“ข้าเพิ่งเคยเห็นสิ่งนี้เป็นครั้งแรก...”“เป็นไปได้หรือไม่ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ของท่านหวัง?”เซียวตั๋วรับปืนไรเฟิลซุ่มยิงมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน แต่ก็ไม่อาจหยั่งถึงความลับอะไรได้รู้แต่เพียงว่าวัสดุช่างวิเศษนัก โครงสร้างภายในก็ประณีต หากไม่มีแบบแปลนที่ถูกต้องแม่นยำ แม้มีสิ่งนี้เป็นต้นแบบก็คงยากที่จะสร้างสิ่งเดียวกันขึ้นมาได้ทว่าหากอาวุธร้ายแรงเช่นนี้สามารถใช้กันอย่างแพร่หลายในกองทัพ ย่อมเพิ่มขีดความสามารถในการรบได้อย่างมหาศาล!“ถูกต้อง นี่เป็นเพียงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ข้าบังเอิญประดิษฐ์ขึ้นมาได้”“แม้มันจะมีอานุภาพร้ายแรง แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ใดจะใช้ได้ ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการยิงธนูและต้องฝึกฝนเป็นเวลานาน จึงจะสามารถควบคุมและดึงพลังอันสูงสุดของมันออกมาได้!”“ต่งอวี่ฝึกฝนถึงสี่เดือนเต็มจึงได้ผลลัพธ์เช่นนี้”“หากคุณหนูไป๋อยากลองก็เชิญได้ตามสบาย!”หวังหยวนพูดพลางแย้มยิ้มเขาไม่ได้กล่าวเกินจริงแต่อย่างใด ความจริงก็เป็นเช่นนั้น ต่งอวี่ใช้เวลาฝึกฝนอย่างมากจึงสามารถยิงได้แม่นยำเช่นนี้แน่นอนว่าในการรบจริงคงใช้มันไม่บ่อยนัก!เพราะปืนไรเฟิลซุ่มยิงพกพาไม่สะดวก ใช้ได้ในยามคับขันเท่านั้น!
เซียวตั๋วยกยิ้มมุมปาก บัดนี้เขาเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วสาเหตุที่หวังหยวนให้ทั้งสองประลองฝีมือ ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ต่งอวี่มีชื่อเสียงโด่งดัง หากแต่ต้องการดึงไป๋ลั่วหลีเข้ามาเป็นพวกด้วยแม้ปืนไรเฟิลซุ่มยิงจะมีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นอาวุธร้ายแรงที่หาได้ยากมาก แต่หากนำมาแลกความสัมพันธ์กับไป๋ลั่วหลีได้ นับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมากมาก!“เซียวตั๋ว เจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการหรือไม่”“เจ้าทั้งสองล้วนเป็นแขกคนสำคัญของข้า ข้าคงไม่อาจปล่อยให้กลับไปมือเปล่า”หวังหยวนพูดพลางยิ้มให้เซียวตั๋วคนทั้งสองล้วนเป็นคนรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์ไป๋ลั่วหลีเป็นเช่นไร เซียวตั๋วก็เป็นเช่นนั้นหากสามารถดึงเซียวตั๋วมาเป็นพวกได้ก็จะเป็นผลประโยชน์อันมหาศาลเซียวตั๋วลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้ากล่าวว่า “ท่านหวัง ขอบพระคุณในความหวังดี แต่ข้าไม่มีสิ่งใดที่ต้องการ...”“ท่านสามารถออกไปสืบถามได้ ข้าเป็นคนไร้ความปรารถนา ไม่ว่าเงินทองหรือสตรี ข้าล้วนไม่ได้ใส่ใจ”แม้เซียวตั๋วจะอายุยังน้อย แต่มีความสุขุมลุ่มลึกไม่ได้ด้อยไปกว่าขุนนางผู้มากประสบการณ์ในราชสำนักยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีวรยุทธ์สูงส่ง นี่เป็นสิ่งที่ไทเฮาเซียวโปรดปราน
“วันนี้เป็นโอกาสอันดี”“ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาเพิ่งไปที่ลานฝึกธนูและประลองฝีมือกันเป็นเวลานาน”“คาดว่าตอนนี้ทั้งสองคงเหนื่อยล้า เมื่อถึงยามวิกาล พวกเจ้าทั้งสองจงแอบเข้าไปในห้องของพวกเขา แล้วสังหารเสียให้สิ้น!”“จำไว้! หากพลาดท่าจงรีบหนีออกไปทันที อย่าได้อยู่นาน!”“เข้าใจหรือไม่!”ซ่งติ้งกั๋วกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน สายตาจ้องมองชายทั้งสองอย่างเข้มงวดทั้งสองล้วนเป็นมือสังหารที่เขาฝึกฝนขึ้นมาเอง!ย่อมไว้ใจได้!ทั้งสองสบตากัน แล้วพยักหน้าพร้อมกัน“ขอรับ!”“เช่นนั้นข้าจะฝากความหวังไว้กับพวกเจ้าทั้งสอง”“หากเรื่องนี้สำเร็จ เมื่อกลับไป ข้าจะกราบทูลฝ่าบาทให้ปูนบำเหน็จรางวัลแก่พวกเจ้า”“แต่หากล้มเหลว พวกเจ้าก็อย่าได้สร้างปัญหาอันใดให้ข้า จงปลิดชีพตนเองเสีย...”ต้องยอมรับว่าวิธีการของซ่งติ้งกั๋วช่างโหดเหี้ยมยิ่งนักแต่เมื่อดำรงตำแหน่งนี้ย่อมต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเขาเองก็ไม่อยากเห็นลูกน้องต้องสละชีพ แต่ก็จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เพราะเขาต้องช่วยเหลือไป๋ชิงชางกำจัดศัตรูให้สิ้นซาก!เช่นนี้จึงจะสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับอาณาจักรต้าเป่ยได้!ในภายภาคหน้าต
เขามองข้ามเรื่องนี้ไปเดิมทีคิดว่าซ่งติ้งกั๋วคงกำลังลังเลเพราะกลัวถูกหลอกให้ติดเบ็ดแต่ดูเหมือนว่าซ่งติ้งกั๋วจะเข้าใจในผลประโยชน์ ทั้งยังรายงานให้อาณาจักรต้าเป่ยรับรู้ เหตุใดจึงยังไม่ตกลง กลับอ้างว่าต้องปรึกษาก่อนเพื่อถ่วงเวลา?หวังหยวนครุ่นคิดแต่ก็หาคำตอบไม่เจอ!“หรือว่าเขาจะมีแผนร้ายขอรับ?” ต่งอวี่เอ่ยขึ้น“ข้าดูออกว่าเขาไม่ใช่คนดี ต้องเป็นคนร้ายกาจเป็นแน่”“ดูอย่างเซียวตั๋วกับไป๋ลั่วหลีเถิด พวกเขาสง่างามและเป็นคนดีอย่างเห็นได้ชัด!”“ซ่งติ้งกั๋วต่างจากพวกเขามาก”“หากท่านผู้นำไม่สั่งห้าม ข้าคงฆ่าเจ้าคนสารเลวอย่างซ่งติ้งกั๋วไปนานแล้ว!”หวังหยวนกลอกตามองต่งอวี่เจ้าหนุ่มนี่อยู่กับต้าหู่และเอ้อหู่นานจนติดนิสัยใจร้อน ชอบใช้กำลังเสียแล้ว ช่างน่าอายนัก!“อะแฮ่ม...”ต่งอวี่รู้สึกได้ว่าหวังหยวนจ้องมองมาจึงกระแอมสองครั้งแล้วเงียบไป“ช่างเถิด ไม่ต้องสนใจว่าซ่งติ้งกั๋วจะทำอะไร”“พวกเราแค่ทำหน้าที่ของเราให้ดีก็พอ”“เรื่องความปลอดภัยห้ามประมาทเด็ดขาด”“หากคนพวกนี้เป็นอันตราย ต่อให้จะกระโดดลงแม่น้ำฮวงโห พวกเราก็คงแก้ตัวไม่ได้...”“เพราะพวกเขาล้วนเป็นคนสำคัญ แม้เซียวตั๋วกับไป๋ลั่ว
“นังเด็กตัวแสบ!”“ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะร้ายกาจถึงเพียงนี้! พกพาอาวุธลับติดตัวด้วยหรือ?”“ดูท่าข้าคงประเมินเจ้าต่ำไป!”ชายที่บุกเข้าโจมตีไป๋ลั่วหลีกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง แม้จะเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก แต่การโจมตีของเขายังคงรุนแรงไร้ปรานี!แม้จะถูกธนูโจมตีไปหลายดอก แต่ก็ไม่ได้ถอยหนี!ในใจเขามีเพียงความตั้งใจเดียวเท่านั้น นั่นคือสังหารไป๋ลั่วหลีให้ได้!“เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”“รู้หรือไม่ว่าที่นี่คือที่ใด และข้าเป็นผู้ใด?”“กล้าบุกเข้ามาทำร้ายข้า! ไม่กลัวตายบ้างหรือ?”น้ำเสียงของไป๋ลั่วหลีเย็นยะเยือก นางเอ่ยถามพร้อมกับตอบโต้การโจมตีอย่างต่อเนื่อง ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย!แท้จริงแล้วนางเพียงต้องการถ่วงเวลาเท่านั้นอาศัยหน้าไม้ในมือจึงสามารถต้านทานฝ่ายตรงข้ามได้ หากอีกฝ่ายเข้าประชิดตัว ผลลัพธ์คงเป็นหายนะเมื่อถึงตอนนั้น นางคงทำได้เพียงตกเป็นเหยื่อ...สถานการณ์เรียกได้ว่าลำบากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!หากรอจนกว่ากองกำลังของหวังหยวนจะมาถึง เรื่องราวก็คงแตกต่างออกไป...“เหตุใดเจ้าช่างพูดมากเสียจริง?”“หากเจ้ายอมสยบต่อหน้าข้า บางทีข้าอาจไม่ทรมานเจ้า!”“แต่หากเจ้ายังขัดขืน ข้าไม่เพี
“หากคุณหนูไป๋เกิดอันตรายอันใด พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องรับผิดชอบ!”เหล่าทหารรับคำสั่งก่อนจะรีบแยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่ความวุ่นวายในค่ำคืนนี้ช่างยาวนานยิ่งนัก!ขณะที่ต่งอวี่กำลังจะไปยังห้องของเซียวตั๋ว แต่เมื่อเดินออกจากห้องก็พบกับเซียวตั๋วที่เดินสวนทางมาบนร่างกายของเซียวตั๋วมีรอยเลือดเปรอะเปื้อนอยู่หลายแห่ง แต่ใบหน้ายังคงหล่อเหลา ไม่ได้ดูเหมือนผู้บาดเจ็บเมื่อเห็นสายตาของต่งอวี่ เซียวตั๋วก็ชี้ไปที่รอยเลือดบนร่างกายแล้วกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่เลือดของข้า แต่เป็นเลือดของมือสังหาร!”“ข้าได้สังหารมันไปแล้ว”“เดิมทีข้าตั้งใจจะจับเป็นมันไว้แล้วเค้นถาม แต่คนผู้นี้โหดเหี้ยมนัก!”“ถึงแม้จะบาดเจ็บสาหัส ก็ยังคิดจะฆ่าข้า ข้าจึงจำเป็นต้องลงมือ...”เซียวตั๋วอธิบายเพิ่มเติมต่งอวี่พยักหน้า และกล่าวว่า “ตายแล้วก็ตายไปขอรับ”“อย่างไรเสียพวกเราก็จะสืบสวนเรื่องนี้ให้กระจ่าง จะไม่ปล่อยให้ท่านและคุณหนูไป๋ต้องบาดเจ็บโดยเปล่าประโยชน์แน่นอนขอรับ”“หืม!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเซียวตั๋วก็พลันเปลี่ยนไป “คุณหนูไป๋ก็บาดเจ็บด้วยหรือ? นางบาดเจ็บสาหัสหรือไม่? เป็นอย่างไรบ้าง?”ต่งอวี่ตอบขณะเดินลงบันไ
“ซ่งติ้งกั๋ว!”“ลืมเขาไปได้อย่างไร?”ทุกคนนึกขึ้นได้ทันที ในเมื่อเซียวตั๋วกับไป๋ลั่วหลีถูกลอบสังหาร ซ่งติ้งกั๋วก็คงไม่รอดเช่นกัน!ขณะที่ทุกคนกำลังจะออกไปก็มีองครักษ์ของซ่งติ้งกั๋ววิ่งมาอย่างรวดเร็ว“ทางฝั่งอัครเสนาบดีซ่งเป็นอย่างไรบ้าง?”“เขาไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่?”หวังหยวนรีบถาม แม้จะเป็นห่วงไป๋ลั่วหลี แต่ก็ต้องดูแลซ่งติ้งกั๋วให้ปลอดภัยด้วยเช่นกัน!เพื่อป้องกันไม่ให้อาณาจักรต้าเป่ยฉวยโอกาส!“ท่านอัครเสนาบดีซ่งปลอดภัยดี!”“แต่ก็ถูกลอบสังหารเช่นกัน โชคดีที่พวกข้าพาคนมาด้วยเยอะจึงรับมือได้!”“ท่านหวัง! ท่านสมควรต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ใช่หรือไม่?”“หากระบบรักษาความปลอดภัยของท่านไม่มีปัญหา แล้วจะเกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?”“ทุกคนจะตกใจกลัวได้อย่างไร?”องครักษ์เหล่านั้นมองหวังหยวนด้วยความเย็นชา พูดจารุนแรง ไร้ซึ่งความเคารพ!คนของอาณาจักรต้าเป่ยล้วนเป็นเช่นนี้!ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ซ่งติ้งกั๋วพามาล้วนเป็นทหารเอกกล้าหาญที่เชื่อฟังเพียงแค่ซ่งติ้งกั๋ว จึงไม่สนใจสถานะของหวังหยวนแม้แต่น้อย!“หึ!”ต่งอวี่โมโหเมื่อได้ยินคำพูดขององครักษ์ เขารีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในชั่วพ
ทุกสิ่งต้องรอจนถึงอนาคตก่อนจึงจะสืบสวนหาความจริงได้!“เกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ ต่อให้ข้านอนลง แล้วจะข่มตานอนหลับได้อย่างไร?”เซียวตั๋วกล่าวพร้อมส่ายหน้า ใบหน้าเผยความเหนื่อยล้าค่ำคืนนี้คงเป็นค่ำคืนที่ไม่มีทางนอนหลับลงหวังหยวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็พยักหน้า “เช่นนั้นพวกเราก็ไปที่โรงหมอด้วยกันเถิด”...ภายในห้องพักของโรงเตี๊ยมซ่งติ้งกั๋วนั่งอยู่ที่โต๊ะ บนโต๊ะมีผ้าพันแผลเปื้อนเลือดวางอยู่หลายผืนบัดนี้ท้องน้อยของเขาได้รับบาดเจ็บ แต่โชคดีที่ไม่ได้โดนจุดสำคัญ เป็นเพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้นถึงกระนั้น ซ่งติ้งกั๋วอายุเกินห้าสิบปีแล้ว เสียเลือดมากเช่นนี้ สีหน้าย่อมไม่สู้ดีนัก“เจ้าว่าอย่างไรนะ?”“หวังหยวนไม่ได้มาเยี่ยมข้าด้วยซ้ำงั้นหรือ?”“หรือว่าเจ้าไม่ได้บอกเขาว่าข้าบาดเจ็บ?”ซ่งติ้งกั๋วมองทหารองครักษ์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดันทหารองครักษ์รีบอธิบายว่า “ไม่ใช่เช่นนั้นขอรับ!”“ข้าได้บอกหวังหยวนตามความจริงแล้วและยังใช้กิริยาแข็งกร้าวด้วย แต่ต่งอวี่ที่อยู่ข้างกายหวังหยวนกลับคิดจะลงมือทำร้ายข้า!”“สุดท้ายข้าจึงจำเป็นต้องกลับมาก่อนขอรับ...”“
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“
“เจ้าไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับข้า แสดงว่าเจ้าคงอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ”“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เล่าให้ข้าฟังสักหน่อยล่ะ อย่างน้อยก็ให้ข้าสนุกขึ้นมาบ้าง”หวังหยวนนั่งลงข้างหลิ่วหรูเยียน เขานั่งไขว่ห้างมือวางบนราวบันไดขณะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยรอยยิ้ม“เหตุใดท่านถึงน่ารำคาญนัก?”“ดูไม่ออกหรือว่าข้าไม่อยากคุยกับท่าน?”“รีบกลับไปดื่มกับพวกเขาซะเถอะ จะมานั่งขวางหูขวางตาข้าทำไม?”หลิ่วหรูเยียนกลอกตามองหวังหยวนแท้จริงแล้ว นางเพียงแค่รู้สึกว่างเปล่าหลังจากได้ล้างแค้นสำเร็จ ราวกับชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป นางไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป จึงทำให้ดูเหม่อลอยและเศร้าสร้อยแต่ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่วังหยวนมาที่นี่ นางกลับรู้สึกเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง“ว่ามาสิ เป็นอะไรไป?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่อง“ข้าอยากไปพบตานสยงเฟย”“ครั้งก่อนท่านสัญญากับข้าว่า เมื่อจับตานสยงเฟยได้จะให้ข้าจัดการเขา ยังจำได้หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนถาม“อืม...”หวังหยวนครุ่นคิด ใช้นิ้วเคาะขมับพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียเรื่องของพรรคทมิฬเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจตัดสินใจเพียงเพราะคำพูดของคนคนเดียวได้ ยิ่งกว่านั้น เพื่อจับตานสยงเฟย ยังต้องสูญ
“หวังหยวน! เจ้าช่างน่ารังเกียจ! กล้าเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวหรือ?”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างเดือดดาลส่วนโอวหยางอวี่และลั่วเฉินเห็นท่าไม่ดี จึงไม่รีรอ รีบพาผู้ใต้บัญชาหนีลงจากเขา!แต่น่าเสียดาย ที่เชิงเขามีการวางกองกำลังดักไว้แล้ว!ตานสยงเฟยและคนอื่น ๆ ต่างถูกจับเป็น!การต่อสู้ครั้งนี้ หวังหยวนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ!แต่เนื่องจากหน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล โดยรอบไม่มีบ้านเรือนหรือเมืองจึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการเพราะที่นี่คืออาณาจักรต้าเป่ย หากหานเทารู้ว่าเขายกทัพมาในดินแดนของอาณาจักรต้าเป่ย ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร พวกเขาก็อาจจะหาเรื่องจู่โจมได้!เมื่อถึงเวลานั้น เรื่องราวคงจะวุ่นวายและเกิดความขัดแย้ง!หลังจากที่จับตานสยงเฟยและพรรคพวกได้แล้ว หวังหยวนจึงรีบกลับเมืองอู่เจียงทันที!ใช้เวลาเพียงวันครึ่งก็กลับมาถึง!ระหว่างทาง แม้ว่าจะมีคนเห็น แต่มีเกาเล่อคอยนำทาง จึงไม่ทำให้คนของอาณาจักรต้าเป่ยรู้ตัว!...ณ ที่ว่าการเมืองอู่เจียงตอนนี้ทุกคนกำลังดื่มฉลองกันอย่างสนุกสนาน!คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือหวังหยวน!ส่วนเอ้อหู่และคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ที่
หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใด นางจ้องมองตานสยงเฟยด้วยความโกรธแค้นนางต้องการล้างแค้น!“ชีวิตของเขาเป็นของเจ้า ข้าจะช่วยจับเป็นให้!”“ส่วนต่อไป เจ้าจะจัดการเขาอย่างไรก็สุดแล้วแต่เจ้า!”หวังหยวนกล่าวจบก็หยิบปืนคาบศิลาออกมาจากอก แล้วเล็งไปที่ตานสยงเฟย“ในเมื่อเจ้ารู้จักข้าดี”“เจ้าควรรู้ว่าอาวุธลับของข้าไม่มีผู้ใดเทียบได้ ใช่หรือไม่?”“ข้าแนะนำให้เจ้ายอมจำนนเสีย จะได้ไม่เจ็บตัว!”หวังหยวนเตือนมุมปากของตานสยงเฟยกระตุก เขาสืบเรื่องของหวังหยวนมานาน จึงรู้จักหวังหยวนดี และจำได้ว่าอาวุธในมือของหวังหยวนคืออะไร!ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่ขุนพลที่เก่งกาจก็ยังไม่อาจหลบอาวุธนี้ได้!ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็คว้าตัวสาวกพรรคทมิฬคนหนึ่งมาใช้เป็นโล่มนุษย์!“ปัง!”เสียงปืนดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬคนนั้นล้มลงกับพื้นต้องยอมรับว่าตานสยงเฟยช่างโหดเหี้ยม!เพื่อเอาชีวิตรอด กลับยอมเสียสละชีวิตคนอื่น ช่างน่ารังเกียจ!หวังหยวนยกปืนขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเล็งไปที่ตานสยงเฟย ไม่ให้เขามีโอกาสหนี!“หวังหยวน!”“วันนี้ไว้ชีวิตข้าเถิด ต่อไปข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน!”“เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“การบีบให้ข้าจนตรอกไม่ได้เป็นผลดีต่อ
ลั่วเฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีก เพียงแค่รีบพาผู้ใต้บัญชาออกไป!เสียงโห่ร้องแห่งการฆ่าฟันดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬล้มตายเป็นใบไม้ร่วง!ตานสยงเฟยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ!สมาชิกพรรคทมิฬล้วนเป็นคนที่เขาฝึกฝนเอง เขาทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่ง!เดิมทีเขาต้องการครองแผ่นดิน แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้!สูญเสียกำลังพลไปเยอะมาก!ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย!“ตานสยงเฟย! อย่าหนีนะ!”“เจ้าคนสารเลว! หลอกลวงข้ามาหลายปี!”“ไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อแม่ข้าเท่านั้น ยังฝึกฝนข้าให้เป็นเครื่องมือทำเรื่องเลวร้ายมากมาย!”“วันนี้พวกเราต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”ขณะที่ตานสยงเฟยกำลังจะลงจากเขา หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งเข้ามา ในมือถือกริชเปื้อนเลือด สายตาเย็นชาราวกับคมดาบจ้องมองตานสยงเฟย!“มาคนเดียวหรือ?”เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมาคนเดียว ตานสยงเฟยก็หัวเราะในลำคอ เขาหันมาคว้าทวนยาวจากมือผู้ใต้บัญชาที่อยู่ด้านข้าง!เหตุผลที่ตานสยงเฟยสร้างฐานะขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเขามีความคิดที่แตกต่าง แต่ยังเป็นเพราะฝีมือของเขาด้วย!ในยุคสงคราม ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นผู้ชนะ!ยิ่งกว่านั้น ฝีมือ
“ทุกคนขึ้นเขาเดี๋ยวนี้!”“ห้ามปล่อยให้ใครหนีรอดไปได้!”หวังหยวนออกคำสั่ง ขุนพลนายกองเริ่มเคลื่อนไหวคนที่อาศัยอยู่บนหน้าผาแห่งนี้ล้วนเป็นระดับสูงของพรรคทมิฬและมีตำแหน่งสำคัญ การกำจัดพวกเขาให้หมดสิ้น จึงจะทำให้พรรคทมิฬหายไปอย่างสมบูรณ์!ตัดวัชพืชไม่ถอนราก เมื่อลมฤดูใบไม้ผลิพัดมาก็งอกขึ้นมาใหม่!เมื่อทุกคนเข้าไปบนหน้าผาแล้ว หวังหยวนก็ออกคำสั่ง ต่งอวี่และเอ้อหู่ต่างเป็นผู้นำพาผู้ใต้บัญชาบุกขึ้นไปบนยอดเขา!ส่วนหวังหยวนและคนอื่น ๆ ก็ตามไปติด ๆ!“เจ้าจะทำอะไร?”หวังหยวนหันไปคว้าแขนหลิ่วหรูเยียน แล้วถามขึ้นหลิ่วหรูเยียนมีสีหน้าเย็นชา กำหมัดแน่น สีหน้าโกรธเกรี้ยวนางขมวดคิ้วกล่าวว่า “ข้าจะขึ้นไปล้างแค้นด้วยตัวเอง!”“ไม่เพียงแต่ข้าเกือบตายเท่านั้น แม้แต่บิดามารดาข้าก็ถูกคนของพรรคทมิฬฆ่าตาย จะปล่อยพวกมันไปได้อย่างไร?”“วันนี้ไม่มีใครหยุดข้าได้ ข้าจะฆ่าตานสยงเฟย ล้างแค้นให้พ่อแม่!”พูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็สะบัดแขนหวังหยวนออก ก่อนจะชักกริชออกมาแล้ววิ่งขึ้นไปบนยอดเขา!แม้ว่านางจะเป็นคนบอกที่ตั้งฐานทัพนี้ให้หวังหยวน แต่ไม่มีใครรู้จักที่นี่ดีไปกว่านาง!ไม่นานพวกหวังหยวนก็ขึ้นไปถึงยอดเขา
หวังหยวนกลอกตามองเอ้อหู่ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ชีวิตของทหารที่อยู่ข้างหลังเจ้าล้วนอยู่ในมือเจ้า!”“การที่เจ้าพาพวกเขามาเสี่ยงอันตราย หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็ดีไป แต่หากเกิดความผิดพลาด เจ้าจะเผชิญหน้ากับครอบครัวของพวกเขาได้อย่างไร?”“อย่าลืมว่าการเป็นขุนพลไม่ใช่แค่เพื่อรบชนะ!”“แต่ต้องชนะอย่างสวยงาม ลดการสูญเสียให้มากที่สุด!”ทุกคนต่างตกตะลึงเดิมทีพวกเขาคิดว่าการติดตามหวังหยวนก็เพื่อหาเลี้ยงชีพ ในยุคสงคราม การมีข้าวกินก็ดีมากแล้วชีวิตพวกเขาจะสำคัญอะไร?ในสายตาของชนชั้นสูง ชีวิตพวกเขาไม่ต่างจากเศษหญ้า!เป็นเพียงเครื่องมือในการแย่งชิงอำนาจ!แต่หวังหยวนกลับมีเมตตา เห็นใจพวกเขา ทำให้พวกเขาซาบซึ้งจริง ๆ!ในตอนนี้ทุกคนต่างก็ตัดสินใจแล้ว แม้ว่าจะต้องสูญเสียมากมาย พวกเขาก็ยินดีสละชีพเพื่อช่วยหวังหยวนพิชิตหน้าผาแห่งนี้ และฆ่าคนของพรรคทมิฬให้หมดสิ้น!“รีบก่อไฟทำอาหาร!”“เมื่อทุกคนอิ่มท้องแล้วก็คงถึงเวลาพอดี!”“จำไว้! ห้ามส่งเสียงดัง ประเดี๋ยวพวกมันจะรู้ตัว!”“หากพวกมันรู้ตัวจะเป็นอันตรายต่อพวกเรา!”หวังหยวนกำชับทุกคนพยักหน้ารับ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองเ
ในช่วงเวลาไม่กี่วันต่อมา ด้วยการนำทางของหลิ่วหรูเยียน หวังหยวนและคนอื่น ๆ จึงไม่หลงทาง เดินทางมาถึงเชิงผาได้อย่างรวดเร็ว!บัดนี้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อก็ได้แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่โดยรอบแล้วหวังหยวนและคนอื่น ๆ ตั้งค่ายอยู่ในป่าแห่งหนึ่งเมื่อมองไปรอบ ๆ จะเห็นเงาคนมากมาย พวกเขาล้วนเป็นสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ“สืบทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหรือ?”หวังหยวนสวมชุดเกราะเตรียมพร้อมรับมือกรณีฉุกเฉินและป้องกันการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว!เกาเล่อรีบเข้ามารายงานด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “สืบเรียบร้อยแล้วขอรับ คนร้ายอยู่บนเขาลูกนี้!”“แต่ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังขนย้ายสิ่งของ ตั้งแต่ที่พวกเรามาถึงก็เห็นรถม้าลงมาจากเขาไม่ต่ำกว่าร้อยคันแล้ว!”“แต่พวกเราไม่ได้ลงมือเพื่อไม่ให้พวกมันตื่นตัว!”“ข้าได้ส่งคนไปตามเส้นทางที่พวกมันใช้ หลังจากที่พวกเราจัดการเรื่องบนหน้าผาแล้ว จากนั้นจึงไปกวาดล้างพวกมัน!”“แล้วทรัพย์สมบัติของพวกมันก็จะตกเป็นของพวกเรา!”หวังหยวนพยักหน้าอย่างพึงพอใจเรื่องนี้จัดการได้ดีมาก!เหตุผลที่พรรคทมิฬเติบโตอย่างรวดเร็วก็เพราะความร่ำรวย!หากตัดเส้นทางการเงินของพวกมัน แม้ว่าตานเฟยจ
ตานเฟยยิ้มอย่างพึงพอใจช่วงนี้หลังจากถูกหวังหยวนจับตามอง เขารู้สึกเหมือนมีคนคอยจ้องมองทุกการกระทำของเขาอยู่ตลอดเวลา!แม้แต่การหาสาวกใหม่ก็ยังยากลำบาก!หวังหยวนคอยขัดขวางเขา เขาจึงต้องสั่งสอนหวังหยวนบ้าง!แต่น่าเสียดาย...ยังหาโอกาสไม่ได้!ยิ่งไปกว่านั้น ตานเฟยไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าตนเองต่างกับหวังหยวน แล้วจะสู้หวังหยวนได้อย่างไร?อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้!ดังนั้นแม้ว่าในใจจะเคียดแค้นอาฆาต แต่ย่อมต้องหลีกเลี่ยง“ที่เจ้าทำงานสำเร็จก็แค่ช่วยถ่วงเวลาเท่านั้น”“ตราบใดที่หลิ่วหรูเยียนยังมีชีวิตอยู่ นางก็เหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ!”“ดังนั้นก่อนที่พวกเราจะฆ่านางได้ พวกเราต้องระวังตัวและดำเนินแผนการต่อไป!”“พยายามขนย้ายสิ่งของออกไป หากถึงเวลาจำเป็น พวกเราก็ต้องทิ้งฐานที่มั่นแห่งนี้”ทุกคนต่างรู้สึกเสียดายหน้าผาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดี ไม่เพียงแต่มีชัยภูมิที่ได้เปรียบเท่านั้น แต่ยังปลอดภัยมากอีกด้วย!จึงทำให้พวกเขาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว!แม้ว่าสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะกระจายอยู่ทั่วดินแดนทั้งเก้า แต่ก็ไม่ได้ตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงหน้าผาแห่งนี้!แต่น่าเสียดา