เขายังคงอยากจะลองดู!ดังนั้นหลังจากสั่งการกองทัพทหารม้าแล้ว เขาก็ออกจากเมืองหลวงทันที เพื่อมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านต้าหวังการกลับมาของหวังหยวนยังทำให้หลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแม้ว่าจะไม่มีอันตรายใด แต่หวังหยวนก็รู้ดีว่ามีบางสิ่งที่เขาต้องเตรียมรับมือให้เร็วที่สุด!ตระกูลไป๋...ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพวกเขาจะมีระยะห่างระหว่างกันแล้ว!เรื่องเช่นนี้ต้องวางแผนล่วงหน้า ไม่อาจล่าช้าได้!ตระกูลไป๋ต้องการจัดการกับเขา แม้ว่าจะยังไม่เกิดขึ้นตอนนี้แต่มันจะเกิดขึ้นในอนาคต เขาสามารถมองเห็นความมุ่งมั่นของไป๋เจิ้นถังได้จากการกระทำของเขาคิดอยากจะควบคุมเขาไว้ในกำมือ!ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่ไป๋เจิ้นถังจะสามารถมั่นใจเรื่องความปลอดภัยของอาณาจักรต้าเป่ยได้ ในกรณีนี้หวังหยวนจะต้องเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ให้ดี!ไป๋ชิงชางมาถึงที่นี่ด้วยสีหน้าลำบากใจเพราะหวังหยวนเป็นคนให้คำแนะนำแก่พวกเขา แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับกลายเป็นเช่นนี้ พูดตามตรงคือเขาแทบไม่มีหน้ามาเจอหวังหยวนด้วยซ้ำ!“พี่หวัง ขอโทษด้วยจริง ๆ ข้า…”ไป๋ชิงชางยังคงเป็นคนที่ค่อนข้างซื่อสัตย์ แต่เขาขาดความโหดเหี้ยมในฐานะฮ่อง
การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!ไป๋ชิงชางไม่กล้าตอบตกลงอย่างง่ายดาย เพราะหากเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อแผนการของพ่อของเขา เช่นนั้น...เขาก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะต้องทำอย่างไร!“เรื่องนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในตอนนี้ ท่านควรกลับไปหารือกับพ่อของท่านก่อน แต่ข้ารับประกันได้ว่าเมืองหวงจะยืนเคียงข้างข้าอย่างแน่นอน!”หวังหยวนยกยิ้ม คำพูดของเขาหนักแน่นมาก!มีเขาเข้าร่วมด้วย หากเมืองหวงจะเลือกช่วยตระกูลเซิ่งแทนที่จะช่วยเหลือเขาก็คงโง่เขลาเต็มทน!“ได้เลย!”ไป๋ชิงชางสูดหายใจเข้า จากนั้นกลับไปที่วังหลวงเพื่อเล่าทุกเรื่องให้ไป๋เจิ้นถังฟัง“อะไรนะ? หวังหยวนต้องการปกครองเมืองหลิงแต่เพียงผู้เดียว นั่นแสดงว่า... เขายังปรารถนาจะแย่งชิงแผ่นดิน!”ไป๋เจิ้นถังตะคอกอย่างเย็นชาทันที“ท่านพ่อ ในสถานการณ์ปัจจุบันเราไม่สามารถควบคุมหวังหยวนได้เลย มีเมืองหวงอยู่ด้านหน้า และมีตระกูลเซิ่งอยู่ด้านหลัง หากเราไม่ยอมเห็นด้วย หวังหยวน ตระกูลเซิ่งและเมืองหวงจะร่วมมือกัน และตระกูลไป๋ของเราก็จะ... ไม่อาจต้านทานได้!”“วันที่อาณาจักรจะถูกโค่นล้มนั้นใกล้เข้ามาแล้ว!”ไป๋เจิ้นถังจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าไป๋ชิงชางหมายความ
หลังจากที่เซียวฉู่ฉู่หายตกตะลึงนางก็หัวเราะทันที“ถูกต้อง มันไม่ง่ายเลยที่จะจับเขาไว้ได้ ในเมื่อครั้งนี้เขาเลือกที่จะมาเยือนเมืองหวงของเรา ก็แสดงว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นเป็นแน่!”หลังจากที่เซียวฉู่ฉู่พูดจบ อ๋องหลงซีก็กล่าวเสริม“ไทเฮา มีเพียงสองผลลัพธ์เท่านั้น ผลลัพธ์แรกคือการโน้มน้าวให้เราล่าถอย และอีกผลลัพธ์คือมาเพื่อเจรจาความร่วมมือ!”หลังจากที่อ๋องหลงซีพูดจบแล้ว เซียวฉู่ฉู่ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าอยากจะเลือกทางเลือกที่สองมากกว่า!”“ถ้าหวังหยวนโน้มน้าวให้เราถอยทัพ ก็คงจะไม่กล้าทำเช่นนั้นในเวลานี้หรอก!”“เพียงแต่ความร่วมมือที่ว่านั้น...จะเป็นอย่างไร?”มีความสงสัยฉายแววในดวงตาของเซียวฉู่ฉู่ เพราะท้ายที่สุดก็มีสองทาง!ทางที่หนึ่งคือการร่วมมือกับตระกูลเซิ่ง หากมีความขัดแย้งระหว่างตระกูลไป๋และหวังหยวน ก็เป็นไปได้ที่จะแก้ปัญหาเรื่องตระกูลไป๋ได้!หรือบางทีตระกูลไป๋และหวังหยวนอาจร่วมมือกันเพื่อจัดการกับตระกูลเซิ่งทั้งสองสถานการณ์ล้วนเป็นไปได้ในสายตาของนาง!“ไทเฮา หวังหยวนแอบเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว คิดว่าอีกไม่นานเขาน่าจะเข้ามาในวังหลวงวัง พวกรออีกสักพักได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”อ๋องหลงซี
หลังจากเซียวฉู่ฉู่ได้ฟังแล้วจึงหรี่ตาและอดหัวเราะไม่ได้“ตระกูลเซิ่ง เหตุใดเจ้าถึงคิดว่าข้าควรช่วยเจ้า?”“พวกข้าได้บรรลุข้อตกลงการเป็นพันธมิตรกับตระกูลเซิ่งแล้ว”หวังหยวนได้ฟังเช่นนั้นก็ส่ายหน้า“ไทเฮา เรายังเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกัน เพิ่งจะได้พบหน้ากันแล้วพูดเช่นนี้จะฟังดูไม่จริงใจไปหน่อยหรือ?”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เซียวฉู่ฉู่ก็หัวเราะ“แล้วความจริงใจของท่านคืออะไร?”หวังหยวนยกนิ้วขึ้นแล้วพูดตามตรง “ดินแดนหนึ่ง เมืองเหลียง”หลังจากฟังคำตอบแล้ว อ๋องหลงซีและคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง“ดินแดนหนึ่งหรือ?”เมื่อพวกเขาได้ยินสองคำนี้ก็คาดเดาอยู่ในใจเช่นกัน!เมื่อหวังหยวนพูดถึงเมือง นั่นไม่ได้หมายความว่า...ทั้งสามฝ่ายจะแบ่งของตระกูลเซิ่งออกเท่า ๆ กันหรือ?ความจริงแล้วการแบ่งเท่ากันเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ แต่...ประเด็นสำคัญคือหวังหยวนที่มาที่นี่!เขาไม่เคยต้องการดินแดน แล้วเหตุใดเขาถึงต้องการยึดเมืองหนึ่งในตอนนี้?เซียวฉู่ฉู่หรี่ตาลงและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “หวังหยวน ตอนนี้ท่านตั้งใจที่จะแย่งชิงดินแดนแล้วหรือไม่?”แม้ว่าหวังหยวนจะบอกไม่ได้ว่ามีความตั้งใจจะแย่งชิงดินแดน แต่เ
เช่นเดียวกับตอนที่ต้าเย่รุ่งเรืองถึงจุดสูงสุดจนมีอาณาจักรหลายร้อยอาณาจักรต้องเกรงใจ อย่างแย่ที่สุดก็แค่ยกทัพกลับมาที่นี่ และจะไม่ส่งผลกระทบมากนักแต่ตระกูลไป๋นั้นแตกต่างออกไป!“ไทเฮา การเดาของท่านไม่เลวเลย ใช่แล้ว ตระกูลไป๋คิดจะทำเช่นนั้นจริง”“ข้าเองก็... ไม่มีทางเลือกเช่นกัน อย่างน้อยเขาก็แสดงความตั้งใจว่าจะโจมตีข้าแล้ว หากเขาควบคุมดินแดนทั้งเก้าด้วยกองทัพของเขา ข้าจะไม่ยิ่งตกอยู่ในอันตรายกว่านี้อีกหรือ!”“หากข้าไม่ป้องกันตัวเอง ก็ย่อมถูกฟ้าดินลงโทษ ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเลือกที่จะเป็นอิสระ”โลกนี้ซับซ้อนยิ่ง และหัวใจมนุษย์ก็เป็นเช่นนั้นหวังหยวนไม่ต้องการเป็นอิสระเลย เขาแค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเท่านั้นแต่ใครจะคิดว่าตระกูลไป๋จะคิดมากถึงเพียงนี้ ซึ่งทำให้เขา...ไม่มีทางเลือก!“เข้าใจแล้ว พวกเราเห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่จะทำลายตระกูลเซิ่งได้อย่างไร?”ในขณะนี้เซียวฉู่ฉู่ถามอีกครั้งหวังหยวนพูดอย่างสงบ “มันง่ายดายยิ่งนัก ส่งทหารม้าสองหมื่นนายออกไปโจมตีตระกูลเซิ่งในชั่วข้ามคืน”“ส่วนคนอื่นแสดงละครกับตระกูลไป๋”“เมื่อถึงเวลานั้น หากพวกท่านและข้าร่วมมือกัน ตระกูลเซิ่งจ
ในวันนี้ศึกใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!คราวนี้เกิดขึ้นทั่วทั้งหกเมือง!เซิ่งตงฉยงนำทัพทหารหนึ่งแสนนายของตระกูลเซิ่ง ตรงไปยังชายแดนของอาณาจักรต้าเป่ยทันที!และที่นี่ไป๋ชิงชางได้เตรียมพร้อมมาเป็นเวลานานแล้วโดยมีทหารม้าห้าหมื่นนายซุ่มอยู่ในเมืองนี้ และยังมีทหารม้าอีกห้าหมื่นนายที่ซุ่มโจมตีอยู่ด้วย!ขณะนี้เซิ่งตงฉยงมองอาณาจักรต้าเป่ยด้วยสายตาเย็นชา!ในอีกด้านหนึ่ง กองกำลังของเมืองหวงที่นำโดยอากู่ต๋ามาถึงชายแดนเมืองเหลียงแล้ว แต่พวกเขายังคงแสร้งแสดงละคร!“ท่านอ๋อง เราควรดำเนินการเลยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”องครักษ์ส่วนตัวของอากู่ต๋าถามด้วยรอยยิ้มอากู่ต๋าฟังแล้วก็เพียงแค่ยกยิ้ม“แน่นอนว่าเริ่มได้เลย มันเป็นแค่การแสดง!”“สั่งทหารหนึ่งหมื่นนายให้ส่งเสียงตะโกนโห่ร้องข้างนอก หรืออย่างน้อยก็แสร้งทำเป็นว่ากำลังต่อสู้!”หลังจากได้รับคำสั่งของเซียวฉู่ฉู่ อากู่ต๋าก็ย่อมเข้าใจว่าการต่อสู้ในวันนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นเลย เพราะมันเป็นเพียงการหลอกลวงเท่านั้น!“พวกเจ้าทำเช่นนั้นไปก่อน ส่วนข้าจะไปพบเซิ่งตงฉยง”หลังจากที่อากู่ต๋ามาที่นี่แล้ว เขาก็นำกองทหารที่เหลืออีกแปดหมื่นนายมุ่งหน้าไปยังแคว้นกู่!ทหารม้
เมื่อคิดได้ดังนั้น สีหน้าของเซิ่งตงฉยงก็เปลี่ยนไปทันที!“ถอย... ถอยทัพด่วน!”สีหน้าของเซิ่งตงฉยงเปลี่ยนไปอย่างมาก จากเย่อหยิ่งกลับกลายเป็นตื่นตระหนก!แต่ไป๋ชิงชางกล่าวว่า “เซิ่งตงฉยง มันสายเกินไปแล้ว ข้าจะบอกให้ว่าตอนนี้พวกหวังหยวนคงได้เริ่มโจมตีอาณาจักรต้าอันของเจ้าแล้ว!”“และเจ้าก็ยกทัพหนีไปไม่ได้เช่นกัน เพราะกองทัพของอากู่ต๋ากำลังเดินทางมาที่นี่!”“เมื่อกองทัพที่แข็งแกร่งสองแสนนายรวมตัวกัน นั่นคือเวลาที่ตระกูลเซิ่งของเจ้าต้องล่มสลาย!”หลังจากที่ไป๋ชิงชางพูดจบ สีหน้าของเซิ่งตงฉยงก็กลายเป็นโกรธจัด!“สารเลว! เมืองหวงบังอาจทรยศ!”เซิ่งตงฉยงแทบจะบ้าคลั่งแล้ว!เขาไม่เคยคาดหวังเลยว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้!“ในแง่ของมิตรภาพ พวกเจ้ากับเมืองหวง จะเปรียบเทียบกับเมืองหวงและหวังหยวนได้อย่างไร?”“ยิ่งกว่านั้น คือหากเมืองหวงร่วมมือกับเจ้าเพื่อเอาชนะข้าและหวังหยวนก็ยากมาก แล้วเหตุใดพวกเขาถึงจะยืนกรานช่วยเจ้าล่ะ?”“เซิ่งตงฉยง เจ้ากำลังขุดหลุมฝังตัวเอง!”ไป๋ชิงชางยกยิ้มแล้วพูดด้วยสายตาเย็นชา!กองทหารหนึ่งแสนนายของเขาขัดขวางการล่าถอยของกองทหารหนึ่งแสนนายของเซิ่งตงฉยงทันที!สงครามกำลังจะ
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น.ใบหน้าของเซิ่งฟางสี่ก็บ่งบอกถึงความหวาดกลัว!หลังจากคิดอยู่นานก็ยังไม่เอ่ยคำใดออกมา!“ถอย! ตอนนี้ต้องรวบรวมกองกำลังทุกนายที่มีเพื่อหนีจากแคว้นกู่! ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อช่วยเหลือพี่ชายของเจ้า!”“นี่เป็นทางเดียวที่จะรอด!”เซิ่งฟางสี่ไม่มีเวลาที่จะเสียใจ!เซิ่งตงหยวนตกตะลึง.แต่เขาก็รู้ด้วยว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาวิกฤติ เขาจึงรีบไปรวบรวมกำลังคนโดยไม่รีรอ!ในไม่ช้าทหารม้าสองหมื่นนายก็มารวมตัวกัน จากนั้นเซิ่งฟางสี่และครอบครัวของเขาก็ละทิ้งอาณาจักรต้าอันไว้เบื้องหลัง!เขารู้ดีว่าถ้าพวกเขายังคงยึดมั่น ก็จะไม่สามารถยึดไว้ได้อยู่ดี วิธีเดียวที่พวกเขาทำได้คือต้องหลบหนี แล้วค่อยหาโอกาสเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในอนาคต!ไม่เช่นนั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน!การทำเช่นนี้เท่านั้นจึงจะทำให้มีโอกาสกลับมายิ่งใหญ่ได้!ส่วนอีกด้านหนึ่ง ไป๋ชิงชางและเซิ่งตงฉยงกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด และอากู่ต๋าก็มาถึงแล้ว!ทหารม้าหนึ่งแสนแปดหมื่นนาย ต่อทหารม้าหนึ่งแสนนาย!แม้ว่าเซิ่งตงฉยงจะเก่งกาจมาก แต่ก็ยังไม่อาจต้านทานได้!ขณะที่พวกเขากำลังรบราฆ่าฟันกันอยู่ข้างนอก หวังหยวนกำลังนั่งจิบชากับ
ตอนนี้หวังหยวนกลับพูดจาเยาะเย้ยเช่นนี้ นางจะไม่โกรธได้อย่างไร?“ดีนัก!”“พวกเราเพิ่งจะอยู่ร่วมกันไม่ถึงครึ่งปี ท่านก็เริ่มรังเกียจข้าแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ให้ข้าไปตอนนี้เลยแล้วกัน!”“ถือเสียว่าพวกเราไม่เคยรู้จักกัน!”หลิ่วหรูเยียนยังคงแข็งกร้าวเช่นเดิม พูดจบนางก็ลุกขึ้น เตรียมจะกระโดดลงจากรถม้าหวังหยวนรีบคว้าแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้ พลางเอ่ยขอโทษอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าพูดผิดไป เจ้าเป็นคนใจกว้าง อย่าได้ถือสาข้าเลย!”“อีกอย่าง ต่อให้ร่างกายของเจ้าจะมีรอยแผลเป็น แล้วจะเป็นอย่างไร? ใจของข้าก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง!”“ข้ารู้ดีว่ารอยแผลเป็นบนร่างกายของเจ้าเกิดขึ้นเพราะข้า หากไม่มีรอยแผลเป็นนี้ บางทีข้าอาจจะลืมเลือนความดีของเจ้าที่มีต่อข้า แต่หากรอยแผลเป็นนี้ยังคงอยู่ ย่อมทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้น!”“อย่างน้อยก็ทำให้ข้าจดจำความดีของเจ้าได้ตลอดไป!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ แต่ในใจกลับรู้สึกยินดีนางรู้ดีว่าหวังหยวนไม่ใช่คนอกตัญญู ไม่เช่นนั้นในคืนนั้นนางคงไม่ยืนหยัดต่อสู้เต็มที่อยู่เคียงข้างหวังหยวน!ความทุ่มเทถือว่าได้รับผลตอบแทน!หลายวันผ่านไป หวังหยวนและพรรคพวกได้เดินทางมาถึงเชิงเขา
ครึ่งเดือนผ่านไป เนื่องจากเกาเล่อได้รวบรวมช่างฝีมือมามากมาย การก่อสร้างหอไร้เทียมทานจึงคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วยามนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วคาดว่าอีกครึ่งเดือน หอไร้เทียมทานก็จะสร้างเสร็จสมบูรณ์!และในช่วงเวลานี้ อาการของหลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ดีขึ้น หวังหยวนได้ติดต่อกับคนของหมู่บ้านต้าหวัง เพื่อทำให้ทุกคนสบายใจตั้งแต่หลิ่วหรูเยียนล้มป่วย หวังหยวนนั้นไม่มีแก่ใจจะทำสิ่งใด ไม่ได้ติดต่อกับคนของหมู่บ้านต้าหวัง ซึ่งทำให้ต้าหู่และเอ้อหู่สองพี่น้องร้อนใจยิ่งนัก!ยามนี้เมืองหลิงอยู่ภายใต้การปกครองของพวกเขาทั้งสอง แม้ว่าจะมีถงจื่อเจี้ยนและคนอื่นช่วยเหลือ แต่ทั้งสองนั้นเป็นห่วงความปลอดภัยของหวังหยวนมากกว่าแม้ว่าพวกเขาทั้งหลายจะไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด แต่ก็รักใคร่กันยิ่งกว่าพี่น้อง!แม้ว่ายามนี้จะมีอำนาจอยู่ในมือ แต่สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญ!ขอเพียงพี่น้องได้อยู่ร่วมกัน ต่อให้ต้องสูญเสียแผ่นดินไป แล้วจะมีความหมายอะไร?เวลาผ่านไปครึ่งเดือน ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง และในช่วงครึ่งเดือนนี้ หอไร้เทียมทานสร้างเสร็จสมบูรณ์ หวังหยวนออกจากเผ่าแล้ว ยามนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังเม
หากจะกล่าวให้ยิ่งใหญ่ขึ้นก็เพื่อปวงประชา!ดินแดนทั้งเก้าได้กลับคืนสู่ความสงบสุขได้ก็เพราะเขา เขาจึงต้องการให้ความสงบสุขนี้คงอยู่สืบไป ปวงประชาจะได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดกาล!“ไม่ทราบว่าท่านหมอเทวดาอันมีความคิดเห็นเช่นไร?”หวังหยวนเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเห็นสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาของเขา อันจูหมิงจึงรีบโบกมือเอ่ยว่า “ในเมื่อมีเรื่องดีเช่นนี้ มีหรือที่ข้าจะไม่เข้าร่วม? ข้าจะต้องมีที่นั่งในหอไร้เทียมทานนี้อย่างแน่นอน! ถือว่าเป็นการพิสูจน์ความสามารถของข้าด้วยก็แล้วกัน!”“อีกอย่าง ข้ารู้ว่าท่านมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า ปวงประชาต่างเคารพท่านราวกับเป็นฮ่องเต้ แม้แต่คนของอาณาจักรต้าเป่ยก็คิดเช่นนั้น!”“หอไร้เทียมทานย่อมต้องเจริญรุ่งเรืองภายใต้การดูแลของท่าน แล้วชื่อเสียงของข้าก็จะยิ่งโด่งดัง!”“เรื่องดีเช่นนี้ มีหรือที่ข้าจะพลาด?”คิดไม่ถึงว่าอันจูหมิงจะตอบรับอย่างง่ายดาย!หวังหยวนยินดียิ่งนัก “เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านหมอเทวดาอันที่ให้เกียรติ!”เมื่อได้หมอเทวดาอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าเข้าร่วม คาดว่าอีกไม่นานหอไร้เทียมทานนี้ก็จะสามารถรวบรวมผู้มีความสามารถไว้ได้มากมายแน
“รับความไว้วางใจจากผู้อื่น ต้องรักภักดีต่องานของผู้อื่น”อันจูหมิงหยิบขวดยาออกมาจากอกเสื้อ พลางเอ่ยขึ้นว่า “นี่คือยาเม็ดที่ข้าปรุงให้ฮูหยิน ทานวันละหนึ่งเม็ด หลังอาหารเย็น ในนี้มียาสามสิบเม็ด หนึ่งเดือนต่อมา ฮูหยินก็จะหายดี!”หลังจากที่หวังหยวนและคนอื่น ๆ กลับมาเมื่อวาน ก็ให้เกาเล่อนำดอกหน้าผาชันมามอบให้อันจูหมิงเขาทำได้เพียงนำดอกหน้าผาชันกลับมา ส่วนการนำมาใช้เป็นยานั้นต้องอาศัยความสามารถของอันจูหมิงอีกทั้งอันจูหมิงก็ไม่ดื่มสุราเลย เพียงคืนเดียว ยาเม็ดนี้ก็ปรุงเสร็จ!“ยังต้องกินยาอีกหรือ?”หลิ่วหรูเยียนเดินมาด้วยสีหน้าจนใจ เมื่อเห็นขวดยาอันสวยงามประณีตก็ไม่รู้สึกสนใจแม้แต่น้อยเนื่องจากนางยังมีบาดแผล ทุกวันนี้จึงต้องดื่มยามากมาย ทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายคิดไม่ถึงเลยว่าอาการป่วยของนางยังไม่หายดี แต่ปริมาณยากลับเพิ่มขึ้น ช่างน่าเจ็บใจนัก!หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือสิ่งที่พวกเราแลกมาด้วยชีวิต เจ้าต้องกินให้ดี ไม่เช่นนั้นทั้งข้า เกาเล่อ และเฉินอวิ่นจะเสียแรงเปล่า”“เกิดอะไรขึ้น?”หลิ่วหรูเยียนเอ่ยถามด้วยความสงสัยส่วนอันจูหมิงที่อยู่ด้านข้างโบกมือ เมื่อคิดอะไรบางอย่างขึ
หวังหยวนใช้นิ้วเคาะเบา ๆ ที่หน้าผากของตน จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นส่วนเกาเล่อยกยิ้ม แล้วเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “นี่ก็เป็นเรื่องง่าย หากต้องการจะได้รับฉายาไร้เทียมทานย่อมต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดของด้านนั้นๆ ต่อให้มีผู้เชี่ยวชาญมาสองคน พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องรับไว้ทั้งหมด สู้ให้พวกเขาทั้งสองประลองฝีมือกัน ผู้ใดแข็งแกร่งกว่า ผู้อ่อนแอกว่า ย่อมรู้ได้ในพริบตา!”“ท่านผู้นำคิดเห็นเช่นไรขอรับ?”หวังหยวนตบมือ เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร?เขาก็คิดเช่นนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?หากสามารถรวบรวมผู้ที่ไร้เทียมทานเหล่านี้มาอยู่เคียงข้างได้ เขาสามารถจินตนาการถึงภาพนั้นได้แล้ว!ต่อให้ภายภาคหน้าเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าผู้ครองเมืองหลิงอีกต่อไป เพียงแค่หอไร้เทียมทานก็สามารถทำให้ผู้คนทั่วหล้ายังคงเคารพเขา และปกป้องแผ่นดินให้สงบสุขได้ด้วย!“ดื่มสุรา! ดื่มสุรา!”หวังหยวนอารมณ์ดียิ่งนัก เขายกจอกสุราขึ้น พลางโบกมือให้กับทุกคน ทุกคนจึงดื่มสุราตามเฉินอวิ่นไม่ได้ทำตัวเป็นคนนอก ในไม่ช้าก็สามารถเข้ากับทุกคนได้ดี ผู้ที่มีความสัมพันธ์อันดีที่สุดกับเขาคือไฉจวิ้นแม้ว่าไฉจวิ้นจะอายุน้อยกว่าเขามาก แต่ไฉจวิ้นมีนิสัยห้าวหาญ อีกทั้งยังไม่
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้”“อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ดื่มสุรากับท่านสักสองจอกที่นี่ก็ถือว่าได้สหายเพิ่มอีกคน”“แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ดูจากความร่ำรวยของท่านแล้ว ภายภาคหน้าหากต้องการเงินทอง ท่านคงเป็นผู้ช่วยที่ดี”ชายคนนั้นไม่เกรงใจ เขากล่าวอย่างไม่ใส่ใจหวังหยวนรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเนื่องจากไท่สื่อลี่ได้เตรียมงานเลี้ยงไว้แล้ว ทุกคนจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านของไท่สื่อลี่อย่างไรเสีย หวังหยวนก็ไม่อยากดื่มสุรากับคนทั้งเผ่า ประสบการณ์ครั้งก่อนยังคงแจ่มชัด เขาไม่อยากจะประสบพบเจออีก...อีกอย่าง ครั้งนี้ที่ต้องการจะดื่มสุราก็เพราะชายตรงหน้าคนนี้คนผู้นี้ช่างลึกลับยิ่งนัก แต่มีความสามารถที่แท้จริง หวังหยวนเป็นคนชอบคนเก่ง หากสามารถทำให้คนผู้นี้มาทำงานให้ตนได้ ภายภาคหน้าย่อมเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาของเขา!“ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไรหรือ?”ขณะที่ทุกคนกำลังเดินไปยังบ้านของไท่สื่อลี่ สายตาของหวังหยวนก็จับจ้องไปที่ชายคนนั้น“ท่านไม่ต้องสุภาพมากนักหรอก เรียกข้าว่าเฉินอวิ่นก็พอ”เฉินอวิ่นเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ เห็นได้ชัดตั้งแต่แรกว่าเขาเป็นคนคนพเนจร ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์เฉินอ
หวังหยวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยว่า “ย่อมไม่เป็นเช่นนั้นแน่ เขามีวรยุทธ์ล้ำเลิศ แต่กลับแต่งกายเรียบง่าย นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าเขาใช้เงินเท่าที่จำเป็น คาดว่าเงินทองส่วนเกินคงจะมอบให้ผู้อื่นไปหมดแล้ว”“นี่อาจจะเป็นความหมายของคำว่าคุณธรรมก็เป็นได้”“แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สำคัญ หากต้องการจะพิชิตใจคนผู้นี้ ดูท่าแล้วคงต้องใช้ความคิดมากกว่านี้”เกาเล่อพยักหน้าเห็นด้วย เป็นเช่นนั้นจริงๆครึ่งชั่วยามผ่านไป ชายคนนั้นกระโดดลงมาจากที่สูงเพียงไม่กี่ครั้งก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกหวังหยวน ในมือของเขาถือเกสรดอกไม้ที่ส่องประกาย“นี่คือเกสรของดอกหน้าผาชันหรือ?”ดวงตาของหวังหยวนก็เป็นประกาย เขากำลังจะยื่นมือไปรับ แต่ชายคนนั้นหดมือกลับ“สหาย ท่านสัญญากับข้าว่าจะให้หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทอง จ่ายเงินแล้วค่อยรับของ เช่นนี้ถึงจะถูกต้อง”“หากข้าไม่เห็นเงิน ข้าก็ไม่อาจมอบสิ่งนี้ให้ท่านได้”ชายคนนั้นมีท่าทีที่หนักแน่นหวังหยวนจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงทองนั้นมากมายยิ่งนัก แต่สำหรับข้าแล้วนั้นไม่นับว่ามากมาย เพียงแต่ว่าข้าไม่ได้พกทองติดตัวมามากมายเพียงนั้น หรือว่าท่านจะติดตามข้าไปยังเผ่
ดังเช่นที่ชายคนนั้นได้กล่าวไว้ บนหน้าผาสูงตระหง่านแห่งนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!แม้ว่าเกาเล่อจะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศและฝึกฝนอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่อาจปีนป่ายหน้าผาได้!เมื่อครู่นี้เขาตั้งใจจะเสี่ยงอันตราย หากสามารถนำดอกหน้าผาชันกลับมาได้ย่อมเป็นเรื่องดีแต่หากไม่สำเร็จ คงต้องสูญเสียชีวิตไป...ในขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหวผ่านจุดที่ยากลำบากที่สุด ก็เห็นชายคนนั้นมาถึงข้างกาย ใช้เถาวัลย์พันรอบเอวของเขา แล้วพาเขากลับลงสู่พื้นดินทุกอย่างราวกับความฝัน ทำให้เกาเล่อไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น!หลังจากที่ชายคนนั้นช่วยเหลือเกาเล่อแล้ว ก็ไม่ได้เสียเวลาพูดคุยกับพวกหวังหยวนอีก แต่กลับมุ่งหน้าไปยังหน้าผาอีกครั้ง!การเคลื่อนไหวนั้นช่างชำนาญยิ่ง ราวกับเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือ!ทั้งสองคนที่ยืนอยู่บนหน้าผารู้สึกราวกับกำลังชมการร่ายรำ เพียงแต่ว่าท่วงท่าอันงดงามนี้ หากเกิดความผิดพลาดเพียงครึ่งก้าวย่อมต้องแลกมาด้วยชีวิต!ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นร้ายแรงยิ่งนัก!หวังหยวนและเกาเล่อสบตากัน เกาเล่อเอ่ยขึ้นว่า “ชาติที่แล้วเจ้านี่คงเกิดเป็นลิง ทักษะของเขาจะดีเยี่ยมปานนี้ได้อย่างไร? หรือว่าจะเป็นผู้มีวิชาที่เ
น่าเสียดาย หากต้องการเก็บเกสรดอกหน้าผาชันก็จำเป็นต้องมีทักษะอย่างแท้จริง!“ท่านรู้จักดอกหน้าผาชันด้วยหรือ?”หวังหยวนเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว“ย่อมต้องรู้จักสิ”“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าข้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”“ง่ายมาก! ข้าเองก็มาเพื่อดอกหน้าผาชันนี้เช่นกัน!”ชายคนนั้นกอดอกพูดคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ท่านต้องการดอกหน้าผาชันไปทำอะไร?”หวังหยวนรีบถาม“แน่นอนว่าต้องนำไปแลกเงิน”“ดอกหน้าผาชันนับว่าเป็นสมุนไพรล้ำค่า ข้าต้องพึ่งพามันเพื่อหาทางอยู่รอด!”“ดอกหน้าผาชันหนึ่งดอกสามารถขายได้สิบตำลึงเงิน เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของข้า!”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เพียงแค่สิบตำลึงเงินเองหรือ?“เหตุใดจึงมีราคาแต่ไม่มีคนขาย?”หากสามารถใช้เงินซื้อดอกหน้าผาชันในตอนนั้นได้ เขาจะลำบากเดินทางมาที่นี่เพื่ออะไร?บ่ายวันนี้ หวังหยวนได้แอบสอบถามมาแล้ว ปรากฏว่าในเผ่าไม่มีดอกหน้าผาชันแม้แต่ดอกเดียว!เขามีบารมีสูงส่งในเผ่า ผู้คนในเผ่าย่อมไม่หลอกลวงเขาหรือว่า...ชายตรงหน้าเขากำลังโกหก?“เหตุใดท่านมองข้าเช่นนี้?”“แน่นอนว่าดอกหน้าผาชันไม่ได้มีไว้ขายให้กับคนในเผ่า เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการสิ่งนี