Share

บทที่ 1756

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-30 16:01:02
ถึงกระนั้นเตาซานก็ยังคงแค้นเคืองแต่ไม่กล้าเอ่ยคำใด ยังคงคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าต้าหู่ จะกล้าพูดอะไรได้อย่างไร?

“ท่าน!”

“ข้าได้รับบทเรียนแล้ว บัดนี้ปล่อยข้าไปได้หรือยังขอรับ?”

เตาซานยิ้มอย่างประจบประแจง

ต้าหู่หัวเราะเยาะ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า “บัดนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ?”

“ก่อนหน้านี้เจ้าข่มเหงชาวบ้าน เหตุใดไม่คิดว่าจะมีวันนี้?”

เตาซานไม่กล้าเอ่ย

หากรู้ว่าอีกฝ่ายมีอำนาจเช่นนี้ เขาจะมาที่นี่หรือ?

นี่คือการแกว่งเท้าหาเสี้ยน…

“ท่าน!”

“ข้าสำนึกผิดแล้ว…”

“ขอเพียงท่านเมตตาให้ข้ามีชีวิตอยู่ ต่อไปนี้ข้าจะไม่ไปรบกวนท่านอีก!”

“ข้าขอสาบาน จะไม่ข่มเหงรังแกผู้คนในละแวกนี้อีก!”

เตาซานพยายามหาข้อแก้ตัวให้แก่ตนเอง

“ใช่แล้ว”

“ท่านคงรู้กฎระเบียบของเมืองหลิงใช่หรือไม่?”

“ที่นี่มีกฎหมาย หากฆ่าคนโดยพลการ หน่วยรักษาความปลอดภัยจะไม่ปล่อยพวกท่านไว้แน่!”

“ข้าเป็นห่วงพวกท่านด้วย…”

“ดังนั้นพวกเราก็จบกันเช่นนี้ดีหรือไม่ขอรับ?”

เตาซานนึกถึงหน่วยรักษาความปลอดภัยขึ้นมา

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ต้าหู่และหวังหยวนต่างก็หัวเราะ ใช้หน่วยรักษาความปลอดภัยมาข่มขู่พวกเขาหรือ?

ในวินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียง
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1757

    “ขอบพระคุณท่านพ่อบุญธรรมที่จัดการเรื่องแม่ของข้า…”ในลานบ้านของหวังหยวน ขณะหวังหยวนดื่มชา ฮวาตั่วก็เดินมาข้างหลัง แล้วพูดเสียงเบาตั้งแต่ต้นจนจบ ฮวาตั่วไม่ได้กลับไปที่บ้านของนางอีกเลยนางได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเองแล้วนี่เป็นความต้องการของแม่“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”หวังหยวนมองฮวาตั่ว แล้วเอ่ยถามเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของฮวาตั่วเปลี่ยนไปหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ฮวาตั่วจึงพูดเบา ๆ ว่า “เมื่อคืนแม่ของข้าได้พูดกับข้ามากมาย ส่วนใหญ่เป็นการสั่งเสียและบอกถึงอาการป่วยของตนเองเจ้าค่ะ…”“สำหรับแม่ของข้า การมีชีวิตอยู่ก็เป็นเพียงความทุกข์ทรมาน ดังนั้นเมื่อนางมีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย ข้าจึงไม่ได้ห้ามปราม”“บางทีนี่อาจเป็นการปลดปล่อยสำหรับแม่ของข้า”“การมีชีวิตอยู่ก็คือการทรมานเจ้าค่ะ”น้ำเสียงของฮวาตั่วหนักแน่นแต่หวังหยวนก็ยังคงมองออกว่าฮวาตั่วกำลังพยายามทำใจให้เข้มแข็งจากนั้นก็ได้ยินฮวาตั่วพูดต่อว่า “ต่อไปนี้ข้าจะอยู่เคียงข้างท่านพ่อบุญธรรม เมื่อใดที่ท่านต้องการความช่วยเหลือ ข้าจะช่วยเหลือโดยไม่ลังเล!”“ชีวิตของข้าเป็นของท่านพ่อบุญธรรมแล้วเจ้าค่ะ”หวังหย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1758

    “ถึงแม้เขาจะสิ้นชีพไปแล้ว ข้าก็จะขุดค้นสุสาน แล้วนำศพของเขามาให้ท่านขอรับ”เกาเล่อดื่มชา แล้วลุกขึ้นจากไปทันทีหวังหยวนทอดสายตาไปยังแผ่นหลังของเกาเล่อ แล้วส่ายหน้าด้วยความไม่สบอารมณ์ “ข้าจะเอากระดูกเขามาทำอะไร?”นี่ไม่ใช่การเพิ่มความโศกเศร้าให้ฮวาตั่วหรือ?…สามวันต่อมาทุกสิ่งทุกอย่างสงบลงแล้ว และในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฮวาตั่วก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้แล้วนางสนิทสนมกับพวกหลี่ซื่อหานเป็นอย่างดีแน่นอนว่าพวกนางต่างก็รักฮวาตั่วเช่นกันถึงแม้ฮวาตั่วจะมีนิสัยเจ้าเล่ห์เล็กน้อย แต่ก็มีความว่านอนสอนง่ายและสุภาพเรียบร้อย ไม่ใช่เด็กหญิงที่หวังหยวนพบเจอในตลาดคนเดิมอีกต่อไปดูเหมือนว่าคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้จริง…ในที่ห่างไกลจากสายตาของผู้คน ณ พระราชวังใหญ่พระราชวังหลังนี้สร้างขึ้นอย่างประหลาด ถึงแม้จะงดงามโอ่อ่าและมีพื้นที่กว้างใหญ่ แต่บริเวณโดยรอบเป็นป่าไพรอันกว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา!นอกจากพระราชวังหลังนี้ ภายในรัศมีหลายร้อยลี้ก็เป็นป่าอันกว้างใหญ่ เงียบสงบไร้ผู้คน!ภายในพระราชวังเหล่าผู้คนต่างมารวมตัวกันในห้องโถงคนเหล่านี้มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือมี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1759

    ค่ำคืนนั้นที่คฤหาสน์ว่านขณะที่ลัทธิมืดกำลังดำเนินกิจกรรมลับ หวังหยวนไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายอันใด และมาที่คฤหาสน์ว่านเป็นครั้งแรกเขาไม่ได้ต้องการจะมาเยือน แต่จำเป็นต้องทำการค้ากับว่านเชียนซานยิ่งไปกว่านั้น ว่านเชียนซานมีแร่เหล็กเย็นจำนวนมาก นี่คือสิ่งที่เขาชื่นชอบ ดังนั้นแม้จะไม่ต้องการจะมา แต่ก็จำเป็นต้องมาเมื่อถึงประตูก็เห็นคนในตระกูลว่านต่างมาต้อนรับผู้ที่ยืนอยู่ด้านหน้าคือว่านเชียนซานเบื้องหลังคือว่านจวิ่นเซิง ว่านซิ่วเอ๋อร์ และว่านซิ่วลี่ที่ต่างก็ยืนเรียงกันด้วยท่าทางเคารพนบนอบว่านซิ่วเอ๋อร์ไม่กล้าสบตาหวังหยวน เอาแต่ก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา“ท่านว่าน!”“ครั้งก่อนเราก็พูดคุยกันแล้วไม่ใช่หรือ?”“ท่านเรียกข้ามาอย่างกะทันหันเช่นนี้ มีเรื่องอะไรหรือไม่?”หวังหยวนเดินเข้ามาพูดด้วยรอยยิ้ม นับว่าสุภาพเรียบร้อย“ท่านหวัง การที่ท่านมาเยือนบ้านต่ำต้อยเช่นนี้นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งขอรับ!”“เหตุที่ข้าขอเชิญท่านมา ก็เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องลูกสาวของข้า”ว่านเชียนซานถูมือ แล้วก้าวเข้ามาพูด“ใบหน้าของว่านซิ่วเอ๋อร์แดงก่ำกว่าเดิมแล้ว”ว่านจวิ่นเซิงที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นมาว่า “ท่า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1760

    “จึงทำให้ท่านคิดว่านางดูหมิ่นท่าน”“เมื่อข้าเข้าใจความปรารถนาของลูกสาวแล้ว จึงจัดเตรียมงานเลี้ยงขึ้นมาใหม่ หวังว่าท่านจะพิจารณาและแต่งงานกับลูกสาวของข้านะขอรับ”ท่าทีของว่านเชียนซานชัดเจนมากเขาหมายมั่นปั้นมือที่จะได้หวังหยวนเป็นเขย!ใบหน้าของว่านซิ่วเอ๋อร์แดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ ดุจผลแอปเปิลสุกงอมหวังหยวนมองนางแล้วพูดในใจ“สาวน้อยคนนี้ช่างน่าสนใจนัก”“ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก กลับเขินอายเช่นนี้แล้วหรือ?”“เมื่อเทียบกับลูกสาวของพวกเศรษฐีทั่วไปกลับแตกต่างมาก!”“หากพานางกลับบ้านไปด้วยก็คงจะดีไม่น้อย”เมื่อเห็นหวังหยวนยังไม่ได้เอ่ยคำใด ว่านเชียนซานกลับรู้สึกกังวล หรือว่าหวังหยวนจะไม่มีความรู้สึกดีต่อว่านซิ่วเอ๋อร์?ถึงแม้ลูกสาวของตนเองจะงดงาม แต่เรื่องความรัก ไม่ใช่เพียงความถูกใจ แต่ต้องดูความรู้สึกด้วยหากไม่อาจตกลงเรื่องการแต่งงานได้อีก เขาก็คงเสียหน้าอย่างใหญ่หลวง…“คุณหนูว่าน ข้ามีเรื่องอยากจะถาม”“ไม่ทราบว่าท่านจะยอมออกไปข้างนอกเพื่อสนทนากับข้าสองต่อสองหรือไม่?”หวังหยวนไม่ได้ตอบคำถามของว่านเชียนซาน แต่กลับทอดตาไปยังว่านซิ่วเอ๋อร์ว่านซิ่วเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น แล้วหันมองพ่อราวกับก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1761

    หวังหยวนอ่านใจผู้คนมานับไม่ถ้วนแล้ว เพียงแวบเดียวก็รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจเรียกร้องความสนใจ หรือเพียงแค่พลาดท่าจริง ๆว่านซิ่วเอ๋อร์เป็นกรณีหลังว่านซิ่วเอ๋อร์พูดเสียงเบาว่า “ไม่… ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ…”นางรีบผละออกจากอ้อมแขนหวังหยวนและรักษาระยะห่าง ไม่กล้าสบตาหวังหยวนแต่ท่าทีเช่นนี้ ยิ่งทำให้นางน่ารักยิ่งขึ้นหวังหยวนยักไหล่ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ใกล้จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหนูว่าน ข้าเชิญเจ้าออกมา ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด”“เพียงอยากจะถามว่าเจ้าต้องการแต่งงานกับข้า หรือว่าเจ้าไม่ต้องการขัดคำสั่งพ่อ จึงต้องแต่งงานกับข้า?”ว่านซิ่วเอ๋อร์ตัวแข็งทื่อนางไม่คิดเลยว่าหวังหยวนจะถามตรงไปตรงมาเช่นนี้ แล้วนางจะตอบอย่างไร?“คือว่า…”ว่านซิ่วเอ๋อร์ลังเลอยู่นาน ไม่อาจเอ่ยปากออกมาได้“ไม่สะดวกที่จะพูดหรือ?”“เจ้าบอกข้ามาเถิด”“ถึงแม้พ่อเจ้าจะเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่เจ้าก็คงเห็นแล้วว่าพ่อเจ้าถูกข้าควบคุมอยู่”“และทั่วทั้งเมืองหลิง ไม่มีใครกล้าไม่ให้เกียรติข้า”ครั้งก่อนหวังหยวนได้ช่วยว่านซิ่วเอ๋อร์แล้วแต่เนื่องจากว่านเชียนซานอยู่ด้วยจึงไม่อาจพูดได้ จึงออกมาเดินชมจันทร์กับว่านซิ่วเอ๋อร์เพีย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1762

    “ไม่ต้องการหรือ?”เมื่อเห็นสีหน้าของนางมีอาการผิดแปลก หวังหยวนจึงเอ่ยถาม“ข้าต้องการเจ้าค่ะ”ว่านซิ่วเอ๋อร์รีบพูดเสียงเบา“เช่นนั้นก็ดี”หวังหยวนพูดจบก็จับมือว่านซิ่วเอ๋อร์ แล้วเดินไปยังส่วนลึกของสวนว่านซิ่วเอ๋อร์รู้สึกหัวใจเต้นรัว นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกชายหนุ่มจับมือ ปรากฏว่ารู้สึกเช่นนี้…มีความตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกประหม่า ซึ่งส่วนหลังมีมากกว่าเรื่องราวในสวนหลังบ้านแพร่กระจายไปยังห้องโถงว่านเชียนซานดีใจมากจนตบโต๊ะ แล้วลุกขึ้นยืนพูดว่า “ดี! ยอดเยี่ยมมาก!”“ชายหญิงต่างรักกันทั้งสองฝ่าย!”“ซิ่วเอ๋อร์ได้ทำเรื่องยิ่งใหญ่ให้แก่ตระกูลเราแล้ว!”“ดูเหมือนว่าการแต่งงานครั้งนี้คงจะสำเร็จแน่นอน!”ว่านจวิ่นเซิงและว่านซิ่วลี่ต่างก็หัวเราะ หินที่หนักอึ้งในอกก็วางลงได้เสียทีว่านซิ่วลี่รีบเดินไปหาว่านเชียนซาน นางยกยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วกล่าวว่า “ท่านพ่อ! หรือว่าจะใช้โอกาสนี้ทำให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก แล้วทุกอย่างก็จะแน่นอนไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายจะรักกัน แต่ก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยที่ไม่คาดคิดด้วย!ไม่อาจเสียเขยในอุดมคติอย่างหวังหยวนไปได้!ว่านจวิ่นเซิงก็พยักหน้า “คว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1763

    หวังหยวนยังคงหลงใหลในความงามของว่านซิ่วเอ๋อร์ ต้องกล่าวว่าหญิงงามผู้นี้มีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างประหลาด ต่างจากคนอื่น ถึงกับทำให้ใจลุ่มหลงจนไม่อาจละทิ้งได้ หากไม่ใช่เพราะยังมีสติเหลืออยู่ หวังหยวนก็เกือบจะกอดรัดว่านซิ่วเอ๋อร์เข้าไปในพุ่มไม้นั้นเสียแล้ว!ตอนนี้ว่านซิ่วเอ๋อร์ถึงกับหมดแรง ร่างกายอ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมกอดหวังหยวน แต่ยังคงหลับตาปี๋ด้วยความเขินอายหวังหยวนใช้ปลายนิ้วลูบข้างใบหูของนางเบา ๆ แล้วจึงกระซิบเสียงแผ่วว่า “พอแล้ว”“บิดาและพี่น้องของเจ้าคงรอจนใจจดใจจ่อแล้ว”“เราสองคนไปกันเถิด”ว่านซิ่วเอ๋อร์มีสีหน้าทำอะไรไม่ถูก“เป็นอะไรไป?”“ขาอ่อนแรงหรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มแต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ ว่านซิ่วเอ๋อร์พยักหน้าหวังหยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วอุ้มนางขึ้นก่อนจะก้าวเดินอย่างรวดเร็วไปยังห้องโถงว่านซิ่วเอ๋อร์ไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะกระทำการหยาบคายเช่นนี้!แต่นางกลับรู้สึกชอบในใจระหว่างทาง เมื่อบรรดาคนรับใช้และสาวใช้เห็นทั้งสองก็ต่างหลบสายตา พร้อมกับกระซิบกระซาบกันใบหน้าของว่านซิ่วเอ๋อร์แดงก่ำจนถึงลำคอ ไม่อาจสนใจผู้ใดได้เลย จึงได้แต่ก้มหน้าซุกอยู่ในอ้อมกอดหวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1764

    นางเข้าใจดีว่าคืนเดียวมีค่าเท่ากับทองพันชิ้นยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้นางรักหวังหยวนหมดหัวใจ นางย่อมอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้หวังหยวนแต่นี่ถือเป็นการไม่ให้เกียรติ“คิดเพียงแค่เรื่องนี้หรือ?”หวังหยวนถามพร้อมรอยยิ้ม“แน่นอนเจ้าค่ะ”ว่านซิ่วเอ๋อร์รีบตอบส่วนว่านเชียนซานและคนอื่น ๆ ก็ไม่กล้าเอ่ยแทรก ได้แต่รอให้หวังหยวนตัดสินใจเท่านั้นแต่ในใจพวกเขาต่างก็ร้อนรน นี่เป็นโอกาสอันดี หากอยากช่วยหวังหยวนให้สมหวัง ย่อมต้องดูที่การกระทำของว่านซิ่วเอ๋อร์ในคืนนี้!แต่ลูกสาวของเขากลับปฏิเสธโอกาสอันดีนี้ไปงั้นหรือ?ช่างเป็นการกระทำที่ไร้สาระ!“เด็กโง่”หวังหยวนกล่าวเบา ๆ “บรรดาพี่สาวที่บ้านไม่สนใจเรื่องเหล่านี้หรอก”“และพวกนางก็รู้จักนิสัยของข้าดี ถึงแม้จะรู้ว่าคืนนี้ข้าพักที่นี่ ต่อไปเมื่อเจ้าไปที่บ้าน พวกนางก็จะไม่ทำอะไรเจ้าหรอก”“เมื่อเจ้าได้พบกับพวกนาง เจ้าก็จะเข้าใจเอง พวกนางเป็นคนดีที่เข้ากับทุกคนได้ดีมาก!”ว่านซิ่วเอ๋อร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พยักหน้า“ถ้าเช่นนั้น คืนนี้ข้าขออยู่กับคุณชาย...”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ว่านเชียนซานและคนอื่นต่างตื่นเต้นดีใจถือว่าเป็นที่แน่นอนแล้ว!ส่

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1853

    “มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญ ถือว่าเป็นแขกผู้มาเยือนได้หรือ?” ตงฟางฮั่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “ในเมื่อเจ้าชอบสถานที่นี้ ก็จงดื่มสุราอยู่ที่นี่คนเดียวเถิด” “ลาก่อน”เพียงชั่วพริบตา ตงฟางฮั่นก็ลุกขึ้นยืน ขณะที่เขากำลังจะเดินสวนกับชายคนนั้น ก็ได้ยินเสียงชายคนนั้นเอ่ยขึ้นว่า “ท่านตงฟาง ท่านพร้อมจะวางเดิมพันไว้ที่หวังหยวน แต่กลับไม่คิดจะพบกับท่านประมุขของข้าหรือ?”“ฮึ” “พวกเจ้าก็เป็นเพียงพวกหนูที่อาศัยอยู่ในความมืดมิด” “ใครเล่าจะอยากร่วมมือกับพวกเจ้า?” ตงฟางฮั่นเย้ยหยัน ไม่ได้สนใจชายผู้อยู่เบื้องหลังอีกต่อไปสีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไป มือหนึ่งคว้ามีดสั้นจากอกเสื้อ แล้วแทงเข้าที่หลังของตงฟางฮั่นอย่างรวดเร็ว! ว่องไวราวกับสายฟ้าแลบ!“ถ้าไม่เป็นมิตร ก็ต้องเป็นศัตรู!” “ไปลงนรกซะ!”สีหน้าของตงฟางฮั่นเปลี่ยนไป แต่ตอนนี้การหลบหลีกนั้นสายเกินไปแล้ว เพราะเขาไม่ได้ฝึกวิทยายุทธใด ๆ เลย!ในขณะที่เขาเตรียมใจยอมรับชะตากรรม ก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกัน ปรากฏว่าเกาเล่อผู้ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และข้างกายเขายังมีสมาชิกขององค์กรเครือข่ายผีเสื้ออีกหลายคนมีกำลังคนม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1852

    “ท่านทั้งหลายไปที่นั่นแล้วจะได้ลงทะเบียนทันที!”เมื่อทราบว่าหวังหยวนไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทุกคนจึงรีบขอลา แล้วมุ่งหน้าสู่ตลาดตะวันออกด้วยความเร่งรีบ การลงทะเบียนโดยเร็วจะช่วยคลายกังวลในใจได้!เมื่อเห็นเหล่าชาวบ้านมาเร็วไปเร็วเช่นนั้น ฉุนอวี๋อันจึงบ่นหลังถอนหายใจว่า “ประชาชนพวกนี้ช่างร้อนรนนัก!”“หากมีสิ่งใดขัดขวางความประสงค์ของพวกเขา พวกเขาก็จะก่อความวุ่นวายไม่หยุด!”“โชคดีที่ข้าไม่ใช่ผู้ว่าราชการเมืองเมืองนี้แล้ว จึงบรรเทาความกดดันลงได้บ้าง…”แต่หารู้ไม่ว่าหวังหยวนยังคงยืนอยู่ข้างกายฉุนอวี๋อันหันกลับไปเห็นหวังหยวนกำลังมองตนอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ตัวสั่นเทา ตกใจกลัวจนถอยหลังไปสองก้าว และถึงกับหายใจติดขัด“ท่านผู้นำ…”“ข้าไม่ใช่หมายความเช่นนั้น”หวังหยวนเห็นท่าทีขลาดกลัวของเขาจึงส่ายหน้าแล้วยกยิ้มดูเหมือนการตัดสินใจของเขาจะถูกต้อง คนเช่นนี้จะสามารถเป็นใหญ่ในเมืองได้อย่างไร?หากปล่อยให้ฉุนอวี๋อันดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองต่อไป แม้การก่อสร้างระบบชลประทานจะแล้วเสร็จก็คงหาผลกำไรไม่ได้มากนักผลลัพธ์สุดท้ายก็คงเดาได้ไม่ยากไม่ช้าหวังหยวนและคณะก็เดินทางกลับระหว่างทางกลับ เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1851

    “หืม?” หวังหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจทันที คงเป็นเพราะเรื่องเกณฑ์แรงงานจึงทำให้ประชาชนไม่พอใจ“ทุกคน!”“เรื่องนี้คงเกิดจากความเข้าใจผิดใช่หรือไม่?”“ข้าต้องการแรงงานมาช่วยทำงาน แต่ก็เพื่อการพัฒนาเมืองอู่เจียง!”“เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ ในฤดูฝน พวกเราก็ไม่ต้องกังวลว่าแม่น้ำจะเอ่อล้นอีกต่อไป และที่สำคัญที่สุด เวลาในการเดินทางระหว่างเมืองอู่เจียงกับเมืองต่าง ๆ ก็จะใกล้เคียงลงมาก!”“นับเป็นเรื่องที่ดีต่อแผ่นดินและประชาชน!”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าก็ไม่ได้ใช้แรงงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง ข้าจะจ่ายค่าจ้างให้เดือนละหนึ่งตำลึง!” หวังหยวนอธิบายสถานการณ์โดยย่อความจริงเป็นเช่นนั้น เมื่อการก่อสร้างระบบชลประทานเสร็จสมบูรณ์ เมืองอู่เจียงจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง! ในอนาคต แม้แต่เมืองหลวงก็อาจจะพัฒนาไม่ดีเท่าเมืองอู่เจียง! แต่ทั้งหมดนี้นั้นเป็นเพราะเมืองอู่เจียงมีแม่น้ำห้าสายไหลผ่าน หากไม่เป็นเช่นนี้จะมีโอกาสสร้างระบบชลประทานได้อย่างไร?“จ่ายค่าจ้างด้วยหรือ?”“ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเช่นนั้นเลยไม่ใช่รึ?”“พวกเราคงจำผิดไปกระมัง?”“ใช่แล้ว! ข้าได้ยินมาว่าท่านผู้นำเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1850

    “การเตรียมการต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง?”หวังหยวนยกถ้วยชาขึ้น สายตาจับจ้องไปยังเกาเล่อขณะเอ่ยถามเกาเล่อส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ข้าได้ค้นหาคนผู้มีความสามารถอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ราบรื่นดังที่คาดหวังไว้ขอรับ” “บางคนก็มีความรู้ความสามารถ บางคนก็ไม่อาจคาดเดาเจตนาได้ โดยสรุปแล้วก็ยังไม่พบผู้ใดที่เหมาะสมนัก”หวังหยวนพยักหน้า แท้จริงแล้ว การค้นหาคนที่ไว้ใจได้และมีความรู้ความสามารถนั้นจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร? เวลาเพียงสองวันนั้นย่อมไม่เพียงพอ“เช่นนั้นเจ้าจงค้นหาต่อไป” “อย่างไรเสียข้าก็ต้องอยู่ที่เมืองอู่เจียงต่อไปอีกนาน” “เรื่องต่าง ๆ ในที่นี้ ข้าจะรับผิดชอบเอง” “แต่ก่อนหน้านั้นเจ้ายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือการจัดหาแรงงานเพื่อช่วยข้าขุดคลอง” หวังหยวนสั่งการเพิ่มเติมเกาเล่อรับคำแล้วก็จากไปหลังจากอยู่ในห้องมาสองวัน แผนที่ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว หวังหยวนจึงสั่งให้คนจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จแม้ว่าฉุนอวี๋อันจะพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่เคียงข้างหวังหยวน เกาเล่อควบคุมข่าวสารต่าง ๆ แต่เรื่องราวภายในเมืองอู่เจียงนั้น ฉุนอวี๋อันย่อมรู้ดีกว่า

DMCA.com Protection Status