Share

บทที่ 88

Author: เซียงปู้อี๋
last update Last Updated: 2024-08-05 19:07:42
เธอไม่ควรหวังอะไรอีกแต่ควรทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขากลับไปที่จุดเริ่มต้น นั่นคือสิ่งที่เธอควรทำ

เย่หนานโจวรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดดูปกติแต่ก็ไม่ปกติในเวลาเดียวกัน เมื่อมองใบหน้าซีดเซียวของเธอ เขาก็ไม่สามารถถามอะไรได้มากนักจึงพูดว่า “คราวหน้าอย่าดื้อวิ่งออกไปคนเดียวแบบนี้ อย่างน้อยต้องพกโทรศัพท์และมีคนไปด้วย จะได้ตามหาเธอได้ทันที”

เวินหนี่ฝืนยิ้ม เขายังจะแสร้งทำเป็นห่วงอะไรอีกล่ะ เธอคิดในใจ

ทำเป็นห่วงใยเธอ เพื่อชดเชยความรู้สึกผิดที่มีต่อเธองั้นหรือ? เธอควรจะร่วมแสดงไปกับเขาด้วยไหม?

“รู้แล้วล่ะค่ะ ฉันจะทำตามที่คุณบอก” เวินหนี่ตอบอย่างเชื่อฟัง

เย่หนานโจวลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามเธอ ดวงตาลึกซึ้งของเขามองสำรวจเธอหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่มีปัญหาอื่นอีก

ก่อนที่ชายหนุ่มจะถามขึ้นอีกครั้ง “เวินหนี่ ยังจำเรื่องคืนนั้นได้ไหม?”

เวินหนี่ไม่แน่ใจ “คืนไหนเหรอคะ?”

“คืนที่ฉันไปงานเลี้ยงและเมา”

แม้เสียงของเย่หนานโจวจะเรียบเฉย แต่ก็ทำให้เวินหนี่รู้สึกตึงเครียดขึ้นมา เธอจ้องมองเย่หนานโจวอย่างไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

หรือว่าเขารู้เรื่องอะไรบางอย่างแล้ว?

หรือว่าเขามาถามห
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 89

    “เวินหนี่” เย่หนานโจวเรียกชื่อเธอเวินหนี่เงยหน้าขึ้น “อะไรคะ?”“ผู้หญิงคืนนั้นก็คือเธอ”ร่างกายของเวินหนี่แข็งทื่อไปชั่วขณะไม่สามารถตอบสนองได้ตามปกติ แต่เธอก็ฝืนยิ้มออกมา “คุณเย่ พูดเล่นเก่งจริง ๆ ฉันไปถึงที่เกิดเหตุในวันถัดมา ฉันยังให้หลี่ถิงเอาเสื้อผ้าไปให้คุณด้วย ถ้าเป็นฉัน คุณเย่คงจะรู้ตั้งนานแล้ว ฉันเองก็หวังว่าจะเป็นฉัน บางทีเราอาจจะมีลูกด้วยกันไปแล้วก็ได้”ท่าทางสบาย ๆ ของเธอทำให้เย่หนานโจวไม่แน่ใจขึ้นมา แต่ท่าทีของเธอที่ไม่สนใจ ทั้งที่เขาเป็นสามีของตนและการที่เขาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นไม่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอะไรเลยน้ำเสียงของเขาเย็นชาลง “งั้นเธอต้องไปสืบให้ชัดเจน!”พูดจบ เย่หนานโจวก็เดินออกจากห้องพักผู้ป่วยรอยยิ้มของเวินหนี่จางหายไปทันทีที่เขาออกไปแล้ว เธอตกอยู่ในความสงสัยในตัวเองยังไม่ทันที่เวินหนี่จะได้คิดอะไรต่อ หมอก็เดินเข้ามาจากข้างนอก เห็นว่าในห้องมีเพียงเวินหนี่คนเดียว จึงถามว่า “ญาติของคุณอยู่ไหนครับ?”เวินหนี่ได้สติกลับมา เงยหน้าขึ้นตอบ “คุณหมอ มีอะไรก็พูดกับฉันได้เลยค่ะ”หมออ่านผลตรวจแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณเวิน คุณรู้ไหมว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์?”คำพูดน

    Last Updated : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 90

    เวินหนี่จำได้ว่าลู่ม่านเซิงร้องไห้และวิ่งออกไปในวันนั้น แต่คราวนี้กลับมายิ้มให้เธอได้อีกครั้งลู่ม่านเซิงมาที่บริษัทและยังยิ้มออกมาได้ แสดงว่าต้องมีเรื่องที่ทำให้เธอมีความสุขแน่ ๆ เวินหนี่ไม่อยากเสี่ยงทำให้ตัวเองเสียหน้า จึงเลือกที่จะไม่สนใจเธอลู่ม่านเซิงไม่โกรธแต่ยิ้มออกมาแทน ขณะที่เวินหนี่กำลังจะเข้าไปในลิฟต์ ลู่ม่านเซิงก็พูดว่า “เวินหนี่ ฉันรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะไม่ใช่คุณผู้หญิงแล้ว ขอให้เธอมีช่วงเวลาที่ดีไปอีกไม่กี่วันก็ไม่มีอะไรเสียหายหรอก ยังไงสุดท้ายเย่หนานโจวก็จะทิ้งเธออยู่ดี”เมื่อประตูลิฟต์ปิดลงพร้อมด้วยการที่เวินหนี่เห็นรอยยิ้มแห่งชัยชนะของลู่ม่านเซิง ราวกับเธอรู้อยู่แล้วว่าเวินหนี่จะกลายเป็นเหยื่อของการแต่งงานเวินหนี่มีสีหน้าไม่สู้ดี กำหมัดแน่นแล้วมองไปที่ท้องของตัวเองโดยไม่รู้ตัว เมื่อคิดถึงลูกในท้อง เธอก็ยังคงต้องมีความหวังเมื่อเดินไปที่สำนักงาน ทุกคนกำลังทำงานอยู่ เธอไม่ได้กลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แต่ตรงไปที่ห้องทำงานของเย่หนานโจวทันทีเย่หนานโจวกำลังประชุมทางโทรศัพท์ เมื่อเห็นเวินหนี่เข้ามาเขาจึงหยุดประชุมชั่วคราว “มีอะไรหรือเปล่า?”เวินหนี่พูดตรง ๆ “ฉันมี

    Last Updated : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 91

    ท่าทางของเธอทำให้เย่หนานโจวขมวดคิ้วแน่น เขาชักมือกลับและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”เวินหนี่มองเขาแต่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เธอรู้สึกต่อต้านเขา ทำให้เย่หนานโจวรู้สึกหงุดหงิดจนแสดงสีหน้าเย็นชาออกมา “ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกไปเถอะ”เวินหนี่ใช้เวลาสักพักเพื่อสงบสติอารมณ์จากเหตุการณ์เมื่อครู่ หลังจากมีลูกเธอรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป เธอจะไม่อนุญาตให้เขาทำร้ายลูกของเธอกับเขาได้เวินหนี่ลุกขึ้น ถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วพูดกับเย่หนานโจวด้วยความเคารพ “เรื่องที่คุณมอบหมาย ฉันจะจัดการให้เรียบร้อยค่ะ คุณเย่วางใจได้!”พูดจบ เธอก็หันหลังเดินออกจากห้องทำงานไปทันทีคำพูดของเธอทำให้เย่หนานโจวไม่พอใจอย่างมาก ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกขัดใจไม่นานเผยชิงก็เข้ามาเตือน “คุณเย่ การประชุมยังดำเนินอยู่...”“ไสหัวไป!” เย่หนานโจวตะโกนออกไป…เมื่อเวินหนี่เดินออกมาแข้งขาของเธออ่อนจนแทบทรุด เธอรู้ว่าไม่สามารถทำอะไรตามอารมณ์ได้ เพราะหากพลาดแม้แต่ก้าวเดียว เธออาจจะตกลงไปในห้วงลึกของความทุกข์ทรมานเธอต้องมีสติและไม่สามารถบอกเย่หนานโจวได้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ คำเตือนของเขาไม่ใช่ไม่มีมูล ในวันแ

    Last Updated : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 92

    “โจวเสี่ยวหลินค่ะ”เด็กสาวที่ชื่อโจวเสี่ยวหลินมีผมยาว หน้าตาอ่อนหวานและบอบบาง เธอดูผอมและขี้อาย รูปร่างคล้ายกับเวินหนี่ แต่หน้าตาคล้ายลู่ม่านเซิง ใบหน้าใสซื่อและไร้เดียงสา ซึ่งเป็นประเภทที่ผู้ชายมักจะปฏิเสธไม่ได้เจ้าของร้านแนะนำให้เวินหนี่ฟังว่า “นี่คือเด็กใหม่ของเรา หน้าตาสวย กำลังอยู่ในช่วงฝึกงาน ยังไม่เคยทำงาน บ้านอยู่ชนบท แม่ป่วยอยู่ที่บ้านเกิด ต้องการเงินด่วน ประวัติของเธอสะอาดมาก”เวินหนี่คิดว่าโจวเสี่ยวหลินเหมาะสมที่สุด เธอดูอ่อนหวาน สวยงาม และสามารถกระตุ้นความรู้สึกปกป้องในตัวผู้ชาย ซึ่งน่าจะเป็นประเภทที่เย่หนานโจวชอบ“เอาคนนี้แหละ” เวินหนี่กล่าวโจวเสี่ยวหลินยังไม่รู้ว่าพวกเขาเรียกเธอมาเพื่ออะไร ดวงตาเต็มไปด้วยความกลัวและกังวล เธอพูดตะกุกตะกักว่า “พวกคุณจะทำอะไรเหรอคะ? ฉันเพิ่งมาใหม่ แต่ฉันขายศิลปะไม่ขายตัว ฉันจะไม่ขายร่างกายของตัวเองเด็ดขาด”เวินหนี่เข้าใจความกังวลของเธอ จึงพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ฉันแค่ต้องการให้เธอช่วยฉันทำบางอย่าง เมื่อถึงเวลา ฉันจะให้เงินเธอจำนวนหนึ่ง ฉันไม่บังคับ แต่ถ้าเธอยินดีช่วย ก็สามารถติดต่อฉันได้”เธอยื่นนามบัตรให้โจวเสี่ยวหลินโจวเสี่ยวหลินม

    Last Updated : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 93

    “เด็กสาวคนนี้ทั้งสวยและยังอายุน้อย ผู้ชายที่ไหนจะต้านทานเสน่ห์แบบนี้ได้” ถังเยาพูดด้วยความกังวล ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่มีใครไม่ชอบเด็กสาวที่สวยแบบนี้ แม้จะมีความหักห้ามใจแต่เมื่อเห็นเด็กสาวที่เย้ายวนก็อาจจะอดใจไม่ไหวในสถานการณ์ตอนนี้ เวินหนี่ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว“ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” เวินหนี่พยายามฝืนยิ้ม “ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนั้น ฉันก็ต้องทำ ไม่อย่างนั้นฉันจะต้องเสียใจที่ไม่ได้ตัดสินใจทำในวันนี้”เวินหนี่ไม่กล้าเสี่ยงเอาลูกในท้องมาเดิมพัน ถังเยาไม่ค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของเธอ แต่เธอเชื่อว่าเวินหนี่ต้องมีเหตุผลที่ไม่สามารถพูดได้ถังเยาจึงไม่ถามอะไรอีก ถ้าเวินหนี่อยากบอก เธอคงจะบอกเอง เพียงแค่ถังเยาเห็นว่าทั้งสองเพิ่งกลับมาดีกันได้ไม่กี่วันก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แสดงว่ามันต้องเป็นเรื่องร้ายแรงมากถังเยาจึงรู้สึกเห็นใจเวินหนี่ไมน้อยถ้าไม่มีเย่หนานโจวเป็นอุปสรรค ชีวิตของเธอก็คงจะมีความสุขถังเยาเตือนอีกข้อหนึ่งว่า “เธอก็ต้องระวังตัวด้วย ไม่ใช่แค่เย่หนานโจว เด็กสาวคนนั้นก็ควรระวังด้วย ดูภายนอกอาจจะไม่มีพิษภัย แต่ใครจะรู้ว่าเธอมีความทะเยอทะยานหรือเปล่า”เวินหนี่คิดว่าตอนนั้นคงจะหย่ากั

    Last Updated : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 94

    ทั้งสองหัวเราะออกมาถังเยามีประชุมต่อ หลังจากคุยกันได้สักพักพวกเธอก็แยกย้ายกันไปเวินหนี่ไม่ได้กลับบ้าน เธอรู้สึกว่างเปล่าในหัวไม่รู้จะคิดอะไรดีจึงเดินไปเรื่อย ๆ ตามสัญชาตญาณจนไปถึงโรงเรียนมัธยมต้นของตัวเองเวลาผ่านไปกว่าสิบปีแล้วตั้งแต่เธอเรียนมัธยมต้น สังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก โรงเรียนก็เปลี่ยนแปลงไปมากเช่นกัน มีการปรับปรุงใหม่ ขยายพื้นที่ และสร้างอาคารเพิ่มอีกหลายหลังแต่ป้ายหินที่หน้าประตูโรงเรียนนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา มันสลักคำว่า ‘โรงเรียนมัธยมหมิงหลาง’ นี่คือโรงเรียนมัธยมต้นของเธอและเป็นที่ที่เธอได้พบกับเย่หนานโจวเป็นครั้งแรกเธอจำได้เสมอว่าเป็นวันที่ 13 สิงหาคม วันที่เธอเกือบตายตอนนั้นเป็นช่วงกลางวันหลังเลิกเรียน เธอเดินออกจากโรงเรียนพร้อมกับนักเรียนคนอื่น ๆ กลุ่มหนึ่ง ทันใดนั้นก็มีโจรสวมหมวกไอ้โม่งสองสามคนเดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่บนไหล่และถือปืนอยู่ในมือในยุคนั้นสภาพแวดล้อมค่อนข้างวุ่นวาย ปืนเป็นของต้องห้าม แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความโลภของมนุษย์ได้ โจรกลุ่มนั้นจับตัวนักเรียนไปหลายคน และหนึ่งในนั้นก็คือเธอโจรคนหนึ่งเข้ามาจับคอเธอจากกลุ่มนักเรียน เ

    Last Updated : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 95

    ในตอนนั้นเธอมีความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องหาตัวเด็กหนุ่มที่ช่วยชีวิตเธอให้ได้และจะไม่ยอมให้ตัวเองจมอยู่ในความทรงจำนั้นตลอดไปเธอพักการเรียนไปครึ่งปี และเมื่อกลับมาเรียนอีกครั้ง เธอก็พยายามสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับเด็กหนุ่มคนนั้นจนในที่สุดก็รู้ว่าเขาเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดในเมือง และชื่อของเขาคือเย่หนานโจวถึงแม้ว่าในชื่อของเขาจะไม่มีตัวอักษร ‘จ้าน’ แต่ทุกคนกลับเรียกเขาว่า ‘อาจ้าน’ซึ่งเธอรู้สึกแปลกใจ แต่ก็อาจเป็นชื่อเล่นของเขาก็ได้เธอพยายามอย่างหนักจนสอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่เขาเรียนได้แต่เธอก็เฝ้ามองเขาอยู่เงียบ ๆ จากเบื้องหลังโดยไม่เคยเข้าไปทักทายหรือรบกวนเขาเลยเขาที่เล่นบาสเก็ตบอลเก่งมากเขาที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยมเขาที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยเขาช่างยอดเยี่ยมขนาดนั้น ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควร ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่มองดูเขาอย่างเงียบ ๆ เท่านั้นถึงแม้ว่าเธอจะเดินผ่านเขา เขาก็ไม่เคยหันมามองเลยแม้แต่น้อย เขาลืมไปนานแล้วว่าเคยช่วยชีวิตเธอไว้"เวินหนี่"ในขณะที่กำลังหวนคิดถึงอดีตที่มีทั้งความเศร้า ความตื่นเต้น และความรัก อยู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกชื่อขัดจังหวะความคิ

    Last Updated : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 96

    “ไม่ต้องเกรงใจครับ การตอบแทนบ้านเกิดเป็นเกียรติของผม ยิ่งเป็นโรงเรียนเก่าของผมด้วย” ชายหนุ่มตอบผู้อำนวยการหวังพอใจมาก นักเรียนของเขาประสบความสำเร็จเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนเก่าเวินหนี่ทำงานมาหลายปี แทบไม่ได้กลับไปเยี่ยมโรงเรียนเก่าเลย เมื่อเจอพวกเขาก็ไม่สามารถเดินหนีได้ จึงทำได้แค่ยืนฟังเงียบ ๆลู่เซินบริจาคเงินห้าสิบล้านให้กับโรงเรียนเก่า เธอรู้สึกชื่นชมเขาอยู่ในใจ เขาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแต่ก็ไม่ลืมทุกอย่างเกี่ยวกับบ้านเกิดถ้าเป็นคนอื่น เมื่อพัฒนาตัวเองจนประสบความสำเร็จที่ต่างประเทศก็คงจะไม่กลับมา“เวินหนี่ ได้ยินว่าตอนนี้เธอทำงานอยู่ที่เย่กรุ๊ป” ผู้อำนวยการหวังหันมามองที่เวินหนี่เวินหนี่อึ้งไปเล็กน้อยผู้อำนวยการหวังถามอย่างห่วงใย “เธอสบายดีไหม?”เวินหนี่แปลกใจ “ครูหวังรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอคะ?”เขามีนักเรียนมากมาย คงจะจำไม่ได้ทุกคนว่าทำอะไรอยู่ผู้อำนวยการหวังพูดว่า “ฉันเจอคุณเย่หลายครั้ง เขาพูดถึงเธอ เลยรู้ว่าเธอทำงานที่เย่กรุ๊ป แต่ไม่เคยเจอเธอเลย”เวินหนี่ติดตามเย่หนานโจวมานาน แต่ไม่รู้ว่าเขายังมีการติดต่อกับผู้อำนวยการหวังอยู่ “อาจจะเป็นเพราะบังเอิญฉันไม

    Last Updated : 2024-08-05

Latest chapter

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status