แชร์

บทที่ 536

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
“หมายความว่าเจ้าไม่เพียงแต่โง่เขลาเท่านั้น แต่ยังตาบอดอีกด้วย สมองยาวถึงก้นไปแล้ว!”

ด้านหลังกลุ่มรถม้า มีชายหนุ่มคนหนึ่งถูกลากตัวออกมาจากรถม้า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ

“หากเขามีสมองยาวถึงก้นจริง เขาคงไม่ทำอะไรเช่นนี้!”

“หากยังคาดหวังให้แม่ทัพคนนี้มีสมอง ก็เหมือนคาดหวังให้งาช้างงอกจากปากสุนัข!”

“ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีสมอง เป็นเพราะเขาเคยชิน กับการปิดท้องฟ้าด้วยมือเดียวในเมืองหล่งหนาน จึงกล้าทำผิดกฎหมาย!”

“แปลกอย่างสุภาษิตโบราณที่ว่าไว้ โจรปล้นยังเหลือบ้าน ทหารปล้นไม่เหลืออันใดเลย คนพาลพวกนี้เลวร้ายยิ่งกว่าโจร!”

“พวกโจรแค่ขู่กรรโชกเอาทรัพย์สิน แต่พวกเจ้าใส่ร้ายและถึงกับต้องการฆ่าคนอื่น!”

“ทำเรื่องไร้สาระน่าขยะแขยงเหล่านี้ไปได้!”

ที่ด้านหลังของขบวนรถม้า ทหารดึงคนออกมาทีละคน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธขณะด่าทอ!

เมื่อพวกเขากำลังถูกทหารลากออกมา ทำให้พวกเขาอับอายอายขายหน้ามาก!

“บังอาจ พวกเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร พวกกลุ่มพ่อค้าที่น่ารังเกียจ กล้าดีอย่างไรมาดูหมิ่นแม่ทัพเช่นข้า จับพวกมันให้หมด ใครกล้าขัดขืนจะถูกยิงตาย!”

เว่ยเฉิงโกรธจัด และชักดาบออกมาชี้ไปยังคนกลุ่มนั้น

เขาเป็น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 537

    ไม่ว่าเรื่องที่หวังหยวนเอาชนะชาวหวงจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เขาก็เอาชนะชิงเมี่ยนโช่วในเมืองเฮ่อได้จริง และนำความสงบสุขมาสู่เมืองเฮ่อได้ ส่วนเว่ยเฉิงรู้สึกอิจฉาในความสามารถของเขา ทำให้บัณฑิตหนุ่มเหล่านี้ที่ยังไม่ได้เข้ารับราชการอย่างเป็นทางการโกรธเกรี้ยว!สิ่งสำคัญที่สุดคือถ้อยคำที่ดีชั่วนิรันดร์ของหวังหยวน ได้รับการเผยแพร่ในหมู่บัณฑิต และได้รับความชื่นชมมากมายในหมู่เจ้าหน้าที่!“อ๊ะ เขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลี่จริง ๆ ข้าเคยเห็นเขานอกคฤหาสน์ตระกูลหลี่!”“แล้วเหตุใดเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้ล่ะ เมื่อกี้ข้าดึงนายน้อยหลี่อย่างแรงไปแล้ว!”“ตะกี้นายน้อยหลี่ปิดหน้า ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเขา!”“ใต้เท้ากู้ที่เป็นข้าราชการระดับสูงในเมืองหลวง กลับบ้านมาไว้ทุกข์ หลังจากที่มารดาเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน เหตุใดเขาถึงมาที่นี่ได้!”ทหารกลุ่มหนึ่งตัวสั่น สิบสองคนที่ถูกพวกเขาดึงออกมาต่างล้มลงบนพื้นเมื่อครู่นี้ในต้าเย่บัณฑิตมีสถานะสูงสุด แต่พวกเขาลากคนที่มีตำแหน่งจู่เหรินกับจิ้นซื่อ ลงมากองกับพื้นเช่นนี้ นี่ไม่ได้เป็นการรนหาที่ตายหรอกหรือ!เว่ยเฉิงขนหัวลุก เขากัดฟันจ้องมองหวังหยวน “เจ้าเด็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 538

    จู่เหรินโจวเจิ้งเงยหน้าขึ้น แล้วพูดว่า “เว่ยเฉิง อาจารย์ของข้า หวังฉงกวง เป็นเส่าชิงของศาลต้าหลี่ หากเจ้าใส่ร้ายคนอื่นเช่นนี้ ข้าจะนำเรื่องนี้ไปถึงศาลต้าหลี่แน่นอน!”...ทั้งสิบเอ็ดคนออกมาจากข้างหลังทีละคน เหมือนว่าจะจัดการให้ถึงที่สุด!“ใต้เท้า นี่เป็นความเข้าใจผิดจริง ๆ เป็นพวกคนใต้บัญชาของข้าต่างหากที่ก่อความวุ่นวาย!”หน้าผากของเว่ยเฉิงเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาครุ่นคิดอยู่นานเพื่อหาคำแก้ตัวที่ฟังขึ้น “ข้าไม่เข้มงวดกับผู้ใต้บัญชา ท่านใต้เท้าทุกคนรายงานข้าได้ ข้าก็จะโดนไล่ออกจากตำแหน่ง แต่เป็นคำสั่งของท่านเจ้าเมือง ที่ให้สืบสวนเรื่องการครอบครองชุดเกราะ คันธนู และหน้าไม้อย่างเข้มงวด ใต้เท้าเผยจะสอบสวน แม้ว่าข้าจะเสียตำแหน่งราชการก็ตาม พวกท่านจะขัดขวางใต้เท้าเผย ไม่ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลาง เพราะเห็นแก่พ่อค้าผู้ไม่เคยถูกใช้ในราชสำนักหรือ?”สำหรับบัณฑิตกลุ่มนี้ เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องยกคนที่อยู่เบื้องหลังมาอ้างเจ้าหน้าที่หลายคนขมวดคิ้ว!พวกเขาเข้าใจความหมายของคำพูดของเว่ยเฉิง คนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้คือเจ้าเมืองหล่งหนาน เผยเซียนเจิ้งตอนนี้พวกเขากำลังยืนหยัดเพื่อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 539

    “ใต้เท้า หากข้ากล้าโจมตีพวกเขา พวกขุนนางในราชสำนักทั้งหมดจะสังหารข้า”เว่ยเฉิงเศร้าใจ แต่ก็รู้สึกโล่งใจทหารทำร้ายข้าราชการฝ่ายพลเรือน ต้าเย่ก่อตั้งมากว่าสองร้อยปี แต่เรื่องเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้น!หากเขากล้าลงมือ เขาจะถูกคนนับพันลงโทษ!ส่วนจะสู้หรือซ่อน ก็ถือว่าต้องพิจารณาก่อนเช่นกันบัณฑิตเหล่านั้นทุบตีเขาเช่นนี้ เขาก็อับอายเกินกว่าจะติดต่อกับพวกเขาอีกแน่นอนว่าหลังจากกลุ่มคนเหล่านั้นทุบตีเขา ก็ไม่มีการพูดถึงการเข้าร่วมกับเขาอีกต่อไปหวังหยวนก็ไม่ได้รบกวนเขาต่อ แต่ออกไปพร้อมกับคนของเขาเผยเซียนเจิ้ง เจ้าเมืองหล่งหนานยังคงตำหนิ “ไร้ประโยชน์ กลุ่มคนที่ไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ราชบัณฑิตระดับแปด ดูสิว่าเจ้ากลัวแค่ไหน ทั้ง ๆ ที่เจ้าเองก็เป็นแม่ทัพระดับห้า!”“ใต้เท้า ไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้ว่าในต้าเย่ ทหารอย่างพวกข้าไม่ได้อยู่ในสายตาของข้าราชการพลเรือน! ไม่ต้องพูดถึงระดับแปด แม้แต่ระดับเจ็ดข้าก็ไม่กล้าสู้กลับ!”เว่ยเฉิงขมขื่น “ใต้เท้า ชายคนนั้นเป็นคนขี้โกงและมีกลอุบายมากมาย ฉะนั้นลืมเรื่องนี้ไปเสียเถอะขอรับ!”“คนทรยศกลุ่มนั้น เจ้ากลัวก็กลัวไป แต่พวกนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของข้าเลย!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 540

    มูลค่าเกือบสามร้อยตำลึงเงิน!“... ท่านมอบให้ ไม่กล้าหรอกขอรับ!”หลังจากรับของไปแล้วก็รู้สึกหนัก เมื่อรู้สึกว่าได้สัมผัสแท่งเงินในห่อผ้า กู้ชิงเฟิงก็รู้สึกมีความสุข แล้วเข้าไปในรถม้าด้วยสีหน้าสงบก่อนจากไป!จู่เหรินหลัวซื่อเฉิงก็ก้าวเข้ามาพูดว่า “ใต้เท้า ภรรยาของศิษย์กำลังจะคลอดในเดือนตุลาคมนี้ ศิษย์ไม่อาจอยู่ข้างนอกได้เป็นเวลานานอีกต่อไป ต้องบอกลาแล้วขอรับ!”“นี่ก็เป็นเรื่องใหญ่เช่นกัน หากเจ้าอยากกลับไปเฝ้า ข้าก็จะไม่รั้งไว้!”หวังหยวนหยิบห่อใส่ของมาให้ด้วย แล้วพูดเหมือนเดิม!บัณฑิตนั้นใส่ใจเรื่องหน้าตา หากเสนอเงินให้พวกเขาในที่สาธารณะ ก็จะไม่มีใครยอมรับแต่อาจจะหันมาทะเลาะกันด้วยซ้ำ!หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็มาบอกลา ด้วยเหตุผลเรื่องครอบครัว!หวังหยวนมีสีหน้าเห็นใจ พูดปลอบโยน และแบ่งของให้พวกเขารับไปทีละคน!ในช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งสิบเอ็ดคนก็จากไปจนหมด!หลี่จ้าวหลินขมวดคิ้ว คนเหล่านี้ยังคงกลัวเผยเซียนเจิ้ง จึงไม่กล้าอยู่ด้วย!กุบกับกุบกับ!ในขณะนี้ มีม้าเร็วตัวหนึ่งควบม้าเข้ามา และคนรับใช้ในชุดเขียวก็ลงจากหลังม้ามาหาหลี่จ้าวหลิน คุกเข่าลงแล้วรายงานว่า “คุณชายใหญ่ นายท่านไม่สบา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 541

    หวังหยวนยกยิ้มและโบกมือ “รบกวนมากแล้ว ดังนั้นข้าจะให้เจ้าอีกสองก้วน ให้ช่วยไปถามให้ข้าหน่อย!”ไม่ใช่ว่าเขาลังเลกลัวจะให้เยอะเกินไป แต่ตอนนี้เงินเป็นเพียงตัวเลขสำหรับเขา!แต่คนจนเหล่านี้ หากให้เงินสองตำลึง พวกเขาก็จะสามารถซื้อข้าวและบะหมี่ได้!ให้พวกเขาสักสิบหรือยี่สิบตำลึง มันจะไม่ตกไปอยู่ในมือพวกเขา!“คุณชาย ท่านมีจิตใจดีจริง ๆ ข้าจะช่วยหาบ้านให้ท่านเดี๋ยวนี้!”เยี่ยโก่วเซิ่งวิ่งจากไปฮือฮากันทั้งหมู่บ้านไม่นานหลังจากนั้น ชาวบ้านในชุดมอมแมมกลุ่มหนึ่ง ก็เดินล้อมรอบชายหนุ่มในชุดคลุมยาวเข้ามาหาเสื้อคลุมสีขาวของชายหนุ่มมีรอยเปื้อนจาง ๆ แต่ก็ยังสะอาดมาก มือและใบหน้าของเขาก็ขาวสะอาดเยี่ยโก่วเซิ่งแนะนำให้รู้จักกับหวังหยวน “คุณชาย นี่คือพี่เยี่ยเทียน หัวหน้าหมู่บ้านเยี่ยเจียของเรา เขาเป็นบัณฑิตที่มีชื่อเสียง และเป็นเจ้าของที่ดินรายใหญ่ในหมู่บ้านของเรา ครอบครัวมีที่ดินห้าร้อยหมู่ แต่เขาเมตตาพวกเรายิ่งนัก เพราะคิดราคาค่าเช่าแค่ร้อยละยี่สิบเท่านั้น!”“น้องเยี่ยช่างเมตตานัก!”หวังหยวนกำประสานมือแล้วเอ่ยชมอย่างจริงใจ “ข้า หวังหยวน มาจากเมืองฝู จะไปทำธุรกิจในเมือง!”เจ้าของที่ดินมักเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 542

    สาวใช้ของตระกูลเยี่ยทำแป้งอบธัญพืช โจ๊กข้าวฟ่าง ผัดหัวไชเท้าหนึ่งหม้อ และตุ๋นไก่หนึ่งตัวเพื่อต้อนรับหวังหยวนทหารผ่านศึกของหวังหยวนปรุงอาหารเอง หลังจากทำงานหนักตลอดทาง อาหารมื้อนี้ก็ไม่เลวนำเนื้อแห้งมาย่าง อบแผ่นแป้งบนกองไฟ และทำซุปไข่ในหม้อ กลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วทั้งนอกประตู!เด็กหลายคนรวมตัวกันยืนกลืนน้ำลายอยู่รอบประตู รวมทั้งเยี่ยโก่วเซิ่งด้วย!“วันนี้ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ไม่มีเนื้อสำหรับพวกเจ้า รีบกลับบ้านไปเถอะ!”เยี่ยเทียนโบกมือให้เด็ก ๆ ก่อนมองหวังหยวนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ในชนบทนั้นยากจน เมื่อเนื้อสุก เด็ก ๆ ต่างก็หิวโหย แต่ละคนจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเนื้อชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นเดียวเท่านั้น!”เด็ก ๆ หันหน้าหนีอย่างไม่เต็มใจ แต่หวังหยวนกวักมือเรียกเยี่ยโก่วเซิ่ง “อยากกินเนื้อหรือ!”เยี่ยโก่วเซิ่งกลืนน้ำลายแล้วส่ายหน้า เมื่อเห็นหวังหยวนมองเขาด้วยรอยยิ้ม เขาก็หน้าแดงและก้มหน้าลง “อยากขอรับ!”หวังหยวนยิ้มและพูดว่า “บอกให้เพื่อน ๆ ของเจ้าเข้าแถว ทุกคนจะได้กินเนื้อกันคนละชิ้น!”“ขอบคุณขอรับคุณชาย!”เยี่ยโก่วเซิ่งรีบวิ่งไปบอกให้เด็ก ๆ เริ่มเข้าแถวที่หน้าประตู!หวังหยวนพูดกับทหารผ่านศึกท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 543

    ไม่ใช่ว่าเขาฉลาดถึงเพียงนั้น!“พี่หยวน โปรดระวังคำพูดด้วย!”ใบหน้าของเยี่ยเทียนเคร่งขรึม เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านหมิงถันเป็นผู้เชี่ยวชาญ ทั้งด้านวรรณกรรมและการทหาร เขาสามารถเอาชนะทหารม้าชาวหวงนับแสนได้ เป็นผู้ประพันธ์ 'สี่ประโยคของหมิงถัน' 'แดงทั่วธาร’ ' ช่วยส่งจ้าวเว่ยหมินไปในเมือง เขาเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริงในโลกนี้”“อะแฮ่ม!”หวังหยวนขมวดคิ้ว “เป็นแม่ทัพหนุ่มที่เอาชนะชาวหวง ไม่ใช่ท่านหมิงถัน!”ชายคนนี้ เขาได้ยินข่าวมาจากไหน รู้ดีเกี่ยวกับเมืองจิ่วซานจริง ๆ!“ความดีความชอบของแม่ทัพหนุ่มนั้นมีจริง แต่ความดีความชอบใหญ่เป็นของท่านหมิงถัน นี่คือสิ่งที่ชาวหวงบอกข้า ตอนที่ผ่านทางมาขออาหาร!”เยี่ยเทียนลดเสียงลง “น่าเสียดายที่พวกขุนนางทรยศในราชสำนักได้หลอกลวงฮ่องเต้ จึงไม่จ้างท่านหมิงถัน มันน่าเสียดายจริง ๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านหมิงถันจะเป็นอย่างไรบ้าง จะท้อแท้หรือเปล่า!”ต้าหู่ องครักษ์รุ่นเยาว์ และทหารผ่านศึกเกราะทมิฬที่นั่งอยู่ห่าง ๆ ต่างกลั้นเสียงหัวเราะไว้เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังขบขัน หวังหยวนก็กัดฟันพูดว่า “เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก หากท่านหมิงถันมีความสามารถจริง ๆ ย่อมจะไม่โดนโจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 544

    ทุกคนในหมู่บ้านเยี่ยเจียมีนามสกุลคือเยี่ย มีเพียงคุณชายหวังหยวนที่มาพักค้างคืนเท่านั้น ที่มีนามสกุลหวัง คนน่ากลัวเหล่านี้กำลังพูดถึงเขาอยู่แน่นอน!เยี่ยโก่วเซิ่งย่อตัวไปพิงกำแพง แล้วแอบฟังเงียบ ๆตะเกียงน้ำมันถูกจุดไว้ในห้องมืดสลัว เจ้าของบ้านที่มีนามว่าเยี่ยเอ้อผีคุกเข่าลงบนพื้น ขณะตัวสั่นเทาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดียวนั้นเป็นชายวัยกลางคน ที่มีหนวดและดวงตาคมกริบราวกับนกอินทรี ด้านข้างมีหลี่ฉางและเจ้าหน้าที่ตรวจการอีกสี่คนหลี่ฉางผายมือไปที่ชายวัยกลางคน แล้วแนะนำ “เอ้อผี นี่คือผู้ตรวจการเฉียวจากในเมือง เขาต้องการถามคำถามเจ้า เจ้าต้องตอบตามความเป็นจริง!”“ได้ ได้ขอรับ!”เยี่ยเอ้อผีคุกเข่าลง และพยักหน้ารัวราวไก่จิกข้าวเขาเคยได้ยินชื่อเสียงของผู้ตรวจการเฉียว ในฐานะผู้ตรวจการจอมอันธพาล เขาคือคนสำคัญในเมืองนี้เขาไขคดีได้ราวกับเทพเจ้า ทั้งขาวทั้งดำรับหมด และวิธีการของเขาโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง!เฉียวคุน หัวหน้าผู้ตรวจการหล่งหนานกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ชายสกุลหวังคนหนึ่งมาที่หมู่บ้านของเจ้า เพื่อพักค้างคืนพร้อมรถม้ายี่สิบคัน ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนแล้ว?”เมื่อผู้ตรวจการเฉียวถามว่าพ่อค้

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status