แชร์

บทที่ 328

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ทหารต้าเย่ส่งคนมาสองหมื่นคน ทุกคนถือคบเพลิงยืนเรียงแถวเหมือนมังกรเพลิงตัวยาว!

หวังหยวนไม่อยากลอบโจมตี ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายอยู่ใกล้เกินไปจะเห็นการเคลื่อนไหวของกองทัพขนาดใหญ่ได้ง่าย

หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็สู้จุดคบเพลิงให้เห็นอย่างเปิดเผย ให้เห็นชัดไปว่าเราจะโจมตีด้วยกำลังแบบนี้

กองทัพที่มีมากกว่าสองหมื่นคน

ด้านหน้ามีทหารราบเกราะหนักชุดใหม่ คุ้มกันหน้าไม้ยักษ์ที่ขนใส่รถมา

ทหารราบที่อยู่ตรงกลางขี่วัวมาแปดร้อยนาย ตามมาด้วยทหารม้าหนึ่งหมื่นนาย!

ในเมืองนี้มีทหารม้าอยู่แค่สองพันนาย แต่พวกเขาเอาชนะชาวหวงและยึดม้ามาได้เป็นจำนวนมาก!

ทหารม้ามือใหม่แปดพันนายเหล่านี้ทำได้แค่ขี่ม้าเท่านั้น ไม่รู้จะใช้ม้าต่อสู้ได้อย่างไร แต่มีไว้เพื่อสะดวกในการไล่ล่าศัตรูเท่านั้น

ในตอนนี้มาถึงในระยะสามลี้แล้ว!

กองทัพสองหมื่นคน บุกมาถึงนอกค่ายชาวหวงและหยุดห่างออกไปสามร้อยก้าว

แม้ว่าพวกชาวหวงจะไม่มีหน้าไม้ยักษ์ แต่หลังจากบุกยึดได้หลายเมือง พวกเขาจึงมีหน้าไม้ยักษ์ที่ต้าเย่ทำขึ้น!

สามร้อยก้าวคือระยะยิงสูงสุดของหน้าไม้ยักษ์

ในตอนกลางขบวน หวังหยวนกล่าวว่า "พวกชาวหวงทำอะไรน่ะ!"

ทหารผ่านศึกชุดเกราะทมิฬที่ทำห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 329

    แต่ลูกธนูหน้าไม้ยักษ์ยังไม่หยุดยิง!ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว…จึก จึก จึก...ลูกธนูหน้าไม้ยักษ์บินข้ามหัวของพวกเขา ทหารชาวหวงจำนวนมากที่เสียวหัววาบไปหมด พวกเขาแอบยกย่องอ๋องน้อยสำหรับสติปัญญาและความกล้าหาญของเขา ที่ค้นพบข้อบกพร่องในหน้าไม้ยักษ์อย่างรวดเร็ว!อากู่ฉาที่นอนอยู่บนพื้นขมวดคิ้ว "ท่านอาจารย์ พวกเขากำลังทำอะไรอยู่ เห็นชัด ๆ ว่าพวกเขายิงเราไม่ได้ แล้วทำไมพวกเขาถึงยังยิงหน้าไม้ยักษ์อยู่อีก!"สายตาของโจวไป่ต้วนเคร่งเครียด "พวกเขาใช้หน้าไม้ยักษ์พังแนวรั้วขวางม้า ราวกับว่าพวกเขาอยากจะบุกโจมตีค่ายของเราโดยตรง!"“บุกค่าย!”อากู่ฉายิ้มอย่างเย็นชา "คิดว่าหลังจากชนะศึกสองครั้งแล้ว เจ้าจะเอาชนะทหารชาวหวงของข้าแบบตัวต่อตัวได้งั้นรึ ฝันไปเถอะ มาดูกันว่าข้าจะเอาชนะเขาในครั้งนี้ได้อย่างไร!"โจวไป่ต้วนขมวดคิ้วและพูดว่า "อ๋องน้อย ข้าคิดอยู่ตลอดว่ากลอุบายของหมอนั่นไม่ง่ายขนาดนั้น เราควรระวังไว้ดีกว่า!"“ไม่ว่าเขาจะใช้กลอุบายอะไรก็ตาม ข้าจะต่อสู้ด้วยดาบหอกจริงอย่างไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!”อากู่ฉาพูดอย่างเย่อหยิ่ง!"มาแล้ว!"ทันใดนั้นดวงตาของโจวไป่ต้วนก็หรี่ลง!ที่หน้าประตูค่าย แนวรั้วขวางม้าทั้งหมด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 330

    “อ๋องน้อย หนีไปซะ ณ จุดนี้เราพ่ายแพ้หมดรูปแล้ว! หมอนั่นมันไม่ใช่คน เขาช่างเลวร้ายเหลือเกิน คนซื่อตรงอย่างพวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาหรอก หนีไปเร็วเข้า!”ตอนที่ดึงอากู่ฉา โจวไป่ต้วนหน้าชาไปหมดแล้ว และเขาก็ได้ยอมแพ้จากใจจริงเขาคิดว่าเขามีความรู้มากมาย และมีกลอุบายมากมายนับไม่ถ้วน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกลอุบายของเด็กนั่น เขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเขาซื่อสัตย์และเถรตรงเกินไปความคิดแผนดี ๆ ของเขามาจากไหนกัน!วัวแปดร้อยตัวสร้างหายนะในค่ายชาวหวง ทั้งค่ายก็ลุกโชนด้วยเปลวเพลิง และเต็มไปด้วยความโกลาหลไม่ต้องพูดถึงชาวหวง แม้แต่ต้าเย่ก็อ้าปากค้างจนใส่ไข่ทั้งฟองเข้าไปได้!เมื่อเช้าเสนาธิการทหารบอกว่าจะพาไปถล่มค่ายชาวหวงในคืนนี้ แต่ไม่มีใครเชื่อ!แม้ว่าพวกเขาจะได้เห็นวัวแปดร้อยตัว แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าการต่อสู้เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้“ท่านเสนาธิการทหาร เราประทับใจท่านจริง ๆ เราประทับใจสุดไปเลย!”หวางห่าว, อู๋หยวน และเจิ้งฝาเป่ย ขุนพลผู้มีประสบการณ์สามคน กำหมัดและก้มศีรษะคำนับอีกครั้งพวกเขาใช้สมองคิดมาทั้งเช้า คิดอยู่ว่าท่านเสนาธิการทหารจะพาพวกเขาไปเอาชนะศัตรูในคืนนี้ได้อย่างไรคิดมาไม่ต่ำกว่าสิบว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 331

    ฉินจ้าน เจ้ากรมกรมกลาโหมกล่าวว่า “ฝ่าบาท แม้ว่าเมืองจะถูกทำลายเพราะพ่ายศึกในครั้งนี้ ก็จะไม่ใช่ความผิดของแม่ทัพหนุ่ม ด้วยความสามารถทางทหารของเขา เขาจะปกป้องเมืองได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องมีเหตุผล เราจำเป็นต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมเห็นชอบพ่ะย่ะค่ะ!”โจวจิงเหย่ เจ้ากรมกรมพิธีการแสดงจุดยืนตัวเองพวกเขาทั้งสามอยู่ฝ่ายเดียวกัน สนับสนุนอู๋หลิงให้เป็นผู้บัญชาการ และตอนนี้ก็กำลังแบ่งปันความรับผิดชอบ“ฝ่าบาท รอไม่ไหวแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เสนาบดีฝ่ายขวาเป้าชิงสื่อกล่าวว่า “เมืองหวงจะได้รับข่าวเร็ว ๆ นี้ กลุ่มคนที่เราส่งไปเมืองหวงเพื่อเจรจาสันติภาพจะไปถึงในไม่ช้า เราต้องให้คำตอบที่น่าพอใจแก่เมืองหวง ไม่เช่นนั้นชาวหวงจะเพิ่มกองกำลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้าเย่ของเราจะตกอยู่ในอันตราย”การประชุมราชสำนักครั้งสุดท้าย ตัดสินใจว่าจะใช้ประโยชน์จากชัยชนะอันยิ่งใหญ่ เพื่อเจรจาสันติภาพกับชาวหวง จึงส่งหลินเจาเอินไปที่นั่นตอนนี้ต้องใช้ประโยชน์จากการเจรจาสันติภาพกับชาวหวง จึงจะสามารถโค่นกลุ่มสนับสนุนให้ทำสงครามหยางเฟิ่งกั๋วได้“กระหม่อมเห็นชอบพ่ะย่ะค่ะ!”เจ้ากรมทั้งสาม ได้แก่ ส

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 332

    “จางหานถูกลดตำแหน่งเป็นผู้พิพากษา เสวี่ยผานถูกถอดออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการ และหลินเจาเอินถูกปลดออกจากตำแหน่ง! เรียกทูตสันติภาพกลับมาเดี๋ยวนี้!”ฮ่องเต้ซิงหลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อู๋หลิงได้รับการเลื่อนตำแหน่งสองระดับติดต่อกัน ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด และได้รับตำแหน่งอู๋โหว หลังจากจัดการกิจการของเมืองจิ่วซานเรียบร้อยแล้ว เขาจะถูกย้ายกลับไปที่เมืองจิงตู เพื่อรายงานการทำงานตามหน้าที่”“ฝ่าบาททรงพระปรีชาพ่ะย่ะค่ะ!”หยางเฟิ่งกั๋วและทั้งสี่คนน้ำตาคลอเบ้า!ตระกูลอู๋หลั่งเลือดสละชีวิตเพื่อต้าเย่ และตอนนี้ขุนนางชั้นโหวก็สามารถปลอบโยนจิตวิญญาณของแม่ทัพมู่ในสวรรค์ได้แล้วแต่ฮ่องเต้ยังคงสั่งย้ายอู๋หลิง เพราะยังคงไม่ไว้วางใจให้เขาดูแลกองทัพฮ่องเต้ซิงหลงครุ่นคิดเล็กน้อย “ส่วนบัณทิตถงเซินหวังหยวนนั้น เขาไม่ใช่ทั้งเจ้าหน้าที่และพลเรือน ดังนั้นจึงไม่ง่ายเลยที่จะให้รางวัลเขา ให้เขาตั้งใจเรียนเถอะ ข้าจะใช้เขาให้เป็นประโยชน์ ก็ต่อเมื่อเขามีชื่ออยู่ในรายชื่อทองเมื่อสอบผ่าน”“อะไรนะ!”หยางเฟิ่งกั๋วลุกขึ้นยืนทันที “ฝ่าบาท ท่านควรรู้ว่าท่านหวังหยวนมีบทบาทสำคัญ ในการทำลายล้างกอง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 333

    เดิมทีกลุ่มเสนาบดีฝ่ายซ้ายมีชัยชนะเหนืออีกฝ่าย แต่ตอนนี้ใบหน้ากลับมืดมน ไม่มีความสุขเลยในทางกลับกัน กลุ่มเสนาบดีฝ่ายขวาก็ยกยิ้มมุมปาก ด้วยความพึงพอใจมาก!ในห้องตำราหลวงเหลือเพียงคนสามคนฉินจ้านขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นฝ่าบาท เสนาธิการทหารมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เหตุใดพระองค์ไม่นำตัวเขามาใช้?”โจวจิงเหย่กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เลือกซื้อวิธีลับในการสร้างอาวุธเวทมนตร์ โดยให้รางวัลเป็นเพียงเงินหนึ่งพันตำลึง และตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับเก้าเท่านั้น ฝ่าบาทนี่ นี่... เฮ้อ!”หยางเฟิ่งกั๋วพูดด้วยใบหน้าเย็นชา “เรื่องนี้ยังไม่จบ เราจะหารือกันอีกครั้งในการประชุมราชสำนักครั้งหน้า แทนที่จะให้รางวัลคนทำความดีความชอบ กลับขโมยความลับของประชาชนไปแทน มาดูกันว่าทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน และเจ้าหน้าที่ทหารในราชสำนักจะเห็นด้วยหรือไม่?”อีกสองคนขนหัวลุก เสนาบดีฝ่ายซ้ายอารมณ์ขึ้นแล้ว นี่เป็นการต่อสู้กับฝ่าบาท...ในวันเดียวกันนั้น ณ เมืองจิ่วซาน!แม้ว่าจะได้กำแพงด่านหลงโถวกลับคืนมาเป็นเวลาสามวันแล้ว แต่ในเมืองก็ยังคงยุ่งมาก!รักษาผู้บาดเจ็บ นับทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ และจัดเตรียมเงินบำนาญ!เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 334

    หวังหยวนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “มีบางสิ่งที่มนุษย์เรามองตาเปล่าไม่เห็น มันมีขนาดเล็กกว่าฝุ่นท่ามกลางแสงแดด พวกมันอยู่บนมีดและผ้าพันแผล สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้บาดแผลเน่าเปื่อย เพียงแค่ทำความสะอาดแผลด้วยแอลกอฮอล์ แล้วพันผ้าด้วยผ้าที่ต้มในน้ำเดือด เพื่อฆ่าสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ แล้วแผลก็จะหายเร็วขึ้น”แพทย์หนุ่มขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “ในเมื่อดวงตาของมนุษย์ไม่อาจมองเห็นสิ่งที่เล็กกว่าฝุ่นได้ แล้วท่านค้นพบมันได้อย่างไรหรือขอรับ ท่านเสนาธิการทหาร? บรรพบุรุษของข้าฝึกฝนวิชาแพทย์มาเก้ารุ่นแล้ว เหตุใดข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย!”แพทย์ทหารหลายคนมองหวังหยวน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความสงสัยพวกเขาเคารพหวังหยวน และชื่นชมเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ!แต่ความเคารพก็คือความเคารพ ตอนนี้หวังหยวนท้าทายความเป็นมืออาชีพแล้ว ทำให้ทุกคนเริ่มไม่ค่อยมั่นใจเพราะอย่างไรเสีย การแนะนำผู้เชี่ยวชาญก็เป็นเรื่องยากสำหรับคนธรรมดา!หวังหยวนมองแพทย์หนุ่ม ไม่โกรธ แต่ถามด้วยรอบยิ้ม “เจ้าชื่ออะไร!”แพทย์ทหารหนุ่มตอบอย่างภาคภูมิใจ “เรียนท่านเสนาธิการทหาร ข้าน้อยชื่อฟู่ฉี เป็นแพทย์ฝีมือดีที่สุดในกองทัพ!”เขาชื

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 335

    “เจ้าไม่สามารถเรียนรู้ได้ หากเจ้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน!”หวังหยวนกล่าวว่า “ข้าจะให้คนไปนำศพของชาวหวงมาให้พวกเจ้าทันที จะได้ผ่าดูว่าเอ็นข้อมือและเอ็นร้อยหวายคืออะไร จากนั้นจะได้ช่วยเย็บต่อให้พี่น้องได้เมื่อถึงเวลา”“ผ่าศพคน!”แพทย์ทหารทุกคน รวมถึงฟู่ฉีต่างก็ตกตะลึง บางคนรู้สึกสยอง!ในยุคนี้ไม่ว่าใครก็เชื่อเรื่องผีและเทพเจ้า น้อยคนนักที่จะกล้าเข้าใกล้ศพ!ไม่ต้องพูดถึงการชำแหละศพ!คำพูดของหวังหยวนทำให้พวกเขาหวาดกลัวมาก จนแทบจะสติแตก“นี่คือทักษะทางการแพทย์แขนงใหม่ ใครก็ตามที่สามารถเรียนรู้สำเร็จ จะเป็นคนแรกในการแพทย์แขนงนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีชื่อเสียงไปอีกนานหลายศตวรรษ แต่จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ด้วย!”หวังหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงโน้มน้าวใจ “หากใครสามารถรักษามือและเท้าของทหารได้ ข้าจะขอให้แม่ทัพหนุ่มขอความดีความชอบให้ จากนั้น... จะสามารถไปทำงานในโรงหมอหลวงได้!”“เฮือก!”ดวงตาของแพทย์ทหารทุกคนเป็นประกายเมื่อได้ยินดังนั้น ไม่มีใครเคยทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นนี้!ฟู่ฉีกัดฟันพูด “ท่านเสนาธิการทหาร ข้ายินดีที่จะลองดูขอรับ!”“ได้เลย!”ดวงตาของหวังหยวนเป็นประกาย “รอก่อน ข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 336

    อากู่ฉากล่าวว่า “เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าพ่อของข้าพูดอะไรกับข้าก่อนที่สิ้นลม?”หวังหยวนหันกลับมา “ขออภัย ข้าไม่สนใจคำพูดสุดท้ายของข้าศึก!”“เจ้า...”อากู่ฉาเลือดขึ้นหน้า เขารีบกัดฟันพูด “พ่อของข้าบอกว่าไม่ต้องล้างแค้นให้เขา ให้ข้าบุกทำลายเมืองและจับตัวเจ้าทันที แต่อย่าฆ่าเจ้า และให้ทุกสิ่งที่เจ้าต้องการ เพื่อชนะใจเจ้าให้ได้ และบอกว่าเจ้าสามารถครองแผ่นดินได้! เดิมทีข้าเมินเฉยต่อคำพูดสุดท้ายของพ่อ แต่หลังจากศึกครั้งนี้ ท่านอ๋องน้อยเช่นข้าก็เชื่อเช่นนั้น”“ให้ตายเถอะ...”หวังหยวนแอบสบถเจ้าบ้าอ๋องถูหนานคนนี้กำลังหาเรื่องให้เขาไม่ใช่หรือ พูดเรื่องไร้สาระก่อนตาย!หากคำพูดนี้แพร่ออกไป เขาคงเดือดร้อนหนักแน่!โจวไป๋ต้วนที่นิ่งเงียบอยู่ข้าง ๆ พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “แม่ทัพหนุ่ม เสนาธิการทหาร พวกเจ้าเองก็คงรู้ว่าต้าเย่ของพวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ฮ่องเต้โง่เขลาเบาปัญญา ขุนนางก็โลภมาก คนมีความสามารถแท้จริงกลับถูกกีดกัน ต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งสูงกัน แม้แต่ผู้บัญชาการอย่างแม่ทัพมู่ก็ถูกฆ่าตาย ราชสำนักเช่นนี้ไม่คุ้มกับการยอมมอบชีวิตให้!”อากู่ฉารีบพูด “เสนาธิการทหารและแม่ทัพหนุ่ม พวกเจ้าคุมได้ทั้งพล

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status