“ท่านนักพรต ท่านช่วยไปจัดการเถิด”สถานการณ์ในครั้งนี้พิเศษมาก ไป๋ชิงชางจึงส่งนักพรตเฒ่าชุดดำออกไปจัดการด้วยตนเองเมื่อนักพรตเฒ่าชุดดำได้ยินคำพูดของไป๋ชิงชาง จึงรับคำสั่งแล้วถอยออกไปในขณะที่ออกจากห้องนั้น ดวงตาของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายเพียงแค่พวกอ่อนแอสามคนเท่านั้น แต่กลับสามารถก่อเรื่องใหญ่โตได้ เขาอยากจะดูนักว่าคนเหล่านั้นเป็นคนประเภทไหน!ยิ่งกว่านั้น หากฆ่าคนผู้นั้นได้ อาจทำให้ไป๋ชิงชางเชื่อฟังพวกเขาอย่างแท้จริง และจะไม่คิดเรื่องอื่นอีกเมื่อคิดเช่นนี้แล้ว นักพรตเฒ่าชุดดำก็แผ่รังสีอำมหิตออกมาทั่วร่าง แล้วก็หายวาบไปจากสายตาของทุกคนในทันทีนักพรตชิงอีรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีตั้งแต่เริ่มออกเดินทางไม่รู้ว่าสิ่งใดกำลังรอพวกเขาอยู่ข้างหน้าหลังจากเดินทางมาหลายวัน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงอาณาจักรต้าเย่ไม่คาดคิดว่าตลอดทางจะไม่มีนักฆ่าตามมา ไม่มีแม้แต่ทหารที่ออกประกาศจับพวกเขาด้วยซ้ำ“คุณชาย บัดนี้เราจะไปยังเมืองหลวงอาณาจักรต้าเย่เลยหรือไม่?”พวกเขาขี่ม้าเข้ามาในอาณาจักรต้าเย่แล้ว แต่ยังคงอยู่ห่างจากเมืองหลวงอาณาจักรต้าเย่พอสมควร“เราเหลือเวลาไม่มากแล้ว ไปพบองค์ชายใหญ่กันเลยเถิด”
องค์ชายใหญ่พูดจาด้วยถ้อยคำอันอ่อนโยนนอบน้อมพลางเดินเข้ามาใกล้หวังหยวน หวังหยวนรีบลงจากหลังม้าแท้จริงแล้วหวังหยวนไม่สามารถสนทนากับองค์ชายใหญ่ได้ตามปกติ ด้วยว่าองค์ชายใหญ่ไม่ได้เป็นดั่งศิษย์ในความทรงจำของเขาอีกต่อไปแล้ว“การสนทนาที่นี่ไม่สะดวกนัก ข้าว่าเราไปยังตำหนักขององค์ชายใหญ่จะดีกว่า”เมื่อได้ยินน้ำเสียงอันห่างเหินของหวังหยวน องค์ชายใหญ่ก็ชะงักไปชั่วขณะ แต่ก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว“ได้เลยขอรับ ท่านอาจารย์ เชิญตามข้ามาเลยขอรับ”องค์ชายใหญ่ไม่ได้สังเกตเห็นเสวี่ยเชียนหลงและนักพรตชิงอีผู้ยืนอยู่ข้างเคียง สายตาของเขาจดจ้องเพียงหวังหยวนเท่านั้นย้อนกลับไปในครั้งที่หวังหยวนช่วยเหลือเขานั้น เขาประสบความยากลำบากอย่างยิ่งกว่าจะรอดพ้นมาได้ แต่บัดนี้เขาได้กลับคืนมายังวังหลวงของต้าเย่อีกครั้งหวังหยวนมองเหล่าทหารที่ยืนงงอยู่ด้านข้างแล้วพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา จากนั้นจึงมอบม้าให้แก่พวกเขา แล้วเดินตามหลังองค์ชายใหญ่เข้าไปในตำหนัก พร้อมด้วยเสวี่ยเชียนหลงและนักพรตชิงอีแผ่นดินต้าเย่ดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีหลายสิ่งที่เหมือนเดิมเมื่อมาถึงตำหนักขององค์ชายใหญ่ องค์ชายใหญ่ก็รีบเชิญ
“อยู่เพื่อสิ่งใด?”“ท่านอาจารย์ ท่านสามารถอยู่เพื่อช่วยเหลือศิษย์ได้ เราจะร่วมกันพิชิตแผ่นดินนี้ไม่ดีหรือขอรับ? เมื่อข้าได้เป็นฮ่องเต้ เมื่อข้าได้เป็นหนึ่งเดียวในแผ่นดินนี้ เมื่อถึงเวลานั้น ท่านอาจารย์ก็ยังคงเป็นอาจารย์ของข้าอยู่ไม่ใช่หรือขอรับ!”เมื่อได้ยินคำพูดอันหยิ่งทะนงของจีหย่ง หวังหยวนก็หลับตาลงอย่างช้า ๆเหตุใดจึงกลายมาเป็นเช่นนี้ได้ มันเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร ผู้ใดคอยยุยงส่งเสริมอยู่เบื้องหลัง?เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้ และไม่ปรารถนาจะเห็นศิษย์ผู้บริสุทธิ์ในอดีตกลายมาเป็นคนโหดเหี้ยมเช่นนี้“คงจะไม่ได้แล้ว ด้วยว่าเจ้าไม่ได้เหมือนศิษย์คนเดิมของข้าอีกต่อไปแล้ว”เมื่อพูดจบเช่นนั้น หวังหยวนก็ออกจากตำหนัก พร้อมด้วยเสวี่ยเชียนหลงและนักพรตชิงอีเมื่อออกจากวังหลวงของต้าเย่แล้ว หวังหยวนก็หลับตาลง ในใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่สามารถระงับได้เสวี่ยเชียนหลงเข้ามาใกล้หวังหยวนแล้วลูบบ่าของเขาเบา ๆ เพื่อปลอบโยน ย่อมไม่มีผู้ใดปรารถนาให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเมื่อได้ม้าคืนมาแล้ว หวังหยวนก็พาพวกเสวี่ยเชียนหลงไปยังที่พักของไป๋เหยียนเฟยเมื่อได้พบกับไป๋เหยียนเฟย หวัง
หลังจากออกจากตำหนักไป๋แล้ว หวังหยวนก็มีสีหน้าเคร่งเครียด เสวี่ยเชียนหลงเป็นห่วงความรู้สึกของหวังหยวนในเวลานี้เป็นอย่างมากราชสำนักวุ่นวายและใกล้จะเกิดสงครามแล้ว ไม่รู้ว่าหวังหยวนจะอยู่ฝ่ายใด“สถานการณ์เป็นเช่นนี้ เจ้ามีแผนการอย่างไร?”พี่ชิงอีถามหวังหยวนเกี่ยวกับแผนการอย่างไรต่อไปหวังหยวนขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“เวลานี้ข้ายังไม่มีแผนการใดเลย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้แผนการทั้งหมดที่วางไว้ก่อนหน้านี้ต้องพังทลายลง ตอนนี้ทำได้เพียงคิดใหม่ขอรับ”หลังจากได้ยินคำพูดของหวังหยวน พี่ชิงอีก็ลูบไหล่เขาเพื่อปลอบใจเพราะไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และผู้ที่รู้สึกไม่ดีไม่ใช่แค่หวังหยวนเพียงคนเดียวถึงเวลาอาหารแล้ว พวกเขามาที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งใกล้ ๆ ที่นี่สามารถรับประทานอาหารและใช้โอกาสนี้ในการสืบหาข่าวสารได้ด้วย“เฮ้อ พวกเจ้าได้ยินหรือไม่ว่าอาณาจักรต้าเป่ยดูเหมือนจะเริ่มส่งทหารมาโจมตีอาณาจักรต้าเย่ของเราแล้ว!”“พวกเขาเพิ่งจะเปลี่ยนฮ่องเต้ไปไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงรีบมาโจมตีอาณาจักรต้าเย่ของเรา พวกเขาคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้นเลยรึ!”“ใช่ ใครจะไปร
หลังจากพี่ชิงอีพูดจบ หวังหยวนก็พยักหน้า ทั้งสองดื่มเหล้านารีแดงหมดไหไปในคราวเดียว ไม่น่าเชื่อว่าทั้งสองจะดื่มดีถึงเพียงนี้เสวี่ยเชียนหลงยังคงเป็นห่วงหวังหยวนเป็นอย่างมาก จึงคอยยืนอยู่เคียงข้างเขาเพราะหากหวังหยวนยืนไม่ไหว นางก็จะได้ยื่นมือออกไปประคองหวังหยวนได้แต่หวังหยวนไม่เพียงแต่ยืนได้อย่างมั่นคงเท่านั้น แต่ยังพูดจาชัดเจนอีกด้วยไม่นานทั้งสามก็รับประทานอาหารเสร็จ และเตรียมตัวกลับหมู่บ้านต้าหวังระหว่างทาง คนทั้งสามต่างก็มีเรื่องต้องคิดในใจหวังหยวนคิดว่าต่อไปนี้เขาควรเลือกสถานะของตนเองอย่างไร ควรเลือกเส้นทางที่ตนเองจะเดินต่อไปอย่างไรส่วนเสวี่ยเชียนหลงก็เต็มไปด้วยความคิดเรื่องเกี่ยวกับหวังหยวนและนักพรตชิงอีคิดถึงซานไว่ซานกับเทียนไว่เทียนซานไว่ซานเป็นฝ่ายฉีกสัญญาก่อนด้วยการเริ่มแทรกแซงเรื่องราวในราชสำนัก ย่อมต้องมีความทะเยอทะยานที่ชั่วร้าย เทียนไว่เทียนไม่สามารถนิ่งเฉยได้!แต่พวกเขาทั้งหมดเป็นจอมยุทธ์ และความสามารถของพวกเขาก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จึงไม่สามารถปล่อยให้ซานไว่ซานครองอำนาจได้เพียงลำพังระหว่างทางที่ทั้งสามกำลังกลับไปหมู่บ้านต้าหวังก็ได้พบกับนักพรตเฒ่าชุดดำ
นักพรตชิงอีคำรามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เสวี่ยเชียนหลงก็ตามมาติด ๆ แล้วมายืนอยู่ด้านข้าง“นี่คือคนจากซานไว่ซานหรือเจ้าคะ?”เสวี่ยเชียนหลงกระซิบถามหวังหยวนอย่างระมัดระวัง หวังหยวนพยักหน้ารับชายชราตรงหน้ามีจิตสังหารรุนแรง เผยให้เห็นวิทยายุทธ์ที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้อื่นรู้สึกกดดันอย่างมากเสวี่ยเชียนหลงขมวดคิ้วเมื่อมองไปที่ชายชราตรงหน้า นางรู้สึกว่าคนผู้นี้คุ้นเคยมาก แต่คิดไม่ออกว่าเคยพบเจอที่ใดเมื่อรู้แล้วว่าเป็นคนจากซานไว่ซาน แม้ว่าจะต่อสู้กันก็คงไม่มีปัญหาใด เพราะเป็นซานไว่ซานที่ก้าวล่วงมาก่อน!“คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนไว่เทียนที่นี่ ดูเหมือนว่าเทียนไว่เทียนของท่านจะมีเจตนาแอบแฝงมานานแล้ว อยากจะแทรกแซงกิจการของราชวงศ์ใช่หรือไม่ แต่ก็เพียงแค่ยังไม่มีใครจับได้เท่านั้น!”เมื่อนักพรตเฒ่าชุดดำเห็นเสวี่ยเชียนหลงก็พูดจาเสียดสีทันที หวังหยวนเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังคิดจะพูดให้ตนเองเป็นฝ่ายถูกด้วยวิธีนี้ เขาจะสามารถประกาศต่อสาธารณชนได้ว่า เทียนไว่เทียนเป็นฝ่ายแทรกแซงกิจการของราชวงศ์ก่อน ดังนั้นซานไว่ซานจึงคิดว่าสามารถติดต่อกับคนของราชวงศ์ได้“อย่าคิดจะโยนความผิดให้ข้า เร
“พวกเจ้าจะเป็นอะไรได้นอกจากขยะ? สามคนรุมคนแก่อย่างข้าเพียงคนเดียว แต่ต่อสู้กันมาตั้งนานก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป คาดว่าเทียนไว่เทียนของพวกเจ้าคงจะรู้สึกว่าด้อยกว่าซานไว่ซานของเรากระมัง!”เมื่อนักพรตเฒ่าชุดดำหยุดนิ่ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยหวังหยวนและอีกสองคนไม่ได้ตอบโต้เพราะคนผู้นี้เก่งกาจยิ่งนัก เขามีวิธีการโจมตีเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง“ความสามารถของเจ้าไม่ได้สูงส่งอันใด แต่กลับปากเก่งนัก มาที่นี่คนเดียว คงคิดจะฆ่าพวกเราสามคนเพียงลำพัง แต่ผ่านมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ว่าเสียแรงเปล่าหรือ?”พี่ชิงอีเผยรอยยิ้มหยันบนใบหน้า คนผู้นี้ช่างโอหังและในที่สุดก็จะต้องตายเพราะความเย่อหยิ่งของตนเอง“จะเสียแรงเปล่าหรือไม่นั้น รอให้ถึงตอนนั้นค่อยรู้ก็ได้ไม่ใช่หรือ? ข้าเป็นเพียงคนชรา หากพวกเจ้าสามคนถูกข้าสังหารก็คงจะน่าอับอายยิ่งนัก แถมยังมีสตรีศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย ข้าจะไม่มีวันปล่อยพวกเจ้าไปอย่างง่ายดายแน่นอน!”เดิมทีตอนแรกที่เขามาที่นี่ก็เพียงเพื่อฆ่าหวังหยวนเท่านั้น ส่วนคนอื่นจะตายหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขา เพราะเพียงแค่ฆ่าหัวหน้าได้ ลูกสมุนก็จะแตกพ่ายไปด้วยแต่เมื่
หวังหยวนและเสวี่ยเชียนหลงซ่อนตัวเงียบกริบอยู่ในป่าลึกตอนนี้นักพรตเฒ่าชุดดำได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้มีพิษหรือไม่ แต่เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเขามีลางสังหรณ์ไม่ดี หากยังคงต่อสู้ต่อไปจะถูกศัตรูเอาชนะเขาได้หรือไม่?แม้ว่านักพรตเฒ่าชุดดำจะมั่นใจในความสามารถของตนเอง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธลับแล้ว เคล็ดวิชาที่ชอบธรรมทั้งมวลก็แทบจะไร้ประโยชน์พี่ชิงอีไม่ได้ให้โอกาสเขาพัก เขาโจมตีอย่างสุดกำลัง นักพรตเฒ่าชุดดำจึงจำใจหยิบอาวุธของตนขึ้นมาต่อสู้กับพี่ชิงอีอีกครั้งหวังหยวนที่รอคอยจัวหวะอยู่ด้านข้าง เขาไม่รู้ว่าหวังหยวนและภรรยาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน นั่นหมายความว่ามีอันตรายลึกลับกำลังรอเขาอยู่“พวกเจ้าช่างกล้าได้กล้าเสียจริง ๆ แค่ข้าไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด พวกเจ้าจึงเริ่มย่ามใจกันแล้วใช่หรือไม่? หวังหยวน เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าอยู่ที่ไหน? อย่างไรเสียก็ไม่พ้นซ่อนตัวอยู่ในป่าเป็นแน่ เจ้าคอยอยู่เถิด ข้าจะตามจับเจ้ามาเดี๋ยวนี้แหละ!”นักพรตเฒ่าชุดดำผลักพี่ชิงอีออกไปอย่างแรง ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว และนั่นเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการหวังห
“แต่น่าเสียดายที่วีรบุรุษเช่นเจ้ากลับติดตามเจ้านายที่ไม่คู่ควร จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้!”“ข้าขอเตือนอีกครั้ง หากเจ้ายินดีมาอยู่กับข้าหรือบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้าอีก!”หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใดแค่นี้ก็สาสมแล้วลั่วเฉินน่าสงสารยิ่งกว่าโอวหยางอวี่ อย่างน้อยโอวหยางอวี่ยังได้ตายอย่างรวดเร็ว!แต่ลั่วเฉินเล่า?ตอนนี้ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด สภาพของเขาย่ำแย่มาก มีลมหายใจอยู่ก็เหมือนรอวันตายการมีชีวิตอยู่ยังทรมานยิ่งกว่าการตาย!“เลิกคิดเถิด!”“ข้าจะไม่ยอมแพ้!”ลั่วเฉินใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนด้วยความโกรธ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตามใจเจ้า”“ข้าอยากรู้ว่ากระดูกเจ้าจะแข็งได้สักกี่น้ำ”พูดจบหวังหยวนก็ไม่เสียเวลากับลั่วเฉิน พาหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากคุกระหว่างทาง ทั้งสองไม่ได้หันไปมองตานสยงเฟยต่อไปแค่เค้นถามลั่วเฉินก็พอแล้ว หากไม่ได้ผลค่อยไปหาตานสยงเฟย!เพราะตานสยงเฟยจัดการยากกว่าลั่วเฉินมาก!ตานสยงเฟยรู้ดีว่าที่ซ่อนทรัพย์สมบัติคือเครื่องช่วยชีวิตของเขา ตราบใดที่เขายังปากแข็ง หวังหยวนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้!นี่คือประโยชน์อย่างเดียวของเขา!เขาต้องเก็บไพ่ตายใบนี้ไว้ ไม
“อะแฮ่ม”หวังหยวนกระแอม แล้วรีบแต่งตัว ไม่ได้ตอบคำถามของหลิ่วหรูเยียนจะให้เขาตอบเช่นไร?หรือว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจ?แต่เมื่อนึกถึงภรรยาหลายคนที่บ้านก็รู้สึกหนักใจ เพิ่งจะแต่งงานกับเสวี่ยเชียนหลงยังไม่ถึงปี ก็มีหญิงงามมาเพิ่มอีกคน แล้วจะอธิบายกับภรรยาอย่างไร!แต่จะเดินจากไปง่าย ๆ เลยก็คงไม่ดีหรือไม่?หวังหยวนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงต้องตัดสินใจในภายหลัง“จริงสิ”“ข้าต้องไปที่คุก เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่?”หวังหยวนมองหลิ่วหรูเยียน แล้วเอ่ยถาม“แน่นอน!”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าอยากเห็นลั่วเฉินถูกทรมานเพื่อระบายความแค้น!”ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคุกต่งอวี่รีบเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นหวังหยวนก็โค้งคำนับ แล้วกล่าวว่า“ท่านผู้นำ!”“เมื่อคืนข้าอยู่ที่นี่ตลอด ใช้บทลงโทษต่าง ๆ นานากับลั่วเฉินจนเขาบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับปากแข็งไม่ยอมปริปากเลยขอรับ!”“หากไม่ใช่เพราะเขาใกล้จะตายเต็มทน เราคงไม่ปล่อยให้เขาพักหรอกขอรับ”ต่งอวี่กล่าวด้วยความโกรธช่างน่าโมโหนัก!เขาใช้ความอำมหิตไปเกือบหมดแล้ว แต่ลั่วเฉินก็ยังปากแข็ง!ปากอย่างกับแม่กุญแจ!ยากที่จะแงะออกจริงๆ!เขารู้สึกหนัก
ต่งอวี่รับคำแล้วพาลั่วเฉินไปที่คุกก็แค่พวกกระดูกแข็งเท่านั้น!หากใช้การทรมานเข้าช่วยก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครทนได้ กระดูกจะแข็งเพียงใดกัน?หากทนได้ แสดงว่าแค่ทรมานไม่มากพอ!“ข้าคิดว่าเขาคงไม่ยอมเปิดปาก”“แม้ว่าท่านจะฆ่าเขา เขาก็คงไม่บอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ”หลิ่วหรูเยียนเดินไปข้างหวังหยวน มองคนพาตัวลั่วเฉินออกไป แล้วกล่าวต่อว่า “เขาไม่ใช่คนอย่างโอวหยางอวี่ นับว่าเป็นขุนพลที่กล้าหาญและซื่อสัตย์“หวังหยวนพยักหน้า เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?แต่จำต้องลองดูสักครั้ง“เจ้าจัดการโอวหยางอวี่ไปแล้วหรือ?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามด้วยรอยยิ้ม“ใช่แล้ว”“เขายังหวังจะให้นึกถึงความสัมพันธ์ในอดีต ใช้คำพูดโน้มน้าวข้า แต่น่าเสียดายตอนนี้ใจข้าแข็งดั่งหิน ต้องการแค่ล้างแค้นให้บิดามารดา ทวงความยุติธรรมให้พวกท่านเท่านั้น!”“ในสายตาข้า ชีวิตคนของพรรคทมิฬไร้ค่า!”“ไม่ต้องพูดถึงโอวหยางอวี่ แม้แต่ตานสยงเฟย ข้าก็จะฆ่าเขา!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างหนักแน่นความแค้นในการฆ่าบิดาไม่อาจลืมเลือน จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?หวังหยวนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี”“แต่หล
“เพียะ เพียะ เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนไม่พูด เพียงแค่ยกมือขึ้นตบหน้าโอวหยางอวี่หลายครั้งจนหน้าบวมปูด!ทหารหลายคนที่อยู่ข้าง ๆ ต่างมองโอวหยางอวี่ด้วยสายตาเย็นชาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะตัวเขาเอง!แต่ต้องยอมรับว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นสตรีที่แข็งแกร่ง ไม่ควรไปยั่วยุนาง!“เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ข้าจึงจะให้เจ้าตายอย่างสงบ!”“ไม่เช่นนั้นข้าจะทรมานเจ้าให้การมีชีวิตยังดีกว่าตาย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวด้วยความโกรธแค้นคนของพรรคทมิฬล้วนไม่ใช่คนดีสักคน ฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง!ตอนนี้นางแค่อยากฆ่าคนระดับสูงของพรรคทมิฬให้หมด!“น้องหรูเยียน...”โอวหยางอวี่ตะโกนอีกครั้ง แต่หลิ่วหรูเยียนลงดาบตัดหัวเขาขาดในดาบเดียว!คนชั่วช้าคนหนึ่งจบชีวิตลง!“หัวหน้าองครักษ์คนหนึ่งจากในสี่คน! ก็แค่นี้!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ ไม่เอ่ยคำใด นางโยนดาบทิ้ง แล้วเดินไปหาหวังหยวนตอนนี้หวังหยวนกำลังเผชิญหน้ากับลั่วเฉิน“หรูเยียนกลับมาแล้ว โอวหยางอวี่คงตายแล้ว”“คนเช่นนั้น ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”หวังหยวนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มลั่วเฉินหัวเราะลั่น แล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว! คนทรยศ ขี้ขลาดเช่นนั้น ไม่ฆ่าเขา แล้วจะฆ่าใคร?”“เ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“