาไปปฏิบัติภารกิจที่ถิ่นหวงเหยียน หากเขาตายที่ถิ่นหวงเหยี
แน่นอนว่าหวังหยวนไม่สามารถเอาชนะคนเหล่านี้ได้ หากมีเพียงคนเดียว เขาก็ยังพอจะลองสู้ได้แต่เขาไม่กลัวเลย เขาค่อย ๆ ยกปืนคาบศิลาขึ้นมา แล้วยิงชายคนนั้นเข้าที่หัวเต็ม ๆ!ปัง!ชายคนนั้นที่รีบวิ่งเข้ามา ล้มลงกับพื้นสิ้นชีวิตทันที!“เจ้า...เจ้ามีปืนไฟจริง ๆ!”ทุกคนถึงกับตกตะลึง!แม้ว่าพวกเขาจะมีทักษะการต่อสู้สูงส่ง แต่ก็ไม่ได้ทรงพลังเท่าปืน!หวังหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “หากไม่มีสิ่งนี้ ข้าจะกล้าดีอย่างไรมานั่งรอให้พวกเจ้าฆ่าข้า?”“บอกมา ใครในเมืองหวงที่เป็นคนส่งพวกเจ้ามาที่นี่?”ทันทีที่คำถามนี้ดังขึ้น คนเหล่านั้นก็ตกตะลึงทันที!“เจ้า... เจ้ารู้ได้อย่างไร... ว่าพวกข้ามาจากเมืองหวง?”พวกเขาตกใจกับคำพูดของหวังหยวน ต่างตกตะลึงกันถ้วนหน้า“เรื่องนี้เดาได้ไม่ยาก หากข้าเป็นคนเมืองหวง ข้าก็จะทำแบบเดียวกัน แต่ในบรรดาอ๋องทั้งสามของเมืองหวง ใครสั่งให้พวกเจ้ามาจัดการข้า?”หวังหยวนถามอย่างใจเย็น จากนั้นเล็งปืนไปที่พวกเขาทันที!“หากไม่ยอมก็ต้องตาย”หวังหยวนไม่ได้ล้อเล่น ใบหน้าของพวกเขาเคร่งเครียด แต่ไม่มีใครพูดอะไรเลย“เฮ้… ไม่เชื่อหรือ?”หวังหยวนไม่ได้พูดเหลวไหล ยิงปืนใส่อีกคนหนึ่งอีกนัดสัง
หวังหยวนหยิบมาไว้ในมือ พยักหน้า แล้วเก็บไป“เอาไว้ลองถามคนที่รู้ เอาล่ะ รีบจัดการแล้วไปนอนเร็ว ๆ เถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางกันแต่เช้า”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นต้าหู่และคนอื่น ๆ ก็แบกศพคนเหล่านี้ออกไปทันที จากนั้นขุดหลุมฝังศพเช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งกลุ่มออกเดินทาง เกือบเที่ยงพวกเขาก็มาถึงชายแดน“ชายแดนอยู่ข้างหน้าแล้ว...”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อเขาก้าวมาที่นี่ เขาก็เข้าสู่อาณาเขตของหวงเหยียนพูดตามตรง หวังหยวนไม่คุ้นเคยกับหวงเหยียนมากนักแต่เขาก็ยังมั่นใจว่าเขาจะกลับไปได้อย่างปลอดภัย“ไปกันเถอะ เมื่อเข้าไปในถิ่นหวงเหยียนได้ ก็จะปลอดภัยแล้ว”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ดังขึ้น ถังหม่างและหวงเจียวเจียวก็สับสน แต่ต้าหู่เข้าใจดีเพราะในเขตชายแดน เจิ้งไท่ชิงกำลังรออยู่“คุณชายหวัง เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?”หวงเจียวเจียวยิ้ม และอดไม่ได้ที่จะถามหวังหยวนไม่พูดอะไร มองพื้น แล้วชี้ไปไม่ไกล“เพราะว่า... เขา!”หลังจากพูดเช่นนี้ หวงเจียวเจียวก็มองไปในระยะไกล แล้วเห็นว่ากลุ่มคนกำลังมา!มองไปรอบ ๆ ก็พบว่ามีคนไม่ต่ำกว่าสองสามพันคน!“นั่นคือ... ขุนพลเจิ้ง!”หวงเจียวเจียวเข้าใจท
เจิ้งไท่ชิงอดไม่ได้ที่จะพูดติดตลก หวังหยวนหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น“ฮ่าฮ่าฮ่า... ไม่ต้องกังวล จะไม่มีคำสั่งลับนี้หรอก…”หวังหยวนมั่นใจมาก เจิ้งไท่ชิงก็หัวเราะเช่นกันด้วยทหารหลายพันนายที่คอยคุ้มกัน การเดินทางครั้งนี้จะต้องปลอดภัยมาก“ไม่ไกลข้างหน้าคือเมืองหลวง ท่านต้องระวังมากขึ้น ข้าคิดว่าอ๋องเจิ้นตงจะใช้กลอุบายแน่ เพราะว่า... เขาไม่ต้องการให้ท่านเข้าเมืองได้อย่างราบรื่น!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา หวังหยวนย่อมเข้าใจว่าอ๋องเจิ้นตงและอ๋องเซ่อเป่ย ต่างก็เป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน หากอ๋องถูหนานไม่ตาย ทั้งสองคนก็น่าจะอยู่เฉย ๆ อย่างน้อยพวกเขาก็จะไม่ดำเนินการใด ๆ ในตอนนี้แต่ตอนนี้อ๋องถูหนานเสียชีวิตแล้ว คนที่คอยสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทเฮาจึงหายไปแล้ว แน่นอนว่าความทะเยอทะยานของพวกเขาก็สำแดงฤทธิ์!หวังหยวนรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เขาจึงรู้ด้วยว่าอ๋องเจิ้นตงจะต้องมีกลอุบายรอเขาอยู่แน่นอน!“ข้าเข้าใจ ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน”หวังหยวนยิ้มแล้วพูด ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงใกล้เมืองหลวง คนของเจิ้งไท่ชิงย่อมไม่ได้เข้าไปในเมืองด้วย แต่ได้รับมอบหมายให้ไปค่ายทหารนอกเมือง
“ปรากฏว่านี่คือผู้กำกับองครักษ์เมืองหวงใต้เท้าเกาเล่อนี่เอง สวรรค์เป็นพยาน ช่างมีวาจานุ่มนวลและท่าทางถ่อมตัวเหลือเกิน จนข้าคิดว่าเป็นขันทีในวังเสียอีก ขออภัย ขออภัย”หวังหยวนประสานมือ เลียนแบบตามตัวอย่างของเขา แล้วกล่าวขอโทษแต่หลังจากพูดเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเกาเล่อก็แข็งค้างไปครู่หนึ่ง และมองหวังหยวนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่ามากขึ้นแต่เขาไม่ทำอะไรเลย ยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านหมิงถัน สุภาพเกินไป สุภาพเกินไป ข้าจะมีชีวิตที่ดีถึงขั้นเป็นขันทีในวังได้อย่างไร”หลังจากพูดเช่นนี้แล้ว เขาก็มองหวงเจียวเจียวที่อยู่ด้านหลังหวังหยวน“นี่คือคุณหนูหวงนี่นา กลุ่มคนที่มารับท่านอยู่ด้านนั้น คุณหนูหวงโปรดเดินทางด้วยขอรับ”ในเวลานี้เกาเล่อยิ้มอ่อน แต่หวังหยวนก็เห็นว่าสายตาที่เขามองหวงเจียวเจียวนั้น ให้ความเคารพอย่างชัดเจนตัวตนที่แท้จริงของหวงเจียวเจียวคืออะไร?นางไม่ใช่สาวใช้ต่ำต้อยแบบที่นางบอกแน่นอน ผู้กำกับองครักษ์ประจำเมืองหลวงดูเคารพมาก นางต้องมาจากวังหลวงเป็นแน่!หรือว่านางจะมีความเกี่ยวข้องกับไทเฮาในทางใดทางหนึ่ง?“ขอบคุณใต้เท้าเกา”หวงเจียวเจียวยังคงเผยรอยยิ้มงาม อันเป็นเอกล