Share

บทที่ 5

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-26 14:44:22

เช้าวันที่สองของการไปทำงานแทนอรสา ทุกอย่างดูราบรื่นกว่าวันแรกมากแถมวันนี้รติชายังไปถึงที่ทำงานเร็วอีกด้วย ส่วนปิลันธน์นั้นเสียเวลารอรถคันใหม่เล็กน้อยเพราะคันที่ใช้อยู่ชายหนุ่มต้องส่งไปซ่อม

เมื่อมาถึงเขาก็ทักทายเธอเล็กน้อยจากนั้นก็เข้าห้องทำงานไป รติชาถูกเรียกไปพบปิลันธน์อธิบายเรื่องงานที่เธอต้องรับผิดชอบซึ่งงานพวกนี้อยู่นอกเหนือจากที่อรสาได้อธิบายไปเมื่อวาน ซึ่งเธอก็เข้าใจมันได้ในเวลาอันสั้น จากนั้นจึงกลับมานั่งทำงานที่โต๊ะ 

กระทั่งพักเที่ยงแม่บ้านก็ยกมื้อเที่ยงเข้าไปเสิร์ฟให้ปิลันธน์ในห้องเพราะชายหนุ่มไม่ค่อยออกไปกินที่ไหน แต่เพราะชายหนุ่มไม่ชอบกลิ่นอาหารในห้องทำงานแม่บ้านจึงต้องเปิดหน้าต่างไว้ด้วย ส่วนรติชาที่ยังไม่รู้จักใครที่นี่ก็สามารถลงไปนั่งกินมื้อเที่ยงคนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเก้อเขินสายตาใคร จากนั้นก็แวะซื้อขนมติดไม้ติดมือมาสองสามอย่างเพื่อกินในช่วงบ่าย 

“คุณกินข้าวเที่ยงแล้วเหรอ” เพราะเดินออกมาแล้วเจอกับรติชาเข้า ปิลันธน์จึงเอ่ยถามขึ้น 

“ค่ะ”

“มีเพื่อนไปกินด้วยหรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ทั้งๆ ที่เขาจะมองผ่านเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ไปก็ได้

“ไม่มีค่ะ ฉันไปกินคนเดียว”

“คนเดียว” 

“ค่ะ...คนเดียว ทำไมหรือคะ”

“เปล่าครับ ไม่มีอะไร ถ้าไม่เป็นการรบกวนผมอยากได้ชาร้อนๆ สักแก้ว”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการให้” รติชาเอ่ยรับเพราะการเป็นเลขานอกจากช่วยแบ่งเบาเรื่องงานแล้ว บางครั้งก็ต้องสวมบทเป็นคนเสิร์ฟน้ำชากาแฟให้เจ้านายด้วย ผ่านไปครู่ใหญ่รติชาก็นำชาร้อนๆ ไปเสิร์ฟให้ปิลันธน์ในห้องทำงาน ตอนเข้าไปในมือมีถ้วยชาแต่ตอนกลับออกมาถ้วยชาก็เปลี่ยนเป็นแฟ้มงานเสียแล้ว

รติชาหอบหิ้วงานกลับมาที่โต๊ะ ไหนจะตารางนัดหมายของปิลันธน์ที่ยาวเป็นหางว่าวนี่ถ้าไม่บอกว่าเขาทำงานบริษัทเธอคงคิดว่าเขาเป็นดาราแน่ๆ คิวงานถึงได้แน่นขนาดนี้ แต่ก็ไม่แปลกใจนักเพราะชายหนุ่มทำธุรกิจหลายตัว ทั้งนำเข้ารถยนต์หรูเป็นเจ้าของรีสอร์ตที่ระยองอีกและที่ฮิตติดลมบนในตอนนี้คือการเช่ารถยนต์หรูรวมถึงสินค้าระดับไฮเอนจากแบรนด์ต่างๆ 

แต่ขณะที่กำลังนั่งคิดเรื่องงานของปิลันธน์อยู่นั้น เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น รติชาสลัดความคิดอื่นออกไปจากหัวแล้วยื่นมือไปคว้ามารับสาย ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรปลายสายก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน 

“คุณ...เข้ามาในห้องผมหน่อย” ถ้ารติชาฟังไม่ผิดน้ำเสียงของปิลันธน์นั้นฟังดูตื่นตระหนกแปลกๆ เธอจึงรีบเข้าไปในห้องทำงานของปิลันธน์ทันที และเมื่อมาถึงสิ่งที่เห็นก็ทำเอาเธอแทบหลุดหัวเราะออกมา

เพราะบนศีรษะของบอสหนุ่มตอนนี้มีตั๊กแตนตำข้าวเกาะอยู่ ซึ่งมันน่าจะเข้ามาตอนที่แม่บ้านเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ เจ้าตั๊กแตนตำข้าวค่อยๆ ขยับขายาวๆ ของมันเกาะบนเส้นผมของปิลันธน์ ยิ่งมันขยับชายหนุ่มก็ยิ่งนั่งนิ่ง พร้อมกับส่งสายตามายังรติชาเพื่อขอให้เธอช่วย

“มีอะไรสักตัวอยู่บนหัวผมใช่ไหม” รู้ทั้งรู้ว่ามีแต่ปิลันธน์ก็ยังถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขารับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของมัน แต่สิ่งที่ไม่รู้คือตัวอะไรนั่นเอง 

“มีค่ะ”

“อะไร” แม้จะพยายามคุมโทนเสียงให้เป็นปกติ แต่ความตกใจของปิลันธน์ก็แสดงออกผ่านท่าทางที่เวลานี้ บอสหนุ่มนั่งตัวแข็งทื่อ

“อืม...น่าจะเป็นตั๊กแตนตำข้าว” จากลักษณะของแมลงที่เห็นเกาะอยู่บนหัวของปิลันธน์ขณะนี้ รติชาก็พอจะเดาได้ว่าคืออะไร 

“คุณกลัวแมลงหรือเปล่า”

“ถ้าเป็นตัวที่อยู่บนหัวบอสฉันไม่ค่อยกลัว” 

“งั้นช่วยเอามันออกไปหน่อยได้ไหม พอดีว่าผมไม่ค่อยชอบแมลงบนโลกใบนี้เท่าไหร่ เร็วๆ คุณ มันเริ่มขยับอีกแล้ว” ท้ายประโยคของปิลันธน์เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกสีหน้าก็ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ บนโลกใบนี้สิ่งที่ทำให้เขากลัวมีแค่ไม่กี่อย่าง แต่ที่กลัวมากๆ คือพวกแมลง

“โอเคค่ะๆ เดี๋ยวฉันจัดการให้” รติชาตรงเข้าไปหาปิลันธน์ จากนั้นก็ยื่นมือจับเจ้าตั๊กแตนตำข้าวออกจากศีรษะให้ 

แต่ดูเหมือนเจ้าตั๊กแตนตำข้าวจะไม่รับความหวังดีนั้นของเธอ เพราะจู่ๆ มันก็กระโดดไปเกาะบนใบหน้าอันหล่อเหลาของปิลันธน์

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 6

    บอสหนุ่มถึงกับอุทานออกมาเสียงหลงพลอยทำให้รติชาลนลานตามไปอีกคน ส่วนตัวก่อเรื่องกลับไม่สะทกสะท้าน รติชายื่นมือไปจับตั๊กแตนตำข้าวตัวนั้นอีกครั้งคราวนี้เธอจับมันแน่นกว่าเดิมเพราะกลัวจะกระโดดไปเกาะหน้าของปิลันธน์เข้าอีก“มาได้ยังไง” ปิลันธน์หันมองซ้ายทีขวาทีอย่างหวาดระแวงเพราะกลัวว่าจะมีตั๊กแตนตำข้าวตัวอื่นๆ อยู่ในห้องทำงานอีก “มันคงบินเข้ามาตอนแม่บ้านเปิดหน้าต่างทิ้งไว้”“อ้อ” หัวใจของบอสหนุ่มเต้นโครมครามเพราะความกลัวที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง แถมยังเผลอแสดงอาการต่อหน้ารติชาเสียอีก “ฉันเอามันออกไปก่อนดีกว่า” เอ่ยบอกเสร็จรติชาก็เอาตั๊กแตนตำข้าวในมือไปวางไว้นอกหน้าต่างเสร็จก็รีบปิดทันที เพราะไม่อยากให้มันเข้ามาป่วนข้างในซ้ำอีก“มันไปแล้วหรือยัง”“กำลังไปค่ะ อีกสักพักคงไม่อยู่แล้ว”“โล่งอกไปที” ท่าทางของปิลันธน์ทำให้รติชานึกขำ เพราะไม่คิดว่าผู้ชายตัวโตอย่างเขาจะกลัวแมลงตัวเล็กๆ แบบนั้นได้ แถมยังดูกลัวมากเสียด้วย“บอสกลัวแมลงหรือคะ”“ไม่ได้กลัวแค่ไม่ชอบ” รติชาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะให้กับคำตอบของปิลันธน์ สรุปง่ายๆ คือเขากลัวแมลงนั่นแหละไม่ต้องสืบ “ไม่ได้กลัวก็ไม่ได้กลัวค่ะ” “ขอบคุณมาก ถ้าไม่

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 7

    “ใช่...หนึ่งเขารักครอบครัวมากยิ่งมีลูกด้วยกันก็ยิ่งตอกย้ำว่าพี่เลือกคนไม่ผิด” อรสายิ้มออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะหันไปมองลูกสาวตัวน้อยที่เป็นโซ่ทองคล้องใจเธอและสามี รติชาอยู่กระทั่งสามีของอรสาเข้ามาเธอจึงขอตัวกลับ ระหว่างทางที่ขับรถอยู่นั้นก็เมาท์มอยกับโสภิตาไปด้วย แต่เมื่อมาถึงคอนโดมิเนียมรติชาก็ได้เจอกับคนที่ไม่คิดว่าจะเจอ รติชาอยากแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นอีกฝ่าย ทว่าสุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเดินเข้าไปทักทายเขา “คุณรติชา” “บอสมาทำอะไรที่นี่คะ”“หาเพื่อนครับ ว่าแต่คุณล่ะมาทำอะไรที่นี่” ปิลันธน์เอ่ยถามขึ้น เพราะเขาเองก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกับรติชาที่นี่เช่นกัน “ฉันพักที่นี่น่ะค่ะ”“อ๋อ” คนฟังถึงบางอ้อ แม้คอนโดมิเนียมที่นี่ราคาต่อยูนิตค่อนข้างสูงแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนซื้อ ดูจากรถที่ขับกระเป๋าที่ถือเครื่องประดับที่ใช้ก็บ่งบอกอยู่ว่ารติชานั้นคงมีฐานะพอสมควร แต่ที่แปลกใจคือทำไมเธอถึงยังเลือกที่จะทำงานเป็นเลขา“บอสพึ่งมาหรือว่ากำลังจะกลับคะ”“พึ่งมาครับ” “เฮ...ปิลันธน์” เสียงเอ่ยเรียกปิลันธน์ดังขึ้น ซึ่งคนที่เรียกก็ไม่ใช่ใครอื่นเพราะคือเพื่อนสนิทของบอสหนุ่มที่ชื่อว่าเมทีนั่นเอง “เพื่อนผมมานั่น

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 8

    “โอ๊ย...เสร็จสักที” รติชาขยับร่างกายไปมาเพื่อไล่ความเมื่อยขบหลังจากนั่งหลังขดหลังแข็งทำรีพอร์ทให้ปิลันธน์ติดต่อกันหลายชั่วโมง ส่วนบอสของเธอนั้นป่านนี้ก็ยังไม่ออกจากห้องประชุมเช่นกัน รติชาจิบชาอุ่นๆ เพิ่มความชุ่มชื่นให้ร่างกาย กระทั่งสายตาหันไปเห็นปิลันธน์เดินออกมาจากห้องประชุม “ประชุมเสร็จแล้วหรือคะบอส”“ยัง...แค่พักเบรก”“ลากยาวขนาดนี้ ไม่ล้ากันแย่แล้วเหรอคะ”“คงมีบ้าง แต่ผมอยากให้งานเสร็จก่อนหยุดยาว”“ค่ะ” รติชาเอ่ยรับเพราะบางอย่างมันก็อยู่เหนือการควบคุมของเธอ ปิลันธน์พักราวๆ ห้านาทีก็กลับเข้าไปประชุมอีกครั้ง ส่วนรติชาหลังจากจิบชาเสร็จแล้วก็กลับมานั่งส่งงานให้ปิลันธน์รวมถึงเคลียร์งานทุกอย่างให้จบ เธอชะเง้อมองเข้าไปในห้องประชุมหลายต่อหลายครั้งเพราะตอนนี้เลยเวลาเลิกงานมานานพอสมควรแต่ทุกคนก็ยังไม่กลับออกมากระทั่งประตูเปิดออกและคนที่ก้าวออกมาคนแรกคือผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ตามด้วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดและคนอื่นๆ เหลือก็เพียงแค่ปิลันธน์ที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงา รติชาเดินไปชะเง้อมองตรงประตูกระจกจึงเห็นว่าเขายังนั่งจดๆ เขียนๆ อะไรบางอย่างใส่ไอแพด พอเห็นเขาลุกรติชาก็รีบกลับมานั่งที่โต๊ะทันที“ยั

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 9

    เมื่อเห็นว่าทั้งเธอและเขาต่างอิ่มกันแล้ว ปิลันธน์จึงเรียกเช็กบิล โดยชายหนุ่มอาสาเป็นเจ้ามือทั้งๆ ที่รติชาปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีกเพราะเธอไม่อยากให้เขาต้องมาเลี้ยง สุดท้ายก็ปฏิเสธไม่สำเร็จ“ขอบคุณสำหรับเจ้ามือนะคะ”“ด้วยความยินดีครับ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกจากนั้นปิลันธน์จึงเดินมาส่งรติชาที่รถแล้วเดินย้อนไปยังรถตัวเองที่จอดอยู่ด้านหน้า ทว่ารถเจ้ากรรมที่นานๆ เขาจะเอามาใช้กลับเกเรเพราะสตาร์ทไม่ติด ปิลันธน์เป่าลมออกปากหนักๆ ซึ่งรติชาก็มองเห็นความผิดปกติที่ว่าเช่นกัน ก๊อก ก๊อก ก๊อกเลขาสาวสวยตัดสินใจเดินมาเคาะกระจกรถของบอสหนุ่มเบาๆ พอปิลันธน์ลดกระจกรถลงมาจึงเอ่ยถามขึ้น “รถเป็นอะไรหรือเปล่าคะบอส” “สงสัยจะเกเรนะครับเลยสตาร์ทไม่ติด” ปิลันธน์เอ่ยบอกเพราะรถคันนี้อยู่กับเขามาหลายปีแล้ว ส่วนรติชาก็พยายามคิดว่าจะแก้ปัญหาตอนนี้ยังไงดี ระหว่างจอดรถทิ้งไว้ที่นี่แล้วปล่อยให้ปิลันธน์กลับแท็กซี่หรือเธอไปส่งเขาที่บ้าน รติชาสองจิตสองใจในขณะที่ปิลันธน์ก็ยังคงพยายามสตาร์ทรถอย่างต่อเนื่อง“อืม...ผมว่าเสียเวลาเปล่า” เพราะลองหลายครั้งแล้วรถก็ยังนิ่งสนิท สุดท้ายปิลันธน์ก็ถอดใจหาวิธีอื่นกลับบ้าน“ให้ฉันไปส่งบอสที่บ้านไ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 10

    รติชาเดินทางไปสนามบินตั้งแต่เช้าตรู่ เธอเลือกไฟล์ทบินเที่ยวแรกเพื่อไปเชียงรายซึ่งทันทีที่ลงเครื่องก็ได้เจอกับโสภิตาเพราะอีกฝ่ายมารอรับอยู่ก่อนแล้วเช่นกันทั้งสองคนโผเข้ากอดกันอย่างคิดถึงเพราะนานหลายเดือนแล้วที่ไม่ได้เจอหน้า แม้ตอนนี้โสภิตาจะมาเป็นชาวไร่วันๆ ตากแดดตากลมมากกว่าตากแอร์แต่เพื่อนสนิทคนนี้ก็ยังสวยไม่เหมือนคนทำไร่เลยแม้แต่น้อย โสภิตาพารติชาไปกินข้าวก่อนจากนั้นก็ตรงเข้าไร่ พอมาถึงคนชอบกินอะโวคาโดก็หายไปในไร่อะโวคาโดทันทีพอได้กินของอร่อยๆ รติชาก็นึกถึงคนรอบๆ ตัว เธอปีนต้นอะโวคาโดเพื่อขึ้นไปเก็บผลของมันเองกับมือ ค่อยๆ ส่งกลับลงมาให้ลูกน้องของโสภิตาใส่ตะกร้า เมื่อได้จำนวนที่มากพอก็มานั่งแพคว่าแต่ละลังแต่ละกล่องเธอจะส่งไปให้ใครบ้าง เรียกได้ว่ารติชาคือลูกค้ารายใหญ่ของโสภิตาก็คงไม่ผิด“กล่องนี้ของแม่ กล่องนี้ของป้าจันทร์ กล่องนี้ของน้องอาย กล่องนี้ของพี่เอม...” รติชาตบกล่องแต่ละใบที่เธอแปะชื่อที่อยู่ผู้รับไว้ครบแล้ว ซึ่งล้วนแต่เป็นญาติพี่น้องเพื่อนสนิทหรือไม่ก็คนรู้จักกันทั้งนั้น กวาดสายตามองตอนนี้น่าจะมีกล่องที่รอส่งไม่ต่ำว่าสิบใบแน่นอน“กล่องไหนของบอสแกอะ” โสภิตาแกล้งแซวถาม “ยั

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 11

    “ฉันพูดเล่นนี่ก็ดันคิดจริงไปได้”“ขำๆ นะ อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด พี่ชายฉันรักเมียหลงเมียเชื่อฟังเมียออกขนาดนั้นถ้าเจออะไรไม่ดีเดี๋ยวองค์เมียคงปัดเป่าเองแหละ อีกอย่างนอกจากกันซีนฉันเก่งแล้วพี่ฤดียังทำงานเก่งอีกด้วย” เรื่องหน้าที่การงานรติชายอมรับว่าพี่สะใภ้ของเธอเก่ง รวมถึงเก่งเรื่องกันซีนเธอออกจากธุรกิจของครอบครัวด้วยคงกลัวเธอจะไปแย่งส่วนแบ่งมั้งถึงได้พูดว่าเธอยังอ่อนประสบการณ์ต้องให้ออกไปเปิดหูเปิดตาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานกับบริษัทอื่นเสียก่อนแล้วค่อยกลับไปช่วยบริหารงาน เพราะไม่อยากมีปัญหาเธอถึงยอมทำตามมาตลอด แต่ยิ่งยอมเธอก็เหมือนจะถูกขับออกจากนอกจักรวาลไปเรื่อยๆ แรกๆ เธอก็นอยด์แต่ตอนนี้คิดได้มากขึ้นแล้ว เพราะทำงานที่อื่นก็ได้ประสบการณ์มากมายยิ่งยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองได้เร็วเท่าไหร่เธอก็ยิ่งภูมิใจมากเท่านั้น และคิดว่าอาจไม่เหมาะหากอนาคตเธอต้องกลับไปช่วยงานครอบครัว ตรงไหนมันไม่ใช่ที่ของเธอเธอก็แค่ก้าวออกมาก็เท่านั้นเอง “เก่งจริงนั่นแหละไม่อยากนั้นจะขึ้นไปเป็นผู้บริหารคู่กับพี่ชายแกได้ยังไง” “ชายใดเชื่อเมียชายนั้นย่อมเจริญ”“นี่แกแซะพี่ชายตัวเองอยู่เปล่า” โสภิตาเอ่ยถามขำๆ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 12

    “คุณโฉมมีธุระอะไรกับผมหรือครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามลูกค้าคนสำคัญออกไปอย่างสุภาพ “คือโฉมจะจองรถรุ่นใหม่น่ะค่ะ คุยกับเซลล์ก็ไม่มีใครรู้เรื่องรถรุ่นนี้เลยสักคน ความหวังเดียวของโฉมคงเป็นคุณปิลันธน์” นอกจากเรื่องรถที่หยิบมาใช้เป็นข้ออ้างแล้วความหวังเดียวของผู้หญิงวัยสี่สิบต้นๆ ที่ชื่อว่าโฉมฉายเจิดจรัสก็คือปิลันธน์นั่นเอง เธอตามตื้อตามขายขนมจีบชายหนุ่มมาตั้งแต่รู้จักกันใหม่ๆ ส่งสินสอดเป็นค่าตัวรถสปอร์ตก็หลายคัน โดยเธอซื้อกับเขาแบบไม่เกี่ยงราคาด้วยซ้ำ ทว่าสุดท้ายก็ยังซื้อใจเขาไม่ได้เสียที“งั้นคุณโฉมรอผมสักครึ่งชั่วโมงได้ไหมครับ พอดีผมติดประชุม” ปกติปิลันธน์จะไม่ดูแลลูกค้าด้วยตัวเอง ยกเว้นบางเคสที่รีเควสอยากให้เขาลงไปดู นั่นเพราะก่อนหน้านี้ปิลันธน์ควบทั้งตำแหน่งผู้บริหารและพนักงานขายอยู่เป็นปีๆ จึงมีคอนเนคชั่นกับบรรดาลูกค้า“ได้ค่ะได้ โฉมเข้าไปนั่งรอในห้องรับรองเลยนะคะ”“ครับ...เดี๋ยวผมให้เลขานำกาแฟไปเสิร์ฟให้”“ขอบคุณค่ะ” โฉมฉายเจิดจรัสยิ้มกว้างออกมา นี่ถ้าเธอกระโดดกอดปิลันธน์ได้เธอทำไปนานแล้ว แต่ก็ต้องวางฟอร์มความเป็นคนรวยเป็นเศรษฐีเอาไว้แล้วรอให้ชายหนุ่มคุกเข่าเข้ามาหาแทน เพราะเธอทำแบบนั้น

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-26
  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 13

    “เรียกแล้วแต่กู้ภัยบอกจะมาจับให้ก็ตอนที่ผมเห็นตัวงูแล้ว” นั่นคือสิ่งที่บอสหนุ่มได้หลังจากคุยกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเขาก็พอเข้าใจได้ “อ้าว! ต้องเจองูก่อนด้วยเหรอถึงจะมาช่วย แล้วถ้าหาไม่เจอไม่ต้องอยู่กับงูไปตลอดหรือไง แล้วรปภ.หมู่บ้านละคะ บอสบอกไปหรือยัง” ก่อนจะถามถึงรปภ.หมู่บ้านรติชาก็บ่นเรื่องกู้ภัยยาวเหยียด “บอกแล้วครับแต่คงมาไม่ได้เพราะท้องเสียหนัก”“เอ่อ...งั้นบอสรอก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันไปช่วยหางู” เอ่ยบอกเสร็จรติชาก็วางสายจากปิลันธน์ทันที จากนั้นก็คว้ากระเป๋าและกุญแจรถมาไว้ในมือ รีบรุดไปยังรถที่จอดอยู่ในชั้นห้าของคอนโดมิเนียมเมื่อมาถึงก็บึ่งไปหาชายหนุ่มอย่างไม่ลังเล ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงรถของรติชาก็จอดเทียบอยู่ข้างๆ รั้วบ้านของปิลันธน์ “งูยังอยู่ในบ้านไหมคะ” ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่วันนี้อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนสบายๆ สวมรองเท้าแตะสีชมพูเอ่ยถามผู้ชายตัวโตกว่าขึ้นอย่างมาดแมน พร้อมกับรวบผมขึ้นแล้วมัดไว้ตรงหลังศีรษะ สีหน้าจริงจัง“อยู่ครับ” เจ้าบ้านเอ่ยบอกเพราะทันทีที่เห็นงูเลื้อยเข้าไปภายในบ้านเขาก็รีบออกมาแล้วปิดประตูหน้าต่างทุกบานเพื่อขังมันไว้ข้างในเพื่อรอคนมาจับออกไป รติชาอดที่จะขำสีหน้าที

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-26

Bab terbaru

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 21

    ปิลันธน์อดไม่ได้ที่จะฝากรอยจูบไว้บนหัวไหล่มนของรติชานั่นก็เพื่อประทับตราความเป็นเจ้าของและไม่ได้มีแค่จุดเดียว น้ำเสียงยามที่เขาเอ่ยเรียกเธอนั้นแหบพร่าด้วยไฟปรารถนาอันเร่าร้อน ส่งผลให้แก่นกายส่วนล่างพองขยายจนปวดหนึบพร้อมกับพยายามดันตัวเองออกมาเพื่อผงาดนอกกางเกง“ผมต้องการคุณ” ปิลันธน์กระซิบบอกรติชาเสียแหบพร่า ก่อนจะหอมแก้มนุ่มๆ ที่แดงปลั่งของเธอหนักๆ รติชาเม้มริมฝีปากที่บวมเจ่อจากการจูบที่กินเวลายาวนานของตัวเองเล็กน้อย แววตาของเธอสั่นไหวอย่างขัดเขินก่อนจะพยักหน้ารับเพื่ออนุญาตให้เขาทำอย่างที่ใจนั้นต้องการคำอนุญาตของรติชาช่วยทำลายกำแพงความลังเลในใจของปิลันธน์ ชายหนุ่มผละออกจากเธอเล็กน้อยจากนั้นก็จัดการถอดเสื้อผ้าออกแล้วโยนมันทิ้งไปให้ห่างอย่างไม่สนใจ ร่างกายช่วงบนที่เต็มไปด้วยกล้ามของเขาช่างสวยงาม โดยเฉพาะซิกแพคลอนสวยนั่น แต่สิ่งที่สะดุดสายตาของรติชาจนทำให้เธอกลืนน้ำลายลงคอนั่นก็คือช่วงกลางลำตัวของบอสหนุ่ม แม้เขาจะยังสวมอันเดอร์แวร์อยู่แต่สิ่งนั้นก็ดุนเนื้อผ้าออกมาจนมองเห็นรูปร่างของมันได้อย่างชัดเจนรติชาส่ายศีรษะไปมาเพื่อไล่ภาพจินตนาการในหัวให้ออกไป

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 20

    “ไม่อยากรู้ค่ะ”“แต่ผมอยากบอก” ปิลันธน์เงียบไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มกำลังชั่งใจว่าจะพูดความรู้สึกออกไปตอนนี้ดีไหมหรือรอจนกว่ารติชาสร่างเมาเสียก่อน แต่อีกใจก็อยากพูดให้มันหายอึดอัด “เพราะผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอ”“บอสใจร้าย ไปหักอกผู้หญิงสวยๆ แบบนั้นได้ยังไง”“เพราะผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เธอคนนั้นดูจริงใจไม่วางฟอร์ม ทำอะไรที่ผู้หญิงเขาไม่ทำกันตั้งหลายอย่างและที่สำคัญเธอไม่กลัวแมลง” ปิลันธน์สารภาพรักทางอ้อมกับรติชา แต่คนเมาก็แกล้งทำเป็นทิ้งตัวนอนหลับทั้งๆ ที่ใจนั้นเต้นแรงจนกลัวว่าบอสหนุ่มจะได้ยินปิลันธน์รู้ว่ารติชาได้ยินที่เขาพูดทุกคำอย่างชัดเจน แต่ในเมื่อเธอแกล้งหลับเพราะขัดเขินเขาจึงไม่อยากปลุกเธอขึ้นมา บอสหนุ่มใช้จังหวะนั้นนั่งมองใบหน้าที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้าของคนตรงหน้า นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงคนไหนเท่ารติชามาก่อนเธอกำลังทำให้หัวใจเขาเต้นด้วยจังหวะแปลกๆเธอกำลังทำให้ผู้ชายที่ไม่เคยคิดว่าจะรักใคร

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 19

    แต่ยิ่งเห็นว่าใครต่อใครให้ความสนใจเธอมากขึ้นปิลันธน์ก็เกิดอาการหวง พอหวงมากเข้าก็ดื่มเหล้าข่มอารมณ์ตัวเองไปหลายต่อหลายแก้วเช่นกัน ขณะที่หูก็พยายามฟังว่าโต๊ะของรติชากำลังคุยกันเรื่องอะไร แต่จู่ๆ ก็มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาชนแก้วกับเขา“คุณแองจี้”“บังเอิญจังเลยนะคะ ที่เราได้เจอกันที่นี่” แองจี้คือหนึ่งในลูกค้าวีไอพีของปิลันธน์ เธอเองก็มาพักผ่อนที่รีสอร์ตแห่งนี้และบังเอิญรู้ว่าบริษัทชายหนุ่มเองก็จัดทริปประจำปีและเข้าพักเช่นกัน จึงถือวิสาสะเดินเข้ามาหาทั้งๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง“ครับ...คุณแองจี้มาพักผ่อนหรือครับ”“ใช่ค่ะแองจี้มาพักผ่อนกับเพื่อนๆ เราสองคนไปนั่งดื่มกันตรงริมชายหาดดีไหมคะ ตรงนี้เสียงดังมากแองจี้แสบหูไปหมดแล้ว” แองจี้เอ่ยชวน แม้ปิลันธน์จะอยากปฏิเสธแต่เพราะเธอคือลูกค้ากระเป๋าหนักและคิดว่าไปคุยกันไม่นานก็คงแยกย้าย สุดท้ายชายหนุ่มจึงตอบรับคำเชิญนั้นรติชาหันไปเห็นจังหวะที่ปิลันธน์กำลังเดินออกไปกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้าพอดี ซึ่งผู้หญิงคนนั้นสวยและเซ็

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 18

    “ขอบคุณค่ะ”“ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับจากนั้นก็อาสาเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างให้ เมื่อเสร็จทั้งสองก็กลับเข้าการแข่งแรลลี่อีกครั้ง แม้ตอนนี้จะอยู่รั้งท้ายก็ตามแต่ดูเหมือนผลแพ้ชนะจะไม่สำคัญเท่ากับการได้รู้จักตัวตนของอีกฝ่าย ถึงอย่างนั้นปิลันธน์ก็ยังคงไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมาอย่างชัดเจน ส่วนรติชาก็ยังคงปกติไม่ได้แสดงท่าทางเชื้อเชิญใดๆ เช่นกัน ทั้งๆ ที่ในใจของทั้งคู่นั้นค่อยๆ เชื่อมเข้าหากันทีละนิดช่วงพักเบรกจู่ๆ รติชาก็เผลอมองหาปิลันธน์อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน พอรู้ว่าเขากำลังทำอะไรก็เอาแต่มองอยู่แบบนั้น กระทั่งส่ายหน้าไล่ความรู้สึกบ้าๆ ของตัวเองให้ออกไปจากสมองพร้อมคว้าโทรศัพท์ออกมากดโทรหาโสภิตา“ฉันว่าตัวเองต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ”“ไม่เพี้ยนหรอก แกกำลังปิ๊งบอสปิลันธน์อยู่ต่างหาก” คนโสดอีกหนึ่งคนเอ่ยอย่างรู้ใจรติชา เพื่อนสนิทเธอคนนี้เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจสักเท่าไหร่หรือต่อให้รู้ใจตัวเองก็ยังต้องการกองหนุน“ไม่...หรอก...มั้งแก”

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 17

    หนึ่งอาทิตย์ต่อมาทริปท่องเที่ยวของบริษัทก็เกิดขึ้น โดยครั้งนี้มีการแบ่งกลุ่มเพื่อแข่งแรลลี่หาผู้ชนะที่จะได้เงินรางวัลถึงหนึ่งแสนบาท รติชาลงชื่อเข้าร่วมแข่งอย่างไม่ลังเลแต่กลับไม่มีคนมาจับคู่กับเธอด้วยเหตุเกรงใจสายตาของบอสหนุ่ม นั่นจึงเปิดโอกาสให้ปิลันธน์ลงมาแจมแต่ก็วางฟอร์มว่าเขาไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่จุดสตาร์ทคือที่หน้าบริษัทส่วนจุดเริ่มต้นนั้นคือหน้าโรงแรมที่พัก โดยมีทั้งหมดสิบฐานและต้องเก็บแต้มแต่ละฐานให้ได้มากที่สุด รติชาจริงจังกับกิจกรรมทุกๆ ฐานเธอนึกสนุกแต่ไมได้หวังเงิน ส่วนปิลันธน์ก็ใจเย็นเป็นน้ำแข็ง บางจังหวะยังแกล้งขับรถหลงทาง“บอส”“มองผมแบบนั้นทำไม ผมไม่ได้ตั้งใจพาคุณหลงนะ” คนไม่ได้ตั้งใจรีบออกตัว รถวันนี้ที่เขาใช้คือรถสปอร์ตคันสวยคู่ใจที่รติชาเคยขับรถมาชนท้ายจนต้องส่งไปซ่อมนั่นเอง “ก็ฉันบอกแล้วนี่ค่ะว่าให้บอสเลี้ยวซ้ายๆ บอสจะเลี้ยวขวามาทำไม” จีพีเอสสาวหน้างอเพราะฉุนชายหนุ่มเล็กน้อย เธอนั่งมองแผนที่แบบกระดาษให้ปิลันธน์มาตลอดทางจนตาล้าไปหมด เพราะการแข่งแรลลี่ครั้งนี้ห้ามใช้จีพีเอสจากโทรศัพท์มือถือหรือที่ติดมาในรถยนต์อย่างเด็ดขาด“ผมขอโทษๆ เดี๋ยวกลับรถให้” ปิลันธน์เอ่ยบอกอ

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 16

    ในขณะที่ปิลันธน์เองก็คิดแบบเดียวกับเธอ บอสหนุ่มนั่งจิบวิสกี้ไปด้วยพร้อมกับคิดเรื่องตัวเอง ความรู้สึกที่เขามีให้รติชามันอาจเกิดขึ้นเพียงแค่ฝ่ายเดียว ที่คิดแบบนั้นเพราะเท่าที่ได้ทำงานด้วยกันหรือจังหวะที่มีโอกาสได้ไปไหนมาไหนนอกเหนือจากเวลางานตามลำพัง เขามองไม่ออกจริงๆ ว่ารติชารู้สึกอะไรกับเขาแต่เพราะเธอเป็นแบบนั้นเขาจึงยิ่งต้องใจเย็น ไม่บุ่มบ่ามจนทำให้เธอระแวงก่อนครบสามเดือนมีโปรเจกต์ใหญ่ที่รติชาต้องรับผิดชอบ นั่นคือทริปท่องเที่ยวประจำปีของบริษัท โดยก่อนลาคลอดอรสาทำไว้แล้วบางส่วนรติชาจึงเข้ามาสานต่อให้ลุล่วง ทางปิลันธน์ยกให้เธอเป็นแม่งานซึ่งตัวรติชาเองก็อยากใช้โปรเจกต์นี้ส่งท้ายการทำงานที่นี่เช่นกัน บอสหนุ่มรู้ว่าเหลือเวลาที่ตัวเองจะได้ทำงานกับเลขาอย่างรติชาอีกไม่นาน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรหากจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปในทิศทางอื่น สิ่งเดียวที่เขากังวลตอนนี้คือเธอยังคงยืนกรานที่จะไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ โปรเจกต์ส่งท้ายทำให้ตารางงานชีวิตของรติชาค่อนข้างยุ่ง เพราะอยากทำให้พนักงานเกือบร้อยชีวิตประทับใจ หัวหน้าแผนกทุกคนต่างเสนอแนะกิจกรรมที่พวกเขาอยากทำ บางอย่างก็ได้รับการอนุมัติแต่บางอย่างก็ถูก

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 15

    ทุกวันทำงานของรติชาช่างมีอะไรให้ทำและลุ้นตลอดเวลา บางวันต้องออกไปประชุมกับปิลันธน์ที่กินเวลาแทบทั้งวัน บางวันก็ว่างจนนั่งตบยุงรองาน บางวันก็ต้องจับเจ้าตั๊กแตนตำข้าวที่แอบเข้ามาในห้องทำงานของชายหนุ่มไปปล่อย รติชามองออกว่ามันคนละตัวกันซึ่งไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมมันถึงขยันเข้ามากันนักพอนั่งนับนิ้วดูแล้วเธอก็ทำงานที่นี่มาเกือบสองเดือน เวลามันผ่านไปเร็วจนรติชาเองยังนึกใจหายและพลอยทำให้คิดถึงเพื่อนรุ่นพี่ขึ้นมา หลังเลิกงานวันนั้นเธอจึงเข้าไปเยี่ยมอรสาที่บ้าน แม้ก่อนหน้าจะโทรคุยโทรถามไถ่กันตลอดแต่ก็ไม่เท่ากับการได้เจอตัวจริง“สวัสดีค่ะน้องอุ่น” รติชาเอ่ยทักทายหลานสาวตัวน้อยที่ตอนนี้อ้อแอ้อยากพูดอยากคุยกับทุกๆ คนไปหมด “อ้อแอ้แบบนี้อยากคุยกับพี่เหรอคะ” คำแทนตัวเองว่าพี่ของรติชาทำให้คุณแม่มือใหม่อย่างอรสาหัวเราะออกมา เพราะดูเหมือนใครๆ ก็อยากเป็นพี่ของลูกสาวเธอ“ชีวิตตอนนี้เป็นไงบ้างปิ่น”“เรื่อยๆ ค่ะ ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน ซึ่งบอสก็ยังเป็นบอส เยอะแยะเรื่องงานสารพัด”“นั่นแหละคือคุณปิลันธน์”“แต่เพราะเขาเป๊ะและเยอะแบบนั้นมั้งคะธุรกิจถึงได้โตวันโตคืน”“ใช่จ้ะ กว่าจะมีวันนี้บอสก็เริ่มทุกอย่างม

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 14

    “อืม...ไม่น่าจะใช่นะคะ แต่ฉันขอหาข้อมูลก่อน” เอ่ยบอกเสร็จรติชาก็เอาสีและลายของงูที่ตอนนี้ตายแล้วไปเสิร์ชหาชื่อมันในอินเตอร์เน็ต หาไปหามาจึงรู้ว่ามันคืองูเขียวพระอินทร์ “งูเขียวพระอินทร์ค่ะ มีพิษแต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงมาก” “ชื่อเพราะแต่ไม่น่าคบสักเท่าไหร่” คำพูดของปิลันธน์ทำให้รติชาหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่เธอจะหันไปจัดการฝังซากงูให้เรียบร้อย ท่าทางจับพลั่วขุดดินของเธอมันอิมแพคเข้าที่หัวใจของบอสหนุ่มอย่างจัง ให้ตายสิทำไมเขาต้องแพ้ทางผู้หญิงแบบนี้ด้วยเมื่อฝังงูเสร็จรติชาก็ยืนเท้าสะเอวมองแถวต้นไทรเกาหลีที่ปลูกไว้ริมรั้วบ้านของปิลันธน์ เพราะทุกต้นใบของมันร่วงจนเกือบหมดแล้วที่ไม่ร่วงก็เหลืองรอวันร่วงโรยเช่นกัน“บอสให้คนมาดูสวนบ้างหรือเปล่าคะ”“เปล่าครับ ทำไม”“ต้นไทรเกาหลีมันกำลังจะตายนะคะ”“ไทรเกาหลีคือต้นไหนครับ” ปิลันธน์เอ่ยถามอย่างงุนงงเพราะวันๆ เขานั้นทำแต่งานจึงไม่มีเวลาสนใจเรื่องต้นไม้รอบๆ บ้านสักเท่าไหร่ “ต้นที่บอสปลูกไว้ติดรั้วพวกนี้ไงคะ” รติชาชี้นิ้วไปยังต้นไม้ที่ว่า “อ้อ...ต้นที่ทางโครงการให้มาตอนซื้อบ้าน งั้นพรุ่งนี้เช้าคุณปิ่นไปช่วยผมเลือกต้นไม้ได้ไหมครับ พอดีผมไม่มีความรู้เรื่

  • บอสขา...อย่าพึ่งมารัก   บทที่ 13

    “เรียกแล้วแต่กู้ภัยบอกจะมาจับให้ก็ตอนที่ผมเห็นตัวงูแล้ว” นั่นคือสิ่งที่บอสหนุ่มได้หลังจากคุยกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเขาก็พอเข้าใจได้ “อ้าว! ต้องเจองูก่อนด้วยเหรอถึงจะมาช่วย แล้วถ้าหาไม่เจอไม่ต้องอยู่กับงูไปตลอดหรือไง แล้วรปภ.หมู่บ้านละคะ บอสบอกไปหรือยัง” ก่อนจะถามถึงรปภ.หมู่บ้านรติชาก็บ่นเรื่องกู้ภัยยาวเหยียด “บอกแล้วครับแต่คงมาไม่ได้เพราะท้องเสียหนัก”“เอ่อ...งั้นบอสรอก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันไปช่วยหางู” เอ่ยบอกเสร็จรติชาก็วางสายจากปิลันธน์ทันที จากนั้นก็คว้ากระเป๋าและกุญแจรถมาไว้ในมือ รีบรุดไปยังรถที่จอดอยู่ในชั้นห้าของคอนโดมิเนียมเมื่อมาถึงก็บึ่งไปหาชายหนุ่มอย่างไม่ลังเล ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงรถของรติชาก็จอดเทียบอยู่ข้างๆ รั้วบ้านของปิลันธน์ “งูยังอยู่ในบ้านไหมคะ” ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่วันนี้อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนสบายๆ สวมรองเท้าแตะสีชมพูเอ่ยถามผู้ชายตัวโตกว่าขึ้นอย่างมาดแมน พร้อมกับรวบผมขึ้นแล้วมัดไว้ตรงหลังศีรษะ สีหน้าจริงจัง“อยู่ครับ” เจ้าบ้านเอ่ยบอกเพราะทันทีที่เห็นงูเลื้อยเข้าไปภายในบ้านเขาก็รีบออกมาแล้วปิดประตูหน้าต่างทุกบานเพื่อขังมันไว้ข้างในเพื่อรอคนมาจับออกไป รติชาอดที่จะขำสีหน้าที

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status