หยางเฟิ่งกั๋วคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความกังวลอย่างยิ่ง!เขาเห็นต้าเย่เป็นเช่นนี้แล้วสะเทือนใจมากจริง ๆ!ไป๋เหยียนเฟยเจ็บปวดใจมาก นางสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกัดฟันตอบ“ได้... ก็ได้... แต่ข้า... รับประกันไม่ได้ว่าจะโน้มน้าวสำเร็จ ข้าทำได้เพียงพยายามให้ดีที่สุดเท่านั้น...”ไป๋เหยียนเฟยไม่มีทางเลือกจริง ๆ เหตุใดนางจะไม่รู้ว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด!“ฮองเฮา ทำให้ดีที่สุด ฟังลิขิตสวรรค์พ่ะย่ะค่ะ หากสวรรค์ยอมให้ต้าเย่ของเราประสบภัยพิบัติเช่นนี้ เราก็ต้องทำใจ…” หยางเฟิ่งกั๋วพูดได้เพียงเท่านี้ ไม่รู้จะเอ่ยคำใดอีกในเวลานี้เป้าชิงสื่อกล่าวอีกครั้ง “ฮองเฮา มีอีกเรื่องหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ คนที่โจมตีเมืองสู่ในครั้งนี้คือเซิ่งตงฉยง ลูกชายคนโตของเซิ่งฟางสี่คนนี้... กระหม่อมเคยพบเขาเมื่อไม่กี่ปีก่อน เขาเป็นอัจฉริยะ ไม่ได้มีชื่อเสียงมานานหลายปีจนกระหม่อมลืมเขาไปแล้ว…”“ตอนนี้ที่เขากระโจนออกมาแล้ว ดูเหมือนว่า... ตระกูลเซิ่งได้ตัดสินใจแล้วว่าจะต่อสู้กับราชสำนักจนถึงที่สุด!”เป้าชิงสื่อคิดถึงปัญหานี้ ท้ายที่สุดแล้ว เหล่าทหารที่มีเซิ่งตงฉยงเป็นผู้นำนั้นก็ไม่ธรรมดาจริง ๆ!ไป๋เหยียนเฟยสะดุ้ง นางย่อมรู้ข่าวนี้
นั่นเป็นเหตุผลว่าเหตุใดพวกเขาถึงโกรธมาก!“เรื่องนี้... แม้ว่าในตอนแรกตระกูลเซิ่งจะทำเช่นนั้นจริง แต่ตอนนี้เมื่อมาคิดดูแล้ว พวกเขาคงรู้แล้วว่าฮองเฮาไม่ใช่คนที่สามารถควบคุมราชสำนักได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการเข้าไปแทนที่นาง!”“สมควรจะถูกแทนที่แล้ว! ฮ่องเต้ซิงหลงมีองค์ชายใหญ่ เขาเป็นอัจฉริยะ เหตุใดเขาจะเป็นฮ่องเต้ไม่ได้?”“ใช่แล้ว บัลลังก์นี้ควรจะเป็นขององค์ชายใหญ่ เหตุใดฮองเฮาถึงสมควรได้ขึ้นครอง?”“แต่เดิมข้าคิดว่าฮองเฮาองค์นี้มีความสามารถบางอย่าง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านางเป็นเพียงคนงี่เง่าคนหนึ่งเท่านั้น!”ความคิดเห็นเหล่านี้ บ่งบอกว่าคนเหล่านี้มองไม่เห็นความจริงแต่สิ่งที่พวกเขามองออกนั้นคือความจริงที่เรียบง่ายที่สุดใครเสียหน้าและใครได้หน้า!เรื่องเช่นนี้มองออกได้ง่ายดาย!ในเวลาเดียวกัน ในวังหลวงของหมานอี๋ เอ้อร์ฮาได้มาถึงแล้ว และบอกข่าวเรื่องเมืองสู่ให้หมานต๋าถูฟังเมื่อหมานต๋าถูได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที!“อะไรนะ! ตระกูลเซิ่งโจมตีเมืองสู่ในชั่วข้ามคืน สังหารทหารของข้าไปสองหมื่นคน และยึดดินแดนเมืองสู่ไป!”ใบหน้าของหมานต๋าถูซีดเผือด เขาไม่เคยคิดเลยว่าตระกูลเซิ
ไป๋เจิ้นถังอ่านจดหมายแล้วรู้สึกประหลาดใจ ดวงตาเป็นประกายแวววาวไม่รู้จบ!“ตระกูลเซิ่ง ตระกูลเซิ่งนั้นช่างร้ายกาจเสียจริง ข้าประเมินพวกเจ้าต่ำไปเสียแล้ว มีพลังมากถึงเพียงนั้นจริง ๆ!”ไป๋เจิ้นถังย่อมตกตะลึง เพียงไม่กี่วันนับตั้งแต่หมานอี๋เข้ายึดเมืองสู่ได้ พวกเขาก็ถูกตระกูลเซิ่งแย่งชิงไปแล้ว ความแข็งแกร่งดังกล่าวน่าตกใจมาก!ไป๋เฟยเฟยก็รู้ข่าวนี้แล้ว และตกใจไม่แพ้กัน“ท่านพ่อ ข้าได้ยินมาว่าคราวนี้เป็นทหารของเซิ่งตงฉยง ไม่ค่อยพบเห็นชายคนนี้ แน่นอนว่าเขากำลังแอบฝึกฝนกองกำลัง ได้ยินมาว่าคนนับหมื่นเหล่านี้ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ ขณะทำการสังหารหมู่ทหารหมานอี๋ ไม่อาจประมาทได้เลย!”ไป๋เฟยเฟยพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ไม่มีใครคาดคิดว่าตระกูลเซิ่งจะเผยความแข็งแกร่งออกมาอย่างกะทันหันเช่นนี้สำหรับเรื่องนี้ ตระกูลไป๋ถึงกับตกใจ แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าข่าวดี!ตระกูลเซิ่งแข็งแกร่งมาก ย่อมสามารถกวนน้ำให้ขุ่นได้!ดังนั้นตระกูลไป๋ของพวกเขาก็จะมีโอกาสด้วย!“ตระกูลเซิ่งไม่ทำให้เราผิดหวัง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงของตนออกมา เพื่อจะพยายามยึดครองต้าเย่ให้เร็วที่สุด นี่เป็นข่าวดี
คำพูดของไป๋เจิ้นถังยิ่งลึกซึ้งยิ่งขึ้น แม้แต่ไป๋เฟยเฟยก็ยังตกตะลึงใช่แล้ว!หากแผ่นดินถึงคราวตกอยู่ในความสับสนอลหม่านจริง ๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออาหารและน้ำประทังชีวิต อย่างอื่นไม่สำคัญอีกต่อไป!ไม่ว่าจะมีอุดมคติอะไรอยู่ในใจ หรือความอาฆาตพยาบาทอะไรก็ตาม ล้วนกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญ!แม้จะยังไม่ถึงจุดนั้น แต่เชื่อว่าถ้ายังวุ่นวายอยู่เหมือนตอนนี้ อีกไม่นานก็คงถึงจุดนั้น!“ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำ คือควบคุมตระกูลเซิ่ง อย่าปล่อยให้พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป มิฉะนั้นคนที่มีความสามารถทั้งหมดในแผ่นดินจะเข้าหาพวกเขา”“ขณะเดียวกัน เราต้องพัฒนาการเงินของเราอย่างจริงจัง พร้อมกับรวบรวมเสบียงด้วย นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด!”“เมื่อสงครามปะทุขึ้น มันคือสิ่งที่พวกเราพึ่งพาได้!”ไป๋เจิ้นถังมองการณ์ไกล ท่าทางของเขาเช่นนี้เหมือนกับหวังหยวน!ไป๋เฟยเฟยพยักหน้าหลังจากได้ฟัง“ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องกังวล มรดกของตระกูลไป๋ของเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น ตระกูลเซิ่งไม่อาจเทียบได้แน่นอน!”ไป๋เฟยเฟยมั่นใจเรื่องนี้!การเงินของตระกูลไป๋นั้น ใกล้เคียงกับเงินในท้องพระคลังของต้าเย่!มีทองคำและเงินมากมายในคลังส่วนตั
คนส่งจดหมายฉบับนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากไป๋เหยียนเฟย!จดหมายฉบับนี้ของนางไม่ได้มีถ้อยคำมากมาย มีเพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้น!ให้พวกเขาไปเมืองหลวงเพื่อคุยกัน!“ท่านอาคงกำลังเผชิญปัญหาเป็นแน่”ไป๋เฟยเฟยรีบพูด นัยน์ตาฉายแววกระตือรือร้นไป๋เจิ้นถังก็เข้าใจความจริงข้อนี้เช่นกัน แต่ว่า...เขาถอนหายใจ รู้สึกหดหู่เล็กน้อย“เฮ้อ...อาของเจ้าเรียกให้พวกเราไปที่นั่นเพื่อประโยชน์ของนางเอง”ไป๋เจิ้นถังเข้าใจทันทีที่เขาเห็นจดหมายลับทุกวันนี้ตระกูลเซิ่งกำลังบุกอย่างดุเดือด และต้าเย่ก็ไม่มีความสามารถในการต่อต้าน หากตระกูลไป๋ช่วยนาง นางก็จะสามารถควบคุมราชสำนักได้ หรือแม้กระทั่งกำจัดตระกูลเซิ่งได้ด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลไป๋ด้วยซ้ำความคิดนี้ย่อมเป็นความคิดที่ดี แต่น่าเสียดายที่ไป๋เจิ้นถังไม่มีทางเห็นด้วย“ท่านพ่อ เช่นนั้นพวกเรา... จะไปหรือไม่?”ไป๋เฟยเฟยรีบถาม เมื่อนี้ไป๋เจิ้นถังได้ยินคำถามนั้นก็ถอนหายใจ“แน่นอนว่าพ่อไม่อยากไป แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เราไม่ไปได้ด้วยหรือ? เจ้าไม่รู้จักอาของเจ้าหรือ? นางมีนิสัยดื้อรั้นเพียงใด ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้จริง ๆ นางคงไม่มีทางขอร้องพวกเร
ไป๋เหยียนเฟยก็ฉลาดมากเช่นกัน นางรู้ดีว่าตระกูลไป๋ไม่เพียงแต่จะมาคุยเท่านั้น แต่พวกเขาจะมาพร้อมกับเงื่อนไขด้วย!บางทีอาจจะพยายามดึงนางไปช่วยฝ่ายพวกเขาด้วยซ้ำ!ไป๋เหยียนเฟยรู้ทุกอย่าง แม้นางจะรู้ว่ามันยากมาก แต่นางก็ยังต้องพยายาม เพราะต้าเย่ในวันนี้ต้องการความช่วยเหลือจากตระกูลไป๋จริง ๆ!“เงื่อนไขหรือ? ใช่แล้ว... ย่อมต้องมีเงื่อนไข…”ไป๋หลิงถอนหายใจ จำเป็นต้องคิดเรื่องนี้อีกหรือ?เนื่องจากตระกูลไป๋กำลังจะมา พวกเขาย่อมมีเรื่องจะขอแน่นอน ไม่เช่นนั้นตระกูลไป๋จะไม่มีทางช่วยฮองเฮาเป็นแน่ท้ายที่สุดแล้ว ความทะเยอทะยานของตระกูลไป๋ ก็ไม่น้อยไปกว่าความทะเยอทะยานของตระกูลเซิ่งเลย“ความจริงแล้ว วิธีที่ดีที่สุดสำหรับตระกูลไป๋คือไม่ต้องมา ไม่สนใจข้าไปเลย เพราะพวกเขาสามารถรอจนกว่าแผ่นดินจะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แล้วฉวยโอกาสดำเนินการ”“เมื่อถึงเวลานั้น ทั้งฝ่ายเราและตระกูลเซิ่งจะต้องประสบกับความสูญเสีย และมันจะเป็นผลดีที่สุดสำหรับตระกูลไป๋!”เมื่อไป๋เหยียนเฟยพูดเช่นนี้ นัยน์ตานางก็ฉายแววหมดหนทาง“แต่ว่า... เหตุใดตระกูลไป๋ถึงมาล่ะ มาเพียงเพราะเงื่อนไขหรือ แต่จากที่พูดมา เงื่อนไขอะไรก็ไม่ดีเท
ไป๋เหยียนเฟยพูดตามตรง คำพูดของนางตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก ไม่มีการอ้อมค้อมเลยสุดท้ายเรื่องนี้ก็เคยพูดคุยกันตั้งแต่ครั้งที่แล้วไป๋เจิ้นถังจ้องมองไป๋เหยียนเฟย หลังจากคิดอยู่นานเขาก็พูด“น้องสาว เหตุผลที่พี่มาที่นี่ก็เพราะความเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าตอนนี้เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ หากท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะทำอย่างไร?”ไป๋เจิ้นถังไม่ต้องการแสดงความเห็นจากมุมมองของตัวเอง แต่เลือกยกมุมมองของพ่อมาพูดแทน เพื่อให้ไป๋เหยียนเฟยเข้าใจความจริงนี้แม้ว่าเขาจะพูดประโยคนี้ไปแล้วเมื่อครั้งที่แล้ว แต่คราวนี้เขาก็จะยังพูดอีกอยู่ดี!“ข้า... ข้าเข้าใจ...”ไป๋เหยียนเฟยพยักหน้า นางรู้ดีว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนตระกูลไป๋ปรารถนาสิ่งใดตอนนี้เป็นช่วงที่มีความหวังมากที่สุด แต่แล้วตัวนางเองล่ะ...นางไม่ได้ช่วยตระกูลไป๋เลย ถ้าพ่อของนางยังอยู่ เขาคงจะโกรธมาก!จากนี้ไปเขาอาจไม่ถือว่านางเป็นลูกสาวแล้วด้วยซ้ำ!เรื่องทั้งหมดนี้นางรู้ดี!แต่นางไม่สามารถละทิ้งต้าเย่ไปได้! ไม่อยากทำให้ฮ่องเต้ซิงหลงต้องผิดหวังในฐานะสามีภรรยา นางไม่คงไม่กล้าไปเผชิญหน้ากับเขาในปรโลก เพราะรู้สึกผิดมากเกินไป!
โดยเฉพาะเมืองหวง ความแข็งแกร่งของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ หากเห็นความวุ่นวายในต้าเย่ พวกเขาอาจดำเนินการไปนานแล้ว!ครั้งนี้ยึดเมืองเหลียงไป และตระกูลเซิ่งไม่กล้าไปบุกยึดง่าย ๆ แต่กลับบุกเมืองสู่ และขับไล่หมานอี๋กลับไปเป็นเพราะเมืองหวงนั้นแข็งแกร่งเกินไป!“น้องสาว พี่ขอพูดหน่อยเถิด คนในแผ่นดินต้าเย่แห่งนี้สิ้นหวังแล้ว ตอนนี้โจรออกอาละวาดไปทั่วทุกเมืองทุกแคว้น ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดที่บ่งชี้ว่าผู้คนอดอยาก ถ้ามีกินมีใช้เพียงพอ ใครจะอยากขึ้นไปเป็นโจรบนภูเขาบ้าง”ไป๋เจิ้นถังวิเคราะห์สถานการณ์ทั่วไปนี้ เพื่อให้ไป๋เหยียนเฟยเข้าใจความจริง!ทั้งตระกูลไป๋และตระกูลเซิ่งไม่สามารถหยุดความวุ่นวายนี้ได้!เพียงแต่ว่าตระกูลไป๋และตระกูลเซิ่งได้เริ่มดำเนินการแล้ว!หากความวุ่นวายเกิดขึ้นในแผ่นดินต่อไปไปเรื่อย ๆ หลายคนคงหันมาสนใจพวกเขา!ต้าเย่ในปัจจุบันเปรียบเสมือนหยาดน้ำฝน ที่ลอยไร้ทิศทางอยู่ท่ามกลางสายฝน อาจตกลงมาแตกกระจายเมื่อใดก็ได้!นี่จึงเป็นเพียงโอกาสหนึ่ง!“ข้าเข้าใจ... แต่... แต่ข้าไม่เต็มใจจะยอมแพ้...”ไป๋เหยียนเฟยกัดฟันพูดตามตรง“เจ้าไม่เปิดใจรับความจริง น้องสาว ไม่ใช่ว่าพี่อ
แต่หวังหยวนไม่ใช่คนใจบุญ ใครคิดจะเล่นงานเขาต้องดูตัวเองก่อนว่ามีฝีมือแค่ไหน!“เช่นนั้นขอให้ความร่วมมือของเราราบรื่น!”จากนั้นทุกคนจึงเริ่มดื่มกันต่อเมื่องานเลี้ยงเลิกรา หวังหยวนก็เริ่มโซเซ เพราะดื่มสุราไปมาก อาการจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อยโชคดีที่มีทหารห้าหมื่นนายติดตามมา แถมยังมีต้าหู่กับต่งอวี่ด้วย หวังหยวนจึงวางใจได้ เขาจึงกล้าดื่มสุราอย่างสบายใจ!ในที่มืด เงาร่างมากมายรวมตัวกันนอกค่ายของหวังหยวน จ้องมองแสงไฟในค่ายชายผู้มีใบหน้าเต็มไปด้วยแผลเป็นที่อยู่ข้างหน้าสุดและสวมหน้ากาก กล่าวกับคนข้างหลัง “ก่อนมาที่นี่ ข้าได้บอกพวกเจ้าแล้วว่าครั้งนี้มีแต่ตายกับตาย!”“แต่พวกเราต้องทำภารกิจที่ท่านขุนพลมอบหมายให้สำเร็จ! นั่นคือการสังหารหวังหยวน แม้ต้องแลกมาด้วยชีวิต นั่นก็เพื่อกำจัดศัตรูตัวฉกาจของราชวงศ์ต้าเย่!”“พวกเจ้าทำได้หรือไม่?”ทุกคนพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น!“ดี!”“ก่อนลงมือ มีเรื่องต้องเตือนพวกเจ้า หากถูกจับเป็น จงกัดยาพิษที่ซ่อนไว้ในฟันกราม เพื่อไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน!”ทุกคนพยักหน้าพวกเขาเตรียมพร้อมอย่างดี วันนี้คือวันที่พวกเขาตอบแทนอาณาจักร!แต่การตายมีทั้งที่ไร้ค่าและมีค่า!ก่อ
“พวกเราสามารถลงมืออย่างเป็นความลับได้!”“ไม่มีใครรู้เห็น!”“แม้แต่คนใจร้อนของหวังหยวน จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือพวกเรา?”“อย่าลืมว่าไท่สื่อลี่และคนอื่น ๆ ได้ฆ่าเจียงเซี่ยวแล้ว หากคนของเจียงเซี่ยวในป่าลอบสังหารหวังหยวน ย่อมไม่มีใครสงสัยใช่หรือไม่?”ซือฟางแสยะยิ้ม แผนการร้ายผุดขึ้นในใจ!“ดี!”เจี๋ยงโฉ่วอีหัวเราะ แล้วยกนิ้วให้ซือฟาง ช่างเป็นขุนพลที่กล้าหาญและมีไหวพริบจริง ๆ!มีซือฟางคอยปกป้อง ราชวงศ์ต้าเย่ย่อมปลอดภัยไร้กังวล!...ที่งานเลี้ยงในป่า หวังหยวนและคนอื่น ๆ นั่งอยู่ด้วยกัน มีต้าหู่และต่งอวี่ แต่ไม่มีเกาเล่อเพราะเกาเล่อมีภารกิจสำคัญยิ่งกว่านั้น นั่นคือการสืบหาข่าวสารที่เป็นประโยชน์!หวังหยวนเพิ่งพบกับคนของเผ่าทางเหนือ ยังไม่รู้จักสถานการณ์ภายใน จึงต้องให้เกาเล่อไปตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหา!แน่นอนว่านี่ก็เพื่อความสะดวกในการดำเนินการในอนาคต!หวังหยวนถือว่าดินแดนของเผ่าเหล่านี้เป็นของตนเองแล้ว!ย่อมต้องดูแลอย่างดี!ในงานเลี้ยง ไท่สื่อลี่ได้บอกแผนการของหวังหยวนให้หัวหน้าเผ่าคนอื่นแล้ว ตอนนี้ทุกคนกำลังปรึกษาหารือและถกเถียงถึงข้อดีข้อเสีย!เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เ
“ท่านเจี๋ยง!”“ท่านคือผู้ปราดเปรื่องที่สุดในราชวงศ์ต้าเย่!”“เป็นคนสนิทที่ฝ่าบาททรงไว้วางพระทัย!”“ครั้งที่ราชวงศ์ต้าเย่ตกอยู่ในอันตราย ก็เพราะท่านคอยถวายคำแนะนำ จึงสามารถรักษาแผ่นดินของราชวงศ์ต้าเย่ไว้ได้!”“บัดนี้ภัยพิบัติมาถึง ท่านกลับมานั่งถอนหายใจ ไม่เอ่ยคำใดเลยหรือ?”ซือฟางเป็นคนใจร้อน พูดพลางเดินไปมาไม่หยุด“ท่านขุนพล! เชิญนั่งพักก่อนเถิด!”“ท่านเดินไปมาเช่นนี้ทำให้ข้าเวียนหัวไปหมดแล้ว!”เจี๋ยงโฉ่วอีโบกมือ ก่อนกล่าวว่า “บอกตามตรง หลายวันมานี้ ข้าเองก็ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ แต่ยังหาทางออกที่ดีไม่ได้!”“ท่านขุนพลมาดื่มสุราที่นี่ คงคิดหาวิธีรับมือได้แล้วกระมัง?”“เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้ได้หรือเปล่ากระมัง?”“ข้าพูดถูกหรือไม่?”ซือฟางไม่ได้ปิดบัง พยักหน้ารับในทันที“เช่นนั้นท่านขุนพลรีบบอกมาเถิดว่ามีวิธีใด? พวกเราลองปรึกษากัน บางทีอาจช่วยกันแก้ไขปัญหา รับมือหวังหยวนเพื่อปกป้องแผ่นดินของเราได้!”เจี๋ยงโฉ่วอีรีบถามแม้ว่าเขาจะเป็นที่ปรึกษาของไป๋เหยียนเฟย แต่บางครั้งก็ต้องการคนช่วยเตือนสติ จึงจะคิดแผนการที่ดีได้!คนเราแม้จะฉลาดแค่ไหน บางครั้งก็อาจพลาดพลั้งได้!ทุกอย่าง
“ได้!”“ทุกคนโปรดวางใจ เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง!”“ทุกคนแค่ทำหน้าที่ของตนไป ไม่จำเป็นต้องกังวล!”เจี๋ยงโฉ่วอีปลอบใจทุกคน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังกระโจมใหญ่ทหารยามหน้าประตูต่างโค้งคำนับด้วยความเคารพซือฟางมีอำนาจเด็ดขาดในกองทัพ ส่วนเจี๋ยงโฉ่วอีมีอำนาจในราชสำนัก ทั้งสองเป็นขุนนางคู่บุญ คนหนึ่งเป็นฝ่ายทหาร คนหนึ่งฝ่ายพลเรือน ร่วมมือกันอย่างแข็งขัน เป็นเสาหลักของราชวงศ์ต้าเย่ จึงสามารถรักษาความมั่นคงของราชวงศ์ต้าเย่ไว้ได้!“ไสหัวไป!”ทันทีที่เจี๋ยงโฉ่วอีเปิดประตูเข้ามาก็ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่น!“ข้าไม่ได้สั่งไว้หรือว่าห้ามใครมารบกวนข้า?”“ใครอนุญาตให้พวกเจ้าเข้ามา?”“รีบออกไป! ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่ปรานี!”เจี๋ยงโฉ่วอีไม่สนใจคำพูดของซือฟาง ยังคงเดินเข้าไปในกระโจมพร้อมกับหัวเราะ“เจ้า...”ซือฟางโกรธจัดจนพลิกโต๊ะล้มเสียงดัง แล้วผุดลุกขึ้นยืน แต่พอเห็นเจี๋ยงโฉ่วอีก็ชะงัก ดวงตาแดงก่ำค่อยสงบลงเมื่อครู่เขามัวแต่ดื่มสุรา ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง จึงไม่รู้ว่าใครเข้ามา!ตอนนี้เห็นเจี๋ยงโฉ่วอีแล้วจึงสงบสติอารมณ์ลงได้“ที่แท้ก็เป็นท่านเจี๋ยง”“ข้าผิดไปที่เห็นท่านเป็นทหารโง่เขลา ขออภัย
“ยิ่งกว่านั้น พวกข้าก็เหมือนคนที่ทรยศ นำดินแดนของเผ่าตัวเองมาถวายท่าน หากกลับไปเผ่า คงไม่อาจอธิบายกับสมาชิกเผ่าได้!”“ท่านเป็นผู้ปกครอง ย่อมรู้ดีว่าหากสูญเสียใจของผู้คนไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?”ไท่สื่อลี่จ้องมองหวังหยวน ใบหน้าแสดงความกังวลว่าหวังหยวนจะโกรธอยู่เสมอหวังหยวนโบกมือด้วยรอยยิ้ม แล้วกล่าวว่า “จริงอย่างที่ท่านว่า แต่ข้าไม่ได้คิดจะปกครองเผ่า เพียงแต่ต้องการเป็นพันธมิตรกับพวกท่านเท่านั้น!”“ข้าจะคอยช่วยเหลือให้เผ่าของพวกท่านพัฒนาขึ้น ส่วนสิ่งที่ข้าต้องการก็ง่ายมาก คือหากข้าต้องการความช่วยเหลือ พวกท่านต้องช่วยเหลือข้าโดยไม่มีเงื่อนไข ตอนนี้ท่านคงเข้าใจแล้วกระมัง?”เป็นเช่นนี้เอง!ไท่สื่อลี่เข้าใจในทันที นี่ช่างเป็นข้อเสนอที่ดี!ตราบใดที่หวังหยวนไม่เข้ามายุ่งเรื่องภายใน แถมยังคอยช่วยเหลือ ใครบ้างจะไม่ยอมร่วมมือด้วย?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าจะรับหน้าที่นี้เอง ประเดี๋ยวข้าจะไปปรึกษากับพวกพ้อง บอกความคิดของท่านให้พวกเขารู้ก่อนนะขอรับ!”“พวกเขาล้วนเป็นคนมีเหตุผล คงจะให้คำตอบที่ท่านพอใจ!”“จะไม่ทำให้ท่านหวังผิดหวังขอรับ!”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ด้วยความพึงพอใจ เพียงแค่
“ท่านหวัง ท่านให้ข้าอยู่ที่นี่ต่อ มีเรื่องใดจะปรึกษาหรือขอรับ?”“หรือว่าข้าเผลอทำสิ่งใดผิดพลาด จนทำให้ท่านไม่พอใจ?”ไท่สื่อลี่มองหวังหยวนด้วยความหวาดหวั่น พลางเอ่ยถามตะกุกตะกักหวังหยวนมีภูมิหลังและอำนาจยิ่งใหญ่ แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าเผ่า แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหวังหยวน เขาก็ทำได้เพียงถ่อมตนเหมือนเด็กน้อยเกรงว่าจะทำให้หวังหยวนไม่พอใจ สุดท้ายตนเองก็จะไม่ได้ประโยชน์ ผลลัพธ์ย่อมเป็นไปในทางที่ไม่ดี!หวังหยวนโบกมืออย่างใจเย็น เดินไปข้างกายไท่สื่อลี่ รินสุราให้เขา แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านไท่สื่อไม่ต้องกังวลหรอก”“ที่ข้าให้ท่านอยู่ต่อ เพราะมีเรื่องอยากปรึกษาหารือด้วย แต่จะไม่ทำให้ท่านลำบากใจ”“ไม่ว่าเรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ ก็จะไม่กระทบความสัมพันธ์ของเรา”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ พลางกล่าวไท่สื่อลี่พยักหน้า ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าท่านหวังมีเรื่องใดจะปรึกษาหรือขอรับ?”ตอนนี้เขารู้สึกกังวลใจ ไม่สามารถคาดเดาความคิดของหวังหยวนได้ครู่ต่อมา หวังหยวนก็กล่าวตามตรง “แท้จริงแล้วเป็นเรื่องง่ายมาก ที่ข้ามาที่นี่ ไม่เพียงเพื่อช่วยราชวงศ์ต้าเย่เท่านั้น แต่เพื่อช่วยเหลือตัวเองด้ว
แม้แต่ในอากาศยังคงมีกลิ่นคาวเลือด!หวังหยวนเชื่อมั่นในความสามารถของเกาเล่อ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่เคยเจอเจียงเซี่ยวมาก่อน คาดว่าเกาเล่อคงตรวจสอบแล้วว่าไม่ผิดตัว เขาจึงไม่ได้สนใจดูอีก!หวังหยวนกวาดสายตามองกลุ่มคนตรงหน้า ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขณะโบกมือให้ทุกคน แล้วชี้ไปที่ที่นั่งสองข้าง “ทุกท่านไม่ต้องเกรงใจ ข้าไม่ใช่เสือดุร้ายกินคน ไม่ต้องเกรงใจกันเกินไป นั่งลงได้เลย!”“ขอบพระคุณท่านหวัง!”ทุกคนกล่าวขอบคุณ แล้วนั่งลงหวังหยวนนั่งบนบัลลังก์ ก่อนจะถามด้วยรอยยิ้ม “ข้าสงสัยว่าพวกท่านต่อต้านราชวงศ์ต้าเย่มาตลอด ถึงขั้นจะเอาชีวิตกัน แต่พอได้ยินว่าข้ามาก็ยอมแพ้เลยหรือ?”“หรือว่าชื่อเสียงของข้าเลื่องลือมาก เมื่อรู้ว่าต้องสู้กับข้าจึงยอมสยบเลยงั้นหรือ?”หวังหยวนรู้สึกค่อนข้างภูมิใจหากเรื่องนี้เล่าลือออกไปคงเป็นเรื่องเล่าขานกันเป็นตำนาน!ทุกคนมองหน้ากัน คนที่อยู่ใกล้หวังหยวนที่สุดกล่าว “ใช่แล้ว!”“พวกข้าไม่อยากเป็นศัตรูกับท่านหวัง ยิ่งกว่านั้น พวกข้ารู้ดีว่าพวกข้ากับท่านหวังต่างชั้นกัน หากเปิดศึก แม้จะใช้ภูเขาเป็นกำแพง ป้องกันทุกวิถีทาง แต่คงไม่สามารถต้านทานได้นาน!”“ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมคาดเดาได
“เมื่อครู่มีกลุ่มคนมา ข้าเข้าไปสอบถามจึงรู้ว่าเป็นหัวหน้าเผ่าใหญ่!”“ตอนนี้พวกเขาได้ฆ่าเจียงเซี่ยวผู้นำพันธมิตรแล้ว และต้องการเจรจาสงบศึกกับพวกเรา!”“ท่านผู้นำคิดเห็นว่าอย่างไรขอรับ?”เกาเล่อกล่าวด้วยรอยยิ้มศัตรูแตกคอกันเอง ช่างเป็นเรื่องดี!ไม่เพียงแต่ลดการสูญเสียเท่านั้น แต่ยังไม่ทำให้เกิดความแค้นกับชนเผ่าเหล่านี้ด้วย ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการควบคุมดินแดนในอนาคต!ดวงตาของหวังหยวนเป็นประกาย เขารีบเดินไปหาเกาเล่อ แล้วจับมือเขาไว้ด้วยความตื่นเต้น “เจ้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วหรือ? จะมีกลอุบายอะไรซ่อนอยู่หรือไม่?”“ไม่มีแน่นอน!”เกาเล่อรีบส่ายหน้า “ก่อนมาที่นี่ ข้าได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับชนเผ่าต่าง ๆ ในกลุ่มพันธมิตรนี้ ย่อมรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดีขอรับ!”“ครั้งนี้พวกเขานำหัวของเจียงเซี่ยวมาให้ และเจียงเซี่ยวก็เป็นผู้นำพันธมิตรจริง ๆ!”“หากท่านไม่เชื่อ คุณหนูไป๋คงยืนยันได้ พวกนางสู้รบกับชนเผ่าทางเหนือมาตลอด คงคุ้นเคยกับศัตรูดีใช่หรือไม่?”ขณะที่กล่าว เกาเล่อก็มองไปที่ไป๋ลั่วหลีไป๋ลั่วหลีไม่ลังเล รีบพยักหน้าทันที“ถูกต้อง!”“ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดคือเจียงเซี่ยว เขาไม
“ปกติพวกเจ้าล้วนองอาจกันไม่ใช่หรือ?”“ก่อนหน้านี้ ตอนที่คิดจะโจมตีราชวงศ์ต้าเย่ พวกเจ้าต่างก็อยากจะแบ่งปันดินแดนกันไม่ใช่หรือ? แล้วตอนนี้ล่ะ? แค่ทหารที่พวกนั้นเชิญมาก็ทำให้พวกเจ้าหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้แล้วหรือ?”“พวกเจ้าอย่าลืมว่าภูมิประเทศของที่นี่อันตราย หากพวกเราไม่ยอมออกจากภูเขา แม้หวังหยวนจะเก่งกาจและมียอดฝีมือมากมายก็ทำอะไรเราไม่ได้! หรือว่าเขาจะสามารถคุกคามเราได้จริง ๆ?”ทุกคนมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดการหลบอยู่ในหุบเขา ไม่ใช่แผนการระยะยาว!“หากผู้ใดกล้าพูดจาบั่นทอนกำลังใจอีก อย่าหาว่าข้าใจร้ายแล้วกัน!”เจียงเซี่ยวตวาดอีกครั้ง ทุกคนจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก เพียงแค่พยักหน้าเห็นด้วยคนเราเมื่ออยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่นย่อมต้องยอมก้มหัว!รุ่งเช้า หวังหยวนและกองทัพเริ่มมุ่งหน้าสู่ภูเขาแห่งนี้!ชนเผ่าต่าง ๆ ล้วนได้รับข่าว บัดนี้หวาดผวาไปหมด เพียงแค่เสียงลมพัดก็คิดว่าเป็นศัตรู!ทุกคนต่างเกรงกลัวอำนาจของหวังหยวน ใครจะกล้าต่อกรกับเขา?แม้จะหลบอยู่ในภูเขา แต่หากหวังหยวนตีฝ่าแนวป้องกันมาได้จะทำเช่นไร?ผลลัพธ์สุดท้ายย่อมเดาได้!เมื่อคิดได้เช่นนี้ เหล่าหัวหน้าเผ่าจึงมารวมตัวกัน“พวก