“เฟยเฟย เจ้าไม่ต้องกลัว ที่นี่ไม่มีคนของพี่ชายเจ้า เจ้าต้องการพูดอะไร ให้พูดออกมาได้เลย พวกเราจะช่วยเจ้าอย่างแน่นอน!”“ใช่แล้ว เฟยเฟย จงคิดว่าพวกเราเป็นเพื่อนของเจ้า พูดออกมาเถิด!”“เด็กน้อย เจ้าไม่ต้องกลัว พวกเขาทำอะไรในวังหลวง จงเล่ามาให้ละเอียด พวกเราจะช่วยเจ้าแน่นอน”ทุกคนคิดว่าไป๋เฟยเฟยกลัวจนไม่กล้าพูดความจริง จึงได้พากันเข้ามาปลอบโยนนางแต่ไป๋เฟยเฟยยังคงมีสีหน้าสับสน นางไม่รู้จริง ๆ หากรู้ก็คงจะพูดออกมาตั้งนานแล้ว“ข้าเสียใจจริง ๆ หากข้ารู้ข้าก็คงจะพูดออกมาแล้ว ข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดพี่ชายจึงขังข้าไว้”ไป๋เฟยเฟยเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น นางไม่ได้โกหก นี่คือความจริงความจริงข้อนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ตกใจองค์หญิงถูกขังโดยไม่มีเหตุผลเลยหรือ?หรืออาจจะมีเหตุผล แต่ไป๋เฟยเฟยเองก็ไม่รู้เมื่อถามเรื่องนี้จากนางแล้วไม่ได้คำตอบ หวังหยวนจึงตัดสินใจถามเรื่องอื่น“เจ้ารู้หรือไม่ว่าบิดาของเจ้าจากไปเมื่อใด?”เมื่อได้ยินหวังหยวนถามคำถามนี้ ไป๋เฟยเฟยก็สามารถตอบได้แต่เมื่อนึกถึงบิดาของตน นางก็รู้สึกเจ็บปวดใจจนต้องหลั่งน้ำตาออกมา“คุณชาย บิดาของข้าจากไปเมื่
หวังหยวนพูดถูก พี่ชายของนางเคยดีกับนางมาก แต่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ย่อมต้องมีเหตุผลทุกคนต่างประหลาดใจอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าหวังหยวนจะมองการณ์ไกลเช่นนี้ พวกเขาทั้งหลายไม่คาดคิดเลยว่าไป๋ชิงชางจะมีความลับที่ไม่สามารถบอกกล่าวได้ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อถือกำเนิดในราชวงศ์ แล้วจะปราศจากความทะเยอทะยานได้อย่างไร จะยอมให้ผู้อื่นบงการได้อย่างไร จะยอมตกอยู่ในอำนาจของผู้อื่นได้อย่างไร?แต่บัดนี้ดูเหมือนว่าไป๋ชิงชางจะเป็นข้อยกเว้น“ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง ไป๋ชิงชางคงทุกข์ทรมานไม่น้อยที่ต้องขังน้องสาวของตนเองไว้ และบัดนี้ยังต้องแสร้งทำเป็นโหดเหี้ยมอีก”“ข้า ต้าหู่ ชื่นชมคนที่เป็นเช่นนี้มาโดยเสมอ หากไป๋ชิงชางประสบเคราะห์กรรมใดในภายภาคหน้า แล้วมาขอความช่วยเหลือจากพวกเรา ข้าย่อมไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน”อาจเป็นเพราะในตอนแรกทุกคนไม่เข้าใจว่าเหตุใดไป๋ชิงชางจึงกระทำเช่นนี้ แต่เมื่อได้ฟังคำอธิบายของหวังหยวนแล้วก็เริ่มเข้าใจได้เมื่อได้ยินคำพูดของต้าหู่ หวังหยวนยกยิ้มเล็กน้อยหากเกิดเรื่องเช่นนี้กับพี่น้องของเขา เขาจะไม่สามารถนิ่งเฉยได้เป็นอันขาดหลังจากที่สงบสติอารมณ์ได้แล้ว
“ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่พวกพ้องของเขาคงจะไม่ปล่อยเราไปง่าย ๆ แม้ว่าไป๋ชิงชางจะแสร้งทำก็คงจะต้องหาคนมาตามล่าเราอยู่ดี”การวิเคราะห์ของเกาเล่อมีเหตุผลหวังหยวนก็คาดการณ์เรื่องนี้ไว้แล้วแต่นักพรตชิงอีก็อยู่ที่นี่ด้วย ต่อให้คนเหล่านั้นถึงจะมาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นกังวล“ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เจ้าอย่าลืมว่าเรามีผู้เก่งกล้ามากมายที่นี่ อีกเรื่องหนึ่งที่ข้ายังไม่ได้บอกพวกเจ้า ก็คือไป๋ชิงชางเคยพบข้าเป็นการส่วนตัว เขาพูดจาตัดขาดกับข้าอย่างมาก แต่ข้าเข้าใจว่าเขาต้องการตัดความสัมพันธ์กับเรา เพื่อให้พวกที่อยู่เบื้องหลังเขาไม่ทำร้ายเรา บัดนี้ดูเหมือนว่าเราจะทำให้เขาต้องลำบากเสียแล้ว”เมื่อนึกว่าตนเองรีบร้อนที่จะช่วยไป๋เฟยเฟยออกมา และนึกถึงสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป หวังหยวนก็ส่ายหน้าด้วยความสิ้นหวังในตอนแรกที่อยู่ในวังหลวง หวังหยวนยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดไป๋ชิงชางจึงกระทำเช่นนี้ แต่เมื่อออกมาแล้วก็เข้าใจในทันทีเพราะเกิดความขัดแย้งเช่นนั้นขึ้น ไป๋ชิงชางจึงไม่ส่งคนมาฆ่าหวังหยวนเพื่อตัดไฟแต่ต้นลมและต่อมาเมื่อมีการปล่อยข่าวลือปลุกระดมชาวบ้าน ไป๋ชิงชางสามารถใช้โอกาสนี้เรี
“เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสเจ้า ประกาศใช้กฎอัยการศึกไปทั่วเมือง หาตัวพวกมันให้พบ ไม่ว่าเป็นหรือตาย!” ใบหน้าของไป๋ชิงชางยังคงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อนักพรตเฒ่าชุดดำที่อยู่ด้านล่างได้ฟังคำสั่งของเขาแล้วนึกเย้ยหยันอีกครั้ง จากนั้นก็ตอบรับคำสั่งแล้วถอยออกไปจนกระทั่งถอยไปถึงนอกประตู นักพรตเฒ่าชุดดำจึงเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของตนเองออกมา“มีวิธีการมากมายที่จะจับพวกมันได้ แต่เจ้ากลับเลือกวิธีที่ทั้งสิ้นเปลืองเวลาและสิ้นเปลืองแรงงาน ไป๋ชิงชาง เจ้าหรือข้าที่โง่เขลากันแน่ เจตนาของเจ้าชัดเจนถึงเพียงนี้แล้ว พวกข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?”นักพรตเฒ่าชุดดำมองไปยังไป๋ชิงชางที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่ภายในห้องแล้วพึมพำเบา ๆดูเหมือนว่าคนจากซานไว่ซานพวกนั้นจะไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ หากเป็นเช่นนั้น การเลือกคนใหม่ที่เหมาะสมกว่าจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด!ในขณะนั้น ไป๋ชิงชางในห้องยังไม่รู้ความคิดในใจของเหล่านักพรตเฒ่าชุดดำใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มจาง ในที่สุดก็วางใจได้เสียที น้องสาวของเขายังปลอดภัยหวังว่าหวังหยวนจะพาไป๋เฟยเฟยออกจากดินแดนแห่งนี้ไปได้โดยเร็ว และอย่าได้กลับมาอีกเลยเมื่อเรื่องของน้องสาวได
หลังจากที่ขุนพลนายหนึ่งสบประมาทต้าหู่แล้ว จากนั้นเขาก็พาทหารจากไปต้าหู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วรีบไปสำรวจประตูเมืองเขาได้ตรวจสอบประตูเมืองทั้งสี่ทิศแล้ว พบว่ามีเพียงประตูเมืองทิศตะวันตกเท่านั้นที่มีกำลังพลเฝ้าอยู่น้อยกว่าประตูเมืองอื่น ๆหลังจากตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้าหู่ก็กลับมาที่ร้านหม้อไฟ แล้วเปิดประตูห้องเตรียมรายงานเรื่องนี้ให้หวังหยวนทราบแต่ใครจะรู้ว่าเมื่อหวังหยวนเห็นเขา ใบหน้าของหวังหยวนจะเต็มไปด้วยความตกใจจนถึงกับรินน้ำในมือล้นออกมานอกถ้วย“ต้าหู่ ข้าแค่ให้เจ้าออกไปสืบหาข้อมูล เหตุใดเจ้าถึงกลับมาเหมือนกับคนที่อดอยากมาหลายสิบวัน แถมยังเหมือนกับไปต่อสู้กับคนอื่นมาอีก?”น้ำร้อนราดไปที่มือของหวังหยวน ทำให้เขาเพิ่งจะรู้สึกตัว จึงรีบสอบถามต้าหู่ว่าเกิดอะไรขึ้นต้าหู่เกาหัวด้วยความอับอาย จากนั้นก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้หวังหยวนฟัง“เป็นอย่างนี้เอง แล้วเจ้าพบอะไรบ้าง?”“พี่หยวน ข้าได้ตรวจสอบประตูเมืองทั้งสี่ทิศแล้ว มีเพียงประตูเมืองทิศตะวันตกเท่านั้นที่มีกำลังพลเฝ้าอยู่น้อยกว่าประตูอื่น พวกเราบุกฝ่าออกไปทางนั้นในคืนนี้ดีกว่าขอรับ!”เมื่อได้ยินคำพูดของต้าห
ในที่สุดเสียงอาวุธกระทบกันดังสนั่นจากภายนอก ก็ดึงดูดความสนใจของผู้รักษาประตูเมืองที่กำลังหลับใหลอยู่ภายใน“เสียงอะไรนั่น?” “ท่านองครักษ์ ไม่ดีแล้วขอรับ ข้างนอกมีพวกจอมยุทธ์โผล่มาจากไหนไม่รู้ พวกเราใกล้จะถูกฆ่าหมดแล้ว!”ทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาจากภายนอกในสภาพสะบักสะบอม ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ผู้รักษาประตูเมืองตกใจกลัวอย่างมากเขาไม่สนใจแม้แต่จะสวมเสื้อผ้าของตัวเอง หยิบของแล้วเตรียมจะหนี เงินเหล่านี้จะต้องไม่ตกไปอยู่ในมือใคร!ขณะที่เขากำลังหันหลังกลับไปหยิบเงิน หวังหยวนก็พุ่งเข้ามาในห้องแล้วใช้กระบองจัดการทหารที่เพิ่งเข้ามา จากนั้นก็มองเขาด้วยสายตาเย็นชา“ท่านจอมยุทธ์ช่วยชีวิตข้าด้วย ข้าไม่เคยทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อแผ่นดินเลย แค่มาทำงานเป็นข้าหลวงที่นี่เท่านั้น ขอท่านจอมยุทธ์ช่วยไว้ชีวิตข้าด้วยขอรับ!”เมื่อผู้รักษาประตูเมืองรีบก้มลงกราบขอความเมตตา หลังจากที่เห็นว่าทหารคนนั้นถูกหวังหยวนฆ่าตายได้อย่างง่ายดาย“ท่านจอมยุทธ์! ข้าจะปล่อยท่านออกไปเดี๋ยวนี้ จะเปิดประตูเมืองให้เลย ขอท่านจอมยุทธ์เมตตาชีวิตข้าด้วย ข้ามีทั้งพ่อแ
หวังหยวนมองต้าหู่ เอ้อหู่ และเกาเล่อ แล้วบอกให้พวกเขารีบกลับไปพักผ่อนจากนั้นก็ให้นักพรตชิงอี เชียนหลงกับไป๋เฟยเฟยตามเขาไปไป๋เฟยเฟยและเชียนหลงเดินไปที่ห้องโถงใหญ่ด้วยกันภรรยาสามคนของหวังหยวนรีบมารออยู่ที่นี่ตั้งแต่ได้รับข่าว เพราะกลัวว่าจะพลาดอะไรไปในที่สุดพวกนางก็ได้เห็นหวังหยวนกลับมา“คุณชาย ท่านกลับมาแล้ว เฟยเฟยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ไม่สบายตรงไหนหรือไม่? ให้ข้าทำอะไรให้เจ้ากินก่อนหรือไม่?” เดิมทีสายตาของหลี่ซื่อหานจับจ้องอยู่ที่หวังหยวน แต่เมื่อเห็นไป๋เฟยเฟยที่พวกเขาเพิ่งช่วยมาดูอ่อนล้าและโศกเศร้าก็อดสงสารไม่ได้ภรรยาทั้งสามมารวมตัวกันอยู่ข้าง ๆ ไป๋เฟยเฟย“พวกเจ้าพาเฟยเฟยไปพักผ่อนก่อน พี่ชิงอี เชียนหลงอยู่ที่นี่ก่อน ข้ามีเรื่องจะพูดคุย” หวังหยวนกล่าวหลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ภรรยาทั้งสามของเขาก็พาไป๋เฟยเฟยออกไปจากที่นี่ จากนั้นในห้องใหญ่เหลือเพียงพวกเขาสามคนเท่านั้น“หวังหยวน เจ้ามีอะไรจะพูดกับเราหรือ เจ้าคิดออกแล้วหรือว่าจะทำอย่างไรต่อไป?”“พี่ชิงอี ต่อไปนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก ข้ารู้ว่าการดึงท่านเข้ามาโดยพลการ เพื่อให้ท่านเข้าร่วมการต่อสู้เป็นเรื่องที่ไม่สุภาพ แ
“ทางต้าเย่มีความเคลื่อนไหวใดบ้าง?”“พี่หยวน ขณะนี้ทางต้าเย่ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องนี้เลยขอรับ”หวังหยวนรู้สึกสงสัย ทั้งสองอาณาจักรกำลังจะเปิดศึกกัน ต้าเย่จะเฉยเมยได้อย่างไร?ดูเหมือนจะมีบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ และแม้แต่เกาเล่อก็ยังสืบหาไม่พบจำเป็นต้องสอบถามจากคนผู้นั้นเสียแล้ว“ดีแล้ว เจ้าจงไปก่อนเถิด เรื่องนี้ข้าจะไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เมื่อได้ผลลัพธ์แล้ว ข้าจะเรียกเจ้ามาอีกครั้ง”หวังหยวนจำเป็นต้องเขียนจดหมายถึงอู๋หลิงเพื่อสอบถามว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น จึงให้เกาเล่อกลับไปก่อนหลังจากเกาเล่อจากไป หวังหยวนก็อยู่เพียงลำพังในห้องโถงในขณะที่เขากำลังเขียนจดหมายนี้ หวังหยวนรู้สึกหนักใจ เพราะกลัวว่าจะเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นอีกเรื่องของตระกูลไป๋ยังไม่ทันจะจัดการเสร็จสิ้น ทางต้าเย่เกิดปัญหาขึ้นอีก ก็จะยิ่งยากลำบากยิ่งนัก“คุณชาย เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือไม่? เมื่อเช้าข้าเห็นท่านรีบร้อนนัก” เสียงของเสวี่ยเชียนหลงดังขึ้นอย่างแผ่วเบาจากหน้าประตู หวังหยวนหันไปมองนางแล้วถอนหายใจเฮือกหนึ่งเกิดเรื่องใหญ่เสียแล้วเสวี่ยเชียนหลงเดินเข้ามาหาหวังหยวน แล้วยื่นมืออันเรียวสว
“แต่น่าเสียดายที่วีรบุรุษเช่นเจ้ากลับติดตามเจ้านายที่ไม่คู่ควร จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้!”“ข้าขอเตือนอีกครั้ง หากเจ้ายินดีมาอยู่กับข้าหรือบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้าอีก!”หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใดแค่นี้ก็สาสมแล้วลั่วเฉินน่าสงสารยิ่งกว่าโอวหยางอวี่ อย่างน้อยโอวหยางอวี่ยังได้ตายอย่างรวดเร็ว!แต่ลั่วเฉินเล่า?ตอนนี้ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด สภาพของเขาย่ำแย่มาก มีลมหายใจอยู่ก็เหมือนรอวันตายการมีชีวิตอยู่ยังทรมานยิ่งกว่าการตาย!“เลิกคิดเถิด!”“ข้าจะไม่ยอมแพ้!”ลั่วเฉินใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนด้วยความโกรธ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตามใจเจ้า”“ข้าอยากรู้ว่ากระดูกเจ้าจะแข็งได้สักกี่น้ำ”พูดจบหวังหยวนก็ไม่เสียเวลากับลั่วเฉิน พาหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากคุกระหว่างทาง ทั้งสองไม่ได้หันไปมองตานสยงเฟยต่อไปแค่เค้นถามลั่วเฉินก็พอแล้ว หากไม่ได้ผลค่อยไปหาตานสยงเฟย!เพราะตานสยงเฟยจัดการยากกว่าลั่วเฉินมาก!ตานสยงเฟยรู้ดีว่าที่ซ่อนทรัพย์สมบัติคือเครื่องช่วยชีวิตของเขา ตราบใดที่เขายังปากแข็ง หวังหยวนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้!นี่คือประโยชน์อย่างเดียวของเขา!เขาต้องเก็บไพ่ตายใบนี้ไว้ ไม
“อะแฮ่ม”หวังหยวนกระแอม แล้วรีบแต่งตัว ไม่ได้ตอบคำถามของหลิ่วหรูเยียนจะให้เขาตอบเช่นไร?หรือว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจ?แต่เมื่อนึกถึงภรรยาหลายคนที่บ้านก็รู้สึกหนักใจ เพิ่งจะแต่งงานกับเสวี่ยเชียนหลงยังไม่ถึงปี ก็มีหญิงงามมาเพิ่มอีกคน แล้วจะอธิบายกับภรรยาอย่างไร!แต่จะเดินจากไปง่าย ๆ เลยก็คงไม่ดีหรือไม่?หวังหยวนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงต้องตัดสินใจในภายหลัง“จริงสิ”“ข้าต้องไปที่คุก เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่?”หวังหยวนมองหลิ่วหรูเยียน แล้วเอ่ยถาม“แน่นอน!”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าอยากเห็นลั่วเฉินถูกทรมานเพื่อระบายความแค้น!”ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคุกต่งอวี่รีบเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นหวังหยวนก็โค้งคำนับ แล้วกล่าวว่า“ท่านผู้นำ!”“เมื่อคืนข้าอยู่ที่นี่ตลอด ใช้บทลงโทษต่าง ๆ นานากับลั่วเฉินจนเขาบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับปากแข็งไม่ยอมปริปากเลยขอรับ!”“หากไม่ใช่เพราะเขาใกล้จะตายเต็มทน เราคงไม่ปล่อยให้เขาพักหรอกขอรับ”ต่งอวี่กล่าวด้วยความโกรธช่างน่าโมโหนัก!เขาใช้ความอำมหิตไปเกือบหมดแล้ว แต่ลั่วเฉินก็ยังปากแข็ง!ปากอย่างกับแม่กุญแจ!ยากที่จะแงะออกจริงๆ!เขารู้สึกหนัก
ต่งอวี่รับคำแล้วพาลั่วเฉินไปที่คุกก็แค่พวกกระดูกแข็งเท่านั้น!หากใช้การทรมานเข้าช่วยก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครทนได้ กระดูกจะแข็งเพียงใดกัน?หากทนได้ แสดงว่าแค่ทรมานไม่มากพอ!“ข้าคิดว่าเขาคงไม่ยอมเปิดปาก”“แม้ว่าท่านจะฆ่าเขา เขาก็คงไม่บอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ”หลิ่วหรูเยียนเดินไปข้างหวังหยวน มองคนพาตัวลั่วเฉินออกไป แล้วกล่าวต่อว่า “เขาไม่ใช่คนอย่างโอวหยางอวี่ นับว่าเป็นขุนพลที่กล้าหาญและซื่อสัตย์“หวังหยวนพยักหน้า เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?แต่จำต้องลองดูสักครั้ง“เจ้าจัดการโอวหยางอวี่ไปแล้วหรือ?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามด้วยรอยยิ้ม“ใช่แล้ว”“เขายังหวังจะให้นึกถึงความสัมพันธ์ในอดีต ใช้คำพูดโน้มน้าวข้า แต่น่าเสียดายตอนนี้ใจข้าแข็งดั่งหิน ต้องการแค่ล้างแค้นให้บิดามารดา ทวงความยุติธรรมให้พวกท่านเท่านั้น!”“ในสายตาข้า ชีวิตคนของพรรคทมิฬไร้ค่า!”“ไม่ต้องพูดถึงโอวหยางอวี่ แม้แต่ตานสยงเฟย ข้าก็จะฆ่าเขา!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างหนักแน่นความแค้นในการฆ่าบิดาไม่อาจลืมเลือน จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?หวังหยวนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี”“แต่หล
“เพียะ เพียะ เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนไม่พูด เพียงแค่ยกมือขึ้นตบหน้าโอวหยางอวี่หลายครั้งจนหน้าบวมปูด!ทหารหลายคนที่อยู่ข้าง ๆ ต่างมองโอวหยางอวี่ด้วยสายตาเย็นชาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะตัวเขาเอง!แต่ต้องยอมรับว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นสตรีที่แข็งแกร่ง ไม่ควรไปยั่วยุนาง!“เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ข้าจึงจะให้เจ้าตายอย่างสงบ!”“ไม่เช่นนั้นข้าจะทรมานเจ้าให้การมีชีวิตยังดีกว่าตาย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวด้วยความโกรธแค้นคนของพรรคทมิฬล้วนไม่ใช่คนดีสักคน ฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง!ตอนนี้นางแค่อยากฆ่าคนระดับสูงของพรรคทมิฬให้หมด!“น้องหรูเยียน...”โอวหยางอวี่ตะโกนอีกครั้ง แต่หลิ่วหรูเยียนลงดาบตัดหัวเขาขาดในดาบเดียว!คนชั่วช้าคนหนึ่งจบชีวิตลง!“หัวหน้าองครักษ์คนหนึ่งจากในสี่คน! ก็แค่นี้!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ ไม่เอ่ยคำใด นางโยนดาบทิ้ง แล้วเดินไปหาหวังหยวนตอนนี้หวังหยวนกำลังเผชิญหน้ากับลั่วเฉิน“หรูเยียนกลับมาแล้ว โอวหยางอวี่คงตายแล้ว”“คนเช่นนั้น ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”หวังหยวนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มลั่วเฉินหัวเราะลั่น แล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว! คนทรยศ ขี้ขลาดเช่นนั้น ไม่ฆ่าเขา แล้วจะฆ่าใคร?”“เ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“