Share

บทที่ 350

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
หวังหยวนกล่าวเสริม “ทองคำสองหมื่นตำลึง หากเจ้ายังมีเหลือหลังจากซื้อข้าว ที่เหลือก็อาจนำไปสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญได้!”

“โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญหรือขอรับ?”

เหยียนฟู่กู่สับสน “ท่านโปรดขจัดความสงสัยด้วยขอรับ!”

หวังหยวนอธิบายอย่างไม่มีทางเลือก “สิ่งที่เรียกว่าการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ หมายความว่าฝ่ายราชการใช้เงินเพื่อสร้างโครงการ เช่นการอนุรักษ์น้ำ การก่อสร้างถนนหนทาง และการก่อสร้างสะพาน ยิ่งมีโครงการดังกล่าวมากเท่าไหร่ คนก็จะยิ่งมีงานทำมากขึ้น ทั้งนักธุรกิจและคนธรรมดาก็สามารถหาเงินได้ ด้วยเงินนี้ เมืองจะเจริญรุ่งเรือง และฝ่ายราชการก็จะเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น เป็นโครงการที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย!”

ในประเทศจีน ข้อได้เปรียบด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เป็นวิธีเดียวที่จะกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจได้

ปังปังปัง!

เหยียนฟู่กู่ตกตะลึงอยู่นาน ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้น จากนั้นคุกเข่าลงคำนับอีกครั้ง “ท่านอาจารย์เป็นบัณฑิตผู้ประเสริฐจริง ๆ ศิษย์ประทับใจมากจนแทบสิ้นสติแล้วขอรับ!”

ขั้นแรกให้โจมตีพวกทรราชในท้องถิ่น แบ่งที่ดินเพื่อกระจายรายได้ จากนั้นสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อปรับปรุงควา
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 351

    “แค่แขวนเจ้าเด็กนั้นไว้ มันไม่ง่ายเกินไปสำหรับเขาหน่อยเหรอ!” ในห้องโถงจวี้อี้ มีชายร่างสูงไม่มากนัก ปากแหลม รูปโฉมคล้ามแก้มลิงนั่งอยู่บนที่นั่งของเจ้าบ้าน “กล้ารังแกน้องสาวของข้า ข้าจะ ‘ปลูกดอกบัว’ ให้เขาก่อน จากนั้นตัดแบ่งออกเป็นแปดชิ้นแล้วฉีกออก เด็ดหัวของเขาออกมาแล้วใช้เป็นกระโถนถ่ายหนัก แล้วฉี่ใส่คืนละครั้ง” นี่คืออู่จั้งโหวผู้นำของอีเซี่ยนเทียน เมื่อได้ยินว่ากองทัพชาวหวงกำลังเข้าใกล้เมืองจิ่วซาน เขาที่มักจะชอบออกไปเที่ยวที่หอนางโลมในเมืองชิงเหอเป็นเวลานาน จึงรีบกลับทันที! แต่กลับได้ยินว่าน้องสาวถูกลักพาตัว และผู้ลักพาตัวเรียกร้องค่าไถ่ถึงทองคำสามพันตำลึงทอง ทำให้ทรัพย์สินของสหายหมดเกลี้ยง ซ้ำยังมอบทองคำสองพันตำลึงให้เพื่อแลกกับตั๋วเงิน! ซึ่งทำให้เขาโทสะยิ่งนัก! ช่างไร้มนุษยธรรมยิ่งนัก ถึงกับขู่เข็ญโจรภูเขาอย่างพวกเขา ซ้ำยังลักพาตัวน้องสาวของเขาไปอีก! หากครั้งนี้ไม่ล้างแค้นและข่าวนี้แพร่ออกไป เขาจะเป็นอู่จั้งโหวอย่างไร? ไม่ได้การ แค้นครั้งนี้เขาจำเป็นต้องล้างแค้น! หงเยี่ยหยิบมีดขนาดใหญ่ขึ้นมา “พี่ใหญ่ หยุดพูดจาน่ารังเกียจแบบนี้ได้แล้ว แค่ฆ่าเขาก็พอแล้ว ทำไมถึงพูดจาน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 352

    พวกนางเป็นคนจากเมืองชิง ซึ่งหนีจากการรุกรานของชาวหวงมาเป็นโจรในเมืองจิ่วซาน นางและพี่ชายต่างชื่นชมแม่ทัพมู่ แม่ทัพหนุ่ม และกองทัพทมิฬที่สามารถสังหารชาวหวงจากก้นบึ้งของหัวใจ อย่างไรก็ตาม พ่อค้าที่ผ่านทางเหล่านั้นไม่สามารถเล่าเรื่องราวได้อย่างชัดเจนว่าแม่ทัพหนุ่มเอาชนะชาวหวงได้อย่างไร “แม่ทัพหนุ่มเป็นคนนำทัพขอรับ!” เชลยทหารนายหนึ่งฉายแววชาญฉลาดกล่าวว่า “ทว่าผู้ที่สังหารฮ่องเต้ถูหนานไม่ใช่เขา แต่เป็นท่านเสนาธิการทหารที่ใช้หน้าไม้ยิงฮ่องเต้ถูหนานจนสิ้นพระชนม์ ซ้ำยังเผาทหารราบติดอาวุธหนักสามหมื่นนายของชาวหวงจนตาย เขาใช้ยุทธวิถีกระทิงไฟโจมตีค่ายทหารของชาวหวง และปลอมตัวเป็นชาวหวงเพื่อยึดด่านหลงโถวกลับคืนมา ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นฝีมือของเขาขอรับ!” ระหว่างทางได้ยินรายงานแต่ละครั้งว่าชาวหวงพ่ายแพ้อย่างไร มีหลายคนกล่าวว่านี่เป็นฝีมือของแม่ทัพหนุ่ม! แต่เขาได้มีการติดต่อกับท่านเสนาธิการทหารหลายครั้งหลายครา และเขารู้สึกว่ากลยุทธ์นี้เหมือนกับฝีมือของท่านเสนาธิการทหารยิ่งนัก “ท่านเสนาธิการทหาร?” ตาทั้งคู่ของอู่จั้งโหวจ้องเขม็ง “ท่านเสนาธิการทหารผู้นั้นเป็นใครมาจากไหน ถึงกับเก่งกาจกว่าแม่ท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 353

    สตรีในชุดสีม่วงกระแอมเบา ๆ “อืม หน้าอกเล็กมักฉลาด!” ไป๋เฟยเฟยก้มหัวลงพร้อมขมวดคิ้ว จากนั้นมองไปที่หน้าอกของสตรีที่สวมใส่ชุด และอดไม่ได้ที่จะกัดฟัน สตรีในชุดสีม่วงหน้าแดงระเรื่อ “เขาเป็นคนฉลาดขนาดนั้น จะไปมีจุดอ่อนได้อย่างไร” ดวงตาของไป๋เฟยเฟยเป็นประกาย “สามปีที่แล้วตระกูลหลี่เกือบจะถูกสังหารเก้าชั่วโครต แต่เขากล้าที่จะแต่งงานกับหลี่ซื่อหาน ซึ่งเป็นสตรีที่งดงามที่สุดในเทศบาล เขาโลภยิ่งนัก” สตรีในชุดม่วงขมวดคิ้ว “เป็นรักแท้ไม่ได้หรือไงเล่า?” “เจ้าคิดว่ามันเหมือนกับเจ้าและแม่ทัพหนุ่มที่มีความรักที่แท้จริงระหว่างชายหญิงหรือไง!” ไป๋เฟยเฟยตะคอกอย่างเหยียดหยาม “หากเป็นความรักที่แท้จริง ในหมู่บ้านคงไม่แพร่กระจายข่าวว่าเขาและหวังพั่วหลู่ไปที่หอนางโลมในเทศบาลเมื่อไม่นานมานี้ ซ้ำยังอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสามวัน” สตรีในชุดสีม่วงขมวดคิ้วเล็กน้อย บุรุษไปหอนางโลม คลุกคลีกับสตรีย่อมเป็นเรื่องธรรมชาติ นางค่อนข้างเปิดใจกว้างกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม หอนางโลมในเมืองเล็ก ๆ เช่นนี้จะไปมีสตรีที่งามหยดย้อย จนทำให้อยู่ได้ตั้งสามวันได้อย่างไร! คุณชายผู้นี้มีรสนิยมแย่ยิ่งนัก “ยังมีหูเมิ่งอิ๋งน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 354

    ด้วยความเชื่อนี้ นางจึงยืนหยัดและไม่ยอมแพ้ต่อแรงกดดันจากตระกูลโจว และเผยวิธีทำน้ำตาลทรายขาว ด้วยความดูแลภายใต้ท่านผู้พิพากษา นางจึงใช้เงินจำนวนหนึ่งติดสินบน ท่านพ่อไม่ได้รับโทษในคุก! อย่างไรก็ตาม พยานหลักฐานเป็นที่สิ้นสุด และไม่สามารถกลับคำตัดสินได้ ดังนั้นผู้พิพากษาจึงทำได้เพียงเลื่อนและถ่วงเวลาไว้เท่านั้น! ทว่าในทุก ๆ คืนจะมีอันธพาลมาเคาะประตู พูดจาไม่ดี และข่มขู่ใส่ โชคดีที่ผู้พิพากษาได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจการไป ทว่าเจ้าหน้าที่ตรวจการไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดเวลา หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจการจากไป พอผ่านไม่นานพวกอันธพาลก็กลับมาก่อกวนอีกครั้ง “ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าเป็นแค่ถงเซิงไม่เอาไหน นายท่านโจวของพวกข้าสามารถบดขยี้เขาให้ตายได้ด้วยมือเดียว!” พวกอันธพาลที่อยู่นอกประตูตะคอกอย่างเย็นชา “หากเจ้าฉลาดแล้วล่ะก็ รีบส่งของที่นายท่านของพวกข้าอยากได้ออกมาเร็ว ๆ ไม่เช่นนั้น พี่ชายจะไม่สุภาพกับเจ้าแล้ว พวกพี่เข้าไปพร้อมกันสี่คนเลยนะ ฮ่า ฮ่า!” “เจ้า หากเจ้ากล้าเข้ามา ข้าจะฆ่าพวกเจ้า หากพวกเจ้าไม่เชื่อก็ลองดู!” จ้าวชิงเหอกัดฟันสีเงินพร้อมกอดหน้าไม้จู่เกอไว้ในอ้อมแขน หันไปทางประตู! ด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 355

    ผิงเจี้ยน ฉางเซิ่ง และเหล่าทหารชุดเกราะทมิฬสิบกว่าคนต่างไม่ลังเลที่จะแสดงจุดยืนของพวกเขา! “คุณชาย พวกเราจะกลับไปพาภรรยาและลูก ๆ ที่บ้านก่อน จากนั้นค่อยย้ายไปที่หมู่บ้านต้าหวังขอรับ!” อวี๋เถี่ยซานและอีกยี่สิบกว่าคนพาครอบครัวมาด้วย และเลือกที่จะย้ายไปพร้อมทั้งครอบครัว! ว่าด้วยนิสัยของคุณชายแล้ว พวกเขาได้ทำความเข้าใจผ่านทางหวังหานซานแล้ว! สำหรับความสามารถของคุณชาย พวกเขารู้ดีกว่าใครหลังจากการทำศึกมาหลายครั้ง บวกกับคำกำชับจากแม่ทัพหนุ่ม ซึ่งบอกให้พวกเขาว่าหากติดตามคุณชาย พวกเขาก็จะมีชีวิตอยู่อย่างไร้กังวล หลายคนจึงเห็นด้วยอย่างไม่ลังเล “คุณชาย พวกเราอยากกลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุข!” มีทหารผ่านศึกชุดเกราะทมิฬเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เลือกที่จะกลับไปยังบ้านเกิดของตน ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ไว้ใจหวังหยวน แต่เป็นเพราะไม่อยากจากบ้านเกิดเมืองนอน และเขาไม่อยากระเหเร่ร่อน! หวังหยวนก็ไม่ได้บังคับอะไร เขายังมอบเงินสามพันตำลึงให้กับทุกคนที่กลับไป เงินส่วนนี้ไม่มากหรือน้อยเกินไป และยังพอใช้ทั้งชีวิตเมื่อกลับไปตั้งถิ่นฐานสร้างบ้านที่บ้านเกิด ทหารผ่านศึกชุดเกราะทมิฬไปจัดเตรียมรถม้า! ไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 356

    วังไห่เทียนหัวเราะแห้ง “เจ้ายกย่องข้ามากขนาดนั้น หากข้าทำไม่ได้ขึ้นมาจะทำอย่างไรเล่า!” หวังหยวนตรงประเด็น “พวกเรากำลังจัดการศึกษาด้านการอ่านเขียนในหมู่บ้านของเรา แต่เราขาดแคลนอาจารย์คอยสั่งสอน ข้าจึงอยากขอความช่วยเหลือจากพี่ชาย ข้ากำลังมองหาคุณชายที่เชื่อถือได้ และมีความยืดหยุ่นในการสอนหนังสือ!” วังไห่เทียนประหลาดใจ “จัดการศึกษาหรือ?” หวังหยวนอธิบายว่า “ข้าหมายความว่าทุกคนจะต้องสามารถอ่านออกเขียนได้ โดยไม่คำนึงถึงเพศชายหญิง คนแก่หรือเด็ก ทุกคนต่างสามารถเขียนชื่อของตนเองได้ และแม้กระทั่งรู้เลขคณิตง่าย ๆ” แผงลอยเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และจำเป็นต้องมีคนที่สามารถเขียนและคำนวณได้มากขึ้นเรื่อย ๆ! เขาไม่ไว้ใจที่จะเปิดรับสมัครจากภายนอก ไม่สู้ฝึกฝนด้วยตัวเองและรู้พื้นฐานจะดีกว่า! ตอนนี้มีเงินแล้ว หลังจากกลับไปที่หมู่บ้านต้าหวังก็ทำได้หลายอย่าง! “ให้ทุกคนในหมู่บ้านรู้วิธีอ่านหนังสือ!” วังไห่เทียนสั่นไปทั้งตัว นี่เป็นวีรกรรมอันเกริกก้องที่ไม่เคยมีมาก่อน ดวงตาทั้งคู่ของเขาเป็นประกาย “น้องชาย เจ้าจะสรรค์สร้างดินแดนแห่งสันติภาพและความสุข พร้อมทั้งให้ทุกคนเดินในทางแห่งปราชญ์หรือ!” “แค

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 357

    สวบ! คนทั้งกลุ่มลงจากหลังม้าตอนกลางวัน ทุกคนต่างมองไปยังหวังหยวนด้วยสายตาอาวรณ์! พวกเขาติดต่อกับท่านเสนาธิการทหารมาไม่ถึงหนึ่งเดือน แต่พวกเขาได้ตระหนักรู้ว่าปรมาจารย์เป็นเช่นไร! เขาจะช่วยให้เจ้าชนะการต่อสู้ ช่วยให้เจ้าได้เลื่อนตำแหน่ง ซ้ำยังช่วยให้เจ้าได้รับเงินจำนวนมากอีกด้วย! หลังจากใช้เวลาติดต่อกับท่านเสนาธิการทหารเพียงเดือนเดียว ตอนนี้พวกเขามีทุกสิ่งที่โหยหาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา! หวังหยวนขมวดคิ้ว “ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องมาส่งข้าตอนจากไป ซ้ำยังมากันพร้อมเพรียงขนาดนี้ทำไมเล่า!” คนกลุ่มหนึ่งยิ้มและไม่โกรธเลยสักนิดเมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหานี้! “ท่านเสนาธิการทหาร ข้าได้ยินจากลุงหานชานว่าท่านได้ฝึกฝนเป็นผู้รักษาการในบ้านเกิดของท่าน!” อู๋หลิงหยิบหนังสือออกมาแล้วพูดว่า “นี่คือทักษะดาบ ทักษะหอก ทักษะจวงกง และทักษะการต่อสู้ของตระกูลอู๋ข้า ท่านให้ต้าหู่ส่งต่อให้พวกเขาเถอะขอรับ!” หวังหยวนไม่ได้เข้าไปรับ “ข้าได้ยินมาว่าของในตระกูลอู๋ไม่ส่งต่อไปให้ภายนอก หากเจ้าทำเช่นนี้แล้ว เจ้าจะอธิบายให้คนในตระกูลอย่างไรเล่า!” ในยุคสมัยนี้ผู้คนต่างปกป้องความรู้ทุกประเภทอย่างเป็นความลับ! แม้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 358

    ฟู่ฉีนำแพทย์ในกองทัพทหารมาแสดงความเคารพ! เมื่อคืนนี้มีการแจกจ่ายเงินในกองทัพ และแพทย์เช่นพวกเขาก็ได้รับเงินมากกว่าขุนพลระดับล่าง ทันทีที่รู้ว่าท่านเสนาธิการทหารเป็นคนมอบให้ ต่างก็ซาบซึ้งน้ำตาไหลแสดงความขอบคุณทันที เมื่อเช้านี้ยังยืนกรานจะมาแสดงความขอบคุณ “เอาล่ะ ใช้ประโยชน์จากอากาศหนาวเย็น ซึ่งสามารถรักษาศพไว้ได้ดี ศึกษาการชันสูตรศพให้เยอะ ๆ และจดบันทึกให้มาก เมื่อได้ตระหนักรู้แล้วก็อย่าลืมไปสอนให้คนอื่น ๆ เรียนรู้ด้วย!” หวังหยวนฝากฝังหนึ่งประโยค จากนั้นโบกมือให้ทหารจำนวนมากแล้วขึ้นรถม้าพร้อมพูดว่า “ไปกันเถอะ!” เพี๊ยะ! ต้าหู่สะบัดแส้และขบวนรถก็เคลื่อนตัวไปข้างหน้า ฮวบ! อู๋หลิงเริ่มนำทำความเคารพโดยคุกเข่าลงครึ่งหนึ่ง “น้อมส่งท่านเสนาธิการทหารกลับบ้าน!” ฮวบ ฮวบ ฮวบ! ทหารทั้งหมดต่างคุกเข่าลงครึ่งหนึ่ง และตะโกนเสียงดังกึกก้อง “น้อมส่งท่านเสนาธิการทหารกลับบ้าน!” หวังหยวนยกม่านขึ้นแล้วโบกมือพร้อมรู้สึกเศร้าเล็กน้อย ขบวนรถค่อย ๆ เคลื่อนตัว ทหารคุกเข่าลงครึ่งหนึ่งบนพื้นน้ำแข็งหนาวเหน็บ และไม่ลุกขึ้นจนกว่ารถม้าจะลับสายตา ... รถม้าเดินทางหกสิบกิโลต่อวัน และวันที่สองก็

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status