“เล่นน้ำๆ” สองเสียงเล็กๆประสานกันดังลั่น พร้อมกับกระโดดโลดเต้นชูมือขึ้นสูง พีรพลถอนหายใจมองสบตาภรรยา
“เดี๋ยวหนุงหนิงจะขึ้นไปเอาชุดว่ายน้ำให้ พีพาลูกๆไปที่ศาลาริมน้ำก่อนเลย” พีรพลพยักหน้ารับ แขนล่ำอุ้มลูกสาวข้างหนึ่ง อีกข้างจูงมือลูกชายเดินนำหน้าเมธาวีไปก่อน
“รีบๆตามมานะหนุงหนิง” เมธาวีเลิกคิ้วเมื่อพูดจบ แล้วก็สะบัดหน้าเดินนวยนาดตามพีรพลและเด็กๆไป นิชาส่ายหน้ายิ้มๆ
“คุณแม่ไม่เล่นน้ำด้วยกันหรือคะ” เด็กหญิงตัวเล็กขี่หลังพ่อลอยไปลอยมาอย่างสนุกสนาน ส่วนพี่ชายของเธอมีห่วงยางสวมไว้ที่เอวลอยคออยู่ใกล้ๆผู้เป็นพ่อ
“ถ้าแม่เล่นน้ำด้วย ใครจะคอยหาขนมหาน้ำยื่นให้แพทล่ะ” เด็กหญิงตัวเล็กพยักหน้าหงึกๆเข้าใจ แล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุย
“ป้าเมว่ายน้ำเก่งจังนะคะ ว่ายไปตั้งไกล ป้าเมใส่ชุดว่ายน้ำซ้วยสวยเนอะคุณพ่อ”
พีรพลไม่ตอบคำถามลูกทันที เขาหันไปสบตาคนที่นั่งอยู่บนศาลาริมน้ำ นิชามองเมินไปทางอื่น
“คุณแม่ก็ใส่ชุดว่ายน้ำสวยนะครับ สวยกว่าป้าเมอีกนะ” พีรพลทำเป็นกระซิบกระซาบกับลูกสาว แต่เสียงดังจนคนที่นั่งอยู่บนศาลาริมน้ำได้ยินชัดเจน
“ช่วยด้วย
“โอเคค่ะ...ทีนี้กลับได้แล้วใช่ไหม” พิมพ์รพีพรหันหน้าไปถามคนตัวโตที่นั่งอยู่บนเตียงกว้างกลางห้อง ปลัดเมฆาใช้มือใหญ่ตบที่เตียงเบาๆ“พิมพ์ยังไม่ลองเตียงเลย” เขาจงใจยั่วคนตัวเล็ก ที่ออกอาการเกร็งจนจับได้“ก็เห็นแล้ว ออกไปข้างนอกเถอะ” พิมพ์รพีพรเลี่ยงที่จะเดินเข้าใกล้คนตัวโต หญิงสาวเดินอ้อมไปทางประตู“ดูอย่างเดียวได้ไง มันต้องมาลองนั่งๆนอนๆด้วย มานี่เลย” ปลัดเมฆาลุกจากเตียงก้าวยาวประชิดตัวพิมพ์รพีพร แล้วรวบร่างบางไปล้มตัวนอนที่เตียงกว้างด้วยกัน“ว้าย! พี่เมฆ ปล่อยพิมพ์นะ” คนเอะอะโวยวายสู้แรงคนกอดไม่ได้ เลยได้แต่เอะอะโวยวายถีบลมถีบฟ้า ร่างใหญ่กดทาบทับจนพิมพ์รพีพรแทบจมหายไปบนที่นอน เสียงหอบหายใจของเธอทำให้ปลัดเมฆาหัวเราะ ก่อนทุกอย่างภายในห้องจะนิ่งเงียบ คนที่ทาบทับร่างบางไว้สบสายตาคนถูกทับด้วยแววตาอ่อนโยน มือใหญ่ปัดปรอยผมที่ระอยู่บนใบหน้าเนียนรูปไข่ พิมพ์รพีพรมองสบตาปลัดเมฆาและเผยอปากเล็กน้อยอย่างลืมตัว ก่อนจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้ก่อน“ลุกสิพี่เมฆ พิมพ์ทดสอบทุกอย่างตามที่พี่เมฆต้องการแล้ว พอใจหรือยัง”“ยังไม่ทุกอย่าง” แววตากรุ้มกริ่มไม่น่าไว้วางใ
“พี่ร้อนจัง” ปลัดเมฆานอนอยู่บนเตียง และกำลังออดอ้อนพยาบาลจำเป็นที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่เก้าอี้มุมห้อง เขาอ้างว่าเจ็บแผลและแผลอาจจะกระทบกระเทือน จึงขับรถไปส่งเธอที่บ้านไม่ได้ ส่วนกำนันเสือและแม่นภาก็ยังไม่กลับมาจากข้างนอก พิมพ์รพีพรจึงรู้สึกไม่ปลอดภัยที่ต้องอยู่กับเขาสองต่อสอง“ร้อนก็ไปอาบน้ำสิ” พิมพ์รพีพรพูดโดยไม่มองหน้าชายหนุ่ม“จะให้ไปอาบได้ยังไง แผลก็เน่าพอดี พิมพ์อาบให้หน่อยสิ”“บ้า...ลุกไปอาบเองเลย”“คนใจร้าย ทำให้เขาเจ็บแล้ว ไม่คิดจะดูแล” ปลัดเมฆาพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ตาก็เหล่มองคนใจร้ายอย่างมีความหวัง พิมพ์รพีพรถอนหายใจเฮือกใหญ่ หญิงสาวลุกขึ้นเดินมาที่เตียงกว้าง“จะอาบก็ลุกสิคะ”“ลุกไม่ไหว เจ็บแผล พิมพ์ช่วยพยุงพี่หน่อย” คนถูกขอร้องทำสีหน้ายุ่งยาก แต่ก็ยอมช่วยแต่โดยดี เพราะในใจก็รู้สึกผิดอยู่ลึกๆที่ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพนี้เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องน้ำ พิมพ์รพีพรหันรีหันขวาง เธอไม่รู้ว่าจะช่วยเขายังไงดี“อาบยังไงล่ะ” หน้างอง้ำทำให้ปลัดเมฆานึกสนุก คือที่จริงแผลก็ไม่ได้ลึกหนักหนาอะไร แล้วเขาก็ไม่ได้ปวดแผลส
พิมพ์รพีพรกลั้นหายใจก้มลงช้าๆ ทำใจกับสิ่งที่จะได้เห็น ใบหน้าที่เหมือนกับจะร้องไห้ทำให้ปลัดเมฆารู้สึกสงสาร“พี่อาบด้านหน้าเองก็ได้ พิมพ์ถูสบู่ข้างหลังให้พี่หน่อยนะ” พิมพ์รพีพรถอนหายใจเฮือกใหญ่ ส่งฝักบัวในมือให้เขาแล้วอ้อมไปด้านหลังทันทีกว่าจะจัดการคนตัวโตให้อาบน้ำเช็ดตัวเสร็จ แล้วพันผ้าเช็ดตัวไว้ที่เอวสอบได้สำเร็จ พิมพ์รพีพรแทบจะเป็นลมร้อยรอบ หัวใจดวงน้อยกระเด็นกระดอนตีลังกาอยู่หลายตลบ เพราะต้องพยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะไม่ต้องเห็นอะไรที่เคยเห็นมาแล้ว ว่ามันอลังการงานสร้างขนาดไหน แต่คนขี้แกล้งก็เรียกร้องให้ทำโน่นทำนี่ที่น่าหวาดเสียวทั้งนั้น“ใส่เสื้อผ้าให้หน่อยสิ” ปลัดเมฆาพูดจบก็ยิ้มกว้าง ยื่นเสื้อผ้าในมือให้หญิงสาว พิมพ์รพีพรอยากจะกรี๊ดเสียงดังๆ แต่ก็ทำได้เพียงยื่นมือออกไปรับมา“หันหลังเลยค่ะ” หญิงสาวสั่งเสียงเข้ม“ครับผม” ปลัดเมฆารับคำด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอืม...มีคนคอยทำอะไรให้ มันดีอย่างนี้นี่เอง “เสร็จแล้วค่ะ ไปนอนได้แล้ว” ปลัดเมฆาหันหน้ากลับมามองคนตัวเล็ก“พิมพ์ก็ไปอาบน้ำเถอะ กว่าพ่อกับแม่จะกลับมาคงดึก พี่ไม่อยากให
พีรพลผละจากร่างของภรรยาเดินไปปิดไฟ ทั้งห้องมืดมิดลงทันที ก่อนที่ชายหนุ่มจะเข้าประชิดตัวนิชาอีกครั้ง“ทำอะไรน่ะพี เดี๋ยวลูกตื่น” นิชาเอ็ดสามีเบาๆ แต่ร่างกายของเธอมันกลับตอบสนองทุกสัมผัสของเขา จุดกึ่งกลางกายปวดหน่วงหนึบๆ และเริ่มชื้นแฉะเพื่อเตรียมพร้อมรอบางอย่าง โดยที่เจ้าของควบคุมไม่ได้“ลูกเล่นน้ำตั้งนานเพลียหลับไปแล้วล่ะ ไม่ตื่นง่ายๆหรอก นะๆ”พีรพลรวบร่างของภรรยาพาไปที่เก้าอี้ข้างตู้ใบใหญ่ ซึ่งเป็นมุมมืดที่สุดของห้อง เขานั่งลงบนเก้าอี้ จัดวางให้นิชานั่งแยกขาคร่อมอยู่บนตักตัวเอง และก่อนที่คำทักท้วงจะออกจากปากของภรรยา เขาจัดการปิดริมฝีปากนั้นทันที นิชาถอนหายใจยาวหนักหน่วง ยอมเผยอริมฝีปาก ยอมรับการรุกรานของสามีอย่างเต็มใจ“พีว่าหนุงหนิงต้องเป็นแม่มดแน่ๆ ทำให้พีหลงหัวปักหัวปำ” พีรพลเอ่ยขึ้นเมื่อผละจากริมฝีปากภรรยา แล้วพรมจูบไปทั่วดวงหน้าเนียน“อย่ามาว่าหนุงหนิงเลย พีนั่นแหละจอมหื่น” นิชาพูดเบาๆด้วยเสียงที่สั่นพร่า พีรพลหัวเราะในลำคอ มือใหญ่เคลื่อนลงต่ำผ่านหน้าท้องภรรยา แล้วใช้นิ้วเกี่ยวซับในลายลูกไม้ที่ปกปิดเนินอวบอูมไปกองไว้ด้านข้าง นิ้วใหญ่ขยับสำรวจ
“เอาไว้บอกคืนเข้าหอ คืนนี้ง่วง เจ็บแผล หนาว นอนกันเถอะ” ปลัดเมฆาตวัดผ้าห่มคลุมร่างของตนเองและพิมพ์รพีพร กระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น“จะกอดอะไรนักหนา อึดอัด ปล่อยนะ” คนอยากรู้ความลับแต่ไม่ได้รู้เริ่มประท้วง“หนาวเนื้อห่มเนื้อจึงหายหนาว อย่าดิ้นน่า พี่เจ็บแผล” พิมพ์รพีพรถอนหายใจ“เอาเปรียบตลอด” เสียงบ่นกระปอดกระแปด แต่ไม่กล้าออกแรงดิ้นแรงเพราะกลัวคนที่กอดตัวเองอยู่จะเจ็บแผล“อยากให้พิมพ์เอาเปรียบพี่บ้าง พี่จะไม่โวยวายเหมือนพิมพ์หรอก” พิมพ์รพีพรหยิกแผงอกกว้างแรงๆ“โอ๊ย!”“อย่าบอกนะว่าเจ็บแผล มันคนละที่ ไม่ต้องมาอ้าง”“ใจร้าย...รู้ไหมว่ายังมีอีกหลายที่ ที่ไม่ได้เจ็บเหมือนกัน” ปลัดเมฆาพูดด้วยน้ำเสียงไม่น่าไว้ใจ พิมพ์รพีพรเงยหน้าขึ้นจากอกกว้าง พยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอดแกร่ง ด้วยการใช้มือเล็กผลักอกเขา แต่ไม่ส่งผลอันใดกับคนตัวโตสักนิด ความอดกลั้นอย่างยิ่งยวดที่จะไม่แตะต้องไปมากกว่ากอด กำลังจะขาดสะบั้นลง เมื่อร่างนุ่มนิ่มดิ้นขลุกขลักเสียดสีไปกับร่างแกร่ง ส่งผลให้อะไรๆในร่างกายมันลุกฮือขึ้นมา“ไม่อยากรู้ อย่าทำอะไรบ้าๆนะ” เสียงหวานออกจะตื่นกลั
“พี่เมฆ อา” นั่นเสียงตัวเธอเองใช่ไหม พิมพ์รพีพรรู้สึกว่าเป็นเสียงที่ดังมาจากที่ไกลแสนไกล การรับรู้ของร่างกายเธอจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ปลัดเมฆากำลังทำอยู่ ไม่มีคำปฏิเสธหรือต่อต้านใดๆเล็ดลอดออกมา ร่างกายของเธอแอ่นรับท้าทายสัมผัสวาบหวาม ที่เขากำลังจับจูงไปไกลแสนไกล บนเส้นทางที่เธอไม่คุ้นเคยเท่าไรนัก ถึงแม้จะเคยรับรู้รสความสุขสมแสนหวานมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้พิมพ์รพีพรกลับรู้สึกว่ามันลึกล้ำ ความปรารถนาดำดิ่งจนเธอไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดลงตรงไหนเมื่อไรปลัดเมฆาขบกรามแน่น เมื่อต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่ถลำลึกรุนแรง เพราะรับรู้ได้ว่าคนใต้ร่างไม่เคยลงสนามจริงสักครั้ง ที่ผ่านมาเขาพาอุ่นเครื่องบ้างแต่ไม่เคยก้าวล่วงลงลึก แต่ครั้งนี้ขีดจำกัดของความอดทนสิ้นสุดลง เพราะความใกล้ชิด และความรู้สึกดีที่ก่อตัวขึ้นมาในใจ ทำให้เขาไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองได้อีกต่อไป“พี่ขอนะ...ให้พี่นะครับ” คำขอที่ดังชิดริมหู พิมพ์รพีพรไม่รู้ตัวว่าพยักหน้าตอบรับไปด้วยซ้ำ ปลัดเมฆาค่อยแทรกความแข็งแกร่งเข้าสู่ความคับแน่นรุ่มร้อน ปากเคยบอกให้คนใต้ร่างอย่าเกร็ง แต่ตอนนี้เป็นเขาเองที่ต้องเกร็งร่าง บังคับตัวเ
“พี่จะรับผิดชอบพิมพ์ไปตลอดชีวิต” น้ำเสียงหนักแน่นทำให้คนได้ฟังหัวใจพองโต แต่เพราะแค่ความรับผิดชอบเท่านั้นหรือ หัวใจที่พองโตค่อยๆแฟบลง เมื่อคิดได้ว่าเขาจะจดทะเบียนสมรสกับเธอเพียงเพราะคำว่ารับผิดชอบ“ถ้าพี่เมฆจะมารับผิดชอบพิมพ์เพราะเรื่องแค่นี้ ไม่จำเป็นค่ะ เดี๋ยวนี้ใครๆเขาก็ไม่ถือกันแล้วล่ะค่ะ”“ถ้าไม่ถือกันแล้ว ทำไมพิมพ์ถึงยังบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจนถึงมือพี่”“พี่เมฆ!” พิมพ์รพีพรขึ้นเสียงสูง และหอบหายใจแรงเพราะความโกรธหรือความอายก็ยังไม่แน่ใจตัวเองเท่าไรนัก“สงสัยต้องย้ำอีกครั้ง พิมพ์จะได้เลิกงอแง” ปลัดเมฆาโน้มใบหน้าลงต่ำ พิมพ์รพีพรใช้มือยันคางสากไว้“อย่านะ” เสียงหวานสั่นเล็กน้อย“พรุ่งนี้ไปจดทะเบียนสมรสกันนะ โอเคไหม” พิมพ์รพีพรเม้มปากแน่นก่อนจะยอมรับในสิ่งที่เขาต้องการ“ค่ะ...พอใจหรือยังคะ ลงไปจากตัวพิมพ์ได้แล้ว” พิมพ์รพีพรพยายามผลักอกกว้างออกด้วยแรงทั้งหมดที่มี“ว่าง่ายๆ อย่างนี้ต้องให้รางวัล”ปลัดเมฆาประกบปากลงจูบเรียกร้องเอาแต่ใจอีกครั้ง มือใหญ่รุกรานไปตามร่างนุ่มนิ่ม ท่อนขาแกร่งแทรกลงแยกขาเรียวให้ห่างออกจากกัน พิมพ์รพ
ขบวนขันหมากหยุดที่บันไดบ้าน เด็กชายกับเด็กหญิงตัวน้อยจับเข็มขัดทองคนละข้าง กั้นขวางทางไม่ให้เจ้าบ่าวเข้าไปเจอเจ้าสาวง่ายๆ“ขออาปลัดขึ้นไปหาเจ้าสาวหน่อยนะครับ” ปลัดเมฆาในชุดเจ้าบ่าวเข้าชุดกันกับเจ้าชุดเจ้าสาว เอ่ยถามอย่างยิ้มแย้ม“อาปลัดต้องจ่ายค่าผ่านทางมาก่อนครับ” เด็กชายตัวน้อยแบมือกระดิกนิ้วรอค่าผ่านทาง ปลัดเมฆายื่นธนบัตรสีแดงให้เด็กทั้งสองคนละใบ เด็กน้อยมองสบตากันแต่ยังไม่ยอมให้ผ่านไปได้ง่ายๆ“แม่บอกว่าอาปลัดจะมาเอาอาพิมพ์ของเราไปอยู่ด้วย ให้มาแค่นี้เอง แพทไม่ให้อาพิมพ์หรอก เนอะพี่พีท” คำพูดของเด็กหญิงตัวน้อย เรียกเสียงหัวเราะของหลายๆคนที่ได้ยิน บางคนก็อมยิ้มไปกับความไร้เดียงสาของเด็ก ปลัดเมฆาส่ายศีรษะยิ้มเล็กน้อย และชายหนุ่มจึงกระซิบข้างหูมารดา นางนภาจึงยื่นธนบัตรสีเทาให้เป็นค่าผ่านทาง ให้เด็กน้อยทั้งสองอีกคนละสิบใบ สองพี่น้องตาโตยิ้มกว้างยอมเปิดทางโดยดีปลัดเมฆามองเจ้าสาวตัวเองนิ่งค้าง เมื่อพิมพ์รพีพรถูกคุณนายเฟื่องฟ้าจูงมานั่งลงข้างๆตน เธอสวยหวานจนเขาอยากจะจับมาหอมแก้มเนียนแรงๆสักฟอดใหญ่ หลังจากคืนนั้นเขาก็มัวแต่ยุ่งๆในการเตรียมงาน
“นอนเถอะค่ะ พี่เมฆ พรุ่งนี้ต้องพาพิมพ์ไปช้อปแต่เช้า” ร่างเล็กขยับตัวเอื้อมไปปิดไฟที่หัวเตียง พิมพ์รพีพรขยับตัวซุกหน้าเข้ากับอกอุ่นของสามี“รักพิมพ์จังเลย พิมพ์รักพี่บ้างไหม วันนี้ยังไม่ได้ยินคำบอกรักเลย” มือใหญ่เลื่อนไปวางทาบบนสะโพกเต่งตึง รั้งกระโปรงชุดนอนแสนเซ็กซี่ที่เขาเป็นคนจัดใส่กระเป๋าเองกับมือขึ้น แล้วลูบไล้เบาๆ พิมพ์รพีพรเริ่มหายใจติดขัดกับสัมผัสแผ่วเบานั้น“รักไหม บอกหน่อย”เสียงทุ้มกระซิบถามชิดใบหูเล็ก“ไม่รักจะหึงทำไมล่ะ”เสียงหวานที่ตอบไปนั้นสั่นพร่า ปลัดเมฆาจับพลิกร่างบางขึ้นทาบทับบนร่างตัวเอง“พี่เมฆ! นอนได้แล้ว ขับรถทั้งวันไม่เหนื่อยหรือไง”“ไม่เหนื่อยสักนิด ทำอะไรได้อีกตั้งหลายท่า เอ๊ย!หลายอย่าง” พิมพ์รพีพรทุบอกกว้างของสามี เธอแนบหน้าอยู่ที่อกข้างซ้ายของเขา เสียงหัวใจเต้นแรงเป็นจังหวะ มันอบอุ่นเหลือเกินคนไม่เหนื่อยปรนเปรอคนหึงด้วยบทรักเร่าร้อน เสียงบอกรักกันและกันหวานยิ่งนัก ก่อนที่ทั้งคู่จะหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน ด้วยความรู้สึกอิ่มเอมในหัวใจพิมพ์รพีพรพาตัวเองเดินตามกลิ่นหอมของอาหาร
“ถ้าอย่างนั้นพิมพ์กลับไปนอนที่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ดีกว่า”“ไม่ยอม”“ไม่สน”“ใจร้าย” พิมพ์รพีพรเลิกคิ้วสูง เมื่อโดนข้อกล่าวหาว่าใจร้าย“พิมพ์จะปล่อยให้พี่นอนเหงาคนเดียวเหรอ ใจร้ายเกินไปแล้ว” ปลัดเมฆาตีหน้าเศร้า“ทีเมื่อก่อนยังมานอนคนเดียวได้บ่อยๆนี่คะ ไม่มีพิมพ์มาด้วยซะหน่อย”“ก็มันไม่เหมือนกัน ตอนนั้นไม่มีพิมพ์ แต่ตอนนี้มีแล้ว มีแล้วก็ขาดไม่ได้” พิมพ์รพีพรอมยิ้มแอบดีใจ“นอนด้วยกันแหละ นะๆ” เสียงทุ้มออดอ้อน“ห้ามรังแกพิมพ์”“อือ...ไม่รังแกเกินสามยก”“พี่เมฆ!” พิมพ์รพีพรเรียกสามีเสียงสูง ปลัดเมฆาหัวเราะชอบใจ“คนลามก” พิมพ์รพีพรบ่นเบาๆ“ยอมรับ...ลามกและหื่นมากๆๆ” ปลัดเมฆายังพูดยั่วคนตัวเล็ก ที่หน้าแดงเรื่อจนเห็นได้ชัด พิมพ์รพีพรอ้าปากจะเถียงต่อ แต่ปลัดเมฆาชิงพูดตัดบทเสียก่อน“ถึงแล้วครับ สงบศึกชั่วคราว” พิมพ์รพีพรทำจมูกย่นไม่พอใจ ปลัดเมฆาบีบจมูกรั้นนั้นเบาๆ“ลงไปได้แล้วครับ คุณภรรยาคนสวย”“แม็กกี้...ทางนี้” หญิงสาวประเภทสองที่รวมกลุ่มอยู่กับกลุ่มเพื่อนข
“อยากอยู่อย่างนี้นานๆ” ปลัดเมฆาออดอ้อน “พิมพ์หนักค่ะ พี่เมฆตัวใหญ่ยังกะยักษ์” พิมพ์รพีพรประท้วงเบาๆ ปลัดเมฆาถอดถอนกายออกแล้วเคลื่อนตัวลงมานอนเคียงข้างหญิงสาว มือใหญ่รั้งร่างนุ่มนิ่มเข้ามากอด พิมพ์รพีพรเบียดกายเข้ากับอกกว้าง “สัญญาได้ไหมว่าต่อไปนี้เราจะคุยกันทุกเรื่อง” ปลัดเมฆาพูดอยู่เหนือศีรษะหอมกรุ่น พิมพ์รพีพร เงยหน้าขึ้นสบตาคนพูด “ค่ะ...คุยกันทุกเรื่อง” กลีบปากบางคลี่ยิ้มหวานตอบแบบไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่สามีพูด “วันนี้พี่โทรหาไอ้ธีร์ แล้วพี่ก็ได้คุยกับหนูไอด้วย” “หมายความว่า...” “พิมพ์ฟังพี่นะ” พิมพ์รพีพรพยักหน้า แล้วซุกหน้าลงแนบที่อกกว้าง รอฟังในสิ่งที่ปลัดเมฆากำลังจะพูด “เรื่องราวระหว่างเราในตอนแรกอาจจะเกิดขึ้น เพราะความอยากเอาชนะของพี่ แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว พี่รักพิมพ์ รักผู้หญิงที่พี่ขโมยจูบแรกของเธอมา วันนั้นที่หนูไอโทรมาหาพิมพ์ พี่ยังไม่ได้บอกไอ้ธีร์ว่าเราจะแต่งงานกัน เพราะเห็นว่าหนูไอท้องอ่อนๆอยู่ พี่เลยไม่อยากบอก
มือใหญ่ลูบไล้ไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่ม ไล้เรื่อยมายังทรวงอกอวบหยุ่น หยอกเย้าและเคล้นคลึงทั้งสองข้างอย่างปลุกเร้าอยู่เนิ่นนาน แล้วเลื่อนต่ำลงไปยังหน้าท้องแบนราบ ปลัดเมฆาผละจากริมฝีปากบาง ลิ้นร้อนของเขาไล้เลียมาตามลำคอระหง ลากผ่านมาจนถึงทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจของเจ้าของ ปากร้อนร้ายกาจดูดดึงและไล้เลียจากฐานอกอวบ แล้วเข้าครอบครองดูดกลืนตุ่มไตสีหวาน ป่ายปัดรัวเร้าจนร่างบางแอ่นกายเสียวสะท้าน พิมพ์รพีพรสอดมือทั้งสองเข้าไปในกลุ่มผมของปลัดเมฆา กดรั้งศีรษะทุยให้แนบกับร่างของตนเองอย่างลืมตัวท่อนขาแกร่งแทรกลงระหว่างขาเรียว ขณะที่ใบหน้าของชายหนุ่มเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ จมูกโด่งถูไถไปตามหน้าท้องแบนราบ มือใหญ่จับต้นขาขาวแยกกว้าง แล้วตั้งชันขึ้น พิมพ์รพีพรรู้สึกวูบไหวในช่องท้อง ร่องดอกไม้กลางกายสาวหลั่งน้ำหวานออกมาจนชุ่ม หญิงสาวหอบหายใจแรงขึ้น“อื้อ...” พิมพ์รพีพรบิดตัวครางสะท้านด้วยความเสียวซ่าน เมื่อปลายลิ้นร้อนแตะติ่งกลางกายสาวแผ่วเบาในครั้งแรก ก่อนจะตวัดรัวเร็วสร้างกระแสความหวามไหวอย่างรุนแรง นิ้วเท้าจิกงองุ้มลงบนที่นอนแน่น สะโพกเต่งตึงยกลอยขึ้นอย่างท้าทาย ลมหายใจขาดเป็นห้วง
“ทำให้ขนาดนี้รักกันสักนิดหรือเปล่า” เสียงรำพึงเบาๆหลุดออกจากริมฝีปากบาง พูดจบเธอก็เลือกที่จะหันหลังทันที จึงไม่ได้เห็นว่าคนที่ได้ยินคำถามขมวดคิ้วแล้วคลายออกอย่างรวดเร็ว พิมพ์รพีพรปิดไฟทุกดวงในห้องก่อนจะเดินมานั่งลงบนเตียง ความรู้สึกอ่อนยวบเล็กน้อยข้างกายทำให้ปลัดเมฆานอนยิ้มอย่างย่ามใจคนตัวเล็กในชุดนอนที่แสนเซ็กซี่ สอดตัวเองลงใต้ผ้าห่มอุ่นผืนเดียวกันกับคนนอนโป๊อยู่ โดยลืมคิดถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะความที่คิดว่าอีกคนเมาหลับเป็นตายไปแล้ว เธอคงไม่ต้องระวังตัวอะไร พิมพ์รพีพรนอนตะแคงมองหน้าคมเข้มในความมืดสลัว มือเล็กยกขึ้นสัมผัสเบาๆไปตามใบหน้าหล่อเหลา“เราแต่งงานกันเพราะอะไรนะ พี่เมฆแค่อยากเอาชนะพิมพ์ใช่ไหม รักพิมพ์สักนิดหรือเปล่า” เสียงหวานฟังแล้วเศร้า จนคนได้ยินอยากจะชกปากตัวเอง นี่เขายังไม่เคยบอกรักเมียตัวเองนี่นา ที่พิมพ์รพีพรไม่ยอมให้เขาทำอะไรตามใจ เพราะเธอยังไม่มั่นใจในตัวเขาเองหรอกหรือ ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้ม ลืมตาขึ้น แล้วเอ่ยเสียงดังฟังชัด“เพราะพี่รักพิมพ์”มือเล็กถูกเจ้าของดึงกลับ พิมพ์รพีพรดีดตัวลุกขึ้นนั่ง“พี่เมฆ นี่แกล
“พิมพ์ขอโทษนะคะ เดี๋ยวพิมพ์จะเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ไถ่โทษที่ผิดนัดก็แล้วกันนะ” พิมพ์รพีพรคลานลงจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำ ปลัดเมฆาหรี่ตามองตามร่างเล็กสมส่วนแล้วอมยิ้มพิมพ์รพีพรออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับกะละมังใบเล็ก ผ้าขนหนูและน้ำอุ่นอยู่ในนั้น แล้ววางมันไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง คนที่นอนหลับตารอการทำความสะอาดจากเมีย ใจเต้นโครมคราม เขาอยากจะกระโดดลงจากเตียงแล้วดึงเธอเข้ามากอดตั้งแต่ตอนที่เห็นว่า พิมพ์รพีพรอยู่ในชุดนอนที่แสนเซ็กซี่นั้นแล้ว แต่ก็อยากจะดูว่าหญิงสาวจะทำยังกับตนเองคนตัวเล็กนั่งมองร่างของคนตัวโตที่เหยียดยาว แล้วถอนหายใจแรงก่อนที่จะค่อยๆแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตให้เขาจนหมดแถว แล้วแยกสาบเสื้อออกจากกัน หน้าอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม อย่างคนสุขภาพดีที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้พิมพ์รพีพรใจเต้นแรง ถึงจะเคยสัมผัสแนบชิดกันมาแล้ว แต่เธอไม่เคยได้มองเขาอย่างเต็มตาอย่างนี้ มือเล็กดึงชายเสื้อออกจากกางเกง แล้วพิมพ์รพีพรก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง“จะถอดยังไงล่ะเนี่ย ตัวใหญ่ยังกะยักษ์” ปากเล็กจิ้มลิ้มบ่นอุบอิบ เธอค่อยๆปลดเข็มขัด แกะกระดุมแล้วรูดซิปกางเกงลง ปฏิบัติการแ
“เดี๋ยวนี้ใช้ภาษาวัยรุ่นนะย่า”“อ้าว...โลกหมุนเร็ว ย่าต้องหมุนตามให้ทัน ถึงหมุนตามแล้วจะเวียนหัวก็จะทนเอา” ย่าและหลานสาวสบตาหัวเราะขึ้นพร้อมกัน“ป้าสมใจรบกวนยกเอกสารบนโต๊ะไปที่รถให้พิมพ์หน่อยนะคะ คืนนี้คงต้องเอากลับไปเคลียร์ที่บ้าน”“จ้ะ...คุณพิมพ์” นางสมใจนั่งดูย่ากับหลานคุยกันอยู่รับคำ แล้วลุกไปเก็บเอกสาร ไปไว้ที่รถตามที่พิมพ์รพีพรสั่ง“เอ่อ...คุณพิมพ์คะ” นางสมใจยืนรอส่งพิมพ์รพีพรที่รถ กระซิบกระซาบเรียกหญิงสาว“มีอะไรหรือเปล่าคะ ป้าสมใจ” นางสมใจเหลียวซ้ายแลขวา ก่อนจะเขยิบเข้าใกล้อีกนิด“ป้าจะบอกว่า ถ้าผัวงอนเราต้องง้อนะ ถ้าไม่ง้อระวังมอคอปอดอนะคะ”พิมพ์รพีพรขมวดคิ้วงง“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคุณพิมพ์ คุณพิมพ์รู้ไหมสัดส่วนของผู้หญิงในโลกนี้มันมีเยอะกว่าผู้ชายมาก ถ้าเราไม่เอาใจผัวให้ดี ป้ารับรองเลยว่าจะมีคนเสนอตัวมาเอาใจแทนเราแน่ ยิ่งพ่อปลัดของคุณพิมพ์นะ หน้าที่การงานก็ดี รูปก็หล่อ พ่อก็รวย สาวๆทั้งอำเภอต่อคิวรอเสียบแทนคุณพิมพ์เป็นร้อย”“ค่ะ” คือพิมพ์รพีพรไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรออกไป จึงได้แต่ยืนนิ่งฟังสิ่งที่
“ไม่ได้ค่ะ...ห้ามทำรุ่มร่ามที่บริษัท”“ก็ทีหนุงหนิงยัง...” นิชาชี้หน้าสามีด้วยแววตาดุ ทำให้พีรพลหยุดพูดต่อ“พีรู้ใช่ไหมว่าหนุงหนิงทำเพราะอะไร” สามีหนุ่มพยักหน้ารับทราบ แววตาเศร้าๆ“ห้องทำงานคือห้องทำงานค่ะ ไว้คืนนี้หนุงหนิงจะต่อภาคสองให้นะ” ประโยคสุดท้ายนิชากระซิบข้างหูสามีเบาๆ คนได้ยินยิ้มกว้าง กดจมูกฝังที่แก้มเนียนแรงๆ นิชาตีแขนที่โอบเอวเธออยู่เบาๆ“งั้นไปกินข้าวกันเถอะ” นิชาพาตัวเองลงจากตักสามี พีรพลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วคว้ามือเล็กมากุมไว้“พีว่าจะต่อเติมห้องทำงานเดิมของพีเป็นห้องพักผ่อนสำหรับเราดีกว่าเนอะ เผื่อช่วงไหนเรามีงานเยอะ จะได้ค้างที่นี่เลย” นิชาหันกลับมามองหน้าสามีอย่างรู้ทัน พีรพลยักคิ้วให้อย่างท้าทาย“ก็ห้องทำงานคือห้องทำงาน ห้องพักผ่อนก็คือห้องพักผ่อนไง จริงๆนะ”“นี่ยายพิมพ์ยังไม่กลับมาจากโรงพยาบาลหรือ เย็นมากแล้วนะ เห็นว่ามีนัดไปงานเลี้ยงกับพ่อปลัดไม่ใช่เหรอ” ย่าพรเอ่ยขึ้นลอยๆ ชะเง้อคอมองไปประตูรั้วทางเข้าบ้าน“เอ่อ...เห็นไอ้ลั่นมันขับรถคุณพิมพ์กลับมาเอาของเมื่อตอนบ่าย แล้วก็ขับออกจากบ้านไ
“เมรอได้ค่ะ” เมธาวียังดื้อดึง“รอได้ตามสบายเลยนะเม แต่ตอนนี้เชิญเมไปรอข้างนอกก่อนนะ เพราะหนุงหนิงต้องปรึกษางานกับพีก่อนเข้าประชุมจ้ะ เอ่อ...เป็นข้อมูลลับของบริษัทน่ะ เมคงจะเข้าใจนะ” เมธาวีอ้าปากค้างหันไปขอความเห็นใจจากพีรพล แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะยิ้มอย่างเดียวเท่านั้น“เอ่อ...เดี๋ยวเมจะรอที่ห้องรับรองนะคะ” เมธาวีลุกขึ้นยืนแล้วสะบัดหน้าเล็กน้อย ก่อนจะก้าวฉับๆออกจากห้องไป พีรพลหันไปสบตาภรรยาตัวเอง นิชายักไหล่ก้มทำงานต่อโดยไม่พูดอะไร“เอ่อ...หนุงหนิงจ๊ะ วันนี้เรามีประชุมด้วยเหรอ แล้วหนุงหนิงมีอะไรจะปรึกษากับพีอะ” พีรพลถามด้วยน้ำเสียงเกรงๆ เพราะหน้าตาของภรรยาหลังจากที่เมธาวีออกไปแล้ว ช่างนิ่งเรียบดั่งทะเลสงบรอเวลาเกิดพายุลูกใหญ่“ยังไม่รู้เหมือนกัน ขอเวลาคิดก่อนนะ”“อ้าว!” พีรพลขมวดคิ้ว นิชายิ้มเล็กน้อยแล้วก้มหน้าทำงานต่อไปสามสิบนาทีผ่านไป เมธาวีนั่งกระวนกระวายอยู่ในห้องรับรอง จนในที่สุดตัดสินใจเดินออกจากห้อง“คุณเมธาวีจะรับกาแฟเพิ่มหรือคะ” พนักงานสาวเดินมาดักหน้าเธอไว้ ขณะที่เลขาหน้าห้องพีรพลมองเห็นเมธาวีเดินออกมาจากห้อง เธอจึงยกหูโทรศัพ