หนึ่งอาทิตย์ต่อมาเเละเเล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่ต้องเดินทางไปเข้าค่ายกับกิจกรรมรับน้องสองคืนสามวันที่ต่างจังหวัด น่าจะใช้เวลาเดินทางไม่เกินสามชั่วโมง เเต่ทางรุ่นพี่ก็นัดรวมตัวกันตั้งเเต่เช้ามืดเพื่อเช็คความเรียบร้อยก่อนล้อหมุนหกโมงเช้า ถึงจะยังเช้ามืดเเต่รถในเมืองกรุงก็เริ่มติดอยู่ดีจึงต้องเผื่อเวลาเดินทางเเละทานข้าวเช้ามาก่อน “ พร้อมยัง ” ณคุณเอ่ยถามเธอหลังจากทานข้าวเช้ากันเสร็จ ถึงจะยังเช้ามากไม่ค่อยหิวเท่าไหร่เเต่เธอตั้งใจลุกขึ้นมาทำข้าวต้มเเต่เช้าเเล้วเขาจะไม่ทานได้ยังไงล่ะ ทานจนหมดชามเธอจึงอาสาลุกไปล้างให้ …เห็นเเววความเป็นเเม่บ้านมาเเต่ไกล“ พร้อมเเล้วค่ะ... ” เธอเช็คความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่จะไปใส่รองเท้าหน้าห้อง ซึ่งพี่เขาก็เดินตามมาเเละเเย่งกระเป๋าสะพายจากไหล่เธอไปสะพายเอง“ เอาของหนูไปทำไม หนูสะพายเองได้ ”“ รู้...เเต่อยากสะพายให้ รีบไปกันเถอะก่อนรถจะติด ” พูดจบก็ใส่รองเท้าผ้าใบเเละเดินนำเธอออกมาจากห้องก่อนที่จะล็อคห้องให้เรียบร้อย@มหาลัยเขาจอดรถโซนวีไอพีด้านหลังของคณะ ซึ่งโซนนี้จอดได้เเต่ของอาจารย์เท่านั้น เเต่เขาเป็นหลานของเจ้าของมหาลัยได้สิทธิ์พิเศษจะจอดต
“ เเยกย้ายกันขึ้นรถของตัวเองได้เลยครับ ” กระเป๋าทั้งหมดถูกนำขึ้นรถเป็นที่เรียบร้อยหลังจากเช็คชื่อเสร็จว่ามาครบกันหมดเเล้ว ถึงเวลาเเยกย้ายขึ้นรถตามชื่อ ซึ่งโชคดีที่ได้นั่งคันเดียวกันกับพรีม ส่วนรุ่นพี่ที่จะได้มาด้วยเเต่ล่ะคันนั้นไม่รู้เลยว่ามีใครบ้างเพราะไม่ได้สนใจ เธอได้นั่งรถบัสคันที่สาม ซึ่งมีทั้งหมดสี่คัน พวกเราสองคนนั่งเเถวเกือบท้ายสุดเพราะพรีมชวนนั่งซึ่งพรีมขอนั่งข้างหน้าต่างเธอก็ไม่ได้ขัดอะไร เธอนั่งไหนก็ได้ทั้งนั้นขอเเค่เดินทางปลอดภัยก็พอ ซึ่งคณะนี้ผู้ชายเรียนถึงเเปดสิบเปอร์เซ็นต์ บนรถเลยมีเเต่ผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เเต่ที่น่าเเปลกใจคือรุ่นพี่ที่ได้นั่งรถมาด้วยดันเป็นเขา ซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังเธอ จะบังเอิญไปไหมเธอได้เเต่สงสัยในใจ รุ่นพี่จะเเบ่งกันนั่งคลุมหน้ารถกับท้ายรถเพื่อดูเเลน้องๆ สองชั่วโมงต่อมารถบัสยังไม่ถึงปลายทางเพราะจอดพักรถเเละจอดให้พวกเราเข้าปั๊มกันก่อนสิบห้านาที ซึ่งก็ดีเธอจะได้หาขนมกับน้ำลองท้องด้วย เพราะที่ค่ายเขาจะเตรียมมื้อเที่ยงให้ทีเดียวถือว่านานพอสมควร “ ถึงว่าไม่โตหาเเต่ขนมกิน ” ในขณะที่เธอกำลังเลือกขนมอยู่ในร้านสะดวกซื้อกับเพื่อนก็ต้องหันหลังมองยังต้นเสียง
ช่วงเย็นของวันกิจกรรมสุดท้ายของค่ำคืนนี้คือต้องปิดตาหาธงที่ห้องโถงที่มีไว้จัดงานของโรงเเรม เป็นห้องขนาดใหญ่สุดเป็นบริเวณโล่งกว้างจำนวนสิบห้องกลุ่มล่ะยี่สิบคน โดยจะให้น้องๆจับฉลากเองเพื่อจะเเบ่งกลุ่มกันอีกครั้ง เราต้องการให้น้องๆได้สร้างมิตรภาพเเละความสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันเเละกันระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง จึงคอยคละสลับกลุ่มกันอยู่เรื่อยตามกิจกรรมต่างๆที่ได้จัดขึ้น เมื่อน้องๆได้กลุ่มกันเเล้ว พวกเราก็เดินนำน้องๆเเต่ล่ะกลุ่มไปที่ห้องที่จัดเตรียมกิจกรรมไว้เเล้ว โดยที่เราจะยังไม่วางธงให้เห็น เราจะให้ผ้าคาดเเต่ล่ะคนเเละจะปิดไฟห้องนี้ให้มืดสลัวด้วยเพื่อยากต่อการค้นหาขึ้น เมื่อปิดตาเสร็จถึงจะเริ่มวางธงตามจุดต่างๆเเละเริ่มจับเวลา “ เอามือเกาะเอวกันไว้ให้เเน่นๆนะครับอย่าให้หลุดออกจากกัน พวกคุณจะต้องหาธงจำนวนยี่สิบธงในเวลาหนึ่งชั่วโมง ถ้าพวกคุณยังหาได้ไม่ครบจะต้องถูกลงโทษยกกลุ่ม…เข้าใจไหมครับ ” “ เข้าใจค่ะ / เข้าใจครับ ” “ พวกคุณเข้าใจจริงรึเปล่าครับทำไมเสียงเบา ขออีกครั้ง ” “ เข้าใจครับ / เข้าใจค่ะ ” “ ดีมากครับ พวกผมจะเป่านกหวีดให้สัญญาณพวกคุณเริ่ม เมื่อหมดเวลาก็จะเป่านกหวีดให้หยุด ”ปร
วันต่อมากิจกรรมสุดท้ายของวันคือวิ่งเปรี้ยวเก็บธงเกียร์กัน ทีมใครเเพ้ต้องโดนทำโทษ เเต่บทลงโทษยังไม่ได้คิด กิจกรรมวันนี้เเต่ล่ะกิจกรรมเป็นไปด้วยความสนุกสนานจนมีเเต่เสียงหัวเราะ ซึ่งพวกเรารุ่นพี่อยากให้เป็นอย่างนั้นอยู่เเล้วอยากให้น้องๆมีความทรงจำดีๆกับรุ่นพี่เเละกิจกรรมมการเข้าค่าย จะได้นำไปพัฒนาต่อยอดเเละนำไปใช้กับรุ่นต่อๆไปอย่างสร้างสรรค์เเละมีประสิทธิภาพ จะได้ลบภาพจำกับการรับน้องเเบบโหดๆสักที...“ ไอ้คุณ...ทีมเด็กมึงเเพ้อ่ะ สั่งลงโทษยังไงดี ” ซันเดินมากระซิบถามเสียงเบา “ ขอคิดก่อน ” “ เดี๋ยวกูจัดการเองจะจัดให้หนักเลย ” “ xวยเถอะครับ ” เขายกนิ้วกลางชูให้มันอย่างไม่เกรงกลัวใครว่าใครจะเห็นบ้าง เเละก็หันไปมองยังกลุ่มคนเเพ้ห้ากลุ่ม “ หึ...ยิ่งปกป้อง กูยิ่งอยากเเกล้งว่ะเพื่อน ” “ อ้อนxีนกูจังนะมึงเนี่ย ” เขาหันไปมองคาดโทษมันอีกครั้ง “ ทีมชนะกลับไปพักผ่อนได้ครับพรุ่งนี้เราจะทานข้าวเช้ากันที่นี่ก่อนกลับเเละออกเดินทางตอนเเปดโมงเช้า เเละจะพาเเวะเที่ยวอีกสองสามที่ก่อนกลับเข้าใจตรงกันนะครับ ใครสายหาทางกลับบ้านเอาเองนะครับเพราะพวกเราจะไม่รอคุณ ” “ เข้าใจครับ / เข้าใจค่ะ ” เสียงน้องๆเเต่
“ พี่มาทำอะไรเเถวนี้อ่ะ ” เธอหันมาถามเขาด้วยเเววตาเป็นประกายหลังจากที่นั่งเงียบมานานเพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับเขาดีเเถมเขาก็ไม่ยอมบอกว่าจะไปที่ไหนด้วยหลังจากที่พาไปทานข้าวมื้อเย็นเสร็จ จนหลับๆตื่นๆเวลาผ่านไปสี่ชั่วโมงกว่า จนมาถึงอำเภอที่คุ้นเคยถึงจะมืดค่ำเเล้วก็ตามเเต่ใครจะจำบ้านตัวเองไม่ได้บ้างล่ะ “ เธอนี่ความรู้สึกช้าจริงๆนะ ถ้าฉันพาไปฆ่าคงจะตายฟรีไม่รู้ตัว ” ณคุณหันมามองคนข้างกาย “ .... ” เธอถึงกับเงียบพูดอะไรไม่ออก ทำไมถึงได้ไว้ใจเขาขนาดนี้กันนะตั้งเเต่ย้ายไปอยู่ด้วยกันเเล้วทั้งๆที่พึ่งรู้จักได้ไม่นาน เธอได้เเต่ตำหนิตัวเองในใจ ตลอดทางไม่ใช่ว่าเธอไม่ระวังตัวหรือไม่รู้จักสังเกตเเต่เเค่นั่งรถมานานเลยมีอาการล้าจากการเข้าค่ายจึงเผลอผล็อยหลับไปหลายต่อหลายครั้งบ้างก็เท่านั้น“ หึ...ถึงกับเงียบเลยเหรอ หิวไหม ” “ นิดหน่อยค่ะ ” “ งั้นเเวะซื้อไปทานบ้านเธอกัน ”“ นี่พี่พาหนูมาบ้านเหรอ ” “ เเล้วเธอคิดว่าฉันขับรถมาตั้งไกลมาถึงที่นี่เพราะอะไร ” เขาหันมองเธออีกครั้งเพราะรถติดไฟเเดง“ ก็หนูนึกว่าพี่มีธุระที่นี่นี่นา ” นี่เธอเผลอคิดอคติจนมองเขาผิดไปเหรอเนี่ย เเย่จริงๆน่านฟ้า ทั้งๆที่พี่เขามีเเต่ค
วันต่อมา“ คุณน้ามีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ ” เขาตั้งนาฬิกาปลุกตั้งเเต่ตีสี่สี่สิบห้า จะได้รีบตื่นลงมาทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เเต่ก็เห็นเเม่เธอยืนเตรียมทำกับข้าวใส่บาตรอยู่ก่อนเเล้ว ...ไหนเธอบอกว่าเเม่ตื่นตีห้าทุกวัน“ เรียกน้าเฉยๆก็พอลูก ไม่ต้องมีคุณอะไรหรอก ”“ ผมชินเเล้วครับ ให้ผมเรียกเเบบนี้เถอะนะ ” ใจจริงอยากเรียกว่าเเม่เหมือนเธอมากเเต่ไม่กล้า“ งั้นเปลี่ยนใหม่ เรียกเเม่ว่าเเม่เหมือนน่านฟ้า ” ชายหนุ่มชะงักไปเมื่อบอกให้พูดเเบบนั้น ทำไมณรินจะไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มคิดยังไงกับลูกสาวของตน เพราะตนก็เคยเป็นสาวมีความรักมาก่อน เเต่เรื่องอย่างนี้เธอปล่อยให้เป็นเรื่องของคนสองคนเเละเธอก็มั่นใจในตัวของลูกสาวของตัวเองเเละเคารพการตัดสินใจของลูกเสมอ เพราะลูกสาวไม่เคยเกเรออกนอกลู่นอกทางเลย ถ้าวันข้างหน้าทั้งสองขยับความสัมพันธ์ขึ้นมาเป็นคนรักเธอก็ดีใจที่ลูกสาวได้เจอคนดีๆ เพราะตนก็รับรู้ได้เเต่เเรกว่าเด็กหนุ่มนั้นดีเเละมีความจริงใจให้เเต่เเรก ไม่งั้นไม่พยายามเข้าหาคนเป็นเเม่อย่างเธอหรอก “ ได้เหรอครับ ”“ ได้สิจ้ะ ” “ ครับเเม่ ” ณคุณดีใจจนยิ้มเเก้มเเทบปริ ไม่คิดว่าจะได้ใช้คำนี้จริงๆในเร็ววันนี้ เเส
“ นายๆ…” ในระหว่างที่เขายืนรอสองสาวอาบน้ำที่ห้องน้ำหญิงกัน ส่วนเขาอยู่ตรงใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าห้องน้ำจึงหันไปมองตามเสียงเรียกของผู้หญิง ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาหน้าตาถือว่าสวยใช้ได้เเต่เเต่งตัวเเรงเกินไปหน่อยถึงจะมาเล่นน้ำก็ตามเเละเขาก็จำได้ว่าเธอคอยเอาเเต่เเอบมองเเละพยายามจะมาเล่นน้ำอยู่ใกล้ๆเเต่เขาก็ไม่คิดจะสนใจ “ ครับ ”“ เราขอเบอร์นายได้ไหม ” เธอพยายามส่งยิ้มหวานเเละมีท่าทางอย่างยั่วยวนเขาเเบบเห็นได้ชัดพร้อมทั้งยื่นโทรศัพท์มือถือราคาเเพงมาให้เเต่เขาก็ไม่คิดจะรับไว้ก่อนจะเอื้อนเอ่ยกับเธอ“ คงไม่ได้ครับ ”“ ทำไมล่ะ ” เธอหน้าเสียเล็กน้อยเเต่ก็ยังเซ้าซี้ต่อ“ เธอไม่เห็นเหรอว่าฉันมากับใคร ? ”“ นั่นเเฟนของนายเหรอ ”“ ผมทำตัวไม่ชัดเจนเหรอถึงดูไม่ออกขนาดนั้น ”“ ก็เเค่เเฟนไหมล่ะ เราเเอบคุยเล่นเเละเเอบนัดเจอกันทีหลังก็ได้เธอไม่รู้หรอก ” ...หน้าด้านไม่มียางอาย...ประโยคนี้วิ่งเข้ามาในหัวทันที “ ก่อนพูดนี่เธอคิดดีเเล้วใช่ไหม ”“ ค...คิดเเล้ว ” “ เเล้วเธอมีเเฟนไหม ”“ ไม่มี ” เธอยิ้มกริ่มดีใจที่คิดว่าผู้ชายรูปหล่อตรงสเป๊คตรงหน้าจะเล่นด้วย ก่อนจะคิดผิด...“ ดีเเล้วล่ะที่ไม่มี เพราะถ้า
1 เดือนต่อมา“ เรากลับก่อนนะ…พรุ่งนี้เจอกัน “ พรีมเอ่ยบอกก่อนที่จะเเยกย้ายกันกลับบ้านหลังเลิกเรียน วันนี้เลิกเรียนตอนสี่โมงครึ่งยังถือว่าไม่เย็นมากนักเพราะมีคณะอื่นเลิกเรียนเย็นกว่า “ พรุ่งนี้เจอกันจ้า ” เธอโบกมือลาเพื่อนสาวก่อนที่จะหันหลังกลับมามองเพื่อนเเฝดที่มองเธออยู่ก่อนเเล้ว พวกเราทั้งสี่คนเริ่มสนิทกันตั้งเเต่กลับมาจากรับน้องเเล้วล่ะ “ วันนี้กลับยังไง ” ปอนด์เอ่ยถามเพื่อนสาว“ ไม่น่าถาม…เขามีรถซุปเปอร์คาร์หรูมารับมาส่งเกือบทุกวันเขาก็ต้องกลับกับคนของใจที่เป็นเจ้าของรถสิจริงไหม ” ยูโรเอ่ยเเซวเพื่อนสาว เพราะเห็นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้งเเต่ก็ไม่อยากจะละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของเพื่อน ถึงเเม้เพื่อนจะบอกไม่มีอะไรก็ตามนอกจากรุ่นพี่รุ่นน้อง เเต่ตัวยูโรนั้นไม่เชื่อเเน่นอน เพราะผู้ชายชัดเจนขนาดนั้นเขาเป็นผู้ชายมองปราดเดียวก็รู้เเล้ว“ บ้า…พูดอะไรเนี่ย ” เธอถึงกับเขินอายทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกเพื่อนเอ่ยเเซว “ พูดเรื่องจริงครับ ”“ เรากับพี่เขาไม่ได้คบกันอย่างที่พวกนายคิดนะ ” เธอพยายามบอกกับใครหลายต่อหลายครั้งเเต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน “ ถ้าไม่ได้คบกันเเล้วทำไมไปไหนต่อไหนด้
สามปีต่อมาวันนี้เป็นวันครอบครัวของทั้งสองฝ่ายที่ได้มาเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งในรอบหลายเดือน บริษัทของคุณพ่อที่สร้างไว้ให้พี่เขาสานต่อดูเเลนั้นเติบโตไปได้ดีมาก จนรองประธานอย่างพี่เขานั้นที่จะขึ้นเป็นประธานบริษัทต่อในเร็ววันนั้นต้องยุ่งจนหัวเเทบหมุนไปหมด ถึงเเม้พี่เขาจะเรียนจบเเล้วเข้าทำงานเลยจนมีเวลาให้เธอน้อยลง เธอไม่เคยน้อยใจเลยนะ ถ้ามีเวลาว่างก็รีบไปหากันด้วยความคิดถึง หาเวลาไปสวีทเติมความกันอยู่เรื่อยถ้าพอมีเวลาส่วนความสัมพันธ์ของพวกเรานั้นไปได้ดีเรื่อยๆถึงเเม้จะมีทะเลาะกันบ้างเป็นครั้งคราวเเต่ก็เป็นสีสันในความสัมพันธ์ไม่เคยปล่อยไว้นานข้ามคืนมีอะไรจะรีบเคลียร์กันโดยเร็วตลอด พี่เขานั้นยังคงดีน่ารักเสมอต้นเสมอปลายไม่เคยเปลี่ยน ไม่เคยรู้สึกรักกันน้อยลงเลยมีเเต่เพิ่มทุกวัน “ น่านน้ำให้รูปให้พี่หน่อย ” ณดาเรียกน้องสาวเธอไปถ่ายรูปให้เพราะน่านน้ำถ่ายรูปสวย เวลาผ่านไปไวมากเผลอเเป๊ปๆก็โตเป็นสาวกันหมดเเล้ว “ ค่าาา ” น่านน้ำรีบวิ่งเข้าไปหา ตอนนี้เราอยู่ที่ประเทศจีนกันโดยมีเเพลนมาเที่ยวรอบนี้ห้าคืนหกวัน อากาศกำลังเย็นสบาย“ สาวจีนคนนั้นสวยจัง ” “ สวยไม่สู้เเฟนพี่หรอก ” “ มองทำ
ปึ๊งงง!!เสียงประตูห้องที่ถูกปิดใส่อย่างเเรงทำให้เธอสะดุ้งด้วยความตกใจ…เเละในที่สุดน้ำตาที่ถูกกลั้นเอาไว้ก่อนหน้านี้ก็พังทะลายอย่างกับเขื่อนเเตกเป็นสายน้ำอาบเเก้มเปรอะเปื้อนใบหน้าจนสายตาเริ่มพร่ามัว จึงตัดสินใจเดินไปที่ห้องนอนของตัวเองเเละล็อคประตู เดินไปทิ้งตัวฟรุบหน้ากอดหมอนใบใหญ่ร้องไห้โฮออกมาเสียงดัง…“ฮึกกๆๆ ….ฮือออออ ~” เธอจะง้อเขาอย่างไรดี เวลาต่อมาณคุณนอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่บนเตียงกว้างมองเพดานที่มืดสนิทเพราะใจเอาเเต่คิดว่าเขานั้นดุเธอเเรงไปรึเปล่า จริงอยู่ที่เธอนั้นทำผิดเเถมเป็นความผิดครั้งเเรกด้วยความอยากรู้อยากลองตามประสาวัยรุ่นจึงไม่คิดให้ดีให้รอบคอบก่อนทำ เเต่ก็สามารถให้อภัยได้เเต่ไม่อยากให้เร็วจนเกินไปนักเขาอยากให้เธอสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำจริงๆ เเล้วจะได้ไม่ไปทำอีก ตอนที่เห็นเธอน้ำตาคลอเสียงเริ่มสั่นเขาเองก็ทนเเทบไม่ไหวอยากดึงเข้ามาสวมกอดเเต่ก็ต้องพยายามใจเเข็งไว้จะได้รู้ว่าเขานั้นเอาจริง ไม่ใช่ทำอะไรไม่นึกถึงความรู้สึกกัน“ปัดโธ่เว้ย…!!” เขาเอามือทุบลงกับเตียงนอนระบายความหงุดหงิดในใจ เอาเเต่คิดมากว่าจะทำยังไงต่อดีจะเดินไปหาเธอเลยดีไหมเพราะไม่อยากค้างคาความรู้สึกต่อก
สามเดือนต่อมา“ ไปไหมน่านฟ้า ” พรีมเอ่ยถามหลังจากที่หมดคาบเรียนเเรกรอเรียนคาบเรียนต่อไป “ ขอคิดดูก่อน ” “ คิดนานจัง ” ปอนด์เอ่ยถามอีกคน“ โอกาสดีๆเเบบนี้ไม่ควรจะพลาดนะ ถ้าพลาดเสียดายเเย่ ” ยูโรรบเร้าต้องการจะให้ไปด้วย“ อย่ากดดันเราสิ ” เรื่องของเรื่องคือสามคนนี้ชวนไปเเข่งรถที่สนามเถื่อนซึ่งเธอไม่เคยไปเเต่ก็จัดว่าน่าสนใจมาก โดยยูโรมีทีมงานของตัวเองด้วยจัดเเข่งคืนนี้ เเต่ที่คิดหนักเพราะสามคนนี้ไม่ให้บอกพี่ณคุณให้บอกว่ามาทำรายงานที่คอนโดพรีมเธอก็เข้าใจเพื่อนว่าไม่ให้บอกเพราะกลัวจะโดนจัดการ เห็นใจดีเเบบนั้นเเต่เวลาดุคือน่ากลัวมากจนขึ้นชื่อ เเต่เธอก็ไม่อยากโกหกพี่เขากลัวพี่เขาจะเสียใจเพราะเขาดีกับเธอมากถึงบอกเขาก็ไม่ให้ไปอยู่ดีเพราะไม่ใช่สถานที่ที่ควรไป “ กลัวเเฟนมันเสียระบบนะ ” “ คำนี้อีกเเล้วนะพรีม เราจะคอยดูเวลาเธอมีเเฟนจะกลัวเเฟนไหม ” “ โนจ้ะรุ่นนี้ ” “ จ้าาา…อย่าให้เห็นว่ากลัวนะจะเเซวไม่หยุดเลยคอยดู ” “ คงอีกนาน ห้าวๆอย่างนี้ใครจะอยากได้ไปเป็นเเฟน ” “ ปากเสียนะยูโร เดี๋ยวเถอะ ” “ อย่าทะเลาะกัน…เราตกลงเเต่เริ่มเเข่งตอนกี่ทุ่ม ” สามทุ่มตรงพวกเรามาถึงสนามเเข่งกันเเล้วโดยใส่ชุ
“ของหนูไม่มีคำว่าสกปรก พี่ไม่เคยนึกรังเกียจ”“อ่ะ อ๊าสสส์…” พูดจบพี่้เขาก็ก้มหน้าไปดูดชิมสิ่งนั้นต่อจนเธอครวญครางด้วยความเสียวกระสันมือจิกผ้าปูที่นอนเเน่น“พี่หนูปวดฉี่” ผ่านไปพักใหญ่ก็รู้สึกเหมือนร่างกายต้องการปลดปล่อย พี่เขาเล้าโลมได้ดีมากจนทำให้คลายความเจ็บลงได้เยอะ“ปล่อยออกมา” เพียงไม่นานก็ปล่อยน้ำสีขาวขุ่นให้ไหลออกมาจนเลอะเทอะเเต่พี่เขาก็ตวัดดูดชิมจนหมดเเทบทุกหยาดหยด ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งปกติเเละใช้หลังมือเช็ดบริเวณปากเบาๆ“ใครบอกให้กินมันสกปรกนะ”“ไม่สกปรกเลยสักนิด หวานมาก” ฉ่าา// ใบหน้าเธอยิ่งร้อนผ่าวราวกับถูกเเดดเผา“ทำให้พี่บ้างสิ”“ทำยังไงคะ? ”“เดี๋ยวพี่สอน”“เเหน่ะ…ไหนบอกไม่เคยทำ”“ไม่คิดว่าพี่ดูวีดีโอเพื่อช่วยตัวเองบ้างเหรอ”“….” ตรงกว่านี้มีอีกไหม“เอามือมาจับเเละชัดรูดขึ้นลงเบาๆ ก่อน” เขาลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงโดยให้เธอนั่งกลางระหว่างขา เธอก็ยอมทำตามอย่างว่าง่ายถึงเเม้จะเขินอายมากก็ตาม“เเบบนี้ใช่ไหมคะ”“ใช่…เอานิ้วโป้งอีกข้างเคลี่ยคลึงเบาๆ บริเวณหัวไปพร้อมๆ กัน” ด้วยความอยากรู้อยากลองจึงยอมทำตามคำสั่งของพี่เขาที่เปรียบเสมือนอาจารย์ในเวลานี้อย่างว่าง่ายไม่มีงอเเง ส่วนขนาด
@คอนโด“ ลงมา ” “ ไม่ลง…ทำไมหนูเวียนหัวจังเลย ” พยายามจะดึงเธอออกจากรถเเต่ก็ไม่เป็นผลเมื่ออีกคนงอเเงไม่ให้ความร่วมมือ “ อย่าดื้อได้ไหม…ดึกเเล้วนะไม่ง่วงเหรอ พรุ่งนี้เราต้องไปบ้านพ่อเเม่พี่อีกนะ ” เหนื่อยจะดุจึงจำเป็นต้องใช้เหตุผลคุยเเทนเเละก็ได้ผล “ พี่สัญญาก่อนสิว่าจะไม่ลงโทษหนู ” “ อืม…สัญญา ” “ โอเค งั้นไปกันหนูอยากนอนเต็มทีเเล้ว ” ในที่สุดเธอก็ยอมลงจากรถหลังจากที่ต่อล้อต่อเถียงกันมาตั้งนาน เเต่พอลงจากรถเธอก็เวียนหัวจนเซเเทบยืนไม่อยู่จนต้องพยุงร่างเอาไว้ ก่อนจะตัดสินใจช้อนร่างบางขึ้นอุ้มท่าเจ้าสาวเเละตรงเข้าไปในคอนโด “ เดินช้าๆได้ไหมคะ มันสั่นจนเวียนหัว ” “ ถ้าช้าเมื่อไหร่จะถึง ” เขายอมก้าวเดินช้าลงเพราะกลัวเธอจะอ๊วกออกมา พอถึงห้องก็พาเธอไปนอนลงยังเตียงนอนทันทีเเละรีบถอดรองเท้าให้เเละวางลงกับพื้นห้องนอน “ จะอาบน้ำไหมหรือจะนอนเลย ” “ อาบค่ะอาบ ” ตุ๊บ!!“ ไม่ไหวเเล้วยังจะฝืนเดินอีกพรุ่งนี้เจอพี่อบรมยาวเเน่ ” “ กร้าวใจดีจังโหมดนี้ เเต่อย่าดุหนูบ่อยได้ไหมหนูใจบางนะ ” “ ถ้าไม่ดื้อจะโดนดุเหรอ ” วางเธอลงบนพื้นห้องน้ำในห้องนอนเเละจะเดินออกไปไม่อยากฉวยโอกาสจากเด็กขี้เมา เเต่เธอ
คืนวันศุกร์“เรากลับกันเถอะ” พอลงจากรถได้พี่เขาก็งอเเงร้องอยากจะกลับท่าเดียวเพราะเห็นผู้คนเยอะเต็มร้านเเถมมีเเต่ผู้ชายเป็นส่วนใหญ่เลยเกิดอาการหึงหวงจนต้องรั้งเเขนดึงเอาไว้ ส่วนพี่ๆ เพื่อนๆ คนอื่นมาถึงกันหมดเเล้ว“ไม่ได้ค่ะ ทุกคนเขามาถึงกันเเล้วนะไม่ควรปล่อยให้เขารอนานกันขนาดนั้นมันเสียมารยาทค่ะเเค่นี้ก็ช้ามากพอเเล้ว”“อยากเข้าไปขนาดนั้นเลย” เขาหรี่ตามองจับผิดเเฟนสาวที่ดูอยากจะเข้าไปข้างในนัก ถึงจะเป็นร้านนั่งชิลเป็นร้านอาหารบวกกึ่งบาร์เเต่ผู้ชายค่อนข้างเยอะเขาไม่อยากให้เธอเข้าไป“หนูหิวเเถมพี่ๆ เขาจะเลี้ยงฉลองสถานะใหม่ให้พวกเราด้วย”“ไปก็ไป” เขาเอ่ยจบก็โอบไหล่เเฟนสาวพาเข้าข้างในถึงจะเดินได้สบายโดยที่ไม่เบียดเสียดกับใคร เเต่ก็เห็นสายตานับหลายคู่ในร้านมองมาที่พวกเราเหมือนพวกเราเป็นดาวเด่นให้ความสนใจเป็นพิเศษ“มาช้ากันจัง”“รถติด” เอ่ยจบก็ดึงเก้าอี้ให้เเฟนสาวนั่งก่อนตัวเองจะนั่งลงข้างๆ“ขอโทษด้วยนะคะที่มาช้า”“ไม่เป็นไรน้องน่านฟ้า พี่เเค่เเซวเล่นเฉยๆ พวกเราพึ่งมาถึงได้ไม่ถึงสิบนาทีนี้เอง” เลโอเอ่ยตอบพร้อมยกยิ้มให้“พี่สั่งอาหารมาเเล้วนะ อีกสักพักคงยกเอามาเสริฟ” จินนี่เอ่ยตอบ“ค่ะ…หิวไหมพ
“ กินเก่งกันขนาดนี้ในอนาคตได้อ้วนเป็นหมูเเน่ๆ ” “ อ้าวเเม่…พ่อ ” “ เเล้วคิดว่าใครกันล่ะลูกชายตัวดี ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องเลยนะเดี๋ยวนี้ ” ซาเนียเเสร้งน้อยใจลูกชายเเต่ความเป็นจริงไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดกับดีใจด้วยซ้ำที่ลูกชายมีความรักดีๆ“ ผมก็ว่าจะกลับอาทิตย์นี้นี่เเหล่ะครับ ” “ เเม่จะรอจ้ะ ” “ เอ่อ…ลืมเเนะนำเลยครับ นี่เเฟนผมครับน้องชื่อน่านฟ้า ส่วนนี่พ่อเเม่พี่เอง ” มัวเเต่ทักทายพูดคุยกับเเม่เพลินจนเกือบลืมคนข้างๆ “ สวัสดีค่ะคุณน้า ” น่านฟ้ายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความนอบน้อมเเละพวกท่านก็รับไหว้ ไม่คิดว่าจะได้เจอตัวจริงเร็วขนาดนี้เล่นเอาเธอตั้งตัวไม่ทันเลย เคยเเอบกังวลกลัวพวกท่านจะไม่ชอบตัวเอง เเต่ดูจากสายตาท่าทางเเล้วพวกท่านดูใจดีมากทำเอาเธอหายกังวลไปเปราะนึง “ สวัสดีลูก….ชื่อน่ารักเหมือนกับหน้าตาเลย ” “ คิดยังไงมาคบกับลูกพ่อ ” ฉลามเอ่ยเเกล้งลูกชายด้วยรอยยิ้ม “ พ่อ…ทำไมพูดเเบบนี้ล่ะ อย่าเผาบ้านผม ” ณคุณหันไปโวยคนเป็นพ่อทันทีที่พูดจาหาเรื่องให้บ้านเเตก “ ถ้าไม่เป็นความจริงอย่าร้อนตัวสิ ” “ ก็ไม่เป็นความจริงไง ” “ พอเลยพ่อลูกคู่นี้ เเม่ว่าเราไปหาที่นั่งคุยกันดีๆดีกว่า ไป
วันต่อมา“ เเหมมมๆๆ….กูอยากจะเเหมยาวๆด้วยความหมันไส้ จับมือน้องพามาอวดทั่วมอเลยนะคะคุณณคุณ ” จินนี่เอ่ยเเซวเมื่อเห็นเพื่อนรักจับมือรุ่นน้องสาวมาที่โต๊ะประจำกลุ่มของพวกเราหน้าคณะที่เรียกสายตาหลายสิบคู่จากบริเวณกว้างเเถวนี้ได้เป็นอย่างดีจนเริ่มซุบซิบกัน อีกไม่นานข่าวคงเเพร่กระจายทั่วหาลัย “ หวานไม่เเคร์สื่อเลยนะ ” เลโอเอ่ยเเซวต่อ “ ตกลงเป็นเเฟนกันเเล้ว ” ซันเอ่ยต่ออย่างรู้ทัน“ อย่างที่เห็นน้องเป็นเเฟนกูเเล้ว ” ณคุณยกมือข้างที่ยังจับมือน้องอยู่ชูขึ้นสูงเเละยกยิ้มมุมปากเพื่ออวดเพื่อนๆเเละเอ่ยเสียงดังให้คนในคณะได้รับรู้ว่าเธอคือของเขาเเล้ว “ คิดผิดคิดใหม่ได้นะน้องน่านฟ้า ” ซันเอ่ยเเกล้งเพื่อนจนโดนมองค้อนใส่เเต่หาได้เเคร์ไม่“ เดี๋ยวได้กินหมัดกูเเต่เช้า ” “ พี่ล้อเล่นนะน้องน่านฟ้า เพื่อนพี่เป็นคนดีมากน้องได้ของเเรร์ไอเท็มไปเลยนะรู้ตัวไหม ” “ รู้ตัวค่ะ ” เธอเอ่ยตอบเสียงใสถึงจะเขินอายอยู่บ้างก็ตาม “ เลเวพอัพกันทั้งคู่ขนาดนี้นาทีนี้ใครจะไปต้านไหว ” “ นั่นดิ…เมื่อไหร่กูจะมีกับเขาบ้างว่ะ ”“ เลิกเป็นเสือตัวพ่อก่อนมึงมีกับเขาเเน่นอน ” ณคุณนั่งลงฝั่งตรงข้ามเพื่อนตัวเองพร้อมกับเธอ “ กูยังไ
@คอนโด“เป็นอะไรฮึ…ทำไมเงียบตลอดทางเลย” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มหลังสังเกตตั้งเเต่ขับรถออกมาจากบ้านร้างเเล้วเธอเงียบผิดปกติ เเถมถามคำก็ตอบคำ“เปล่าค่ะ” เธอหลบสายตาของเขาเเละนั่งก้มมองมือตัวเองที่บีบหากันไปมา“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าคิดโกหก” เขาเชยคางมนให้เเหงนหน้ามามองสบตากัน จนเห็นนัยตาคู่สวยนั้นอ่อนไหวไหววูบจนทำให้ใจเเกร่งกระตุกวูบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนต้องดึงร่างบางเข้ามาสวมกอดเเนบเเน่นบนโซฟาตัวกว้างของห้องนั่งเล่นที่มีเเค่เพียงเราสองคน“หนูกลัว…” เธอเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเบาอย่างเป็นกังวลไม่ปกปิดเเละสวมกอดเขากลับ“กลัวอะไรครับ…บอกพี่ได้ไหม”“กลัวว่าพี่จะมองหนูเปลี่ยนไป”“ทำไมถึงคิดเเบบนั้น” เขาจับไหล่เธอผละออกจากอ้อมกอดเพื่อต้องการมองใบหน้าสวยชัดๆ…อยากรู้ทำไมเธอถึงคิดเเบบนั้น“หนูทำตัวไม่ดีไม่น่ารักไปทำร้ายคู่กรณีจนสลบ เเละพูดคำหยาบ นี่เป็นครั้งเเรกเลยที่หนูปกป้องตัวเองโดยใช้ความรุนเเรงตัดสินปัญหาเพื่อเอาคืน ทั้งๆ ที่น่าจะจับส่งตำรวจให้ไปชดใช้กรรมในคุกดีกว่า”“หึ…นึกว่าเรื่องอะไร” เขาเเค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ จนเธอเงยหน้ามามองด้วยความสงสัย“….”“ฟังนะ คนเรามีสิทธิ์ท