แชร์

บทที่ 241

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-24 19:04:17
ทันใดนั้นเสิ่นฉือก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาเย่หนานโจว พร้อมกับยื่นมือออกมาราวกับจะจับชีพจรของเขา

เย่หนานโจวหลบออกอย่างรังเกียจ "นายช่วยหาจิตแพทย์ที่เชื่อถือได้ให้ม่านเซิงที"

เมื่อได้ยินว่ามันเกี่ยวกับลู่ม่านเซิง สีหน้าของเสิ่นฉือก็เปลี่ยนไปทันที "พี่ชาย นายแต่งงานมาแล้วสามปีนะ! ทำแบบนี้ไม่กลัวว่าเวินหนี่จะเข้าใจผิดหรือไง?"

เย่หนานโจวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "แค่ช่วยเหลือกันเท่านั้น"

ระหว่างเขากับลู่ม่านเซิง เขามักจะรักษาระยะห่างเสมอ

เสิ่นฉือไม่เชื่อคำพูดของคนตรงหน้าสักนิดจึงหัวเราะเยาะ "ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา มันก็เริ่มจากการช่วยเหลือนี่แหละ พอแต่งงานแล้วก็ถือว่าเป็นพรหมลิขิต ควรจะรักษาไว้ให้ดี!"

เขาตบไหล่เย่หนานโจวเบา ๆ ขณะพูด ในครั้งนี้เขาพูดมากไปสักนิด

เย่หนานโจวเพียงแค่ตอบรับเบา ๆ ด้วยเสียง "อืม" อย่างไร้อารมณ์ ใบหน้าของเขายังคงเย็นชาและไม่แสดงความอบอุ่นใด ๆ

ในเมื่อเย่หนานโจวเอ่ยปากแล้ว เสิ่นฉือจึงไม่มีทางปฏิเสธ

เขาช่วยติดต่อหาผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาให้ลู่ม่านเซิง ขณะที่เย่หนานโจวนั่งจ้องหน้าโทรศัพท์ของตัวเอง

หน้าจอโทรศัพท์ยังคงว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่ข้อความเดียวจากเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 242

    เย่หนานโจวยังคงไม่ใส่ใจกับคำพูดเหล่านั้น มุมปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชาและเย้ยหยัน "ความดีชั่วคราวไม่อาจลบล้างความเลวในอดีตได้หรอกนะครับ"พูดจบเขาเดินเลี่ยงผ่านเย่ซูเฟินขึ้นไปบนชั้นสองโดยไม่หันกลับมามองใบหน้าของเย่ซูเฟินเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มด้วยความโกรธหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ ตำแหน่งนายหญิงตระกูลเย่คงตกเป็นของเวินหนี่แน่ เวินหนี่ไม่เพียงแต่ได้รับความเห็นชอบจากผู้เป็นปู่ของชายหนุ่ม ตอนนี้ยังมีเย่หนานโจวหนุนหลังอีกไม่ได้! เธอไม่อาจปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้!ทันใดนั้น แววตาของเย่ซูเฟินก็แฝงไปด้วยความอำมหิต…เวินหนี่มาถึงอะพาร์ตเมนต์ของถังเยาแล้ว ทันทีที่ถังเยาเห็นสีหน้าอีกฝ่าย เธอก็รู้ว่าเวินหนี่กำลังคิดอะไรอยู่ เธอดูหดหู่และใจลอยอย่างมาก"ถ้าเลิกกันแล้วก็ต้องทำใจให้สบาย มันก็แค่ผลกระทบชั่วคราว เธอต้องหัดมองโลกให้กว้างขึ้น แต่ถ้ายังไม่ได้หย่าก็ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้ได้หย่า"ถังเยาจูงมือเวินหนี่ไปนั่งที่โซฟา แล้วเริ่มแกะกล่องอาหารที่สั่งมาเวินหนี่ไม่ได้กินอะไรมากในงานเลี้ยง อีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอเหนื่อยล้าและตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง จึงหิวได้ง่ายแต่ยังไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 243

    "นอกจากที่นี่ เวินหนี่ไม่มีที่ไปแล้ว" น้ำเสียงของเย่หนานโจวแฝงความเด็ดขาดและยังเย็นชาอยู่บ้างเวินหนี่สะดุ้งตื่นขึ้นทันที และพบว่าตอนนี้ฟ้าสว่างแล้วเสียงถากถางของถังเยาดังขึ้นอีกครั้ง "เย่หนานโจว คุณไม่คิดว่าคำพูดนี้มันตลกเหรอ?"นี่ไม่ใช่ความฝัน เย่หนานโจวมาจริง ๆเวินหนี่ลงจากเตียงและเดินออกจากห้องเธอเห็นเย่หนานโจวและถังเยายืนเผชิญหน้ากันอยู่ในห้องนั่งเล่น วันนี้ชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาควันบุหรี่ ขณะที่ถังเยาซึ่งสูงเพียงร้อยหกสิบเซนติเมตรยืนอยู่ตรงหน้าเย่หนานโจวที่สูงกว่าเธอมาก"เย่หนานโจว ถ้าคุณมาที่นี่เพื่อทำสิ่งที่ฉันคิด งั้นฉันจะไปกับคุณ" เวินหนี่เม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาและเดินเข้าไปหาเขาทีละก้าวเย่หนานโจวและถังเยาหันมามองเธอพร้อมกันสายตาของเย่หนานโจวสังเกตเห็นชุดนอนที่เวินหนี่สวมเป็นลายการ์ตูนโดราเอมอน ในชั่วขณะนั้นดวงตาของเขาก็ดูลึกซึ้งขึ้นเวินหนี่ที่อยู่ข้างเย่หนานโจวไม่เคยใส่เสื้อผ้าแบบนี้มาก่อน ผมยาวสลวยของเธอปล่อยลงบนไหล่ทั้งสองข้าง ใบหน้าไร้เครื่องสำอางดูสบาย ๆ แต่ในดวงตาที่คมชัดของเธอกลับแฝงด้วยความเย็นชาเย่หนานโจวก้าวเดินเข้ามาหาเธอ "ไปเปลี่ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 244

    เขาสามารถอ่อนโยนได้และก็โหดร้ายได้ด้วย แต่เรื่องเดียวที่เขาไม่เคยพูดถึงเลยคือการหย่าเวินหนี่พยายามดึงมือออก แต่เขากลับจับแน่นขึ้น "เวินหนี่ อย่าทำตัวเป็นเด็ก"คำพูดของเย่หนานโจวทำให้เวินหนี่ยิ่งรู้สึกเจ็บปวด "ฉันแค่พูดแบบนี้ก็กลายเป็นทำตัวเป็นเด็กแล้วเหรอ? ถ้าคุณคิดเหมือนแม่ของคุณ เรื่องหนี้ห้าสิบล้าน ฉันจะคืนให้ก็ได้""เธอจะมีเงินห้าสิบล้านได้ยังไง?" เย่หนานโจวไม่เชื่อเธอในขณะนั้น รถค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ ประตูรถถูกล็อกจากระบบกลาง ทำให้ไม่สามารถเปิดออกได้อีกแล้วเวินหนี่พูดด้วยเสียงแผ่วเบา "ตอนนี้ฉันไม่มี แต่ฉันสามารถหาได้"คนฟังหัวเราะเบา ๆ "แล้วเธอคิดจะหาเงินยังไง? หลังจากออกจากบริษัทตระกูลเย่ไป เธอคิดว่ามีใครจะยอมรับเธอเข้าทำงานอีก? แล้วเธอจะจ่ายคืนฉันเดือนละเท่าไร?"ไม่รอให้เวินหนี่ตอบ เย่หนานโจวก็ตอบรับด้วยเสียงหัวเราะอีกครั้ง "แล้วเธอคิดว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะหาเงินครบห้าสิบล้านได้?"เวินหนี่เงียบไปชั่วครู่ เธอยังไม่ได้คิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่เมื่อเย่หนานโจวถาม เธอก็เริ่มคิดว่าจะหางานพาร์ทไทม์ หรือลองขอยืมเงินจากถังเยาบ้าง เธอสามารถเป็นนางแบบหรื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 245

    เวินหนี่ถามขึ้นอย่างเรียบ ๆ "ฉันต้องไม่ทำให้คุณ ไม่ทำให้คุณอาผิดหวัง แล้วก็ต้องทำให้แม่คุณพอใจ แล้วฉันล่ะ?"เย่หนานโจวแสดงความไม่พอใจ "เวินหนี่ อย่าลืมนะ ตอนนั้นเธอเป็นคนบอกคุณปู่ว่าเธออยากแต่งงานกับฉันเอง"เวินหนี่นึกถึงเงินห้าสิบล้านและหุ้นเหล่านั้น หัวของเธอก็เริ่มปวดและหัวใจเหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นบีบแน่น เธอรู้สึกหายใจไม่ออกชั่วขณะเธอไม่อยากถกเถียงกับเย่หนานโจวเรื่องนี้อีกแล้ว จึงเอนตัวพิงกระจกแล้วหลับตาลงเย่หนานโจวไม่พูดอะไรอีก คิดว่าเธอคงเหนื่อยไม่นานนัก คนขับก็จอดรถที่หน้าบ้านว่างเจียงหยวน เย่หนานโจวตั้งใจจะไม่ปลุกเธอ ให้เธอได้นอนพักอีกสักหน่อย แต่เวินหนี่กลับเปิดประตูรถออกเองเมื่อเห็นเธอก้าวเดินอย่างมั่นคง เย่หนานโจวก็เริ่มรู้สึกขึ้นมาในใจว่า เธอไม่ได้ง่วง เธอแค่ไม่อยากเผชิญหน้ากับเขาเย่หนานโจวเม้มริมฝีปาก ก่อนจะเดินตามหลังเธอไป "เธอลองเข้าไปดูข้างในก่อน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเราจะไปหาคุณอากัน""มันจะมีปัญหาอะไรได้ล่ะคะ? วิลล่าของประธานเย่ ต้องตกแต่งด้วยของมีค่าที่สุดอยู่แล้ว" เวินหนี่ยิ้มเล็กน้อยเย่หนานโจวเม้มปากแน่น ไม่ตอบอะไรเขาไม่ได้ตอบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-26
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 246

    แม้ว่าเย่จื่อจะมีอายุแล้ว แต่เธอก็ยังชอบให้คนเรียกเธอว่า "คุณหนูเย่" เหมือนคนหนุ่มสาวเย่หนานโจวมองตามหลังอาสาวที่พาเวินหนี่เดินจากไป ก่อนจะเลือกเคารพกฎของงาน เขาหยิบหน้ากากสีเงินโลหะขึ้นมาสวมบนใบหน้าเมื่อเขาเดินเข้าไปด้านใน เย่จื่อก็พาเวินหนี่ขึ้นไปที่ชั้นสองของโถงใหญ่แล้ว บริเวณชั้นสองนั้นจากข้างนอกจะมองไม่เห็นข้างใน แต่จากด้านในกลับสามารถมองเห็นวิวทั้งหมดของชั้นล่างได้ในงานมีผู้คนมากมาย ทุกคนแต่งตัวหรูหรา โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่พยายามเน้นรูปร่างอันงดงามของตนเวินหนี่ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการจัดงานเต้นรำของคุณอาคนนี้"ดื่มน้ำผลไม้หน่อยนะ คืนนี้อาจะช่วยลองใจเจ้าเย่หนานโจวดูสักหน่อย" เย่จื่อยื่นแก้วน้ำผลไม้ให้เวินหนี่ พลางยิ้มอย่างมีเลศนัยแม้ว่าเย่หนานโจวจะบอกว่าเขาแต่งงานกับเวินหนี่เพราะหุ้นที่คุณปู่มอบให้ แต่เย่จื่อไม่เชื่อว่าตลอดสามปีที่พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน เย่หนานโจวจะไม่มีความรู้สึกใด ๆ กับเวินหนี่เลยเวินหนี่รีบคว้ามือเย่จื่อไว้ "คุณอาคะ อย่าลองใจเขาเลยค่ะ ช่วงนี้หนูทำงานเหนื่อยมาก พึ่งไปร่วมงานเลี้ยงมา แล้วจริง ๆ หนูก็ไม่อยากมา แต่คุณอาบอกว่าอย่าทำให้คุณอาผิดหวัง หนูก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-27
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 247

    เย่หนานโจวและเวินหนี่หันไปตามเสียงนั้นทันทีพวกเขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในชุดราตรียาวสีชมพู รูปร่างสูง ผิวขาวสะอาด ผมถูกเกล้าขึ้นสูง ทั้งตัวเต็มไปด้วยเครื่องประดับอัญมณีระยิบระยับ เธอสวมหน้ากากสีเงินเหมือนกับที่เย่หนานโจวใส่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือ เมื่อหญิงสาวคนนั้นวิ่งมาหยุดตรงหน้าเย่หนานโจว ความแตกต่างของความสูงระหว่างพวกเขาก็ชัดเจนและการที่เธอสามารถจำเย่หนานโจวได้ทันทีแม้ว่าเขาจะสวมหน้ากาก นั่นแสดงว่าพวกเขาคงสนิทกันมาก"คุณเป็นใคร?" เย่หนานโจวถามเย่หนานโจวขมวดคิ้วเขามั่นใจว่าผู้หญิงตรงหน้านี้ไม่ใช่เวินหนี่เขาไม่รู้ว่าอาของเขากำลังวางแผนอะไรอยู่และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้เวินหนี่กำลังมองดูทุกอย่างอยู่หญิงสาวยิ้มที่มุมปาก "เย่หนานโจว คุณไม่ต้องสนใจว่าฉันเป็นใคร แต่ฉันขอเต้นรำกับคุณสักเพลงได้ไหมคะ? คืนนี้คุณอาจัดงานเลี้ยง ฉันก็ต้องใช้โอกาสนี้ให้ดีที่สุดสิ"คำว่า "คุณอา" ที่หญิงสาวพูด ทำให้เย่หนานโจวและเวินหนี่เกิดความสงสัยผู้หญิงคนนี้คือใครกันแน่?เย่หนานโจวปฏิเสธเธออย่างเย็นชา "ผมไม่รับคำเชิญจากคนแปลกหน้า"วินาทีต่อมาเขาก็หันหลังเดินจากไป"เย่หนานโจว คราวนี้คุณยังจะป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-28
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 248

    เวินหนี่อึ้ง ไม่เข้าใจว่าเขาทำไมถึงมีปฏิกิริยาใหญ่โตขนาดนี้“แบบนี้รู้สึกสบายขึ้นไหม?” เวินหนี่ถามเขาอีกครั้งเย่หนานโจวมองตาของเวินหนี่ เห็นว่าเธอไม่ได้พูดถึงเรื่องหย่า เขาเม้มปากเล็กน้อยพลางหลับตาลง แล้วตอบเสียงแหบต่ำ “อืม สบายขึ้นเยอะเลย”เขารู้ว่าเธอเปลี่ยนเรื่องพูด และเขาก็ไม่ได้พูดถึงมันอีกเวินหนี่นวดให้เขาต่อไป แม้ว่ามือของเธอจะเริ่มเมื่อยแล้วก็ตามเธอได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเย่หนานโจว จึงหยุดนวดและหยิบผ้าห่มบางมาให้เขา เมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานก็ชนเข้ากับฉู่ซวงพอดี“พี่เวิน” ฉู่ซวงทักทายเธออย่างอัตโนมัติเวินหนี่เข้าไปในห้องทำงานของเย่หนานโจวนานกว่าหนึ่งชั่วโมงเมื่อคืนที่ผ่านมา ในงานเลี้ยงเย่หนานโจวฟาดขวดเหล้าลงบนหัวของจางเซียวเพราะเวินหนี่ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานมองออกได้ทันทีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเย่หนานโจวกับเวินหนี่ไม่ธรรมดาเวินหนี่พยักหน้าเล็กน้อยและกลับไปที่โต๊ะทำงานของเธอ มีข้อความจากถังเยาส่งมาว่า [คิดเรื่องข้อเสนอของฉันบ้างหรือยัง จะรับหรือเปล่า?]เวินหนี่ตอบกลับไปว่า [ช่วงนี้ยุ่งมาก]ถังเยาไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีกเวินหนี่ไม่ได้ยุ่งอะไรเลย ชัดเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-29
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 249

    "ไม่หรอก วันนี้ต้องไปเจอลูกค้ารายสำคัญ คุณทำงานของตัวเองให้ดีในบริษัทก็พอ"เย่หนานโจวเป็นคนแบบนั้น เขาเย็นชากับทุกคน ถ้าเขาเกลียดใครจริง ๆ และไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรเกี่ยวข้อง เขาจะไม่ปล่อยให้คนนั้นอยู่ต่อหน้าเขาแน่นอนเวินหนี่เห็นฉู่ซวงเงียบไป จึงเตือนเธอว่า "คุณควรโฟกัสที่งานของตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ใช่ไปกังวลว่าเขาจะชอบหรือไม่ชอบคุณนะ""ถ้าเขาไม่ชอบคณ ก็จะไม่มีแรงทำงานต่อแล้วหรือไง?" เวินหนี่พูดชัดถ้อยชัดคำ ทุกคำแฝงความหมายชัดเจนฉู่ซวงคิดอยู่ครู่หนึ่ง "พี่พูดถูก ฉันเข้าใจแล้ว ฉันไม่น่าจะรีบคิดมากขนาดนี้เลย!"เวินหนี่พูดเบา ๆ ว่า “ไปทำงานเถอะ”ฉู่ซวงจึงกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองเย่หนานโจวไปพบกับผู้รับผิดชอบของตระกูลเจียง นั่นหมายความว่าเวินหนี่สามารถไปทำธุระส่วนตัวหลังเลิกงานได้ เธอจึงไปหาพ่อแม่ของเธอแต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ เวินซู่และจางลี่หงกลับอยู่ที่นั่นด้วยแม่ลูกคู่นี้ เมื่อเห็นเวินหนี่ในวันนี้กลับไม่หยิ่งผยองเหมือนแต่ก่อน พวกเธอกลับมาขอโทษเวินหนี่พร้อมกัน “โจวเสี่ยวหลินตายแล้ว นั่นคงทำให้วิญญาณของพ่อได้พักอย่างสงบ ฉันตั้งใจจะหางานดี ๆ ทำ เพื่อใช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-30

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status