แชร์

บทที่ 339

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-23 18:00:00
ในรถมีเวินหนี่และกู้อีอีนั่งอยู่ ส่วนเย่หนานโจวนั่งอยู่ที่เบาะคนขับ เขามีสีหน้ามืดครึ้ม มองพวกเธอสองคนจับมือกันจากกระจกมองหลัง

พวกเธอสนิทกันขนาดนี้เมื่อไหร่กัน?

เขาไม่อยากให้กู้อีอีตามพวกตนมาด้วย

"พี่หนานโจว ขอบคุณมากนะ ฉันกับพี่สะใภ้จะไปกินข้าวเย็นด้วยกัน" กู้อีอียังไม่ทันสังเกตเห็นว่า

เย่หนานโจวสีหน้ามืดครึ้มอยู่ จึงเร่งให้เขาขับรถ

เธอหิวจนทนไม่ไหวแล้ว

เย่หนานโจวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ฉันเคยบอกว่าจะพาเธอกลับบ้านด้วยเหรอ? แล้วคนขับรถของเธอล่ะ? รีบให้เขามารับเธอไปได้แล้ว"

เขาไม่ยอมทำตัวเป็นคนขับรถให้พวกเธอแน่นอน

กู้อีอีดึงมือเวินหนี่แน่นขึ้น "พี่บอกแล้วว่าจะไปกินข้าวด้วยกัน พี่จะไล่ฉันไปไม่ได้นะ"

เวินหนี่พูดว่า "จะไปบ้านพ่อแม่ของฉัน ฉันบอกไว้แล้วว่าจะพาเพื่อนไปกินข้าว"

"ไปบ้านพ่อแม่ของพี่เหรอ ฉันต้องซื้อของไปฝากไหม?" กู้อีอีกลัวว่าครอบครัวของเวินหนี่จะไม่ชอบเธอ

"ไม่ต้องคิดมากหรอก พ่อแม่ของฉันใจดีมาก แล้วอาหารที่ทำก็อร่อยด้วย" เวินหนี่บอกกับเธอ

ถ้ากลับไปที่วิลล่า พวกเขาก็จะมีแค่ไม่กี่คน มันคงจะเงียบเหงา กลับไปบ้านตัวเองดีกว่า

ที่สำคัญ ฝีมือการทำอาหารของพ่อแม่เธอดีมาก อาจจะถู
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 340

    เติ้งจวนมองไปที่เย่หนานโจว และไม่ได้แสดงท่าทางต้อนรับอย่างอบอุ่นเหมือนแต่ก่อน เธอพูดอย่างเย็นชา "ไม่ต้องหรอก คุณเป็นแขก นั่งอยู่ตรงนั้นเถอะ"เมื่อก่อนเติ้งจวนชอบเย่หนานโจวมาก เพราะในเมื่อรักลูกก็รักคนใกล้ตัวของลูกด้วยแต่เมื่อทุกอย่างกลายเป็นภาพลวงตา เธอรู้สึกเสียดาย แต่ก็ไม่อยากโทษใครเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องของพวกเขาสองคนถ้าพวกเขาจะหย่ากัน เธอก็ไม่สามารถทำตัวเหมือนเดิมได้ตอนนี้เมื่อเย่หนานโจวมาที่บ้านของพวกเขา ก็ได้แต่ถือว่าเป็นแขก จึงไม่ควรให้เขามาช่วยงานอีกเย่หนานโจวรู้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ ภาพลักษณ์ของเขาในสายตาพ่อแม่เวินหนี่ย่ำแย่ไปมากเขาเองก็อยากจะกอบกู้สถานการณ์ อยากแสดงตัวให้ดีต่อหน้าพ่อแม่ของเวินหนี่"นั่งเฉย ๆ ก็เสียเวลา ให้ผมช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้นะครับ" เย่หนานโจวไม่สนใจท่าทางห่างเหินของเติ้งจวน และเสนอตัวช่วยงานอย่างกระตือรือร้นแม้เติ้งจวนตั้งใจจะบอกว่าไม่จำเป็น แต่เย่หนานโจวเดินตรงไปที่ครัวแล้ว เหมือนแต่ก่อนที่เขาจะช่วยเธอทำงาน เพื่อแบ่งเบาภาระเติ้งจวนมองเขา แล้วลอบถอนหายใจแต่ก่อนเธอเคยรู้สึกดีใจกับสิ่งเหล่านี้เติ้งจวนมีลูกสาวเพียงคนเดียวคือเวินหนี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-23
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 341

    เธอพูดกับเขาด้วยความหวังดี ไม่ว่าเมื่อก่อนเธอจะเคยชื่นชอบเขามากแค่ไหนก็ตาม แต่ตั้งแต่ที่การแต่งงานของพวกเขาคือธุรกิจ มันก็ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไปแล้วเธออยากให้ลูกสาวของเธอมีความสุข และไม่ต้องติดอยู่กับการแต่งงานที่ไร้ความรักเช่นนี้เย่หนานโจวไม่ได้หยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ในมือ เขาพอจะเดาออกว่าเติ้งจวนจะพูดอะไร และเขาก็เอ่ยขึ้นเสียงทุ้มว่า “แม่ครับ ผมจะให้คำตอบกับแม่แน่นอนครับ”เติ้งจวนกล่าว “หนีหนี่เองก็ต้องการความสุขเช่นกัน ฉันหวังว่าเธอจะไม่ต้องรอนานเกินไป”คำพูดของเธอชัดเจน ผู้หญิงอย่างเวินหนี่หลังจากหย่าแล้ว เธอจะต้องได้พบกับคนที่รักเธอจากใจจริงแน่นอน พวกเขาอายุเยอะแล้ว ไม่อาจอยู่กับเวินหนี่ไปได้ตลอดชีวิตหากเวินหนี่ต้องการหาที่พึ่งพิงดี ๆ แต่งงานและมีลูก เธอก็หวังว่าจะไม่มีใครเข้ามาขัดขวางลูกของเธอระหว่างทานอาหาร ทุกคนมีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันกู้อีอีเคยไปทานข้าวกับผู้คนมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นวันเกิดคุณปู่ หรือเทศกาลสำคัญ ๆ ก็จะมีคนมาทานอาหารร่วมเธอมากมายแต่มันแตกต่างจากความรู้สึกนี้เติ้งจวนได้ยินมาจากเวินหนี่ว่าเด็กคนนี้ไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กในฐานะแม่ เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 342

    อิจฉาที่เวินหนี่มีครอบครัวที่น่ารักแบบนี้เธอรู้ว่าพวกเขารักและห่วงใยเธอเพราะเธอเป็นเพื่อนของเวินหนี่“หยุดร้องไห้ได้แล้ว น้ำตาของผู้หญิงมีค่ามากเลยนะ” เวินจ้าวไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้กู้อีอีไม่สามารถหยุดได้เวินหนี่เป็นคนประเภทที่มีจิตใจอ่อนไหวเธอรู้ว่ากู้อีอีไม่มีพ่อแม่และมีญาติเพียงคนเดียวคือคุณปู่กู้ เธอจึงรู้สึกสงสารอยู่ในใจและอยากพากู้อีอีมาพบพ่อแม่ของเธอ“หยุดร้องได้แล้ว วันนี้ยังร้องไห้ไม่พออีกเหรอ?” เวินหนี่ไม่อยากให้เธอร้องไห้กู้อีอีเช็ดน้ำตา สูดจมูกแล้วถือชานมไว้ในอ้อมแขน “ขอบคุณนะคะคุณลุงคุณป้า หนูจะกลับมาใหม่แน่นอนค่ะ”เติ้งจวนและเวินจ้าวส่งพวกเขาที่หน้าประตู กู้อีอียังคงอดไม่ได้ที่จะร้องไห้เมื่อเธอลงไปถึงชั้นล่างเวินหนี่ยื่นทิชชู่ให้เธอเย่หนานโจวค่อนข้างเฉยเมยและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ถ้าปู่ของเธอเห็นเธอร้องไห้แบบนี้ เดี๋ยวก็คิดว่าเวินหนี่รังแกเธอหรอก”เวินหนี่กำลังคิดหาวิธีปลอบใจเด็กสาวคนนี้ แต่เย่หนานโจวกลับสาดน้ำเย็นลงบนหัวของเธอเวินหนี่พูด “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณหยุดพูดเถอะ เดี๋ยวก็ทำให้เธอร้องไห้ขึ้นมาจริง ๆ หรอก”ยิ่งกว่าน้ำตาแห่งความซึ้งใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 343

    เธอยื่นกระเป๋าคืนให้กู้อีอีกู้อีอีรู้สึกกังวลเล็กน้อยและถามขึ้นว่า “เมื่อวานเธอคุยโทรศัพท์อยู่ข้าง ๆ ฉันไม่ใช่เหรอ? แค่พริบตาเธอก็หายไปแล้ว แน่ใจเหรอว่าคนที่หายไปเป็นฉัน?”เจียงซิงถงไม่ได้พูดความจริงเธอเห็นกู้อีอีถูกรังแก แต่เธอไม่ได้ยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือเธอเองก็เป็นผู้หญิง แถมยังไม่มีคนติดตามมาด้วย ดังนั้นการยื่นมือเข้าไปยุ่งมีแต่จะสร้างปัญหาให้กับตัวเอง เธอได้แต่เฝ้าดูอย่างเฉยเมย ก่อนจะวิ่งหนีไปในขณะที่พวกเขาไม่ทันสังเกตเธอจะให้กู้อีอีรู้ไม่ได้ว่า เธอรู้ว่ากู้อีอีกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่น่ะสิ ฉันมีงานสำคัญต้องคุยกัน พอได้คุยก็ใช้เวลาตั้งครึ่งชั่วโมง หลังจากวางสายฉันก็ไม่เห็นเธอแล้ว ฉันนึกว่าเธอรอไม่ไหวเลยกลับไปก่อน แต่เธอลืมกระเป๋าไว้ที่นั่น ฉันก็เลยเอามาคืนให้น่ะ”“อีอี เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?” เจียงซิงถงถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรสิ่งที่เจียงซิงถงพูด หากเป็นเมื่อก่อน กู้อีอีก็คงจะเชื่อเจียงซิงถงเป็นรุ่นพี่ของเธอ ตอนที่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ เธออยู่คนเดียวและไม่รู้จักใครเลยนั้น พอได้มารู้จักกับเจียงซิงถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 344

    คำพูดของเธอทำให้ใบหน้าของเจียงซิงถงแข็งทื่อ และไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรอยู่ครู่หนึ่งตามความเข้าใจของเธอเกี่ยวกับกู้อีอี กู้อีอีเป็นคนหัวอ่อน ตราบใดที่เธอทำดีกับกู้อีอี กู้อีอีก็จะทำดีกับเธอมากล้านเท่าแต่เธอกลับถามคำถามแบบนี้ออกมาแต่คำพูดของกู้อีอีนั้นก็ไม่ได้ไม่สมเหตุสมผลตอนที่พวกเธอยังอยู่ต่างประเทศ เจียงซิงถงไม่รู้ว่าเธอเป็นหลานสาวของคุณปู่กู้ กู้อีอียังเด็กและเป็นครั้งแรกที่ไปต่างประเทศ ดังนั้นนิสัยการใช้ชีวิตจึงแตกต่างออกไปมากเธอไม่คุ้นชินและไม่มีเพื่อน เธอมักจะอยู่ตัวคนเดียวและไม่ชอบสื่อสารกับผู้อื่นเจียงซิงถงได้ยินคนอื่นพูดว่าเธอไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ทั้งดูน่าสงสารและอ่อนแอ มีประสบการณ์ชีวิตที่น่าสังเวชมากกว่าคนส่วนใหญ่แต่เจียงซิงถงนั้นต่างออกไป เธอเติบโตมาในตระกูลที่มีสิทธิพิเศษ ร่ำรวย และใช้ชีวิตได้ดีในต่างประเทศคนอย่างกู้อีอีต้องการความช่วยเหลือ ส่วนเธอก็จะสามารถได้รับความชื่นชมนับถือจากกู้อีอีได้เช่นกันกู้อีอีถือว่าเธอคือที่พึ่ง และเธอก็จะรู้สึกภาคภูมิใจเธอรู้สึกแบบนั้นมาตลอดและเธอก็เข้ากับกู้อีอีได้ดี หลังจากกลับมาประเทศจีน และรู้ว่ากู้อีอีเป็นลูกส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 345

    เธอเคยคิดว่ากู้อีอีเป็นคนที่เชื่อฟังว่าง่ายตั้งแต่เธอกลับมาตระกูลกู้ เธอก็เปลี่ยนไป ดวงตาของเจียงซิงถงเย็นลง หลังจากพูดแขวะกู้อีอีเสร็จ เธอก็เริ่มเกลียดเวินหนี่อีกครั้งถ้าไม่ใช่เพราะเวินหนี่ กู้อีอีก็จะยังคงเป็นกระต่ายน้อยที่เชื่อฟังเธอ ที่ไม่ว่าจะสั่งอะไรก็ทำอย่างนั้น เวินหนี่นี่แหละที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของเธอ!…เวินหนี่อาศัยจังหวะที่เย่หนานโจวอยู่ในห้องหนังสือและไม่ได้อยู่กับเธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทำการช้อปปิ้งออนไลน์เธอซื้อหนังสือการเลี้ยงลูกสองสามเล่มเธอลูบท้องตัวเอง แม้ว่าจะยังไม่ชัดมาก แต่อาจเป็นเพราะเธอรู้ว่าตัวเองกำลังท้อง จึงได้รู้สึกว่าในท้องมีน้ำหนักอยู่เมื่อรู้สึกว่าลูกยังอยู่ เธอก็สบายใจ หนังสือที่เธอซื้อไม่ได้ส่งมาที่บ้านอย่างแน่นอน แต่ส่งไปที่ถังเยาเธอขอให้ถังเยาเซ็นรับให้ และเมื่อเธอมีเวลาก็จะได้ไปหาถังเยาและถือโอกาสอ่านหนังสือด้วยเธอส่งข้อความถึงถังเยาเพื่อเตือนเพื่อนถังเยาตอบกลับมาว่า [เข้าใจแล้ว! ส่งมาที่บ้านฉันได้เลย ไว้ฉันจะอ่านด้วยว่าคนท้องควรกินอะไรถึงจะแข็งแรง และเลี้ยงดูลูกน้อยของเธอให้ดี]ถังเยาทุ่มเทให้กับเธอและคอยคิดแทนเธอเสมอเวิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 346

    ยิ่งเย่หนานโจวสงสัย เธอก็ยิ่งตื่นตระหนก เธอกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวและอธิบายว่า “พ่อแม่รู้ว่าฉันชอบกิน พวกเขาจึงทำให้กินทุกครั้งที่ฉันกลับไป ฉันกินจนเบื่อแล้ว วันนี้ก็เลยไม่ค่อยอยากกินน่ะค่ะ ทำไมจู่ ๆ คุณถึงสนใจอาหารการกินของฉันล่ะคะ?” เย่หนานโจวเงยหน้าขึ้นมองเธอ และเอามือทัดผมของเธอเบา ๆ “ไม่มีอะไร แค่รู้สึกว่าช่วงนี้เธอเปลี่ยนไปมาก เธอสบายดีก็ดีแล้วล่ะ”“แต่...เวินหนี่ เธออย่าปิดบังอะไรฉัน”เธอมองมือที่ยื่นออกมาอย่างห่วงใยเธอและสนิทสนมกับเธอ แต่ปากถามคำถามที่คาดคั้น เธอก็รู้สึกเพียงตื่นตระหนกเท่านั้นเธอจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขาที่ลุ่มลึกและไร้ขอบเขต ราวกับว่าเขารู้ถึงสิ่งที่เธอซ่อนไว้อยู่แล้วเป็นไปไม่ได้หากเขารู้ ปฏิกิริยาของเขาคงไม่เป็นแบบนี้และปกติเขาก็ไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไรบางทีเขาอาจจะแค่รู้สึกสงสัยเวินหนี่ฝืนยิ้ม “ฉันไปทำงานและเลิกงานพร้อมคุณทุกวัน จะปิดบังอะไรคุณได้ คุณระแวงเกินไปแล้ว”“ยังจำโจวเสี่ยวหลินได้ไหม?”จู่ ๆ เขาก็กล่าวถึงเธอ สิ่งนี้ทำให้เวินหนี่หัวใจเต้นแรงอีกครั้ง “จำได้ค่ะ เธอเสียชีวิตแล้วไม่ใช่เหรอคะ”“เธอไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น!”เย่หนานโจวมั่นใจว่าแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 347

    เธอยื่นกุญแจกลับไปอีกครั้ง “ฝากบอกเขาว่าไม่จำเป็น”เผยชิงรู้สึกกระอักกระอ่วน และดันกุญแจใส่ไว้ในมือของเธอ “คุณขับรถคันนี้เถอะครับ ประธานเย่ได้โอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อของคุณแล้ว หากคุณไม่ยอมรับมันผมก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเขายังไง”ประธานเย่บอกเขาว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้เวินหนี่ขับรถคันนี้ให้ได้ถ้าเธอปฏิเสธ เขาก็จบไม่สวยแน่ และเขาก็จะถูกตำหนิว่าเขาไร้ความสามารถในการทำงาน เวินหนี่เม้มริมฝีปากถือกุญแจรถในมือ และมองดูรถคันใหม่อีกครั้งด้วยความรู้สึกกังวลเย่หนานโจวเขาทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?หากเธอขับรถหรูแบบนี้ไปทำงาน มีหวังคนอื่นได้นินทาว่าเธอมีผู้สนับสนุนเบื้องหลังแน่ ๆ เผยชิงเห็นว่าเธอลังเล ดังนั้นจึงอาศัยจังหวะที่เธอไม่ได้พูดอะไร ก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า “จะสายแล้วครับ ผมมาขับรถพอดี เดี๋ยวจะไปส่งคุณเอง”เผยชิงหยิบกุญแจรถ แล้วรีบเข้าไปรอเวินหนี่เวินหนี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเย่หนานโจวกำลังคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ ก็ให้เธอขับรถหรูขนาดนี้เธอรู้ว่าเขาใจกว้าง แต่เธอก็ต้องระวังเพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัยแน่นอนว่าต้องจอดที่โรงจอดรถส่วนบุคคล และไม่ค่อยมีคนเห็นเธอกำลังจะสายแล้ว จึงยอมตามเผยชิงไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-25

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status