แชร์

บทที่ 7 - องค์ชายสี่ลั่วซือ

ผู้เขียน: แสงแห่งตะวัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-19 01:41:21

กลางดึก

เฟ่ยเย่แต่งตัวเป็นชายรวบผมหางม้าทรงสูงใส่ชุดสีดำ ดูทะมัดทะแมง ออกตามสืบหาพี่ซานอี้

คงจะต้องเริ่มสืบจากค่ายทหารก่อน

นางควบม้าเร็ววิ่งไปทางค่ายทหารของหนานเจียงติดชายแดนค่ายอี้ชาง ใช้วิชาตัวเบากระโดดข้ามกำแพง และเดินไปบนหลังคา เบื้องล่างมีทหารเฝ้ายาม เดินตรวจตราอยู่ไม่น้อย นางพยายามค้นหา ทุกซอกทุกมุมในค่ายทหารของหนานเจียงนี่ แต่ก็ไม่พบ พวกมันเอาตัวพี่ซานอี้ไปไว้ที่ใดกัน?

เฟ่ยเย่เดินไปเดินมาในห้องพักที่โรงเตี๊ยม เพื่อใช้ความคิด

พี่ซานอี้เป็นถึงองค์ชาย หากจับองค์ชายเป็นตัวประกันได้ คงไม่เอาตัวมาคุมขังในคุกทหารหรอกกระมัง หรืออยู่ในวังของหนานเจียง เพื่อเอามาเป็นข้อต่อรองระหว่างสองแคว้นเป็นแน่ๆ!

นอกจากเดินไปเดินมา พูดคนเดียว แล้วก็นั่งถอนหายใจ ติดๆ กัน 2-3 ครั้ง

“จะเข้าไปในวังได้อย่างไร? จริงสิงานเทพธิดาบุปผา“ เฟ่ยเย่เหมือนจะคิดอะไรออก

”เถ้าแก่ ข้าจะขอพักอยู่ต่อจนถึงงานเทศกาลบุปผา” เฟ่ยเย่เรียกผู้ที่นั่งดีดลูกคิดไปมาไปอยู่โต๊ะด้านหลัง

“ทั้งหมด 5 ตำลึงเงิน“ เถ้าแก่วางมือจากดีดลูกคิดไปมา เฟ่ยเย่ส่งก้อนเงินก้อนใหญ่สีทองส่งให้เถ้าแก่

วันต่อมา

เฟ่ยเย่เดินเข้าไปสำรวจในหอหรูอี้ ครั้นเมื่อตอนเป็นองค์เหยียนหลิน ไม่ค่อยจะได้ออกจากวัง นอกเสียจากไปวัด หรือไปเทศกาลโคมไฟ กับพิธีต่างๆเท่านั้น ตอนนี้ได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตาแล้ว

หอหรูอี้ ดูโอ่อ่ากว้างขวาง มี 2 ชั้น มีแท่นเวทีกลมๆอยู่กลางโถง และสาวกำลังระบำ ร่ายรำ อยู่บนผ้ายาวมองเพลินยิ่งนัก

“คุณชาย ท่านมาคนเดียวหรือนัดใครไว้เจ้าคะ” เสียงสือเนียงกล่าวต้อนรับเฟ่ยเย่

“ข้ามาคนเดียว” เฟ่ยเย่ตอบ

“งั้นเชิญทางนี้เจ้าคะ” เด็กๆ มาดูแลคุณชายด้วย จากนั้นก็มีสตรีหน้าตาจิ้มลิ้มสองนาง คล้องแขน ของเฟ่ยเย่ ด้านขวาคนนึง ด้านซ้ายคนนึง เฟ่ยเย่

“อ่อ คือข้า..ข้า ไม่เป็นไรข้าเดินเองได้” เฟ่ยเย่หมุนตัวหลบเหลี่ยงจากสตรีทั้งสองนางนั้น พอดีกับสายตาเหลือบไปเห็นชายที่สวมหมวกคลุมหน้าที่เจอกันในโรงเตี๊ยมผู้นั้น ท่าทางเค้ายังคงสง่างาม

“นั่น ข้าเจอสหายพอดี ไม่รบกวนแม่นางทั้งสอง ข้าขอสุราที่ดีที่สุดในร้านสักไหก็พอ“ เฟ่ยเย่กล่าว จากนั้นเฟ่ยเย่ก็เดินไปหาลั่วซือที่นั่งอยู่

“พี่ชาย เราเจอกันอีกแล้ว ขอข้านั่งด้วยได้หรือไม่” ยังไม่ทันที่ลั่วซือจะปฏิเสธ เฟ่ยเย่ก็นั่งลงตรงฝั่งตรงข้าม เฟ่ยเย่ยิ้มให้อย่างมีไมตรี

เมื่อเฟ่ยเย่สังเกตบุรุษหนุ่มที่อยู่หน้าใกล้ๆ ถึงแม้ว่าจะมีหมวกคลุมผ้าสีขาวปิดบังใบหน้าไว้ แต่เหยียนหลินในร่างเฟ่ยเย่ ไม่มีทางจำผิดแน่นอนท่านพี่ลั่วซือ! หรือต่อให้จะเหลือแต่แค่ลูกตาข้าก็ยังจำได้แน่นอน!

“พี่ชาย ข้าขอคาวาระวะท่านสัก 1 จอก“ ว่าแล้วเฟ่ยเย่เทสุราใส่จอก คาราวะแบบชาวยุทธ ยกจอกสุราดื่มรวดเดียว

“เจ้าตามสบายเถอะ ข้าขอตัวก่อน“ ลั่วซือทำท่าจะลุกขึ้น อยู่ๆ ก็เจ็บร้อนหวาบตรงหน้าอก

หนอนมัจจุราช! ออกฤทธิ์ตอนนี้ได้ยังไงนะ ลั่วซือนั่งลง เอามือจับหน้าอกแน่น เหงื่อเป็นเม็ดผุดออกมาตามหน้าผาก ความเจ็บปวดทรมานทวีความรุนแรง จากนั้นลั่วซือก็หมดสติไป

ภายในห้องพักของโรงเตี๊ยม!

ลั่วซือสะลึมสะลือค่อยลืมตาขึ้น พบตัวเองนอนอยู่ที่เตียงในห้องพักของโรงเตี๊ยม

ข้างๆ มีเด็กหนุ่มหน้าหวานราวสตรีนั่งเท้าแขนตัวเอง สับปะงกอยู่ข้างๆเตียง

ทำไมหนอนมัจจุราชในกายข้า ถึงมีอาการสั่นไหวเช่นนี้? หรือเจ้าหมอนี่จะเป็นผู้ที่อาจารย์ตามหา..

เฟ่ยเย่ค่อยๆลืมตาตื่น พบว่าลั่วซือตื่นแล้ว

“พี่ชาย ท่านโดนพิษรึ? ข้าตรวจชีพจรท่านดูแล้วสับสนยิ่งนัก เหมือนจะถูกพิษแต่ก็เหมือนไม่ใช่” เฟ่ยเย่ อดเป็นห่วงพี่ชายคนที่สี่ของนางไม่ได้ แต่ท่านพี่ลั่วซือเองคงคิดไม่ถึงว่าข้าคือเหยียนหลินเป็นแน่! ยิ่งตอนนี้ข้าแต่งตัวเป็นชายแบบนี้แล้ว

“ข้าชื่อจูจินหลาง เรียกข้าว่า จูจินก็ได้“ เฟ่ยเย่ยิ้มให้ลั่วซือ แววตาปนความเป็นห่วง **จูจินเป็นชื่อของกระต่ายที่องค์หญิงเหยียนหลินรักมากในตอนเด็กๆ ท่านพี่ลั่วซือเป็นคนมอบให้**

“จูจิน นามเพราะมาก ข้าไม่ได้ยินชื่อนี้มานานมากแล้ว” ลั่วซือยิ้มให้เฟ่ยเย่เล็กน้อย

“ข้าชื่อลั่วซือ ขอบใจเจ้านะ“ ลั่วซือกล่าวตอบ

“ท่านถูกพิษรึ” เฟ่ยเย่ถามซ้ำอีกครั้งให้แน่ใจ

“ไม่ใช่พิษแต่เป็นหนอนมัจจุราช” ลั่วซือลุกขึ้นนั่งช้าๆ เอาเท้าห้อยลงมาข้างเตียง

“ใช่หนอนกู่หรือไม่ ข้าสามารถฝั่งเข็มสกัดหนอนกู่ให้ท่านได้นะ” เฟ่ยเย่พยายามจะช่วยถอนพิษ

“ไม่ใช่ นี่คือหนอนมัจจุราชไม่ใช่พิษ เป็นหนอนตามหาคน” ลั่วซือหยิบขวดยาในแขนเสื้อเทลงในฝ่ามือ 1 เม็ด และนำเข้าปาก

“แล้วท่านตามหาผู้ใดรึ“ เฟ่ยเย่ชักสงสัย

”แล้วข้าต้องตอบเจ้าด้วยงั้นรึ?“ ลั่วซือขมวดคิ้ว ทำตาดุ

“งั้นท่านพักผ่อนเถอะ ข้าขอตัวกลับห้องก่อน มีอะไรเรียกข้าได้นะ ข้าอยู่ห้องข้างๆ“ เฟ่ยเย่ลุกขึ้นเดินออกจากห้องของลั่วซือกลับเข้าห้องพักตัวเอง

เดินวนไปวนมาอยู่ภายในห้องคิดไม่ตกอีกเช่นเคย ปัญหาเก่ายังแก้ไขอะไรไม่ได้ ดันมาเจอปัญหาใหม่เพิ่มเข้ามาอีก!

อยู่ๆ องค์ชายสี่ของแคว้นฉี่บังเอิญมาเจอกับข้า ที่แคว้นหนานเจียง แถมมีหนอนมัจจุราชอะไรนั่นอยู่ในกาย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

เฮ้อย! เฟ่ยเย่เดินวนไปวนมา ท่านพี่สี่ลั่วซือออกท่องยุทธภพตั้งแต่อายุ 13 ปี เค้าเป็นองค์ชายที่ไม่ได้รับความโปรดปราณจากเสด็จพ่อ ด้วยว่าพระสนมเสด็จแม่ของพี่ลั่วซือเป็นหญิงต่ำต้อยเป็นนางในอุ่นเตียงของเสด็จพ่อ นางจึงไม่ได้รับได้ความโปรดปราณ ท่านพี่ลั่วซือจึงเป็นองค์ชายที่ท่านพ่อไม่ได้ให้ความสำคัญ

ข้าจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เจอพี่ลั่วซือน่าจะสามปีก่อน พี่ชายคนนี้ของข้า เป็นผู้ที่เงียบขรึม ฉลาด สุขุม รอบคอบ เจ้าเล่ห์ มากแผนการและเยือกเย็นดังฤดูหนาว

แต่สำหรับข้าแล้วท่านพี่ดีกับข้ายิ่งนัก!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 8 - แต่งงานสานสัมพันธ์

    บทที่ 8 - แต่งงานสานสัมพันธ์ องค์รัชทายาทอันซื่อและองค์ชายต้วนอวี้ บัดนี้เดินทางถึงแคว้นหนานตูเรียบร้อยแล้ว แคว้นหนานตูเป็นแคว้นอยู่ติดหนางเจียงค่อนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้นหนานฉี่ กษัตย์แคว้นหนานตูไม่ฝักใฝ่การรบและมักจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแคว้นอื่นๆ กษัตย์แคว้นหนานตูมีองค์หญิงมากมาย แต่กลับไม่มีพระโอรส จึงมักส่งองค์หญิงแต่งงานกับแคว้นอื่น เพื่อสานความสัมพันธ์ งานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตของแคว้นหนานตู ณ วังเจียหมิง ถูกจัดขึ้น มีโต๊ะวางเลี้ยงกันตลอดแนว มีของกินมากมาย มีการแสดงรำฟ้อนของแคว้นหนานตู มีบรรดาเหล่าองค์หญิงของเจ้าแคว้นและเหล่าเสนาบดีทั้งหลาย มาให้การต้อนรับ หนึ่งในนั้นคือองค์หญิงรองหนิงเอ๋อ องค์หญิงรองหนิงเอ๋อ สำรวจพินิจพิเคราะห์องค์ชายทั้งสอง สง่างามสมคำล่ำลือ ประทับใจเมื่อได้พบกันครั้งแรก นางอมยิ้มให้กับตัวเองอย่างมีแผนการ งานเลี้ยงฉลองต้อนรับเป็นไปอย่างราบรื่น ทางหนานฉี่นำไข่มุกราตรีเม็ดใหญ่เท่ากำปันเด็ก ซึ่งเป็นของค้ำค่าและหายาก มาถวายกษัตริย์หนานตู การค้าซื้อขายแลกเปลี่ยน แร่เหล็ก อาหาร เสื้อผ้า เกลือและอื่นๆ เป็นไปอย่างราบรื่นเช่นกัน ศาลาสวนดอกไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 9 - หนอนมัจจุราช

    ที่โรงเตี๊ยมแคว้นหนานเจียง หนอนมัจจุราช ถูกปลุกให้ตื่นด้วยพลังที่มันตามหาทำให้ลั่วซือมีอาการกระวนกระวายใจ ด้วยพลังบางอย่างในกายของเฟ่ยเย่ที่ดึงดูดหนอนมัจจุราช จนลั่วซือยากที่จะควบคุมสติขอตัวตัวเอง ครั้นเมื่อตอนกราบลาอาจารย์ ได้รับปากอาจารย์ว่าจะหาคนผู้นึง อาจารย์ไม่ได้บอกกล่าวสิ่งใดนอกจาก ถ่ายหนอนมัจจุราชเข้าไปร่างกายของลั่วซือ เมื่อมีหนอนมัจจุราชอยู่ในกาย ต้องอาศัยการดื่มเลือดผู้คน การดื่มเลือดจากผู้คน ผู้ที่ถูกดูดเลือดจะได้รับพลังเทพรักษาโรคได้หรือบางคนก็มีอาการเคลิบเคลิ้ม หรือสัมผัสเลือดแม้นเพียงเล็กน้อยจะสามารถรู้ได้ว่าใช่คนที่กำลังตามหาอยู่หรือไม่ แม้ว่าลั่วซือจะมีหนอนมัจจุราชในร่างกาย แต่ถึงกระนั้นเค้าก็ยังยินยอม เพื่อแลกกับเคล็ดวิชาที่อาจารย์สอนสั่ง แล้วอีกอย่างเค้าคิดว่ามันไม่ได้ทำอันตรายให้แก่ผู้คนแต่อย่างใด หากตามหาคนผู้นั้นพบ ถึงแม้เค้าเองจะต้องทรมาน แต่มันก็มีราคาที่ต้องจ่าย หากลั่วซือพบคนผู้นั้นได้ เค้าคงกราบลาอาจารย์อย่างจริงจังได้ และออกท่องยุทธภพต่อไป ประตูห้องพักของเฟ่ยเย่ ถูกกำลังภายในดันจนเปิดออก ภายในห้องพักของเฟ่ยเย่ นางกำลังหลับสบายบนเตียง นางรู้สึกตั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 10 - พบหน้า

    ก่อนวันงานเทศกาลธิดาบุปผาจะเริ่ม ทางหอหรูอี้ติดประกาศไปทั่วเกี่ยวกับการรับสมัครสตรีทั่วหล้า เพื่อประกวดแข่งขันชิงตำแหน่งเทพธิดาผู้ที่ทำให้ดอกไม้เบ่งบาน ต้นไม้เขียวชะอุ่มอุดมสมบูรณ์ตลอดปี หากผู้ใดได้รับการคัดเลือก จะขอประทานรางวัลได้หนึ่งอย่างจากฮ่องเต้ของแคว้นหนานเจียง และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเทพธิดาพยากรณ์ของแคว้น! “นี่ๆๆ ท่านพี่ดูนี่สิ” เฟ่ยเย่หยิบกระดาษใบปลิวประกาศจากหอหรูอี้ เรื่องรับสมัครสตรีเข้าประกวดแข่งขันชิงตำแหน่งเทพธิดา ลั่วซือหยิบกระดาษประกาศจากมือเฟ่ยเย่เอามาอ่าน “อืม!..เจ้ามีแผนรึ?” ลั่วซือเลิกคิ้วถาม “โถ่..ก็มีน่ะสิ“แต่คุณสมบัติอื่นนอกจากความเป็นสตรีแล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกหรือไม่นะ”เฟ่ยเย่มองหาสือเนียงผู้ดูแลหอ ครั้นเฟ่ยเย่กวาดสายตามองไปปะทะบุรุษหนุ่มสองคนเดินเข้ามาในหอหรูอี้ เฟ่ยเย่ตาลุกแววทันที เอ๊ะ! เฟ่ยเย่อุทาน! ลั่วซือมองตามสายตาของนางไป “คุณชายทั้งสองโต๊ะนั่งของเราเต็มหมดแล้วเจ้าค่ะ” สือเนียงกล่าวอย่างนอบน้อม “แล้วห้องพักเล่า มีห้องพักสักหนึ่งหรือสองห้องหรือไม่? เราสองคนมีเงินจ่ายไหว แพงเพียงใดก็เรียกมาได้เลย” ต้วนอี้คราดครั้นเล็กน้อย “โถ่เอ๋ย! ท่านทั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 11 - งานเทศกาลเทพธิดาบุปผา

    วันที่ 9 เดือน 10 งานประชันเทพธิดาบุปผางามสะพรั่งผู้คนต่างพากันหลั่งไหลเข้ามาในเมืองซินฮุยแคว้นหนานเจียง บัดนี้โรงเตี๊ยมและที่พักแน่นขนัดเต็มไปด้วยผู้คนองค์ชายทั้งสามต่างก็รีบไปจับจองที่นั่งในหอหรูอี้เร็วกว่าผู้ใด!องค์รัชทายาทอวิ๋นเทียนเหอและองค์ชายหยางหย่วนแห่งแคว้นหนานเจียงเสร็จมาถึงแล้ว! ขันทีที่ตามเสร็จประกาศหน้าหอหรูอี้ สือเนียงและเจ้าหอรีบออกไปต้อนรับ ภายในหอหรูอี้ทุกคนยืนขึ้นต้อนรับและนั่งลงหลังจากองค์รัชทายาทนั่งลงแล้วบนเวทีมีการแสดงจากนักระบำให้ดูฆ่าเวลาก่อนการประกวด ครู่ต่อมา! ชิงเฟิงองค์รักษ์เงาขององค์รัชทายาทอันซื่อ รีบเดินเข้ามากระซิบที่ข้างหูของอันซื่อ จากนั้นก็รีบร้อนออกไป!พึบ! เสียงกางพัดของอันซื่อ เค้าโบกพัดเข้าหาตัวเบาๆ จากนั้นก็กระซิบที่ข้างหูต้วนอี้โดยเอาพัดขึ้นปิดไว้แบบพองาม“เราต้องรีบกลับกันแล้ว องค์หญิงรองหนิงเอ๋อ กับองค์หญิงสามจิ่งเสียนแห่งหนานตูกำลังมา” อันซื่อพูดข้างหูต้วนอวี้ด้วยเสียงแผ่วเบา ต้วนอวี้เบิ่งตากว้าง! มีอาการตกใจกับข่าวนี้ไม่น้อยหากมีผู้ใดรู้ว่าบัดนี้องค์ชายรัชทายาทและองค์ชายทั้งสี่พระองค์แห่งแคว้นฉี่ มาอยู่รวมตัวกันในดินแดนแคว้นศัตรู! จะต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 12 - เทพธิดาบุปผา

    บัดนี้องค์รัชทายาทอันซื่อและองค์ชายต้วนอวี้กลับถึงหนานฉี่อย่างปลอดภัยแล้ว!แม่ทัพเกราะทองฟางหมิ่นเฉียนยังคงประจำการในค่ายอี้ชาง ฟื้นฟูร่างกายหายเป็นปกติแล้ว ต้วนอวี้ส่งข่าวเรื่องคุณหนูฟางเฟ่ยเย่ให้แม่ทัพทราบแล้วเช่นกันลั่วซือหาทางลักรอบไปหาเฟ่ยเย่ในห้องพัก จากวันที่ประกวดวันนั้นจนถึงวันนี้นางสลบไปสามวันเต็มๆ ลั่วซือแอบมาตรวจดูอาการนางทุกวันถ่ายทอดพลังให้และขอกัดแขนนางบางวันที่อาการหนอนมัจจุราชกำเริบเฟ่ยเย่รู้สึกตัวได้สติแล้ว ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง“มีราชองค์การ จากองค์ฮ่องเต้ถึงแม่นางจูจินหลาง” ขันทีป่าวประกาศเรียกที่ห้องโถงหอหรูอี้สือเนียงรีบเข้ามาประคองแขนของเฟ่ยเย่ในนามจูจินหลาง เดินไปถึงห้องโถงแล้วค่อยๆ นั่งคุกเข่าลง คนในห้องโถงต่างก็นั่งคุกทั้งหมดเพื่อรอฟังประกาศราชองค์การเนื้อความในราชองค์การ..!บัดนี้งานคัดเลือกเทพธิดาบุปผาได้สำเร็จลุล่วง จึงได้ผู้ที่มีความสามารถทำให้ดอกไม้นานาของแคว้นหนานเจียงผลิบาน อีกทั้งยังมีใบหน้างดงามราวนางฟ้า มีกิริยาวาจา และท่วงท่างามสง่า เราจึงขอแต่งตั้งเทพธิดาบุปผาคนใหม่ “จูจินหลาง” เป็นเทพธิดาบุปผา ประจำตำหนักหอดาราดาว“ ให้เทพธิดาจูจินหลางเข้าพัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 13 - เปิดศึกระหว่างสองแคว้น

    จูจินหลางใช้พลังมากเกินไปทำให้สลบไสลไปสามวันเต็มๆ นางค่อยฟื้นได้สติลืมตามองไปรอบๆ ห้องที่ไม่คุ้นเคย “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” องค์รัชทายาทอวิ๋นเทียนเหอถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไรแล้วเพคะ! แค่ใช้พลังมากไป“ จูจินหลางกล่าวหลังจากที่นางฟื้นขึ้นมาถึงได้รู้ว่าตลอดสามวันที่ผ่านมานางอยู่ในตำหนักขององค์รัชทายาทมาตลอดยามจื่อ! จูจินหลางสวมชุดดำมีผ้าคลุมปิดหน้าไปที่หอเก็บตำราหลวงอีกครั้งคราวนี้ไม่มีผู้ใดขัดขวาง นางได้แผนที่ราชวังมาแล้ว จึงเริ่มค้นหาจากตำหนักทางทิศตะวันออก นางปีนขึ้นหลังคาและค่อยๆเปิดแผ่นกระเบื้องหลังคาดูความเคลื่อนไหวของคนภายในตำหนักต่างๆที่นี่เป็นตำหนักหยงฉิ่ง ไทฮองไทเฮา ทรงประชวร จูจินหลางได้ยินลมหายใจที่ไม่สม่ำเสมอและมีอาการไอเป็นระยะ นางฟังอาการอยู่สักพักเจ้าของตำหนักนี้คือใครกัน ฟังจากเสียงลมหายใจแล้วเหมือนจะโดนพิษ? นางนึกในใจ ที่นี่คงไม่ใช่ที่คุมขังพี่ซานอี้เป็นแน่!ตามหาในวังแห่งนี้มาหลายตำหนักแล้วก็ยังไม่เจอ! ข้าคงต้องแอบสืบความจากใครสักคน ว่าแล้วก็นึกถึงองค์รัชทายาทอวิ๋นเทียนเหอขึ้นมา หลายวันมานี้ได้องค์รัชทายาทช่วยไว้หลายครั้ง จึงรอดพ้นจากนักฆ่าพวกนั้นมาได้! นางเดิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 14 - กราบอาจารย์

    จูจินหลางได้รับอนุญาตให้ออกนอกวัง ด้วยคำกล่าวอ้างของนางคือต้องการไปแช่น้ำพุร้อนเพื่อเสริมสร้างพลัง ที่เขาเมิ่งซาน แต่อันที่จริงนางอยากพบลั่วซือต่างหาก!จูจินหลางเตรียมตัวออกเดินทางโดยไม่มีผู้ติดตามเนื่องจากการไปในครั้งนี้ต้องขึ้นไปถึงยอดเขาเมิ่งซานจึงจะเจอบ่อน้ำพุร้อน และผู้ที่ขึ้นไปได้จึงต้องเป็นผู้ฝึกวรยุทธ หรือมีพลังจิตที่เข้มแข็งเท่านั้น!ถึงแม้นองค์รัชทายาทอวิ๋นเทียนเหอจะเป็นห่วงนางมากเพียงใดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้!เฟ่ยเย่นัดกับลั่วซือที่บริเวณตีนเขาเมิ่งซาน ด้วยการขึ้นเขาครั้งนี้มันไม่ได้ง่าย“คาราวะท่านพี่ลั่วซือ“ ฟางเฟ่ยเย่ทำความเคารพ ยามพบหน้า”ไม่ต้องมากพิธี” ลั่วซือจับต้นแขนนางทั้งสองข้างยกให้ตัวยืนขึ้น“ท่านพี่ ข้าเจอพี่ซานอี้แล้ว แต่เค้าตาบอด ถูกพิษและร่างกายอ่อนแอ ข้าได้บอกข่าวนี้ไปยังพี่อันซื่อกับพี่ต้วนอวี้แล้ว“ เฟ่ยเย่รายงานสถานะการณ์ต่างๆให้ลั่วซือฟังทั้งหมด“ดูเจ้าสนิทกับองค์ชายทั้งสามมากนะ“ น้ำเสียงลั่วซือปนความน้อยใจอยู่นิดหน่อย”ก็แน่ล่ะสิ ข้าเป็นถึง...สหายร่วมเรียนขององค์หญิงเหยียนหลินนี่นา“ เฟ่ยเย่หันหน้ามายิ้มให้ลั่วซือ”ไปเถอะหนทางขึ้นเขาลำบากมาก เดี๋ยวจะค่ำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26
  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 15 - เสี่ยวเป่าแปลงร่างเป็นมนุษย์

    “เจ้าหาเสี่ยวเป่าอยู่ใช่หรือไม่?” ท่านอาจารย์ถามเฟ่ยเย่“ท่านรู้ความลับนี้ได้อย่างไร?” เฟ่ยเย่มีท่าทีตกใจท่านอาจารย์พูดต่อว่า เสี่ยวเป่าอายุครบหนึ่งหมื่นปีแล้ว เค้าจำศีลจนสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้แล้วเพียงแต่ตอนนี้ยังต้องใช้เวลา เดิมทีเสี่ยวเป่าเป็นบุตรของเทพมังกรยิ่งหรง ข้าก็หวังว่าเค้าจะสง่างามเหมือนพ่อของเค้า“ตอนนี้เค้าอยู่ไหนหรือเจ้าคะ” เฟ่ยเย่ตื่นเต้นดีใจ“อยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนด้านหลังเขา ข้าได้กางเขตอาคมป้องกันการรบกวนให้เค้า แต่เจ้าเข้าไปได้” ท่านอาจารย์พูดเชิงอนุญาต“งั้นข้าจะไปหาเสี่ยวเป่าก่อนนะเจ้าคะ!” ว่าแล้วเฟ่ยเย่ก็ไม่สนใจสิ่งใด รีบลุกออกไปตามหาเสี่ยวเป่า ทิ้งความงงงวยให้ลั่วซือที่บ่อน้ำพุร้อน บนเขาเมิ่งซาน“เสี่ยวเป่า..เสี่ยวเป่า” น้ำเสียงเรียกที่คุ้นเคย กลิ่นนี้ที่คุ้นเคย ซึ่งเสี่ยวเป่าจำได้ดี แต่ตอนนี้เสี่ยวเป่าแปลงกายเป็นคนได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ครึ่งตัวส่วนล่างยังคงเป็นหางมังกรสีดำคลับ จึงต้องอาศัยแช่ในน้ำพุร้อนเพื่อเสริมพลังเมื่อเฟ่ยเย่เดินมาถึงบ่อน้ำพุร้อน ก็เห็นเงาคนผู้หนึ่งอยู่ในบ่อน้ำพุนั่น เฟ่ยเย่จึงก้าวขาลงไปในบ่อเพื่อไปดูให้แน่ว่าใช่เสี่ยวเป่าหรือไม่ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26

บทล่าสุด

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 26 - มิตรภาพ

    องค์ชายทั้งสามเมื่อออกจากตำหนักตงเตี้ยน อันซื่อจึงเอ่ยปากเรียกน้องชายทั้งสอง “อาอวี้-อี้เอ๋อร์” องค์ชายทั้งสองหันกลับมามองทางต้นเสียง อันซื่อจึงเดินไปโอบไหล่ของน้องชายด้วยแขนคนละข้าง”พวกเจ้าน่ะ ดีกันเถอะ หายโกรธกันได้แล้ว“ อันซื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล”เสด็จพ่อพูดขนาดนั้น ข้าหายโกรธตั้งนานแล้ว!” ซานอี้นั้นถึงแม้จะอารมณ์ร้อนไปบ้างแต่ก็มีเหตุผล“อืม! ข้าขอโทษด้วยนะซานอี้ และขอโทษเสด็จพี่ด้วย เราไม่ได้ต่อยกันนานแล้ว หมัดซานอี้หนักชะมัด!“ ทั้งสามยังคงยิ้มให้กัน“จริงสิ ถ้าลั่วซืออยู่ด้วยล่ะก็ หมอนั่นจะกล้ายอมรับกับเสด็จพ่อมั้ยว่าชอบอาเย่ด้วยเหมือนกัน” ซานอี้พูดถึงองค์ชายสี่ลั่วซือต้วนอวี้ยังมิได้กลับจวน แต่เดินมาเรื่อยๆ จนถึงตำหนักจิ่งหลิน ซึ่งเป็นตำหนักขององค์หญิงเหยียนหลิน มีนางกำนัลยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องโถง เมื่อเปิดประตูภายในห้องโถงตกแต่งไว้อาลัย ศพขององค์หญิงบรรจุอยู่ในโลงตั้งไว้ที่กลางโถง ต้วนอวี้นั่งลงจุดธูปเพื่อเคารพศพน้องสาวอย่างเงียบๆ “ตอนนี้เจ้าน่ะไปอยู่ในร่างคนอื่นแล้ว เราไม่ได้เกี่ยวดองกันทางสายเลือดอีกแล้ว ชาตินี้พี่ชายดูแลเจ้าไม่ดี! พี่ชายรู้สึกผิดต่อเจ้ายิ่งนัก! แ

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 25 - ศึกชิงนาง

    หน้าตำหนักตงเตี้ยน แคว้นหนานฉี่องค์รัชทายาทอันซื่อ,องค์ชายต้วนอวี้,องค์ชายซานอี้ มาขอเข้าเฝ้าฝ่าบาท! ขันทีเว่ยจึงรีบไปรายงานฮ่องเต้ ที่ห้องทรงพระอักษร“เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร?” ซานอี้เปยขึ้นมากับตัวเอง แล้วเดินไปเดินมาอยู่หน้าตำหนักตงเตี้ยนไม่สามารถสงบใจได้เลย ส่วนอันซื่อและต้วนอวี้ต่างก็รอที่หน้าตำหนักอย่างร้อนใจเช่นกันครู่ต่อมา ขันทีเว่ยก็ออกมารายงานให้องค์ชายทั้งสามแยกย้ายกลับได้ “พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้เข้าพบหรือสงสัยในราชองค์การที่ทรงรับสั่งไปแล้ว! พะยะค่ะ” ขันทีเว่ยถ่ายทอดคำสั่งอันซื่อได้แต่ทอดถอนใจแล้วเดินกลับตำหนักบูรพา เมื่อมาถึงตำหนักบูรพาได้ประมาณหนึ่งก้านธูป องค์ชายต้วนอวี้และองค์ชายซานอี้ก็มาขอเข้าพบ!ในตำหนักบูรพา!“ท่านพี่ทั้งสอง ข้าชอบอาเย่ นางมีบุญคุณช่วยชีวิตข้า ข้าต้องแต่งงานกับนาง“ ซานอี้เริ่มก่อน”ไม่ได้! นางจะแต่งกับใครไม่ได้ทั้งนั้น“ ต้วนอวี้พูดขัดขึ้น”พี่รอง พูดแบบนี้หมายความว่าไง” ซานอี้เดินไปประจันหน้ากับ ต้วนอี้ขมวดคิ้วสีหน้าจริง“ถ้าพูดถึงเรื่องบุญคุณ นางก็มีคุณบุญกับข้าช่วยเหลือข้า ตอนเรือแตกติดถ้ำอยู่กับข้า” ต้วนอวี้ยอมลดละ“นางไม่ได้ชอบเจ้า ทำไมต้อ

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 24 - คู่หมั่น

    ณ แคว้นหนานฉี่องค์ชายทั้งสามกลับมาถึงหนานฉี่อย่างปลอดภัย ส่วนฟางเฟ่ยเย่ก็กลับถึงจวนสกุลฟางเรียบร้อยแล้ว“คุณหนูกลับมาแล้ว” รุ่ยรุ่ยสาวใช้ประจำตัวรีบวิ่งเข้าไปต้อนรับ ”คุณหนู! ยูหยินรอท่านอยู่ที่ศาลบรรพชนเจ้าค่ะ“ สาวใช้รุ่ยรุ่ยรีบรายงาน”อืม ข้าจะไปเดี๋ยวนี้“ ฟางเฟ่ยเย่เดินมาหยุดที่ประตูทางเข้าศาลบรรพชนนางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยเปิดประตูก้าวเท้าเข้าไปยูหยินสกุลฟางนั่งสวดมนต์อยู่ก่อนแล้วเทียนไขในห้องนั้นถูกจุดสว่าง ป้ายชื่อผู้ล่วงลับตั้งวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบเมื่อฟางเฟ่ยเย่เข้ามาในห้องนางก็รีบจุดรูปสักการะบรรพบุรุษทันที ก้มลงกราบสามครั้ง แล้วนั่งนิ่งๆ จองมองแผ่นหลังของผู้เป็นมารดา“เจ้ากลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัยแม่ก็สบายใจแล้ว แต่เจ้ามีความผิดที่หลบหนีออกไปเช่นนี้ เจ้าเป็นกุลสตรีที่ยังไม่ออกเรือน หากวันนี้แม่ไม่ลงโทษเจ้า เจ้าคงไม่เห็นความสำคัญของชื่อเสียงตนเองและวงศ์ตระกูล เจ้าจงนั่งสำนึกผิดในศาลบรรพชนนี้สักสามวันเถอะ” เมื่อพูดจบยูหยินก็ลุกขึ้นช้าๆแล้วเดินออกจากโถงบรรพชนไปเฟ่ยเย่ได้แต่นั่งสำนึกผิดในห้องตามลำพัง!วันต่อมา!องค์ชายทั้งสามและฟางเฟ่ยเย่ได้รับราชองค์การให้ไปเข้า

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 23 - องค์รัชทายาทหยางหย่วน

    มีราชองค์การจากฮ่องเต้หนานฉี่ ให้องค์ชายทั้งสี่กลับเข้าวังหลวง ส่วนค่ายอี้ชางมอบหมายให้ท่านแม่ทัพเกราะทองฟางหมิ่นเฉียนอยู่รักษาการณ์ชายแดนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย!ให้เดินทางออกจากค่ายอี้ชางภายในสามวันนับจากวันที่ได้รับราชองค์การ!“เราคงต้องทิ้งเจ้าสี่ไว้ที่นี่ก่อน หากเราเคลื่อนย้ายเค้าไปอาการคงไม่ดีแน่ เราจะไปทูลเสด็จพ่อเอง ฝากทางท่านแม่ทัพฟางด้วยนะ” องค์รัชทายาทอันซื่อเป็นห่วงน้องชาย“กะหม่อมจะดูแลองค์ชายสี่อย่างดี พระเจ้าข้า!” แม่ทัพฟางรับปากองค์รัชทายาท แล้วหันไปพูด กับเฟ่ยเย่ว่า ”เจ้าก็ตามองค์ชายทั้งสามกลับเมืองหลวงเสียเถอะ ป่านนี้ท่านแม่ของเจ้าเป็นห่วงแย่แล้ว!“”เจ้าค่ะ ท่านพ่อ“ เฟ่ยเย่รับคำอย่างว่าง่าย”องค์รัชทายาทเพคะ ข้าขอพระราชทานนามให้ศิษย์พี่เสี่ยวเป่าได้หรือไม่เจ้าคะ“ เฟ่ยเย่เอ่ยถามอันซื่อ”เรียกท่านพี่อันซื่อสิ“ อันซื่อยิ้มล้อเลียนเฟ่ยเย่”อ่อ หม่อมชั้นมิบังอาจ“ เฟ่ยเย่สงบเสงี่ยมเจียมตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ทัพฟาง”เรียกเราว่าท่านพี่อันซื่อเถอะ เคยเรียกเช่นไรก็เรียกเช่นนั้น“ อันซื่อยิ้มให้เฟ่ยเย่แล้วกล่าวต่ออีกว่า “ชื่อใดดีนะ หนุ่มหน้าขาวราวหยก ดวงตาสีฟ้าดั่งทะเลใส ข้าให

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 22 - ปราบ“ฮุ่นตุ้น”สัตว์ปีศาจแห่งความโกลาหล

    ทางฝั่งของค่ายอี้ชาง เขตแดนหนานฉี่ “ท่านพ่อ ลูกขอออกไปปราบปีศาจนะเจ้าคะ ที่นี่มีไอมารพวยพุ่งเป็นจำนวนมากจะต้องมีปีศาจร้ายอยู่ที่ไหนสักแห่งแน่นอน เจ้าค่ะ“ เฟ่ยเย่ออดอ้อนท่านแม่ทัพผู้เป็นบิดา ”หน้าที่นี้ให้เป็นของพ่อเถอะ เจ้าเป็นเพียงสตรีบอบบาง พ่อว่าเจ้าควรกลับจวนไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่เจ้าดีหรือไม่?“ แม่ทัพฟางกล่าวกับลูกสาวด้วยความห่วงใย ”ข้ารู้ว่าท่านพ่อรักข้าที่สุด แต่ลูกได้กราบเทพอัคคีฉงหลีเป็นอาจารย์ ตอนนี้ลูกมีวรยุทธ ลูกได้รับปากท่านอาจารย์ว่าจะต้องกำจัดคนชั่ว ช่วยเหลือผู้อ่อนแอเจ้าค่ะ! ให้ลูกไปเถอะนะเจ้าคะ“ “อืม!..เย่เอ๋อร์..พ่อว่าเจ้าอยู่ช่วยเหลือรักษาทหารกับชาวบ้านที่บาดเจ็บในค่ายนี้ก็พอแล้ว” แม่ทัพฟางยังไม่ยอมรับปากเฟ่ยเย่ง่ายๆ ยามจื่อ! เฟ่ยเย่สวมชุดสีดำพรางตัวทะมัดทะแมงรัดเกล้าผมทรงสูง ใช้วิชาตัวเบารัดเลาะหลบทหารเดินยามในค่ายอี้ชาง นางรู้สึกถึงการถูกตบที่ไหล่จากทางด้านหลัง จึงสวนกลับเตะ ต่อย 2-3 กระบวนท่า “ศิษย์พี่!เองหรือ? ข้าตกใจหมด” เฟ่ยเย่รีบหยุดมือ “เจ้าจะไปไหนรึ?” ลั่วซื่อขมวดคิ้วถาม “แถวนี้มีไอมาร มีกลิ่นปีศาจ ข้าจะไปดูหน่อยว่ามันมาจากที่ใดกันแน่” เฟ

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 21 - จี้หยกสยบมาร

    ฟางเฟ่ยเย่ตอนนี้ปลอมตัวเป็นองค์รักษ์อยู่ข้างกายองค์รัชทายาทอวิ๋นเทียนเหอ ออกตามเสด็จไปช่วยบรรเทาภัยแล้งในหลายๆพื้นที่ของหนานเจียงเสด็จพ่อของอวิ๋นเทียนเหอ ฮ่องเต้ของแคว้นหนานเจียงตอนนี้ป่วยหนัก จนในที่สุดก็ทรงสวรรคต! บัดนี้..รัชศกเจียงโจวปีที่ 17 แห่งแคว้นหนานเจียงองค์รัชทายาทอวิ๋นเทียนเหอจึงได้ทรงขึ้นครองบังลังก์ ซึ่งในขณะนี้เกิดความวุ่นวายโกลาหล ในแคว้นกลับมีพวกนับถือลัทธิมารปรากฏ! องค์ฮ่องเต้อวิ๋นเทียนเหอ พึ่งขึ้นครองราช ไม่มีอำนาจและไม่มีกำลังทหารอยู่ในมือจึงต้องรีบส่งองค์รัชทายาทอันซื่อ-องค์ชายต้วนอวี้และแม่นางฟางเฟ่ยเย่กลับคืนไปยังสู่แคว้นหนานฉี่ณ หอดาราดาว! “พรุ่งนี้ข้าก็จะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าอีกแล้ว ขอให้เจ้าเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย“อวิ๋นเทียนเหอพยายามข่มความรู้สึก และข่มกิริยาที่แสดงออกไป“ฝ่าบาทก็เช่นกัน ต้องดูแลตัวเองอย่างดีนะเพคะ” เฟ่ยเย่เอ่ยด้วยความจริงใจ นางล้วงมือไปในถุงเฉียนคุน หยิบของออกมาสิ่งหนึ่งยื่นให้องค์ฮ่องเต้ อวิ๋นเทียนเหอ“ฝ่าบาท! เอานี่ติดตัวไว้ตลอดห้ามถอดออกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม รับปากหม่อมชั้นนะเพคะ” เฟ่ยเย่ยื่นจี้หยกสยบมารให้อวิ๋นเทียนเหอ“จี้หยก

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 20 - เจรจา

    ซานอี้กับเฟ่ยเย่ลงจากเขาเมิ่งซานมาด้วยกัน จึงไปที่หอหรูอี้เพื่อสืบข่าว และได้พบกับองค์รักษ์ชิงเฟิงเฟ่ยเย่ตรวจดูอาการของชิงเฟิงแล้ว ถึงจะบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ได้ยามาช่วยบรรเทาได้ทันเวลา นางใช้พลังเทพเดินลมปราณให้ชิงเฟิงทำให้หายเร็วกว่าปกติมาก”ขอบพระคุณแม่นางฟาง“ ชิงเฟิงกล่าวขอบคุณเฟ่ยเย่”มิได้ มิได้ องค์รักษ์ชิงเฟิงโตมาด้วยกันกับองค์รัชทายาทอันซื่อเราจะนิ่งดูดายได้อย่างไรกันเล่า“ เฟ่ยเย่ยิ้มให้อย่างมีไมตรี”เหตุใดแม่นางถึงได้ล่วงรู้เรื่องนี้ด้วย!“ชิงเฟิงหมวดคิ้วสงสัย”โถ เอ้ย เราเป็นสหายร่วมเรียนกับองค์หญิงเหยียนหลินนะ“ เฟ่ยเย่แสร้งกลบเกลื่อน“ท่านพี่ซานอี้เราคงต้องแยกกันตรงนี้ ท่านไปกับชิงเฟิงกลับไปหนานฉี่ก่อน ไปช่วยทางท่านพี่ลั่วซือ ส่วนข้าจะเข้าวังหนานเจียงไปพบองค์รัชทายาทอวิ๋นเทียนเหออีกครั้ง“ เฟ่ยเย่รีบแจกแจง”ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป หากเจ้าถูกจับตัวไป ข้าจะมีหน้าไปพบท่านแม่ทัพฟางหมิ่นเฉียนรึ“ ซานอี้หมวดคิ้ว ยืนกอดอก สีหน้าขรึงขรึม”ท่านพี่ ท่านพี่ ท่านพี่ ให้ข้าไปเถอะนะ”เฟ่ยเย่เข้ามาเขย่าแขนอ้อนซานอี้“ไม่ได้” ซานอี้กอดอกหันหลังให้เฟ่ยเย่“ข้ารับรอง ข้าไม่มีทางเป็นอันตราย ข้ามีอาว

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 19 - ตัวประกันครั้งที่ 2

    ณ เขาพระจันทร์เสี้ยว“ท่านพี่! ข้าจะส่งท่านออกไปก่อน“ องค์ชายต้วนอวี้บอกองค์รัชทายาทอันซื่อ ”ไม่นะอาอวี้ข้าไม่ไป ข้าจะทิ้งเจ้าได้อย่างไร?“ อันซื่อมิยินยอม”เราติดอยู่ที่นี่มาหลายวันเกินไปแล้ว พอเสบียงหมดทหารจะหมดแรง ถึงตอนนั้น ข้าจะปล่อยให้องค์รัชทายาทแห่งหนานฉี่ ถูกจับคุมไปเป็นเชลยศึกได้อย่างไร?“ ต้วนอวี้มีสีหน้าจริงจังและคุกเข่าต่อหน้าอันซื่อ”ท่านพี่ตั้งแต่เล็กจนโต ข้าไม่เคยร้องขออะไรจากท่านเลย ครั้งนี้อาอวี้ขอร้องท่านพี่สักครั้งได้หรือไม่! โปรดฟังคำขอร้องจากข้าด้วย!“ ต้วนอวี้ยังคงคุกเข่า”ไม่ได้! เจ้าอยู่ข้าอยู่! ไม่ว่าวันข้างหน้าจะสิ้นแสงสักเพียงใด ข้าจะไปกับเจ้า! ข้าเป็นท่านพี่ของเจ้า หากเจ้าเป็นอะไรไปข้าจะอธิบายกับเสด็จแม่บนสวรรค์ได้อย่างไร?” อันซื่อค่อยประคองต้วนอวี้ให้ลุกขึ้น“คืนนี้เราจะใช้กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม” อั่นซื่อกล่าว“ไม่คิดเลยว่าแม่ทัพต้าฝู่จะสกปรกถึงเพียง คบค้าพวกมาร ทหารผีดิบพวกนั้นฆ่าไม่ตาย!” ต้วนอวี้กล่าวอย่างหดหู่เขาพระจันทร์เสี้ยวในคืนนั้น!ทหารหลายหมื่นนายสู้กันอย่างดุเดือด ทางฝ่ายแม่ทัพต้าฝู่สมคบคิดกับพวกมาร ทหารผีดิบพวกนั้นมีเป็นหมื่น เป็นพันๆ

  • น้องสาวสุดที่รักตกสวรรค์มากับสัตว์เทพบรรณกาล   บทที่ 18 - เชือกมัดเซียน

    ผ้าแพรเทพบินกลับคืนสู่เจ้าของแล้ว!เฟ่ยเย่พาซานอี้เดินทางขึ้นเขาเมิ่งซาน“เจ้าจะพาข้าไปที่ใด” ซานอี้เอ่ยถามทำลายความเงียบ“เขาเมิ่งซาน” จริงสิตอนนี้ซานอี้ตามองไม่เห็นแล้ว นางจึงจับมือซานอี้ให้กะชับมากขึ้นตลอดการเดินทาง“เจ้าไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับองค์รัชทายาทของหนานเจียงเลยหรือ?”ซานอี้สงสัย“ไม่มี! ที่สำคัญตอนนี้คือพาท่านไปรักษาดวงตาให้หาย“ เฟ่ยเย่ตอบสั้นๆเขาเสียบดาบ! ลั่วซือทางเดินมาถึงเขาเสียบดาบด้วยความลำบาก ที่นี่! เป็นสุสานอาวุธของเหล่าบรรดาจอมยุทธ ที่สิ้นชีพไปแล้ว อาวุธที่สุสานเขาเสียบดาบแห่งนี้รอคอยผู้เป็นเจ้านายคนใหม่!ลั่วซือเข้าไปยังใจกลางหุบเขาทำสมาธิแล้วดึงดาบทีละเล่ม เจอดาบดึงดาบ เจอกระบี่ดึงกระบี่ จนในที่สุดลั่วซือก็ดึง “ดาบวารีไหล” ของซืออู๋ตู้ครั้นมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ออกมาได้สำเร็จ! เทพอัคคีฉงหลีนั่งทำสมาธิรู้ได้ด้วยญาณว่าลั่วซือได้ดึงดาบวารีไหลออกมาจากเขาเสียบดาบสำเร็จแล้ว การครอบครองดาบวารีไหลนั้นไม่ง่ายแต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้! ท่านอาจารย์ลืมตาขึ้น เบื้องหน้าตนคือเฟ่ยเย่กับซานอี้พึ่งขึ้นมาถึงยอดเขาเมิ่งซานพอดี”กราบท่านอาจารย์“ เฟ่ยเย่ลุกเข่ากราบคาราวะอาจาย์ ซานอี้ก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status