Share

นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]
นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]
Author: ชะนีติดมันส์

บทที่ 1

last update Last Updated: 2025-01-28 07:44:27

[Nreṣ̄wr Club]

คลับนี้ชื่อตรงตัวว่านเรศวรคลับ หลังจากที่นเรศวรไปดูงานที่คลับของสิงขร​ (คลับS̄ingk̄hr) เขาก็ได้ไอเดียอะไรหลายๆ อย่างมาปรับใช้กับธุรกิจของตัวเอง ที่จริงคลับแห่งนี้ไม่ใช่ว่าเพิ่งเปิดใหม่ ก่อนหน้านี้เคยเป็นของสกายคลับมาก่อน หลังจากที่สกายเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต​ น้องสาวที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศต้องกลับมาดูแลธุรกิจของพี่ชาย เธอไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับธุรกิจของพี่เลยจนมีคนมาเสนอซื้อคลับแห่งนี้ แต่ทรงอัปสรไม่อยากจะขายขาด เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่จะระลึกถึงพี่ชายได้ เธอเลยเก็บหุ้นไว้ 30% แต่นเรศวรกลับอยากได้ทั้งหมดเพราะจะได้บริหารงานสะดวกหน่อย

ช่วงแรกที่นเรศวรเข้ามาบริหารที่นี่ก็ได้ไปยืมคนของสิงขรมาช่วยงาน นั่นก็คือพิมพ์ แต่พิมพ์ยังทำงานได้ไม่ถึงครึ่งเดือนเลยกายสามีของเธอที่เป็นมือขวาคนสนิทของสมิงดำก็ได้มาตามกลับไป เพราะกลัวว่าจะมีผู้ชายมาชอบภรรยาตัวเอง (เรื่องสมิงดำและกายอยู่ในเรื่องสมิงดำ[มาเฟียร้ายรัก]นะคะ&ส่วนเรื่องของสิงขรและธามม์อยู่ในเรื่องสิงขร[มาเฟียร้ายรัก]ค่ะ)

หุ้น 70% นเรศวรไม่ได้ถือครองอยู่คนเดียวยังมีเพื่อนร่วมหุ้นอีก แต่บุคคลนี้จะถือหุ้นอยู่ลับๆ ปล่อยให้นเรศวรบริหารหุ้นเอง แต่ถึงแม้จะแบ่งหุ้นออกเป็นสองส่วนนเรศวรก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และเป็นผู้บริหารสูงสุดของที่นี่

หลังจากที่แบ่งหุ้นของพี่ชายขายไปทรงอัปสรก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะเธอแอบสงสัยว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของพี่ชายก็คือผู้ถือหุ้นรายใหม่นี่แหละ เขาคงวางแผนไว้ว่าอยากจะเป็นเจ้าของที่นี่​แต่พี่ชายไม่ยอมขายให้เลยถูกจัดฉากฆาตกรรมในครั้งนั้น ทีแรกทรงอัปสรไม่คิดว่าจะเข้ามาบริหารงานที่นี่ด้วยซ้ำ แต่ถ้าเธอไม่เข้ามาก็จะไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการตายของพี่ชาย หญิงสาวเลยเข้ามาทำตำแหน่งผู้จัดการของที่นี่

วันนี้การจัดระเบียบทางเข้าของคลับเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทรงอัปสรเลยมายืนดูความสวยงามเป็นระเบียบ พิมพ์คนที่มาช่วยงานตาถึงจริงๆ ก่อนหน้าคลับนี้พี่ชายเธอไม่ได้จัดระเบียบให้สวยงามแบบนี้ คนเรียกแขกก็เรียกไป พนักงานเสิร์ฟที่รอรับลูกค้าก็ยืนระเกะระกะกันไปทั่ว

"คุณอัปสรทำอะไรอยู่คะ"

"ข้าวปุ้น.." ทรงอัปสรหันไปก็เห็นว่าเป็นข้าวปุ้นผู้ช่วยผู้จัดการที่เธอแต่งตั้งขึ้นมาเอง "จัดแบบนี้ก็เป็นระเบียบดีนะ"

"ใช่ค่ะ ถ้าได้พิมพ์มาทำงานด้วยก็คงจะดี นี่มาแค่ครึ่งเดือนเอง ปรับเปลี่ยนอะไรได้หลายๆ อย่างเลย"

"ใช่..ฉันไม่น่าคิดกับพิมพ์แบบนั้นแต่แรกเลย" ที่ทรงอัปสรพูดเพราะเธอคิดว่าพิมพ์จะเข้ามาช่วยทางด้านนเรศวร เพื่อทำให้ฝั่งนั้นได้เป็นผู้ถือครองหุ้นแต่เพียงผู้เดียว

แต่พอพิมพ์เข้ามาก็มุ่งทำแต่งานเหมือนคนบ้างานยังไงไม่รู้ แต่ผ่านไปไม่นานกายสามีของพิมพ์ก็มาตามกลับ ได้ยินว่าเธอท้องเลยต้องปล่อยให้กลับไป

"สวัสดีค่ะคุณทรงอัปสร"

"ว่าไงจ้ะอลิส" อลิสก็คือผู้ช่วยของพิมพ์ตอนที่พิมพ์มาทำงานที่นี่ ตอนที่พิมพ์มาพิมพ์รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายจัดการ แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครรับตำแหน่งนี้แทน

"เสี่ยนเรศให้มาตามไปคุยงานค่ะ"

"เขามาแล้วเหรอ"

"มาถึงแล้วค่ะ"

ห้องประชุม.. คลับแห่งนี้ถูกแบ่งเป็นห้องทำงานของผู้บริหารและห้องประชุมไว้อย่างดี แถมยังมีห้องแถวด้านหลังไว้ให้เป็นที่พักของพนักงาน สถานที่ตั้งของคลับนี้ทำเลทองเลยก็ว่าได้เพราะอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวของเมืองหลวง เพราะแบบนี้แหละหลายคนถึงอยากจะครอบครอง

"นั่งสิ" นเรศวรที่นั่งอยู่ก่อนกล่าวเชิญให้เธอนั่ง

"ฉันคงไม่ยืนคุยงานหรอกค่ะ" ทรงอัปสรพูดพลางเดินไปขยับเก้าอี้แล้วนั่งลง

คนที่เชื้อเชิญให้เธอนั่งอยู่เมื่อครู่ทำได้แค่มองอีกฝ่ายผ่านหางตา เพราะนเรศวรเป็นผู้ชายประเภทที่ไม่ชอบผู้หญิงพูดก้าวร้าวประชดประชัน แต่ทุกอย่างที่เขาไม่ชอบมีอยู่ในตัวเธอทั้งหมดเลย..

"เรื่องคนที่จะมารับตำแหน่งหัวหน้าแทนพิมพ์ ผมหาไว้แล้วนะ"

"ฉันก็หาไว้แล้วเหมือนกันค่ะ"

คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นปมได้อยู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้จะยอมเขาสักเรื่องไม่ได้หรือไง "แต่ตำแหน่งหัวหน้ามีได้แค่คนเดียว"

"ทำไมต้องหาคนนอกมาด้วยล่ะคะ คนในของเราเก่งๆ ก็มีตั้งเยอะ"

"ใคร"

"อย่างเช่น.." ทันใดนั้นทรงอัปสรก็ปรายตามองไปดูคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ข้าวปุ้น "อลิสไงคะ" ที่จริงเธอยังไม่ได้เตรียมการเรื่องนี้เลย และไม่คิดว่างานที่เขาเรียกมาคุยคือเรื่องนี้

"แต่อลิสเป็นรองหัวหน้า"

"รองแล้วไงคะ อลิสเคยทำงานกับพิมพ์มาก่อนรู้ระบบการทำงานดี"

อลิสที่ยืนอยู่ในห้องด้วยปลื้มปิติมากที่ทรงอัปสรเสนอชื่อเธอ

"ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น"

"แล้วหมายถึงแบบไหนล่ะคะ"

"ถ้าให้อลิสขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลัวว่าคนอื่นจะไม่เชื่อฟัง"

"ไม่รู้ล่ะยังไงฉันก็เลือกอลิส"

"แต่ผมนัดพนักงานใหม่เข้ามาพรุ่งนี้"

"ถ้าคุณทำแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเรียกฉันเข้ามาประชุมก็ได้นะคะ" ทรงอัปสรพูดพร้อมกับลุกขึ้นแล้วก็เดินออกจากห้อง ทิ้งให้อีกฝ่ายนั่งกัดฟันจนเห็นสันกรามขึ้น

"เอาไงต่อดีครับนาย" ตุนท์มือขวาคนสนิทของนเรศวร ที่จริงมือขวาของเขามีด้วยกันสองคน และทั้งสองคนหน้าตาเหมือนกันเป๊ะเพราะพวกเขาเป็นฝาแฝดกัน

"ไม่ต้องไปสนใจ พรุ่งนี้ให้เธอเข้ามาทำงานได้เลย"

"ไม่มีปัญหาแน่นะครับ"

"มึงเคยเห็นกูกลัวใครไหมล่ะ"

ตุนท์ไม่ได้ตอบมาเฟียผู้เป็นเจ้านายในทันที แถมเขายังมีท่าทีครุ่นคิด

"มึงอยากโดนบาทากูหรือไง" เสียอารมณ์จากผู้หญิงคนนั้นแล้วยังมาเสียอารมณ์กับลูกน้องอีก

"หึหึ" ตุนท์แอบขำก่อนจะเดินตามหลังผู้เป็นเจ้านายออกจากห้องประชุมไป

"เสี่ยขาา" น้ำตาลผู้ที่ดูแลโต๊ะของลูกค้าเห็นเสี่ยนเรศวรเดินตรงมาทางนี้เลยรีบเข้าไปหา เพราะได้ยินว่าวันนี้เสี่ยพูดถึงเรื่องหัวหน้าที่จะมารับตำแหน่งแทนพิมพ์

"ว่าไง"

"ถ้าหาคนมารับตำแหน่งแทนคุณพิมพ์ไม่ได้ น้ำตาลขอเสนอตัวเองได้ไหมคะ"

"หาได้แล้ว" ถ้ามีน้ำตาลมาอีกคนมีหวังปวดหัวแน่

"แต่น้ำตาลก็เหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้านะคะ พนักงานในนี้เชื่อฟังคำพูดของน้ำตาล" น้ำตาลถือโอกาสนี้อวดอ้างความได้เปรียบ เพราะถ้าได้เป็นหัวหน้ามันคือก้าวสำคัญของการทำงานเลย

"เธอดูแลโต๊ะของลูกค้าเหมือนเดิมดีแล้ว" สถานที่แห่งนี้รองรับลูกค้าได้เยอะนั่นหมายถึงมีหลายโต๊ะมาก ก่อนหน้าที่นเรศวรจะเข้ามาซื้อหุ้นที่นี่สกายได้แบ่งโต๊ะให้พนักงานรับผิดชอบเป็นโต๊ะๆ ไป และคนที่ดูแลเรื่องนี้ก็คือหน้าที่ของน้ำตาล น้ำตาลมีสิทธิ์แค่ดูแลความเรียบร้อยไม่ใช่หัวหน้า

"เสี่ยคะ.." น้ำตาลพูดด้วยท่าทีเสียดายอุตส่าห์รวบรวมความกล้ามาพูดแล้วนะเนี่ยแต่ก็ชวดจนได้

"ว่าไงบ้างพี่น้ำตาล"

"จะว่าไงล่ะ เสี่ยบอกว่าได้คนมาทำตำแหน่งหัวหน้าแล้ว"

"กว่าแม่พิมพ์นั่นจะกระเด็นออกไปได้ยังเจออุปสรรคอีก"

"พวกเธอต้องช่วยฉันแล้วล่ะ ไม่ว่าใครเข้ามาทำงานนี้ก็อย่าให้มันอยู่ได้นาน"

อลิสได้ยินก็รีบเดินไปให้ไกลจากมุมนั้น ที่จริงเธอไม่ได้ตั้งใจแอบฟังหรอกเธอออกมาคุยโทรศัพท์กับพิมพ์ เรื่องที่ทรงอัปสรเสนอชื่อเธอเป็นหัวหน้า แต่ว่าเสี่ยนเรศบอกมีพนักงานจะเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้แล้ว

พิมพ์เลยบอกว่าเดี๋ยวจะหาทางช่วยอลิสอีกทาง

ไม่มีใครหรอกที่อยากย่ำอยู่กับที่ อลิสก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อยากก้าวหน้าในหน้าที่การงานเหมือนกัน แต่เธอคงไม่ใช้วิธีสกปรกเหมือนกับน้ำตาล

"อุ๊ยคุณอัปสร" อลิสรีบเดินออกมาจนไม่ได้ดูทางเกือบชนเข้ากับทรงอัปสร

"มีอะไรหรือเปล่าอลิส ทำไมดูหน้าตาตกใจแบบนี้ล่ะ"

"ขอบคุณคุณอัปสรมากนะคะ"

"ขอบคุณฉันเรื่องอะไร"

"ก็เรื่องที่คุณเสนอชื่ออลิสไงคะ"

"อ้อ.." จริงๆ ทรงอัปสรไม่ได้ตั้งใจเสนอหรอกตอนนั้นแค่อยากเอาชนะเขาเฉยๆ "ไม่เป็นไรหรอกจ้าฉันจะพยายามช่วยแล้วกันนะ"

"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ครั้งนี้อลิสถึงกับยกมือไหว้

"พี่น้ำตาลดูนั่นสิ" คนที่คุยอยู่กับน้ำตาลเมื่อครู่มองไปเห็นอลิสกำลังคุยสนิทสนมกับผู้บริหารอยู่

"คงอยากถีบตัวเองล่ะสิท่า"

"ไม่แน่นะคนที่เสี่ยพูดถึงอาจจะเป็นแม่นี่ก็ได้"

"ไม่มีทางซะหรอก ถ้าฉันไม่ได้มันก็ต้องไม่ได้"

หลังจากที่คุยกับอลิสเสร็จทรงอัปสรก็มานั่งคิดว่าจะช่วยยังไงดี ถึงยังไงก็ได้รับปากไปแล้ว เธอเลยตัดสินใจมาคุยกับเขาดูอีกที

"ฉันขอคุยกับเจ้านายพวกนายหน่อยสิ"

"เจ้านายยังไม่ว่างครับ" คนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูก็คือทันน์แฝดของตุนท์

"ฉันมีธุระจะคุยกับเขา" ทรงอัปสรไม่สนใจแล้วว่าจะว่างไหม เธอเอื้อมมือไปผลักประตูให้เปิดออก

"อุ๊ย" ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนตักของมาเฟียหนุ่มตกใจอยู่ดีๆ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามารีบดันตัวลุกขึ้นก่อนจะจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย

"ผมบอกเธอแล้วครับว่านายไม่ว่าง" ทันท์เห็นสายตาผู้เป็นเจ้านายมองมาก็รีบอธิบายไป

"ออกไป"

"ค่ะ" เด็กที่เขาพามาคลอเคลียด้วยกำลังจะออกไปเพราะคิดว่าคนที่ถูกไล่ก็คือตัวเอง

"ฉันไม่ได้หมายถึงเธอ ฉันหมายถึงผู้หญิงอีกคน" สายตาคมกริบเหลือบมองไปดูผู้หญิงที่เสียมารยาทเปิดประตูเข้ามาเพื่อให้รู้ว่าเขาไล่ใครออกจากห้อง

Related chapters

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 2

    ทรงอัปสรรู้สึกเสียหน้ามากที่ถูกไล่ออกจากห้อง ทันใดนั้นสายตาของเธอก็เหลือบมองไปดูผู้หญิงคนที่เขาเรียกเข้ามาพลอดรัก ทำไมเธอถึงไม่เคยเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้เลย หรือว่าไม่ใช่เด็กในร้าน"เสี่ยขาถ้าเสี่ยมีงานอุ๋งอิ๋งออกไปก่อนก็ได้นะคะ" ที่พูดไปไม่ใช่ว่าอยากจะออกไปจริงๆ หรอก แค่มารยาเล็กๆ น้อยๆ ของผู้หญิง"ไม่ต้องหรอก" สายตาเขายังคงจับจ้องมาที่เธอ ในแววตานั้นบ่งบอกมากว่าเมื่อไรเธอจะไสหัวออกไปสักที"คุณก็เป็นเสียแบบนี้กินไม่เลือกหน้า ถึงแม้ฉันจะไม่ถือสาเรื่องนี้ฉันก็กลัวติดโรคจากเพศสัมพันธ์อยู่นะคะ"คนที่อยู่ในห้องงงกับคำพูดของทรงอัปสรเธอต้องการจะสื่ออะไร"เธอคนนี้กับเสี่ย?" แต่ผู้หญิงดูจะฟังออกว่าอีกฝ่ายกำลังหึงหวง"ได้ยินแล้วก็ออกไปสิ" ดวงตางามคู่นั้นชำเลืองมองไปที่ผู้หญิงเหมือนแสดงความเป็นเจ้าของในตัวผู้ชายคนนั้น"เสี่ยขา" ขณะที่อ้อนมือของอุ๋งอิ๋งก็เอื้อมไปเกาะแขนนเรศวรไว้แน่น"พากลับไปก่อน" เขาหันไปสั่งทันน์ลูกน้องคนสนิทพร้อมกับแกะมือของอุ๋งอิ๋งออก นเรศวรไม่ใช่ประเภทสมภารกินไก่วัด และไม่ชอบผู้หญิงที่ใช้เรือนร่างหากินไปทั่ว แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองอดอยาก เขารับเลี้ยงเด็กเป็นคนคนไป ส่วนมา

    Last Updated : 2025-01-28
  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 3

    "ตัวอ่อนผีเสื้อคืออะไรวะ?""อะไรนะครับนาย" ตุนท์ที่ยืนรออยู่ด้านนอกเห็นว่าทรงอัปสรออกไปแล้วเลยรีบเปิดประตูเข้ามาเผื่อเจ้านายมีเรื่องจะสั่งงาน"มึงรู้จักตัวอ่อนผีเสื้อไหมวะ""ตัวอ่อนผีเสื้อ..หนอนน้อยน่ะหรือครับ""หนอนน้อย?!""มีอะไรครับเจ้านาย.. อย่าบอกนะครับว่า?" ตุนท์พูดพร้อมกับมองต่ำลงไปดูช่วงกลางลำตัวของผู้เป็นเจ้านาย"มึงมองอะไร!""หึหึ" มองแล้วก็อดขำไม่ได้ แค่นี้ตุนท์ก็พอจะเดาได้แล้วว่าใครเป็นคนพูดประโยคนั้น "แต่ผมว่ามันน่ารักดีนะครับ""น่ารักพ่อมึงสิ!" ร้ายกาจนะผู้หญิงคนนี้ กล้าดียังไงมาว่าของฉันเป็นหนอนผีเสื้ออีกห้องหนึ่งในเวลาเดียวกันนั้น.."เป็นไงบ้างคะคุณหนู" ข้าวปุ้นรออยู่ในห้องก็อดเป็นห่วงคุณหนูของเธอไม่ได้"ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องเรียกคุณหนูแล้ว ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กในบ้านแล้วนะ""ก็มันชินปากนี่คะ" ข้าวปุ้นเป็นเด็กทำงานในบ้าน ครอบครัวของทรงอัปสรส่งเรียนจนจบปริญญา ก่อนหน้าข้าวปุ้นก็เข้ามาทำงานช่วยสกายตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เรียนไปด้วยเลยไม่ได้ทำงานเต็มที่ แต่พอทรงอัปสรเข้ามาทำงานที่นี่แบบเต็มตัวเธอเลยมาเป็นผู้ช่วยให้"เราจะช่วยอลิสยังไงดี""ไม่ได้เรื่องหรือคะ""เธอก็รู้อย

    Last Updated : 2025-01-28
  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 4

    "เจ้านายคุณจะมาไม้ไหน แค่คุยกับฉันผ่านโทรศัพท์ก็ได้แล้ว""ผมว่าถ้าคุณไม่มีธุระด่วนมากรอคุยพรุ่งนี้จะดีกว่านะครับ" ภาณุไม่อยากให้ทรงอัปสรเข้าไปเล่นกับไฟกองนี้เลย ใจจริงเขาอยากบอกเธอให้ขายหุ้นแล้วก็ไปใช้ชีวิตให้มีความสุขดีกว่า"เอาที่อยู่คอนโดมา""คุณอัปสรครับ""คิดว่าฉันกลัวหรือไง""กลัวหน่อยก็ดีนะครับ""หึ.. คุณก็คงไม่ต่างจากเจ้านายของคุณหรอก""นี่นามบัตรคอนโดครับ" คงช่วยได้เท่าที่ช่วยนี่แหละ ที่เหลือปล่อยให้โชคชะตาทำงานไปทรงอัปสรรับเอานามบัตรของคอนโดนั้นมาดู เธอก็รู้สึกแปลกใจทำไมคอนโดของเขาถึงเป็นที่เดียวกับคอนโดเธอล่ะ แต่ก็ไม่แปลกหรอกคอนโดนี้หรูหรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันหวังว่าคงจะอยู่คนละชั้นคนละโซนนะ ถ้าไม่ใช้ลิฟต์หรือว่าออกมาพร้อมกันก็คงจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่นั่น เหมือนที่ไม่รู้ว่าเขาอาศัยอยู่คอนโดเดียวกันกับเธอแต่พอดูไปถึงเลขชั้นทรงอัปสรก็รีบมองไปดูเลขห้องในทันที.. มันจะบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ? เพราะห้องอีกฝ่ายอยู่ข้างห้องของเธอนี่เอง และห้องนี้ก็เพิ่งขายออกไปไม่นาน หรือว่าเจ้าของคือเขา? อยากจะบ้าตายหวังว่าเขาคงไม่รู้นะว่าเธอพักอยู่ที่นั่น"มีอะไรหรือคะคุณอัปสร" ข้าวปุ

    Last Updated : 2025-01-28
  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 5

    "คุณคงเจอฝรั่งมาจนชินแล้วล่ะสิ ถึงมาเปรียบของผมเป็นแค่ดักแด้"ไอ้เลวเอ้ยเอาจนได้นะมึง ..หญิงสาวได้แต่กัดฟันไว้กับความคิดสกปรกโสโครกของผู้ชายคนนี้"แต่ผมคิดว่าของผมก็ไม่ได้น้อยหน้าไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวพวกนั้นหรอกนะ""แหวะจะคุยว่าของตัวเองใหญ่ว่างั้น" พูดไปแล้วถึงนึกได้ว่าไม่น่าไปต่อปากต่อคำกับคนแบบนี้เลย แต่ก็ช่างเถอะในเมื่อมันคิดแบบนั้นก็พูดให้มันเข้าใจแบบที่มันคิดไปเลยแล้วกัน "กรี๊ดด คุณจะทำอะไร!" หญิงสาวหันหน้าหนีอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายขยับผ้าเช็ดตัวเหมือนจะถอด"เดี๋ยวหาว่าผมคุย จะให้ดูหน้างานเลยไง""ใครอยากจะดูของคุณล่ะ! บอกลูกน้องคุณเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ""ไม่แน่จริงนี่หว่า""เราเลิกพูดเรื่องไร้สาระดีกว่า วันนี้ที่ฉันมาหาคุณฉันอยากจะคุยเรื่องหัวหน้า" ทรงอัปสรต้องรีบพูดเบี่ยงเบนไปเรื่องอื่นถ้าไม่งั้นก็คงไม่จบ"อยากเจอหน้าผมมากจนต้องเอาเรื่องนี้มาอ้างเพื่อเข้าหาผมเลยเหรอ"นี่ขนาดเราอยากจะจบเรื่องนั้นนะมันยังไม่ยอมจบอีก ไอ้โรคจิตเอ้ย "แล้วแต่คุณจะคิดเถอะ.. ฉันขอคุยเรื่องงานก่อนได้ไหม""ก็ว่ามาสิ" ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าเดินเข้ามาใกล้จนหญิงสาวรีบถอยออกไป แต่เธอก็ถอยไม่ได้ไกลเพราะหลังชนเข้าก

    Last Updated : 2025-01-28
  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 6

    "ถ้าคุณไม่อยากประลองงั้นเรามาจัดนัดกระชับมิตรกันดูไหม""สมองของคุณคงคิดได้แค่เรื่องเดียวนี่สินะ ถ้างั้นวันนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ""แต่ผมคิดว่าสมองของเราก็ไม่ต่างกันหรอก ดูแค่สายตาคุณที่มอง.." ดวงตาคมคู่นั้นมองต่ำลงไปดูอวัยวะส่วนที่เขาภูมิใจมากที่สุดในร่างกาย และเธอก็ดันเผลอมองตามสายตาเขาไปอีกจนได้"มันก็แค่ดักแด้ที่เพิ่งออกจากฝักดูคุณจะภูมิใจจังเลยนะ"หมดกันความภูมิใจของกูดักแด้ที่เพิ่งออกจากฝักงั้นเหรอ! ปากเก่งแบบนี้จัดให้สักดอกดีไหมขี้คร้านจะมาขอร้องกูให้จัดอีกน่ะสิ"ถอยออกไปนะ!" เห็นว่าอีกฝ่ายเดินตรงเข้ามาเธอก็รีบหันไปเคาะประตูห้องเสียงดังเพื่อให้คนด้านนอกเปิด "กรี๊ดดด" ทรงอัปสรสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่สัมผัสกับสะโพกของเธอหญิงสาวหลับตาลงแล้วกลั้นหายใจหันกลับมาก่อนจะยกเข่าขึ้นสูงเพื่อที่จะกำจัดจุดอ่อนของอีกฝ่าย"กรี๊ดด ปล่อยนะ!" แต่ขาของเธอถูกมือหนาจับล็อกไว้ในท่ายก "ไอ้เลวปล่อยฉัน!" เธอสวมใส่กระโปรงเลยทำอะไรไม่สะดวก แถมตอนนี้ขาที่ยกขึ้นมาเมื่อครู่ก็ถูกอีกฝ่ายจับล็อกไว้ในท่าเดิม ส่วนมือที่กำลังปกป้องตัวเองก็ถูกมือหนาอีกข้างจับรวบไว้ด้วยกันทั้งขาและมือถูกพันธนาการไว้จน

    Last Updated : 2025-01-28
  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 7

    "แล้วเรื่องนั้นได้เรื่องไหมคะ""เรื่องอะไร""เรื่องของอลิสไงคะ"ถ้าข้าวปุ้นไม่พูดทรงอัปสรคงลืมไปแล้วเพราะมัวแต่โมโห ..แต่ถ้าพูดพรุ่งนี้เขาจะยอมฟังไหมเล่นงานเขาหนักขนาดนั้น พอคิดถึงเรื่องนั้นก็รู้สึกขยะแขยงอีก ไม่คิดว่าจะต้องมาเสียจูบให้คนที่เธอรังเกียจหลังจากที่เห็นว่าคุณหนูปลอดภัยแล้วข้าวปุ้นเลยขอตัวกลับไปทำงาน และไม่ลืมเน้นย้ำว่าคืนนี้ห้ามออกจากห้อง เวลาจะออกจากห้องต้องดูให้ดีด้วยว่าห้องข้างๆ ออกมาพร้อมกันไหมสายๆ ของวันต่อมา..ตื่นนอนมาสิ่งแรกที่ทำคือเดินไปดูใบหน้าตัวเองในกระจก เห็นริมฝีปากที่ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ทรงอัปสรก็รู้สึกเจ็บใจขึ้นมาอีกครั้งช่วงกลางวันถ้าไม่ได้ออกไปช้อปปิ้งเธอก็จะหาอะไรทานในห้อง เพราะซื้ออาหารสดมาใส่ตู้เย็นไว้ทำทานเองอยู่ต่างประเทศเธอก็ทำแบบนี้ค่ำวันนั้นที่ Nreṣ̄wr Clubทรงอัปสรยืนมองป้ายชื่อที่เพิ่งถูกเปลี่ยนไปเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ถ้ารู้ว่าพี่ชายจะอายุสั้นเธอคงกลับมาอยู่ใกล้ๆ พี่ตั้งแต่เรียนจบแล้ว ถ้าป้ายสถานบันเทิงแห่งนี้กลับมาเป็นชื่อพี่ชายได้อีกครั้งก็คงจะดีในเมื่อทุกอย่างมันเอากลับคืนมาไม่ได้ เธอก็คงต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด สิ่งแรกที่เธอต้องทำคือดันอ

    Last Updated : 2025-01-28
  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 8

    "มองอะไรเหรอจ๊ะแม่อลิส.. อุ๊ยๆ ฉันลืมไปว่าตอนนี้ปีนป่ายขึ้นจนเป็นว่าที่หัวหน้าแล้ว"ที่จริงอลิสก็ไม่ได้อยากมองหรอกพอเดินผ่านเห็นอีกฝ่ายจ้องมาเธอเลยมองกลับ แต่พอถูกหาเรื่องอลิสเลยทำเป็นไม่สนใจ"วัวลืมตีน" ประโยคนี้น้ำตาลพูดออกมาเพียงแค่เบาๆ "อุ้ยสวัสดีค่ะ" พอมองไปอีกทางหนึ่งก็เห็นคนที่ตัวเองอยากทำความรู้จัก เพราะตอนนี้ข่าวหัวหน้าที่มารับตำแหน่งเป็นที่พูดถึงกันมาก แต่ก็ได้ยินมาอีกว่าต้องชิงตำแหน่งกับอลิสให้ได้ก่อนถึงจะได้เป็นหัวหน้าอลิสได้ยินเสียงน้ำตาลทักใครไม่รู้เลยหันกลับไปมอง"คุณใช่หัวหน้าคนใหม่ไหมคะ""ใช่ค่ะ" รินรดาเห็นว่ามีคนทักเลยส่งยิ้มให้พร้อมกับเดินเข้าไปคุยด้วย"ฉันชื่อน้ำตาลค่ะ เป็นคนดูแลโต๊ะทั้งหมดที่นี่""ดูแลโต๊ะเหรอคะ" รินรดาก็แปลกใจมีแบบนี้ด้วยเหรอ เพราะตำแหน่งนี้น่าจะเป็นตำแหน่งของหัวหน้า"ใช่ค่ะก็ไม่แตกต่างจากหัวหน้ามากนักหรอกค่ะ คือเด็กที่นี่เชื่อฟังฉัน เพราะฉันเป็นคนดูแลพวกเขาค่ะ""อ๋อแบบนั้นเองหรือคะ ฉันชื่อรินรดาค่ะฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ""คุณหัวหน้าอย่าพูดแบบนั้นสิคะ ฉันเองต่างหากที่ต้องฝากเนื้อฝากตัว""ฉันยังไม่ได้เป็นหัวหน้าหรอกค่ะแค่ฝึกงาน ไม่แน่ใจว่าจะได้เป

    Last Updated : 2025-01-28
  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 9

    โชคดีนะที่เราไหวตัวทัน เมื่อกี้ลืมดูเลยว่ามีลูกน้องมันตามมาด้วยไหม ถ้าพวกนั้นยืนรออยู่หน้าห้องจะทำยังไง ..ทรงอัปสรลองแง้มประตูดูอีกทีว่าข้างนอกยังมีคนอยู่ไหม แต่พอเห็นว่าไม่มีใครเธอก็รีบเปิดประตูแล้วก็รีบเดินผ่านหน้าห้องนั้นไปอย่างไวไม่ได้การแล้วถ้าอยู่แบบนี้มีหวังมันรู้แน่ว่าเธออยู่ข้างห้อง กลับไปอยู่บ้านดีไหมเรา ..คิดถึงหน้าเมียใหม่ของพ่อก็เสียอารมณ์อีก ต้องไปเจอหน้าผู้หญิงคนนั้น ต่อหน้าพ่อก็พูดกับเราดีอยู่หรอก พอลับหลังพ่อกลัวว่าเราจะไปแย่งมรดกอยู่นั่นแหละหญิงสาวขับรถออกมาก็แวะช้อปปิ้งก่อน เพราะยังเหลือเวลาอีก 2-3 ชั่วโมงเลยผ่านไปชั่วโมงกว่าเธอก็หิ้วของกลับมาที่รถ นี่ขนาดแวะเดินเล่นนะเนี่ยยังหมดไปเป็นแสน อดมองดูของที่เพิ่งซื้อมาไม่ได้ เงินที่ขายหุ้นไปเธอได้เยอะมากใช้ทั้งชาติไม่รู้จะหมดหรือเปล่า ถ้าพี่ชายมีครอบครัวก็คงจะดีเธอจะได้ไม่ต้องมารับภาระใช้สมบัติของพี่อยู่แบบนี้ ..คิดบ้าอะไรของเราเนี่ย คนอื่นปากกัดตีนถีบเพื่อหาเงินใช้แต่เรากลับมีเงินใช้แบบฟลุ๊คๆ จากการตายของพี่ เงินที่ได้มาไม่ได้มีแค่การขายหุ้นหรอก ยังรวมถึงประกันชีวิตที่พี่ชายทำไว้ให้เป็นชื่อเธอด้วยพอคิดแล้วก็อดน้ำตาไห

    Last Updated : 2025-01-28

Latest chapter

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 97 ตอนจบ

    ขุนราม [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 97 ตอนจบเธอไม่รู้หรอกว่าท่านให้มาบริษัททำไม แต่รินรดาก็แต่งตัวเรียบร้อยให้ดูเป็นหน้าเป็นตาของสามีตอนที่เขาพาเธอเดินเข้ามาพนักงานต่างก็ทำความเคารพกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา"เข้ามาด้วยกันสิคะ" หญิงสาวเห็นว่าพนักงานยืนรอลิฟต์กันหลายคน พอเธอกับสามีเดินเข้ามาพนักงานก็ไม่กล้าเข้ามาด้วย"เอ่อ..""เข้ามาสิ" จริงๆ ตอนที่เขาใช้ลิฟต์ไม่มีใครกล้าใช้ด้วย แต่พอท่านรองประธานอนุญาตให้เข้าพนักงานก็เข้าไปแต่ก็เข้าไม่กี่คนรินรดาขยับให้พนักงานยืนกันจนหลังเธอพิงเข้ากับร่างของขุนราม เขาเลยเอื้อมมือมาโอบเอวเธอไว้ พนักงานไม่ได้หันไปมองหรอกแต่มองผ่านผนังของลิฟต์ที่เป็นกระจก เห็นภาพนั้นแล้วต่างก็อมยิ้มไปตามๆ กันจนลิฟต์มาเปิดที่ชั้นผู้บริหาร ส่วนพนักงานออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว"ไปห้องทำงานผมก่อน" เขาคิดว่าห้องประชุมคงยังไม่เรียบร้อย ค่อยพาเธอไปทีหลังแล้วกันแต่พอเข้ามาในห้องทำงานไม่นานเลขาก็มาตามให้เข้าห้องประชุมห้องประชุมใหญ่ของบริษัทณโยดม.."มานั่งนี่สิ" รัตติกาลที่นั่งตำแหน่งประธานบริษัทแทนสามีที่เสียไป เรียกให้ลูกชายมานั่งประจำที่ของนาง"ครับ?" ทุกครั้งที่เขาจะนั่งตรงนั้นก็ตอนท

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 96

    คืนนั้นที่บ้านณโยดม..ก๊อกๆ "ที่รักครับ เปิดประตูให้ผัวหน่อย""คุณไปนอนห้องอื่นเลยค่ะฉันจะนอนกับลูก""คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ" ชายหนุ่มไม่ได้พูดเสียงดังเพราะกลัวแม่จะได้ยินว่าเธอไม่ให้เขาเข้าห้องด้วย"ถ้าคุณยังพูดอยู่แบบนี้เดี๋ยวลูกก็ตื่น" ขุนเขาเข้ามารอแม่ตั้งแต่เล่นกับคุณย่าเสร็จแล้ว จนตอนนี้แกนอนหลับรออยู่ในห้อง พี่เลี้ยงที่ดูแลก็ออกไปตอนที่เห็นคุณผู้หญิงกลับมา พอเข้ามาในห้องเธอก็จัดการล็อกห้องไม่ให้เขาตามเข้ามาได้"ไหนเราเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไง เปิดประตูให้ผมหน่อยนะ""รู้เรื่องแค่คุณน่ะสิคะ จำไว้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก" ตอนที่รู้ว่าพี่ชายเปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นยาบำรุงให้กับทรงอัปสรเธอก็รู้สึกโมโหมากพออยู่แล้ว พอมาเจอกับตัวยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวเขามากมายแต่เธอต้องดัดนิสัยเขาบ้าง จะได้ไม่มีความคิดแผลงๆ แบบนี้อีก"คุณเมียครับ พรุ่งนี้ผัวต้องไปทำงาน""ก็ไปนอนห้องอื่นสิคะ" ในใจก็แอบรู้สึกสงสาร เพราะเขาต้องรับผิดชอบบริษัทที่ใหญ่โต ผ่านไปสักพักรินรดาก็รู้สึกว่าด้านนอกเงียบไปแล้ว เธอเลยเดินมาเปิดประตูดู "อุ้ยคุณ"เธอประเมินความอดทนของเขาต่ำไป เขารู้ว่าถ้าเงียบเธอต้องม

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 95

    "ดูเหมือนคุณจะตกใจจังเลยนะคะ มีอะไรหรือเปล่า""ปะเปล่าา ผมจะมีอะไรล่ะก็นั่นน้องสาวผม""ไม่มีอะไรแน่นะคะ" เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าแผนการ แถมสายตาที่มองเพื่อนดูมีพิรุธมันต้องมีอะไรแน่"อีกสามวันก็เป็นวันเกิดหุ้นส่วนอีกคนแล้ว" นเรศวรรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะถ้าไม่งั้นเขาคงถูกจับได้แน่ว่ามีส่วนร่วมแต่มีหรือที่ทรงอัปสรจะปล่อยไป เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ฉับพลันนั้นทรงอัปสรก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เพราะเธอยังไม่ได้จัดกระเป๋าใหม่ แสดงว่าเจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ในกระเป๋า"อยู่ไหนนะ""คุณอัปสรหาอะไรเหรอคะ""ลิปสติกน่ะสิคะว่าจะเติมสักหน่อย" เธอแสร้งทำเป็นค้นหาของในกระเป๋าแต่ระหว่างนั้นคนในห้องก็คุยเรื่องวันเกิดของหุ้นส่วนอีกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องอื่น"ปีนี้มันจะจัดวันเกิดเหรอ" พวกเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิดมากนักนอกจากครอบครัวจะเป็นคนจัดให้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีครอบครัวก็ชวนเพื่อนมาดื่มกินที่บ้านหรือไม่ก็นัดกันที่ร้านอาหาร"มันบอกว่าจะมาสังสรรค์กันที่นี่แหละ""จะปิดร้านเลี้ยงวันเกิดเหรอ""ไม่ได้ปิดแต่มันบอกว่าถ้าลูกค้าคนไหนมาใช้บริการคืนนั้นมันจะเป็นคนเลี้ยงเอง""ไอเดียเจ๋งนี่""

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทท่ 94

    "ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวตามเขาขึ้นมาข้างบน แต่ยังไม่ถึงห้องทำงานเลยด้วยซ้ำเธอก็อดถามเรื่องนี้ไม่ได้"สวัสดีค่ะท่านรอง" แต่ก่อนที่เขาจะตอบเธอก็ได้ยินเสียงนี้ก่อน"?" ทั้งสองที่เดินตามกันมาหยุดแล้วก็มองคนที่กล่าวสวัสดีเมื่อครู่ ก่อนที่ขุนรามจะหันไปมองดูสายตารินรดา "คุณเป็นใคร""ชะเอมเป็นเลขาคนใหม่ที่มาแทนคุณเอวาค่ะ""เธอไปทำงานแผนกอื่น เปลี่ยนเลขาคนใหม่มา""แต่ชะเอมสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้วนะคะ""ตกลงใครเป็นเจ้าของบริษัท""เอ่อ.."เขาไม่รอฟังคำอธิบายก็พาเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อน"คุณยังไม่บอกฉันเลย""ผมไม่ได้หาเลขาเองเลยไม่รู้ว่าเขาส่งใครมา""ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้""อ้าวแล้วคุณหมายถึงอะไรล่ะ""เรื่องที่คุณบอกว่าเลขาคนเก่าอยู่โรงพักไงคะ""ไม่ใช่แค่เลขาคนเก่าหรอกที่อยู่โรงพัก ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นตอนนี้อยู่โรงพักทั้งหมด""อะไรนะคะ คุณส่งพวกนั้นให้กับตำรวจเหรอคะ""ข้อหาพยายามฆ่า""พยายามฆ่า?""ใช่ ผมแจ้งความจับทั้งหมดเลย ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณได้อีก""อย่าบอกนะคะว่าที่คุณรับสมัครพนักงานใหม่?""อืม" ชายหนุ่มตอบเธอไปโดยการเปล่งเสียงออกมาจากลำคอเบาๆ สายตามองดูผู้หญิ

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 93

    "อื้อ" สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่ตวัดเลียวนอยู่กึ่งกลางร่อง "อ่ะอ่ะอ่ะมะไม่ไหวแล้วค่ะ"ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางมันก็ยิ่งทำให้เขาเร่งความเร็วที่กำลังทำอยู่ เพราะเขาต้องการเห็นเธอเสร็จก่อนโดยที่ยังไม่สอดใส่และเขาก็ทำได้สำเร็จ ชายหนุ่มค่อยๆ ชักนิ้วออกมาก่อนจะขยี้นิ้วให้เธอเห็นว่าเขาเก่งไหมที่ทำให้เธอหลั่งได้โดยที่ยังไม่เจอไม้เด็ด"ทำบ้าอะไรของคุณ""แต่ก่อนชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""ยังจำได้อยู่เหรอ นึกว่าจำแต่เรื่องผู้หญิงคนอื่นได้""ผู้หญิงคนอื่นที่ไหนไม่มีหรอก" ขณะที่เอ่ยร่างหนาก็ขยับขึ้นมา ก่อนจะคว้ามือเล็กมาโอบอุ้มความแข็งแกร่งเพื่อให้เธอวัดขนาด และในเวลาเดียวกันเขาก็จับมือเธอรูดชักขึ้นและลง"พูดเหมือนฉันจะเชื่อ"ใบหน้าหล่อคมเผลอเผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็รีบซ่อนอาการนั้นไว้"ปล่อยนะ!" ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคงไม่เก็บร่างกายตัวเองไว้ใช้แค่กับเธอ แต่ก็อยากได้ยินเขาพูดอะไรออกมาบ้าง แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก"จะจบเกมคนเดียวได้ยังไง แบบนี้ผมก็เคว้งคว้างน่ะสิ""คุณก็ไปปล่อยกับผู้หญิงพวกนั้นสิ""หึงผัวเหรอ""อึบ!" รินรดากัดฟันใช้แรงที่อุ้งมือ"ซี๊ดดดอ๊อยย ถ้ามันขาดจะมีใช้ไหม" ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง"ไม่มีก็ไม่ใ

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 92

    "ถึงแบบนั้นก็เถอะค่ะ ข้อหาพยายามฆ่ามันไม่รุนแรงเกินไปเหรอคะ" เอวาก็เป็นลูกของผู้มีฐานะท่านหนึ่ง ไม่ยอมเจอข้อหาอะไรแบบนี้ง่ายๆ อยู่แล้ว"รุนแรงเกินไป? เธอจะให้ฉันรอจนเมียกับลูกฉันเป็นอะไรไปงั้นเหรอ" ชายหนุ่มหันหน้ามาประชันกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นค่าเลย"แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมรับข้อหานี้" ในขณะที่พูดใบหน้าเอวาก็เชิดขึ้นแบบหยิ่งผยอง"แสดงว่าเธอยอมรับแล้วว่าเป็นตัวบงการ คุณตำรวจได้ยินหรือยังครับ""เชิญคุณเอวาไปที่โรงพักด้วยครับ""ฉันยอมรับตอนไหน! คุณแม่คะช่วยเอวาด้วยค่ะ" เอวาที่ถูกตำรวจพาออกไปตะโกนเข้ามาขอให้แม่ของเขาช่วย "ถึงยังไงเอวาก็ไม่ยอมถูกจับ""และก็เชิญพนักงานทุกท่านขึ้นรถด้วยนะครับ" ตำรวจหันมาบอกพนักงานที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด และรถที่ตำรวจเตรียมมาก็คันใหญ่พอที่จะขนคนพวกนี้ไปได้"พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ เราไม่ได้แตะตัวภรรยาของท่านรองเลยค่ะ" ในคลิปกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นว่าคนพวกนี้ทำอะไร แค่มีแต่คำพูดที่วิพากษ์วิจารณ์"นั่นแหละมันคือข้อหาของพวกเธอ เห็นคนถูกทำร้ายร่างกายทำไมไม่ช่วย แถมยังยืนพูดให้ร้าย" เขาไม่คิดจะปล่อยใครไปง่ายๆ แน่ ยิ่งคนยืนมุงนี่แหละสำคัญเล

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 91

    "ถ้างั้นเอวาขอลงไปรอข้างล่างก่อนนะคะคุณแม่" เอวาคิดว่าลงไปรอข้างล่างดีกว่า ถ้าขุนรามเห็นคงไม่ให้เธอไปด้วยแน่ หรือไม่เขาอาจจะไม่ออกไปเลย"ดีเหมือนกันถ้างั้นหนูไปรออยู่ที่รถนะ" ถึงยังไงเอวาก็เป็นบุตรสาวของเพื่อนรัก ถ้าทั้งสองไม่มีบุญวาสนาต่อกันจริงๆ ยังทิ้งความเป็นเพื่อนไว้อยู่เอวาลงมาข้างล่างก็เห็นว่าพนักงานกำลังยืนมุงอะไรกันอยู่"มีอะไรกัน" เธอเลยรีบเดินตรงไปดู นี่มันยังไม่ไปอีกเหรอ? ออกมาก็เห็นว่าคนที่ถูกมุงอยู่ก็คือรินรดา"คุณเอวามาโน่นแล้ว" พนักงานที่ยืนมองดูกันอยู่ต่างก็ขยับออกให้เอวาเดินเข้ามา"ดูมันสิคะ ยังหน้าด้านหน้าทน""เธอนี่ทนทายาทจริงๆ เลยนะ ใครก็ได้รีบลากตัวมันออกไป" จะปล่อยให้รินรดาอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเดี๋ยวอีกหน่อยขุนรามก็จะลงมา"ปล่อยฉันนะ" พอได้รับคำสั่งรปภ.ที่อยู่ตรงนั้นก็รีบมาลากตัวรินรดาออกไป ส่วนเธอไม่ยอมให้พวกนั้นถูกเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ เลยมีการดิ้นรน"แล้วจะมายืนมุงอะไรนักหนาไม่ไปกินข้าวกันหรือไง" เอวาหันไปตะคอกพนักงานที่ยืนมุงกันอยู่"พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้!" เพราะเธอดิ้นรนจนทำให้เสื้อที่ใส่อยู่ถูกกระชากจนขาดหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นผู้ชา

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 90

    "ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไรมาก" หลังจากตรวจอาการดูแล้วคุณหมอก็ให้แค่ยาทาแก้ฟกช้ำภายนอก"ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว""คุณจะไปไหน" เขาไม่ได้ขับรถกลับทางเดิมเธอเลยสงสัย"กลับบ้านเรา""กลับบ้าน?" รินรดามองดูทางที่เขาขับไปอีกรอบ ทางนี้ก็ไม่ได้กลับบ้านเธอนี่ "คุณจะพาฉันไปบ้านหลังไหน"[คฤหาสน์ณโยดม]"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม""ลูกอยู่ที่นี่แล้ว""ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่""ผมจะไม่ยอมให้คุณกลับไปทำงานที่เสี่ยงอันตรายแบบนั้นอีก""มันก็ไม่ได้เสี่ยงขนาดนั้น""กี่ครั้งแล้วที่ผมเห็นคุณตกอยู่ในอันตราย แล้วไอ้ที่ผมไม่เห็นล่ะกี่ครั้ง""ฉันจะพยายามดูแลตัวเอง""คุณไม่ต้องพยายามเดี๋ยวผมจะดูแลคุณเอง""คุณก็รู้ว่าฉันกับแม่คุณไม่ค่อย..""ท่านยอมไปตามถึงที่บ้าน คุณไม่รู้เลยหรือไงว่าท่านยอมเราสองคนแล้ว"พอเขาลงจากรถเธอก็ไม่ยอมตามลงไป จนขุนรามเดินมาเปิดประตูรถให้ เธอยังคงนั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่"สงสัยอยากจะให้ผมอุ้ม""อุ๊ยคุณจะทำอะไร ปล่อยฉันลงนะ""อย่าดิ้นเดี๋ยวก็หลุดมือ""ฉันเดินเองได้""อุ้ยคุณผู้ชาย" แม่บ้านได้ยินเสียงรถเลยมาเปิดประตูให้ พอประตูเปิดออกก็เห็นว่าคุณผู้ชายกำลังอุ้มภรรยาอยู่"ปล่อยฉันลงได้หรือยัง" หลังจากที่

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 89

    "แม่มาทำไมครับ""แกทำไมถามแม่แบบนี้""แม่อย่ามาก่อเรื่องที่นี่ดีกว่าครับ""แกอย่าลืมนะว่าฉันมีลูกแค่คนเดียว และแกก็มีแม่แค่คนเดียวด้วย"รินรดาที่เดินตามหลังเขามายกมือไหว้ท่านแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร และกำลังจะเข้าไปในบ้าน"ฉันอยากคุยอะไรกับแกและก็เมียแกหน่อย"ขุนรามหันมองไปดูเธอที่เดินเข้าไปในบ้านแต่พอได้ยินแม่เขาพูดแบบนั้นเธอก็หยุดแล้วหันกลับมา"แม่จะคุยอะไรครับ""คุยเรื่องของแกนี่แหละ บริษัทก็ไม่รู้จักเข้า ฉันแก่มากแล้วแกจะให้ฉันทำงานไปถึงไหน" หลายวันแล้วที่ลูกชายไม่เข้าบริษัท และนางก็ต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด"แล้วแม่ทำตามที่ผมขอหรือยังล่ะครับ""ฉันถึงจะมาคุยกับแกอยู่นี่ไง""ถ้างั้นแม่ก็เข้ามาในบ้านก่อนสิครับ" ตอนที่ชวนแม่เข้าบ้านเขาไม่ลืมที่จะมองไปดูหน้าเธอก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร"นี่ห้องรับแขกเหรอ แล้วทำไมไม่ติดแอร์สักตัว""แม่ครับ" ขุนรามตำหนิแม่"จะไม่ให้ฉันพูดอะไรเลยหรือไง ร้อนๆ แบบนี้หลานฉันอยู่ยังไง""ผมอยู่ในห้องกับแม่ครับ" ขุนเขาเป็นคนตอบคุณย่าเอง ช่วงนี้อากาศร้อนมาก อุณหภูมิถึง 40 องศาเลยแหละ"แม่จะพูดอะไรก็รีบพูดมาสิครับ""ฉันจะมาบอกให้แกกลับไปทำงานที่บริษัท เรื่องนั้นเดี๋ยว

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status