Share

บทที่ 412

Penulis: เซียงปู้อี๋
เมื่อเวินหนี่ตื่น ในห้องก็ไม่มีใคร

แต่ตาของเธอยังเปียกชื้นอยู่

เธอจำได้ว่าเมื่อคืนทะเลาะกับเย่หนานโจว เมื่อคลำดูพื้นที่ข้าง ๆ มันก็ไม่มีร่องรอยใครนอนอยู่ที่นั่น

ดูเหมือนว่าเย่หนานโจวจะกลับไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

เวินหนี่ลุกขึ้นและรีบไปดูที่ตู้เสื้อผ้า ปรากฏว่าเสื้อผ้าของเขายังอยู่ ซึ่งหมายความว่าเขายังพัวพันกับเธอไม่เลิก

อารมณ์ที่พุ่งขึ้นมากลับไปสงบอีกครั้ง

เธอเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ และเตรียมตัวไปทำงาน

เมื่อไปถึงสถานีโทรทัศน์ ก็ได้ยินเจียงเมิ่งเหยาพูดขึ้นเสียงดัง “อย่ามาขวางทางฉัน เรื่องของเธอสำคัญเท่าเรื่องของฉันหรือเปล่า?”

วันนี้เหมือนเธอกินระเบิดมายังไงอย่างงั้น

“เมิ่งเหยา วันนี้เธอเป็นอะไรไป ถึงเธอจะอารมณ์ไม่ดีก็ใช่ว่าจะเอามาลงที่คนอื่นได้นะ” เพื่อนร่วมงานถูกพูดใส่แบบนั้น แน่นอนว่าต้องรู้สึกไม่พอใจ

เจียงเมิ่งเหยาก็เป็นแบบนี้เสมอ เวลาอารมณ์ไม่ดีก็ไม่ถูกใจใครทั้งนั้น เธอมองไปที่เพื่อนร่วมงานคนนั้นแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันไม่ได้อารมณ์ไม่ดี แต่เธอกำลังขวางทางฉันอยู่ การสัมภาษณ์ของฉันมันสำคัญมาก เธอคิดว่าจะมาเสียเวลาเพราะเธอได้งั้นเหรอ?”

“ใครจะไม่รู้ว่าการสัมภาษณ์พิเศษเย่หนานโจวของเธอย
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
พี่ชอบขอ น้องชอบเบิ้ล
ทำไมเย่หนานโจวไม่เอะใจบ้างว่าผู้หญิงในคืนนั้นที่โรงแรมอาจจะเป็นเวินหนี่ก็ได้ อยากให้เวินหนี่ไปสัมภาษเย่หนานโจวจังและเย่หนานโจวประกาศต่อหน้าสัมภาษว่าเวินหนี่คือภรรยา
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 413

    เจียงเมิ่งเหยามองไปที่เวินหนี่ ในใจยังคงรู้สึกโกรธ แต่การสัมภาษณ์พิเศษกับเย่หนานโจวจำเป็นต้องได้การช่วยเหลือจากเวินหนี่ อีกอย่าง หากเธอสามารถจัดการเรื่องการสัมภาษณ์เย่หนานโจวได้ เธอถึงจะสามารถกอบกู้ศักดิ์ศรีที่เสียไปกลับคืนมาได้ หลังจากที่หลัวฉีจากไปแล้ว เจียงเมิ่งเหยาก็มาที่โต๊ะทำงานของเวินหนี่ คราวนี้น้ำเสียงของเธอดีขึ้นมาก “เวินหนี่ เรื่องที่ฉันคุยกับเธอเมื่อวานนี้เธอคิดว่ายังไงบ้าง?”“เมื่อวานฉันก็บอกเธอไปแล้ว” เวินหนี่ไม่ได้มองเธอเจียงเมิ่งเหยาอยากจะสถบด่า แต่เธอยังต้องอดกลั้นเอาไว้ก่อน ที่นี่หากใครไม่ไว้หน้าเธอ เธอก็จะไม่ไว้หน้าคน ๆ นั้นเหมือนกัน แต่เวินหนี่นั้นแตกต่างออกไป รอเธอทำโปรเจ็กต์นี้สำเร็จเมื่อไหร่ เธอจะต้องสอนบทเรียนให้กับเวินหนี่แน่เจียงเมิ่งเหยากล่าวต่อ “แล้วแบบนี้ล่ะเธอว่าเป็นไง เธอไปกับฉัน หากเย่หนานโจวยอมให้สัมภาษณ์ เราก็จะได้ผลงานร่วมกัน เธอคงไม่อยากเขียนข่าวในเพจแบบนี้ตลอดไปหรอกใช่ไหม ใครบ้างที่ไม่อยากขยับขยาย ฉันจะให้โอกาสนี้กับเธอ หากเธอติดตามฉันล่ะก็ ฉันเจียงเมิ่งเหยารับประกันได้เลยว่าภายในหนึ่งปีเธอจะได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งของฉันแน่!”หลังจากได้ยิ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 414

    “พี่เหยา เวินหนี่คนนี้เป็นใครกันคะถึงได้กล้าต่อต้านพี่ ทนงตนคิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นจริง ๆ”“ไม่ไว้หน้าพี่แบบนี้ คนในออฟฟิศจะไม่หัวเราะเยาะพี่หรือไง? พี่ต้องสั่งสอนเธอนะคะ!”ผู้ติดตามตัวน้อยของเจียงเมิ่งเหยาเป่าลมใส่หูเธอ“ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ หรอก!” เจียงเมิ่งเหยาจำขึ้นใจ ดวงตาของเธอดุร้าย “ฉันจะทำให้เธอยอมช่วยฉันเรื่องนี้แต่โดยดี แล้วต้องเป็นฝ่ายมาขอร้องฉันเองด้วย!”ครั้งนี้เวินหนี่ขับรถของบริษัทออกไปข้างนอกเสี่ยวอิ่งมีความสุขมากและพูดขึ้นว่า “พี่เวิน ทำไมพี่ถึงกล้ายั่วยุเจียงเมิ่งเหยาล่ะคะ นอกจากหัวหน้าบรรณาธิการแล้วทุกคนในออฟฟิศต่างก็ต้องสุภาพกับเธอ”เวินหนี่ขับรถออกไป “ฉันไม่ได้ยั่วยุเธอสักหน่อย ฉันแค่พูดความจริง และฉันไม่อยากทำให้ใครขุ่นเคือง”“แต่พี่ทำให้เธอขุ่นเคืองแล้วล่ะค่ะ” เสี่ยวอิ่งกล่าว “เธอต้องพุ่งเป้ามาที่พี่แน่ ๆ”เธอรู้จักนิสัยของเจียงเมิ่งเหยาดี ไม่ต้องพูดถึงเรื่องประจบประแจงเธอ แต่หากปฏิเสธเธอ และถูกเธอเพ่งเล็งแล้วล่ะก็จบไม่สวยแน่!เวินหนี่พูดขึ้นอีกว่า “ไม่มีใครสามารถอยู่บนที่สูงได้ตลอดไป ตอนนี้เธอรุ่งโรจน์ แต่ไม่รู้จักประพฤติตนและสร้างศัตรูไปทั่ว เ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 415

    อธิการบดีพยักหน้าพลางน้ำตาไหล “พวกเขาบอกว่าคุณแตะต้องเค้กของคนอื่น ดังนั้นพวกเขาก็จะแตะต้องเค้กของคุณด้วย คุณห้ามมาที่นี่อีก หากคุณยังมาที่นี่ พวกเขาจะไม่ออมมือให้แล้ว คุณเวิน ไม่ใช่ว่าฉันอยากขับไล่คุณนะคะ เพียงแต่จะให้เด็ก ๆ ได้รับอันตรายไม่ได้”“นี่มันมากเกินไปแล้ว!” เสี่ยวอิ่งพูด “ไม่ว่ายังไง ก็ไม่ควรทำร้ายเด็ก ๆ ตาม มันไร้มนุษยธรรมเกินไปแล้ว!”“อธิการบดี ขอโทษนะคะ ฉันทำให้คุณซวยไปด้วย” เวินหนี่ไม่คิดอีกฝ่ายจะทำถึงขนาดนี้ ถึงขั้นโจมตีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า“ไม่ค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ เด็ก ๆ ก็คงไม่ได้กินเนื้อเร็วขนาดนี้” อธิการบดียังคงรู้สึกขอบคุณ “แต่ว่าคุณมีปัญหากับใครกัน พวกเขาถึงได้ตัดเส้นทางของคุณแบบนี้ ฉันรู้ว่าคุณเวินทำงานในสถานีโทรทัศน์ ถ้าหากต้องการตัดแข้งขาของคุณแบบนี้ นั่นก็เท่ากับว่าพวกเขาต้องการให้คุณอยู่ในสถานีไม่ได้ไม่ใช่เหรอคะ?”“ต้องเป็นเจียงเมิ่งเหยาแน่ ๆ!” เสี่ยวอิ่งพูดขึ้นทันที “พี่ไม่ยอมช่วยเธอ เธอก็เลยใช้วิธีการเหล่านี้เพื่อข่มขู่พี่!”เวินหนี่มองไปที่เสี่ยวอิ่งที่กำลังโกรธจัด “พี่เวินหนี่ เธออยากให้พี่เชื่อฟังเธอ พี่ต้องช่

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 416

    หลังจากได้ยินแบบนั้น เจียงเมิ่งเหยามองเวินหนี่ตั้งแต่หัวจรดเท้าพลางหัวเราะออกมา "เธอเป็นภรรยาของเย่หนานโจว? เวินหนี่ เธอคงหมดหนทางแล้วจริง ๆ ถึงได้มาพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ?"สายตาของเธอเต็มไปด้วยความดูถูกอย่างสิ้นเชิง เธอไม่เชื่อคำพูดของเวินหนี่แม้แต่น้อย "ถ้าเธอเป็นจริง ๆ เรื่องสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคงจัดการได้ทันที ไม่ต้องมาหาฉัน เธอหมดทางเลือกแล้วถึงมาขอความช่วยเหลือจากฉัน แต่ถ้าเธออยากให้ฉันเชื่อ เธอก็ควรพูดอะไรที่ฟังดูมีเหตุผลหน่อย ไม่ใช่พูดจาไร้สาระแบบนี้ ซึ่งฉันไม่เชื่อสักคำ!"เวินหนี่คิดว่าในเมื่อเธอยังไม่ได้หย่ากับเย่หนานโจวอย่างเป็นทางการ เธอก็ยังเป็นภรรยาของเขาในนามบอกเจียงเมิ่งเหยาก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรแต่เจียงเมิ่งเหยาไม่เชื่อ"ถ้าฉันช่วยเธอ เรื่องสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเธอจะไม่เข้ามายุ่งอีกใช่ไหม?"เวินหนี่คิดอยู่นาน แล้วตัดสินใจว่าทางที่ทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดคือการช่วยเจียงเมิ่งเหยาสักครั้ง ส่วนเรื่องต่อไปจะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเธอเองเจียงเมิ่งเหยาหัวเราะเยาะ "ตอนนี้เลิกแกล้งทำแล้วเหรอ?"การนัดพบเย่หนานโจวสำหรับเธอเป็นเรื่องง่ายมาก

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 417

    "แต่สุดท้ายเธอก็ยังต้องทนกับเรื่องนี้อยู่ดี" เสียวอิ่งพูดด้วยความไม่พอใจ "แต่ก็คงช่วยไม่ได้ เจียงเมิ่งเหยามีเส้นสายเยอะขนาดนั้น แต่ถ้าเธอเก่งขนาดนั้น ทำไมไม่ไปหาคนอื่นให้ช่วยนัดเย่หนานโจว ทำไมต้องมาเล่นงานเธอด้วย"เวินหนี่ตอบ "เธอแค่อยากแสดงอำนาจให้ฉันเห็น ให้ฉันรู้ว่าที่แผนกนี้ ไม่มีใครขัดเธอได้"เสียวอิ่งยังคงสงสัยและถามต่อ "เวินหนี่ เมื่อกี้เธอบอกว่าเธอเป็นภรรยาของเย่หนานโจว จริงจริงเหรอ?"เธอเริ่มเชื่อคำพูดของเวินหนี่เวินหนี่นิ่งไปชั่วครู่ก่อนปิดโทรศัพท์แล้วตอบ "ใช่ แต่ก็อีกไม่นานแล้ว""ไปกันเถอะ ได้เวลากลับแล้ว"เสียวอิ่งยังคงอึ้งอยู่ ขณะที่เวินหนี่ลุกขึ้นพร้อมกับกระเป๋าเธอต้องคิดหาวิธีที่ดีที่สุดให้ได้เสียวอิ่งยังไม่เข้าใจดีนัก เวินหนี่บอกว่าใช่แต่ก็ไม่ใช่ ซึ่งเธอไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังนักเวินหนี่ไม่ได้พูดอะไรมาก เธอจึงไม่ได้ถามต่อเมื่อพวกเธอกลับมาถึงสำนักงาน เจียงเมิ่งเหยากับลูกน้องของเธอกำลังเริ่มเฉลิมฉลองล่วงหน้าแล้ว"พี่เจียง พี่นัดเย่หนานโจวได้แล้วเหรอ?" ลูกน้องคนหนึ่งถามด้วยความตื่นเต้น "ฉันรู้อยู่แล้วว่าพี่เก่ง พี่ต้องทำได้แน่ ๆ !""เมื่อไหร่จะไป ฉั

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 418

    [กลางวันมีเวลา]เวินหนี่ส่งที่อยู่ให้เย่หนานโจวทันทีเธอยังส่งข้อความไปหาเจียงเมิ่งเหยาด้วย “เที่ยงตรง”เมื่อเจียงเมิ่งเหยาได้รับข้อความตอบกลับจากเวินหนี่ รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากเธอเตรียมพร้อมแผนการรับมือไว้เรียบร้อยแล้ว…ทางฝั่งของเย่หนานโจว อารมณ์ของเขากำลังดีขึ้นเวินหนี่เป็นฝ่ายนัดเขาเองดูเหมือนเวินหนี่ไม่เคยเป็นฝ่ายนัดเขาอย่างเป็นทางการมาก่อนหรือว่าเธอจะเปลี่ยนใจแล้ว?ไม่อยากหย่าแล้ว อยากกลับมาคืนดีกับเขา?เขาคิดว่าน่าจะมีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นที่เวินหนี่จะเป็นฝ่ายรุกแบบนี้เธอเคยชินกับชีวิตคุณนายเศรษฐี จะให้ไปอยู่ในอะพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ แบบนั้นคงไม่ไหวเย่หนานโจวคิดไปว่าพอเจอเธอแล้ว เขาควรทำท่าทางยังไงดี ให้เธอรู้ว่าการหย่ามันง่าย แต่การคืนดีกันมันยากเธอก็คงจะเข้าใจว่าไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะปฏิบัติกับเธอดีเท่าเขาอีกแล้วและในอนาคต เธอจะไม่เสนอเรื่องหย่าอีกเผยชิงเดินเข้ามาเห็นเย่หนานโจวกำลังครุ่นคิดอยู่ จึงเคาะประตูเรียก “ประธานเย่ บ่ายนี้มีการประชุมผู้ถือหุ้นนะครับ”เย่หนานโจวเงยหน้าขึ้น “เลื่อนประชุมไปก่อน ตอนเที่ยงฉันมีนัด”เผยชิงแปลกใจเล็กน้อย เพราะวันนี

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 419

    ตอนนี้มีอีกคนบอกว่าเขาต้องใช้ปากพูด สุดท้ายแล้วมันก็กลายเป็นปัญหาที่ตัวของเขาเองใช่ไหม?"ไปเอารถมา" เย่หนานโจวพูด "เราจะออกเดินทางทันที"…เวินหนี่นั่งอยู่ในรถ ซึ่งจอดอยู่หน้าร้านอาหารเจียงเมิ่งเหยามาเคาะกระจกรถ "ที่นี่ใช่ไหม?""อืม" เวินหนี่ตอบ "เที่ยงตรง เย่หนานโจวจะมาถึงตรงเวลา""โอเค" เจียงเมิ่งเหยามองเวินหนี่แล้วยิ้ม "ไม่ต้องห่วง ฉันจะจำบุญคุณของเธอไว้ ถ้าฉันได้เลื่อนตำแหน่งเป็นบรรณาธิการหลัก เธอจะไม่ต้องมานั่งพิมพ์งานแบบนี้ไปตลอดชีวิตแน่นอน""งั้นเธอก็เข้าไปเถอะ" เวินหนี่บอกหมายเลขห้องส่วนตัวให้กับเจียงเมิ่งเหยาเจียงเมิ่งเหยาจึงเดินเข้าไปในร้านอาหารเสียงแจ้งเตือนจากแอปไลน์ดังขึ้น เวินหนี่เปิดดูแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอเรื่องของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจัดการเรียบร้อยแล้วเธอมองไปทางที่เจียงเมิ่งเหยาเดินจากไป ในตอนนี้อีกฝ่ายคงไม่มีเวลามาทำเรื่องวุ่นวายแล้วทันใดนั้นเธอก็หันหัวรถและมุ่งหน้าไปทางสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ายี่สิบนาทีต่อมา รถของเย่หนานโจวมาถึงหน้าร้านอาหารเขามองกระจกหลัง จัดแจงเสื้อสูทของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะลงจากรถตอนนี้มีเพียงเขาคนเดียวเขาก้า

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 420

    เสียงแตกของแก้วทำให้เจียงเมิ่งเหยาสะดุ้งเฮือก "ประธานเย่"เย่หนานโจวจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นยะเยือก "ผมถามอีกครั้ง เวินหนี่อยู่ไหน?"เจียงเมิ่งเหยามองแก้วที่แตกกระจายเกลื่อนพื้น จากนั้นก็หันไปมองสีหน้าของเย่หนานโจว ความเมาที่มีเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้งเธอไม่คาดคิดว่าเขาจะไร้ความปรานีถึงขนาดนี้ แค่คำพูดไม่ถูกใจก็ทุ่มแก้วแล้วเมื่อเห็นเย่หนานโจวลุกขึ้น สีหน้าที่น่ากลัวนั้นทำให้เจียงเมิ่งเหยาร้อนรนรีบตอบ "เวินหนี่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ที่นี่มีแค่คุณกับฉันเท่านั้นค่ะ"สายตาของเย่หนานโจวยิ่งดูมืดมนลงไปอีก เขาถามเสียงเย็น "ข้อความที่ส่งมาหาผม คนที่นัดผมคือคุณใช่ไหม?""ใช่ค่ะ" เจียงเมิ่งเหยาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ จึงถามต่อว่า "เวินหนี่เป็นพนักงานเก่าของเย่กรุ๊ป ฉันติดต่อคุณไม่ได้ ก็เลยขอให้เธอช่วยนัดคุณออกมา เมื่อเธอทำได้ ฉันก็จะได้คุยเรื่องความร่วมมือกับคุณ จริง ๆ แล้วฉันกับเวินหนี่..."“ไสหัวไป!” เย่หนานโจวตะคอกเสียงดังด้วยความโกรธที่พุ่งทะยานเจียงเมิ่งเหยาหน้าซีดเผือด "ประธานเย่ ฉันไม่ได้โกหกนะคะ ฉันกับเวินหนี่เป็นเพื่อนร่วมงาน อย่างน้อยคุณก็ควรเห็นแก่หน้าเธอบ้าง

Bab terbaru

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status