Share

บทที่ 1427

Author: ชวินเป่ยอี๋
เมื่อเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายกล่าวแสดงความยินดีกับอาจารย์ชิงอีแล้ว พวกเขาก็สังเกตเห็นหวังหยวนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เช่นกัน

หวังหยวนแสดงท่าทีเป็นธรรมชาติ ไม่ได้รู้สึกตื่นกลัวเลย แม้จะได้พบกับบุคคลสำคัญมากมาย

“ท่านผู้นำตระกูลทั้งหลาย! ผู้น้อยมีนามว่าหวังหยวน ข้าได้มาที่นี่วันนี้เพื่อขอร้องเพียงเรื่องเดียว ได้ยินมาว่าสตรีสูงศักดิ์แห่งเทียนไว่เทียนกำลังจะจัดการประลองยุทธ์หาคู่ ข้าจึงปรารถนาที่จะเข้าร่วมด้วยขอรับ”

หวังหยวนคำนับอีกครั้ง

เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นจึงเริ่มพูดคุยกันอย่างโจ่งแจ้ง

ไม่ต้องพูดถึงสถานะของหวังหยวนที่พวกเขายังไม่แน่ใจ เพียงแค่หวังหยวนมาจากภายนอก ไม่ใช่คนของเทียนไว่เทียน ก็นับเป็นเหตุผลที่จะปฏิเสธไม่ให้หวังหยวนเข้าร่วมประลองยุทธ์หาคู่ได้แล้ว

“เจ้าล้อเล่นหรือเปล่า เจ้าเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญ จะเข้าร่วมประลองยุทธ์หาคู่ของสตรีสูงศักดิ์ของเราได้อย่างไร เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน?”

“ถูกแล้ว เจ้าคิดว่าสตรีสูงศักดิ์ของเราเป็นอะไร? เจ้าคิดว่าเทียนไว่เทียนของเราเป็นอะไรกัน?”

“เจ้าหนุ่ม เจ้าจงกลับไปที่ที่เจ้าจากมาเถิด อย่ามายุ่งกับเรื่องของเราเลย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1428

    อันที่จริงแล้ววิธีนี้ก็ใช้ได้ แม้ว่าอาจารย์ชิงอีจะเป็นอาจารย์ของสตรีสูงศักดิ์และอาศัยอยู่ในเทียนไว่เทียนของพวกเขา แต่ก็ยังคงเป็นตัวแปรที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้ การใช้สถานการณ์นี้จัดการกับเขาจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลหากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในภายหลัง พวกเขาก็สามารถขอให้อาจารย์ชิงอีช่วยได้หวังหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แผนการของคนเหล่านี้ช่างดีเหลือเกินเดิมทีการประลองยุทธ์หาคู่ครองของสตรีสูงศักดิ์นั้นเน้นที่ความสามารถเป็นหลัก ไม่ว่าใครจะเข้าร่วมก็ไม่มีปัญหา แต่กลับมีอคติต่อเขามากมายเพียงเพราะว่าเขาเป็นคนที่อาจารย์ชิงอีตามหาทั่วทั้งหมื่นขุนเขาและสายน้ำพวกเขาไม่รู้ว่าความสามารถของหวังหยวนเป็นอย่างไรบ้าง การใช้สถานการณ์นี้จะทำให้สามารถดูความสามารถที่แท้จริงของหวังหยวนได้ ซึ่งพวกเขาจะได้ตัดสินใจ“ดี! หากเป็นเช่นนั้นเขาจะต้องเข้าร่วมการประลองสามรอบนี้ แต่ข้าหวังว่าหลังจากการประลองสามรอบจบลงแล้ว ผู้อาวุโสทั้งหลายจะทำตามที่ตกลงกันไว้ด้วยการให้เขาเข้าร่วมประลองยุทธ์หาคู่ อย่าได้ขัดขวาง”อาจารย์ชิงอีนึกดูถูกในใจ ผู้อาวุโสเหล่านี้แม้จะดูเหมือนทำเพื่อเทียนไว่เทียน แต่แท้จริงแล้วก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1429

    “ศิษย์ขอคารวะและยินดีต้อนรับท่านอาจารย์กลับมาเจ้าค่ะ! ขอคารวะคุณชายเจ้าค่ะ”เสวี่ยเชียนหลงคำนับพ่อ อาจารย์และหวังหยวน จากนั้นก็ยืนเคียงข้างพวกเขา“เชียนหลง เจ้าอย่ากังวลไปเลย อาจารย์ของเจ้ากลับมาแล้ว และยังพาชายหนุ่มผู้ฝึกฝนเคล็ดวิชามหาสุริยันมาด้วย เจ้าจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน!”เสวี่ยโส่วจุนไม่ได้ยิ้มอย่างเบิกบานเช่นนี้มานานแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขามาจากใจจริงหลายปีที่แสวงหาหนทางช่วยเหลือลูกสาว แต่บัดนี้ความช่วยเหลือมาถึงแล้วต่างจากเสวี่ยโส่วจุนที่มีรอยยิ้ม เสวี่ยเชียนหลงกลับไม่อาจยิ้มได้กล่าวได้ว่า เมื่อนางได้รับข่าวในตอนแรกก็ยินดีปรีดา แต่บัดนี้กลับกลายเป็นความกังวล“ท่านพ่อ ข้าไม่อยากให้เขาเข้าร่วมการประลองหาคู่ของข้าเจ้าค่ะ”ขณะที่เสวี่ยเชียนหลงเอ่ยประโยคนี้ อาจารย์ชิงอี หวังหยวน และเสวี่ยโส่วจุนต่างก็ตะลึงงันเกิดอะไรขึ้น?ไม่ใช่ว่าได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้วหรอกหรือ? หวังหยวนต้องเดินทางไกลมาถึงที่นี่เพื่อช่วยชีวิตนาง แล้วเหตุใดจึงไม่อยากให้เขาเข้าร่วม?หวังหยวนยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่ได้เอ่ยคำใด แต่มองหน้าเสวี่ยเชียนหลงราวกับต้องการมองทะลุจิตใจนางเสวี่ยเชียนหลงหลบสายตา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1430

    เมื่ออาจารย์ชิงอีจากไปแล้ว เสวี่ยเชียนหลงก็พยักหน้าเบา ๆ ให้กับหวังหยวน เป็นสัญญาณให้หวังหยวนเดินตามนางมา จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปที่ห้องของนางเพราะหากสนทนากันข้างนอกอาจมีคนแอบฟังได้“เชียนหลง เจ้าเป็นอะไรไป? เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือ? ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเจ้า เจ้าอย่ากังวลเลย ข้าจะไม่จากไปไหน!”หวังหยวนก็ไม่เข้าใจเช่นกัน ว่าเหตุใดเชียนหลงจึงเปลี่ยนใจกะทันหันเมื่อได้พบหน้าเขาเสวี่ยเชียนหลงไม่ได้หันกลับมา แต่หันหลังพูดกับหวังหยวนว่า “อย่าเลยเจ้าค่ะ ถึงตอนนี้ ข้าไม่ได้คิดที่จะมีชีวิตอยู่แล้ว ข้าไม่อาจให้ท่านต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องเช่นนี้เพราะข้าเพียงคนเดียว”เสวี่ยเชียนหลงรู้เรื่องราวของเทียนไว่เทียนและซานไว่ซานมาตั้งแต่เด็ก นางจึงรู้ดีถึงความอันตราย ทำให้ไม่ต้องการให้คุณชายเสี่ยงอันตรายเพื่อตนหวังหยวนขมวดคิ้วเดินไปตรงหน้าเสวี่ยเชียนหลง เพราะต้องการมองใบหน้าของนาง และฟังนางพูดด้วยตนเอง แต่เสวี่ยเชียนหลงกลับหลบสายตา“คุณชาย ท่านคิดว่าด้วยวิชาของท่านในตอนนี้ จะสามารถชนะการประลองหาคู่ในเทียนไว่เทียนได้หรือเจ้าคะ? ข้ารู้ว่าคุณชายมีความสามารถ แต่เทียนไว่เทียนไม่เหมือนที่ใดที่ท่านเค

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1431

    “ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้ปัญญาทึบเช่นนี้ไม่ใช่หรือ เหตุใดเมื่อได้พบกับเชียนหลงแล้วจึงกลับโง่งงมไปเสียแล้วเล่า? ที่นางกล่าวเช่นนั้นไม่ได้เป็นไปเพื่อเจ้าหรอกหรือ?”หวังหยวนไม่ได้ตอบ“สตรีผู้นั้นเพียงไม่ต้องการให้เจ้าเข้าร่วมการประลองยุทธ์หาคู่แล้วต้องสิ้นชีพ ที่แห่งนี้มีแต่พวกเสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น ดังนั้นนางจึงหวังให้เจ้าจากไป จึงได้กล่าวถ้อยคำเหล่านั้นเพื่อทำร้ายจิตใจเจ้า หากเจ้าเชื่อคำของนางจริง ข้าคงรู้สึกว่าหวังหยวนที่ข้ารู้จักก่อนหน้านี้ถูกเปลี่ยนตัวไปเสียแล้ว”เมื่อได้ฟังคำพูดของพี่ชิงอี ในที่สุดหวังหยวนจึงคิดได้อาจเป็นเพราะเมื่อครู่นี้ที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นแล้วคิดไม่ทัน เขาจึงได้เข้าใจผิดไป“พี่ชิงอี วางใจเถิด แม้ข้าจะโกรธเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น แต่จะให้ข้าไม่สนใจนางได้อย่างไร แม้เราทั้งสองจะไม่อาจเป็นสามีภรรยากันได้ แต่นางก็เป็นเหมือนน้องสาวของข้า ข้าจะต้องช่วยชีวิตนางอย่างแน่นอน!”น้ำเสียงที่ฟังดูเก้อเขินแสดงถึงความรู้สึกในใจของหวังหยวนในขณะนี้หลังจากที่ทั้งสองได้พูดคุยกันแล้ว หวังหยวนก็ตัดสินใจที่จะอยู่ที่เทียนไว่เทียนต่อเพื่อช่วยเหลือเสวี่ยเชียนหลง และเขาก็ไม่ต้อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1432

    “จิบชาพูดคุยถึงฟ้าดิน ชมดอกไม้รู้ถึงความไม่เที่ยงของชีวิต”บทกวีสองประโยคง่าย ๆ นี้ได้ทำให้ผู้คนในที่แห่งนี้ตกใจจนอ้าปากค้างอาจารย์ชิงอีเป็นคนแรกที่ปรบมือ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ ตอบสนองเดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะเป็นบุคคลหยาบคายที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่ไม่คาดคิดว่าความสามารถทางวรรณกรรมจะสูงส่งเช่นนี้ เพียงแค่พูดออกมาก็เป็นบทกวีที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อนแล้ว“ยอดเยี่ยม! แต่งบทกวีจากชาตรงหน้าได้ดีมาก”หลังจากที่เสวี่ยโส่วจุนชมเชยหวังหยวนแล้ว ก็ได้ยกถ้วยชาตรงหน้าขึ้นมาจิบเช่นกัน ชาถ้วยนี้เป็นชารสเลิศจริง ๆ“แต่ก็เป็นเพียงบทกวีสองประโยคที่พูดถึงชาเท่านั้น ยังไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ หากต้องการเข้าร่วมการประลองยุทธ์หาคู่ เช่นนี้คงไม่ได้ ข้าจะออกโจทย์ให้สักข้อก็แล้วกัน”ชายหนุ่มผู้มีความสามารถคนหนึ่งลุกขึ้นจากด้านข้าง จากนั้นโบกพัดเดินเข้าหาหวังหยวนอย่างช้า ๆ นัยน์ตาฉายแววท้าทายเขาเดินไปหยุดตรงหน้าหวังหยวน แล้วนั่งขัดสมาธิลงที่โต๊ะใครจะคิดว่าเขายังไม่ทันได้พูดอะไร หวังหยวนก็ลุกขึ้นทันทีแล้วเดินไปเจ็ดก้าวในสมัยโบราณมีกวีนามว่าเฉาจื๋อที่แต่งบทกวีเจ็ดก้าว วันนี้หวังหยวนจะขอยืมบทกวีของบร

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1433

    “เพียงเพราะเจ้ามองโลกแคบเกินไป ไม่ค่อยได้รู้จักผู้คนในโลกมนุษย์ จึงไม่รู้ว่าข้าได้เผยแพร่บทกวีออกไปข้างนอกแล้ว หากเจ้าได้ลองทำความเข้าใจ เจ้าจะรู้ว่าในโลกนี้ยังมีผู้เก่งกล้าอีกมากมาย!”หวังหยวนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา คนเช่นนี้มีตาหามีแววไม่ เขาไม่ใส่ใจอยู่แล้ว“เมื่อครู่ได้ส่งคนไปตรวจสอบแล้ว ไม่เคยมีใครได้ยินที่บทกวีเหล่านี้ใดมาก่อน ดังนั้นจึงค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเป็นบทกวีของหวังหยวนเอง” ก่อนหน้านี้เสวี่ยเชียนหลงเคยเห็นหวังหยวนแต่งบทกวีมาก่อน แต่ไม่เคยตื่นเต้นเช่นนี้ คงเป็นเพราะคราวนี้หวังหยวนจริงจังมากเนื่องจากมีผู้ที่ไม่ยอมรับหวังหยวนมากมาย พวกเขาทั้งหลายต่างคิดว่าตนเองเก่งกล้ากว่าหวังหยวน จึงสมควรได้เข้าร่วมการประลองยุทธ์เพื่อหาคู่มากกว่า จึงยังคงให้มีการประลองต่อไป“หวังหยวน เจ้าก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรนัก เพียงแค่แต่งบทกวีได้สองบทเท่านั้น เชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถแต่งบทกวีได้ดีกว่าเจ้าในทันที หากเจ้ามีความสามารถจริงก็จงแต่งบทกวีออกมาอีกหลาย ๆ บทเลยสิ!”“ถูกต้องแล้ว ให้พวกข้าได้เห็นเป็นบุญตาเสียหน่อย! เจ้าว่าตนเองมีความสามารถล้นเหลือ แต่ความสามารถนั้นอยู่ที่ใดกันเล่า?”“ให้เวลาเจ้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1434

    “ยอดเยี่ยมยิ่งนัก น่าอัศจรรย์เหลือเกิน!”“ข้าไม่เคยพบผู้ใดที่มีความสามารถเช่นหวังหยวนมาก่อน ข้าเห็นด้วย! ข้าเห็นด้วยให้เขาเข้าร่วมการประลองยุทธ์เพื่อหาคู่กับสตรีสูงศักดิ์!”“ข้าก็เห็นด้วยเช่นกัน เก่งกาจเกินไปแล้ว ยอมแพ้ราบคาบ!”“บทกวีห้าบท หากเป็นข้า คิดทั้งปีก็คงคิดไม่ออก แต่เขาสามารถแต่งบทกวีทั้งห้าบทได้อย่างยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้!”“ก่อนหน้านี้ข้าคิดเสมอว่าตนเองเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากบนโลกนี้จนกระทั่งได้พบกับหวังหยวน เมื่อได้ฟังบทกวีห้าบทที่เขาแต่ง ข้าจึงรู้ว่าข้าคิดผิด!”หวังหยวนรับฟังคำสรรเสริญของผู้คน จากนั้นก็เดินไปยืนตรงหน้าเสวี่ยโส่วจุน“ภายในครึ่งชั่วยาม ข้าได้แต่งบทกวีทั้งห้าบทนี้เสร็จแล้ว ไม่ทราบว่าจะผ่านการทดสอบด่านแรกได้หรือไม่ขอรับ”นอกจากหวังหยวนจะแต่งบทกวีห้าบทได้ภายในครึ่งชั่วยามแล้ว เขายังได้รับความชื่นชมจากนักปราชญ์ทั้งหลายในที่แห่งนี้ด้วยเขาได้กลายเป็นผู้ที่มีความสามารถทางวรรณกรรมสูงสุดในที่แห่งนี้ จึงสมควรผ่านการทดสอบของด่านแรก“ผ่านสิ! เดิมทีข้าคิดว่าเจ้าเป็นศิษย์ของอาจารย์ชิงอี ด้านการฝึกยุทธ์คงจะเชี่ยวชาญอยู่บ้าง ไม่คาดคิดว่าความสามารถทางวรรณกรรมจะยอดเย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1435

    “ได้เลย”หลังจากที่หวังหยวนตอบรับ ทั้งสองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกันดีอาจเป็นเพราะครั้งก่อนที่เสวี่ยเชียนหลงพูดจาไม่ค่อยดีนัก จึงทำให้ทั้งสองรู้สึกอึดอัดเมื่อได้พบหน้ากันอีกครั้ง“ใช่แล้ว พ่อของข้าให้ข้ามาบอกท่านว่าช่วงนี้ให้ท่านพักอยู่ที่จวนเสวี่ยก่อน เพราะหากท่านพักที่อื่น ท่านอาจจะถูกคนลอบสังหารได้ คนพวกนั้นไม่ใช่คนดีนัก”ทันใดนั้นเสวี่ยเชียนหลงก็นึกถึงคำสั่งของบิดาที่สั่งไว้ก่อนที่นางจะออกมาได้หวังหยวนพยักหน้า“เช่นนั้นเจ้าก็พาข้าไปเถิด ข้ายังไม่รู้เลยว่าจวนเสวี่ยอยู่ที่ใด เทียนไว่เทียนกว้างใหญ่นัก”หวังหยวนยิ้มให้เสวี่ยเชียนหลง ทำให้ใบหน้าของเสวี่ยเชียนหลงแดงเรื่อ นางเดินนำหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่รีบจนเสียจังหวะหวังหยวนเดินตามหลังนางไป อาจเป็นเพราะเสวี่ยเชียนหลงกำลังจะเข้าร่วมการประลองหาคู่ หวังหยวนจึงตั้งใจไม่เดินเข้าใกล้นางมากนัก เพราะไม่อยากให้คนอื่นติฉินนินทาเสวี่ยเชียนหลงก็เข้าใจดีว่าหวังหยวนคิดอย่างไร นางจึงตั้งใจเดินช้าลง ทั้งสองเดินตามกันมาอย่างสนิทสนมท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย ในที่สุดหวังหยวนก็ได้ไปเข้าพักที่จวนเสวี่ยไม่นานนักเสวี่ยโส่วจุนก็กลับมาที่จวนเสว

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status