แชร์

บทที่ 43

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-05 19:07:42
เติ้งจวนกระตุ้นพวกเขา เปิดโอกาสให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง

เวินหนี่ถูกเธอผลักเข้าไปในห้องครัว

เวลานี้เย่หนานโจวก็ยังไม่หยุดงานในมือ เขาจัดเตรียมส่วนผสมทั้งหมดอย่างเป็นระเบียบ

ในความทรงจำของเธอ เย่หนานโจวไม่มีทางทำสิ่งเหล่านี้

“คุณมาได้ยังไงคะ?”

เย่หนานโจวตอบ “ก็เธอไม่รับสายฉัน ฉันเลยต้องมาถามคุณแม่ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนน่ะสิ”

เวินหนี่ช่วยเขาล้างผัก “ฉันจำได้ว่าคุณไม่เคยทำอะไรแบบนี้”

เย่หนานโจวหันมาพลางทำหน้าทะเล้น “เอาใจพ่อตาแม่ยาย”

“อย่าล้อเล่นน่ะ”

“ทำไมถึงไม่รับสายฉัน?” เย่หนานโจวถามขึ้นอีกครั้ง

เวินหนี่ชะงักไปครู่หนึ่ง “ฉันกลัวว่าจะไปรบกวนเวลาของคุณกับลู่ม่านเซิง”

เย่หนานโจวหัวเราะเสียงดัง

เวินหนี่ถาม “คุณหัวเราะอะไร?”

“หึงเหรอ?”

เวินหนี่ปฏิเสธทันที “เปล่าค่ะ นี่ไม่ใช่แค่ครั้งแรกหรือสองครั้งสักหน่อย ถ้าให้หึงทุกครั้ง ฉันคงเจ็บปวดใจตายไปนานแล้ว”

เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไร แต่เห็นน้ำกระเซ็นใส่ใบหน้าของเธอ เดิมทีเวินหนี่คิดจะเช็ดมันด้วยแขนเสื้อตัวเอง แต่เย่หนานโจวห้ามเธอเอาไว้ เขาเช็ดมือตัวเองจนสะอาด ก่อนจะหยิบเอาทิชชู่มาเช็ดใบหน้าให้เธอ

เวินหนี่สัมผัสได้ถึงการดูแลอย่างใส
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 44

    ลู่เซินประหลาดใจและถามขึ้นว่า “ประธานเย่ก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอครับ?”ทุกสายตามองไปที่เย่หนานโจวโดยไม่รู้ว่าควรตอบคำถามนี้อย่างไรเวินหนี่พูดขึ้นทันที “วันนี้ประธานเย่มาเยี่ยมบ้านของเราน่ะค่ะ ลู่เซิน คุณรีบนั่งลงก่อนสิคะ”เติ้งจวนก็พูดต่อว่า “ลู่เซิน ป้ากำลังทำอาหาร เธอก็อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิ อย่าพึ่งกลับล่ะ”“ครับ ขอบคุณครับคุณป้า” ลู่เซินตอบอย่างอย่างสุภาพโชคดีที่โซฟาใหญ่มากพอสำหรับพวกเขา ลู่เซินนั่งอยู่เยื้อง ๆ ตรงข้ามกับเย่หนานโจวเวินจ้าวและลู่เซินกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องในอดีตตอนนี้เองเวินหนี่พึ่งจะได้รู้ว่าสมัยเรียนลู่เซินอาศัยอยู่ไม่ไกลจากพวกเธอ แถมเขายังสนิทสนมกับพ่อแม่ของเธอมากอีกด้วยทำไมเธอถึงไม่เคยรู้เลยความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดนี้เมื่อเย่หนานโจวได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาก็เย็นชาทันทีและดูไม่มีความสุขเอามาก ๆมานั่งฟังพวกเขาพูดคุยกันถึงเรื่องในอดีตที่นี่ ทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนนอกบนโต๊ะอาหาร ลู่เซินใส่ใจเวินหนี่เป็นพิเศษ เขารินนมให้เธอหนึ่งแก้ว“นี่ครับ”เวินหนี่กล่าว “ขอบคุณค่ะ”เย่หนานโจวมองและถามขึ้นเสียงเย็น “คุณลู่ก็รู้ว่าเวินหนี่ชอบดื่มนมงั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 45

    คำพูดของเขาเด็ดขาด และแฝงไปด้วยการแสดงความเป็นเจ้าของทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าผู้ชายที่ชื่อลู่เซินคนนี้ชอบเวินหนี่ และก็มักจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอเช่นนั้นแล้วเย่หนานโจวก็ต้องทำให้เขาได้รู้ว่าตนไม่มีโอกาสลู่เซินมองตรงไปที่เย่หนานโจว สายตาของทั้งสองเคร่งขรึมจนเกิดกระแสไฟกลางอากาศ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่เซินก็พูดขึ้นว่า “ประธานเย่พูดเร็วเกินไป”เขาวางตัวอย่างเหมาะสม ไม่ได้ดูโกรธเคืองอะไร เพียงแค่จิบน้ำแล้วพูดขึ้นอย่างแฝงความหมาย “ไม่มีใครสามารถคาดเดาอนาคตได้ หากโชคชะตามาถึง อะไรก็หยุดยั้งไม่ได้หรอกนะครับ”เมื่อได้ยินแบบนี้ เย่หนานโจวก็ยิ่งหงุดหงิด แต่เขาก็จับมือเวินหนี่อย่างมีสติเวินหนี่สัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเขา นับตั้งแต่ลู่เซินมาถึง เขาก็ดูผิดปกติไปและเอาแต่มุ่งเป้าเข้าใส่อีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา แต่เวินหนี่เป็นคนมีเหตุผล เธอดึงมือออก และคลี่คลายสถานการณ์ “พวกคุณพูดถึงเรื่องอะไรกันคะ เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลยทำไมต้องโยงมาที่ฉันด้วย แม่คะ พาพ่อไปพักผ่อนเถอะค่ะ พ่อดื่มมากเกินไปแล้ว จะได้ไม่พูดเรื่องไร้สาระอีก”“ได้จ้ะ” เติ้งจวนก็กลัวความกระอักกระอ่วนเช่นกัน “ตาแก่ ไปพักก่อนเถอะ”เวินจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 46

    เมื่อนานไปก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เขาก็รู้จักเธอดี เขารักษาท่าทางสุภาพและไม่ได้อธิบายอะไรมากเกินไป “ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณกินต่อเถอะ”เวินหนี่รู้สึกละอายใจเล็กน้อย สำหรับเธอ ลู่เซินเป็นเพียงเพื่อนร่วมชั้นสมัยเด็กที่ไม่ได้สนิทกันด้วยซ้ำ แต่เขากลับใส่ใจรายละเอียดของเธอมากขนาดนี้เวินหนี่หยิบตะเกียบขึ้นมาและคีบเนื้อในชามไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอได้กลิ่นคาวและรู้สึกคลื่นไส้จนทำให้เธอหมดความอยากอาหาร“เป็นอะไรไป? กินไม่ลงแล้วเหรอ?” ลู่เซินถามเวินหนี่วางตะเกียบลง มันยากที่จะบอกว่าเธอกินลง ได้แต่ตอบไปว่า “ฉันเป็นคนกระเพาะเล็กน่ะค่ะ กินนิดหน่อยก็อิ่มแล้ว”เย่หนานโจวยืนขึ้น “ถ้าอิ่มแล้วก็หยุดกินเถอะ”เวินหนี่สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจในคำพูดของเขา เธอเงยหน้าขึ้นมองเย่หนานโจว เห็นเพียงใบหน้าที่เย็นชาของเขา เติ้งจวนกำลังดูแลเวินจ้าวเวินหนี่จึงต้องเดินไปส่งลู่เซิน ลู่เซินเห็นว่าสีหน้าของเวินหนี่ไม่ค่อยดีนัก เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า “ถ้ารู้สึกไม่สบายก็ไม่ต้องไปส่งผมก็ได้ คุณกลับเข้าไปพักผ่อนเถอะ ไว้ผมจะมาเยี่ยมใหม่”เวินหนี่มีความสงสัยในใจมากมาย แต่เย่หนานโจวอยู่ด้วย เธอจึงไม่ได้ถามอะไรมาก เลย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 47

    เธอเอามือค้ำผนัง รู้สึกไม่สบายตัวมาก ๆ ใบหน้าของเธอซีดเผือด และอาเจียนไม่หยุดแต่ไม่มีอะไรออกมาเลยเมื่อเห็นแบบนั้นเย่หนานโจวก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างประหม่าและพยุงเธอไว้ “เป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหน?”เวินหนี่ผลักมือของเขาออก ดวงตาของเธอเปียกโชกไปด้วยน้ำตา “เมื่อกี้ยังบอกว่าจะหย่าอยู่เลยไม่ใช่เหรอคะ แล้วคุณจะถามเรื่องพวกนี้ไปทำไม?”เย่หนานโจวเห็นว่าใบหน้าของเธอซีดเซียว ดูไม่สบายเอามาก ๆ ดังนั้นเขาจึงลดน้ำเสียงลงแล้วพูดขึ้นว่า “กลับบ้านกัน อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องนี้”เขาประคองเธอแล้วพาออกไปเวินหนี่ไม่ได้ต่อต้าน เธอไม่อยากทะเลาะกับเย่หนานโจวตรงประตู เพราะหากพ่อกับแม่เธอมาเห็นเข้าพวกท่านจะเป็นห่วงเอาได้ ชีวิตแต่งงานของเธอไม่ได้มีความสุข แต่จะปล่อยให้พ่อแม่กังวลมากเกินไปไม่ได้เมื่อเดินไปถึงรถ เย่หนานโจวก็จ้องมองสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของเวินหนี่พลางถอนหายใจ ก่อนจะกอดเธอเอาไว้ “เวินหนี่ ฉันจะทำยังไงกับเธอดี?”เวินหนี่พิงไหล่ของเขา จมูกของเธอแสบ ไม่รู้เลยว่าตัวเองเปราะบางขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันบางทีอาจเป็นเพราะตั้งแต่ที่เธอได้รับการตอบรับจากเย่หนานโจว ทำให้เธอมีความต้องการมากขึ้น เป็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 48

    “เธอมาก็ดี ฉันต้มยาบำรุงไว้ให้เธอด้วยเหมือนกัน” เย่ซูเฟินหันไปพูดกับคนรับใช้ “ไปเอายาบำรุงที่ต้มไว้มาให้เวินหนี่”เวินหนี่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย หล่อนมุ่งความสนใจไปที่ลู่ม่านเซิง แล้วยังต้มยาบำรุงให้เธอด้วยอย่างนั้นเหรอ?ดวงตาของเย่ซูเฟินจับจ้องไปที่ท้องของเวินหนี่ “ฉันได้ยานี้มาจากแพทย์แผนจีนโบราณ ว่ากันว่าถ้าดื่มแล้วจะทำให้ตั้งครรภ์ได้ง่าย”คนรับใช้นำยาเข้ามา เวินหนี่สูดดมก่อนจะรู้สึกคลื่นไส้อีกครั้งร่างกายของเธอปฏิเสธไปทั้งตัว และขอให้คนรับใช้เอามันออกไป “เอาออกไป ฉันดื่มไม่ได้”เมื่อเห็นว่าเธอปฏิเสธ เย่ซูเฟินก็ไม่พอใจ “เวินหนี่ เธอเป็นอะไรไป นี่เป็นยาที่ฉันลำบากหามาให้เธอแต่กลับไม่ดื่ม ในเมื่อท้องเธอมันไม่ได้เรื่องก็ต้องดื่มยาบำรุง รีบดื่มลงไปเดี๋ยวนี้”คนรับใช้นำยาไปให้เวินหนี่อีกครั้งกลิ่นมันเหม็นมากจนทำให้เวินหนี่ทนไม่ไหว “ฉันไม่ไหวแล้ว…”เธอวิ่งตรงไปที่ห้องน้ำ“เวินหนี่ นี่เธอ…” เย่ซูเฟินเห็นเธอกำลังวิ่งไปทางห้องน้ำ จึงพูดขึ้นด้วยความโกรธ “ไม่ได้เรื่อง มันดื่มยากตรงไหนกัน? เธอเสแสร้งแกล้งทำเป็นดื่มไม่ได้มากกว่า!”เวินหนี่รู้สึกไม่สบายท้องเป็นอย่างมาก และเธอก็อาเจียนอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 49

    คำพูดของเธอทำให้เวินหนี่หยุดฝีเท้าหลอกใช้เธออย่างงั้นเหรอ?เธอมีใช้ประโยชน์อะไรให้ต้องหลอกใช้กัน?คนที่ฉลาดอย่างเย่หนานโจว ต่อให้ต้องหลอกใช้ใคร คน ๆ นั้นก็ไม่มีทางเป็นเธอเมื่อลู่ม่านเซิงเห็นว่าเธอดูลังเล ราวกับอยากรู้ เธอจึงเชิดคางขึ้นแล้วพูดอย่างเหนือกว่า “เธอไม่อยากรู้ว่าเหรอว่าเขาหลอกใช้เธอเรื่องอะไร?”หลอกใช้ มันฟังดูไม่สมจริงเอาซะเลยแต่เธอแน่ใจว่าลู่ม่านเซิงจะต้องคิดหาวิธีคำพูดต่าง ๆ มายุแหย่เธอ เวินหนี่หันกลับไป ลู่ม่านเฉิงยังคงมีรอยยิ้มบนริมฝีปากโดยคาดหวังว่าเธอจะต้องถามมันแน่เธอไม่ต้องการให้ลู่ม่านเซิงได้ใจ งั้นก็ทำตามที่เธอต้องการก็แล้วกัน“ดูเหมือนว่าเธอจะอยากให้ฉันรู้มากซะเหลือเกินนะ”ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแข็งทื่อเธอรำคาญคนอย่างเวินหนี่ที่ไม่เดินไปตามเกมเวินหนี่มองเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “จุดประสงค์ของเธอคือการทำให้ฉันหย่ากับเย่หนานโจว เพื่อที่เธอจะได้แต่งงานเข้าตระกูลเย่อย่างราบรื่นไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เธอคงรู้สึกถึงวิกฤติสินะ?”ลู่ม่านเซิงกำหมัดโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ยังคงทำท่าทางอวดดี “ยังไงสักวันหนึ่งพวกเธอก็ต้องหย่ากัน ทำไมฉันจะต้องรู้สึกถึงวิกฤตด้วย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 50

    แพทย์และพยาบาลเข้ามาหามลู่ม่านเซิงออกไปเย่ซูเฟินไม่พอใจเวินหนี่เป็นอย่างมากแต่ก็ต้องหยุดเอาไว้ก่อน เพราะเธอเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของลู่ม่านเซิงมากกว่า ขณะที่ลู่ม่านเซิงถูกวางลงบนเตียง เย่ซูเฟินก็ตามไปด้วยตลอดทางจนถึงประตูห้องฉุกเฉิน และเธอก็พนมมือขึ้นอย่างเป็นกังวล แพทย์กำลังคุยกับเย่หนานโจวเกี่ยวกับอาการของลู่ม่านเซิง เขาจึงไม่มีเวลาได้สนใจเวินหนี่เวินหนี่ยืนอยู่ใกล้ ๆ มองดูพวกเขากำลังยุ่งวุ่นวายเพื่อลู่ม่านเซิง ส่วนเธอนั้นดูเหมือนเป็นคนนอกเมื่อลู่ม่านเซิงถูกเข็นออกมา ก่อนจะถูกล้อมพากลับไปส่งห้องตลอดทางเย่หนานโจวยังไม่ได้เดินเข้าไป เขาสังเกตเวินหนี่เดินตามหลังมา แล้วหันกลับไปพูดกับเธอว่า “ตอนนี้ลู่ม่านเซิงห้ามถูกกระตุ้น อย่าพึ่งอยู่กับเธอตามลำพัง”เวินหนี่รู้สึกหายใจไม่ออก นี่เขากำลังโทษเธออย่างนั้นเหรอ?ตำหนิว่าเธอทำให้ลู่ม่านเซิงโกรธ และขอให้เธออย่าสร้างปัญหาให้กับลู่ม่านเซิงอีกอย่างนั้นสินะ เมื่อเย่หนานโจวเห็นว่าเธอเอาแต่ก้มหน้าไม่พูดไม่จา จึงคิดว่าเธอคงจะกำลังคิดฟุ้งซ่าน จึงลูบหัวเธอ “เป็นอะไรไป ไม่สบายใจเหรอ?”“หนานโจว รีบเข้ามาเร็วเข้า!” เย่ซูเฟินปาดน้ำตา เปิดป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 51

    เย่จื่อรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในขณะที่มีความโกรธและความผิดหวังหลงเหลืออยู่เต็มอกในตอนนั้นเองเย่หนานโจวก็เดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วยก็หันมาเจอเย่จื่อและเวินหนี่ที่อยู่ด้วยกัน จึงทักทายด้วยความสุภาพ “คุณอา”“ไม่ต้องมาเรียกฉัน!”ผู้เป็นอาตะโกนใส่หน้าหลานชายด้วยความรู้สึกโกรธ “แกยังถือว่านับว่าฉันเป็นอาอยู่งั้นเหรอ? การหย่าระหว่างแกกับเวินหนี่เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่มาปรึกษาฉัน ลืมที่ปู่กำชับไว้แล้วใช่ไหมว่าให้ดูแลเวินหนี่ดี ๆ? นี่น่ะเหรอการดูแลที่ดีจากแก! เย่หนานโจว ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็ก ไม่คิดเลยว่าแกจะโตมาเป็นคนที่ไร้ความรับผิดชอบขนาดนี้ แล้วนี่ยังคิดจะหย่าอีก! กับแค่ชู้ที่นอนป่วยอยู่บนเตียง แกไม่เห็นความสำคัญของการเป็นสามีภรรยาเลยหรือไง!” “พูดดี ๆ หน่อยเย่จื่อ นี่มันเรื่องชู้ เรื่องไร้ความรับผิดชอบอะไรกัน มันเกี่ยวกันตรงไหน?” ผู้เป็นแม่อย่างเย่ซูเฟินได้ยินที่เย่จื่อเอ่ยออกมาด้วยความหยาบคายก็โต้กลับไปทันที “เรื่องที่หนานโจวต้องการหย่ามันก็เป็นเรื่องของพวกเขาสองคน แล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ เธอจะมาใช้ความอาวุโสกว่าบังคับและดุด่าลูกชายฉันแบบนี้ได้ยังไง!”เวินหนี่ไม่คิดว่าจะเก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-05

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status