“ข้ารู้ว่าพ่อของข้าถูกใส่ร้าย มีคนอยากได้ของที่ท่านอาจารย์ทิ้งไว้!”สายตาของจ้าวเว่ยหมินดูเหี้ยมเกรียมขึ้นมา "เจ้ากลับไปรอก่อน ดูสิว่าใครมาหาเจ้า แล้วเขาต้องการอะไร เจ้าก็จะรู้ว่าใครเป็นคนใส่ร้ายพ่อของเจ้า อย่ากังวลว่าพ่อเจ้าติดคุกในนี้ ข้าสั่งคนให้ดูแลเขาอย่างดี จะไม่ปล่อยให้คนอื่นมารุมทำร้ายเขา กลับไปอย่าได้กังวล เมื่อกลับไปแล้ว ข้าจะส่งคนตามเจ้าไปอย่างลับ ๆ ส่วนท่านอาจารย์ไม่ต้องกังวลไป เขาเป็นคนเก่ง ถ้าคนอื่นหนีได้ เขาก็หนีเหมือนกัน!”"ขอบคุณท่านเจ้าเมืองเจ้าค่ะ!"จ้าวชิงเหอสะอื้นอยู่สักพักลุกขึ้นและกลับบ้านโจวฉางฟา นายท่านสามของตระกูลโจวมาที่ประตูบ้านแล้วถามว่า "แม่นางน้อย สบายดีไหม?""เป็นเจ้านี่เอง!"หลังจากจ้าวเว่ยหมินที่ได้เตือนไว้แล้ว จ้าวชิงเหอก็พูดสีหน้าเคียดแค้น "เจ้าเป็นคนที่ใส่ร้ายพ่อของข้า!"“ใส่ร้าย? พูดแล้วต้องมีหลักฐาน!”โจวฉางฟายิ้มอย่างยืดๆและเปลี่ยนเรื่อง "จี้หยกชิ้นนั้นมีมูลค่าหนึ่งร้อยกว้าน พ่อของเจ้าจะถูกสักลายและเนรเทศไปเป็นแรงงานสามปี แต่ข้ามีวิธีช่วย ถ้าเจ้ามอบความลับวิธีการทำน้ำตาล ข้าจะหาทางปล่อยพ่อเจ้าออกมา"ครั้งที่แล้วน้ำตาลทรายขาวจำนวนสามร้อย
ในเวลากลางคืน ค่ายชาวหวงรู้สึกได้ถึงความหดหู่หลังจากพักผ่อนมาทั้งวัน พวกเขาก็ตื่นขึ้นมาในตอนกลางคืนเพื่อจัดการประชุมสงคราม!อากู่ฉา, โจวไป่ต้วน และพวกแม่ทัพชาวหวงคนอื่น ๆ ต่างก็ดูเศร้าสร้อย!การสูญเสียเมื่อคืนนี้มันมากเกินไป ทหารราบหนักสามหมื่นนายเสียชีวิตทั้งหมด และทหารม้าหนึ่งหมื่นนายก็ด้วยทหารชั้นยอดทั้งหมดสี่หมื่นนายเสียชีวิตขณะนี้มีทหารชั้นยอดเพียงสามหมื่นนายที่เหลืออยู่ในนอกด่าน และทหารสองพันนายที่ประจำการอยู่ที่ด่านกำแพงหลงโถวอากู่ฉาขมวดคิ้ว "ทุกคนบอกที ศึกจบลงเช่นนี้แล้ว เราควรทำอย่างไรไปดี!"แม่ทัพหลายคนเงียบ!ก่อนหน้านั้นสำหรับทหารต้าเย่แล้ว พวกเจาตั้งใจที่จะชนะในการสู้รบแค่ครั้งเดียวเท่านั้น!แต่หลังจากการสู้ศึกสองครั้งนี้ ความมุ่งมั่นที่จะชนะของพวกเขาก็มลายหายหมดสิ้นไป พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะต่อสู้กับต้าเย่อีกโจวไป่ต้วนกล่าวว่า "อ๋องน้อยในเวลานี้ ทางที่ดีที่สุดสำหรับเราก็คือถอย หากเรายังสู้ต่อไป แม้ว่าเราจะยึดเมืองจิ่วซานได้ เราก็ไม่สามารถลงไปทางตอนใต้ได้อยู่ดี""ถอย!"อากู่ฉาขมวดคิ้วแค้นใหญ่หลวงที่ฆ่าเสด็จพ่อยังไม่ได้แก้แค้นเลย แพ้ศึกสองครั้ง มาให้เขาถอยกล
ทหารต้าเย่ส่งคนมาสองหมื่นคน ทุกคนถือคบเพลิงยืนเรียงแถวเหมือนมังกรเพลิงตัวยาว!หวังหยวนไม่อยากลอบโจมตี ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายอยู่ใกล้เกินไปจะเห็นการเคลื่อนไหวของกองทัพขนาดใหญ่ได้ง่ายหากเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็สู้จุดคบเพลิงให้เห็นอย่างเปิดเผย ให้เห็นชัดไปว่าเราจะโจมตีด้วยกำลังแบบนี้กองทัพที่มีมากกว่าสองหมื่นคนด้านหน้ามีทหารราบเกราะหนักชุดใหม่ คุ้มกันหน้าไม้ยักษ์ที่ขนใส่รถมาทหารราบที่อยู่ตรงกลางขี่วัวมาแปดร้อยนาย ตามมาด้วยทหารม้าหนึ่งหมื่นนาย!ในเมืองนี้มีทหารม้าอยู่แค่สองพันนาย แต่พวกเขาเอาชนะชาวหวงและยึดม้ามาได้เป็นจำนวนมาก!ทหารม้ามือใหม่แปดพันนายเหล่านี้ทำได้แค่ขี่ม้าเท่านั้น ไม่รู้จะใช้ม้าต่อสู้ได้อย่างไร แต่มีไว้เพื่อสะดวกในการไล่ล่าศัตรูเท่านั้นในตอนนี้มาถึงในระยะสามลี้แล้ว!กองทัพสองหมื่นคน บุกมาถึงนอกค่ายชาวหวงและหยุดห่างออกไปสามร้อยก้าวแม้ว่าพวกชาวหวงจะไม่มีหน้าไม้ยักษ์ แต่หลังจากบุกยึดได้หลายเมือง พวกเขาจึงมีหน้าไม้ยักษ์ที่ต้าเย่ทำขึ้น!สามร้อยก้าวคือระยะยิงสูงสุดของหน้าไม้ยักษ์ในตอนกลางขบวน หวังหยวนกล่าวว่า "พวกชาวหวงทำอะไรน่ะ!"ทหารผ่านศึกชุดเกราะทมิฬที่ทำห
แต่ลูกธนูหน้าไม้ยักษ์ยังไม่หยุดยิง!ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว…จึก จึก จึก...ลูกธนูหน้าไม้ยักษ์บินข้ามหัวของพวกเขา ทหารชาวหวงจำนวนมากที่เสียวหัววาบไปหมด พวกเขาแอบยกย่องอ๋องน้อยสำหรับสติปัญญาและความกล้าหาญของเขา ที่ค้นพบข้อบกพร่องในหน้าไม้ยักษ์อย่างรวดเร็ว!อากู่ฉาที่นอนอยู่บนพื้นขมวดคิ้ว "ท่านอาจารย์ พวกเขากำลังทำอะไรอยู่ เห็นชัด ๆ ว่าพวกเขายิงเราไม่ได้ แล้วทำไมพวกเขาถึงยังยิงหน้าไม้ยักษ์อยู่อีก!"สายตาของโจวไป่ต้วนเคร่งเครียด "พวกเขาใช้หน้าไม้ยักษ์พังแนวรั้วขวางม้า ราวกับว่าพวกเขาอยากจะบุกโจมตีค่ายของเราโดยตรง!"“บุกค่าย!”อากู่ฉายิ้มอย่างเย็นชา "คิดว่าหลังจากชนะศึกสองครั้งแล้ว เจ้าจะเอาชนะทหารชาวหวงของข้าแบบตัวต่อตัวได้งั้นรึ ฝันไปเถอะ มาดูกันว่าข้าจะเอาชนะเขาในครั้งนี้ได้อย่างไร!"โจวไป่ต้วนขมวดคิ้วและพูดว่า "อ๋องน้อย ข้าคิดอยู่ตลอดว่ากลอุบายของหมอนั่นไม่ง่ายขนาดนั้น เราควรระวังไว้ดีกว่า!"“ไม่ว่าเขาจะใช้กลอุบายอะไรก็ตาม ข้าจะต่อสู้ด้วยดาบหอกจริงอย่างไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!”อากู่ฉาพูดอย่างเย่อหยิ่ง!"มาแล้ว!"ทันใดนั้นดวงตาของโจวไป่ต้วนก็หรี่ลง!ที่หน้าประตูค่าย แนวรั้วขวางม้าทั้งหมด
“อ๋องน้อย หนีไปซะ ณ จุดนี้เราพ่ายแพ้หมดรูปแล้ว! หมอนั่นมันไม่ใช่คน เขาช่างเลวร้ายเหลือเกิน คนซื่อตรงอย่างพวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาหรอก หนีไปเร็วเข้า!”ตอนที่ดึงอากู่ฉา โจวไป่ต้วนหน้าชาไปหมดแล้ว และเขาก็ได้ยอมแพ้จากใจจริงเขาคิดว่าเขามีความรู้มากมาย และมีกลอุบายมากมายนับไม่ถ้วน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกลอุบายของเด็กนั่น เขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเขาซื่อสัตย์และเถรตรงเกินไปความคิดแผนดี ๆ ของเขามาจากไหนกัน!วัวแปดร้อยตัวสร้างหายนะในค่ายชาวหวง ทั้งค่ายก็ลุกโชนด้วยเปลวเพลิง และเต็มไปด้วยความโกลาหลไม่ต้องพูดถึงชาวหวง แม้แต่ต้าเย่ก็อ้าปากค้างจนใส่ไข่ทั้งฟองเข้าไปได้!เมื่อเช้าเสนาธิการทหารบอกว่าจะพาไปถล่มค่ายชาวหวงในคืนนี้ แต่ไม่มีใครเชื่อ!แม้ว่าพวกเขาจะได้เห็นวัวแปดร้อยตัว แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าการต่อสู้เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้“ท่านเสนาธิการทหาร เราประทับใจท่านจริง ๆ เราประทับใจสุดไปเลย!”หวางห่าว, อู๋หยวน และเจิ้งฝาเป่ย ขุนพลผู้มีประสบการณ์สามคน กำหมัดและก้มศีรษะคำนับอีกครั้งพวกเขาใช้สมองคิดมาทั้งเช้า คิดอยู่ว่าท่านเสนาธิการทหารจะพาพวกเขาไปเอาชนะศัตรูในคืนนี้ได้อย่างไรคิดมาไม่ต่ำกว่าสิบว
ฉินจ้าน เจ้ากรมกรมกลาโหมกล่าวว่า “ฝ่าบาท แม้ว่าเมืองจะถูกทำลายเพราะพ่ายศึกในครั้งนี้ ก็จะไม่ใช่ความผิดของแม่ทัพหนุ่ม ด้วยความสามารถทางทหารของเขา เขาจะปกป้องเมืองได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องมีเหตุผล เราจำเป็นต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมเห็นชอบพ่ะย่ะค่ะ!”โจวจิงเหย่ เจ้ากรมกรมพิธีการแสดงจุดยืนตัวเองพวกเขาทั้งสามอยู่ฝ่ายเดียวกัน สนับสนุนอู๋หลิงให้เป็นผู้บัญชาการ และตอนนี้ก็กำลังแบ่งปันความรับผิดชอบ“ฝ่าบาท รอไม่ไหวแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เสนาบดีฝ่ายขวาเป้าชิงสื่อกล่าวว่า “เมืองหวงจะได้รับข่าวเร็ว ๆ นี้ กลุ่มคนที่เราส่งไปเมืองหวงเพื่อเจรจาสันติภาพจะไปถึงในไม่ช้า เราต้องให้คำตอบที่น่าพอใจแก่เมืองหวง ไม่เช่นนั้นชาวหวงจะเพิ่มกองกำลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้าเย่ของเราจะตกอยู่ในอันตราย”การประชุมราชสำนักครั้งสุดท้าย ตัดสินใจว่าจะใช้ประโยชน์จากชัยชนะอันยิ่งใหญ่ เพื่อเจรจาสันติภาพกับชาวหวง จึงส่งหลินเจาเอินไปที่นั่นตอนนี้ต้องใช้ประโยชน์จากการเจรจาสันติภาพกับชาวหวง จึงจะสามารถโค่นกลุ่มสนับสนุนให้ทำสงครามหยางเฟิ่งกั๋วได้“กระหม่อมเห็นชอบพ่ะย่ะค่ะ!”เจ้ากรมทั้งสาม ได้แก่ ส
“จางหานถูกลดตำแหน่งเป็นผู้พิพากษา เสวี่ยผานถูกถอดออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการ และหลินเจาเอินถูกปลดออกจากตำแหน่ง! เรียกทูตสันติภาพกลับมาเดี๋ยวนี้!”ฮ่องเต้ซิงหลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อู๋หลิงได้รับการเลื่อนตำแหน่งสองระดับติดต่อกัน ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด และได้รับตำแหน่งอู๋โหว หลังจากจัดการกิจการของเมืองจิ่วซานเรียบร้อยแล้ว เขาจะถูกย้ายกลับไปที่เมืองจิงตู เพื่อรายงานการทำงานตามหน้าที่”“ฝ่าบาททรงพระปรีชาพ่ะย่ะค่ะ!”หยางเฟิ่งกั๋วและทั้งสี่คนน้ำตาคลอเบ้า!ตระกูลอู๋หลั่งเลือดสละชีวิตเพื่อต้าเย่ และตอนนี้ขุนนางชั้นโหวก็สามารถปลอบโยนจิตวิญญาณของแม่ทัพมู่ในสวรรค์ได้แล้วแต่ฮ่องเต้ยังคงสั่งย้ายอู๋หลิง เพราะยังคงไม่ไว้วางใจให้เขาดูแลกองทัพฮ่องเต้ซิงหลงครุ่นคิดเล็กน้อย “ส่วนบัณทิตถงเซินหวังหยวนนั้น เขาไม่ใช่ทั้งเจ้าหน้าที่และพลเรือน ดังนั้นจึงไม่ง่ายเลยที่จะให้รางวัลเขา ให้เขาตั้งใจเรียนเถอะ ข้าจะใช้เขาให้เป็นประโยชน์ ก็ต่อเมื่อเขามีชื่ออยู่ในรายชื่อทองเมื่อสอบผ่าน”“อะไรนะ!”หยางเฟิ่งกั๋วลุกขึ้นยืนทันที “ฝ่าบาท ท่านควรรู้ว่าท่านหวังหยวนมีบทบาทสำคัญ ในการทำลายล้างกอง
เดิมทีกลุ่มเสนาบดีฝ่ายซ้ายมีชัยชนะเหนืออีกฝ่าย แต่ตอนนี้ใบหน้ากลับมืดมน ไม่มีความสุขเลยในทางกลับกัน กลุ่มเสนาบดีฝ่ายขวาก็ยกยิ้มมุมปาก ด้วยความพึงพอใจมาก!ในห้องตำราหลวงเหลือเพียงคนสามคนฉินจ้านขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นฝ่าบาท เสนาธิการทหารมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เหตุใดพระองค์ไม่นำตัวเขามาใช้?”โจวจิงเหย่กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เลือกซื้อวิธีลับในการสร้างอาวุธเวทมนตร์ โดยให้รางวัลเป็นเพียงเงินหนึ่งพันตำลึง และตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับเก้าเท่านั้น ฝ่าบาทนี่ นี่... เฮ้อ!”หยางเฟิ่งกั๋วพูดด้วยใบหน้าเย็นชา “เรื่องนี้ยังไม่จบ เราจะหารือกันอีกครั้งในการประชุมราชสำนักครั้งหน้า แทนที่จะให้รางวัลคนทำความดีความชอบ กลับขโมยความลับของประชาชนไปแทน มาดูกันว่าทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน และเจ้าหน้าที่ทหารในราชสำนักจะเห็นด้วยหรือไม่?”อีกสองคนขนหัวลุก เสนาบดีฝ่ายซ้ายอารมณ์ขึ้นแล้ว นี่เป็นการต่อสู้กับฝ่าบาท...ในวันเดียวกันนั้น ณ เมืองจิ่วซาน!แม้ว่าจะได้กำแพงด่านหลงโถวกลับคืนมาเป็นเวลาสามวันแล้ว แต่ในเมืองก็ยังคงยุ่งมาก!รักษาผู้บาดเจ็บ นับทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ และจัดเตรียมเงินบำนาญ!เ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“
“เจ้าไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับข้า แสดงว่าเจ้าคงอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ”“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เล่าให้ข้าฟังสักหน่อยล่ะ อย่างน้อยก็ให้ข้าสนุกขึ้นมาบ้าง”หวังหยวนนั่งลงข้างหลิ่วหรูเยียน เขานั่งไขว่ห้างมือวางบนราวบันไดขณะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยรอยยิ้ม“เหตุใดท่านถึงน่ารำคาญนัก?”“ดูไม่ออกหรือว่าข้าไม่อยากคุยกับท่าน?”“รีบกลับไปดื่มกับพวกเขาซะเถอะ จะมานั่งขวางหูขวางตาข้าทำไม?”หลิ่วหรูเยียนกลอกตามองหวังหยวนแท้จริงแล้ว นางเพียงแค่รู้สึกว่างเปล่าหลังจากได้ล้างแค้นสำเร็จ ราวกับชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป นางไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป จึงทำให้ดูเหม่อลอยและเศร้าสร้อยแต่ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่วังหยวนมาที่นี่ นางกลับรู้สึกเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง“ว่ามาสิ เป็นอะไรไป?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่อง“ข้าอยากไปพบตานสยงเฟย”“ครั้งก่อนท่านสัญญากับข้าว่า เมื่อจับตานสยงเฟยได้จะให้ข้าจัดการเขา ยังจำได้หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนถาม“อืม...”หวังหยวนครุ่นคิด ใช้นิ้วเคาะขมับพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียเรื่องของพรรคทมิฬเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจตัดสินใจเพียงเพราะคำพูดของคนคนเดียวได้ ยิ่งกว่านั้น เพื่อจับตานสยงเฟย ยังต้องสูญ
“หวังหยวน! เจ้าช่างน่ารังเกียจ! กล้าเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวหรือ?”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างเดือดดาลส่วนโอวหยางอวี่และลั่วเฉินเห็นท่าไม่ดี จึงไม่รีรอ รีบพาผู้ใต้บัญชาหนีลงจากเขา!แต่น่าเสียดาย ที่เชิงเขามีการวางกองกำลังดักไว้แล้ว!ตานสยงเฟยและคนอื่น ๆ ต่างถูกจับเป็น!การต่อสู้ครั้งนี้ หวังหยวนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ!แต่เนื่องจากหน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล โดยรอบไม่มีบ้านเรือนหรือเมืองจึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการเพราะที่นี่คืออาณาจักรต้าเป่ย หากหานเทารู้ว่าเขายกทัพมาในดินแดนของอาณาจักรต้าเป่ย ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร พวกเขาก็อาจจะหาเรื่องจู่โจมได้!เมื่อถึงเวลานั้น เรื่องราวคงจะวุ่นวายและเกิดความขัดแย้ง!หลังจากที่จับตานสยงเฟยและพรรคพวกได้แล้ว หวังหยวนจึงรีบกลับเมืองอู่เจียงทันที!ใช้เวลาเพียงวันครึ่งก็กลับมาถึง!ระหว่างทาง แม้ว่าจะมีคนเห็น แต่มีเกาเล่อคอยนำทาง จึงไม่ทำให้คนของอาณาจักรต้าเป่ยรู้ตัว!...ณ ที่ว่าการเมืองอู่เจียงตอนนี้ทุกคนกำลังดื่มฉลองกันอย่างสนุกสนาน!คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือหวังหยวน!ส่วนเอ้อหู่และคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ที่
หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใด นางจ้องมองตานสยงเฟยด้วยความโกรธแค้นนางต้องการล้างแค้น!“ชีวิตของเขาเป็นของเจ้า ข้าจะช่วยจับเป็นให้!”“ส่วนต่อไป เจ้าจะจัดการเขาอย่างไรก็สุดแล้วแต่เจ้า!”หวังหยวนกล่าวจบก็หยิบปืนคาบศิลาออกมาจากอก แล้วเล็งไปที่ตานสยงเฟย“ในเมื่อเจ้ารู้จักข้าดี”“เจ้าควรรู้ว่าอาวุธลับของข้าไม่มีผู้ใดเทียบได้ ใช่หรือไม่?”“ข้าแนะนำให้เจ้ายอมจำนนเสีย จะได้ไม่เจ็บตัว!”หวังหยวนเตือนมุมปากของตานสยงเฟยกระตุก เขาสืบเรื่องของหวังหยวนมานาน จึงรู้จักหวังหยวนดี และจำได้ว่าอาวุธในมือของหวังหยวนคืออะไร!ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่ขุนพลที่เก่งกาจก็ยังไม่อาจหลบอาวุธนี้ได้!ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็คว้าตัวสาวกพรรคทมิฬคนหนึ่งมาใช้เป็นโล่มนุษย์!“ปัง!”เสียงปืนดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬคนนั้นล้มลงกับพื้นต้องยอมรับว่าตานสยงเฟยช่างโหดเหี้ยม!เพื่อเอาชีวิตรอด กลับยอมเสียสละชีวิตคนอื่น ช่างน่ารังเกียจ!หวังหยวนยกปืนขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเล็งไปที่ตานสยงเฟย ไม่ให้เขามีโอกาสหนี!“หวังหยวน!”“วันนี้ไว้ชีวิตข้าเถิด ต่อไปข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน!”“เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“การบีบให้ข้าจนตรอกไม่ได้เป็นผลดีต่อ
ลั่วเฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีก เพียงแค่รีบพาผู้ใต้บัญชาออกไป!เสียงโห่ร้องแห่งการฆ่าฟันดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬล้มตายเป็นใบไม้ร่วง!ตานสยงเฟยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ!สมาชิกพรรคทมิฬล้วนเป็นคนที่เขาฝึกฝนเอง เขาทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่ง!เดิมทีเขาต้องการครองแผ่นดิน แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้!สูญเสียกำลังพลไปเยอะมาก!ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย!“ตานสยงเฟย! อย่าหนีนะ!”“เจ้าคนสารเลว! หลอกลวงข้ามาหลายปี!”“ไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อแม่ข้าเท่านั้น ยังฝึกฝนข้าให้เป็นเครื่องมือทำเรื่องเลวร้ายมากมาย!”“วันนี้พวกเราต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”ขณะที่ตานสยงเฟยกำลังจะลงจากเขา หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งเข้ามา ในมือถือกริชเปื้อนเลือด สายตาเย็นชาราวกับคมดาบจ้องมองตานสยงเฟย!“มาคนเดียวหรือ?”เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมาคนเดียว ตานสยงเฟยก็หัวเราะในลำคอ เขาหันมาคว้าทวนยาวจากมือผู้ใต้บัญชาที่อยู่ด้านข้าง!เหตุผลที่ตานสยงเฟยสร้างฐานะขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเขามีความคิดที่แตกต่าง แต่ยังเป็นเพราะฝีมือของเขาด้วย!ในยุคสงคราม ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นผู้ชนะ!ยิ่งกว่านั้น ฝีมือ