แชร์

บทที่ 319

ผู้แต่ง: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เขาสั่งเธอแบบนี้ แล้วเขาเคยบอกกับตัวเองบ้างหรือเปล่า?

เย่หนานโจวขมวดคิ้ว “ฉันทำไม?”

เวินหนี่มองเขาและไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือไม่

บางทีเธออาจไม่มีความกล้ามากพอที่จะเผชิญกับความจริง

เธอกำหมัดแน่นแล้วมองไปทางอื่น “ไม่มีอะไรค่ะ”

เย่หนานโจวเห็นว่าสีหน้าของเธอดูแปลกไป และดูลังเลที่จะถามอะไรกับเขา เหมือนเธอมีบางอย่างอยู่ในใจ

เขากำลังจะถามเธอ แต่แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงคะ!” คนรับใช้เรียก

เย่หนานโจวอดไม่ได้ที่จะเดินไปเปิดประตู

คนรับใช้ยื่นบัตรเชิญให้กับเย่หนานโจว “คุณผู้ชาย นี่คือบัตรเชิญจากตระกูลกู้ค่ะ”

มีคำว่า “อายุยืน” เขียนอยู่

“ลงไปได้”

เย่หนานโจวเปิดบัตรเชิญ มันเป็นคำเชิญจากคุณปู่กู้สำหรับวันเกิดครบรอบ 70 ปีของเขา

เขารู้จักคุณปู่กู้มานาน แต่แทบจะไม่ค่อยได้ไปร่วมงานวันเกิดของเขาเลย

พวกเขาเข้าใจกันโดยปริยาย และไม่ไปรบกวนอีกฝ่ายมากเกินไป

การส่งคำเชิญมาในครั้งนี้ถือว่าเป็นวันสำคัญของคุณปู่กู้ด้วย เขาควรเข้าร่วม

และเนื่องจากคุณปู่กู้เคยเป็นทหารมาก่อน เขาจึงประหยัดไม่ชอบความฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลือง

ครั้งนี้มันคงเป็นแค่การทานอาหารเย็นกับครอบครัวเท่านั้น และ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 320

    เวินหนี่เดินเข้าไป ก่อนจะหยิบชุดเดรสออกมาจากถุงของขวัญมันเป็นชุดเดรสสีเขียวเข้มแบบกระโปรงบาน ดีไซน์เกาะอกที่ท่อนบน เนื้อผ้าก็ใส่สบาย เธอได้อ่านนิตยสารแฟชั่นเมื่อเร็ว ๆ นี้เจอว่ามันเป็นชุดระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบโดยนักออกแบบชื่อดังถึงเธอจะลืมชื่อ แต่เธอก็รู้ว่าเสื้อผ้าที่คนผู้นั้นออกแบบราคาตั้งต้นอยู่ที่สิบล้านบาทจู่ ๆ เธอก็นึกถึงชุดของลู่ม่านเซิงที่เย่หนานโจวใช้เงินห้าล้านซื้อให้เธอ เวินหนี่มองเขาแล้วถามว่า “คงจะแพงมากเลยใช่ไหมคะ”เงินเป็นเพียงตัวเลขสำหรับเย่หนานโจว สิ่งที่เขาต้องการคือความสุขของเวินหนี่ “ตอนที่เห็นฉันคิดว่ามันเหมาะกับเธอมาก”“แล้วชุดที่คุณซื้อให้ลู่ม่านเซิงก็เหมาะกับเธอด้วยเหมือนกันใช่ไหมคะ?” เวินหนี่ถามออกไปอย่างไม่ทันได้คิด ก่อนจะนึกเสียใจทีหลังที่พูดออกไปแบบนั้นทำไมจู่ ๆ เธอถึงพูดถึงเรื่องนี้กันล่ะ มันทำให้พวกเขากระอักกระอ่วนกันหมดเธอเม้มริมฝีปาก คิดว่าเย่หนานโจวจะตำหนิเธอที่พูดมากเกินไป และว่าเธอเป็นคนใจแคบ แต่ทันใดนั้นเธอก็ไม่ได้ยินเสียงเขาพูดอะไรสิ่งนี้ทำให้เวินหนี่รู้สึกสับสนและอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขาแต่เธอกลับเห็นว่ามุมปากของเขายกขึ้น แ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 321

    แต่เวินหนี่ก็สังเกตเห็นสิ่งที่ผิดปกติ เย่หนานโจวพูดนิ่ง ๆ ตามปกติแต่มันมีความเฉยเมย แฝงไปด้วยความจำใจหรือบางทีเธออาจจะคิดมากไปเองเธอแก้นิสัยชอบวิเคราะห์อารมณ์ของเย่หนานโจวจากคำพูดของเขาไม่หายสักทีเวินหนี่ใส่ใจกับความรู้สึกของเขา ซึ่งเธอไม่ควรกังวลมากนักเมื่อเดินเข้าไปในตระกูลกู้ ก็มีคนมาถึงมากมายแล้ว ประมาณสิบกว่าคนได้บางคนใส่สูท บางคนสวมเครื่องแบบทหารที่ดูไม่ธรรมดาคุณปู่กู้สวมชุดเสื้อคลุมจีน มันไม่ใช่ชุดใหม่ แต่ให้ความรู้สึกถึงยุคสมัยตามที่เย่หนานโจวกล่าวไว้ว่าคุณปู่กู้เป็นคนประหยัดคุณปู่กู้กำลังคุยกับคนเหล่านั้นอย่างมีความสุข เมื่อเขาเห็นเย่หนานโจวและเวินหนี่เข้ามา เขาก็ยิ้มขึ้นทันที “โอ้ หนานโจวมาแล้วเหรอ แม่หนูเวินก็มาด้วย”เขาถือไม้เท้าและยืนขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อทักทายพวกเขาเวินหนี่เดินเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพราะไม่อยากให้คุณปู่กู้ต้องเหนื่อยมากนัก “คุณปู่กู้!”“แม่หนูเวิน” คุณปู่กู้มองเธอแล้วพูดต่อว่า “วันนี้แต่งตัวสวยจริง ๆ ในที่สุดหนานโจวเจ้าเด็กคนนี้ก็เต็มใจซื้อชุดสวย ๆ ให้เธอสักทีนะ!”เขาพูดหยอกล้อ เวินหนี่ยิ้มและพูดว่า “ครั้งที่แล้วที่เจอกันหนูอยู่ในเวลา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 322

    “ทำไมถึงไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงมาก่อนเลยล่ะ?” เวินหนี่คิดอาจเป็นเพราะสัญญาระหว่างพวกเขาสองคนที่ว่าจะไม่ยุ่งเรื่องของอีกฝ่ายมากเกินไปเกินความจำเป็นยังไงซะเขาเองก็มักไม่เปิดเผยเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว ไม่นานเธอก็ถอนสายตากลับมาทันใดนั้นเสียงเรียบ ๆ ของใครบางคนก็ดังขึ้น “คุณปู่กู้ เราทุกคนเข้าใจความหมายของท่านดี และเราก็ไม่ได้อยากจะพูดไร้สาระ แต่ความจริงอยู่ตรงหน้า ผู้หมวดเจี่ยนก็แค่รู้สึกไม่ยุติธรรมแทนท่าน ยังไงท่านก็เป็นถึงผู้อาวุโส รู้จักกันมาก็ตั้งนาน แต่ดูเหมือนว่าหนานโจวจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับท่านเลย”เวินหนี่ฟังคนเหล่านี้ และดูเหมือนเขาจะกัดเย่หนานโจวไม่ปล่อย เธอมองไปที่เย่หนานโจวอีกครั้งและพบว่าเขายังคงเงียบอยู่ตามนิสัยของเขา เขาไม่มีทางปล่อยให้คนเหล่านี้พูดจาไร้สาระตรงหน้าเขาแน่ คงเป็นเพราะเขาเห็นแก่คุณปู่กู้ เพราะยังไงคนเหล่านี้ก็คือคนสนิทของเขา“หนานโจว อย่าว่านะที่เรามีความคิดแบบนี้ ยังไงพวกเราก็เคยผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน ไม่ว่านายจะถ่อมตัวมากแค่ไหน แต่นายจะไม่แจ้งเรื่องสำคัญอย่างการแต่งงานให้เรารู้เลยเหรอ หรือว่างานแต่งงานนี้นายไม่เต็มใจ?” ริมฝีปากของเจี่ยนซื่อเ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 323

    “น้องสะใภ้ แก้วนี้ขอดื่มให้กับเธอ”ขณะเดียวกัน เจี่ยนซื่อเฟิงก็ยื่นแก้วเหล้าให้กับเวินหนี่เย่หนานโจวยื่นมือข้างหนึ่งไปโอบไหล่ของเธอ ส่วนอีกข้างก็หยิบแก้วเหล้าจากมือของเจียนซื่อเฟิง “เธอแพ้แอลกอฮอล์ ฉันจะดื่มแทนเธอเอง”เย่หนานโจวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและดื่มเหล้าในมือหมดภายในอึกเดียวคนอื่นเริ่มส่งเสียงแซว “โอ้โห ดูหนานโจวสิ เมื่อก่อนตอนอยู่ในค่าย ลำบากลำบน กล้ารุกกล้าบุก เป็นชายที่มีภาพลักษณ์แข็งแกร่ง ตอนนี้ยอมทำทุกอย่างเพื่อภรรยาตัวน้อย โอ้ เหล็กถูกหลอมจนกลายเป็นคนอ่อนโยนแล้วเหรอเนี่ย!”“ก็นั่นนะสิ”“หนานโจว ในเมื่อพาเธอมาให้พวกเรารู้จักแล้วแล้วจะจัดฃานแต่งใหม่เมื่อไหร่ล่ะ คู่หนุ่มสาวยังไม่ได้จัดงานแต่งงานใช่ไหม? เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะเอาซองแดงใบใหญ่ไปแลกเหล้าดื่มที่งานของนายแน่!”เวินหนี่มองดูคนเหล่านั้นที่กำลังยิ้มแย้มสามารถมองออกได้ว่าแม้เมื่อกี้พวกเขาจะไม่พอใจเย่หนานโจว แต่ก็คลี่คลายลงหลังจากได้ยินคำพูดของคุณปู่กู้ และบางคนก็มีความรู้สึกที่จริงใจต่อเขาเธอยังคงยิ้มบาง ๆริมฝีปากบางของเย่หนานโจวขยับช้า ๆ “หากได้วันแล้วฉันจะบอกทันที”“ต้องอย่างนั้นสิ! การแต่งงานเป็นเรื

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 324

    กู้อีอีเดินตรงไปหาเย่หนานโจว “ครั้งก่อนตอนอยู่ในงานของคุณอา ฉันยังไม่ทันได้คุยอะไรกับพี่เลย พี่ก็รีบร้อนกลับไปก่อน คราวนี้พี่คงจะอยู่สักสองสามวันใช่ไหมคะ?”เธอคล้องแขนของเย่หนานโจว โดยทิ้งเวินหนี่ไว้ข้างหลังในงานเลี้ยงเธอไม่ได้มีความประพฤติแบบนี้ เพราะเธอไม่รู้ว่าเวินหนี่เป็นคนแบบไหนและในตอนนั้น เธอก็ให้สัญญากับคุณอาว่าจะช่วยลองใจเย่หนานโจว หลายปีที่ผ่านมาเธอถือว่าเย่หนานโจวเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเธอเลยเต็มใจที่จะช่วยเหลือตอนนี้เย่หนานโจวมีภรรยาแล้ว ดังนั้นเธอก็ควรปฏิบัติต่อเวินหนี่อย่างดีเหมือนพี่สะใภ้แต่เธอไม่ชอบเวินหนี่เธอได้ยินจากเพื่อนของเธอว่าเวินหนี่เป็นตัวคนที่ไม่ธรรมดาในที่ทำงาน เธอใช้ตำแหน่งกดขี่ข่มเหงผู้อื่น และยังจองหองอีกด้วย!ได้ยินมาว่าแม่ของเย่หนานโจวก็ไม่ชอบเธอก่อนหน้านี้เธอไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการแต่งงานของเย่หนานโจวเลยด้วยแต่ตอนนี้พอมาคิดดู การที่ไม่รู้มันก็ดีกว่าเมื่อนึกถึงว่าในอนาคตเธอจะต้องเผชิญหน้ากับพี่สะใภ้ที่มีอำนาจขนาดนี้ เธอไม่อยากโดนรังแก หากพวกเขาหย่ากันได้ก็ยิ่งดี“อยู่ไม่นานหรอก” เย่หนานโจวยื่นมือผลักกู้อีอีออกไปและเตือนขึ้น “มีคนอยู่ท

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 325

    เธอซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของคุณปู่กู้ทันที อย่างต้องการการปลอบประโลมคุณปู่กู้จับใบหน้าของเธอและตรวจดูอย่างละเอียด มันเป็นเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยบนผิว ไม่ถึงกับทำให้เสียโฉม “แผลเล็ก ๆ ไม่เป็นไร อีอี คนเยอะแยะขนาดนี้หยุดร้องไห้ได้แล้ว”“คุณปู่” กู้อีอีสูดจมูก “คุณปู่ต้องเอาเรื่องให้หนูนะคะ”ก่อนที่คุณปู่กู้จะพูดอะไร เจี่ยนซื่อเฟิงก็พูดขึ้นว่า “อีอีได้รับบาดเจ็บ ตั้งแต่เด็กมา คุณปู่กู้ไม่เคยปล่อยให้เธอลำบากเลย ใครก็ตามที่กล้ารังแกเธอ ฉันคนหนึ่งละที่จะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด!”เวินหนี่มองไปที่เจียนซื่อเฟิง เขาตัวใหญ่มาก ถ้าเขาลงมือจริง ๆ เธอก็จะเป็นเพียงมดเท่านั้นเธอเยาะเย้ยตัวเองโดยไม่รู้ตัว แต่เย่หนานโจวก็จับมือเธอไว้พร้อมกับจ้องไปที่เจียนซื่อเฟิง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายคิดว่าข้างหลังเวินหนี่ไม่มีใครหนุนหลังงั้นเหรอ?”เวินหนี่มองเย่หนานโจว และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไรเกี่ยวกับเขา เขาก็นิ่งเงียบและไม่เคยตอบโต้ แต่หากเธอถูกรังแก เขาก็จะออกมายืนหยัดเพื่อเธอทันที ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตามเจียนซื่อเฟิงมองไปที่เย่หนานโจวด้วยแววตาเจือโทสะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 326

    เวินหนี่ไม่พูดอะไรเพิ่มเติมอีก คุณปู่กู้พูดถูก การทำร้ายคนอื่นมันง่าย แต่ผลลัพธ์มักไม่เป็นอย่างที่หวัง“ขอโทษค่ะ พี่สะใภ้” กู้อีอีกล่าว“ไม่เป็นไร ฉันให้อภัย” เวินหนี่ตอบด้วยน้ำใจอันกว้างขวางคุณปู่กู้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกพอใจมาก อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นความผิดร้ายแรงนัก จึงกล่าวว่า “รู้ตัวว่าผิดก็ดีแล้ว ที่กลัวคือไม่รู้ว่าผิด แบบนี้แหละถึงจะเป็นคนที่น่าเคารพ ต่อไปอย่าทำเรื่องแบบนี้อีกนะ”กู้อีอีพูดอย่างอ่อนน้อม “ทราบแล้วค่ะคุณปู่ ต่อไปหนูจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่สะใภ้แน่นอน”หญิงสาวพูดพลางคล้องแขนเวินหนี่ต้องทำให้คุณปู่กู้เห็นว่าเธอและเวินหนี่เข้ากันได้ดี และเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกเมื่อเห็นเช่นนี้ คุณปู่กู้ก็ยิ้มออกมา “ดี ๆ เข้าหากันบ่อย ๆ นะ”เวินหนี่รู้สึกไม่ค่อยชินนักความกระตือรือร้นที่มาอย่างกะทันหันเช่นนี้ ย่อมมีเบื้องหลังเป็นแน่ แต่โชคดีที่กู้อีอีไม่ได้ทำอะไรเกินเลยเธอแค่แสดงท่าทางให้คุณปู่กู้เห็น เพื่อไม่ให้ท่านไม่สบายใจ“คุณปู่คะ วันนี้เป็นวันเกิดครบ 70 ปี อย่าโมโหเลยนะคะ หลานขออวยพรให้คุณปู่มีความสุขเหมือนลมตะวันออกที่พัดมา อายุยืนยาวเหมือนภูเ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 327

    เย่หนานโจวเดินเข้ามาหาเวินหนี่ที่กำลังยืนรับลม ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “ชินแล้ว ก็เลยไม่คิดจะเปลี่ยนอะไร ยังไงก็เหมือนเดิม”เหมือนเดิม?อะไรที่เหมือนเดิม?เวินหนี่คิดว่าเธอรู้จักเขาดีพอแล้ว แต่กลับพบว่าเขายังมีความลับอีกมาก เธอจึงมองไปที่ใบหน้าด้านข้างของเขา “ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ทำแบบนี้กับคุณเหรอ? คุณถูกกีดกันออกจากพวกเขาใช่ไหม?”ทำไมนะ? ทั้ง ๆ ที่คนพวกนั้นอายุมากกว่าเย่หนานโจวมากพวกเขาทะนุถนอมกู้อีอีมาก แล้วทำไมถึงไม่อ่อนโยนกับเย่หนานโจวบ้างตอนที่เขาไปเป็นทหาร เขาน่าจะอายุยังน้อยมากเย่หนานโจวตอบ “ต่อไปเราคงเจอพวกเขาไม่บ่อยนัก ไม่ต้องกังวลไปหรอก”“คุณไม่เคยบอกฉันเลยว่าคุณเคยเข้ากองทัพ”เย่หนานโจวมองไปที่เวินหนี่ “เคยอยู่กับหน่วยทหาร แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นการเข้ากองทัพ ตอนนั้นไม่มีใครดูแลฉัน คุณปู่กู้ก็เลยรับฉันไว้”เวินหนี่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก “ทำไมล่ะ? คนในครอบครัวไม่ดูแลคุณเลยเหรอ?”เย่หนานโจวตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ทุกคนยุ่ง ไม่มีเวลาหรอก”เวินหนี่เม้มริมฝีปาก รู้สึกไม่เข้าใจนัก ต่อให้ยุ่งแค่ไหนเขาก็น่าจะได้อยู่ที่ตระกูลเย่นี่ยังต้องให้คุณปู่กู้ดูแลอีกช่วงหนึ่งด้ว

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 468

    “ไม่ใช่ค่ะ” เวินหนี่ตอบสีหน้าของเย่หนานโจวเปลี่ยนไปและเขาก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ใกล้จะเป็นอดีตภรรยาแล้วครับ!”คุณหมอถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำตอบ เขาจึงรีบตอบไปว่า “ผู้ป่วยมีอาการกระทบกระเทือนเล็กน้อยและกระดูกมือร้าว เธอจะหายดีหลังจากพักผ่อนสักระยะหนึ่ง พวกคุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป”นี่เป็นเรื่องที่ดี เวินหนี่ตอบไปทันที “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”“ด้วยความยินดีครับ”ทั้งสองตามเย่จื่อเข้าไปในวอร์ดเวินหนี่เห็นว่าริมฝีปากของเย่จื่อดูแห้งผาก ดังนั้นจึงรีบหาน้ำอุ่นมา และชุบด้วยสำลีก่อนจะเช็ดให้ชุ่มชื้นเย่หนานโจวเฝ้าดูจากด้านข้างในวอร์ดมีคนไม่มากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยเวินหนี่ไม่วางใจ ดังนั้นเธอจึงนั่งลงตรงข้ามเขาอีกครั้ง โดยมุ่งเน้นไปที่การเฝ้าเย่จื่อหลังจากที่เฝ้าได้สักพัก เธอก็รู้สึกง่วงจนเปลือกตาสั่น จากนั้นเธอก็เผลอฟุบหลับไปเมื่อเวินหนี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะความตกใจ เธอฝันว่ามันมืดสนิทและอยู่ในพื้นที่แคบ ๆกลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น แม้แต่ในความฝันก็ยังไม่ปล่อยเธอไป เธอมักจะฝันแบบนี้ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลยเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีเสื้อคลุม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 467

    หรือว่าเขาจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว?เธอเคยได้ยินเย่จื่อพูดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ได้คิดถึงเหตุผลบางทีเย่หนานโจวอาจรู้มานานแล้ว จึงเข้าใจโดยปริยาย“เวินหนี่”ลู่เซินเข้ามาหาเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พักสักหน่อยไหม เดี๋ยวร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะ”เวินหนี่ยืนนานแล้วและรู้สึกปวดหลัง แต่เธออยากรอให้เย่จื่อออกมา จึงนั่งลงข้าง ๆ “ฉันอยากรอจนกว่าคุณอาจะฟื้น”“ผมจะรอเป็นเพื่อนคุณเอง” ลู่เซินพูดขึ้นอีกครั้งเวินหนี่พยักหน้าไปทางเขาร่างสูงของเย่หนานโจวเอนตัวไปที่กรอบประตูและเหลือบมองความกังวลของลู่เซินที่มีต่อเวินหนี่ ดวงตานั้นแทบจะมีน้ำล้นออกมาได้ และเวินหนี่ก็ดูเหมือนพร้อมยอมรับน้ำใจของเขาคลื่นแห่งความกระสับกระส่ายโจมตีร่างกายของเย่หนานโจวอีกครั้งดวงตาของเขาเย็นขึ้นและจงใจเตะเก้าอี้ข้าง ๆ ให้มีเสียงนั่นคือเก้าอี้ที่ลู่เซินนั่งอยู่ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง เย่หนานโจวก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “โทษที บังเอิญเตะโดนเข้าน่ะ!”“ไม่เป็นไร” ลู่เซินไม่ได้ติดใจอะไรเย่หนานโจวกลับพูดขึ้นอีกว่า “ตรงนี้คือพื้นที่รอสำหรับญาติ ไม่ทราบว่าคุณลู่มาที่นี่ทำไมกัน ที่บริษัทของคุณไม่ยุ่งเหรอครับ?”

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 466

    เขาไม่ได้โต้เถียงกับเธอ และเพิกเฉยต่อเสียงร้องไห้ของเธอสำหรับเขา น้ำตาของเย่ซูเฟินนั้นไร้ค่าเย่ซูเฟินในฐานะผู้หญิง เมื่อเห็นความเฉยชาของสามี มันก็ค่อย ๆ ทำลายแนวป้องกันในใจของเธอทีละน้อยและโวยวายขึ้นอย่างอารมณ์ร้อน “พูดมาสิ ทำไมถึงไม่พูดล่ะ ในสายตาของคุณ เย่จื่อสำคัญกว่าฉันใช่ไหม ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ เย่เหว่ยถิง คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!”เธอร้องไห้จนตาแดง อยากให้สามีเอาใจใส่เธอบ้างแค่หันมามองเธอสักครั้งก็สามารถสงบความโกรธและความกังวลของเธอได้เย่เหว่ยถิงเงียบและทำเหมือนเย่ซูเฟินคือคนแปลกหน้าอย่างเย็นชาเย่หนานโจวมองการอยู่ร่วมกันของพวกเขา เขาเห็นสิ่งนี้จนชินจึงไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆสำหรับเขา พวกเขาคือพ่อแม่ของตนเพียงในนามเท่านั้นการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้เขาชินมานานแล้วถึงขั้นทำให้เขารู้สึกไม่แยแสเย่เหว่ยถิงทนเย่ซูเฟินไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงลุกขึ้นและพูดกับเย่หนานโจวว่า “ฉันจะลงไปแล้ว ถ้าเย่จื่อฟื้นค่อยบอกฉัน!”เย่หนานโจวลดสายตาลงด้วยสายตาเย็นชาและไม่ตอบอะไรเย่เหว่ยถิงเองก็ไม่ได้รอคำตอบจากเขา เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับเย่หนานโจว เขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 465

    เมื่อเห็นความเฉยเมยของเขา เย่ซูเฟินจึงพูดขึ้นว่า “หนานโจว!”เย่หนานโจวไม่ต้องการฟังเธออีกและเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาเย่ซูเฟินต้องการพูดอะไรบางอย่างกับเย่หนานโจว แต่ลู่ม่านเซิงร้องไห้และถูกรังแก เธอจึงไปไหนไม่ได้ และทำได้เพียงเดินไปพยุงลู่ม่านเซิง “เซิงเซิงลุกขึ้นเถอะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว”ลู่ม่านเซิงถูกพยุงขึ้น เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟิน “คุณป้า หนูมันน่ารำคาญมากจนทุกคนไม่ชอบใช่ไหมคะ!”“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ฉันชอบเธอ ทุกคนต่างก็ชอบเธอ”เย่ซูเฟินตบหลังลู่ม่านเซิงเพื่อปลอบเธอลู่ม่านเซิงยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟินเห็นแบบนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ดูเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ ใครจะกล้าไปว่าอะไรเธอได้ ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลและมีคนอยู่มากมาย เวินหนี่คงอยากจะฉีกหน้ากากของลู่ม่านเซิงออกเพื่อดูว่าเธอจะเสแสร้งได้สักแค่ไหน แน่นอน เธอรู้ดีว่าไม่ว่าลู่ม่านเซิงจะจริงหรือเท็จแค่ไหน เย่ซูเฟินก็จะยังคงปกป้องเธอความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอดูเหมือนไม่ชัดเจนเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้น “เย่จื่อเป็นยังไงบ้าง?”เวินหนี่เงยหน้าขึ้นมองและเห็นเย่เหว่ยถิงเดินเข้ามาเขาสวมชุดสูทแ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 464

    ขณะที่เย่ซูเฟินกำลังปกป้องลู่ม่านเซิง เวินหนี่ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชาเมื่อเย่ซูเฟินเห็นเวินหนี่พูดแบบนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า “เวินหนี่ เซิงเซิงเป็นถึงขนาดนี้แล้ว อย่าอาศัยโอกาสนี้ซ้ำเติมเธออีก!”ปฏิกิริยาแรกของเธอคือปกป้องคนที่อ่อนแอไว้เวินหนี่เดินเข้าไป เห็นลู่ม่านเซิงร้องไห้หนักและดูอ่อนแอจนเกินบรรยาย “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ พวกคุณมีใครกังวลเกี่ยวกับคุณอาบ้าง สิ่งที่คุณกังวลคือกลัวว่าลูกชายจะไม่เอา ส่วนลู่ม่านเซิงเธอกล้วว่าถูกกล่าวโทษเลยมาเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารที่นี่ ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าคุณผลักคุณอาลงมา และลู่ม่านเซิงก็น่าจะเป็นผู้ที่ยุยง!”คุณอาถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทำให้เวินหนี่ไม่ต้องการไว้หน้าพวกเธอ “อย่ามาพูดจาไร้สาระ!” เย่ซูเฟินตวาด “ฉันผลักเย่จื่อก็จริง แต่ฉันแค่ผลักเบา ๆ ทำไมเธอถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าเย่จื่อจงใจล้มลงไปเอง”เวินหนี่มองไปที่เย่ซูเฟิน “แรงผลักของคุณมันไม่ได้เบา เราทุกคนต่างก็เห็น”เมื่อเย่ซูเฟินเห็นท่าทีของเวินหนี่ น้ำเสียงของเธอก็ดังมากยิ่งขึ้น “เวินหนี่ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้ ยังไงฉันก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่สามีขอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 463

    “ไม่ใช่นะ…” เย่ซูเฟินกล่าว “ลูกยังเป็นลูกชายของแม่ แม่เสียใจมากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้ให้ลูก…”“ผมไม่ต้องการมันแล้ว” ดวงตาของเย่หนานโจวเย็นชา “การเรียกคุณว่าแม่มันคือความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และคุณก็ควรจะพอใจได้แล้ว!”เย่ซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าวและพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ลูกจะทำกับแม่แบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเป็นเหมือนพ่อของลูก ไม่อย่างนั้นแม่พาลูกกลับมามันจะมีความหมายอะไร!”เย่หนานโจวพูดอย่างเย็นชา “หากมีผม การเอาชนะใจสามีของคุณมันถึงจะมีความหมาย แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของคุณมันไร้ประโยชน์!”ทุกคำพูดเหมือนมีดที่ทิ่มแทงใจของเย่ซูเฟินในตอนนั้นการแต่งงานของเธอกับเย่เหว่ยถิงนั้นค่อนข้างน่าขัน เป็นเพียงเพราะเธอดื้อดึงที่จะแต่งงานกับเขาเย่เหว่ยถิงไม่ได้รักเธอเลย ตรงกันข้ามเขาเกลียดเธอเธอคิดว่าตราบใดที่เธอแต่งงานกับเขา เย่เหว่ยถิงก็จะเป็นของเธอเมื่อเรื่องราวมันเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขได้ มีอะไรที่จะผ่านไปไม่ได้อีก?แต่เธอคิดง่ายเกินไป เย่เหว่ยถิงไม่กลับบ้านและปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในห้องที่อ้างว่างเธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจสามีแม้กระทั่ง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 462

    “หนานโจว”ในระหว่างที่โต้เถียงกับเย่จื่ออยู่นั้นเย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นเขา และเธอก็ตกใจเล็กน้อยเวินหนี่เองก็มองไปและเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเย็นชาและดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับสิ่งที่พวกเธอพูดกลับกัน เขากลับยอมรับความจริงนี้อย่างสงบนิ่งเย่จื่อตกใจเมื่อเห็นดวงตาของเย่หนานโจวในขณะนี้ สิ่งที่เธอเสียใจคือการที่เธอหุนหันพลันแล่นพูดออกไปว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเย่ซูเฟิน เพราะมันถือเป็นการโจมตีเขาเธอมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอมองเพียงเย่หนานโจว “หนานโจว…”เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไรมากเขาเพียงแค่รู้ว่าพวกเธอมาที่สุสานและอาจจะเกิดเรื่องขึ้น เขาจึงเป็นกังวลและแวะเข้ามาดูหน่อยเท่านั้น เย่ซูเฟินโกรธมากขึ้น “เย่จื่อ เธอกำลังพูดอะไร เธอจะให้ฉันมีความสุขไม่ได้เลยใช่ไหม เธอมันสมควรตายจริง ๆ!”เธอผลักเย่จื่ออย่างแรงความสนใจของเย่จื่อมุ่งไปที่เย่หนานโจว ความโกรธของเธอลดลงมากและลดความเกรี้ยวกราดลง ในใจคิดแต่ว่ามันจะสร้างบาดแผลให้เขาหรือไม่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นการกระทำของเย่ซูเฟินและเธอก็ถูกผลักลงบันไดไปทันทีสติของเวินหนี่ยังไม่ทันกลับมาจากการที่เย่หนานโจวไม่ใช่ลูกแท้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 461

    “ดังนั้นเธอจึงทำทุกอย่างเพื่อทำลายครอบครัวทีละครอบครัว! เธอไม่เคยคิดถึงความผิดของตัวเองเลย!”“ฉันไม่ผิด!” เย่ซูเฟินพูดอย่างเดือดดาล “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอบีบบังคับฉันเอง!”เมื่อเห็นว่าทุกคนอารมณ์ร้อน ลู่ม่านเซิงจึงเกลี้ยกล่อมจากด้านข้าง “คุณอา อย่าเถียงกับคุณป้าเลยค่ะ เธอแค่หุนหันพลันแล่นไปเท่านั้น ฉันไม่เป็นไรค่ะ และฉันก็ไม่ได้โทษคุณอาเลย คุณป้าพวกคุณต่างก็ถอยคนละก้าวเถอะนะคะ”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” เย่จื่อมองไปที่ลู่ม่านเซิง และพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ถ้าเธอไม่ได้โทษฉัน แล้วจะเล่าให้เย่ซูเฟินฟังทำไม เธออยากให้เย่ซูเฟินออกหน้าให้ไม่ใช่เหรอ? เสแสร้งแกล้งทำ ภายนอกดูใสซื่อ แต่ภายในคิดไม่ซื่อ ฉันล่ะเกลียดคนแบบเธอที่สุด!”เมื่อเห็นแบบนั้นเย่ซูเฟินก็ผลักเธอทันที “เธอกำลังดุใคร รู้ว่าเซิงเซิงสูญเสียการได้ยิน แต่ยังแอบพูดไม่ดีลับหลังเธอ เธอมันชั่วร้ายแค่ไหนกัน?!”“ถึงฉันจะชั่วร้ายแต่ก็ไม่ได้ขาดคุณธรรมเหมือนเธอ!” เย่จื่อก็ผลักกลับคืนไปเช่นกัน“เธอลงมือกับฉันงั้นเหรอ?”เย่ซูเฟินจ้องเธอด้วยความโกรธ “วันนี้มีเธอก็ไม่มีฉัน!”“ลองดูสิว่าฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ไหม!”เย่จื่อไม่พูดพล่ำทำเพลงเข้าไปต

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 460

    เย่จื่อไม่คาดคิดว่าเย่ซูเฟินจะโทรมาหาเธอ ซึ่งทำให้เธออารมณ์เดือดขึ้นทันที "ทำไม? หรือว่าเป็นลู่ม่านเซิงที่บอกอะไรกับเธอ ฉันจัดการเธอแล้วยังไงล่ะ!""ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?" เย่ซูเฟินพูดด้วยความโกรธ เพราะอยากจะจัดการกับเย่จื่อให้ได้"ฉันต้องบอกด้วยเหรอ? คิดว่าเธอเป็นใคร!" เย่จื่อไม่สนใจที่จะเคี้ยวเมล็ดแตงโมแล้ว ปัดมันออกไปพร้อมกับกำลังมองหาที่ระบายความโกรธเย่ซูเฟินหัวเราะเยาะ "กลัวสินะ กลัวฉันจะหาตัวเจอ ฉันรู้แล้วว่าโรงงานเสริมความงามของเธอโดนพังเสียหายหมด ตอนนี้ถึงกับต้องหลบซ่อนตัวเหมือนเต่าหดหัวแล้ว!""ฉันเนี่ยนะกลัว? ฉันเคยกลัวเธอสักครั้งไหม! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแต่งงานกับเย่เว่ยถิง ฉันไม่เคยนับเธอเป็นคนของตระกูลเย่ด้วยซ้ำ!" เย่จื่อตอบกลับอย่างกระแทกกระทั้น"งั้นก็ออกมาสิ มาสู้กันต่อหน้า!" เย่ซูเฟินท้าทาย"ก็ได้ ออกมาก็ออกมา เย่ซูเฟิน ถ้าเธออยากจะตัดขาดกับฉันจริง ๆ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว!" พูดจบ เย่จื่อก็ตัดสายทิ้งและหยิบกระเป๋าขึ้น เตรียมออกไปข้างนอกทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น เวินหนี่รีบพูดขึ้น "คุณอาคะ คุณอาจะไปไหนคะ หนูจะไปด้วย"เย่จื่อหันมามองเวินหนี่ "เธอไม่ต้องไป เย่ซูเฟิ

DMCA.com Protection Status