Share

บทที่ 39

Author: เซียงปู้อี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
แท้จริงแล้วพวกเขาคือสามีภรรยากัน

เช่นนั้นเขาจะต้องให้ความเคารพเธอมากขึ้น จะทำเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้

เวินหนี่ถามทั้ง ๆ ที่รู้ “เย่หนานโจวเข้าไปแล้วใช่ไหม?”

“ประธานเย่...เพิ่งเข้าไปได้ไม่นานครับ” เผยชิงกระอึกกระอักตอบ

เวินหนี่มองไปที่นักข่าวตรงประตู และมันก็เป็นไปตามที่เธอคิด

เพื่อลู่ม่านเซิงแล้วเขาไม่ลังเลใจและไม่ระวังตัวเลย

เผยชิงกลัวว่าเธอจะคิดมากเกินไปจึงรีบอธิบายขึ้นว่า “คุณผู้หญิง อย่าเข้าใจประธานเย่ผิดนะครับ เขามาที่โรงพยาบาลเพราะเรื่องงาน”

เวินหนี่ยิ้มแล้วพูดกับเขา “ฉันไม่ได้เข้าใจผิด คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร”

เผยชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เช่นนั้นก็ดีครับ”

มีนักข่าวอยู่ที่ประตูหน้า เวินหนี่ยังคงให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวจึงเดินอ้อมไปเข้าโรงพยาบาลผ่านทางประตูหลังแทน

เมื่อขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบน เธอก็เห็นผู้ช่วยของลู่ม่านเซิง และพอจะรู้ได้ว่าลู่ม่านเซิงพักอยู่ในวอร์ดไหน

ลู่ม่านเซิงอยู่ในห้อง VIP ซึ่งค่อนข้างเงียบสงบ ทันทีที่เธอเดินผ่านก็ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นร้องไห้ของ

ลู่ม่านเซิง “พวกคุณช่วยฉันทำไม ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย ๆ ไปซะ ตอนนี้มันมีหมายความอะไร ฉันอยู่ไปแล้วจะม
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
thitaphon thongchomphunut
ขอความรู้หน่อยค่ะ ทำไมแต้มที่สะสมไว้หายบ่อยคะ บางทีดูโฆษณาเพื่อสะสมแต้ม แต่พอพอดูโฆษณาแทนที่แต้มจะเพิ่มคลับหายไป อย่างสมมุติว่ามีแต้มซัก 20 พอดูโฆษณาจะต้องเพิ่มเป็น 21 แต่กลับเหลือแค่ 19 แต้ม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 40

    เสียงของผู้ช่วยทำให้สองคนข้างในตกใจเย่หนานโจวมองมา เห็นเวินหนี่ยืนอยู่ที่ประตู เขาจึงรีบปล่อยลู่ม่านเซิงทันทีเมื่อเวินหนี่ถูกจับได้ก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูก เธอก้มหน้าลงเพื่อหลีกเลี่ยง ก่อนจะเดินออกไปเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะจากไป เย่หนานโจวก็รีบไล่ตามเธอไปทันที “เวินหนี่!”เวินหนี่เดินเร็วมาก เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเย่หนานโจวอย่างไรแต่เย่หนานโจวก็ตามมาทันและจับมือเธอไว้เวินหนี่หันกลับไป ดวงตาของเธอแดงก่ำ และมองเย่หนานโจวด้วยดวงตาว่างเปล่าเย่หนานโจวยื่นมือออกไปเพื่อเช็ดน้ำตาจากหางตาของเธอ แต่เวินหนี่ก็เบี่ยงหน้าหลบแล้วพูดว่า “คุณไปดูแลลู่ม่านเซิงเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน”“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาล?” เย่หนานโจวไม่ตอบเธอ แต่ถามกลับไปแทน “รู้สึกไม่สบายเหรอ?หรือว่าผื่นบนร่างกายมันกำเริบ”เขาเปิดแขนเสื้อของเธอเพื่อตรวจดูตอนนี้เวินหนี่รู้สึกเจ็บปวดใจมาก เธอดึงมือตัวเองกลับไม่ให้เขาดู“ฉันไม่เป็นไร” เวินหนี่มองไปที่วอร์ด “เรื่องสำคัญที่คุณพูดถึงเมื่อวานนี้ก็คือลู่ม่านเซิงสินะคะ”สำหรับเขาแล้วลู่ม่านเซิงคืออันดับหนึ่งเสมอหากเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เขาก็จะรีบมาโดยไม่ลังเลใจเลย“เส้นเส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 41

    เขาพูดคำแบบนี้ออกมาได้ยังไงลู่ม่านเซิงตกใจและหยุดร้องไห้ เธอจ้องไปที่เย่หนานโจวด้วยสายตาว่างเปล่าอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาแตกต่างจากคนที่เธอรู้จักอย่างสิ้นเชิงเมื่อก่อนเขาเป็นห่วงเธอที่สุด และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยอมให้เธอเสียใจแต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่สงสารเธอ และแม้แต่การปลอบใจเล็กน้อยเขาก็ไม่ทำเธอไม่เชื่อว่านี่คือเย่หนานโจวเขาจะต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่ ๆลู่ม่านเซิงปล่อยมือและพยายามฝืนยิ้ม แต่ก็ทำไม่ได้ “จบกันงั้นเหรอ พี่จะจบกับฉันยังไง?”เย่หนานโจวพูดขึ้น “รักษาหูของเธอให้หายซะ”“ไม่ ให้ฉันตายไปยังจะดีซะกว่า!” ลู่ม่านเซิงอารมณ์พุ่งขึ้นอีกครั้ง เธอคว้ามีดปอกผลไม้ข้าง ๆ และกำลังจะกรีดข้อมือตัวเองเมื่อผู้ช่วยเห็นดังนั้นจึงรีบห้ามเธอ “พี่ม่านเซิงอย่าทำแบบนี้…”ดวงตาของลู่ม่านเซิงเปลี่ยนเป็นสีแดง “พี่หนานโจว ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อพี่ ฉันรักพี่มากจนยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อพี่ด้วยซ้ำ พี่ติดหนี้ชีวิตฉัน ชดใช้ยังไงก็ไม่หมด เราสองคนไม่มีทางจบกันได้!”จากนั้นหมอก็เข้ามา เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของลู่ม่านเซิงไม่มั่นคง จึงพูดกับเย่หนานโจวว่า “คุณเย่ครับ ผู้ป่วยมีอารมณ์ไม่มั่นคง ห้ามกระ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 42

    หลังจากเรียนจบ เธอก็ยุ่งอยู่แต่กับงานและมีครอบครัวเป็นของตัวเองพ่อแม่ไม่อยากรบกวนเธอ พวกท่านจึงไม่ค่อยได้โทรหาเธอมากนัก ส่วนเธอก็ยุ่งอยู่กับเรื่องอื่นจนทำให้ละเลยพวกท่านไป เมื่อกลับมาถึงบ้าน คนที่เปิดประตูให้เธอคือเวินจ้าว เขาถือหนังสือพิมพ์อยู่ในมือและสวมแว่นตา เมื่อเห็นเวินหนี่ ใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาก็ยิ้มร่าขึ้นมาทันที “หนีหนี่กลับมาแล้วเหรอ รีบเข้ามาเร็วเข้า”เวินหนี่เดินเข้าไป เวินจ้าวหยิบรองเท้ามาให้เธอเปลี่ยน “แม่เค้าพอรู้ว่าลูกจะกลับมาก็กำลังเตรียมอาหารให้ลูกอยู่ มีแต่ของโปรดของลูกทั้งนั้น เป็นลาภปากของลูกเลยนะ“ดีเลยค่ะ หนูอยากกินซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานที่แม่ทำ” เวินหนี่กอดแขนเวินจ้าว “และหนูก็อยากกินปลาที่พ่อตกมาด้วยค่ะ”เวินจ้าวยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นเด็กที่ตะกละตะกลามจริง ๆ”เวินหนี่ถอดเสื้อคลุมออก พับแขนเสื้อขึ้นแล้วพูดว่า “หนูจะไปช่วยแม่ในครัว…”“โอ้ย ไม่ต้องหรอก” เวินจ้าวคิดจะห้ามเธอ แต่ก่อนที่เธอจะก้าวเข้าไปในครัว ก็เห็นว่าในครัวไม่ได้มีเพียงเติ้งจวนเท่านั้น แต่ยังเห็นร่างสูงที่ถอดสูทราคาแพงออกและยืนล้างผักราคาถูกอยู่ข้าง ๆ ด้วย เมื่อรู้ว่าเธอมา เขาจึงหันศีรษะ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 43

    เติ้งจวนกระตุ้นพวกเขา เปิดโอกาสให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเวินหนี่ถูกเธอผลักเข้าไปในห้องครัวเวลานี้เย่หนานโจวก็ยังไม่หยุดงานในมือ เขาจัดเตรียมส่วนผสมทั้งหมดอย่างเป็นระเบียบในความทรงจำของเธอ เย่หนานโจวไม่มีทางทำสิ่งเหล่านี้“คุณมาได้ยังไงคะ?”เย่หนานโจวตอบ “ก็เธอไม่รับสายฉัน ฉันเลยต้องมาถามคุณแม่ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนน่ะสิ”เวินหนี่ช่วยเขาล้างผัก “ฉันจำได้ว่าคุณไม่เคยทำอะไรแบบนี้”เย่หนานโจวหันมาพลางทำหน้าทะเล้น “เอาใจพ่อตาแม่ยาย”“อย่าล้อเล่นน่ะ”“ทำไมถึงไม่รับสายฉัน?” เย่หนานโจวถามขึ้นอีกครั้งเวินหนี่ชะงักไปครู่หนึ่ง “ฉันกลัวว่าจะไปรบกวนเวลาของคุณกับลู่ม่านเซิง”เย่หนานโจวหัวเราะเสียงดังเวินหนี่ถาม “คุณหัวเราะอะไร?”“หึงเหรอ?”เวินหนี่ปฏิเสธทันที “เปล่าค่ะ นี่ไม่ใช่แค่ครั้งแรกหรือสองครั้งสักหน่อย ถ้าให้หึงทุกครั้ง ฉันคงเจ็บปวดใจตายไปนานแล้ว”เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไร แต่เห็นน้ำกระเซ็นใส่ใบหน้าของเธอ เดิมทีเวินหนี่คิดจะเช็ดมันด้วยแขนเสื้อตัวเอง แต่เย่หนานโจวห้ามเธอเอาไว้ เขาเช็ดมือตัวเองจนสะอาด ก่อนจะหยิบเอาทิชชู่มาเช็ดใบหน้าให้เธอเวินหนี่สัมผัสได้ถึงการดูแลอย่างใส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 44

    ลู่เซินประหลาดใจและถามขึ้นว่า “ประธานเย่ก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอครับ?”ทุกสายตามองไปที่เย่หนานโจวโดยไม่รู้ว่าควรตอบคำถามนี้อย่างไรเวินหนี่พูดขึ้นทันที “วันนี้ประธานเย่มาเยี่ยมบ้านของเราน่ะค่ะ ลู่เซิน คุณรีบนั่งลงก่อนสิคะ”เติ้งจวนก็พูดต่อว่า “ลู่เซิน ป้ากำลังทำอาหาร เธอก็อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิ อย่าพึ่งกลับล่ะ”“ครับ ขอบคุณครับคุณป้า” ลู่เซินตอบอย่างอย่างสุภาพโชคดีที่โซฟาใหญ่มากพอสำหรับพวกเขา ลู่เซินนั่งอยู่เยื้อง ๆ ตรงข้ามกับเย่หนานโจวเวินจ้าวและลู่เซินกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องในอดีตตอนนี้เองเวินหนี่พึ่งจะได้รู้ว่าสมัยเรียนลู่เซินอาศัยอยู่ไม่ไกลจากพวกเธอ แถมเขายังสนิทสนมกับพ่อแม่ของเธอมากอีกด้วยทำไมเธอถึงไม่เคยรู้เลยความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดนี้เมื่อเย่หนานโจวได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาก็เย็นชาทันทีและดูไม่มีความสุขเอามาก ๆมานั่งฟังพวกเขาพูดคุยกันถึงเรื่องในอดีตที่นี่ ทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนนอกบนโต๊ะอาหาร ลู่เซินใส่ใจเวินหนี่เป็นพิเศษ เขารินนมให้เธอหนึ่งแก้ว“นี่ครับ”เวินหนี่กล่าว “ขอบคุณค่ะ”เย่หนานโจวมองและถามขึ้นเสียงเย็น “คุณลู่ก็รู้ว่าเวินหนี่ชอบดื่มนมงั

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 45

    คำพูดของเขาเด็ดขาด และแฝงไปด้วยการแสดงความเป็นเจ้าของทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าผู้ชายที่ชื่อลู่เซินคนนี้ชอบเวินหนี่ และก็มักจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอเช่นนั้นแล้วเย่หนานโจวก็ต้องทำให้เขาได้รู้ว่าตนไม่มีโอกาสลู่เซินมองตรงไปที่เย่หนานโจว สายตาของทั้งสองเคร่งขรึมจนเกิดกระแสไฟกลางอากาศ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่เซินก็พูดขึ้นว่า “ประธานเย่พูดเร็วเกินไป”เขาวางตัวอย่างเหมาะสม ไม่ได้ดูโกรธเคืองอะไร เพียงแค่จิบน้ำแล้วพูดขึ้นอย่างแฝงความหมาย “ไม่มีใครสามารถคาดเดาอนาคตได้ หากโชคชะตามาถึง อะไรก็หยุดยั้งไม่ได้หรอกนะครับ”เมื่อได้ยินแบบนี้ เย่หนานโจวก็ยิ่งหงุดหงิด แต่เขาก็จับมือเวินหนี่อย่างมีสติเวินหนี่สัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเขา นับตั้งแต่ลู่เซินมาถึง เขาก็ดูผิดปกติไปและเอาแต่มุ่งเป้าเข้าใส่อีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา แต่เวินหนี่เป็นคนมีเหตุผล เธอดึงมือออก และคลี่คลายสถานการณ์ “พวกคุณพูดถึงเรื่องอะไรกันคะ เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลยทำไมต้องโยงมาที่ฉันด้วย แม่คะ พาพ่อไปพักผ่อนเถอะค่ะ พ่อดื่มมากเกินไปแล้ว จะได้ไม่พูดเรื่องไร้สาระอีก”“ได้จ้ะ” เติ้งจวนก็กลัวความกระอักกระอ่วนเช่นกัน “ตาแก่ ไปพักก่อนเถอะ”เวินจ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 46

    เมื่อนานไปก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เขาก็รู้จักเธอดี เขารักษาท่าทางสุภาพและไม่ได้อธิบายอะไรมากเกินไป “ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณกินต่อเถอะ”เวินหนี่รู้สึกละอายใจเล็กน้อย สำหรับเธอ ลู่เซินเป็นเพียงเพื่อนร่วมชั้นสมัยเด็กที่ไม่ได้สนิทกันด้วยซ้ำ แต่เขากลับใส่ใจรายละเอียดของเธอมากขนาดนี้เวินหนี่หยิบตะเกียบขึ้นมาและคีบเนื้อในชามไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอได้กลิ่นคาวและรู้สึกคลื่นไส้จนทำให้เธอหมดความอยากอาหาร“เป็นอะไรไป? กินไม่ลงแล้วเหรอ?” ลู่เซินถามเวินหนี่วางตะเกียบลง มันยากที่จะบอกว่าเธอกินลง ได้แต่ตอบไปว่า “ฉันเป็นคนกระเพาะเล็กน่ะค่ะ กินนิดหน่อยก็อิ่มแล้ว”เย่หนานโจวยืนขึ้น “ถ้าอิ่มแล้วก็หยุดกินเถอะ”เวินหนี่สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจในคำพูดของเขา เธอเงยหน้าขึ้นมองเย่หนานโจว เห็นเพียงใบหน้าที่เย็นชาของเขา เติ้งจวนกำลังดูแลเวินจ้าวเวินหนี่จึงต้องเดินไปส่งลู่เซิน ลู่เซินเห็นว่าสีหน้าของเวินหนี่ไม่ค่อยดีนัก เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า “ถ้ารู้สึกไม่สบายก็ไม่ต้องไปส่งผมก็ได้ คุณกลับเข้าไปพักผ่อนเถอะ ไว้ผมจะมาเยี่ยมใหม่”เวินหนี่มีความสงสัยในใจมากมาย แต่เย่หนานโจวอยู่ด้วย เธอจึงไม่ได้ถามอะไรมาก เลย

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 47

    เธอเอามือค้ำผนัง รู้สึกไม่สบายตัวมาก ๆ ใบหน้าของเธอซีดเผือด และอาเจียนไม่หยุดแต่ไม่มีอะไรออกมาเลยเมื่อเห็นแบบนั้นเย่หนานโจวก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างประหม่าและพยุงเธอไว้ “เป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหน?”เวินหนี่ผลักมือของเขาออก ดวงตาของเธอเปียกโชกไปด้วยน้ำตา “เมื่อกี้ยังบอกว่าจะหย่าอยู่เลยไม่ใช่เหรอคะ แล้วคุณจะถามเรื่องพวกนี้ไปทำไม?”เย่หนานโจวเห็นว่าใบหน้าของเธอซีดเซียว ดูไม่สบายเอามาก ๆ ดังนั้นเขาจึงลดน้ำเสียงลงแล้วพูดขึ้นว่า “กลับบ้านกัน อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องนี้”เขาประคองเธอแล้วพาออกไปเวินหนี่ไม่ได้ต่อต้าน เธอไม่อยากทะเลาะกับเย่หนานโจวตรงประตู เพราะหากพ่อกับแม่เธอมาเห็นเข้าพวกท่านจะเป็นห่วงเอาได้ ชีวิตแต่งงานของเธอไม่ได้มีความสุข แต่จะปล่อยให้พ่อแม่กังวลมากเกินไปไม่ได้เมื่อเดินไปถึงรถ เย่หนานโจวก็จ้องมองสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของเวินหนี่พลางถอนหายใจ ก่อนจะกอดเธอเอาไว้ “เวินหนี่ ฉันจะทำยังไงกับเธอดี?”เวินหนี่พิงไหล่ของเขา จมูกของเธอแสบ ไม่รู้เลยว่าตัวเองเปราะบางขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันบางทีอาจเป็นเพราะตั้งแต่ที่เธอได้รับการตอบรับจากเย่หนานโจว ทำให้เธอมีความต้องการมากขึ้น เป็น

Latest chapter

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 464

    ขณะที่เย่ซูเฟินกำลังปกป้องลู่ม่านเซิง เวินหนี่ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชาเมื่อเย่ซูเฟินเห็นเวินหนี่พูดแบบนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า “เวินหนี่ เซิงเซิงเป็นถึงขนาดนี้แล้ว อย่าอาศัยโอกาสนี้ซ้ำเติมเธออีก!”ปฏิกิริยาแรกของเธอคือปกป้องคนที่อ่อนแอไว้เวินหนี่เดินเข้าไป เห็นลู่ม่านเซิงร้องไห้หนักและดูอ่อนแอจนเกินบรรยาย “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ พวกคุณมีใครกังวลเกี่ยวกับคุณอาบ้าง สิ่งที่คุณกังวลคือกลัวว่าลูกชายจะไม่เอา ส่วนลู่ม่านเซิงเธอกล้วว่าถูกกล่าวโทษเลยมาเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารที่นี่ ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าคุณผลักคุณอาลงมา และลู่ม่านเซิงก็น่าจะเป็นผู้ที่ยุยง!”คุณอาถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทำให้เวินหนี่ไม่ต้องการไว้หน้าพวกเธอ “อย่ามาพูดจาไร้สาระ!” เย่ซูเฟินตวาด “ฉันผลักเย่จื่อก็จริง แต่ฉันแค่ผลักเบา ๆ ทำไมเธอถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าเย่จื่อจงใจล้มลงไปเอง”เวินหนี่มองไปที่เย่ซูเฟิน “แรงผลักของคุณมันไม่ได้เบา เราทุกคนต่างก็เห็น”เมื่อเย่ซูเฟินเห็นท่าทีของเวินหนี่ น้ำเสียงของเธอก็ดังมากยิ่งขึ้น “เวินหนี่ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้ ยังไงฉันก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่สามีขอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 463

    “ไม่ใช่นะ…” เย่ซูเฟินกล่าว “ลูกยังเป็นลูกชายของแม่ แม่เสียใจมากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้ให้ลูก…”“ผมไม่ต้องการมันแล้ว” ดวงตาของเย่หนานโจวเย็นชา “การเรียกคุณว่าแม่มันคือความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และคุณก็ควรจะพอใจได้แล้ว!”เย่ซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าวและพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ลูกจะทำกับแม่แบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเป็นเหมือนพ่อของลูก ไม่อย่างนั้นแม่พาลูกกลับมามันจะมีความหมายอะไร!”เย่หนานโจวพูดอย่างเย็นชา “หากมีผม การเอาชนะใจสามีของคุณมันถึงจะมีความหมาย แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของคุณมันไร้ประโยชน์!”ทุกคำพูดเหมือนมีดที่ทิ่มแทงใจของเย่ซูเฟินในตอนนั้นการแต่งงานของเธอกับเย่เหว่ยถิงนั้นค่อนข้างน่าขัน เป็นเพียงเพราะเธอดื้อดึงที่จะแต่งงานกับเขาเย่เหว่ยถิงไม่ได้รักเธอเลย ตรงกันข้ามเขาเกลียดเธอเธอคิดว่าตราบใดที่เธอแต่งงานกับเขา เย่เหว่ยถิงก็จะเป็นของเธอเมื่อเรื่องราวมันเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขได้ มีอะไรที่จะผ่านไปไม่ได้อีก?แต่เธอคิดง่ายเกินไป เย่เหว่ยถิงไม่กลับบ้านและปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในห้องที่อ้างว่างเธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจสามีแม้กระทั่ง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 462

    “หนานโจว”ในระหว่างที่โต้เถียงกับเย่จื่ออยู่นั้นเย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นเขา และเธอก็ตกใจเล็กน้อยเวินหนี่เองก็มองไปและเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเย็นชาและดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับสิ่งที่พวกเธอพูดกลับกัน เขากลับยอมรับความจริงนี้อย่างสงบนิ่งเย่จื่อตกใจเมื่อเห็นดวงตาของเย่หนานโจวในขณะนี้ สิ่งที่เธอเสียใจคือการที่เธอหุนหันพลันแล่นพูดออกไปว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเย่ซูเฟิน เพราะมันถือเป็นการโจมตีเขาเธอมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอมองเพียงเย่หนานโจว “หนานโจว…”เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไรมากเขาเพียงแค่รู้ว่าพวกเธอมาที่สุสานและอาจจะเกิดเรื่องขึ้น เขาจึงเป็นกังวลและแวะเข้ามาดูหน่อยเท่านั้น เย่ซูเฟินโกรธมากขึ้น “เย่จื่อ เธอกำลังพูดอะไร เธอจะให้ฉันมีความสุขไม่ได้เลยใช่ไหม เธอมันสมควรตายจริง ๆ!”เธอผลักเย่จื่ออย่างแรงความสนใจของเย่จื่อมุ่งไปที่เย่หนานโจว ความโกรธของเธอลดลงมากและลดความเกรี้ยวกราดลง ในใจคิดแต่ว่ามันจะสร้างบาดแผลให้เขาหรือไม่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นการกระทำของเย่ซูเฟินและเธอก็ถูกผลักลงบันไดไปทันทีสติของเวินหนี่ยังไม่ทันกลับมาจากการที่เย่หนานโจวไม่ใช่ลูกแท้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 461

    “ดังนั้นเธอจึงทำทุกอย่างเพื่อทำลายครอบครัวทีละครอบครัว! เธอไม่เคยคิดถึงความผิดของตัวเองเลย!”“ฉันไม่ผิด!” เย่ซูเฟินพูดอย่างเดือดดาล “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอบีบบังคับฉันเอง!”เมื่อเห็นว่าทุกคนอารมณ์ร้อน ลู่ม่านเซิงจึงเกลี้ยกล่อมจากด้านข้าง “คุณอา อย่าเถียงกับคุณป้าเลยค่ะ เธอแค่หุนหันพลันแล่นไปเท่านั้น ฉันไม่เป็นไรค่ะ และฉันก็ไม่ได้โทษคุณอาเลย คุณป้าพวกคุณต่างก็ถอยคนละก้าวเถอะนะคะ”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” เย่จื่อมองไปที่ลู่ม่านเซิง และพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ถ้าเธอไม่ได้โทษฉัน แล้วจะเล่าให้เย่ซูเฟินฟังทำไม เธออยากให้เย่ซูเฟินออกหน้าให้ไม่ใช่เหรอ? เสแสร้งแกล้งทำ ภายนอกดูใสซื่อ แต่ภายในคิดไม่ซื่อ ฉันล่ะเกลียดคนแบบเธอที่สุด!”เมื่อเห็นแบบนั้นเย่ซูเฟินก็ผลักเธอทันที “เธอกำลังดุใคร รู้ว่าเซิงเซิงสูญเสียการได้ยิน แต่ยังแอบพูดไม่ดีลับหลังเธอ เธอมันชั่วร้ายแค่ไหนกัน?!”“ถึงฉันจะชั่วร้ายแต่ก็ไม่ได้ขาดคุณธรรมเหมือนเธอ!” เย่จื่อก็ผลักกลับคืนไปเช่นกัน“เธอลงมือกับฉันงั้นเหรอ?”เย่ซูเฟินจ้องเธอด้วยความโกรธ “วันนี้มีเธอก็ไม่มีฉัน!”“ลองดูสิว่าฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ไหม!”เย่จื่อไม่พูดพล่ำทำเพลงเข้าไปต

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 460

    เย่จื่อไม่คาดคิดว่าเย่ซูเฟินจะโทรมาหาเธอ ซึ่งทำให้เธออารมณ์เดือดขึ้นทันที "ทำไม? หรือว่าเป็นลู่ม่านเซิงที่บอกอะไรกับเธอ ฉันจัดการเธอแล้วยังไงล่ะ!""ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?" เย่ซูเฟินพูดด้วยความโกรธ เพราะอยากจะจัดการกับเย่จื่อให้ได้"ฉันต้องบอกด้วยเหรอ? คิดว่าเธอเป็นใคร!" เย่จื่อไม่สนใจที่จะเคี้ยวเมล็ดแตงโมแล้ว ปัดมันออกไปพร้อมกับกำลังมองหาที่ระบายความโกรธเย่ซูเฟินหัวเราะเยาะ "กลัวสินะ กลัวฉันจะหาตัวเจอ ฉันรู้แล้วว่าโรงงานเสริมความงามของเธอโดนพังเสียหายหมด ตอนนี้ถึงกับต้องหลบซ่อนตัวเหมือนเต่าหดหัวแล้ว!""ฉันเนี่ยนะกลัว? ฉันเคยกลัวเธอสักครั้งไหม! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแต่งงานกับเย่เว่ยถิง ฉันไม่เคยนับเธอเป็นคนของตระกูลเย่ด้วยซ้ำ!" เย่จื่อตอบกลับอย่างกระแทกกระทั้น"งั้นก็ออกมาสิ มาสู้กันต่อหน้า!" เย่ซูเฟินท้าทาย"ก็ได้ ออกมาก็ออกมา เย่ซูเฟิน ถ้าเธออยากจะตัดขาดกับฉันจริง ๆ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว!" พูดจบ เย่จื่อก็ตัดสายทิ้งและหยิบกระเป๋าขึ้น เตรียมออกไปข้างนอกทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น เวินหนี่รีบพูดขึ้น "คุณอาคะ คุณอาจะไปไหนคะ หนูจะไปด้วย"เย่จื่อหันมามองเวินหนี่ "เธอไม่ต้องไป เย่ซูเฟิ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 459

    [ตอนนี้เลย! ตอนนี้ได้เลยจ้ะ!]ลู่ม่านเซิงยิ้มมุมปาก เธอรู้ว่าเย่ซูเฟินต้องอยากมาเจอเธอแน่นอน เธอแค่ต้องนั่งรอที่นี่ก็พอเธอเดินวนไปรอบ ๆ แต่ก็ยังรู้สึกสนใจห้องนอนใหญ่ จึงเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีใครพักอยู่ที่นี่มาสักระยะหนึ่งแล้วเธอเปิดตู้เสื้อผ้าทันที ข้างในมีชุดนอนของผู้หญิงอยู่หลายชุดมีบางตัวที่เอาป้ายออกแล้ว บางตัวก็ยังไม่ได้เอาป้ายออกยังมีชุดนอนแบบสายเดี่ยวเซ็กซี่อยู่หลายชุดด้วยเธอหยิบมันออกมาลองทาบบนตัวเอง แล้วหมุนตัวไปมาหน้ากระจกถ้าเธอสวมมันแล้วหมุนตัวต่อหน้าเย่หนานโจว เขาต้องคิดว่าเธอดูดีแน่ ๆเธอไม่ได้อยู่ในห้องนานนัก เพราะโอกาสบางอย่างรอได้เธอมองไปที่เตียงใหญ่ คิดภาพตัวเองกับเย่หนานโจวอยู่บนเตียงนั้น ในฉากอันเร่าร้อนยี่สิบนาทีผ่านไปเย่ซูเฟินก็มาถึงว่างเจียงหยวนเธอส่งเสียงเรียกมาตั้งแต่หน้าประตู “เซิงเซิง! เซิงเซิง!”แต่ลู่ม่านเซิงไม่ได้ออกมาเมื่อเย่ซูเฟินไม่เห็นลู่ม่านเซิงในห้องนั่งเล่น เธอจึงถามว่า “เซิงเซิงอยู่ไหน? ไม่ใช่ว่าเธออยู่ที่ว่างเจียงหยวนหรือไง?”“คุณลู่อยู่ข้างบนค่ะ” คนรับใช้ตอบ ก่อนจะนึกขึ้นได้แล้วบอกว่า “คุณลู่หูหนวกอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 458

    ไม่เป็นไรวันเวลายังอีกยาวไกล สักวันหนึ่งเธอจะได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้แน่นอนลู่ม่านเซิงรู้สึกว่าเธอได้ก้าวเข้าใกล้เป้าหมายนั้นไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว เธอจึงมองไปที่เผยชิง ซึ่งมากับเธอในวันนี้เพราะเขาเป็นคนใกล้ชิดของเย่หนานโจว และเพราะเธอรู้ว่า ‘ต้องเกรงใจคนที่ให้ความช่วยเหลือ’ ลู่ม่านเซิงจึงต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา เธอถามอย่างเป็นมิตรว่า “คุณเผย ช่วงนี้พี่หนานโจวมาอยู่ที่นี่บ่อยไหม?”เผยชิงตอบเธอโดยใช้โทรศัพท์พิมพ์ว่า “ช่วงนี้เขาอยู่ที่นี่บ่อยขึ้น แต่หลายวันแล้วที่ประธานเย่ไม่ได้มาที่นี่ครับ”“เขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลเหรอ?” ลู่ม่านเซิงไม่ได้ติดต่อกับเย่ซูเฟินมานานแล้ว ช่วงนี้เธอมัวแต่ยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาเลยมีหลายครั้งที่เย่ซูเฟินส่งข้อความมาหา แต่เธอยุ่งจนลืมตอบไป“ประธานเย่จะกลับไปเป็นบางครั้งครับ” เผยชิงตอบอย่างจงใจ “แต่คุณผู้หญิงไม่ค่อยชอบกลับไปที่นั่น ประธานเย่ก็เลยไม่ชอบกลับไปมากนัก”ลู่ม่านเซิงเผลอกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว แต่ยังคงแสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วถามต่อว่า “แล้วช่วงนี้เขาจะมาที่นี่ไหม?”“เรื่องนั้นผมไม่ทราบครับ” เผยชิงตอบ “ช่วงนี้ประธานเย่ยุ่งกับงานม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 457

    ลู่เซินยังไม่เข้าใจทั้งหมดเมื่อก่อนเขาสนใจเวินหนี่มากจนละเลยข้อมูลสำคัญ เป็นไปได้ว่าเขาอาจมองผิดไป แล้วเวินหนี่ที่ผ่านเรื่องราวนั้นมาล่ะ? หรือว่าเป็นหนังสือพิมพ์ที่เขียนผิด?เวินหนี่เห็นลู่เซินคิดหนักตั้งแต่เมื่อครู่จึงถามว่า “ลู่เซิน กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?”ลู่เซินดึงสติกลับมา “ไม่มีอะไร สั่งอาหารเถอะ”“ฉันสั่งเรียบร้อยแล้ว” เวินหนี่บอก “คุณอาจะดื่มเบียร์หน่อย นายก็ดื่มด้วยนะ”“โอเค”ทั้งสองออกจากห้องทำงานเย่จื่อนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาอย่างสงบ สำหรับเธอ ตอนนี้การดูทีวีก็เป็นการฆ่าเวลาในทีวีกำลังออกข่าวฉาวของเธอเวินหนี่เดินเข้าไปนั่งดูทีวีด้วย เธอเห็นว่าในจอมีภาพเจียงเมิ่งเหยาในห้องพักฟื้น “ดูตามกล้องมานะคะ นี่คือเหยื่อของเรา ลู่ม่านเซิง คุณลู่คะ คุณยังได้ยินอยู่ไหมคะ?”ลู่ม่านเซิงดูไม่ค่อยพอใจกับกล้อง “ไม่ต้องถ่ายแล้ว ฉันไม่ให้สัมภาษณ์”“คุณลู่คะ” เจียงเมิ่งเหยาเรียกอีกครั้ง“ฉันไม่ได้ยิน ไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร ไม่ต้องถ่ายแล้ว ฉันไม่อยากเจอใครทั้งนั้นตอนนี้!” ลู่ม่านเซิงดูซีดเซียว อ่อนแอมาก เหมือนนางเอกในเรื่องเศร้าเจียงเมิ่งเหยาฉวยโอกาสนี้ ชี้ไปที่กล้องแล้วพูดว่า “คุณลู่

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 456

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของลู่เซินก็แสดงความตกใจออกมา "เป็นไปได้ยังไง ต้องเป็นเวินหนี่สิ"ตอนนั้น เขาชอบเวินหนี่มาก เขาห่วงใยเธอจนต้องรีบกลับประเทศในคืนนั้นผู้ช่วยที่ถือหนังสือพิมพ์อยู่ก็ยังคิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ และคิดว่าตัวเองอาจเข้าใจผิด "ผมจำได้ว่าคุณเคยบอกว่า คุณกับเวินหนี่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่คนนี้อายุน้อยกว่าคุณหนึ่งปี"เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของลู่เซินก็ยิ่งตกใจ เขารีบเดินเข้ามาหยิบหนังสือพิมพ์ไปพิจารณาอย่างละเอียดแม้ว่าหนังสือพิมพ์จะเก่าแล้ว แต่ก็ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี หัวข้อข่าวยังคงชัดเจน ข่าวระบุว่าโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งเกิดคดีฆาตกรรม มีคนตายจำนวนมาก และผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวคือ…สายตาของลู่เซินนิ่งงัน เขาตกใจจนต้องกะพริบตาสองสามครั้ง ราวกับว่าเขากำลังอ่านหนังสือพิมพ์ที่ต่างจากที่เคยเห็นมาก่อนผู้รอดชีวิตในหนังสือพิมพ์ก็ชื่อเวินหนี่เหมือนกัน แต่เป็นนักเรียนที่อายุน้อยกว่าหนึ่งปี นั่นหมายความว่าไม่ใช่เวินหนี่ที่เขารู้จักมันเกิดอะไรขึ้น?สีหน้าของลู่เซินเริ่มเปลี่ยนไป เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ผิดคือหนังสือพิมพ์หรืออะไรบางอย่างในกระบวนการนี้เวินหนี่เค

DMCA.com Protection Status