แต่ลูกธนูหน้าไม้ยักษ์ยังไม่หยุดยิง!ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว…จึก จึก จึก...ลูกธนูหน้าไม้ยักษ์บินข้ามหัวของพวกเขา ทหารชาวหวงจำนวนมากที่เสียวหัววาบไปหมด พวกเขาแอบยกย่องอ๋องน้อยสำหรับสติปัญญาและความกล้าหาญของเขา ที่ค้นพบข้อบกพร่องในหน้าไม้ยักษ์อย่างรวดเร็ว!อากู่ฉาที่นอนอยู่บนพื้นขมวดคิ้ว "ท่านอาจารย์ พวกเขากำลังทำอะไรอยู่ เห็นชัด ๆ ว่าพวกเขายิงเราไม่ได้ แล้วทำไมพวกเขาถึงยังยิงหน้าไม้ยักษ์อยู่อีก!"สายตาของโจวไป่ต้วนเคร่งเครียด "พวกเขาใช้หน้าไม้ยักษ์พังแนวรั้วขวางม้า ราวกับว่าพวกเขาอยากจะบุกโจมตีค่ายของเราโดยตรง!"“บุกค่าย!”อากู่ฉายิ้มอย่างเย็นชา "คิดว่าหลังจากชนะศึกสองครั้งแล้ว เจ้าจะเอาชนะทหารชาวหวงของข้าแบบตัวต่อตัวได้งั้นรึ ฝันไปเถอะ มาดูกันว่าข้าจะเอาชนะเขาในครั้งนี้ได้อย่างไร!"โจวไป่ต้วนขมวดคิ้วและพูดว่า "อ๋องน้อย ข้าคิดอยู่ตลอดว่ากลอุบายของหมอนั่นไม่ง่ายขนาดนั้น เราควรระวังไว้ดีกว่า!"“ไม่ว่าเขาจะใช้กลอุบายอะไรก็ตาม ข้าจะต่อสู้ด้วยดาบหอกจริงอย่างไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!”อากู่ฉาพูดอย่างเย่อหยิ่ง!"มาแล้ว!"ทันใดนั้นดวงตาของโจวไป่ต้วนก็หรี่ลง!ที่หน้าประตูค่าย แนวรั้วขวางม้าทั้งหมด
“อ๋องน้อย หนีไปซะ ณ จุดนี้เราพ่ายแพ้หมดรูปแล้ว! หมอนั่นมันไม่ใช่คน เขาช่างเลวร้ายเหลือเกิน คนซื่อตรงอย่างพวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาหรอก หนีไปเร็วเข้า!”ตอนที่ดึงอากู่ฉา โจวไป่ต้วนหน้าชาไปหมดแล้ว และเขาก็ได้ยอมแพ้จากใจจริงเขาคิดว่าเขามีความรู้มากมาย และมีกลอุบายมากมายนับไม่ถ้วน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกลอุบายของเด็กนั่น เขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเขาซื่อสัตย์และเถรตรงเกินไปความคิดแผนดี ๆ ของเขามาจากไหนกัน!วัวแปดร้อยตัวสร้างหายนะในค่ายชาวหวง ทั้งค่ายก็ลุกโชนด้วยเปลวเพลิง และเต็มไปด้วยความโกลาหลไม่ต้องพูดถึงชาวหวง แม้แต่ต้าเย่ก็อ้าปากค้างจนใส่ไข่ทั้งฟองเข้าไปได้!เมื่อเช้าเสนาธิการทหารบอกว่าจะพาไปถล่มค่ายชาวหวงในคืนนี้ แต่ไม่มีใครเชื่อ!แม้ว่าพวกเขาจะได้เห็นวัวแปดร้อยตัว แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าการต่อสู้เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้“ท่านเสนาธิการทหาร เราประทับใจท่านจริง ๆ เราประทับใจสุดไปเลย!”หวางห่าว, อู๋หยวน และเจิ้งฝาเป่ย ขุนพลผู้มีประสบการณ์สามคน กำหมัดและก้มศีรษะคำนับอีกครั้งพวกเขาใช้สมองคิดมาทั้งเช้า คิดอยู่ว่าท่านเสนาธิการทหารจะพาพวกเขาไปเอาชนะศัตรูในคืนนี้ได้อย่างไรคิดมาไม่ต่ำกว่าสิบว
ฉินจ้าน เจ้ากรมกรมกลาโหมกล่าวว่า “ฝ่าบาท แม้ว่าเมืองจะถูกทำลายเพราะพ่ายศึกในครั้งนี้ ก็จะไม่ใช่ความผิดของแม่ทัพหนุ่ม ด้วยความสามารถทางทหารของเขา เขาจะปกป้องเมืองได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องมีเหตุผล เราจำเป็นต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมเห็นชอบพ่ะย่ะค่ะ!”โจวจิงเหย่ เจ้ากรมกรมพิธีการแสดงจุดยืนตัวเองพวกเขาทั้งสามอยู่ฝ่ายเดียวกัน สนับสนุนอู๋หลิงให้เป็นผู้บัญชาการ และตอนนี้ก็กำลังแบ่งปันความรับผิดชอบ“ฝ่าบาท รอไม่ไหวแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เสนาบดีฝ่ายขวาเป้าชิงสื่อกล่าวว่า “เมืองหวงจะได้รับข่าวเร็ว ๆ นี้ กลุ่มคนที่เราส่งไปเมืองหวงเพื่อเจรจาสันติภาพจะไปถึงในไม่ช้า เราต้องให้คำตอบที่น่าพอใจแก่เมืองหวง ไม่เช่นนั้นชาวหวงจะเพิ่มกองกำลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้าเย่ของเราจะตกอยู่ในอันตราย”การประชุมราชสำนักครั้งสุดท้าย ตัดสินใจว่าจะใช้ประโยชน์จากชัยชนะอันยิ่งใหญ่ เพื่อเจรจาสันติภาพกับชาวหวง จึงส่งหลินเจาเอินไปที่นั่นตอนนี้ต้องใช้ประโยชน์จากการเจรจาสันติภาพกับชาวหวง จึงจะสามารถโค่นกลุ่มสนับสนุนให้ทำสงครามหยางเฟิ่งกั๋วได้“กระหม่อมเห็นชอบพ่ะย่ะค่ะ!”เจ้ากรมทั้งสาม ได้แก่ ส
“จางหานถูกลดตำแหน่งเป็นผู้พิพากษา เสวี่ยผานถูกถอดออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการ และหลินเจาเอินถูกปลดออกจากตำแหน่ง! เรียกทูตสันติภาพกลับมาเดี๋ยวนี้!”ฮ่องเต้ซิงหลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อู๋หลิงได้รับการเลื่อนตำแหน่งสองระดับติดต่อกัน ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด และได้รับตำแหน่งอู๋โหว หลังจากจัดการกิจการของเมืองจิ่วซานเรียบร้อยแล้ว เขาจะถูกย้ายกลับไปที่เมืองจิงตู เพื่อรายงานการทำงานตามหน้าที่”“ฝ่าบาททรงพระปรีชาพ่ะย่ะค่ะ!”หยางเฟิ่งกั๋วและทั้งสี่คนน้ำตาคลอเบ้า!ตระกูลอู๋หลั่งเลือดสละชีวิตเพื่อต้าเย่ และตอนนี้ขุนนางชั้นโหวก็สามารถปลอบโยนจิตวิญญาณของแม่ทัพมู่ในสวรรค์ได้แล้วแต่ฮ่องเต้ยังคงสั่งย้ายอู๋หลิง เพราะยังคงไม่ไว้วางใจให้เขาดูแลกองทัพฮ่องเต้ซิงหลงครุ่นคิดเล็กน้อย “ส่วนบัณทิตถงเซินหวังหยวนนั้น เขาไม่ใช่ทั้งเจ้าหน้าที่และพลเรือน ดังนั้นจึงไม่ง่ายเลยที่จะให้รางวัลเขา ให้เขาตั้งใจเรียนเถอะ ข้าจะใช้เขาให้เป็นประโยชน์ ก็ต่อเมื่อเขามีชื่ออยู่ในรายชื่อทองเมื่อสอบผ่าน”“อะไรนะ!”หยางเฟิ่งกั๋วลุกขึ้นยืนทันที “ฝ่าบาท ท่านควรรู้ว่าท่านหวังหยวนมีบทบาทสำคัญ ในการทำลายล้างกอง
เดิมทีกลุ่มเสนาบดีฝ่ายซ้ายมีชัยชนะเหนืออีกฝ่าย แต่ตอนนี้ใบหน้ากลับมืดมน ไม่มีความสุขเลยในทางกลับกัน กลุ่มเสนาบดีฝ่ายขวาก็ยกยิ้มมุมปาก ด้วยความพึงพอใจมาก!ในห้องตำราหลวงเหลือเพียงคนสามคนฉินจ้านขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นฝ่าบาท เสนาธิการทหารมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เหตุใดพระองค์ไม่นำตัวเขามาใช้?”โจวจิงเหย่กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เลือกซื้อวิธีลับในการสร้างอาวุธเวทมนตร์ โดยให้รางวัลเป็นเพียงเงินหนึ่งพันตำลึง และตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับเก้าเท่านั้น ฝ่าบาทนี่ นี่... เฮ้อ!”หยางเฟิ่งกั๋วพูดด้วยใบหน้าเย็นชา “เรื่องนี้ยังไม่จบ เราจะหารือกันอีกครั้งในการประชุมราชสำนักครั้งหน้า แทนที่จะให้รางวัลคนทำความดีความชอบ กลับขโมยความลับของประชาชนไปแทน มาดูกันว่าทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน และเจ้าหน้าที่ทหารในราชสำนักจะเห็นด้วยหรือไม่?”อีกสองคนขนหัวลุก เสนาบดีฝ่ายซ้ายอารมณ์ขึ้นแล้ว นี่เป็นการต่อสู้กับฝ่าบาท...ในวันเดียวกันนั้น ณ เมืองจิ่วซาน!แม้ว่าจะได้กำแพงด่านหลงโถวกลับคืนมาเป็นเวลาสามวันแล้ว แต่ในเมืองก็ยังคงยุ่งมาก!รักษาผู้บาดเจ็บ นับทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ และจัดเตรียมเงินบำนาญ!เ
หวังหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “มีบางสิ่งที่มนุษย์เรามองตาเปล่าไม่เห็น มันมีขนาดเล็กกว่าฝุ่นท่ามกลางแสงแดด พวกมันอยู่บนมีดและผ้าพันแผล สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้บาดแผลเน่าเปื่อย เพียงแค่ทำความสะอาดแผลด้วยแอลกอฮอล์ แล้วพันผ้าด้วยผ้าที่ต้มในน้ำเดือด เพื่อฆ่าสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ แล้วแผลก็จะหายเร็วขึ้น”แพทย์หนุ่มขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “ในเมื่อดวงตาของมนุษย์ไม่อาจมองเห็นสิ่งที่เล็กกว่าฝุ่นได้ แล้วท่านค้นพบมันได้อย่างไรหรือขอรับ ท่านเสนาธิการทหาร? บรรพบุรุษของข้าฝึกฝนวิชาแพทย์มาเก้ารุ่นแล้ว เหตุใดข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย!”แพทย์ทหารหลายคนมองหวังหยวน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความสงสัยพวกเขาเคารพหวังหยวน และชื่นชมเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ!แต่ความเคารพก็คือความเคารพ ตอนนี้หวังหยวนท้าทายความเป็นมืออาชีพแล้ว ทำให้ทุกคนเริ่มไม่ค่อยมั่นใจเพราะอย่างไรเสีย การแนะนำผู้เชี่ยวชาญก็เป็นเรื่องยากสำหรับคนธรรมดา!หวังหยวนมองแพทย์หนุ่ม ไม่โกรธ แต่ถามด้วยรอบยิ้ม “เจ้าชื่ออะไร!”แพทย์ทหารหนุ่มตอบอย่างภาคภูมิใจ “เรียนท่านเสนาธิการทหาร ข้าน้อยชื่อฟู่ฉี เป็นแพทย์ฝีมือดีที่สุดในกองทัพ!”เขาชื
“เจ้าไม่สามารถเรียนรู้ได้ หากเจ้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน!”หวังหยวนกล่าวว่า “ข้าจะให้คนไปนำศพของชาวหวงมาให้พวกเจ้าทันที จะได้ผ่าดูว่าเอ็นข้อมือและเอ็นร้อยหวายคืออะไร จากนั้นจะได้ช่วยเย็บต่อให้พี่น้องได้เมื่อถึงเวลา”“ผ่าศพคน!”แพทย์ทหารทุกคน รวมถึงฟู่ฉีต่างก็ตกตะลึง บางคนรู้สึกสยอง!ในยุคนี้ไม่ว่าใครก็เชื่อเรื่องผีและเทพเจ้า น้อยคนนักที่จะกล้าเข้าใกล้ศพ!ไม่ต้องพูดถึงการชำแหละศพ!คำพูดของหวังหยวนทำให้พวกเขาหวาดกลัวมาก จนแทบจะสติแตก“นี่คือทักษะทางการแพทย์แขนงใหม่ ใครก็ตามที่สามารถเรียนรู้สำเร็จ จะเป็นคนแรกในการแพทย์แขนงนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีชื่อเสียงไปอีกนานหลายศตวรรษ แต่จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ด้วย!”หวังหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงโน้มน้าวใจ “หากใครสามารถรักษามือและเท้าของทหารได้ ข้าจะขอให้แม่ทัพหนุ่มขอความดีความชอบให้ จากนั้น... จะสามารถไปทำงานในโรงหมอหลวงได้!”“เฮือก!”ดวงตาของแพทย์ทหารทุกคนเป็นประกายเมื่อได้ยินดังนั้น ไม่มีใครเคยทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นนี้!ฟู่ฉีกัดฟันพูด “ท่านเสนาธิการทหาร ข้ายินดีที่จะลองดูขอรับ!”“ได้เลย!”ดวงตาของหวังหยวนเป็นประกาย “รอก่อน ข้
อากู่ฉากล่าวว่า “เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าพ่อของข้าพูดอะไรกับข้าก่อนที่สิ้นลม?”หวังหยวนหันกลับมา “ขออภัย ข้าไม่สนใจคำพูดสุดท้ายของข้าศึก!”“เจ้า...”อากู่ฉาเลือดขึ้นหน้า เขารีบกัดฟันพูด “พ่อของข้าบอกว่าไม่ต้องล้างแค้นให้เขา ให้ข้าบุกทำลายเมืองและจับตัวเจ้าทันที แต่อย่าฆ่าเจ้า และให้ทุกสิ่งที่เจ้าต้องการ เพื่อชนะใจเจ้าให้ได้ และบอกว่าเจ้าสามารถครองแผ่นดินได้! เดิมทีข้าเมินเฉยต่อคำพูดสุดท้ายของพ่อ แต่หลังจากศึกครั้งนี้ ท่านอ๋องน้อยเช่นข้าก็เชื่อเช่นนั้น”“ให้ตายเถอะ...”หวังหยวนแอบสบถเจ้าบ้าอ๋องถูหนานคนนี้กำลังหาเรื่องให้เขาไม่ใช่หรือ พูดเรื่องไร้สาระก่อนตาย!หากคำพูดนี้แพร่ออกไป เขาคงเดือดร้อนหนักแน่!โจวไป๋ต้วนที่นิ่งเงียบอยู่ข้าง ๆ พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “แม่ทัพหนุ่ม เสนาธิการทหาร พวกเจ้าเองก็คงรู้ว่าต้าเย่ของพวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ฮ่องเต้โง่เขลาเบาปัญญา ขุนนางก็โลภมาก คนมีความสามารถแท้จริงกลับถูกกีดกัน ต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งสูงกัน แม้แต่ผู้บัญชาการอย่างแม่ทัพมู่ก็ถูกฆ่าตาย ราชสำนักเช่นนี้ไม่คุ้มกับการยอมมอบชีวิตให้!”อากู่ฉารีบพูด “เสนาธิการทหารและแม่ทัพหนุ่ม พวกเจ้าคุมได้ทั้งพล