คุกใต้ดินมืดมิด ไม่เพียงแต่ไม่มีแสงสว่าง ซ้ำยังมีหนูสกปรกวิ่งพล่านอยู่ทุกหนทุกแห่ง!นางยังถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ แม้แต่กินข้าวก็ต้องให้คนอื่นป้อน นางรู้สึกเหมือนศักดิ์ศรีของตนถูกจับโยนลงกับพื้นแล้วถูกเหยียบย่ำหลิ่วหรูเยียนผู้สูงศักดิ์จะทนได้อย่างไร?“ฆ่าเจ้าหรือ?”“ทำเช่นนั้นได้อย่างไร?”“คนของข้าไปที่เมืองผีแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะกลับมา ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าแม้แต่น้อย”“อย่าว่าแต่ฆ่าเจ้าเลย ต่อให้เจ้าอยากฆ่าตัวตายก็คงไม่มีโอกาส...”หวังหยวนแสยะยิ้ม แล้วกล่าวต่อว่า “แต่ข้าขอเตือนเจ้า หากคนของข้ากลับจากเมืองผีไม่ได้ ข้าจะทำให้การมีชีวิตของเจ้าเลวร้ายยิ่งกว่าตาย”“เจ้าจะต้องเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้...”หลิ่วหรูเยียนตวาดลั่น“ไอ้สารเลว!”“เจ้ามันเลวที่สุด!”“ต่อไปต่อให้ข้ากลายเป็นผี ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป!”“ข้าจะสาปแช่งเจ้าในนรก เจ้าต้องมีจุดจบที่เลวร้าย!”เห็นหลิ่วหรูเยียนโกรธแค้น หวังหยวนก็เผยรอยยิ้มพอใจดูท่าอีกไม่นานหลิ่วหรูเยียนคงสติแตกถึงเวลานั้นนางก็คงสารภาพทุกอย่าง การค้นหาพรรคทมิฬคงไม่ไกลเกินเอื้อมหลังจากออกจากคุก หวังหยวนรีบติดต่อสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ“ยังไม
“เขาจะเลือกทางใดก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง...”หลี่ซื่อหานพยักหน้าเบา ๆ“ว่าแต่คืนนี้เจ้ามีแผนการอะไรหรือไม่?”หวังหยวนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา“ไม่มีเจ้าค่ะ”“พวกน้องสาวไม่ได้มาด้วย ข้าไม่มีคนรู้จักในเมืองอู่เจียง”“นอกจากอยู่กับท่าน ข้าก็ไม่รู้จะทำสิ่งใด”หลี่ซื่อหานตอบอย่างจนใจหากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ นางขออยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังดีกว่า อย่างน้อยก็ยังมีหวงเจียวเจียวและคนอื่น ๆ ให้พูดคุยแถมยังคุ้นเคยกับหมู่บ้านต้าหวัง คงไม่น่าเบื่อเช่นนี้แต่น่าเสียดาย โลกนี้ไม่อาจย้อนเวลาได้ ในเมื่อเลือกมาที่นี่แล้วคงต้องทน...“เช่นนั้นก็ดี”“คืนนี้ข้าจะพาเจ้าไปรื่นรมย์”หวังหยวนยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกวักมือเรียกคนที่อยู่นอกห้อง“เจ้าไปติดต่อคนของสามตระกูลใหญ่ แล้วจองโต๊ะที่ร้านอาหารให้ด้วย ข้ามีเรื่องจะปรึกษากับพวกเขา”แม้หวังหยวนจะไม่เคยพบกับคนของตระกูลเซียว แต่พวกเขาก็คงไม่กล้าขัดคำสั่งเขาเมื่อคนผู้นั้นออกไปแล้ว หลี่ซื่อหานจึงเอ่ยถาม “ท่านจะไปพบกับคนของสามตระกูลใหญ่หรือเจ้าคะ?”“ใช่”หวังหยวนกอดอก กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “หากต้องการให้เมืองอู่เจียงพัฒนา การปฏิรูปอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องอาศัย
กล่าวจบเกาเล่อก็คว้าโต๊ะขึ้นมาบังตัวเอง!ฝ่ายตรงข้ามโจมตีอย่างรุนแรง หากฝ่าออกไปคงมีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก!ได้แต่รอให้การโจมตีสงบลง จึงค่อยหาโอกาสหนี!สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อคนอื่น ๆ ต่างพากันหลบตามมุมห้อง ไม่กล้าปะทะโดยตรง!ห่าฝนธนูยังคงกราดใส่อยู่นาน ในที่สุดก็เงียบลง จากนั้นก็มีกลุ่มคนบุกเข้ามาทางประตู!“ใครคือเกาเล่อ?”“ออกมาเดี๋ยวนี้!”“ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าทุกคนในนี้!”ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าสวมหน้ากากกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา สายตาจ้องมองทุกคนเกาเล่อยืดคอขึ้นเพื่อคลายความตึง ก่อนจะก้าวออกมา ฝ่ายตรงข้ามมีกำลังคนมากกว่า คาดว่าข้างนอกคงมีคนล้อมไว้ ไม่มีทางหนีพ้นสู้เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อรักษาชีวิตคนอื่นจะดีกว่า!“ข้าคือเกาเล่อ พวกเจ้าเป็นใคร?”“เหตุใดจึงกล้าโจมตีพวกข้า?”“รู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังพวกข้าคือใคร?”แม้จะเสียเปรียบ แต่เกาเล่อก็ยังมีสีหน้าเรียบเฉยขณะกล่าวทีละคำชายสวมหน้ากากยกยิ้ม “พวกข้าไม่ได้อยากทำร้ายเจ้า เพียงแต่อยากให้เจ้าไปกับพวกข้า นายท่านของพวกข้าอยากพบเจ้า”“หากเจ้ายอมไปกับพวกข้า พวกข้าจะรักษาสัญญา ปล่อยคนของเจ้าไปทุกคน”“อย่างไรเสียพวกเ
เหล่าผู้นำแห่งสามตระกูลใหญ่ต่างมาชุมนุมกันที่ร้านอาหารแห่งนี้ก่อนเวลา คอยเฝ้ารอการมาถึงของหวังหยวนอย่างสงบภายในห้องดูเงียบเหงาผิดปกติ ทั้งสามไม่ได้เอ่ยวาจาใด มีเพียงสายตาที่จ้องมองกันไปมา“อะแฮ่ม...”เมื่อเจียงเซี่ยวอวิ๋นผู้ชาญฉลาดเห็นบรรยากาศในห้องเงียบเชียบเช่นนั้น จึงกระแอมสองสามครั้งแล้วจับจ้องไปที่เฉินเจิ้นหนาน“ท่านหัวหน้าตระกูลเฉิน ข้าได้ยินมาว่าท่านมีความสัมพันธ์อันดีกับท่านหวัง”“เท่าที่ข้าทราบ กิจการทั้งหมดของตระกูลซูก็ตกอยู่ในมือของท่านเช่นกัน ท่านพอจะทราบหรือไม่ว่าเหตุใดท่านหวังจึงเรียกพวกเรามาในวันนี้?”เซียวเฉิงเฟยรีบตั้งใจฟังโดยปกติแล้ว คนของตระกูลใหญ่ทั้งหลายต่างไม่สุงสิงกัน แม้จะพบเจอในบางโอกาสก็เป็นดั่งไฟกับน้ำ ท้ายที่สุดหากต้องการพัฒนาย่อมต้องกลืนกินกันเอง แต่ต่างฝ่ายต่างไม่มีพลังอำนาจมากพอ จึงได้แต่ยิ้มแย้มทักทายกันอย่างเสียไม่ได้เฉินเจิ้นหนานกระแอมเบา ๆ ก่อนจะส่ายหน้ากล่าวว่า “แม้ข้าจะมีความสัมพันธ์อันดีกับท่านหวังจริง แต่เรื่องในวันนี้ ข้าไม่อาจเปิดเผยให้พวกท่านทราบได้”“ท่านหวังได้กำชับข้าไว้เป็นอย่างดี มีบางเรื่องที่ควรพูดและบางเรื่องที่ไม่ควรพ
“ทุกคนคงทราบเรื่องราวของตระกูลซูแล้วกระมัง” หวังหยวนพูดขึ้นตรงประเด็นทั้งสามพยักหน้ารับเมืองอู่เจียงไม่ได้กว้างใหญ่ การที่ตระกูลซูหายไป พวกเขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?แน่นอนทุกคนรู้ดีว่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องกับหวังหยวน แต่นั่นเป็นเพราะตระกูลซูทำตัวเอง ไม่ควรโทษผู้อื่นถือเป็นบทเรียนอย่าได้ไปยั่วโมโหหวังหยวนเพื่อความปลอดภัยของตนเอง“ข้าจะไม่ปิดบังพวกท่าน”“เรื่องของตระกูลซู แท้จริงแล้วไม่สำคัญ แต่พวกท่านคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้วกระมัง?”“บัดนี้ข้ากำลังเร่งสร้างเขื่อนกั้นน้ำเพื่อประโยชน์ของชาวเมือง แต่คนของตระกูลซูกลับเห็นแก่ตัว แอบวางยาพิษลงในแหล่งน้ำ”“ทำให้คนงานมากมายล้มป่วย ทำให้การก่อสร้างล่าช้า”“เดิมทีข้าคิดจะไว้ชีวิตพวกเขาด้วยการให้พวกเขาจ่ายเงินชดใช้ แต่พวกเขากลับคิดจะหนี โชคดีที่ข้าจับตัวพวกเขาได้”“แต่น่าเสียดาย พวกเขากลับไม่สำนึกผิด ข้าจึงไม่อาจเก็บพวกเขาไว้ได้...”ทุกคนพยักหน้ารับอีกครั้งพวกเขาย่อมรู้เรื่องของคนงานแล้ว ครั้งนี้หวังหยวนทำได้ดี ทั้งยังได้ใจชาวบ้านทั่วหน้าทองคำสิบตำลึง สำหรับคนทั่วไปถือเป็นลาภลอย!ส่วนตระกูลซูคงเจ็บใจไม่น้อย...ด้ว
แน่นอนว่าเขาอยากใช้โอกาสนี้ร่ำสุราและพูดคุยกันอย่างเจาะลึกเฉินเจิ้นหนานรู้สึกโล่งใจ อย่างไรเสียเขาก็ได้กิจการเพิ่มขึ้นมาบ้างแม้จะไม่ได้เป็นใหญ่ที่สุดในเมืองอู่เจียง แต่ได้รับความคุ้มครองจากหวังหยวนก็เพียงพอแล้ว...จนกระทั่งล่วงเข้ายามดึก หวังหยวนและคนอื่น ๆ ก็แยกย้ายกันออกจากร้านไปบรรยากาศร่ำสุราครั้งนี้เต็มไปด้วยความครื้นเครงกลับมาถึงที่พักก็เห็นสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อนั่งรออยู่นานแล้วเดิมทีเขาเมาสุรา แต่เมื่อเห็นสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อก็รู้สึกตาสว่างขึ้นมาทันที“มีข่าวของเกาเล่อแล้วหรือ?”สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อพยักหน้า สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล หลังจากที่ลังเลอยู่นานก็พูดออกมา “ข้าเพิ่งได้รับข่าวว่าเกิดเรื่องขึ้นกับพวกท่านเกาเล่อแล้ว...”“อะไรนะ?”“รีบไปเก็บข้าวของ ข้าจะไปเมืองผีเดี๋ยวนี้!”หวังหยวนพูดเสียงดังเกาเล่อเป็นดั่งพี่น้องของเขา หลายปีมานี้หากไม่มีเกาเล่อช่วยเหลือ เขาจะทำทุกสิ่งอย่างราบรื่นเช่นนี้ได้อย่างไร?กล่าวได้ว่าเกาเล่อมีบทบาทสำคัญยิ่งกว่าพี่น้องต้าหู่และเอ้อหู่เสียอีก!ในเมื่อเกิดเรื่องกับเกาเล่อ หวังหยวนย่อมไม่อาจอยู่เฉย
“เช่นนั้นข้าจะไปเตรียมสัมภาระ ระหว่างทางท่านต้องระมัดระวังด้วย” หลี่ซื่อหานรู้ดีว่าไม่อาจขัดใจหวังหยวนได้ จึงรีบเข้าไปในห้องเพื่อจัดเตรียมข้าวของให้เขาหวังหยวนกับเกาเล่อมีความสัมพันธ์อันดี บัดนี้เกาเล่อตกอยู่ในอันตราย หวังหยวนย่อมไม่อาจนิ่งดูดายหากหวังหยวนไม่ยื่นมือเข้าช่วยก็คงไม่ใช่หวังหยวนที่นางรู้จัก...ตกดึกต่งอวี่ที่ได้รับข่าวรีบรุดมาเดิมทีหวังหยวนจะเรียกกำลังพลของต้าหู่และเอ้อหู่ แต่สถานการณ์ในเมืองหลิงยังไม่สงบ จึงจำเป็นต้องให้ทั้งสองอยู่ประจำการหากทั้งสองรู้ว่าเกาเล่อตกอยู่อันตราย คงจะละทิ้งทุกอย่างและมาหาหวังหยวนเพื่อช่วยก้าวเล่อทันที เช่นนั้นอาจมีคนฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้!หากต้องเสียเมืองไปก็คงไม่คุ้มค่า...ต่อให้ช่วยเกาเล่อได้ สถานการณ์ก็คงวุ่นวายยากที่จะควบคุม!“ท่านหวัง! ข้าได้รับข่าวจากท่านจึงรีบมาด่วนที่สุดเลยขอรับ!”“ท่านไม่ได้บอกรายละเอียดในจดหมาย เรียกข้ามาอย่างเร่งด่วน มีเรื่องอะไรหรือขอรับ!”“ระหว่างทางข้ากังวลยิ่งนัก...”ต่งอวี่เห็นหวังหยวนปลอดภัยก็รู้สึกโล่งใจระหว่างทางเขาคิดว่าคงเกิดเรื่องขึ้นกับหวังหยวน จึงเรียกเขามาอย่างเร่งด่วน
หวังหยวนกำชับอีกครั้งการเดินทางไปเมืองผีครั้งนี้ต้องเป็นความลับ ห้ามแหวกหญ้าให้งูตื่น!ไม่ใช่กังวลว่าคนของพรรคทมิฬจะรู้ตัว แต่กังวลว่าคนของอาณาจักรต้าเป่ยจะฉวยโอกาสนี้บุกเข้ามา!ดินแดนทั้งเก้าสงบสุข อย่างน้อยตอนนี้ทุกคนกำลังพัฒนาบ้านเมือง หากเกิดสงครามขึ้น ดินแดนของเขามีขนาดเล็กที่สุด จำนวนประชากรก็เทียบไม่ได้กับอาณาจักรอื่น เขาย่อมเสียเปรียบ...หวังหยวนไม่ทำเรื่องโง่เขลาเช่นนั้น!“รับทราบขอรับ!”ต่งอวี่รับคำแล้วรีบออกจากเมืองไป...ครึ่งชั่วยามต่อมา ที่คุกใต้ดินสัมภาระถูกจัดเตรียมเรียบร้อย ต่งอวี่ให้คนขนของไปหมดแล้ว ทุกคนพร้อมออกเดินทาง!แต่การช่วยเหลือเกาเล่อต้องพาหลิ่วหรูเยียนไปด้วย นี่เป็นกุญแจสำคัญ!“ข้ารู้ว่าเจ้าจะมาหาข้า...”เมื่อเข้าไปในคุกก็ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างมั่นใจของหลิ่วหรูเยียนต้องยอมรับว่าหลายวันมานี้หลิ่วหรูเยียนดูโทรมเหนื่อยล้าไปบ้าง แต่กลับมีสง่าราศีมากขึ้น แม้จะดูสกปรกแต่กลับเหมือนเป็นคนละคนกับวันก่อนหน้านี้หวังหยวนมีสีหน้าเย็นชา เขาขมวดคิ้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ดูท่าเจ้าคงรู้แล้วใช่หรือไม่ว่าเกาเล่อจะถูกจับตัวไป?”เดินมานานย่อมมีพลาดบ้างห
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“
“เจ้าไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับข้า แสดงว่าเจ้าคงอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ”“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เล่าให้ข้าฟังสักหน่อยล่ะ อย่างน้อยก็ให้ข้าสนุกขึ้นมาบ้าง”หวังหยวนนั่งลงข้างหลิ่วหรูเยียน เขานั่งไขว่ห้างมือวางบนราวบันไดขณะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยรอยยิ้ม“เหตุใดท่านถึงน่ารำคาญนัก?”“ดูไม่ออกหรือว่าข้าไม่อยากคุยกับท่าน?”“รีบกลับไปดื่มกับพวกเขาซะเถอะ จะมานั่งขวางหูขวางตาข้าทำไม?”หลิ่วหรูเยียนกลอกตามองหวังหยวนแท้จริงแล้ว นางเพียงแค่รู้สึกว่างเปล่าหลังจากได้ล้างแค้นสำเร็จ ราวกับชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป นางไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป จึงทำให้ดูเหม่อลอยและเศร้าสร้อยแต่ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่วังหยวนมาที่นี่ นางกลับรู้สึกเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง“ว่ามาสิ เป็นอะไรไป?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่อง“ข้าอยากไปพบตานสยงเฟย”“ครั้งก่อนท่านสัญญากับข้าว่า เมื่อจับตานสยงเฟยได้จะให้ข้าจัดการเขา ยังจำได้หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนถาม“อืม...”หวังหยวนครุ่นคิด ใช้นิ้วเคาะขมับพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียเรื่องของพรรคทมิฬเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจตัดสินใจเพียงเพราะคำพูดของคนคนเดียวได้ ยิ่งกว่านั้น เพื่อจับตานสยงเฟย ยังต้องสูญ
“หวังหยวน! เจ้าช่างน่ารังเกียจ! กล้าเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวหรือ?”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างเดือดดาลส่วนโอวหยางอวี่และลั่วเฉินเห็นท่าไม่ดี จึงไม่รีรอ รีบพาผู้ใต้บัญชาหนีลงจากเขา!แต่น่าเสียดาย ที่เชิงเขามีการวางกองกำลังดักไว้แล้ว!ตานสยงเฟยและคนอื่น ๆ ต่างถูกจับเป็น!การต่อสู้ครั้งนี้ หวังหยวนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ!แต่เนื่องจากหน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล โดยรอบไม่มีบ้านเรือนหรือเมืองจึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการเพราะที่นี่คืออาณาจักรต้าเป่ย หากหานเทารู้ว่าเขายกทัพมาในดินแดนของอาณาจักรต้าเป่ย ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร พวกเขาก็อาจจะหาเรื่องจู่โจมได้!เมื่อถึงเวลานั้น เรื่องราวคงจะวุ่นวายและเกิดความขัดแย้ง!หลังจากที่จับตานสยงเฟยและพรรคพวกได้แล้ว หวังหยวนจึงรีบกลับเมืองอู่เจียงทันที!ใช้เวลาเพียงวันครึ่งก็กลับมาถึง!ระหว่างทาง แม้ว่าจะมีคนเห็น แต่มีเกาเล่อคอยนำทาง จึงไม่ทำให้คนของอาณาจักรต้าเป่ยรู้ตัว!...ณ ที่ว่าการเมืองอู่เจียงตอนนี้ทุกคนกำลังดื่มฉลองกันอย่างสนุกสนาน!คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือหวังหยวน!ส่วนเอ้อหู่และคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ที่
หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใด นางจ้องมองตานสยงเฟยด้วยความโกรธแค้นนางต้องการล้างแค้น!“ชีวิตของเขาเป็นของเจ้า ข้าจะช่วยจับเป็นให้!”“ส่วนต่อไป เจ้าจะจัดการเขาอย่างไรก็สุดแล้วแต่เจ้า!”หวังหยวนกล่าวจบก็หยิบปืนคาบศิลาออกมาจากอก แล้วเล็งไปที่ตานสยงเฟย“ในเมื่อเจ้ารู้จักข้าดี”“เจ้าควรรู้ว่าอาวุธลับของข้าไม่มีผู้ใดเทียบได้ ใช่หรือไม่?”“ข้าแนะนำให้เจ้ายอมจำนนเสีย จะได้ไม่เจ็บตัว!”หวังหยวนเตือนมุมปากของตานสยงเฟยกระตุก เขาสืบเรื่องของหวังหยวนมานาน จึงรู้จักหวังหยวนดี และจำได้ว่าอาวุธในมือของหวังหยวนคืออะไร!ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่ขุนพลที่เก่งกาจก็ยังไม่อาจหลบอาวุธนี้ได้!ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็คว้าตัวสาวกพรรคทมิฬคนหนึ่งมาใช้เป็นโล่มนุษย์!“ปัง!”เสียงปืนดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬคนนั้นล้มลงกับพื้นต้องยอมรับว่าตานสยงเฟยช่างโหดเหี้ยม!เพื่อเอาชีวิตรอด กลับยอมเสียสละชีวิตคนอื่น ช่างน่ารังเกียจ!หวังหยวนยกปืนขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเล็งไปที่ตานสยงเฟย ไม่ให้เขามีโอกาสหนี!“หวังหยวน!”“วันนี้ไว้ชีวิตข้าเถิด ต่อไปข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน!”“เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“การบีบให้ข้าจนตรอกไม่ได้เป็นผลดีต่อ
ลั่วเฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีก เพียงแค่รีบพาผู้ใต้บัญชาออกไป!เสียงโห่ร้องแห่งการฆ่าฟันดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬล้มตายเป็นใบไม้ร่วง!ตานสยงเฟยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ!สมาชิกพรรคทมิฬล้วนเป็นคนที่เขาฝึกฝนเอง เขาทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่ง!เดิมทีเขาต้องการครองแผ่นดิน แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้!สูญเสียกำลังพลไปเยอะมาก!ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย!“ตานสยงเฟย! อย่าหนีนะ!”“เจ้าคนสารเลว! หลอกลวงข้ามาหลายปี!”“ไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อแม่ข้าเท่านั้น ยังฝึกฝนข้าให้เป็นเครื่องมือทำเรื่องเลวร้ายมากมาย!”“วันนี้พวกเราต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”ขณะที่ตานสยงเฟยกำลังจะลงจากเขา หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งเข้ามา ในมือถือกริชเปื้อนเลือด สายตาเย็นชาราวกับคมดาบจ้องมองตานสยงเฟย!“มาคนเดียวหรือ?”เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมาคนเดียว ตานสยงเฟยก็หัวเราะในลำคอ เขาหันมาคว้าทวนยาวจากมือผู้ใต้บัญชาที่อยู่ด้านข้าง!เหตุผลที่ตานสยงเฟยสร้างฐานะขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเขามีความคิดที่แตกต่าง แต่ยังเป็นเพราะฝีมือของเขาด้วย!ในยุคสงคราม ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นผู้ชนะ!ยิ่งกว่านั้น ฝีมือ
“ทุกคนขึ้นเขาเดี๋ยวนี้!”“ห้ามปล่อยให้ใครหนีรอดไปได้!”หวังหยวนออกคำสั่ง ขุนพลนายกองเริ่มเคลื่อนไหวคนที่อาศัยอยู่บนหน้าผาแห่งนี้ล้วนเป็นระดับสูงของพรรคทมิฬและมีตำแหน่งสำคัญ การกำจัดพวกเขาให้หมดสิ้น จึงจะทำให้พรรคทมิฬหายไปอย่างสมบูรณ์!ตัดวัชพืชไม่ถอนราก เมื่อลมฤดูใบไม้ผลิพัดมาก็งอกขึ้นมาใหม่!เมื่อทุกคนเข้าไปบนหน้าผาแล้ว หวังหยวนก็ออกคำสั่ง ต่งอวี่และเอ้อหู่ต่างเป็นผู้นำพาผู้ใต้บัญชาบุกขึ้นไปบนยอดเขา!ส่วนหวังหยวนและคนอื่น ๆ ก็ตามไปติด ๆ!“เจ้าจะทำอะไร?”หวังหยวนหันไปคว้าแขนหลิ่วหรูเยียน แล้วถามขึ้นหลิ่วหรูเยียนมีสีหน้าเย็นชา กำหมัดแน่น สีหน้าโกรธเกรี้ยวนางขมวดคิ้วกล่าวว่า “ข้าจะขึ้นไปล้างแค้นด้วยตัวเอง!”“ไม่เพียงแต่ข้าเกือบตายเท่านั้น แม้แต่บิดามารดาข้าก็ถูกคนของพรรคทมิฬฆ่าตาย จะปล่อยพวกมันไปได้อย่างไร?”“วันนี้ไม่มีใครหยุดข้าได้ ข้าจะฆ่าตานสยงเฟย ล้างแค้นให้พ่อแม่!”พูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็สะบัดแขนหวังหยวนออก ก่อนจะชักกริชออกมาแล้ววิ่งขึ้นไปบนยอดเขา!แม้ว่านางจะเป็นคนบอกที่ตั้งฐานทัพนี้ให้หวังหยวน แต่ไม่มีใครรู้จักที่นี่ดีไปกว่านาง!ไม่นานพวกหวังหยวนก็ขึ้นไปถึงยอดเขา
หวังหยวนกลอกตามองเอ้อหู่ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ชีวิตของทหารที่อยู่ข้างหลังเจ้าล้วนอยู่ในมือเจ้า!”“การที่เจ้าพาพวกเขามาเสี่ยงอันตราย หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็ดีไป แต่หากเกิดความผิดพลาด เจ้าจะเผชิญหน้ากับครอบครัวของพวกเขาได้อย่างไร?”“อย่าลืมว่าการเป็นขุนพลไม่ใช่แค่เพื่อรบชนะ!”“แต่ต้องชนะอย่างสวยงาม ลดการสูญเสียให้มากที่สุด!”ทุกคนต่างตกตะลึงเดิมทีพวกเขาคิดว่าการติดตามหวังหยวนก็เพื่อหาเลี้ยงชีพ ในยุคสงคราม การมีข้าวกินก็ดีมากแล้วชีวิตพวกเขาจะสำคัญอะไร?ในสายตาของชนชั้นสูง ชีวิตพวกเขาไม่ต่างจากเศษหญ้า!เป็นเพียงเครื่องมือในการแย่งชิงอำนาจ!แต่หวังหยวนกลับมีเมตตา เห็นใจพวกเขา ทำให้พวกเขาซาบซึ้งจริง ๆ!ในตอนนี้ทุกคนต่างก็ตัดสินใจแล้ว แม้ว่าจะต้องสูญเสียมากมาย พวกเขาก็ยินดีสละชีพเพื่อช่วยหวังหยวนพิชิตหน้าผาแห่งนี้ และฆ่าคนของพรรคทมิฬให้หมดสิ้น!“รีบก่อไฟทำอาหาร!”“เมื่อทุกคนอิ่มท้องแล้วก็คงถึงเวลาพอดี!”“จำไว้! ห้ามส่งเสียงดัง ประเดี๋ยวพวกมันจะรู้ตัว!”“หากพวกมันรู้ตัวจะเป็นอันตรายต่อพวกเรา!”หวังหยวนกำชับทุกคนพยักหน้ารับ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองเ
ในช่วงเวลาไม่กี่วันต่อมา ด้วยการนำทางของหลิ่วหรูเยียน หวังหยวนและคนอื่น ๆ จึงไม่หลงทาง เดินทางมาถึงเชิงผาได้อย่างรวดเร็ว!บัดนี้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อก็ได้แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่โดยรอบแล้วหวังหยวนและคนอื่น ๆ ตั้งค่ายอยู่ในป่าแห่งหนึ่งเมื่อมองไปรอบ ๆ จะเห็นเงาคนมากมาย พวกเขาล้วนเป็นสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ“สืบทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหรือ?”หวังหยวนสวมชุดเกราะเตรียมพร้อมรับมือกรณีฉุกเฉินและป้องกันการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว!เกาเล่อรีบเข้ามารายงานด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “สืบเรียบร้อยแล้วขอรับ คนร้ายอยู่บนเขาลูกนี้!”“แต่ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังขนย้ายสิ่งของ ตั้งแต่ที่พวกเรามาถึงก็เห็นรถม้าลงมาจากเขาไม่ต่ำกว่าร้อยคันแล้ว!”“แต่พวกเราไม่ได้ลงมือเพื่อไม่ให้พวกมันตื่นตัว!”“ข้าได้ส่งคนไปตามเส้นทางที่พวกมันใช้ หลังจากที่พวกเราจัดการเรื่องบนหน้าผาแล้ว จากนั้นจึงไปกวาดล้างพวกมัน!”“แล้วทรัพย์สมบัติของพวกมันก็จะตกเป็นของพวกเรา!”หวังหยวนพยักหน้าอย่างพึงพอใจเรื่องนี้จัดการได้ดีมาก!เหตุผลที่พรรคทมิฬเติบโตอย่างรวดเร็วก็เพราะความร่ำรวย!หากตัดเส้นทางการเงินของพวกมัน แม้ว่าตานเฟยจ
ตานเฟยยิ้มอย่างพึงพอใจช่วงนี้หลังจากถูกหวังหยวนจับตามอง เขารู้สึกเหมือนมีคนคอยจ้องมองทุกการกระทำของเขาอยู่ตลอดเวลา!แม้แต่การหาสาวกใหม่ก็ยังยากลำบาก!หวังหยวนคอยขัดขวางเขา เขาจึงต้องสั่งสอนหวังหยวนบ้าง!แต่น่าเสียดาย...ยังหาโอกาสไม่ได้!ยิ่งไปกว่านั้น ตานเฟยไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าตนเองต่างกับหวังหยวน แล้วจะสู้หวังหยวนได้อย่างไร?อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้!ดังนั้นแม้ว่าในใจจะเคียดแค้นอาฆาต แต่ย่อมต้องหลีกเลี่ยง“ที่เจ้าทำงานสำเร็จก็แค่ช่วยถ่วงเวลาเท่านั้น”“ตราบใดที่หลิ่วหรูเยียนยังมีชีวิตอยู่ นางก็เหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ!”“ดังนั้นก่อนที่พวกเราจะฆ่านางได้ พวกเราต้องระวังตัวและดำเนินแผนการต่อไป!”“พยายามขนย้ายสิ่งของออกไป หากถึงเวลาจำเป็น พวกเราก็ต้องทิ้งฐานที่มั่นแห่งนี้”ทุกคนต่างรู้สึกเสียดายหน้าผาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดี ไม่เพียงแต่มีชัยภูมิที่ได้เปรียบเท่านั้น แต่ยังปลอดภัยมากอีกด้วย!จึงทำให้พวกเขาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว!แม้ว่าสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะกระจายอยู่ทั่วดินแดนทั้งเก้า แต่ก็ไม่ได้ตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงหน้าผาแห่งนี้!แต่น่าเสียดา