แชร์

บทที่ 1032

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
คำพูดของหวังหยวนทำให้สตรีทั้งสามตกใจ

ใจคนเปรียบเสมือนสนามรบ...

มันช่างน่ากลัวจริง ๆ!

“เอาล่ะ เช่นนั้นข้าขอถามอีกครั้ง ที่ข้าไม่ช่วยต้าเย่ นอกจากไม่อยากถูกเปิดโปงแล้ว ข้ายังมีเจตนาอะไรอีก พวกเจ้ารู้หรือไม่?”

หวังหยวนถามอีกครั้ง

สตรีทั้งสามกะพริบตาและมองหน้ากัน แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าคำตอบคืออะไร

“มันง่ายมาก นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย จากที่เคยบอกไว้ หากเราอ่อนแอ เราย่อมพ่ายแพ้ หากแข็งแกร่ง คนอื่นย่อมไม่กล้ารังแก!”

“เฉพาะเมื่อคนอื่นคิดว่าพวกเขามีโอกาสเท่านั้น จึงจะเริ่มดำเนินการ!”

“ตอนนี้ที่ต้าเย่กำลังเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เหตุการณ์นี้จะพัฒนาความแข็งแกร่งของชาติแน่นอน เพราะเมื่อเผชิญกับสิ่งกระตุ้นเช่นนี้ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง อำนาจของต้าเย่ก็จะสิ้นสุดลงอย่างแท้จริง เมื่อเป็นเช่นนั้น ย่อมไม่สามารถดำรงอยู่ต่อได้”

เป้าหมายสูงสุดของหวังหยวนคือเรื่องนี้จริง ๆ!

หากต้าเย่สามารถเข้าใจความจริงนี้ หลังจากความล้มเหลวครั้งนี้ ก็ยังไม่สายเกินไป สำหรับแผ่นดินต้าเย่ มันสำคัญกว่าการสูญเสียดินแดนเสียอีก!

นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หวังหยวนตัดสินใจไม่ดำเนินการใด ๆ!

เขาสามารถช่วยต้าเย่ด้วยการหยุดเมื
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1033

    “มีนางอยู่ สถานการณ์ไม่ดีแน่นอน!”ความไม่พอใจของสาธารณชนกำลังเดือดดาลและรุนแรงมากในขณะนี้แน่นอนว่าสำหรับเรื่องเช่นนี้ ไป๋เหยียนเฟยย่อมโต้กลับทันที!“เรื่องนี้เป็นเพราะองค์ชายใหญ่ ถ้าเขาไม่ประกาศตนเป็นเจ้าผู้ครองสามแคว้น และประกาศทำสงครามกับราชสำนัก คงไม่มีขุนพลทหารคนใดต้องเดินทางไปปราบหลายพันลี้ และเมืองหวงกับหมานอี๋ก็จะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากความวุ่นวาย!”“สรุปก็คือเรื่องนี้ยังคงเป็นเพราะตระกูลเซิ่ง!”“ฮึ่ม! เพื่อจะแข่งขันแย่งชิงบัลลังก์ เราจึงต้องสูญเสียดินแดนต้าเย่ของเราไป เขาช่างเป็นองค์ชายที่ดีจริง ๆ ถ้าเขาได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ แผ่นดินคงล่มจมเป็นแน่!”ไป๋เหยียนเฟยส่งคนไปกระตุ้นให้เกิดกระแสเช่นนี้ ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจเรื่องนี้ และเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ตระกูลเซิ่งนับตั้งแต่การสิ้นพระชนม์ของฮ่องเต้ซิงหลง ก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระหว่างตระกูลเซิ่งและราชสำนักต้าเย่ผู้คนนับไม่ถ้วนมีส่วนร่วมในความสับสนวุ่นวายนี้ บางคนมองออกชัดเจน ในขณะที่บางคนก็มองไม่ออกสรุปแล้ว แผ่นดินตอนนี้เริ่มวุ่นวายมากขึ้นจริง ๆไป๋เหยียนเฟยนั่งอยู่ในห้องนอนเป็นเวลาหลายวัน นางรู้สึกโกรธมากจนปวดหั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1034

    ในขณะที่ไป๋เหยียนเฟยกำลังรู้สึกหดหู่ที่นี่ ตระกูลเซิ่งก็เตรียมการพร้อมแล้ว!บัดนี้เซิ่งฟางสี่กำลังนั่งอยู่ในห้องตำรา นัยน์ตาฉายแววเย็นชา“ท่านพ่อ พวกเราจะโจมตีหมานอี๋จริงหรือ? จะยึดเอาเมืองสู่กลับมาจริงหรือขอรับ?”สองพี่น้องเซิ่งตงหยวนถามด้วยความสงสัยเซิ่งฟางสี่พยักหน้า “ใช่แล้ว ตอนนี้แหละ”“แต่ว่า... มันจะไม่เสี่ยงเกินไปหรือขอรับ? หมานอี๋เพิ่งยึดครองเมืองสู่ได้ พวกเราจะโจมตีเลยหรือขอรับ?”สองพี่น้องสับสนเซิ่งฟางสี่ยกยิ้มแล้วพูดว่า “ตอนนี้ง่ายที่สุดแล้ว หมานอี๋ยึดเมืองสู่ได้แล้ว ย่อมคิดว่าเรื่องใหญ่จบลงแล้ว พวกเขาไม่เคยคิดว่าเราจะลงมือ”“แน่นอนว่าพวกเขาจะระวังอู๋หลิงที่เป็นฝ่ายต้าเย่แน่นอน แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าตระกูลเซิ่งของเราจะโจมตี!”“ใครจะคิดว่าเราจะใช้กลอุบายครั้งใหญ่ เพื่อยึดเอาเมืองสู่กลับคืนมา? หลังจากวางแผนอย่างหนัก เป้าหมายสูงสุดก็เพื่อสิ่งนี้!”เซิ่งฟางสี่มีความมั่นใจมาก ไม่มีใครคิดเรื่องเช่นนี้ได้!หากตระกูลเซิ่งต้องการยึดครองต้าเย่ พวกเขาจะต้องชนะใจประชาชน หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในแผ่นดิน พวกเขาจะโค่นล้มอำนาจของฮองเฮาได้อย่างไร?จำเป็นต้องทำศึกจริงห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1035

    ขุนพลเอ้อร์ฮานำกำลังทหารของเขาไปดื่มรอบกองไฟในเมือง เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะจากสงคราม!“ฮ่าฮ่า มาดื่มเถอะ คืนนี้เราไม่เมาไม่กลับ!”เอ้อร์ฮายกไหสุราในมือขึ้น แล้วตะโกนบอกผู้ใต้บัญชาของเขาด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขาดูมีความสุขเป็นพิเศษ ราวกับว่าเขาไม่สามารถเก็บความดีใจและความกระตือรือร้นไว้ในใจได้อีกต่อไป!มู่เชวี่ย รองขุนพลที่ถัดจากเอ้อร์ฮาหยิบจอกสุราในมือขึ้นมา สีหน้าของเขายังคงจริงจังและลังเล เขามองเอ้อร์ฮาด้วยความกังวล แล้วถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านขุนพล เราเพิ่งยึดเมืองมาได้ การเฉลิมฉลองเช่นนี้จะผ่อนคลายเกินไปหน่อยหรือไม่?”“ฮ่าฮ่า ตราบใดที่ข้ายังอยู่ที่นี่ เจ้าจะกลัวอะไรล่ะ?”เอ้อร์ฮามีสีหน้าภาคภูมิใจ หยิบจอกสุราตรงหน้าขึ้นมาดื่มหมดในอึกเดียว แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ดื่มให้หนำใจ ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก!”แต่ใบหน้าของมู่เชวี่ยยังคงจริงจังเล็กน้อย ขณะอย่างกังวล “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาใช้โอกาสนี้ลอบโจมตีพวกเรา?”“ลอบโจมตีหรือ?”ทันใดนั้นเอ้อร์ฮาก็ระเบิดเสียงหัวเราะ ความเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้าของเขา“แม้ว่าเราจะให้พวกเขายืมความกล้าหาญสักร้อยเท่า ก็เกรงว่าพวกเขาจะไม่กล้าโจมตีเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1036

    เซิ่งตงฉยงนำกองทัพซุ่มโจมตีอยู่นอกชายแดนเมืองสู่ เขาเฝ้ารอให้ถึงเที่ยงคืน แล้วจึงเริ่มบุกโจมตีทันที!เวลาเฝ้าระวังในช่วงครึ่งหลังของคืน เป็นเวลาที่ผ่อนคลายที่สุดเสมอ การดำเนินการในเวลานี้ เป็นเวลาที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จมากที่สุด!ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าในขณะนี้เซิ่งตงฉยงจะเป็นผู้นำกองกำลังเพียงสามหมื่นนายเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ทรงพลังอย่างยิ่ง!นี่คือทหารที่เก่งที่สุดสามหมื่นนายในตระกูลเซิ่งของพวกเขา!หากเข้าสู่สนามรบจริง ๆ ทหารม้าสามหมื่นนายจะมีพลังเท่ากับทหารม้าแปดหมื่นนาย!พวกเขาแต่ละคนฝึกวรยุทธกันมาตั้งแต่เด็ก ทุกคนล้วนเป็นจอมยุทธ์!ถ้าเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว คนเดียวก็เพียงพอที่จะเอาชนะคนสิบคนได้!ด้วยพลังการต่อสู้เช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงสองหมื่นคนที่ประจำการอยู่ในเมืองสู่ ต่อให้จะเป็นข้าศึกแปดหมื่นคน พวกเขาก็ไม่หวั่น!เวลาผ่านไปนาทีต่อนาที ไม่นานนักก็ดึกมากแล้วทุกคนเตรียมพร้อมแล้ว แต่ด้วยคำสั่งของเซิ่งตงฉยง มีเพียงสามสิบคนเท่านั้นที่เดินออกจากกลุ่มไป!ทั้งสามสิบคนนี้สวมชุดดำกระโจนผ่านความมืด จู่โจมทหารที่เฝ้าประตูเมืองทันที!จากนั้นท่ามกลางความเงียบงัน พวกเขา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1037

    ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงทำตัวดีมาก ไม่เคยกล้าหยิบยกประเด็นเรื่องผู้นำตระกูลเซิ่งขึ้นมาเพราะรู้ว่าตำแหน่งผู้นำของตระกูลเซิ่งนั้น อยู่เหนือจินตนาการของพวกเขาทั้งสอง!แต่มันเป็นของพี่ชายคนโตของพวกเขา!“ท่านลุง ได้เมืองสู่มาแล้ว คราวนี้ฮองเฮาวางหน้าไม่ถูกแล้วเป็นแน่ขอรับ!”จีหย่งก็หัวเราะเช่นกัน ตอนนี้เขาเข้าใจแผนการของลุงแล้ว ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจลุงคนนี้อาจจะไม่ใช่วีรบุรุษ แต่เป็นผู้นำที่มีความเห่อเหิมทะเยอทะยาน!วิธีนี้ทำให้ผู้อื่นเสียหาย โดยเกิดประโยชน์แก่ฝ่ายของตนเอง!แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความกลัวฉายแววในดวงตาของเขาเช่นกัน!“ฮ่าฮ่าฮ่า หย่งเอ๋อร์ คราวนี้ไป๋เหยียนเฟยไม่มีทางพลิกสถานการณ์ได้แน่นอน!”เซิ่งฟางสี่รู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ย่อมไปถึงราชสำนักต้าเย่ด้วยแน่นอน!เมื่อไป๋เหยียนเฟยรู้ข่าวนี้ ใบหน้าของนางก็มืดมนอย่างยิ่ง!ในขณะนี้ นางเข้าใจความตั้งใจที่แท้จริงของตระกูลเซิ่งแล้ว!“ทำตามแผนมาอย่างยาวนาน สุดท้ายคนทั้งแผ่นดินก็พากันติเตียนข้า ทำให้ข้าสูญเสียใจคนทั้งแผ่นดินไป ช่างเป็นแผนการที่เลวร้ายยิ่งนัก!”ไป๋เหยียนเฟยโกรธมาก แต่นางก็รู้ว่าตนทำอะไรไม่ได้เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1038

    วิธีการเช่นนี้ของตระกูลเซิ่ง เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนจริง ๆ!หลังจากที่เสนาบดีฝ่ายซ้ายหยางเฟิ่งกั๋วพูดเช่นนี้ เป้าชิงสื่อก็ถอนหายใจเช่นกัน“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ... ฮองเฮา เกรงว่าเรื่องนี้จะแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินในไม่ช้า...”เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ไป๋เหยียนเฟยก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้นไปอีก!“ตระกูลเซิ่งจะต้องป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั้งแผ่นดินรู้แน่นอน ว่าตอนนี้ฮองเฮาดูแลราชสำนักมาสามเดือนแล้ว แต่กลับสูญเสียสองดินแดนไปแล้ว”“สำหรับตระกูลเซิ่ง การที่พวกเขายึดดินแดนนี้กลับคืนมาได้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง และเริ่มการต่อสู้เพื่อชิงบัลลังก์อีกครั้ง บางทีตระกูลเซิ่งอาจจะนำเหตุการณ์การสิ้นพระชนม์ของฮ่องเต้ผู้ล่วงลับ มาปลุกปั่น สร้างความเดือดร้อนอีกก็เป็นได้”“ผู้คนในแผ่นดินนี้ถูกหลอกลวง มีน้อยคนนักที่จะรู้ความจริงเรื่องนี้ พวกเขารู้เพียงว่าฮองเฮาทำให้สูญเสียสองดินแดน และตระกูลเซิ่ง... ยึดกลับมาได้หนึ่งดินแดน…”หยางเฟิ่งกั๋วพูดอีกครั้ง แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะรู้ว่านี่คือสิ่งที่ตระกูลเซิ่งต้องการ แต่ตอนนี้เมื่อพูดแล้วก็ยังน่าโมโหมาก!เพราะสิ่งที่ตระกูลเซิ่งทำลงไ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1039

    หากตระกูลไป๋มีแผนดำเนินการจริง ๆ ย่อมช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนนี้ได้แน่นอน!อย่างน้อยตระกูลเซิ่งก็ไม่มีอำนาจมากพอที่จะจัดการกับราชสำนักได้ และคนจำนวนมากจะไม่เข้าร่วมตระกูลเซิ่งในทันที!สถานการณ์เช่นนี้จะไม่มีใครอยากเข้าร่วมกลุ่ม!เพราะจะเกิดอะไรขึ้นถ้าตระกูลเซิ่งล้มเหลว? นั่นคือหายนะ!กลยุทธ์นี้ฟังดูเหมือนจะได้ผล แต่ไป๋เหยียนเฟยกลับถอนหายใจเพราะนางและตระกูลไป๋ตัดขาดกันแล้ว!ตระกูลไป๋ก็เหมือนกับตระกูลเซิ่ง ปรารถนาความยิ่งใหญ่มาเนิ่นนาน!เกรงว่าจะไม่ยอมช่วยง่าย ๆ เป็นแน่!“เสนาบดีฝ่ายซ้าย ข้าเข้าใจสิ่งที่ท่านจะสื่อ แต่... มีเรื่องหนึ่งที่ข้าไม่ได้บอกพวกท่าน ข้ารู้ทัศนคติของตระกูลไป๋มานานแล้ว พวกเขา... ก็มีความตั้งใจจะครองแผ่นดินต้าเย่ด้วยเช่นกัน!”หลังจากที่ไป๋เหยียนเฟยพูดเช่นนี้ หยางเฟิ่งกั๋วและเป้าชิงสื่อก็ตกตะลึงทั้งคู่!“อะไรนะ!”พวกเขาไม่รู้เรื่องนี้ ไป๋เหยียนเฟยบอกกับอู๋หลิงเท่านั้นตอนนี้พวกเขาได้เสนอแผนการนี้แล้ว แน่นอนว่านางไม่สามารถเก็บซ่อนเรื่องนี้ได้อีกต่อไป!“นี่… นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ตระกูลไป๋มีสิทธิ์อะไรบ้าง จึงจะแย่งชิงแผ่นดินได้?”“รู้ดีว่า... ตระกูลเซิ่งม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1040

    หยางเฟิ่งกั๋วคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความกังวลอย่างยิ่ง!เขาเห็นต้าเย่เป็นเช่นนี้แล้วสะเทือนใจมากจริง ๆ!ไป๋เหยียนเฟยเจ็บปวดใจมาก นางสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกัดฟันตอบ“ได้... ก็ได้... แต่ข้า... รับประกันไม่ได้ว่าจะโน้มน้าวสำเร็จ ข้าทำได้เพียงพยายามให้ดีที่สุดเท่านั้น...”ไป๋เหยียนเฟยไม่มีทางเลือกจริง ๆ เหตุใดนางจะไม่รู้ว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด!“ฮองเฮา ทำให้ดีที่สุด ฟังลิขิตสวรรค์พ่ะย่ะค่ะ หากสวรรค์ยอมให้ต้าเย่ของเราประสบภัยพิบัติเช่นนี้ เราก็ต้องทำใจ…” หยางเฟิ่งกั๋วพูดได้เพียงเท่านี้ ไม่รู้จะเอ่ยคำใดอีกในเวลานี้เป้าชิงสื่อกล่าวอีกครั้ง “ฮองเฮา มีอีกเรื่องหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ คนที่โจมตีเมืองสู่ในครั้งนี้คือเซิ่งตงฉยง ลูกชายคนโตของเซิ่งฟางสี่คนนี้... กระหม่อมเคยพบเขาเมื่อไม่กี่ปีก่อน เขาเป็นอัจฉริยะ ไม่ได้มีชื่อเสียงมานานหลายปีจนกระหม่อมลืมเขาไปแล้ว…”“ตอนนี้ที่เขากระโจนออกมาแล้ว ดูเหมือนว่า... ตระกูลเซิ่งได้ตัดสินใจแล้วว่าจะต่อสู้กับราชสำนักจนถึงที่สุด!”เป้าชิงสื่อคิดถึงปัญหานี้ ท้ายที่สุดแล้ว เหล่าทหารที่มีเซิ่งตงฉยงเป็นผู้นำนั้นก็ไม่ธรรมดาจริง ๆ!ไป๋เหยียนเฟยสะดุ้ง นางย่อมรู้ข่าวนี้

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2234

    ครึ่งชั่วยามต่อมา ไท่สื่อลี่นำแผนที่มาให้ด้วยตนเอง ทางด้านหวังหยวนเฝ้ารออยู่ที่ลานบ้านเมื่อรับแผนที่มาก็ตรวจดูอย่างละเอียด คิ้วของหวังหยวนขมวดแน่นช่างอันตรายยิ่งนัก!แม้ว่าภูเขาทางเหนือจะเป็นภูเขาโดดเดี่ยว แต่ด้านข้างเป็นหน้าผาทั้งสิ้น หากต้องการเก็บเกสรของดอกหน้าผาชันก็ต้องปีนขึ้นไปบนหน้าผา ไม่มีเส้นทางอื่นให้เลือกเดินนี่ช่างเป็นเรื่องที่ยุ่งยากยิ่งนัก!หากไม่มีวิชาตัวเบา การปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่านั้นยากราวกับปีนขึ้นสวรรค์!หวังหยวนตกอยู่ในห้วงความคิด ครุ่นคิดหาวิธีเก็บเกสรดอกหน้าผาชันส่วนไท่สื่อลี่ไม่ได้เอ่ยคำใด ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเวลาผ่านไปทีละน้อย ไม่นานไฉจวิ้นก็กลับมาพร้อมกับห่อผ้าห่อใหญ่ ในมือไม่เพียงแต่มีของกิน ยังมีของเล่นน่าสนใจอีกมากมายด้วยทั้งหมดนี้ก็เพื่อเอาใจหลิ่วหรูเยียนเป็นเพราะเขาเอง หลิ่วหรูเยียนจึงไม่อาจออกไปเที่ยวเล่นได้ สตรีนั้นอารมณ์แปรปรวน เขากลัวว่าหลิ่วหรูเยียนจะเก็บเรื่องนี้มาคิดเล็กคิดน้อย“กลับมาแล้ว”หวังหยวนเอ่ยอย่างเรียบเฉยไฉจวิ้นพยักหน้า เขามองหวังหยวนก่อนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ใหญ่อารมณ์ไม่ดี หรือว่าเมื่อครู่นี้ทะเลาะกับพี่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2233

    “ช่างสมกับเป็นท่านหวัง ไม่มีสิ่งใดปิดบังท่านได้จริง ๆ”ไท่สื่อลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนไม่ได้แอบหนีออกมาจากห้อง เขาจึงกระซิบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าได้พูดคุยกับท่านหมอเทวดาอันแล้ว เขาได้บอกอาการของฮูหยินกับข้าทั้งหมดแล้วขอรับ”“อีกทั้งยังบอกวิธีที่จะทำให้อาการของฮูหยินดีขึ้นด้วย”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาพลันเป็นประกาย“ท่านหมายถึง...”หวังหยวนไม่ได้เอ่ยประโยคหลังออกมา แต่ชี้ไปที่ท้องของตนไท่สื่อลี่เข้าใจความหมายในทันที จากนั้นก็พยักหน้า“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!”“เช่นนั้นรีบบอกข้ามา วิธีแก้ต้องทำอย่างไร?”“อีกอย่างคือก่อนหน้านี้ข้าได้ถามท่านหมอเทวดาแล้วว่ามีวิธีใดที่จะทำให้อาการของภรรยาข้าดีขึ้นหรือไม่ ท่านหมอเทวดาไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน ข้านึกว่าไม่อาจรักษาภรรยาของข้าให้หายได้...”“ดูท่าแล้ว ท่านหมอเทวดาจงใจปิดบังข้า!”หวังหยวนเข้าใจดีว่าอันจูหมิงคงมีเหตุผลที่ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่บอกเรื่องนี้กับไท่สื่อลี่ไท่สื่อลี่รีบโบกมือกล่าวว่า “ท่านหวังอย่าได้เข้าใจผิด ไม่ใช่ว่าท่านหมอเทวดาอันไม่อยากบอกท่าน แต่เป็นเพราะว่าตัวยาที่ใช้รักษาฮูหยินนั้นหายา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2232

    เมื่อกลับถึงห้อง ด้วยการดูแลของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนจึงจำต้องนอนลงบนเตียงเมื่อเห็นนางพลิกตัวไปมาไม่หยุด หวังหยวนก็เข้าใจได้ในทันที นี่เป็นเพราะนางไม่อยากนอนหลับ“เจ้านี่นะ เหตุใดจึงได้ดื้อรั้นเพียงนี้?”“ในตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเห็นอะไรในตัวเจ้า!”“หากรู้ล่วงหน้าว่าการเดินทางครั้งนี้จะพบเจอกับเรื่องราวมากมายเพียงนี้ ก็ควรจะให้เจ้าอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังแต่แรก เจ้าจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย”“สุดท้ายแล้วก็เป็นความผิดของข้า...”หวังหยวนจิบชาพลางพึมพำกับตนเอง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า ภาพในความคิดย้อนกลับไปถึงคำพูดของอันจูหมิงก่อนหน้านี้ยามนี้เขาก็ยังคงคิดหาวิธีที่จะบอกกล่าวเรื่องนี้กับหลิ่วหรูเยียนไม่ได้สำหรับหวังหยวนแล้ว การไม่อาจตั้งครรภ์ได้นั้นสำคัญตรงไหนกัน?ครอบครัวของเขามีเหล่าภรรยาที่เพียบพร้อม ย่อมไม่ใส่ใจเรื่องเหล่านี้แต่สำหรับหลิ่วหรูเยียนแล้ว สตรีที่ไม่มีบุตรก็ไม่นับว่าเป็นสตรีเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ หวังหยวนจะไม่รู้สึกอึดอัดใจได้อย่างไร?ดูท่าแล้วคงต้องหาจังหวะที่เหมาะสม จากนั้นค่อยบอกความจริงกับหลิ่วหรูเยียน นางจะได้ไม่เจ็บปวดมากนัก“นี่ท่านกำลังคิดอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2231

    “เอาล่ะ!”“ตอนนี้เจ้าเชื่อฟังพี่ใหญ่ของเจ้าใช่หรือไม่?”“พี่ใหญ่ของเจ้าไม่อยู่ไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นคำพูดของพี่สะใภ้ก็ไม่มีค่าแล้วใช่หรือไม่?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ภายภาคหน้าเจ้าก็ไม่ต้องเรียกข้าว่าพี่สะใภ้ ข้าจะออกไปเดินเล่นเอง หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับข้า พี่ใหญ่ของเจ้าจะต้องมาเอาเรื่องกับเจ้า ถึงตอนนั้นก็คอยดูเถิดว่าจะเป็นอย่างไร!”หลิ่วหรูเยียนเฉลียวฉลาด ไฉจวิ้นผู้ไม่ประสีประสาจะต่อกรกับนางได้อย่างไร?เพียงชั่วครู่ ไฉจวิ้นถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนกำลังจะเดินจากไป เขาก็รีบวิ่งตาม พลางประจบประแจงว่า “พี่สะใภ้! ท่านอย่าได้ทำให้ช้าต้องลำบากใจเลยขอรับ ตกลงหรือไม่?”“ท่านเพิ่งจะหายป่วย สภาพร่างกายก็ยังฟื้นตัวไม่ดี อีกทั้งท่านหมอเทวดาก็บอกแล้วว่าอย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ท่านถึงจะหายดี ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพักผ่อนนะขอรับ!”“แต่ในเมื่อท่านยืนกรานจะออกไป เช่นนั้นพวกเราเดินเล่นเพียงครู่เดียว จากนั้นก็รีบกลับมาก็ได้ ตกลงหรือไม่ขอรับ?”ในที่สุดไฉจวิ้นก็ยอมอ่อนข้อให้ทั้งสองฝ่ายล้วนเป็นผู้ที่เขาไม่อาจล่วงเกิน!ล่วงเกินหวังหยวนก็ไม่เป็นอะไร เพราะว่าพวกเขาล้วนเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2230

    “นี่คือคำสั่ง!”เกาเล่อถอนหายใจอย่างจนใจ ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อ แต่หันหลังเดินไปยังทิศทางหนึ่งในไม่ช้า หวังหยวนก็กลับเข้าไปในห้องทันทีที่เข้าประตูไป เขาเห็นหลิ่วหรูเยียนลืมตาตื่นและกำลังจะลุกขึ้นหวังหยวนรีบวิ่งไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วกล่าวว่า “ฝีมือของท่านหมอเทวดาอันช่างล้ำเลิศยิ่งนัก เพียงเวลาสั้น ๆ เจ้าก็ฟื้นคืนสติแล้วหรือ?”“อีกทั้งดูเหมือนว่า เจ้าจะดูมีเรี่ยวแรงขึ้นมาก”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกว่าสภาพร่างกายของตนดีขึ้น แม้ว่าบริเวณหน้าท้องจะยังเจ็บอยู่บ้าง อีกทั้งร่างกายก็ยังอ่อนแรง แต่ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มากยามนี้ก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นว่าอาการดีขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามธรรมชาติหวังหยวนประคองนางนั่งลงที่โต๊ะ จากนั้นนางก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของข้าแข็งแรง ท่านไม่เห็นสตรีด้านนอกเหล่านั้นหรือไร แต่ละคนล้วนดูอ่อนแอ จะนำมาเปรียบเทียบกับข้าได้อย่างไร?”“ร่างกายของข้าแข็งแรงดั่งวัว ประกอบกับฝีมืออันล้ำเลิศของท่านหมอเทวดาอัน การรักษาให้หายดีก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา”“น่าเสียดาย ร่างกายอันงดงามของข้ากลับมีรอยแผลเป็น นี่ช่างดูไม่น่ามองเอาเสียเลย”“ไม่ได้! เมื่อข้าหาย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2229

    ไท่สื่อลี่ก็เอ่ยเสริมขึ้นบ้าง “ถูกต้อง ถูกต้อง ท่านเกาไม่ต้องเป็นกังวล ข้าเห็นท่านเองก็เหนื่อยล้าไม่น้อย รีบกลับไปพักผ่อนเถิด”“ส่วนท่านหวัง ให้ข้าดูแลเองเถิด”พวกเขาทั้งสองล้วนรู้ดีแก่ใจ เกาเล่อเพียงแค่ไม่วางใจเท่านั้นเพิ่งจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ซ้ำร้ายหลิ่วหรูเยียนยังบาดเจ็บสาหัส เขาเป็นมือขวาของหวังหยวน ย่อมต้องรู้สึกว่าตนมีความผิดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง“ช่างเถิด หากข้ากลับไปตอนนี้ก็เกรงว่าจะพักผ่อนไม่เต็มที่”“รอฮูหยินหายดีแล้ว ข้าค่อยพักผ่อนให้เต็มที่”เกาเล่อยิ้มพลางโบกมือหวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ มีพี่น้องเช่นนี้อยู่เคียงข้างจะต้องการสิ่งใดอีกเล่า?เขาไม่ได้บังคับเกาเล่ออีกแต่ไม่ได้หมายความว่าไฉจวิ้นไม่ดี เพียงแต่จิตใจของไฉจวิ้นไม่ละเอียดอ่อนเท่าเกาเล่อ จึงไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้เพียงชั่วครู่ ทั้งสามก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่งในอีกหลายชั่วยามต่อมา อันจูหมิงและหลิ่วหรูเยียนก็ยังคงอยู่ในห้องเห็นได้ชัดว่าอันจูหมิงเหนื่อยล้าไม่น้อย เพราะการฝังเข็มต้องใช้ความพยายามไม่น้อยเช่นกันหวังหยวนและคนอื่น ๆ ได้เตรียมตัวยาสมุนไพรไว้พร้อมแล้ว ยามนี้การฝังเข็มได้เสร็จสิ้นลง ประ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2228

    หวังหยวนไม่เอ่ยคำใด ดวงตาจับจ้องไปที่อันจูหมิง รอคอยคำพูดต่อไป อันจูหมิงเอ่ยต่อว่า “เกรงว่าภายภาคหน้า ฮูหยินของท่านจะไม่อาจมีบุตรได้อีก”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าพลางยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ข้านึกว่าเรื่องใหญ่อะไร ที่แท้ก็เพียงแค่ไม่อาจมีบุตรได้!”“เรื่องนี้ สำหรับข้าแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!”“เพียงแค่ให้หรูเยียนหายดีก็เพียงพอแล้ว!”“ในสายตาของข้า สตรีไม่ใช่เครื่องมือในการสืบสกุล แต่เป็นคู่ชีวิตที่จะอยู่เคียงข้างกันไปจนแก่เฒ่า!”อันจูหมิงอดไม่ได้ที่จะมองหน้าหวังหยวนรักษาผู้คนมาครึ่งชีวิต เขาได้พบเจอโรคภัยไข้เจ็บอันแปลกประหลาดมากมาย อีกทั้งยังได้พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตาคนที่มีจิตใจเป็นอิสระและง่ายดายอย่างหวังหยวนนั้น ช่างหาได้ยากยิ่ง!ในโลกนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากมายเพียงใดที่เมื่อรู้ว่าภรรยาของตนไม่อาจตั้งครรภ์ได้ ก็จะเปลี่ยนท่าทีไปในทันที แม้กระทั่งขับไล่ภรรยาออกจากบ้าน แต่ฐานะของหวังหยวนก็สูงส่ง กลับไม่ถือสาเรื่องเล็กน้อย ทั้งยังเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาได้ ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก!อันจูหมิงกล่าวต่อว่า “ในเมื่อท่านหวังเอ่ยเช่นนี้ ข้าก็ไม่ต้องกังวลแล้ว ข้าจะฝังเข็ม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2227

    “ข้าน้อยอันจูหมิง คำนับท่านหวัง!”ชายชราผู้มีผมขาวแต่ใบหน้าเยาว์วัยเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหวังหยวน แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ท่านอย่าได้เกรงใจ รีบมาดูอาการภรรยาของข้าก่อนเถิด!”“แม้แต่หมอหลวงแห่งราชวงศ์ต้าเย่ยังจนปัญญา ข้าต้องขอฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ท่านแล้ว”ขณะที่พูด เกาเล่อและไฉจวิ้นก็อุ้มร่างของหลิ่วหรูเยียนออกมาเมื่อมองดูแล้ว สภาพของหลิ่วหรูเยียนยิ่งแย่ลง ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด ร่างกายซูบผอมอย่างเห็นได้ชัดแม้ว่าหวังหยวนจะเจ็บปวดใจยิ่งนัก แต่ก็ไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงรอคอยการวินิจฉัยของอันจูหมิงในไม่ช้า หวังหยวนและคนอื่น ๆ ต่างช่วยกันนำร่างของหลิ่วหรูเยียนเข้าไปในห้อง ภายในห้องเหลือเพียงหวังหยวนและอันจูหมิงส่วนคนอื่นรอคอยอยู่ด้านนอกอย่างอดทนเวลาผ่านไปเท่ากับหนึ่งก้านธูปไหม้หมด อันจูหมิงยังคงจับชีพจรของหลิ่วหรูเยียน สีหน้าแปรเปลี่ยนไปมายากจะคาดเดาความคิดในใจเขาหวังหยวนรู้สึกกดดันยิ่งนัก แต่ก็ไม่กล้าเร่งเร้าอันจูหมิง ทำได้เพียงกำหมัดแน่น รอคอยผลลัพธ์อย่างอดทนความหวังสุดท้ายอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่หากแม้แต่อันจูหมิงก็จนปัญญา เช่นนั้นจะทำเช่นไร?หรือว่า...เขาจะต้องพลัดพรากจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2226

    “ในที่สุดพวกท่านก็มาถึง!”แม้ว่าหวังหยวนจะยังไม่เห็นตัวผู้พูด แต่เพียงแค่ได้ยินเสียง เขาก็จำได้ทันทีว่าเจ้าของเสียงนี้เป็นผู้ใดจะเป็นใครไปได้อีก ถ้าไม่ใช่ไท่สื่อลี่?สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปที่ไท่สื่อลี่ จากนั้นรีบลงจากรถม้า แล้วกล่าวว่า “ท่านไท่สื่อ ยามนี้ไม่ใช่เวลามาย้อนความหลังกัน ได้ยินว่าท่านหาหมอเทวดาพบแล้ว เช่นนั้นพวกเรารีบไปที่เผ่ากันเลยดีหรือไม่?”“ดีขอรับ ดีขอรับ!”“ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ท่านหวังตามข้ามาก็พอ!”ในไม่ช้าคณะเดินทางก็ออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังทิศทางของเผ่าอย่างโอ่อ่าในช่วงเวลาที่หวังหยวนกลับไปยังต้าเย่ ไท่สื่อลี่ใช้ความสามารถอันล้ำเลิศของตน ประกอบกับความช่วยเหลือจากหวังหยวนเข้าควบคุมชนเผ่าอื่นได้สำเร็จ!ยามนี้เผ่าทางเหนือทั้งหมดตกอยู่ในมือของเขา และเขาก็กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนเหนือ!ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนต้องขอบคุณหวังหยวนอีกทั้งเขารู้ดีแก่ใจว่าหากเป็นศัตรูกับหวังหยวน รากฐานที่ตนอุตส่าห์สร้างขึ้นมาก็จะพังทลายลงในชั่วพริบตาในคืนนั้น เมื่อพลบค่ำมาเยือน ขบวนรถม้าก็เดินทางมาถึงเผ่าเมื่อมองออกไปจะเห็นคนในเผ่ายืนรออยู่สองข้างทาง ทุกคนล้วนรอคอยก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status