แชร์

บทที่ 1528

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
นักพรตหัวโล้นไม่เข้าใจว่าหวังหยวนไปร่ำเรียนเคล็ดวิชาเหล่านี้มาจากที่ใด ทั้ง ๆ ที่ระดับการฝึกฝนเหมือนกับเขา แต่กลับสามารถต่อสู้กับคนสิบคนได้เพียงลำพัง!

คนเช่นนี้ไม่ควรมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ไม่เช่นนั้นหากปล่อยให้เขาเติบโตขึ้น ก็จะกลายเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่สำหรับชาวซานไว่ซานอย่างพวกเขา!

เมื่อคิดได้ดังนั้น สายตาของนักพรตหัวโล้นก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาหยิบกระบองของตัวเองขึ้นมาฟาดไปที่หวังหยวน

โชคดีที่หวังหยวนสัมผัสได้ถึงจิตสังหารจากด้านหลังจึงหลบหลีกได้ทัน

มีคนมากมายเหลือเกิน หวังหยวนไม่สามารถต่อสู้กับพวกเขาได้มากเกินไป ไม่เช่นนั้น หากไป๋ชิงชางมาถึงที่นี่ในอีกสักพัก ก็คงจะหนีออกไปไม่ได้อีกแล้ว

หวังหยวนมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นหยิบปืนออกมาจากเอวของตัวเอง

พวกเขาเคยได้ยินเรื่องนี้มานานแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดวิธีรับมือไม่ออก

“อาวุธลับนี้ชั่วร้ายมาก พวกเจ้าทุกคนต้องระวัง จงล้อมหวังหยวนเอาไว้ แล้วเข้าโจมตีทีละคน!”

เมื่อนักพรตหัวโล้นเห็นว่าหวังหยวนนำอาวุธลับออกมาก็ตกใจมาก รีบตะโกนสั่งให้คนรอบข้างทราบ เพื่อให้พวกเขาระมัดระวังอย่างยิ่ง

คนเหล่านั้นไม่ได้สนใจอาวุธลับของหวังหยวน

เพร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Pongprom
ไม่เคยอ่านหนังสือแพงอย่างนี้มาก่อน อ่านนิยาย แดน บราวน์เล่มละเจ็ดร้อย ยังได้หนังสือที่ออกแบบสวยมาเก็บไว้ นี่เสียไปเป็นพันแล้ว เติมเงินแล้วเติมเงินอีกนิยายก็ยังไม่จบ แถมไม่มีอะไรให้เก็บเป็นสิ่งตอบแทนกับเงินที่จ่าย พลาดเข้ามาอ่าน ก็ต้องอ่านให้จบ แต่จะไม่มีเรื่องต่อไปแล้ว นี่เตือนไปหลายคนแล้วกับธุรกิจ
goodnovel comment avatar
Pongprom
Took too long to wait the new chapter, this is the only book I will pay from here, no more.
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1529

    ไป๋เฟยเฟยที่ยืนอยู่ด้านข้างทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว นางวิ่งเข้าไปกอดเอวของหวังหยวน แล้วบอกให้หวังหยวนไว้ชีวิตนักพรตหัวโล้นผู้นี้ แล้วรีบหนีไปให้เร็วที่สุดหวังหยวนเหลือบมองไป๋เฟยเฟยที่กอดเอวของตนอยู่ เขายกมือของนางออกอย่างระมัดระวัง แล้วจับแขนของนางก่อนพาวิ่งออกไปเมื่อทั้งสองจากไปแล้ว นักพรตหัวโล้นก็ล้มลงกับพื้นทันที เหตุการณ์เมื่อครู่นี้ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก...ชายผู้นั้นราวกับยมทูตมาทวงชีวิต เป็นดั่งเทพแห่งความตาย!เสี่ยวฮวาเฝ้ามององค์หญิงจากไป ในใจของนางจึงค่อยคลายกังวลลงเรื่อย ๆหวังว่าคุณชายคนนั้นจะพาองค์หญิงหนีออกจากสถานที่แห่งความวุ่นวายนี้ไปได้ และจะไม่กลับมาอีกส่วนตัวนางเองนั้นอยู่กับไป๋เฟยเฟยและไป๋ชิงชางมาตั้งแต่เด็ก ฉะนั้นฮ่องเต้คงไม่ทำอะไรนางมากนัก อาจลงโทษเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหวังหยวนพาไป๋เฟยเฟยวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง แต่ทหารในวังหลวงก็ยิ่งรุมล้อมพวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆจากสถานการณ์นี้ หวังหยวนรู้ว่าไป๋ชิงชางคงรู้แล้วว่าเขามาช่วยเหลือไป๋เฟยเฟย ดังนั้นจึงส่งทหารจำนวนมากมาคอยจัดการกับเขาโดยเฉพาะ!“คุณชายหวัง ฮ่องเต้ของเราให้เชิญท่านไปพบสักครู่ ส่วนองค์หญิงนั้นยังถูกกัก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1530

    พวกเขาสวมเกราะ ถือโล่และหอกในมือ ดูสง่างามยิ่งนักในขณะที่หวังหยวนสวมเสื้อคลุมยาวบาง ๆ ตัวเดียว และมีเพียงอาวุธและเพียงชิ้นเดียวในมือ ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฝ่าด่านกองทหารรักษาพระองค์ร้อยนายนี้ไปได้ขณะที่หวังหยวนต่อสู้กับกองทหารรักษาพระองค์เหล่านี้ สายตาของเขาก็คอยมองไปทางอื่นตลอดเวลาเพราะเขาต้องหาทางอื่น เพื่อพาไป๋เฟยเฟยออกจากที่นี่ไปแต่กองทหารรักษาพระองค์ได้ปิดล้อมทางออกทั้งสี่ทางไว้หมดแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องหาทางออกจากทางหลังคาแต่ไป๋เฟยเฟยไม่มีวิชาตัวเบา หวังหยวนจึงต้องอุ้มนางขึ้นไป ซึ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวของหวังหยวนช้าลงเป็นอย่างมากทั้งสองฝ่ายเข้าห้ำหั่นกันอย่างสุดความสามารถ ปืนของหวังหยวนนั้นทรงพลังยิ่งนัก ยิงนัดเดียวตายหนึ่งคนพวกเขาไม่รู้ว่าหวังหยวนมีกระสุนเหลืออยู่ในมือเท่าใด จึงไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไปเสี่ยงชีวิตขันทีไม่คิดว่าหวังหยวนจะเก่งกาจถึงเพียงนี้“คุณชายหวัง ข้าขอแนะนำให้ท่านยอมจำนนเถิด เมื่อฮ่องเต้จะเสด็จมา ท่านอาจไม่มีโอกาสรอดชีวิตอีกเลย”ขันทีเริ่มพูดเกลี้ยกล่อมหวังหยวน หวังหยวนเพียงแค่เหลือบมองเขาอย่างเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใดขณะที่ขันที

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1531

    เวลาผ่านไปไม่กี่สิบนาที ทหารองครักษ์เหล่านั้นก็ถูกพวกเขาสังหารจนหมดสิ้น เหลือเพียงขันทีคนหนึ่งที่ยืนตะลึงอยู่ที่เดิม“พวกเราจัดการพวกเขาเรียบร้อยแล้ว”ต้าหู่กล่าวกับหวังหยวนอย่างปลาบปลื้มใจ “ดีมาก เช่นนั้นเราออกจากที่นี่กันเถิด!”หวังหยวนดึงตัวไป๋เฟยเฟยเข้ามาอยู่ข้างกาย แล้วพาคนอื่น ๆ ออกจากวังหลวงไปพร้อมกันวันนี้พวกเขาประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือไป๋เฟยเฟยออกมา แต่เรื่องราวหลังจากนี้ยังต้องคิดวางแผนกันต่อไปศัตรูตามทางได้ถูกเสวี่ยเชียนหลงและคนอื่น ๆ กำจัดไปจนหมดสิ้น ดังนั้นเมื่อพวกเขาออกมาจึงไม่มีสิ่งใดขัดขวางและสามารถออกจากวังหลวงได้อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าตนเองอยู่ห่างจากประตูวังหลวงมากขึ้นเรื่อย ๆ ใจของไป๋เฟยเฟยก็ปั่นป่วนไปด้วยความรู้สึกมากมาย ไม่เพียงแต่หวังหยวนที่ไม่เข้าใจ แม้แต่ตัวนางเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเรื่องราวจึงกลายมาเป็นเช่นนี้ ต่อไปนางและพี่ชายของนางจะต้องหันมาต่อสู้กันเองจริงหรือ?“คุณชาย เราจะไปที่ใดกัน?”หลังจากออกมา สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือมุ่งหน้าไปยังร้านหม้อไฟ พวกเขาสามารถหลบซ่อนตัวได้ชั่วคราว หากมีทหารไล่ตามมา พวกเขาก็สามารถหลบหนีออกทางประตูหลังได้ใ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1532

    เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังมาจากภายนอก จิตใจของไป๋ชิงชางก็ไม่รู้สึกสะเทือนใจใด ๆ ตอนนี้เขาเพียงต้องการตามหาไป๋เฟยเฟยกลับมาให้เร็วที่สุดหลังจากที่ขันทีถูกพาออกไป ก็เหลือเพียงไป๋ชิงชางคนเดียวในห้องโถงใหญ่จากนั้นก็มีชายชราสวมชุดคลุมสีดำสองคนเดินออกมาจากด้านหลังฉากกั้นห้อง“ฝ่าบาท เรื่องราวมาถึงจุดนี้แล้ว ท่านไม่สามารถใจอ่อนได้อีกแล้ว ความเมตตาของท่านคือความโหดร้ายต่อตัวท่านเอง หากเรื่องราวความร่วมมือระหว่างพวกกระหม่อมกับราชวงศ์ถูกเปิดเผย แม้แต่ท่านก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงความผิดได้”ชายชราสวมชุดคลุมสีดำทั้งสองนี้พูดจาราวกับให้เกียรติไป๋ชิงชา แต่ความจริงแล้วพวกเขากำลังใช้ไป๋ชิงชางเป็นเครื่องมือเมื่อไป๋ชิงชางได้ยินว่าพวกเขาจะลงมือกับหวังหยวน เขาก็ปฏิเสธโดยไม่คิดเพราะหวังหยวนกับเขาเป็นพี่น้องที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมา พวกเขาเคยผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาด้วยกันมากมาย เขาไม่สามารถฆ่าหวังหยวนได้เพราะเหตุผลเหล่านี้“ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าไม่อาจลงมือกับเขาได้ เขาสำคัญกับข้ามากและเคยช่วยเหลือตระกูลไป๋ไว้มากมาย หากตอนนี้ข้าได้เป็นฮ่องเต้แล้ว แต่กลับหักหลังเขาและประหารชีวิตเขา คนในแผ่นดินจะกล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1533

    “พวกที่อยู่ข้างในฟังให้ดี พวกเจ้าถูกล้อมไว้หมดแล้ว รีบออกมาบัดเดี๋ยวนี้!”“รีบออกมา อย่าให้พวกเราต้องพังที่นี่ พวกเราลงมือเมื่อไหร่ไม่รู้จักหนักเบาหรอก”“แดนโลกมนุษย์ช่างเรียบง่ายเสียจริง”เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายตะโกนอยู่ข้างนอก หวังหยวนได้ยินคำพูดของพวกเขาอย่างชัดเจนต้าหู่และเอ้อหู่โกรธจนแทบทนไม่ไหว อยากจะพุ่งออกไปต่อสู้กับพวกเขา แต่หวังหยวนกลับห้ามทั้งสองไว้“อย่าเพิ่งใจร้อน พวกเจ้าอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะออกไปพบพวกเขาเอง ดูจากท่าทางแล้วพวกเขาน่าจะมีฝีมือไม่ธรรมดา พวกเจ้าอาจไม่แข็งแกร่งพอจะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขา”ต้าหู่ เอ้อหู่ และเสวี่ยเชียนหลงได้ช่วยเหลือเขามามากแล้ว ดังนั้นหวังหยวนจึงไม่อยากให้พวกเขาเสี่ยงอันตราย และตั้งใจจะออกไปรับมือกับคนเหล่านี้เพียงลำพังในตอนแรกต้าหู่และเอ้อหู่ไม่เห็นด้วย แต่เมื่อเห็นว่าพวกคนข้างนอกยิ่งส่งเสียงโหวกเหวกมากขึ้น จนกระทบถึงกิจการของร้านหม้อไฟ แต่สุดท้ายพวกเขาก็โต้แย้งหวังหยวนไม่สำเร็จ จึงจำต้องปล่อยให้หวังหยวนออกไปคนเดียว หากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ให้รีบบอกพวกเขาเพื่อให้ออกไปช่วยหวังหยวนลงมาจากชั้นบนแล้วมองดูจอมยุทธ์ทั้งหลายที่อยู่ตรง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1534

    หลังจากพูดจบ เสวี่ยเชียนหลงก็กระโดดลงจากหน้าต่างไปในทันที นางใช้แรงเหวี่ยงกระเป๋าข้างกายร่อนลงสู่พื้นอย่างมั่นคง“คุณชาย ข้ามาช่วยท่านแล้ว”ตอนนี้เสวี่ยเชียนหลงมีฝีมือเท่ากับหวังหยวนแล้ว ดังนั้นเมื่อทั้งสองคนร่วมมือกันก็จะมีพลังมากขึ้นแม้ว่าหวังหยวนจะไม่อยากให้เชียนหลงเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่สถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่น“เจ้าคงจะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนไว่เทียนสินะ ไม่คิดเลยว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนไว่เทียนจะแต่งงานกับชายจากแดนโลกมนุษย์”“ข้ายังนึกอยู่เลยว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนไว่เทียนจะสูงส่งขนาดไหน ที่แท้ก็ไม่เห็นจะวิเศษวิโสอะไร แต่งงานกับผู้ชายคนไหนก็ได้ โรคหนาวเย็นของเจ้าหายแล้วหรือยัง? เข้าห้องหอคืนแรกเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”คนเหล่านี้รู้ได้อย่างไรว่าเสวี่ยเชียนหลงคือสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งเทียนไว่เทียน เพราะเรื่องนี้นอกจากพวกหวังหยวนแล้วก็ไม่มีใครรู้พวกเขาเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรกหรือว่าไป๋ชิงชางบอกเรื่องนี้กับพวกเขาหรือไม่?เมื่อได้ยินคำดูถูกเยาะเย้ยของพวกเขา สายตาของหวังหยวนก็เริ่มฉายแววอันตราย คนพวกนี้ช่างไม่รู้จักดีชั่วเขาเพิ่งเติมกระสุนปืนเสร็จพอดี ตอนนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1535

    เมื่อได้ยินคำตอบของบุรุษผู้นั้น ใบหน้าของนักพรตชิงอีก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนึกไม่ถึงว่าพวกซานไว่ซานนี้จะกล้าหาญถึงเพียงนี้ กล้ามาแทรกแซงเรื่องราวของราชวงศ์!พวกเขาได้ลืมข้อตกลงที่เคยตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ไปหมดแล้วหรือ?บุรุษตรงหน้ายังคงวิงวอนขอชีวิตจากนักพรตชิงอี แต่นักพรตชิงอีกลับไม่ต้องการไว้ชีวิตเขาอีกต่อไปเพราะซานไว่ซานนั้นไม่มีใครดีสักคน พวกเขาได้ละทิ้งสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้า และมาสร้างความวุ่นวายในราชวงศ์!เพียงชั่วพริบตา คมกระบี่ก็ได้ตัดผ่านลำคอจอมยุทธ์ผู้นี้สิ้นใจลงทันที นักพรตชิงอีมีฝีมือที่ลึกล้ำหาใดเปรียบได้จริง ๆหลังจากที่ได้กำจัดคนเหล่านั้นจนหมดสิ้นแล้ว นักพรตชิงอีก็ได้กลับมายืนตรงหน้าของหวังหยวนและเสวี่ยเชียนหลง“เรื่องใหญ่เช่นนี้ เหตุใดจึงเพิ่งแจ้งให้ข้ารู้?”สีหน้าของนักพรตชิงอีเคร่งขรึม เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับซานไว่ซานและเทียนไว่เทียน รวมถึงเรื่องราวในโลกมนุษย์จึงไม่สามารถละเลยได้“ท่านอาจารย์ เรื่องนี้พวกเราเพิ่งจะได้รับทราบเช่นกันเจ้าค่ะ การส่งข่าวด้วยนกพิราบสื่อสารก็ต้องใช้เวลา จึงต้องขอให้ท่านอาจารย์โปรดอภัยด้วยเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยินคำพูดของเสวี่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1536

    “เฟยเฟย เจ้าไม่ต้องกลัว ที่นี่ไม่มีคนของพี่ชายเจ้า เจ้าต้องการพูดอะไร ให้พูดออกมาได้เลย พวกเราจะช่วยเจ้าอย่างแน่นอน!”“ใช่แล้ว เฟยเฟย จงคิดว่าพวกเราเป็นเพื่อนของเจ้า พูดออกมาเถิด!”“เด็กน้อย เจ้าไม่ต้องกลัว พวกเขาทำอะไรในวังหลวง จงเล่ามาให้ละเอียด พวกเราจะช่วยเจ้าแน่นอน”ทุกคนคิดว่าไป๋เฟยเฟยกลัวจนไม่กล้าพูดความจริง จึงได้พากันเข้ามาปลอบโยนนางแต่ไป๋เฟยเฟยยังคงมีสีหน้าสับสน นางไม่รู้จริง ๆ หากรู้ก็คงจะพูดออกมาตั้งนานแล้ว“ข้าเสียใจจริง ๆ หากข้ารู้ข้าก็คงจะพูดออกมาแล้ว ข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดพี่ชายจึงขังข้าไว้”ไป๋เฟยเฟยเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น นางไม่ได้โกหก นี่คือความจริงความจริงข้อนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ตกใจองค์หญิงถูกขังโดยไม่มีเหตุผลเลยหรือ?หรืออาจจะมีเหตุผล แต่ไป๋เฟยเฟยเองก็ไม่รู้เมื่อถามเรื่องนี้จากนางแล้วไม่ได้คำตอบ หวังหยวนจึงตัดสินใจถามเรื่องอื่น“เจ้ารู้หรือไม่ว่าบิดาของเจ้าจากไปเมื่อใด?”เมื่อได้ยินหวังหยวนถามคำถามนี้ ไป๋เฟยเฟยก็สามารถตอบได้แต่เมื่อนึกถึงบิดาของตน นางก็รู้สึกเจ็บปวดใจจนต้องหลั่งน้ำตาออกมา“คุณชาย บิดาของข้าจากไปเมื่

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status