Share

บทที่ 36

Author: ชวินเป่ยอี๋
ที่ประตูเมือง หวังหยวนและเอ้อหู่ได้พบกับคนขายปลาในหมู่บ้านต้าหวัง

“พี่หยวน วันนี้เราขายไปได้สามสิบก้วน นับว่ายังได้มากโข!”

หวังซื่อไห่มีจิตใจฮึกเหิม

หลังจากได้เงินคืนแล้ว ก็ไปพบผู้พิพากษาอีกครั้ง แล้วพักอยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในอำเภอ

เมื่อกลับมาที่หมู่บ้านต้าหวัง แม้แต่สายตาของผู้อาวุโสหวังปี่จง ก็เปลี่ยนไปเมื่อมองเขา และพี่สะใภ้ของเขาก็ให้น้ำล้างเท้าเขาในตอนกลางคืน

ทุกคนไม่เรียกเขาว่าซื่อไห่ เสี่ยวไห่ หรือไห่จื่ออีกต่อไป เมื่อเจอเขา แต่เรียกเขาว่าพี่ไห่ ท่านไห่ หรือลุงไห่

ตอนนี้เขามีจิตใจดี และมีหน้าที่เป็นผู้นำกลุ่มขายปลา

ทีมประมงที่มีสมาชิกสามสิบคน บางครั้งสามารถจับปลาได้มากถึงหนึ่งพันตัวต่อวัน และบางครั้งก็ห้าหรือหกร้อยตัวต่อวัน

ส่วนหนึ่งนำไปขายที่ตลาด และส่วนใหญ่ส่งไปขายในเมือง

“พี่หยวน ช่วงนี้ท่านเหนื่อยมากหรือไม่?”

ชาวบ้านสิบคนจากกลุ่มขายปลา หรี่ตาก้าวเข้าไปทักทายหวังหยวน

“ก็เหนื่อยนิดหน่อย!”

หวังหยวนพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ

เป็นเวลาสามวันแล้ว ที่ต้าหู่กับเอ้อหู่ และลุงของเขาทำงานหนักมาก เขาแค่ไปช่วยบ้างเท่านั้น

แต่เมื่อก่อนเขามีสุขภาพย่ำแย่ ทำงานเพียงเล็ก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 37

    กลุ่มชาวประมงกลับคืนสู่หมู่บ้าน!เมื่อเห็นหวังหยวน เด็ก ๆ ต่างพากันวิ่งหนีไป บางคนก็ร้องด้วยความตกใจเมื่อเหล่าหญิงสาวเห็นหวังหยวน ก็ก้มหน้าลงหน้าแดงก่ำ และเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นหัวเราะเมื่อชาวบ้านเห็นหวังหยวน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงผู้เฒ่าหวังปี่จงหันหลังเดินจากไป เมื่อเห็นหวังหยวน ไม่วิ่งเข้ามาหาเหมือนเมื่อก่อนหลังอาหารเย็นกลุ่มประมงมาประชุมกันไม่มีเก้าอี้ โต๊ะหรือห้องประชุม คนกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันที่ลานบ้านของหวังหยวนส่วนใหญ่กำลังนั่งยอง ๆ และบางคนก็นั่งลงกับพื้นเลยหวังหยวนนั่งอยู่ที่ประตูทั้งสองฝ่าย มีสมาชิกหลักสี่คน ได้แก่หวังหานซาน หวังซื่อไห่ ต้าหู่และเอ้อหู่ถักจากต้าไห่คือเอ้อไห่ ซานไห่ ชิงซาน เสี่ยวซานและลุงอีกห้าคนยิ่งสนิทสนมกันก็ยิ่งนั่งใกล้กัน หวังหยวนกับชาวบ้านเองก็รู้ตำแหน่งของตนอยู่ในใจชาวบ้านมากกว่าสามสิบคนนั่งล้อมวงกันเป็นวงขนาดใหญ่ และยังมีชาวบ้านนอกลานบ้านที่ไม่ได้เข้ามาด้วยบางคนเป็นครอบครัวของกลุ่มชาวประมง บางคนเป็นคนในหมู่บ้านที่ต้องการชมความสนุกสนานห้าวันที่ผ่านมาจับปลาได้กว่าสามพันจิน ขายได้สองพันสี่ร้อยจิน หาเงินได้ทั้งหมด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 38

    ......ชาวบ้านหลายคนถือเหรียญไว้ ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพลางหลั่งน้ำตาชาวไร่ชาวนาเช่นพวกเขาไม่อาจทำเงินได้มากมาย แม้จะทำงานหนักมาทั้งปีก็ตามอยากทำงานในเมือง แต่หางานไม่ได้เมื่อไปทำงานในบ้านของเถ้าแก่ ก็มักจะได้มาอาหารมาจุนเจือครอบครัวได้ แต่ไม่ได้รับค่าจ้างเป็นเงินเลยงานในอำเภอก็เหมือนแรงงานเกณฑ์ ไม่เพียงแต่ไม่ได้รับค่าจ้างเป็นเงินเท่านั้น แต่ยังต้องพกอาหารแห้งไปกินเองด้วยตอนนี้ทำงานให้กับหวังหยวนได้เพียงสองสามวัน ก็ได้รับเหรียญทองแดงมากมายแล้ว“ข้าละเลยเรื่องนี้ไป โชคดีที่ลุงหานซานพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา!”หวังหยวนยกยิ้ม แล้วพูดว่า “หากไม่ใช่เพราะลุงหานซาน ก็คงไม่ได้รับค่าจ้างคืนนี้แน่นอน ดังนั้นหากมีปัญหาใดอีก ทุกคนต้องยกมันขึ้นมาพูด เพื่อที่เราจะได้ช่วยกันแก้ไข”ชาวบ้านพยักหน้าราวกับไก่จิกข้าวเปลือก ความกระตือรือร้นของพวกเขาถูกกระตุ้นอย่างเต็มที่หวังหยวนยกยิ้ม “ใครจะเป็นคนต่อไป!”“ข้า ข้า...”ชาวบ้านทุกคนต่างแย่งกันพูดหวังหยวนชี้ไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่ง แล้วพูดว่า “เอาล่ะ เอ้อโกว เจ้าถามมา!”“ข้า ข้า!”เด็กหนุ่มหวังเอ้อโกวยืนขึ้น เกาหูและแก้มด้วยความประหม่า เงียบอยู่พัก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 39

    หวังหยวนมีสีหน้าจริงจัง “ต้องกินอาหารให้ดีจึงจะทำงานหนักได้ ไม่เช่นนั้นร่างกายจะทนไม่ไหว! ข้าเข้าใจสถานการณ์ของทุกคน แม้ว่าพวกเจ้าจะได้รับเงินค่าจ้างมากขึ้น แต่ก็ทนกินตามใจไม่ได้”ชาวบ้านหัวเราะแห้งคนในชนบทก็เป็นเช่นนี้ หารายได้พิเศษได้เดือนละไม่กี่กว้าน จึงต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัดแม้ว่าจะอาศัยในบ้านนายจ้าง ก็ได้กินเพียงแค่พอประทังชีวิต ไม่มีใครได้กินเนื้อและปลาเยอะทุกวัน!ต้องประหยัดเงิน!หวังหยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เช่นนั้นค่าจ้างและเงินพิเศษจะยังคงเท่าเดิม และยังคงแจกปลาด้วย แต่กลุ่มประมงจะจ่ายค่าโรงอาหารขนาดใหญ่ เพื่อดูแลอาหารสามมื้อต่อวัน ต้องได้กินดื่มให้อิ่มหนำทั้งเช้า กลางวัน เย็นทุกมื้อ มื้อเที่ยงจะมีค่าเนื้อให้คนละสามชิ้น”ชาวบ้านตกตะลึง!ดูแลอาหารสามมื้อต่อวัน กินข้าวให้อิ่มทุกมื้อ ได้กินข้าวสวยเกินสองมื้อ และเนื้อสัตว์สามชิ้นตอนเที่ยงแม้แต่เถ้าแก่ก็ไม่กล้ากินเช่นนี้หวังหยวนยังคงเตรียมการต่อไป “ลุงหานซาน ไปหาแม่ครัวห้าคน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป แต่ละคนจะได้รับเงินเดือนสม่ำเสมอ ต้องสร้างโรงเก็บของก่อนทำอาหาร แล้วค่อยหาคนมาสร้างโรงอาหารทีหลัง ท่านสามารถจัดการร

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 40

    เมื่อเห็นการสนับสนุนของหวังหยวน เอ้อหู่ก็เงยหน้าขึ้นด้วยความภาคภูมิใจแปะ แปะ แปะ…ชาวบ้านก็ปรบมือเบา ๆพวกเขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากได้มัน แต่เป็นเพราะคนจนไม่มีคุณสมบัตินั้นตราบใดที่สามารถทำเงินได้ ต่อให้ขาหักก็ไม่สำคัญหวังหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ด้วยวิธีนี้ กลุ่มขายปลาจะขยายเป็นสามสิบคน แล้วแบ่งออกเป็นสามกลุ่มทุกวัน กลุ่มหนึ่งจะไปประจำที่เทศบาล กลุ่มที่สองจะไปตลาด และกลุ่มที่สามจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน โดยจะไปที่เทศบาลทุก ๆ สามวัน จำนวนเกวียนล่อก็ต้องเพิ่มขึ้นเป็นสามเล่ม เมื่อออกไปให้ใช้สองเล่มขนปลา ทุกคนผลัดกันนั่งในเกวียนเล่มหนึ่ง เมื่อทุกคนกลับมาแล้วก็ขึ้นเกวียน จะสามารถลดระยะทางเดินได้สามสิบลี้ เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องเหนื่อยมาก”“ไม่ ไม่ได้ นี่มันดีเกินไป ไม่จำเป็นต้องพักระหว่างทำงานก็ได้!”“การสรรหาคนเพิ่มอีกยี่สิบคนจะต้องใช้เงินเยอะขึ้น หวังหยวน เจ้าทนได้หรือ?”“คนชนบทอย่างพวกเราไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น ต่อให้ต้องเดินเพิ่มอีกแปดลี้ สิบลี้ก็ไม่หวั่น”ชาวบ้านถึงกับหลั่งน้ำตาคัดค้านนี่เป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับพวกเขา ดีจนพวกเขาไม่กล้าแม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 41

    ชาวบ้านทั้งหมดเงียบกริบ มีสถานที่ขายปลาเพียงสองแห่งเท่านั้น คือตลาดและเทศบาลมีสิบสามเขตในเมืองฝู แต่ละเขตจะมีตลาดจัดขึ้นทุก ๆ สองวัน จึงมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถซื้อปลาได้ขายปลาไม่ง่ายเหมือนขายที่เทศบาลหากการขายปลาในเทศบาลมีปัญหา หากพวกเขาจับปลาได้เยอะก็จะขายไม่ออกหวังหยวนหรี่ตา “น่าวซานเจียงเล่นไม่ซื่ออีกแล้วหรือ?”หวังซื่อไห่ส่ายหน้า “น่าวซานเจียงตกต่ำไปแล้ว ตลาดปลาค่อนข้างวุ่นวาย เมื่อสามวันก่อนที่ตลาดปลา น่าวซานเจียงถูกหักขาในตลาดปลา พวกลูกสมุนของเขาก็ย้ายฝั่ง และเริ่มเก็บค่าคุ้มครองอีกครั้งในตลาดตงซื่อ คนผู้นั้นยังบอกด้วยว่าจะไม่ทำร้ายเรา แต่บอกเราว่าไม่ให้พูดเรื่องเหลวไหลกับคนนอก”“ฝานเจียงหลง!”หวังหยวนหัวเราะเบา ๆ “เป็นเพียงลูกสมุน แต่ยังคงเป็นตัวแทนของสิงซาน!”“น่าจะเป็นเช่นนั้น!”เนื่องจากทุกวันนี้มีประสบการณ์มากขึ้น และได้รับความรู้มากมาย หวังซื่อไห่จึงเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น “แม้ว่าฝานเจียงหลงจะบอกเราว่า เขาจะไม่เก็บค่าคุ้มครอง แต่เราขายปลาได้เยอะทุกวัน ตาของเขาจึงเริ่มแดง ข้าเดาว่าอีกไม่นานเขาคงทนไม่ไหว สองวันที่ผ่านมา หลังจากที่เราขายปลาหมด ก็มีคนแอบติดตามเรามา สง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 42

    หวังหยวนมองเหล่าชาวบ้าน “มีใครสามารถทำบัญชีได้บ้าง?”ชาวบ้านทุกคนส่ายหน้าพวกเขาสามารถทำงานหนักได้ แต่ถ้าจำเป็นต้องทำบัญชีจริง ๆ พวกเขายังถือพู่กันไม่ค่อยเป็นเลยด้วยซ้ำ“เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะอ่านอย่างไร!”“หัวหน้าตระกูลอ่านออกเขียนได้ จึงสามารถทำบัญชีได้ เหตุใดเราไม่ให้หัวหน้าตระกูลเป็นคนทำบัญชีล่ะ?”“สายเลือดหัวหน้าตระกูลนั้นสูงส่ง ต้องน่าอายเป็นแน่!”ชาวบ้านพูดคุยกันด้านนอกกำแพงบ้าน หัวหน้าตระกูลที่กำลังฟังอยู่ที่กำแพง ก็ใจเต้นไม่เป็นจังหวะใช่ เขาไม่อาจเสียหน้าได้ การออกไปคลุกคลีกับพวกบ้านนอกจำนวนมาก จะทำให้บัณฑิตอับอายขายหน้าหวังหยวนคนนี้ยังเด็กเกินไป จึงไม่เข้าใจว่าคนเป็นเจ้าคนนายคนต้องวางตัวอย่างไร คนจนต้องได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่ทำงานหนัก และจะคดโกงเมื่อมีโอกาสหากดีกับพวกเขามากไปเช่นนี้ ก็รอดูได้เลย จะต้องถูกคนจนเหล่านี้ตบหน้าแน่นอน“พี่หยวนก็เรียนมาเยอะมาก ต้องทำบัญชีได้แน่นอน เหตุใดไม่ให้พี่หยวนทำบัญชีล่ะ!”“จะให้เจ้านายเป็นคนทำบัญชีเองได้อย่างไร!”“หากจ้างคนทำบัญชี เราก็อาจจะได้ค่าจ้างน้อยลง!”ชาวบ้านเริ่มพูดคุยถกเถียงกันหวังหยวนก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 43

    มีหลายเรื่องที่ไม่อาจพูดในที่สาธารณะได้ และหวังหยวนก็มีบางอย่างที่จะอธิบายให้ทั้งสี่คนฟังด้วยเข้าไปในนั่งในห้องโถงหวังหยวนพูดตามตรง “ลุงหานซาน มีใครในกลุ่มจับปลาที่ดูสองจิตสองใจบ้างหรือเปล่า?”แม้ว่ากระบวนการจับปลาจะมีขั้นตอน แต่วิธีการนั้นง่ายดาย คนฉลาดย่อมสามารถเข้าใจได้ หลังจากทำไปสักสองสามวันแล้วหวังหานซานส่ายหน้า “ไม่มี!”“ดี!”หวังหยวนรู้สึกประหลาดใจค่าจ้างกลุ่มประมงไม่สูงนัก และสามารถขายปลาได้สี่สิบหรือห้าสิบจินก่อนจะสอนให้คนรู้จักจารีตและความละอาย ควรให้เขาได้กินอิ่มนุ่งอุ่นเสียก่อน ชาวบ้านที่ขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม จะไม่พอใจได้อย่างไรหวังซื่อไห่หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “พี่หยวน ท่านส่งหลิวโหย่วไฉไปแล้ว ต้าหู่กับเอ้อหู่ต่างก็สู้เก่งมาก แม้ว่าทุกคนจะรู้เคล็ดลับการจับปลา แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกจากกลุ่ม ใครจะไม่กลัวถูกจับสักแล้วส่งเข้ากองทัพบ้าง!”หวังหานซานกล่าวเสริมว่า “แม้จะมีคนขายปลาและชาวประมง อยู่ตามตลาดและเทศบาล แต่ชาวบ้านมีความซื่อสัตย์มาก จึงไม่กล้าติดต่อกับคนเหล่านั้น”“เช่นนี้แล!”หวังหยวนยกยิ้ม แล้วส่ายหน้า เขาคาดไม่ถึงเลยหวังซื่อไห่กระซิบ “พี่หยว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 44

    ใบหน้าของต้าหู่และเอ้อหู่เปลี่ยนเป็นสีแดง หลังจากสร้างบ้านแล้ว ก็ถึงเวลาที่พวกเขาควรจะมีภรรยาหวังซื่อไห่ยิ้มแย้มแจ่มใส หลังจากสร้างบ้านอิฐแล้ว เขาก็สามารถลุกขึ้นยืนหยัดได้แล้วจริง ๆ“ช่วงนี้ยุ่งมาก พรุ่งนี้ข้าจะสั่งอิฐ ไม้และหาช่างมา”หวังหานซานก็ตื่นเต้นมากเช่นกันหลังจากสร้างบ้านให้ลูกชายสองคน และให้พวกเขาแต่งงานแล้ว ภารกิจส่วนใหญ่ของเขาก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว“หากหาวัสดุและกำลังคนได้เยอะ ข้าก็อยากจะสร้างบ้านสี่หลังบนพื้นที่สิบหมู่!”หวังหยวนแจ้งข่าวใหญ่อีกเรื่อง ซึ่งทำให้ทั้งสามคนตกตะลึงหลังจากพูดคุยกันสักพัก ทั้งสี่ก็ออกไป!แต่เมื่อพวกเขาเพิ่งออกไป ทั้งสี่คนก็กลับมาอีกครั้ง โดยพาสามพี่น้องสกุลกัวเข้ามาด้วยกัวฉางอุ้มแกะที่ถูกถลกหนังแล้ว กัวเหลียงอุ้มกระต่าย และกัวเฉียงอุ้มไก่ฟ้าฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!ทันทีที่เห็นหวังหยวนออกมา ทั้งสามก็คุกเข่าลงและก้มหัวลงชิดกับพื้น“ทำอะไรกัน ลุกขึ้น!”หวังหยวนทนไม่ไหว เขาจึงรีบไปช่วยพยุงทั้งสามคน พวกเขาเงยหน้าขึ้นหวังหานซาน, ต้าหู่ และเอ้อหู่ก็รีบเข้าไปช่วยพยุงทั้งสามขึ้นมา“ผู้มีพระคุณ พวกเราขอโทษกับท่าน ท่านเพิกเฉยต่อความคับข้องใจในอดีต

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status