Share

บทที่ 1032

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
คำพูดของหวังหยวนทำให้สตรีทั้งสามตกใจ

ใจคนเปรียบเสมือนสนามรบ...

มันช่างน่ากลัวจริง ๆ!

“เอาล่ะ เช่นนั้นข้าขอถามอีกครั้ง ที่ข้าไม่ช่วยต้าเย่ นอกจากไม่อยากถูกเปิดโปงแล้ว ข้ายังมีเจตนาอะไรอีก พวกเจ้ารู้หรือไม่?”

หวังหยวนถามอีกครั้ง

สตรีทั้งสามกะพริบตาและมองหน้ากัน แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าคำตอบคืออะไร

“มันง่ายมาก นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย จากที่เคยบอกไว้ หากเราอ่อนแอ เราย่อมพ่ายแพ้ หากแข็งแกร่ง คนอื่นย่อมไม่กล้ารังแก!”

“เฉพาะเมื่อคนอื่นคิดว่าพวกเขามีโอกาสเท่านั้น จึงจะเริ่มดำเนินการ!”

“ตอนนี้ที่ต้าเย่กำลังเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เหตุการณ์นี้จะพัฒนาความแข็งแกร่งของชาติแน่นอน เพราะเมื่อเผชิญกับสิ่งกระตุ้นเช่นนี้ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง อำนาจของต้าเย่ก็จะสิ้นสุดลงอย่างแท้จริง เมื่อเป็นเช่นนั้น ย่อมไม่สามารถดำรงอยู่ต่อได้”

เป้าหมายสูงสุดของหวังหยวนคือเรื่องนี้จริง ๆ!

หากต้าเย่สามารถเข้าใจความจริงนี้ หลังจากความล้มเหลวครั้งนี้ ก็ยังไม่สายเกินไป สำหรับแผ่นดินต้าเย่ มันสำคัญกว่าการสูญเสียดินแดนเสียอีก!

นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หวังหยวนตัดสินใจไม่ดำเนินการใด ๆ!

เขาสามารถช่วยต้าเย่ด้วยการหยุดเมื
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1033

    “มีนางอยู่ สถานการณ์ไม่ดีแน่นอน!”ความไม่พอใจของสาธารณชนกำลังเดือดดาลและรุนแรงมากในขณะนี้แน่นอนว่าสำหรับเรื่องเช่นนี้ ไป๋เหยียนเฟยย่อมโต้กลับทันที!“เรื่องนี้เป็นเพราะองค์ชายใหญ่ ถ้าเขาไม่ประกาศตนเป็นเจ้าผู้ครองสามแคว้น และประกาศทำสงครามกับราชสำนัก คงไม่มีขุนพลทหารคนใดต้องเดินทางไปปราบหลายพันลี้ และเมืองหวงกับหมานอี๋ก็จะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากความวุ่นวาย!”“สรุปก็คือเรื่องนี้ยังคงเป็นเพราะตระกูลเซิ่ง!”“ฮึ่ม! เพื่อจะแข่งขันแย่งชิงบัลลังก์ เราจึงต้องสูญเสียดินแดนต้าเย่ของเราไป เขาช่างเป็นองค์ชายที่ดีจริง ๆ ถ้าเขาได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ แผ่นดินคงล่มจมเป็นแน่!”ไป๋เหยียนเฟยส่งคนไปกระตุ้นให้เกิดกระแสเช่นนี้ ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจเรื่องนี้ และเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ตระกูลเซิ่งนับตั้งแต่การสิ้นพระชนม์ของฮ่องเต้ซิงหลง ก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระหว่างตระกูลเซิ่งและราชสำนักต้าเย่ผู้คนนับไม่ถ้วนมีส่วนร่วมในความสับสนวุ่นวายนี้ บางคนมองออกชัดเจน ในขณะที่บางคนก็มองไม่ออกสรุปแล้ว แผ่นดินตอนนี้เริ่มวุ่นวายมากขึ้นจริง ๆไป๋เหยียนเฟยนั่งอยู่ในห้องนอนเป็นเวลาหลายวัน นางรู้สึกโกรธมากจนปวดหั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1034

    ในขณะที่ไป๋เหยียนเฟยกำลังรู้สึกหดหู่ที่นี่ ตระกูลเซิ่งก็เตรียมการพร้อมแล้ว!บัดนี้เซิ่งฟางสี่กำลังนั่งอยู่ในห้องตำรา นัยน์ตาฉายแววเย็นชา“ท่านพ่อ พวกเราจะโจมตีหมานอี๋จริงหรือ? จะยึดเอาเมืองสู่กลับมาจริงหรือขอรับ?”สองพี่น้องเซิ่งตงหยวนถามด้วยความสงสัยเซิ่งฟางสี่พยักหน้า “ใช่แล้ว ตอนนี้แหละ”“แต่ว่า... มันจะไม่เสี่ยงเกินไปหรือขอรับ? หมานอี๋เพิ่งยึดครองเมืองสู่ได้ พวกเราจะโจมตีเลยหรือขอรับ?”สองพี่น้องสับสนเซิ่งฟางสี่ยกยิ้มแล้วพูดว่า “ตอนนี้ง่ายที่สุดแล้ว หมานอี๋ยึดเมืองสู่ได้แล้ว ย่อมคิดว่าเรื่องใหญ่จบลงแล้ว พวกเขาไม่เคยคิดว่าเราจะลงมือ”“แน่นอนว่าพวกเขาจะระวังอู๋หลิงที่เป็นฝ่ายต้าเย่แน่นอน แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าตระกูลเซิ่งของเราจะโจมตี!”“ใครจะคิดว่าเราจะใช้กลอุบายครั้งใหญ่ เพื่อยึดเอาเมืองสู่กลับคืนมา? หลังจากวางแผนอย่างหนัก เป้าหมายสูงสุดก็เพื่อสิ่งนี้!”เซิ่งฟางสี่มีความมั่นใจมาก ไม่มีใครคิดเรื่องเช่นนี้ได้!หากตระกูลเซิ่งต้องการยึดครองต้าเย่ พวกเขาจะต้องชนะใจประชาชน หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในแผ่นดิน พวกเขาจะโค่นล้มอำนาจของฮองเฮาได้อย่างไร?จำเป็นต้องทำศึกจริงห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1035

    ขุนพลเอ้อร์ฮานำกำลังทหารของเขาไปดื่มรอบกองไฟในเมือง เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะจากสงคราม!“ฮ่าฮ่า มาดื่มเถอะ คืนนี้เราไม่เมาไม่กลับ!”เอ้อร์ฮายกไหสุราในมือขึ้น แล้วตะโกนบอกผู้ใต้บัญชาของเขาด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขาดูมีความสุขเป็นพิเศษ ราวกับว่าเขาไม่สามารถเก็บความดีใจและความกระตือรือร้นไว้ในใจได้อีกต่อไป!มู่เชวี่ย รองขุนพลที่ถัดจากเอ้อร์ฮาหยิบจอกสุราในมือขึ้นมา สีหน้าของเขายังคงจริงจังและลังเล เขามองเอ้อร์ฮาด้วยความกังวล แล้วถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านขุนพล เราเพิ่งยึดเมืองมาได้ การเฉลิมฉลองเช่นนี้จะผ่อนคลายเกินไปหน่อยหรือไม่?”“ฮ่าฮ่า ตราบใดที่ข้ายังอยู่ที่นี่ เจ้าจะกลัวอะไรล่ะ?”เอ้อร์ฮามีสีหน้าภาคภูมิใจ หยิบจอกสุราตรงหน้าขึ้นมาดื่มหมดในอึกเดียว แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ดื่มให้หนำใจ ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก!”แต่ใบหน้าของมู่เชวี่ยยังคงจริงจังเล็กน้อย ขณะอย่างกังวล “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาใช้โอกาสนี้ลอบโจมตีพวกเรา?”“ลอบโจมตีหรือ?”ทันใดนั้นเอ้อร์ฮาก็ระเบิดเสียงหัวเราะ ความเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้าของเขา“แม้ว่าเราจะให้พวกเขายืมความกล้าหาญสักร้อยเท่า ก็เกรงว่าพวกเขาจะไม่กล้าโจมตีเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1036

    เซิ่งตงฉยงนำกองทัพซุ่มโจมตีอยู่นอกชายแดนเมืองสู่ เขาเฝ้ารอให้ถึงเที่ยงคืน แล้วจึงเริ่มบุกโจมตีทันที!เวลาเฝ้าระวังในช่วงครึ่งหลังของคืน เป็นเวลาที่ผ่อนคลายที่สุดเสมอ การดำเนินการในเวลานี้ เป็นเวลาที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จมากที่สุด!ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าในขณะนี้เซิ่งตงฉยงจะเป็นผู้นำกองกำลังเพียงสามหมื่นนายเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ทรงพลังอย่างยิ่ง!นี่คือทหารที่เก่งที่สุดสามหมื่นนายในตระกูลเซิ่งของพวกเขา!หากเข้าสู่สนามรบจริง ๆ ทหารม้าสามหมื่นนายจะมีพลังเท่ากับทหารม้าแปดหมื่นนาย!พวกเขาแต่ละคนฝึกวรยุทธกันมาตั้งแต่เด็ก ทุกคนล้วนเป็นจอมยุทธ์!ถ้าเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว คนเดียวก็เพียงพอที่จะเอาชนะคนสิบคนได้!ด้วยพลังการต่อสู้เช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงสองหมื่นคนที่ประจำการอยู่ในเมืองสู่ ต่อให้จะเป็นข้าศึกแปดหมื่นคน พวกเขาก็ไม่หวั่น!เวลาผ่านไปนาทีต่อนาที ไม่นานนักก็ดึกมากแล้วทุกคนเตรียมพร้อมแล้ว แต่ด้วยคำสั่งของเซิ่งตงฉยง มีเพียงสามสิบคนเท่านั้นที่เดินออกจากกลุ่มไป!ทั้งสามสิบคนนี้สวมชุดดำกระโจนผ่านความมืด จู่โจมทหารที่เฝ้าประตูเมืองทันที!จากนั้นท่ามกลางความเงียบงัน พวกเขา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1037

    ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงทำตัวดีมาก ไม่เคยกล้าหยิบยกประเด็นเรื่องผู้นำตระกูลเซิ่งขึ้นมาเพราะรู้ว่าตำแหน่งผู้นำของตระกูลเซิ่งนั้น อยู่เหนือจินตนาการของพวกเขาทั้งสอง!แต่มันเป็นของพี่ชายคนโตของพวกเขา!“ท่านลุง ได้เมืองสู่มาแล้ว คราวนี้ฮองเฮาวางหน้าไม่ถูกแล้วเป็นแน่ขอรับ!”จีหย่งก็หัวเราะเช่นกัน ตอนนี้เขาเข้าใจแผนการของลุงแล้ว ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจลุงคนนี้อาจจะไม่ใช่วีรบุรุษ แต่เป็นผู้นำที่มีความเห่อเหิมทะเยอทะยาน!วิธีนี้ทำให้ผู้อื่นเสียหาย โดยเกิดประโยชน์แก่ฝ่ายของตนเอง!แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความกลัวฉายแววในดวงตาของเขาเช่นกัน!“ฮ่าฮ่าฮ่า หย่งเอ๋อร์ คราวนี้ไป๋เหยียนเฟยไม่มีทางพลิกสถานการณ์ได้แน่นอน!”เซิ่งฟางสี่รู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ย่อมไปถึงราชสำนักต้าเย่ด้วยแน่นอน!เมื่อไป๋เหยียนเฟยรู้ข่าวนี้ ใบหน้าของนางก็มืดมนอย่างยิ่ง!ในขณะนี้ นางเข้าใจความตั้งใจที่แท้จริงของตระกูลเซิ่งแล้ว!“ทำตามแผนมาอย่างยาวนาน สุดท้ายคนทั้งแผ่นดินก็พากันติเตียนข้า ทำให้ข้าสูญเสียใจคนทั้งแผ่นดินไป ช่างเป็นแผนการที่เลวร้ายยิ่งนัก!”ไป๋เหยียนเฟยโกรธมาก แต่นางก็รู้ว่าตนทำอะไรไม่ได้เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1038

    วิธีการเช่นนี้ของตระกูลเซิ่ง เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนจริง ๆ!หลังจากที่เสนาบดีฝ่ายซ้ายหยางเฟิ่งกั๋วพูดเช่นนี้ เป้าชิงสื่อก็ถอนหายใจเช่นกัน“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ... ฮองเฮา เกรงว่าเรื่องนี้จะแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินในไม่ช้า...”เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ไป๋เหยียนเฟยก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้นไปอีก!“ตระกูลเซิ่งจะต้องป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั้งแผ่นดินรู้แน่นอน ว่าตอนนี้ฮองเฮาดูแลราชสำนักมาสามเดือนแล้ว แต่กลับสูญเสียสองดินแดนไปแล้ว”“สำหรับตระกูลเซิ่ง การที่พวกเขายึดดินแดนนี้กลับคืนมาได้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง และเริ่มการต่อสู้เพื่อชิงบัลลังก์อีกครั้ง บางทีตระกูลเซิ่งอาจจะนำเหตุการณ์การสิ้นพระชนม์ของฮ่องเต้ผู้ล่วงลับ มาปลุกปั่น สร้างความเดือดร้อนอีกก็เป็นได้”“ผู้คนในแผ่นดินนี้ถูกหลอกลวง มีน้อยคนนักที่จะรู้ความจริงเรื่องนี้ พวกเขารู้เพียงว่าฮองเฮาทำให้สูญเสียสองดินแดน และตระกูลเซิ่ง... ยึดกลับมาได้หนึ่งดินแดน…”หยางเฟิ่งกั๋วพูดอีกครั้ง แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะรู้ว่านี่คือสิ่งที่ตระกูลเซิ่งต้องการ แต่ตอนนี้เมื่อพูดแล้วก็ยังน่าโมโหมาก!เพราะสิ่งที่ตระกูลเซิ่งทำลงไ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1039

    หากตระกูลไป๋มีแผนดำเนินการจริง ๆ ย่อมช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนนี้ได้แน่นอน!อย่างน้อยตระกูลเซิ่งก็ไม่มีอำนาจมากพอที่จะจัดการกับราชสำนักได้ และคนจำนวนมากจะไม่เข้าร่วมตระกูลเซิ่งในทันที!สถานการณ์เช่นนี้จะไม่มีใครอยากเข้าร่วมกลุ่ม!เพราะจะเกิดอะไรขึ้นถ้าตระกูลเซิ่งล้มเหลว? นั่นคือหายนะ!กลยุทธ์นี้ฟังดูเหมือนจะได้ผล แต่ไป๋เหยียนเฟยกลับถอนหายใจเพราะนางและตระกูลไป๋ตัดขาดกันแล้ว!ตระกูลไป๋ก็เหมือนกับตระกูลเซิ่ง ปรารถนาความยิ่งใหญ่มาเนิ่นนาน!เกรงว่าจะไม่ยอมช่วยง่าย ๆ เป็นแน่!“เสนาบดีฝ่ายซ้าย ข้าเข้าใจสิ่งที่ท่านจะสื่อ แต่... มีเรื่องหนึ่งที่ข้าไม่ได้บอกพวกท่าน ข้ารู้ทัศนคติของตระกูลไป๋มานานแล้ว พวกเขา... ก็มีความตั้งใจจะครองแผ่นดินต้าเย่ด้วยเช่นกัน!”หลังจากที่ไป๋เหยียนเฟยพูดเช่นนี้ หยางเฟิ่งกั๋วและเป้าชิงสื่อก็ตกตะลึงทั้งคู่!“อะไรนะ!”พวกเขาไม่รู้เรื่องนี้ ไป๋เหยียนเฟยบอกกับอู๋หลิงเท่านั้นตอนนี้พวกเขาได้เสนอแผนการนี้แล้ว แน่นอนว่านางไม่สามารถเก็บซ่อนเรื่องนี้ได้อีกต่อไป!“นี่… นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ตระกูลไป๋มีสิทธิ์อะไรบ้าง จึงจะแย่งชิงแผ่นดินได้?”“รู้ดีว่า... ตระกูลเซิ่งม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1040

    หยางเฟิ่งกั๋วคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความกังวลอย่างยิ่ง!เขาเห็นต้าเย่เป็นเช่นนี้แล้วสะเทือนใจมากจริง ๆ!ไป๋เหยียนเฟยเจ็บปวดใจมาก นางสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกัดฟันตอบ“ได้... ก็ได้... แต่ข้า... รับประกันไม่ได้ว่าจะโน้มน้าวสำเร็จ ข้าทำได้เพียงพยายามให้ดีที่สุดเท่านั้น...”ไป๋เหยียนเฟยไม่มีทางเลือกจริง ๆ เหตุใดนางจะไม่รู้ว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด!“ฮองเฮา ทำให้ดีที่สุด ฟังลิขิตสวรรค์พ่ะย่ะค่ะ หากสวรรค์ยอมให้ต้าเย่ของเราประสบภัยพิบัติเช่นนี้ เราก็ต้องทำใจ…” หยางเฟิ่งกั๋วพูดได้เพียงเท่านี้ ไม่รู้จะเอ่ยคำใดอีกในเวลานี้เป้าชิงสื่อกล่าวอีกครั้ง “ฮองเฮา มีอีกเรื่องหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ คนที่โจมตีเมืองสู่ในครั้งนี้คือเซิ่งตงฉยง ลูกชายคนโตของเซิ่งฟางสี่คนนี้... กระหม่อมเคยพบเขาเมื่อไม่กี่ปีก่อน เขาเป็นอัจฉริยะ ไม่ได้มีชื่อเสียงมานานหลายปีจนกระหม่อมลืมเขาไปแล้ว…”“ตอนนี้ที่เขากระโจนออกมาแล้ว ดูเหมือนว่า... ตระกูลเซิ่งได้ตัดสินใจแล้วว่าจะต่อสู้กับราชสำนักจนถึงที่สุด!”เป้าชิงสื่อคิดถึงปัญหานี้ ท้ายที่สุดแล้ว เหล่าทหารที่มีเซิ่งตงฉยงเป็นผู้นำนั้นก็ไม่ธรรมดาจริง ๆ!ไป๋เหยียนเฟยสะดุ้ง นางย่อมรู้ข่าวนี้

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status