แชร์

บทที่ 1760

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-31 16:01:02
“จึงทำให้ท่านคิดว่านางดูหมิ่นท่าน”

“เมื่อข้าเข้าใจความปรารถนาของลูกสาวแล้ว จึงจัดเตรียมงานเลี้ยงขึ้นมาใหม่ หวังว่าท่านจะพิจารณาและแต่งงานกับลูกสาวของข้านะขอรับ”

ท่าทีของว่านเชียนซานชัดเจนมาก

เขาหมายมั่นปั้นมือที่จะได้หวังหยวนเป็นเขย!

ใบหน้าของว่านซิ่วเอ๋อร์แดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ ดุจผลแอปเปิลสุกงอม

หวังหยวนมองนางแล้วพูดในใจ

“สาวน้อยคนนี้ช่างน่าสนใจนัก”

“ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก กลับเขินอายเช่นนี้แล้วหรือ?”

“เมื่อเทียบกับลูกสาวของพวกเศรษฐีทั่วไปกลับแตกต่างมาก!”

“หากพานางกลับบ้านไปด้วยก็คงจะดีไม่น้อย”

เมื่อเห็นหวังหยวนยังไม่ได้เอ่ยคำใด ว่านเชียนซานกลับรู้สึกกังวล หรือว่าหวังหยวนจะไม่มีความรู้สึกดีต่อว่านซิ่วเอ๋อร์?

ถึงแม้ลูกสาวของตนเองจะงดงาม แต่เรื่องความรัก ไม่ใช่เพียงความถูกใจ แต่ต้องดูความรู้สึกด้วย

หากไม่อาจตกลงเรื่องการแต่งงานได้อีก เขาก็คงเสียหน้าอย่างใหญ่หลวง…

“คุณหนูว่าน ข้ามีเรื่องอยากจะถาม”

“ไม่ทราบว่าท่านจะยอมออกไปข้างนอกเพื่อสนทนากับข้าสองต่อสองหรือไม่?”

หวังหยวนไม่ได้ตอบคำถามของว่านเชียนซาน แต่กลับทอดตาไปยังว่านซิ่วเอ๋อร์

ว่านซิ่วเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น แล้วหันมองพ่อราวกับก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1761

    หวังหยวนอ่านใจผู้คนมานับไม่ถ้วนแล้ว เพียงแวบเดียวก็รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจเรียกร้องความสนใจ หรือเพียงแค่พลาดท่าจริง ๆว่านซิ่วเอ๋อร์เป็นกรณีหลังว่านซิ่วเอ๋อร์พูดเสียงเบาว่า “ไม่… ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ…”นางรีบผละออกจากอ้อมแขนหวังหยวนและรักษาระยะห่าง ไม่กล้าสบตาหวังหยวนแต่ท่าทีเช่นนี้ ยิ่งทำให้นางน่ารักยิ่งขึ้นหวังหยวนยักไหล่ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ใกล้จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูว่าน ข้าเชิญเจ้าออกมา ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด”“เพียงอยากจะถามว่าเจ้าต้องการแต่งงานกับข้า หรือว่าเจ้าไม่ต้องการขัดคำสั่งพ่อ จึงต้องแต่งงานกับข้า?”ว่านซิ่วเอ๋อร์ตัวแข็งทื่อนางไม่คิดเลยว่าหวังหยวนจะถามตรงไปตรงมาเช่นนี้ แล้วนางจะตอบอย่างไร?“คือว่า…”ว่านซิ่วเอ๋อร์ลังเลอยู่นาน ไม่อาจเอ่ยปากออกมาได้“ไม่สะดวกที่จะพูดหรือ?”“เจ้าบอกข้ามาเถิด”“ถึงแม้พ่อเจ้าจะเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่เจ้าก็คงเห็นแล้วว่าพ่อเจ้าถูกข้าควบคุมอยู่”“และทั่วทั้งเมืองหลิง ไม่มีใครกล้าไม่ให้เกียรติข้า”ครั้งก่อนหวังหยวนได้ช่วยว่านซิ่วเอ๋อร์แล้วแต่เนื่องจากว่านเชียนซานอยู่ด้วยจึงไม่อาจพูดได้ จึงออกมาเดินชมจันทร์กับว่านซิ่วเอ๋อร์เพีย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1762

    “ไม่ต้องการหรือ?”เมื่อเห็นสีหน้าของนางมีอาการผิดแปลก หวังหยวนจึงเอ่ยถาม“ข้าต้องการเจ้าค่ะ”ว่านซิ่วเอ๋อร์รีบพูดเสียงเบา“เช่นนั้นก็ดี”หวังหยวนพูดจบก็จับมือว่านซิ่วเอ๋อร์ แล้วเดินไปยังส่วนลึกของสวนว่านซิ่วเอ๋อร์รู้สึกหัวใจเต้นรัว นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกชายหนุ่มจับมือ ปรากฏว่ารู้สึกเช่นนี้…มีความตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกประหม่า ซึ่งส่วนหลังมีมากกว่าเรื่องราวในสวนหลังบ้านแพร่กระจายไปยังห้องโถงว่านเชียนซานดีใจมากจนตบโต๊ะ แล้วลุกขึ้นยืนพูดว่า “ดี! ยอดเยี่ยมมาก!”“ชายหญิงต่างรักกันทั้งสองฝ่าย!”“ซิ่วเอ๋อร์ได้ทำเรื่องยิ่งใหญ่ให้แก่ตระกูลเราแล้ว!”“ดูเหมือนว่าการแต่งงานครั้งนี้คงจะสำเร็จแน่นอน!”ว่านจวิ่นเซิงและว่านซิ่วลี่ต่างก็หัวเราะ หินที่หนักอึ้งในอกก็วางลงได้เสียทีว่านซิ่วลี่รีบเดินไปหาว่านเชียนซาน นางยกยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วกล่าวว่า “ท่านพ่อ! หรือว่าจะใช้โอกาสนี้ทำให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก แล้วทุกอย่างก็จะแน่นอนไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายจะรักกัน แต่ก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยที่ไม่คาดคิดด้วย!ไม่อาจเสียเขยในอุดมคติอย่างหวังหยวนไปได้!ว่านจวิ่นเซิงก็พยักหน้า “คว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1763

    หวังหยวนยังคงหลงใหลในความงามของว่านซิ่วเอ๋อร์ ต้องกล่าวว่าหญิงงามผู้นี้มีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างประหลาด ต่างจากคนอื่น ถึงกับทำให้ใจลุ่มหลงจนไม่อาจละทิ้งได้ หากไม่ใช่เพราะยังมีสติเหลืออยู่ หวังหยวนก็เกือบจะกอดรัดว่านซิ่วเอ๋อร์เข้าไปในพุ่มไม้นั้นเสียแล้ว!ตอนนี้ว่านซิ่วเอ๋อร์ถึงกับหมดแรง ร่างกายอ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมกอดหวังหยวน แต่ยังคงหลับตาปี๋ด้วยความเขินอายหวังหยวนใช้ปลายนิ้วลูบข้างใบหูของนางเบา ๆ แล้วจึงกระซิบเสียงแผ่วว่า “พอแล้ว”“บิดาและพี่น้องของเจ้าคงรอจนใจจดใจจ่อแล้ว”“เราสองคนไปกันเถิด”ว่านซิ่วเอ๋อร์มีสีหน้าทำอะไรไม่ถูก“เป็นอะไรไป?”“ขาอ่อนแรงหรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มแต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ ว่านซิ่วเอ๋อร์พยักหน้าหวังหยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วอุ้มนางขึ้นก่อนจะก้าวเดินอย่างรวดเร็วไปยังห้องโถงว่านซิ่วเอ๋อร์ไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะกระทำการหยาบคายเช่นนี้!แต่นางกลับรู้สึกชอบในใจระหว่างทาง เมื่อบรรดาคนรับใช้และสาวใช้เห็นทั้งสองก็ต่างหลบสายตา พร้อมกับกระซิบกระซาบกันใบหน้าของว่านซิ่วเอ๋อร์แดงก่ำจนถึงลำคอ ไม่อาจสนใจผู้ใดได้เลย จึงได้แต่ก้มหน้าซุกอยู่ในอ้อมกอดหวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1764

    นางเข้าใจดีว่าคืนเดียวมีค่าเท่ากับทองพันชิ้นยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้นางรักหวังหยวนหมดหัวใจ นางย่อมอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้หวังหยวนแต่นี่ถือเป็นการไม่ให้เกียรติ“คิดเพียงแค่เรื่องนี้หรือ?”หวังหยวนถามพร้อมรอยยิ้ม“แน่นอนเจ้าค่ะ”ว่านซิ่วเอ๋อร์รีบตอบส่วนว่านเชียนซานและคนอื่น ๆ ก็ไม่กล้าเอ่ยแทรก ได้แต่รอให้หวังหยวนตัดสินใจเท่านั้นแต่ในใจพวกเขาต่างก็ร้อนรน นี่เป็นโอกาสอันดี หากอยากช่วยหวังหยวนให้สมหวัง ย่อมต้องดูที่การกระทำของว่านซิ่วเอ๋อร์ในคืนนี้!แต่ลูกสาวของเขากลับปฏิเสธโอกาสอันดีนี้ไปงั้นหรือ?ช่างเป็นการกระทำที่ไร้สาระ!“เด็กโง่”หวังหยวนกล่าวเบา ๆ “บรรดาพี่สาวที่บ้านไม่สนใจเรื่องเหล่านี้หรอก”“และพวกนางก็รู้จักนิสัยของข้าดี ถึงแม้จะรู้ว่าคืนนี้ข้าพักที่นี่ ต่อไปเมื่อเจ้าไปที่บ้าน พวกนางก็จะไม่ทำอะไรเจ้าหรอก”“เมื่อเจ้าได้พบกับพวกนาง เจ้าก็จะเข้าใจเอง พวกนางเป็นคนดีที่เข้ากับทุกคนได้ดีมาก!”ว่านซิ่วเอ๋อร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พยักหน้า“ถ้าเช่นนั้น คืนนี้ข้าขออยู่กับคุณชาย...”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ว่านเชียนซานและคนอื่นต่างตื่นเต้นดีใจถือว่าเป็นที่แน่นอนแล้ว!ส่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1765

    ว่านซิ่วเอ๋อร์รีบก้มหน้าลง ไม่ได้เอ่ยคำใดอีกแต่ก็ยังคงมีท่าทีเขินอายอยู่ถ้อยคำของหวังหยวนตรงไปตรงมาเหลือเกิน แม้แต่คนโง่ก็ยังเข้าใจว่าเขาจะสื่ออะไร!เพียงชั่วพริบตา ทั้งสองก็เดินออกจากห้องไปแล้ว อาหารเช้าได้ถูกเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแท้จริงแล้วเรียกว่าอาหารเช้าก็ไม่ได้ เรียกว่าอาหารกลางวันจะเหมาะสมกว่า เพราะบัดนี้ดวงอาทิตย์ขึ้นสูงเหนือศีรษะแล้ว อีกหนึ่งชั่วยามก็จะถึงเที่ยงวันเพราะว่าหวังหยวนและนางเพิ่งจะผล็อยหลับไปเมื่อตอนรุ่งสาง ถึงแม้จะนอนจนถึงเวลานี้ก็ยังไม่หายง่วงหากยังคงพักอยู่ต่ออีกทั้งวัน เช่นนั้นก็จะถูกคนอื่นกล่าวหาว่าเป็นคนหมกมุ่นเกินไปหรือไม่?ด้วยการไตร่ตรองอยู่หลายครั้ง หวังหยวนจึงจำต้องลุกขึ้น“ท่านหวัง! เมื่อคืนพักผ่อนสบายดีหรือไม่?”เมื่อว่านเชียนซานเห็นทั้งสองเดินเข้ามาใกล้ จึงเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มหวังหยวนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เตียงของคุณหนูว่านนุ่มสบายมาก ทำให้ตื่นสายไปเลยทีเดียว”“ขอบคุณท่านว่านที่ได้ต้อนรับข้าอย่างดี”ว่านเชียนซานรีบโบกมือ “ท่านหวังเพียงแค่ถือว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านก็พอ ต่อจากนี้ท่านสามารถมาได้ทุกเมื่อ!”หวังหยวนพยักหน้าแล้วกล่าวตอบ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1766

    “ข้าสงสัยว่าพวกเขาเป็นสาวกขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง”“พวกเขากำลังโอ้อวดหลักคำสอนของกลุ่มพวกเขาอยู่เสมอ!”“ขณะที่ข้าจับกุมคนพวกนี้ได้ พวกเขาก็กำลังประกาศคำสอนอย่างเปิดเผยอยู่บนถนน!”“ข้าจึงสงสัยว่าเบื้องหลังอาจจะมีคนอื่นอยู่ จึงรีบมาแจ้งท่านขอรับ”หวังหยวนพยักหน้า แล้วเดินไปยังห้องขังก่อนโบกมือให้กับผู้คุม ผู้คุมจึงรีบเปิดประตูห้องขังหวังหยวนเดินไปหาพวกเขา เมื่อพิจารณาพวกเขาแล้วจึงเอ่ยถาม “พวกเจ้าเป็นใคร?”“พวกเราเป็นสาวกของพรรคทมิฬ!”หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้นก่อนคนผู้นั้นลุกขึ้นยืน แล้วมองหวังหยวนด้วยสายตาเย้ยหยัน ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ข้ารู้ว่าท่านเป็นใคร!”“ท่านคือหวังหยวนใช่หรือไม่?”“บัดนี้เมืองหลิงอยู่ภายใต้อำนาจของท่าน!”“แต่ท่านก็อย่าได้ยินดีเกินไป อีกไม่นานที่นี่ก็จะตกเป็นของพรรคทมิฬของพวกข้า!”“ถึงเวลานั้น ท่านก็จะต้องยอมจำนนต่อพรรคทมิฬของพวกเรา!”ก่อนที่หวังหยวนจะได้พูดอะไร ก็เห็นสีหน้าของเกาเล่อเปลี่ยนไป แล้วถีบเข้าที่หน้าอกของชายผู้นั้นทันที!ชายผู้นั้นถอยหลังสองก้าว แต่ยังไม่ยอมขอโทษ ยังคงแสดงท่าทีเด็ดเดี่ยว!คนอื่น ๆ ก็ลุกขึ้นยืน ทุกคนต่างมองหวังหยวนและเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1767

    “พวกเรา...”บุรุษทั้งสองสบตากัน สุดท้ายก็จำต้องเอ่ยความจริง“ผู้คนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมกับพรรคทมิฬล้วนเป็นผู้ยากไร้และต่อต้านผู้ปกครอง...”“นั่นจึงทำให้พวกเราทุกคนมารวมตัวกัน”“และด้วยความที่ท่านประมุขพรรคมีฐานะร่ำรวยมาก คอยดูแลพวกเราเสมอ พวกเราจึงเลือกที่จะรวมพลังกัน...”ที่แท้ก็เป็นเช่นนั้นเองหวังหยวนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เข้าใจสถานการณ์ในทันทีดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามจะต้องการใช้กลวิธีนี้เพื่อดึงดูดใจผู้คน แต่ว่า...จุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไรกันแน่?“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดคุยกับพวกเขาอีกแล้ว...”หวังหยวนโบกมือให้เกาเล่อ แล้วจึงพากันเดินออกจากห้องขัง“พี่หยวน เรื่องนี้ไม่อาจประมาทได้...”“ข้าสงสัยว่าอีกฝ่ายมีแผนกบฏ”“และบัดนี้ ผู้คนของพรรคทมิฬได้แทรกซึมเข้ามาถึงที่นี่แล้ว นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังมุ่งเป้ามาที่เรา”เกาเล่อมีสีหน้าเคร่งเครียดขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เช่นนี้ดีกว่า”“ข้าจะเตรียมการในภายหลัง ในช่วงเวลาต่อจากนี้ ข้าจะให้ทุกคนสืบสวนเรื่องนี้อย่างเป็นความลับ”“พยายามหาผลลัพธ์โดยเร็วที่สุด”“ค้นหาตำแหน่งของพวกเขา!”“เพียง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1768

    ผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไป๋เหยียนเฟย ผู้หายหน้าไปนาน!ขณะนี้ไป๋เหยียนเฟยปลอมตัวเป็นชาย สวมใส่ชุดคลุมหรูหราสีอ่อน ในมือถือพัดดูราวกับเป็นชายหนุ่มชั้นสูงผู้มีรสนิยมพวกหลี่ซื่อหานอยู่ข้างนาง ดูเหมือนกำลังพูดคุยเรื่องลับ ๆ ของเหล่าหญิงสาว พลางหัวเราะอย่างสนุกสนาน บรรยากาศนั้นช่างอบอุ่นถึงแม้ว่าในบริเวณบ้านจะเป็นเช่นนั้น แต่หวังหยวนก็สังเกตเห็นสถานการณ์รอบข้างเมื่อมองไปรอบ ๆ จะเห็นว่ามีทหารรักษาการณ์เฝ้าอยู่มากมาย และยังมีทหารลับซ่อนตัวอยู่ด้วย ดูเหมือนว่าทุกคนจะเป็นคนที่ไป๋เหยียนเฟยคัดเลือกมาอย่างดีแต่คิดดูก็เห็นว่าสมควรแล้วบัดนี้ไป๋เหยียนเฟยไม่ใช่ฮองเฮาเหมือนในอดีตอีกต่อไป แต่เป็นจักรพรรดินีองค์ปัจจุบันการเดินทางย่อมต้องระมัดระวังเป็นพิเศษยิ่งไปกว่านั้นยังต้องเดินทางข้ามหลายเมือง ยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น“บัดนี้ข้าควรเรียกท่านว่าอย่างไรดี?”“เรียกชื่อจริงของท่านโดยตรง หรือควรเรียกว่าฝ่าบาท?”หวังหยวนกอดอกกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ ๆ“เรียกชื่อข้าก็พอแล้ว”“ระหว่างเราไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองมากมาย”“ยิ่งไปกว่านั้น คือบัดนี้ท่านเป็น

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1853

    “มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญ ถือว่าเป็นแขกผู้มาเยือนได้หรือ?” ตงฟางฮั่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “ในเมื่อเจ้าชอบสถานที่นี้ ก็จงดื่มสุราอยู่ที่นี่คนเดียวเถิด” “ลาก่อน”เพียงชั่วพริบตา ตงฟางฮั่นก็ลุกขึ้นยืน ขณะที่เขากำลังจะเดินสวนกับชายคนนั้น ก็ได้ยินเสียงชายคนนั้นเอ่ยขึ้นว่า “ท่านตงฟาง ท่านพร้อมจะวางเดิมพันไว้ที่หวังหยวน แต่กลับไม่คิดจะพบกับท่านประมุขของข้าหรือ?”“ฮึ” “พวกเจ้าก็เป็นเพียงพวกหนูที่อาศัยอยู่ในความมืดมิด” “ใครเล่าจะอยากร่วมมือกับพวกเจ้า?” ตงฟางฮั่นเย้ยหยัน ไม่ได้สนใจชายผู้อยู่เบื้องหลังอีกต่อไปสีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไป มือหนึ่งคว้ามีดสั้นจากอกเสื้อ แล้วแทงเข้าที่หลังของตงฟางฮั่นอย่างรวดเร็ว! ว่องไวราวกับสายฟ้าแลบ!“ถ้าไม่เป็นมิตร ก็ต้องเป็นศัตรู!” “ไปลงนรกซะ!”สีหน้าของตงฟางฮั่นเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้การหลบหลีกนั้นสายเกินไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้ฝึกวิทยายุทธใด ๆ เลย!ในขณะที่เขาเตรียมใจยอมรับชะตากรรม ก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน ปรากฏว่าเกาเล่อผู้ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และข้างกายเขายังมีสมาชิกขององค์กรเครือข่ายผีเสื้ออีกหลายคนมีกำลังคนม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1852

    “ท่านทั้งหลายไปที่นั่นแล้วจะได้ลงทะเบียนทันที!”เมื่อทราบว่าหวังหยวนไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทุกคนจึงรีบขอลา แล้วมุ่งหน้าสู่ตลาดตะวันออกด้วยความเร่งรีบ การลงทะเบียนโดยเร็วจะช่วยคลายกังวลในใจได้!เมื่อเห็นเหล่าชาวบ้านมาเร็วไปเร็วเช่นนั้น ฉุนอวี๋อันจึงบ่นหลังถอนหายใจว่า “ประชาชนพวกนี้ช่างร้อนรนนัก!”“หากมีสิ่งใดขัดขวางความประสงค์ของพวกเขา พวกเขาก็จะก่อความวุ่นวายไม่หยุด!”“โชคดีที่ข้าไม่ใช่ผู้ว่าราชการเมืองเมืองนี้แล้ว จึงบรรเทาความกดดันลงได้บ้าง…”แต่หารู้ไม่ว่าหวังหยวนยังคงยืนอยู่ข้างกายฉุนอวี๋อันหันกลับไปเห็นหวังหยวนกำลังมองตนอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ตัวสั่นเทา ตกใจกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว และถึงกับหายใจติดขัด“ท่านผู้นำ…”“ข้าไม่ใช่หมายความเช่นนั้น”หวังหยวนเห็นท่าทีขลาดกลัวของเขาจึงส่ายหน้าแล้วยกยิ้มดูเหมือนการตัดสินใจของเขาจะถูกต้อง คนเช่นนี้จะสามารถเป็นใหญ่ในเมืองได้อย่างไร?หากปล่อยให้ฉุนอวี๋อันดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองต่อไป แม้การก่อสร้างระบบชลประทานจะแล้วเสร็จก็คงหาผลกำไรไม่ได้มากนักผลลัพธ์สุดท้ายก็คงเดาได้ไม่ยากไม่ช้าหวังหยวนและคณะก็เดินทางกลับระหว่างทางกลับ เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1851

    “หืม?” หวังหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจทันที คงเป็นเพราะเรื่องเกณฑ์แรงงานจึงทำให้ประชาชนไม่พอใจ“ทุกคน!”“เรื่องนี้คงเกิดจากความเข้าใจผิดใช่หรือไม่?”“ข้าต้องการแรงงานมาช่วยทำงาน แต่ก็เพื่อการพัฒนาเมืองอู่เจียง!”“เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ ในฤดูฝน พวกเราก็ไม่ต้องกังวลว่าแม่น้ำจะเอ่อล้นอีกต่อไป และที่สำคัญที่สุด เวลาในการเดินทางระหว่างเมืองอู่เจียงกับเมืองต่าง ๆ ก็จะใกล้เคียงลงมาก!”“นับเป็นเรื่องที่ดีต่อแผ่นดินและประชาชน!”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่ได้ใช้แรงงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง ข้าจะจ่ายค่าจ้างให้เดือนละหนึ่งตำลึง!” หวังหยวนอธิบายสถานการณ์โดยย่อความจริงเป็นเช่นนั้น เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ เมืองอู่เจียงจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง! ในอนาคต แม้แต่เมืองหลวงก็อาจจะพัฒนาไม่ดีเท่าเมืองอู่เจียง! แต่ทั้งหมดนี้นั้นเป็นเพราะเมืองอู่เจียงมีแม่น้ำห้าสายไหลผ่าน หากไม่เป็นเช่นนี้จะมีโอกาสสร้างระบบชลประทานได้อย่างไร?“จ่ายค่าจ้างด้วยหรือ?”“ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเช่นนั้นเลยไม่ใช่รึ?”“พวกเราคงจำผิดไปกระมัง?”“ใช่แล้ว! ข้าได้ยินมาว่าท่านผู้นำเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1850

    “การเตรียมการต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?”หวังหยวนยกถ้วยชาขึ้น สายตาจับจ้องไปยังเกาเล่อขณะเอ่ยถามเกาเล่อส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ข้าได้ค้นหาคนผู้มีความสามารถอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ราบรื่นดังที่คาดหวังไว้ขอรับ” “บางคนก็มีความรู้ความสามารถ บางคนก็ไม่อาจคาดเดาเจตนาได้ โดยสรุปแล้วก็ยังไม่พบผู้ใดที่เหมาะสมนัก”หวังหยวนพยักหน้า แท้จริงแล้ว การค้นหาคนที่ไว้ใจได้และมีความรู้ความสามารถนั้นจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร? เวลาเพียงสองวันนั้นย่อมไม่เพียงพอ“เช่นนั้นเจ้าจงค้นหาต่อไป” “อย่างไรเสียข้าก็ต้องอยู่ที่เมืองอู่เจียงต่อไปอีกนาน” “เรื่องต่าง ๆ ในที่นี้ ข้าจะรับผิดชอบเอง” “แต่ก่อนหน้านั้นเจ้ายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือการจัดหาแรงงานเพื่อช่วยข้าขุดคลอง” หวังหยวนสั่งการเพิ่มเติมเกาเล่อรับคำแล้วก็จากไปหลังจากอยู่ในห้องมาสองวัน แผนที่ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว หวังหยวนจึงสั่งให้คนจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จแม้ว่าฉุนอวี๋อันจะพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่เคียงข้างหวังหยวน เกาเล่อควบคุมข่าวสารต่าง ๆ แต่เรื่องราวภายในเมืองอู่เจียงนั้น ฉุนอวี๋อันย่อมรู้ดีกว่า

DMCA.com Protection Status