แชร์

บทที่ 689

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
แต่หวังหยวนเข้าใจแนวทางของหวงเหยียนมากขึ้นแล้ว

แต่ว่าเขาแค่ไม่ชอบ

ทุกสิ่งที่ต้องอธิบายได้รับการอธิบายอย่างชัดเจนแล้ว และการตัดสินใจของหวังหยวนที่จะไปหาหวงเหยียน ก็ได้รับการตัดสินแล้ว ไม่มีที่ว่างสำหรับการทะนงตัวในเรื่องนี้

เช้าวันรุ่งขึ้น หวังหยวนพาถังหม่าง ต้าหู่ และทหารผ่านศึกเกราะทมิฬสิบคนไปที่ประตู

นอกจากหลี่ซื่อหานจะมาพบเขาแล้ว เฉิงเหลียวก็มาด้วยความกังวลด้วย

ไป๋เฟยเฟยก็มาด้วย แต่สิ่งที่ทำให้หวังหยวนประหลาดใจก็คือ พ่อและลูกชายตระกูลฟ่านก็มาด้วย

แต่มีแววของความเย็นชาและความภาคภูมิใจในดวงตาของพวกเขา

หวังหยวนขี้เกียจเกินกว่าจะใส่ใจ เหลือบมองหลี่ซื่อหานแล้วคลี่ยิ้ม

“ไม่ต้องห่วง เจ้าก็รู้ว่าสามีของเจ้าทำอะไรได้บ้าง อีกไม่นานข้าจะกลับมา”

หวังหยวนยิ้มและกอดหลี่ซื่อหานที่เสียงสั่นเครือ “ข้ารู้ ข้าจะรอให้ท่านกลับมา... ใช่แล้ว แล้วก็คุณหนูหูด้วย...”

หลี่ซื่อหานกำลังยิ้ม แต่ความจริงเป็นการยิ้มฝืน นางไม่อยากให้หวังหยวนกังวล นางจึงพยายามทำตัวให้ดูเข้มแข็ง

“ข้าจะดูแลครอบครัวของข้า”

สายตาของหลี่ซื่อหานแน่วแน่ หมู่บ้านต้าหวังเป็นรากฐานของหวังหยวน และมันเป็นผลมาจากการทำงานหนักของเขา นา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
พระเอกไปนอกด่านแล้วขอดองไว้ก่อนพระเอกกลับมาจากนอกด่านค่อยกลับมาอ่านต่อละกัน เสียดายเวลาและเสียดายเงินไม่อยากเติมอ่านต่อเพราะพระเอกต้องไปนอกด่านแบบโง่ๆ
goodnovel comment avatar
การัณย์ ผาณิตพิเชฐวงศ์
น่าจะเขียนให้จบเป็นเรื่องๆไป แบบนี้เหมือนนิยายฟรีที่ไม่ต้องเสียเงิน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 690

    ในขณะนี้ หลังจากที่วังฉงโหลวเปิดจดหมาย เขาก็ถอนหายใจทันที มีร่องรอยของความผิดหวังฉายชัดในดวงตาของเขา!นั่นคือความหวังแห่งต้าเย่!ยังมีความชื่นชมอีกด้วย!นั่นคือความชื่นชมหวังหยวน!ไปเผชิญชะตากรรมคนเดียวในหวงเหยียน ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าน แต่หวังหยวนไปที่นั่นโดยไม่ลังเล!“ดูเหมือน... ข้าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว!”วังฉงโหลวกล่าวขณะออกจากหมู่บ้านต้าหวัง พร้อมจดหมาย...ไม่เพียงแต่วังฉงโหลวเท่านั้น แต่หูเมิ่งอิ๋งก็ได้รับจดหมายเช่นกัน นางถึงกับหลั่งน้ำตาเงียบ ๆ“ข้าจะรอให้เจ้ากลับมา… จะปกป้องฐานทัพนี้ให้กับเจ้า…”หูเมิ่งอิ๋งรีบเช็ดน้ำตา สายตาของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น!ในขณะนี้ ในหุบเขาชิงหลง หงเยี่ยและคนอื่น ๆ ก็ได้รับจดหมายนี้เช่นกัน!หลายคนอ่านจดหมายแล้วเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง“เจ้าสารเลว! ฮ่องเต้ชั่วร้ายยอมให้หวังหยวนไปหาหวงเหยียนจริง ๆ! รวบรวมกองกำลังแล้วไปรับหวังหยวนกลับมา!”ในเวลานี้ หงเยี่ยออกคำสั่งทันที!แต่ในขณะนี้ จ้าวป๋อเซี่ยวรีบพูดว่า “นายท่านใหญ่ ทำอย่างนั้นไม่ได้!”“เหตุใดจะไม่ได้ล่ะ? เราจะปล่อยให้หวังหยวนไปยังสถานที่อันตรายเช่นนั้นได้จริงหรือ!”หงเยี่ยมีสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 691

    ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเซี่ยซานหู่และอู่จั้งโหว รู้สึกว่าหวังหยวนมีไหวพริบและมีพรสวรรค์ สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้แต่หงเยี่ยพูดว่า “ไม่รู้ รีบบอกมาสิ”ตอนนี้ความคิดของหงเยี่ยสับสนมาก ไม่สามารถฟังสิ่งใดได้เลยจ้าวป๋อเซี่ยวจะไม่รู้ได้อย่างไร ว่านายท่านใหญ่กำลังกังวลในขณะนี้ เขาจึงพูดทันที “ที่ท่านเสนาธิการทหารตัดสินใจไป ก็เพราะได้วางแผนทุกอย่างไว้แล้ว และทุกอย่างจะเรียบร้อยดี”“อีกทั้งท่านเสนาธิการทหารยังกล่าวอีกว่า ยังไม่ถึงเวลา ข้าคิดว่าเสนาธิการทหารอาจกำลังรอโอกาสนี้อยู่ เขาอยู่ห่างไกลในถิ่นหวงเหยียน เขาจึงสามารถสังเกตความสับสนวุ่นวายภายใน แล้วรอให้ผู้อื่นก่อกบฏก่อนได้”“ตราบใดที่ยังมีโอกาสนี้ ข้าคิดว่าเสนาธิการทหารจะกลับมาแน่นอน และสิ่งที่เราต้องทำคือเตรียมกองกำลังของเรา เฝ้ารอจนกว่าวันที่เสนาธิการทหารจะกลับมา!”หลังจากจ้าวป๋อเซี่ยวพูดจบ หัวใจของทุกคนก็สั่นเทา“เขาคิดเช่นนี้จริงหรือ?”หงเยี่ยพูดด้วยความประหลาดใจ“แน่นอนว่ามีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น นั่นคือ... ท่านเสนาธิการทหาร เห็นใจพวกเราด้วย…”ทุกคนไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของจ้าวป๋อเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 692

    สิ่งแรกที่อู๋หลิงพูดเมื่อเขาเจอหวังหยวน ก็คือจะพาเขาออกไปเรื่องนี้ทำให้หวังหยวนรู้สึกซาบซึ้งมาก เขาเข้าใจว่าความรู้สึกส่วนตัวของอู๋หลิง ในใจเขา ความเคียดแค้นชิงชังนั้นไม่สำคัญเท่ากับความชอบธรรมของแผ่นดินจะเห็นได้ว่าอู๋หลิงใส่ใจเขาจริง ๆ ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่กล้าฝ่าฝืนราชโองการ ด้วยการคิดจะพาหวังหยวนกลับไป!“อู๋หลิง เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม ส่วนอู๋หลิงหายใจเข้าลึก ๆ “ในถิ่นหวงเหยียน อาจรอดจากปากเหยี่ยวปากกา แต่ท่านกับอากู่ฉามีความแค้นใจต่อกัน ความเกลียดชังที่ท่านฆ่าพ่อของเขานั้น ไม่อาจลบล้างได้ เขาย่อมจะฆ่าท่าน!”“ดังนั้น... ไม่อาจไปถิ่นหวงเหยียนได้!”เมื่ออู๋หลิงพูดเช่นนี้ เขาพูดด้วยเสียงดังทรงพลัง แต่หวังหยวนก็ถอนหายใจ แล้วพูดว่า “หากเจ้าดึงข้ากลับไป เจ้าจะขัดราชโองการ เจ้าไม่กลัวหรือ?”“ไม่กลัว! ข้าจะขอร้องฝ่าบาทให้ส่งคนอื่นไปเป็นทูตหวงเหยียนแทน!”อู๋หลิงพูดทันที ดูเหมือนจะไม่กลัวจริง ๆ“หากทำเช่นนั้นได้ เหตุใดข้าต้องไปล่ะ? ก่อนข้ามา ข้าได้รับจดหมายจากเสนาบดีฝ่ายซ้าย แม้แต่เขาก็ยังทำอะไรไม่ได้เลย เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำอะไรได้บ้าง?”แม้ว่าประโยคนี้จะค่อนข้างโ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 693

    “ท่านพ่อ... แม้ว่าข้าจะสัญญากับท่านว่าข้าจะปกป้องต้าเย่ แม้ว่าข้าจะไม่ต้องการก็ตาม แต่ข้าก็ไม่อยากไม่เชื่อฟังท่าน”“แต่ว่า... หลังจากวันนี้ ข้ายังมีบางอย่างที่ข้าต้องทำให้สำเร็จในชีวิตนี้ นั่นก็คือ... ข้าจะไม่ยอมให้หวังหยวนต้องตกอยู่ในอันตรายเหมือนวันนี้อีก! แม้ว่าข้าต้องแลกชีวิตก็ตาม!”อู๋หลิงแอบสาบานในใจ!หลังจากออกจากที่นี่ หวังหยวนและกลุ่มของเขาก็เดินทางบนหลังม้า ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก ในดินแดนต้าเย่ ทุกอย่างจะยังราบรื่นปลอดภัยดี“พรุ่งนี้เราจะถึงชายแดน ซึ่งมีอันตรายซ่อนอยู่”ในเวลานี้หวงเจียวเจียวเหลือบมองหวังหยวน แล้วพูดเบา ๆ ด้วยรอยยิ้ม“คุณหนูหวงกลัวหรือเปล่า?” หวังหยวนอดยิ้มไม่ได้หวงเจียวเจียวหรี่ตา “เมื่อมีคุณชายอยู่ที่นี่ด้วย จะกลัวได้อย่างไร?”“ฮ่าฮ่าฮ่า...”หวังหยวนหัวเราะและไม่พูดอะไรอีก เป็นเวลาดึกแล้ว กลุ่มของพวกเขาก็ไปโรงเตี๊ยมเพื่อพักผ่อนพรุ่งนี้จะถึงชายแดนแล้ว ในต้าเย่จะมีอันตรายได้อย่างไร?ประโยคนี้มันไม่จริงเลย!หากเป็นเขา เขาจะฆ่าศัตรูที่เขาต้องการจะฆ่าในแผ่นดินของคนอื่น!เหตุผลง่าย ๆ คือ เขาไปปฏิบัติภารกิจที่ถิ่นหวงเหยียน หากเขาตายที่ถิ่นหวงเหยี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 694

    แน่นอนว่าหวังหยวนไม่สามารถเอาชนะคนเหล่านี้ได้ หากมีเพียงคนเดียว เขาก็ยังพอจะลองสู้ได้แต่เขาไม่กลัวเลย เขาค่อย ๆ ยกปืนคาบศิลาขึ้นมา แล้วยิงชายคนนั้นเข้าที่หัวเต็ม ๆ!ปัง!ชายคนนั้นที่รีบวิ่งเข้ามา ล้มลงกับพื้นสิ้นชีวิตทันที!“เจ้า...เจ้ามีปืนไฟจริง ๆ!”ทุกคนถึงกับตกตะลึง!แม้ว่าพวกเขาจะมีทักษะการต่อสู้สูงส่ง แต่ก็ไม่ได้ทรงพลังเท่าปืน!หวังหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “หากไม่มีสิ่งนี้ ข้าจะกล้าดีอย่างไรมานั่งรอให้พวกเจ้าฆ่าข้า?”“บอกมา ใครในเมืองหวงที่เป็นคนส่งพวกเจ้ามาที่นี่?”ทันทีที่คำถามนี้ดังขึ้น คนเหล่านั้นก็ตกตะลึงทันที!“เจ้า... เจ้ารู้ได้อย่างไร... ว่าพวกข้ามาจากเมืองหวง?”พวกเขาตกใจกับคำพูดของหวังหยวน ต่างตกตะลึงกันถ้วนหน้า“เรื่องนี้เดาได้ไม่ยาก หากข้าเป็นคนเมืองหวง ข้าก็จะทำแบบเดียวกัน แต่ในบรรดาอ๋องทั้งสามของเมืองหวง ใครสั่งให้พวกเจ้ามาจัดการข้า?”หวังหยวนถามอย่างใจเย็น จากนั้นเล็งปืนไปที่พวกเขาทันที!“หากไม่ยอมก็ต้องตาย”หวังหยวนไม่ได้ล้อเล่น ใบหน้าของพวกเขาเคร่งเครียด แต่ไม่มีใครพูดอะไรเลย“เฮ้… ไม่เชื่อหรือ?”หวังหยวนไม่ได้พูดเหลวไหล ยิงปืนใส่อีกคนหนึ่งอีกนัดสัง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 695

    หวังหยวนหยิบมาไว้ในมือ พยักหน้า แล้วเก็บไป“เอาไว้ลองถามคนที่รู้ เอาล่ะ รีบจัดการแล้วไปนอนเร็ว ๆ เถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางกันแต่เช้า”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นต้าหู่และคนอื่น ๆ ก็แบกศพคนเหล่านี้ออกไปทันที จากนั้นขุดหลุมฝังศพเช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งกลุ่มออกเดินทาง เกือบเที่ยงพวกเขาก็มาถึงชายแดน“ชายแดนอยู่ข้างหน้าแล้ว...”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อเขาก้าวมาที่นี่ เขาก็เข้าสู่อาณาเขตของหวงเหยียนพูดตามตรง หวังหยวนไม่คุ้นเคยกับหวงเหยียนมากนักแต่เขาก็ยังมั่นใจว่าเขาจะกลับไปได้อย่างปลอดภัย“ไปกันเถอะ เมื่อเข้าไปในถิ่นหวงเหยียนได้ ก็จะปลอดภัยแล้ว”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ดังขึ้น ถังหม่างและหวงเจียวเจียวก็สับสน แต่ต้าหู่เข้าใจดีเพราะในเขตชายแดน เจิ้งไท่ชิงกำลังรออยู่“คุณชายหวัง เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้?”หวงเจียวเจียวยิ้ม และอดไม่ได้ที่จะถามหวังหยวนไม่พูดอะไร มองพื้น แล้วชี้ไปไม่ไกล“เพราะว่า... เขา!”หลังจากพูดเช่นนี้ หวงเจียวเจียวก็มองไปในระยะไกล แล้วเห็นว่ากลุ่มคนกำลังมา!มองไปรอบ ๆ ก็พบว่ามีคนไม่ต่ำกว่าสองสามพันคน!“นั่นคือ... ขุนพลเจิ้ง!”หวงเจียวเจียวเข้าใจท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 696

    เจิ้งไท่ชิงอดไม่ได้ที่จะพูดติดตลก หวังหยวนหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น“ฮ่าฮ่าฮ่า... ไม่ต้องกังวล จะไม่มีคำสั่งลับนี้หรอก…”หวังหยวนมั่นใจมาก เจิ้งไท่ชิงก็หัวเราะเช่นกันด้วยทหารหลายพันนายที่คอยคุ้มกัน การเดินทางครั้งนี้จะต้องปลอดภัยมาก“ไม่ไกลข้างหน้าคือเมืองหลวง ท่านต้องระวังมากขึ้น ข้าคิดว่าอ๋องเจิ้นตงจะใช้กลอุบายแน่ เพราะว่า... เขาไม่ต้องการให้ท่านเข้าเมืองได้อย่างราบรื่น!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา หวังหยวนย่อมเข้าใจว่าอ๋องเจิ้นตงและอ๋องเซ่อเป่ย ต่างก็เป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน หากอ๋องถูหนานไม่ตาย ทั้งสองคนก็น่าจะอยู่เฉย ๆ อย่างน้อยพวกเขาก็จะไม่ดำเนินการใด ๆ ในตอนนี้แต่ตอนนี้อ๋องถูหนานเสียชีวิตแล้ว คนที่คอยสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทเฮาจึงหายไปแล้ว แน่นอนว่าความทะเยอทะยานของพวกเขาก็สำแดงฤทธิ์!หวังหยวนรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เขาจึงรู้ด้วยว่าอ๋องเจิ้นตงจะต้องมีกลอุบายรอเขาอยู่แน่นอน!“ข้าเข้าใจ ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน”หวังหยวนยิ้มแล้วพูด ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงใกล้เมืองหลวง คนของเจิ้งไท่ชิงย่อมไม่ได้เข้าไปในเมืองด้วย แต่ได้รับมอบหมายให้ไปค่ายทหารนอกเมือง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 697

    “ปรากฏว่านี่คือผู้กำกับองครักษ์เมืองหวงใต้เท้าเกาเล่อนี่เอง สวรรค์เป็นพยาน ช่างมีวาจานุ่มนวลและท่าทางถ่อมตัวเหลือเกิน จนข้าคิดว่าเป็นขันทีในวังเสียอีก ขออภัย ขออภัย”หวังหยวนประสานมือ เลียนแบบตามตัวอย่างของเขา แล้วกล่าวขอโทษแต่หลังจากพูดเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเกาเล่อก็แข็งค้างไปครู่หนึ่ง และมองหวังหยวนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่ามากขึ้นแต่เขาไม่ทำอะไรเลย ยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านหมิงถัน สุภาพเกินไป สุภาพเกินไป ข้าจะมีชีวิตที่ดีถึงขั้นเป็นขันทีในวังได้อย่างไร”หลังจากพูดเช่นนี้แล้ว เขาก็มองหวงเจียวเจียวที่อยู่ด้านหลังหวังหยวน“นี่คือคุณหนูหวงนี่นา กลุ่มคนที่มารับท่านอยู่ด้านนั้น คุณหนูหวงโปรดเดินทางด้วยขอรับ”ในเวลานี้เกาเล่อยิ้มอ่อน แต่หวังหยวนก็เห็นว่าสายตาที่เขามองหวงเจียวเจียวนั้น ให้ความเคารพอย่างชัดเจนตัวตนที่แท้จริงของหวงเจียวเจียวคืออะไร?นางไม่ใช่สาวใช้ต่ำต้อยแบบที่นางบอกแน่นอน ผู้กำกับองครักษ์ประจำเมืองหลวงดูเคารพมาก นางต้องมาจากวังหลวงเป็นแน่!หรือว่านางจะมีความเกี่ยวข้องกับไทเฮาในทางใดทางหนึ่ง?“ขอบคุณใต้เท้าเกา”หวงเจียวเจียวยังคงเผยรอยยิ้มงาม อันเป็นเอกล

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1884

    สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปยังตงฟางฮั่นพลางเอ่ยถามขึ้นแม้เขาจะได้รับฟังเรื่องราวของเมืองอู่เจียงจากเกาเล่อมาบ้าง แต่ก็รู้เพียงผิวเผินเท่านั้นในเมืองอู่เจียงมีสี่ตระกูลใหญ่ ทั้งตระกูลเฉินและตระกูลซูล้วนรวมอยู่ในนั้น!แม้ทั้งสองตระกูลไม่ใช่ตระกูลที่รุ่งเรืองที่สุด แต่ก็มีบทบาทสำคัญในเมืองอู่เจียง!“ท่านหวังทราบหรือไม่ว่าตระกูลซูทำธุรกิจด้านใด?”ตงฟางฮั่นเอ่ยถามอย่างเชื่องช้า“ข้าได้ยินเกาเล่อรายงานว่าตระกูลซูทำธุรกิจขนส่งทางบก”“ว่ากันว่าในอดีต ซูหนานอัน หัวหน้าตระกูลซู เริ่มต้นจากการใช้รถเข็นสามล้อ แล้วค่อย ๆ สร้างฐานะขึ้นมา”“ต่อมาตระกูลซูก็เจริญรุ่งเรืองจนมีอำนาจดังเช่นทุกวันนี้”ทันใดนั้นหวังหยวนก็ตบหน้าผากตนเองอย่างแรง ราวกับนึกอะไรบางอย่างออกธุรกิจขนส่งทางบก!หากมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ ผลประโยชน์ของตระกูลซูย่อมเสียหาย พวกเขาจึงเป็นผู้ที่ต้องการขัดขวางโครงการนี้มากที่สุด!“ท่านตงฟางช่างเฉียบแหลมนัก!”หวังหยวนเอ่ยชมตงฟางฮั่นส่ายหน้ากล่าวว่า “บัดนี้ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นถูกต้องหรือไม่”“แต่ก็ควรไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง”“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเป็นถึงเจ้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1883

    “ข้าคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรพิจารณาว่าการสร้างเขื่อนกั้นน้ำไปขัดผลประโยชน์ของผู้ใด”“หากไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ อีกฝ่ายคงไม่ลงมือเช่นนี้”“เช่นนั้นพวกเราก็จะพบเป้าหมายได้โดยเร็ว”สมแล้วที่ตงฟางฮั่นเป็นบุคลากรที่ใคร ๆ ก็ต้องการ คำพูดของเขาทำให้หวังหยวนรู้สึกกระจ่าง!“เช่นนั้นเอง”“ตอนนี้พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่ม!”“กลุ่มแรกให้ฉุนอวี๋อันไปสืบหาตัวคนที่แอบเข้าใกล้บ่อน้ำเมื่อคืน!”“เพื่อตามหาตัวคนวางยา แล้วเค้นถามข้อมูลจากมันให้ได้!”“อีกกลุ่มหนึ่งต้องไปสืบในเมือง ดูว่าใครได้รับผลกระทบ ก็จะทำให้เรามุ่งเป้าหมายได้ถูกต้อง!”“ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องปลอบขวัญชาวบ้าน หากไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะอ้างเรื่องศาลเจ้ามังกรแล้วหยุดการทำงาน!”“เช่นนั้นจะทำให้การก่อสร้างล่าช้า!”ความคิดของหวังหยวนตรงกับคนอื่น ๆเพราะแท้จริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างเส้นทางคมนาคมทางน้ำเพื่อให้เมืองอู่เจียงพัฒนาจากนั้นก็จะสามารถพัฒนาเมืองหลิงได้!“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้นหรอก!”“ที่จริงข้าพอจะเดาออกแล้วว่าเป็นใคร”“ไม่ทราบว่าท่านหวังจะไปกับข้าหรือไม่?”ตงฟางฮั่นมองหวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1882

    ช่างเป็นเรื่องเหลวไหล!สิ่งที่เรียกว่าศรัทธาและเทพเจ้าก็เป็นเพียงที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อก็มี ไม่เชื่อก็ไม่มีสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ มีที่มาที่ไป หากมีเทพเจ้าและศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นจริง เหตุใดจึงมีผู้คนอดอยากยากไร้อยู่ทั่วทุกหนแห่ง?“ไร้สาระ!”หวังหยวนตำหนิ ฉุนอวี๋อันจึงไม่กล้าพูดต่อ“เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเป็นแน่”“หรือไม่ทุกคนติดโรคระบาดจึงเป็นเช่นนี้!”“รอข้าไปถึงแล้วค่อยว่ากัน!”หวังหยวนหลับตา ไม่พูดกับฉุนอวี๋อันอีกเพื่อไม่ให้ตนเองโมโหฉุนอวี๋อันงุนงง เขาเคยได้ยินชื่อโรคมากมาย แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องโรคระบาดมาก่อน!หรือจะเป็นโรคประหลาด?เมื่อเห็นหวังหยวนไม่สนใจ เขาก็เช็ดเหงื่อ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่นั่งเงียบไม่นานพวกหวังหยวนก็มาถึงเขตก่อสร้าง ชาวบ้านที่ได้ยินข่าวต่างมามุงดู สถานที่แห่งนี้ช่างคึกคักทางด้านตงฟางฮั่นอยู่ท่ามกลางฝูงชน กำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างตงฟางฮั่นเห็นหวังหยวนเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นเดินไปหาหวังหยวน“ท่านตงฟาง ข้าได้ยินเรื่องที่นี่แล้วจึงรีบมา”“ท่านมาก่อน พบเบาะแสอะไรหรือไม่?”ตงฟางฮั่นส่ายหน้า พลางขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ข้าให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1881

    ยามตะวันโด่งฟ้า หวังหยวนกับภรรยายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ“ท่าน!”“เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”“ท่านรีบออกมาเถิดขอรับ!”เสียงของฉุนอวี๋อันเต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเคาะประตูไม่หยุดปกติฉุนอวี๋อันเป็นคนรอบคอบ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียก่อนเสมอด้วยเหตุนี้ฉุนอวี๋อันจึงถูกมองว่าอ่อนแอ ไร้ความสามารถ เมืองอู่เจียงไม่เคยได้รับการจัดการอย่างดี และสี่ตระกูลใหญ่ก็มีอำนาจอยู่เหนือเขา!วันนี้เขากลับกล้ามาหาหวังหยวนถึงห้อง ทั้งยังมารบกวนการนอนของพวกเขา แสดงว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริง ๆ!หวังหยวนค่อย ๆ ยืดตัวบิดขี้เกียจ จากนั้นสวมเสื้อผ้าแล้วเปิดประตูมองไปที่ฉุนอวี๋อันเมื่อเห็นเขามีสีหน้าร้อนรนก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ฟ้าถล่มหรืออย่างไร?”อย่างไรเสียฉุนอวี๋อันก็เคยเป็นผู้ว่าราชการเมือง จึงจำเป็นต้องสงบนิ่ง ไม่หวั่นไหว แม้ภูผาจะถล่มก็ตามไม่เช่นนั้นหากเกิดเรื่องใดขึ้นมา ฉุนอวี๋อันจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้!แต่น่าเสียดายที่ฉุนอวี๋อันไม่ได้รับการฝึกฝน!โชคดีที่เขาเห็นข้อนี้ จึงให้ฉุนอวี๋อันลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1880

    “ต้องระมัดระวังทุกย่างก้าว”เกาเล่อรีบพยักหน้า“อีกอย่าง”“เจ้าไปเมืองผีครั้งนี้ต้องระวังตัวด้วย”“คำพูดของหลิ่วหรูเยียนเชื่อได้ แต่ก็ไม่ควรเชื่อทั้งหมด”“เมืองผีอาจไม่ใช่สถานที่ที่เราจะอยู่ได้ง่าย ๆ...”“หากพบเจอเรื่องยุ่งยากก็ปรึกษาข้าได้ตลอด อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม!”หวังหยวนกำชับอีกสองสามประโยคเกาเล่อเป็นมือขวาของเขา เขาย่อมไม่อยากให้เกาเล่อเป็นอันตราย ไม่เช่นนั้นหวังหยวนจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากบ่ายวันนั้น เกาเล่อเดินทางไปเมืองผีด้วยตัวเองส่วนหวังหยวนก็กลับไปที่พักหลี่ซื่อหานรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหวังหยวนเดินเข้ามา นางก็ยิ้มหวานเดินเข้ามาหา แล้วควงแขนหวังหยวนขณะกล่าวว่า “ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านกำลังทำอยู่ในช่วงนี้”“จะรับอนุภรรยาอีกแล้วหรือ?”หวังหยวนถึงกับหน้าเสียใครปากมาก เอาเรื่องนี้ไปบอกหลี่ซื่อหาน?ที่เขาไปหอนางโลมนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อสถานการณ์บ้านเมืองต่างหาก!“ในสายตาเจ้า ข้าเป็นผู้ชายที่เห็นผู้หญิงแล้วอดใจไม่ได้หรือ?”หวังหยวนจิบชา และกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์หลี่ซื่อหานยิ้มก่อนกล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน แต่คนอื่นไม่รู้จักนิสัยของท่าน อาจทำให้เกิด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1879

    “ข้าบอกก็ได้...”“เหตุใดต้องโหดเหี้ยมกับข้าด้วย?”“ข้าเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”หลิ่วหรูเยียนมองหวังหยวน ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงหวานมีเสน่ห์ “เจ้ารู้จักสถานที่แห่งหนึ่งทางตะวันตกที่ชื่อว่าเมืองผี หรือไม่?”“เมืองผี?”หวังหยวนส่ายหน้า ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่สายตาของเขามองไปที่เกาเล่อเกาเล่อเป็นหัวหน้าองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ ข้อมูลทั่วหล้าล้วนอยู่ในมือเขา หากแม้แต่เกาเล่อยังไม่รู้จัก แสดงว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ลับจริง ๆ!แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่าง คือหลิ่วหรูเยียนกำลังหลอกลวง!ทั้งหมดเป็นเพียงกลลวงของนาง!เกาเล่อเดินไปข้าง ๆ หวังหยวนแล้วกระซิบ “ข้ารู้จักเมืองผี...”“เดิมทีมันไม่ได้ชื่อเมืองผี ปัจจุบันมีชื่ออื่นแล้ว แต่เพราะเมื่อก่อนมีคนอดตายที่นั่นมากมาย มีข่าวลือว่ากลางดึกมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ จึงเรียกที่นั่นว่าเมืองผี”“แต่ที่จริงแล้วก็แค่เรื่องเล่าลือขอรับ”ฟังคำอธิบายของเกาเล่อแล้วหวังหยวนก็พยักหน้าจากนั้น ฃเขาก็มองไปที่หลิ่วหรูเยียนอีกครั้ง ก่อนกล่าวอย่างใจเย็น “เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าฐานทัพใหญ่ของพรรคทมิฬอยู่ในเมืองผีหรือ?”หลิ่วหรู

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1878

    ทันใดนั้นหวังหยวนก็ให้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อถอยไป ส่วนเขามานั่งยอง ๆ ตรงหน้าหลิ่วหรูเยียนมุมปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์ต่อรองกับข้าหรือ?”“ตอนนี้เจ้าอยู่ในมือข้า ตราบใดที่เจ้าทำตามที่ข้าต้องการ ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า ไม่ให้ใครมารังแกเจ้าได้”“แต่ถ้าเจ้ายังกล้าต่อรอง เจ้าก็ลองดู ว่าข้าจะทำเรื่องโหดร้ายอะไร”“แต่อย่าหาว่าข้าไม่เตือน หากเจ้าท้าทายข้า ทำให้ข้าหมดความอดทน ผลลัพธ์สุดท้ายคงคาดเดาได้...”“เจ้าจะต้องเสียใจแน่นอน”เมื่อเห็นแววตาจริงจังของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนก็อยากจะฆ่าเขานักเหตุใดนางจึงต้องมาเจอกับปีศาจตนนี้ด้วย?ช่างโชคร้ายเสียจริง!“ตกลง!”“เช่นนั้นเจ้าต้องปล่อยข้าก่อน”“เจ้าจับข้าไว้ด้วยตาข่ายเช่นนี้ ข้าอึดอัดจะตายแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วพูดหวังหยวนรับมีดสั้นจากสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อมาตัดตาข่ายใหญ่ตรงหน้าออก หลิ่วหรูเยียนจึงเป็นอิสระหวังหยวนกล่าวต่อ “ตอนนี้ข้าทำตามที่เจ้าต้องการแล้ว เจ้าควรจะบอกสิ่งที่ข้าอยากรู้ได้แล้วกระมัง?”เขาเองก็ใจกว้างพอหากไม่ใช่เพราะเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นผู้หญิง คงลงมือกับนางไปแล้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1877

    “เจ้าช่างเป็นคนต่ำทรามชั่วช้าเหลือเกิน!” หลิ่วหรูเยียนจะไม่เข้าใจสิ่งที่หวังหยวนจะสื่อได้อย่างไร ใบหน้านางซีดเผือดราวกับกระดาษ นัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจกลัวขณะตวาด!หญิงงามผู้มีชื่อเสียงในสถานเริงรมย์ แม้จะอยู่ในที่เช่นนั้น แต่ก็รักษาความบริสุทธิ์ไว้เสมอ ไม่เคยยอมให้ชายใดแตะต้องเรือนร่างอันงดงามของตน!แต่บัดนี้บุรุษผู้มีนามว่าหวังหยวนกลับใช้เรื่องนี้มาข่มขู่นาง เป็นการกระทำที่ชั่วช้าที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา!เหตุใดไม่รู้มาก่อนเลยว่าหวังหยวนน่ารังเกียจถึงเพียงนี้?“เจ้าไม่สมควรเป็นใหญ่ในแผ่นดิน!” “เจ้าเป็นแค่คนเลวทรามต่ำช้า!”“เช่นนั้นก็สังหารข้าเสีย การที่เจ้ามาล่วงละเมิดสตรีเช่นนี้ เจ้ายังถือว่าตนเป็นบุรุษผู้กล้าหาญได้อยู่หรือ?” “หากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ชื่อเสียงของเจ้าจะต้องเสื่อมเสียอย่างแน่นอนใช่หรือไม่?”นางพยายามอย่างตะโกนเพื่อที่จะเปลี่ยนใจหวังหยวนให้ได้ ทว่าใบหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกใด เขายืนกอดอกเอ่ยเสียงเรียบเฉย “เป็นเรื่องปกติที่จะใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพื่อปฏิบัติต่อผู้คนที่แตกต่างกัน”“หากเจ้าไม่ดื้อดึง ข้าก็คงไม่ต้องทำรุนแรงเช่นนี้ ข้าจะทำเช่นนี้กับ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1876

    “ข้าอยากรู้ว่าปากของนางกับมือของข้า อะไรจะแข็งกว่ากัน!”แม้จะเป็นเด็กกำพร้าก็ต้องหาวิธีง้างปากนางให้ได้!ไม่บรรลุเป้าหมายย่อมไม่หยุดยั้ง!ไม่นานหวังหยวนกับเกาเล่อก็มุ่งหน้าออกนอกเมืองที่หน้าศาลเจ้าเฉิงหวงหลิ่วหรูเยียนนั่งผิงไฟ ครุ่นคิดถึงแผนการต่อไปที่นางมาเมืองอู่เจียงนั้นเป็นเพราะคำสั่งของผู้นำระดับสูงในพรรคทมิฬ!เพื่อแทรกซึมเข้ามาในดินแดนศัตรู แล้วค่อย ๆ แผ่ขยายอำนาจไปยังเมืองหลิง!สาเหตุที่สาวกพรรคทมิฬแทรกซึมเข้ามาในดินแดนของหวังหยวน ไม่ใช่เพียงเพราะดินแดนของหวังหยวนเล็ก แต่เป็นเพราะหวังหยวนผู้นี้เป็นคนชาญฉลาดและรอบคอบ!หากเขาพบเบาะแสใดๆ ก็จะตามสืบจนเจอ และอาจนำพาหายนะมาสู่พวกเขา!แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!หวังหยวนเพิ่งจะสังเกตเห็นร่องรอยของสาวกพรรคทมิฬ ไม่คิดเลยว่าจะพบตัวหลิ่วหรูเยียน!จากนั้นค่อยสืบหาความลับของพรรคทมิฬ!เรื่องนี้ต้องระวังให้ดี!“เหตุใดนกพิราบสื่อสารยังไม่กลับมาอีกนะ?”“หรือว่าจะเกิดเรื่อง...”หลิ่วหรูเยียนที่นั่งอยู่หน้ากองไฟ สำรวจสถานการณ์นอกประตูด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักแม้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะซ่อนตัวอยู่ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของนาง!แต

DMCA.com Protection Status