จ้าวซีซีมองชายหนุ่มที่อยู่ใกล้ๆ ปลายจมูกของทั้งสองอยู่ชิดติดกันเธอตกตะลึง ผู้ชายคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่?วินาทีต่อมา ริมฝีปากบางๆ ก็ขยับขึ้นมา "สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่แตกต่างหรือเปล่า?"จ้าวซีกะพริบตา และรู้สึกว่าหน้าผากของเขาเย็นมากเหมือนก้อนน้ำแข็งในขณะนี้ ก็มีเสียงไอมาจากข้างๆ "แคกๆ ระวังหน่อยสิ ที่นี่โรงพยาบาลนะ"ฮั่วหานฮุยลุกขึ้นอย่างรวดเร็วส่วนจ้าวซีซีก็รีบดึงผ้าห่มมาปิดหน้าตัวเอง รู้สึกลำบากใจเป็นอย่างยิ่งและพยาบาลสาวก็พูดขึ้นมาว่า "ญาติผู้ป่วยรออยู่ข้างนอกนะคะ หากยังไม่ได้กดบัตรคิวก็กดบัตรคิวก่อนนะคะ"จ้าวซีซีผ่านช่องว่างของผ้าห่มและเห็นรอยเท้าของเขาหายไปต่อหน้า จากนั้นเธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อยในที่สุดเขาก็เดินออกไปจ้าวซีซีแอบเปิดผ้าห่มออกแล้วพูดกับพยาบาลสาวว่า "ที่จริงฉันไม่เป็นอะไรหรอกนะคะ ไม่ต้องรักษาก็ได้ค่ะ"จากนั้นพยาบาลสาวก็ใช้ปืนวัดอุณหภูมิร่างกายบีบใส่เธอ แล้วพูดว่า "อุณหภูมิร่างกาย 39 องศา แน่ใจนะว่าไม่เป็นไร?"สีหน้าของจ้าวซีซีเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าตัวเองจะไข้ขึ้นสูงขนาดนี้เมื่อพยาบาลสาวได้เห็นว่าคุณหมอเดินเข้ามาก็พูดว่า "หมอหลินค
หลินเป่ยมองไปยังชายหนุ่มที่ขวางหูขวางตาคนนี้ และมองไปที่จ้าวซีซีบนเตียงอีกครั้ง มีการคาดเดาที่เหลือเชื่อได้ปรากฏขึ้นมา!หรือว่าเด็กคนนี้จะเป็นของฮั่วหานฮุย?ทำไมฮั่วหานฮุยคนนี้ถึงได้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยชัดเจนกับเด็กสาวในตระกูลหลินด้วยนะ?จ้าวซีซีไม่กล้ามองตาพี่สาม แล้วพูดเบาๆออกมาว่า "งั้นสั่งยาลดไข้ให้ฉันหน่อยนะคะ แต่ยาบางชนิดฉันกินไม่ได้ ต้องระวังหน่อย"เธอแอบเตือนพี่สามถึงเรื่องที่ตัวเองเป็นคนท้อง ให้เขาระมัดระวัง และห้ามพูดอะไรที่มากไปกว่านั้นต่อหน้าฮั่วหานฮุยหลินเป่ยอดกลั้นต่อคำถามที่มีอยู่ในใจ จากนั้นก็หันไปหาพยาบาลสาวแล้วพูดว่า "เอารายการไปสั่งยา"ฮั่วหานฮุยขมวดคิ้ว "ไม่ต้องเติมน้ำเกลือเหรอ?"น้ำเสียงของหลินเป่ยไม่ค่อยจะสู้ดีมากนัก "การเติมน้ำเกลือมีผลต่อร่างกายน่ะ""แต่เธอไข้ขึ้นสูงมากเลยนะ"หลินเป่ยมองอย่างเย็นชา "คุณเป็นหมอหรือผมเป็นหมอ? งั้นคุณมารักษาไหมล่ะ?"หลังจากได้ยินประโยคนี้ เปลือกตาของจ้าวซีซีก็กระตุกอยู่ตลอดเวลา ขออย่าให้ทะเลาะกันขึ้นมาได้เลยสีหน้าของฮั่วหานฮุยเย็นยะเยือก แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้พูดอะไร มีเพียงสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีมากนักเท่านั้นไม
หลินซีเดินหาคนไปพลาง และต่อสายหาพี่สามหลินเป่ยไปพลาง แต่ด้านนั้นไม่มีคนรับสายแต่อย่างใดเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเมื่อครู่นี้เธอมองผิดไป?แต่ผู้ชายที่ใส่เสื้อกาวน์สีขาวคนนั้นหน้าตาเหมือนพี่สามหลินเป่ยอย่างเห็นได้ชัดส่วนด้านนี้ ห้องเติมน้ำเกลือของห้องฉุกเฉินจ้าวซีซีนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง อาจเป็นเพราะเหงื่อจากความตกใจ ตอนนี้เธอรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว"ซีซี น้องบอกพี่มาซะดีๆนะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เธอเพิ่งจะดื่มน้ำแก้วนั้นที่รับมาเสร็จ เงยหน้ามองพี่สามหลินเป่ยที่เดินเข้ามาจากนั้นด้านนอก และแทบจะสำลักน้ำออกมาหลินเป่ยไม่ทันได้สนใจว่าจะถามอะไร ก็รีบมาช่วยตบหลังให้เธอ แล้วพูดว่า "ระวังหน่อย พี่จะรินน้ำให้ใหม่นะ"จ้าวซีซีไออย่างกระวนกระวายใจ แสร้งมองไปที่หลินเป่ยด้วยสีหน้าที่อ่อนแอ ดวงตาเรียวยาวนั้นเต็มไปด้วยน้ำตาและไร้เดียงสาเมื่อหลินเป่ยเห็นสีหน้าของน้องสาว จู่ๆ ความโกรธของเขาก็หายไปในทันที เหลือแต่ความเจ็บปวดในใจเท่านั้นเขาถอนหายใจพลางดึงเก้าอี้เข้ามา แล้วพูดว่า "ซีซี พี่สามไม่ต้องการที่จะดุน้องหรอกนะ แต่เป็นห่วงน้องมากกว่า จู่ๆ น้องก็บอกว่าน้องท้อง นี่ นี่จะให้พี่เข้าใจว่าอย่างไร?"
จ้าวซีซีสร้างเรื่องราวที่สมเหตุสมผลขึ้นมาเมื่อเธอพบว่าพี่สามยังคงไม่เชื่ออยู่เล็กน้อย จึงเปลี่ยนเรื่องทันทีพร้อมพูดว่า "จริงด้วยค่ะพี่สาม ทำไมพี่ถึงรู้ว่าเป็นฮั่วหานฮุยล่ะคะ?"แม้ว่าเธอจะเคยพูดว่าตัวเองไปทำงานเป็นพยาบาลในบ้านของคนร่ำรวยมาก่อน แต่ฮั่วหานฮุยนั้นเงียบๆมาโดยตลอด แล้วพี่สามจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่ส่งเธอมาคือฮั่วหานฮุยเพียงมองทางปาดเดียว?สีหน้าของหลินเป่ยแข็งทื่อทันทีนี่หมายความว่าเพราะหลินซีชอบฮั่วหานฮุยมาหลายปีแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าฮั่วหานฮุยหน้าตาเป็นอย่างไร?แน่นอนบอกน้องแบบนั้นไม่ได้หลินเป่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า "เพราะว่าการกดบัตรคิวและชำระค่ารักษาพยาบาลของน้องคือข้อมูลของฮั่วหานฮุยไง เมื่อกี้พี่ดูแล้วถึงได้รู้"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง จ้าวซีซีไม่คิดว่าฮั่วหานฮุยจะช่วยตัวเองจ่ายค่ารักษาพยาบาลแล้วเธอลูบท้องน้อยของตัวเอง โชคดีที่เมื่อกี้เจอพี่สามอยู่ที่นี่ ไม่งั้นวันนี้คงจะปิดบังการมีอยู่ของเด็กคนนี้เอาไว้ไม่ได้แล้วเพราะฮั่วหานฮุยยืนกรานให้หมอจัดยาให้กับตัวเธอ เพื่อปกป้องลูกเอาไว้ เธอก็คงทำได้เพียงบอกความจริงไปได้เท่านั้น โชคดี โชคดี!และหลินเป่ย
เมื่อหลินซีเห็นพี่สามหลินเป่ย เธอก็วิ่งเข้ามาด้วยความดีใจ "พี่สามคะ พี่อยู่ที่นี่จริงๆด้วย เมื่อกี้ฉันยังคิดว่าตัวเองตาฝาดเสียอีก"หลินเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย และเดินไปในทิศทางห่างออกจากห้องเติมน้ำเกลือโดยอัตโนมัติ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการพบเจอกับจ้าวซีซีพูดตามตรง ตอนนี้เขาก็เสียใจเล็กน้อยว่า ทําไมตอนแรกเขาถึงยินยอมให้พี่ใหญ่พาเด็กผู้หญิงกลับมาเป็นตัวแทนของน้องสาวเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับซีซีน้องสาวแท้ๆของเขาทุกครั้งในตอนนี้ เขามักจะมีภาพลวงตาว่าแอบคบชู้และกลัวว่าจะถูกจับได้ยังไงยังงั้นหลินเป่ยมองหลินซีอีกครั้ง เขาไม่มีความรู้สึกต่อน้องสาวที่รับเลี้ยงคนนี้มากนัก ปกติหลินซีก็แค่อยู่กับคุณย่า ไม่ได้เข้ามาคลุกคลีกับพวกพี่ชายมากนัก และคงพูดไม่ได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องมันจะลึกซึ้งมากแค่ไหนแต่หลินซีชอบติดหนึบกับพวกเขาตั้งแต่เด็กๆ และการกระทำนั้นเป็นการประจบสอพลออย่างจงใจนี่ก็เป็นจุดที่หลินเป่ยไม่ค่อยชอบหลินซีด้วยเช่นกันหลินซีพยายามฝืนยิ้มออกมา "พี่สามคะ พี่มองฉันแบบนี้ทำไมกัน หรือว่ามีอะไรติดหน้าฉันอยู?""ไม่มีอะไร เธอตามหาฉันมีเรื่องอะไร?""พี่สามคะ ที่ผ่านมาฉันถามว่าพี่อยู่
เธอรู้สึกเสมอว่าพี่สามมีอคติต่อฮั่วหานฮุยมากกว่าเดิมเสียอีก——หลังจากจ้าวซีซีได้ตื่นขึ้นมา และได้กลิ่นของยาฆ่าเชื้อแล้วนั้น เธอก็พบว่าตัวเองยังอยู่ในโรงพยาบาลแต่ตอนนี้เธอดีขึ้นมากแล้วและก็พบว่ายาที่พี่สามจ่ายให้ตัวเองนั้นได้ผลดีมาก"คุณจ้าวคะ คุณตื่นแล้วหรือคะ ต้องการให้ดิฉันพยุงคุณไปห้องน้ำหรือเปล่าคะ หรือจะกินอะไรหน่อยไหมคะ?"จ้าวซีซีเห็นพยาบาลคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ "คุณคือ?""ฉันเป็นนางพยาบาลส่วนตัวที่ครอบครัวของคุณจ้างมาให้ดูแลคุณค่ะ"อ้อ พยาบาลส่วนตัวที่พี่สามจ้างมานี่เองและจ้าวซีซีก็รู้สึกหิวขึ้นมาจริงๆ "งั้นฉันขอโจ๊กเปล่ากับเครื่องเคียงเล็กน้อยก็พอ ไม่ต้องให้เลี่ยนมากนะ"ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็เห็นพี่สามหลินเป่ยถือกล่องอาหารเดินเข้ามา "ซีซี ตื่นขึ้นมาหิวแล้วใช่ไหมล่ะ พี่เอาของกินมาให้นะ"จ้าวซีซีตกตะลึง และชี้ไปที่นางพยาบาลที่อยู่ข้างๆ "พี่สาม พี่ให้นางพยาบาลช่วยซื้อข้าวให้ฉันแล้วไม่ใช่เหรอ?"ชายหนุ่มขมวดคิ้ว "พี่ไม่ได้จ้างนางพยาบาลส่วนตัวให้น้องนะ"จ้าวซีซีมองไปที่นางพยาบาลด้วยความประหลาดใจ "คุณจําคนผิดแล้วใช่ไหม?"นางพยาบาลดูข้อมูล แล้วพูดว่า "จําไม่ผิดนะคะ ผู้ป่
เมื่อได้ยินคําว่าตรวจการตั้งครรภ์สองคํานี้ เขาก็เลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เกือบจะลืมไปแล้วว่าตอนนี้จ้าวซีซีเป็น 'หญิงตั้งครรภ์' อยู่เขาจึงตอบไปอย่างคลุมเครือว่า "ครับ ผมรู้แล้วครับ""เธอจะรู้อะไร หากไม่ใช่ฉันที่คอยเตือนอยู่ เธอคงจำเรื่องนี้ไม่ได้หรอกมั้ง? พรุ่งนี้พาซีซีไปตรวจครรภ์โรงพยาบาลที่ฉันอยู่ด้วยนะ"เมื่อพูดจบ คุณหญิงก็ได้วางสายไปฮั่วหานฮุยลูบขมับ จากนั้นก็มองไปที่ผู้ช่วย "พรุ่งนี้จัดการเรื่องแผนกสูติทีนะ อย่าให้คุณย่าจับได้เป็นอันขาด"ผู้ช่วยหลี่พยักหน้าและออกจากสํานักงานอย่างรวดเร็วฮั่วหานฮุยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และส่งข้อความไลน์ไปหาจ้าวซีซี [มาโรงพยาบาลพรุ่งนี้เช้า คุณย่าอยากพบคุณ]ทางนี้จ้าวซีซีหลังจากกินอาหารในวอร์ดเสร็จ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองมีเรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างเต็มที่หลินเป่ยยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "ยาเหล่านี้เอากลับไปกิน ผลการตรวจครรภ์เมื่อกี้ยังไม่ออกมา ถึงตอนนั้นพี่จะบอกให้ก็แล้วกัน กลับไปนอนให้เพียงพอ อย่าหักโหมงานหนักเกินไป แล้วก็อย่าลืมกินกรดโฟลิกด้วย""ฉันรู้แล้วค่ะ พี่สามคะ จริงๆแล้วฉันมีคำถามมาโดยตลอด แต่ก็ลืมไม่ได้ถามมาโดยตลอด พี่เป็
จ้าวซีซีอธิบายกับพวกพี่ๆที่อยู่ที่บ้านว่า ตัวเองเป็นแค่หวัดนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงอะไรสักหน่อยแต่เมื่อเธอได้รับความห่วงใยของครอบครัวแบบนี้ เธอก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจเป็นอย่างมากหลังจากวิดีโอคอลสิ้นสุดลง จ้าวซีซีก็นอนอยู่บนเตียงเพื่อพักผ่อน แต่ตอนนี้เธอยังไม่รู้สึกง่วงนอน จึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาคลิกเปิดดูไลน์ และพบว่าฮั่วหานฮุยได้ส่งข้อความมาเมื่อกี้เธอกําลังคุยกับครอบครัวอยู่ ไม่ได้สังเกตเห็นข้อความที่เขาส่งมาเธอรู้ว่าจะต้องแกล้งแสดงละครต่อหน้าคุณย่าต่อไป เธอจึงตอบกลับว่า "รู้แล้วล่ะ"เธอหลับตาและคิดถึงชุดแต่งงานสีขาวสะอาดของหลินซี มันช่างขาวแสบตาเสียเหลือเกิน มันทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเลยทีเดียวยังดีที่เดือนหนึ่งไม่นานมันจะจบลงไปเร็วๆนี้แล้ววันรุ่งขึ้น จ้าวซีซีก็ไปโรงพยาบาลเอกชนที่คุณย่าฮั่วได้พักรักษาอยู่โดยตรงเธอนั่งบนแท็กซี่และได้รับข้อความไลน์จากเพื่อนสนิทกั๋วกั่ว [ซีซี เธอยังบอกว่าเธอกับราชาภาพยนตร์ไม่มีอะไรกันอีกเหรอ คนที่สวมแมสนั่นเป็นเธอใช่ไหมล่ะ? กระเป๋าผ้านั่นยังเป็นใบที่ฉันให้เธอเป็นของขวัญอยู่เลยนะ]เมื่อจ้าวซีซีมองเห็นข้อความของเพื่อ