กลับกลายเป็นความเงียบเข้ามาแทนที่ ลูกน้องทุกคนต่างรู้ดีว่าห้องทำงานของไทธรณ์เป็นเขตหวงห้ามเด็ดขาด หากไม่ได้รับอนุญาตจะไม่มีใครย่างกรายเข้าไป จะมีก็เพียงแต่คนตัวเล็กๆสาวมั่นช่างเจรจาอย่างรสิตาคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่ว่าจะมาเมื่อไรก็ไม่เคยเคาะประตูขออนุญาต หญิงสาวจะถือวิสาสะเปิดประตูห้องทำงาน แล้วเดินเข้าไปทักทายเจ้าของห้องทำงานด้วยเสียงใสๆ พูดเจื้อยแจ้ว โดยไม่สนใจหน้าเคร่งขรึมของชายหนุ่ม ซึ่งหลังจากวันนั้นแล้วทุกครั้งที่มีคนเคาะประตูห้องทำงาน หรือเปิดประตูเข้ามาเขาจะยิ้มรับ เพราะนึกว่าเป็นรสิตา แต่ก็กลับผิดหวังไปเสียทุกครั้ง
จนถึงวันนี้ที่เขาไม่สามารถทนเสียงเรียกร้องของหัวใจตนเองได้ จากที่เคยเป็นคนเคยนิ่งเฉย ก็เลยอยู่เฉยไม่ได้ เพราะคนที่จะทรมานหัวใจตายน่าจะเป็นเขาเองนั่นแหละ หากแต่เขาพยายามติดต่อไปแต่รสิตาก็ไม่ยอมรับสาย
“สวัสดีค่ะนายใหญ่” เสียงหญิงสาวในชุดวาบหวิวสองคนดึงไทธรณ์ให้กลับมาจากภวังค์ หญิงสาวสวยและเซ็กซี่ทั้งสองนั่งลงบนโซฟาประกบเขาทั้งซ้ายและขวา จงใจใช้หน้าอกอวบอึ๋มเบียดกระแซะที่แขนแกร่งทั้งสองข้าง
“เอ่อ...ผมไม่ได้เรียกใช้บริการนี้นะครับ”
“คุณแนนครับ”“คะ” รสิตาหันกลับมายิ้มหวานให้กับผู้ชายตรงหน้า“ดื่มครับ หมดแก้ว เพื่อมิตรภาพของเราในคืนนี้” ชายหนุ่มยกแก้วยื่นมาข้างหน้าเล็กน้อย รสิตาจึงยกแก้วเครื่องดื่มของเธอขึ้นมาแตะเบาๆกับแก้วของเขา“หมดแก้วนะครับ”“ค่ะ” หญิงสาวดื่มไวน์ในแก้วจนหมดแล้วคลี่ยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม รสิตาวางแก้วลงแล้วหันไปมองที่โต๊ะของไทธรณ์ แต่ก็พบเพียงโต๊ะว่างเปล่า หญิงสาวเหลียวหน้าเหลียวหลังมองหาเขาแต่ก็ไม่พบ“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณแนน”“เอ่อ...ดึกมากแล้วแนนขอตัวกลับก่อนนะคะ ขอบคุณคุณกฤษณ์มากนะคะสำหรับคืนนี้” รสิตาผุดลุกขึ้นยืนตั้งใจว่าจะรีบวิ่งตามไทธรณ์ออกไป เธอคิดว่าเขาคงไปที่ลานจอดรถแล้ว แต่หญิงสาวกลับรู้สึกเวียนศีรษะจนเซไปกระทบร่างของชายหนุ่มที่รอท่าอยู่แล้ว“เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณแนน” น้ำเสียงของชายหนุ่มฟังดูราวกับว่าห่วงใยเธอ ทั้งที่ในความเป็นจริงเขาแอบยิ้ม และยักคิ้วให้กับกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน แต่เลี่ยงไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่งหลังจากที่รสิตาเดินเข้ามาเสนอตัวขอร่วมโต๊ะด้วย กลุ่มเพื่อนสี่ห้าคนต่างยกนิ้วโป้งให้แล้วทำท่าพยักพเยิด“กลับกันเถอะครับ”
“พี่ไทช่วยแนนด้วย” รสิตาพาตัวเองขึ้นไปนั่งอยู่บนตักของไทธรณ์ทั้งร่าง สะโพกหนั่นแน่นหน้าอกอวบอิ่มร่างนุ่มนิ่มทั้งร่างแนบชิดกายแกร่งไปทุกส่วน หญิงสาวบิดกายเร่าๆความต้องการจากการถูกวางยากระตุ้นอารมณ์ดิบพุ่งทะยานจนควบคุมตัวเองไม่ได้ มือบางคล้องคอไทธรณ์ไว้แน่น ริมฝีปากบางพยายามแต้มไต่ไล้เลียไปตามใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่ม“แนนตั้งสติหน่อยครับ แนน...” เสียงของไทธรณ์หายไปเมื่อริมฝีปากบางทาบทับริมฝีปากหนาได้รูปของเขา ชายหนุ่มเข้าใจดีว่ารสิตาถูกวางยา และตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงนี้ได้เลย เขาตัดสินใจจูบตอบคนที่กล้าดีมาเริ่มรุกรานเขาก่อน จุมพิตเบาๆอ่อนละมุนแสนหวานไม่สามารถตอบสนองความต้องการของหญิงสาวได้เลย เธอครางประท้วงเขาอยู่ในลำคอ เรียกร้องให้เขาทำอะไรที่มากกว่านี้ ร่างกายเบียดกระแซะอย่างเว้าวอนไทธรณ์ถอนริมฝีปากออกจ้องมองดวงหน้าของรสิตา ที่แสดงออกว่าขัดใจกับสิ่งที่เขาทำให้ มันไม่พอกับความต้องการของเธอ หญิงสาวกำลังทรมานต้องการปลดปล่อย ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนจะประกบริมฝีปากลงบนกลับปากบางอีกครั้ง จูบที่เขามอบให้ครั้งนี้หนักหน่วงเร่าร้อนราวกับจะดู
“แนน” ไทธรณ์แทบจะหยุดหายใจเมื่อหันกลับไปมองคนตัวเล็กบนเตียงอีกครั้ง รสิตาถอดชุดสวยเหวี่ยงลงไปกองอยู่ข้างเตียง ร่างทั้งร่างมีเพียงซับในตัวจิ๋วปกปิดไว้อย่างหมิ่นเหม่ หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนา“พี่ไทขา...ช่วยแนนด้วย” ร่างบางนอนแผ่หลายั่วยวนอย่างไม่อาย และกำลังวอนขอให้เขาทำให้หลุดพ้นจากความรู้สึกทรมานเสียที ความสุขที่เธอรับรู้ไปเมื่อสักครู่ใหญ่ ไม่ได้ทำให้ความร้อนรุ่มในร่างกายลดน้อยลงเลยไทธรณ์นั่งลงบนเตียงข้างๆร่างเกือบเปล่าเปลือยที่สมส่วนของรสิตา เขามองระเรื่อยไปทั่วทั้งร่างบางที่กำลังถูกแผดเผาด้วยเพลิงปรารถนา ผิวสาวขาวอมชมพูไปทั้งร่างเมื่อต้องแสงไฟในห้อง และเขาก็รู้ดีว่าผิวเนียนนี้ลื่นมือเพียงไรเมื่อสัมผัสแตะต้อง หน้าอกอวบอิ่มที่ชูยอดท้าทายรอการดูดกลืนจากปากหนาและลิ้นสากของเขา หน้าท้องแบนราบยามสัมผัสเพื่อผ่านไปสู่ร่องกลางกลีบดอกไม้ที่แสนจะชุ่มฉ่ำนั่น หากไทธรณ์ก็ไม่มีเวลาคิดอะไรมากไปกว่านั้น เมื่อรสิตายกตัวขึ้นดึง รั้งรอบคอของเขาให้ล้มทับตัวเองรสิตาสอดมือเข้าไปในสาบเสื้อของไทธรณ์ และลูบไล้อย่างโหยหา มือบางอีกข้างรั้งท้ายทอยชายหนุ่มเข้าใกล้ และเ
ถึงแม้จะไม่สามารถกุมรอบพื้นที่แข็งแกร่งได้ทั้งหมดเนื่องจากความใหญ่โตของมัน ก่อนจะเงยหน้าสบตาชายหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มยั่ว ไทธรณ์ประกบปากเข้ากับเธออีกครั้ง พร้อมๆกับวางมือของตนทาบทับมือเล็ก แล้วสอนจังหวะการขยับมือที่จะให้ความสุขกับตนเอง รสิตาทำตามอย่างนักเรียนหัวไว จนไทธรณ์ต้องขบกรามจนเป็นสันนูนเพื่อข่มความเสียวซ่านไว้ เมื่อร่างของหญิงสาวบิดเร่าอีกครั้ง ชายหนุ่มก็รู้ถึงสิ่งที่รสิตาต้องการ เขาส่งนิ้วเรียวใหญ่เข้าไปสำรวจแปลงดอกไม้งามอย่างรู้งานหนุ่มสาวสองคนต่างมอบความสุขให้แก่กัน เมื่อรสิตาเพิ่มความเร็วของมือขณะที่ครอบครองความแข็งแกร่งของเขาไว้ ไทธรณ์ก็เร่งความเร็วตาม น้ำเย็นเฉียบในอ่างไม่ได้ช่วยดับอารมณ์ร้อนรักของทั้งคู่ได้เลย อีกฝ่ายเกิดจากถูกมอมยา อีกฝ่ายเกิดจากอารมณ์รักที่คุกรุ่นในใจมานาน หากแต่ไทธรณ์ก็พยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะไม่ก้าวข้ามความต้องการของตนไปมากกว่าสัมผัสภายนอก เขาท่องไว้อยู่ในใจว่ายังไม่ถึงเวลาเสียงหวานและเสียงครางทุ้มต่ำดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน เมื่อทั้งสองจับจูงกันไปท่องวิมานแสงดาวอย่างมีความสุข ร่างบางกระตุกเกร็งผวาเข้ากอดร่างแกร่งตรงหน้าแนบแน่น สายธารอุ่
“อากาศดีจัง เอ๊ะ!มีต้นดอกปีบด้วย” ไอรักอุทานเบาๆก่อนจะก้าวลงจากศาลาทรงไทย แล้วสาวเท้าเดินตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ใบเขียวครึ้ม มีดอกสีขาวเป็นช่ออยู่เต็มต้น บริเวณใต้ต้นของมันมีดอกหล่นอยู่เต็มไปหมด สีขาวโพลนของดอกปีบที่ตัดกับสีเขียวเข้มของใบหญ้า ทำให้ดอกดูเด่นชัดยิ่งขึ้น ยิ่งเดินเข้าใกล้ไอรักก็ยิ่งได้กลิ่นหอมของมันที่ใต้ต้นปีบหญิงสาวนั่งลงกับพื้นสนามหญ้า และเก็บดอกปีบทีละดอกไว้ในมือพร้อมกับรอยยิ้ม ดอกปีบมีสีขาว ก้านดอกยาวประมาณสองนิ้ว และมีกลีบดอกสีขาวประมาณสี่ห้าแฉกเพียงชั้นเดียวบานอยู่ตรงปลายก้านดอก เป็นดอกไม้ที่ไอรักชอบมากเพราะมีกลิ่นหอมเย็นแบบไทยๆ หญิงสาวเก็บดอกปีบหลายดอกไว้ในกำมือ แล้วยกขึ้นดมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด“หอมจังเลย” ไอรักเผลอยิ้มให้กับบรรยากาศตอนสายกับดอกไม้หอมที่ชื่นชอบ ก่อนจะตื่นจากภวังค์ด้วยเสียงแหลมเล็กๆ“พี่หนูไอคะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองไปทางเสียงเล็กๆที่ได้ยิน ก่อนจะยิ้มกว้างให้กับเจ้าของเสียง“อ้าว! น้อยหน่า” เด็กหญิงน้อยหน่าวิ่งหน้าตั้งกระหืดกระหอบตรงไปหาไอรัก แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ“เป็นไงบ้างหายดีแล้วเหรอ พี่มัวแต่ยุ่งๆเรื่องโน้นเ
“เรื่องแค่นี้ไม่น่าจะว่าอะไรนะคะ รถคันนี้ก็รู้ๆกันอยู่ว่าสภาพไม่ดี แล้วจะมาว่ากันมันก็ไม่ถูกนะคะ” ไอรักพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ“นายเล็กหวงรถคันนี้มากค่ะพี่หนูไอ ลุงมิ่งไม่น่าขับมาเลย”“บ๊ะ! เอ็งนี่ ใครจะไปอยากให้มันพังล่ะวะ ก็ข้ารีบมาเอาเอกสารให้นายเล็ก เห็นรถคันนี้จอดอยู่ใกล้ๆข้าก็รีบขับมา เดี๋ยวพอนายเล็กตื่นขึ้นมาเอกสารยังไม่ถึงมือ ข้าจะโดนว่าเอาได้ เฮ้อ!แต่ดันมาทรยศเอาซะได้” พูดจบลุงมิ่งก็ถอนหายใจพร้อมกับส่ายศีรษะ“งั้นลองให้พี่หนูไอขับดูไหมล่ะลุง รถคันนี้พี่หนูไอก็เคยขับได้นะ” น้อยหน่าพูดขึ้นพร้อมกับดึงแขนไอรักเบาๆ ด้วยสายตาละห้อย“นะ...พี่หนูไอ ถือว่าช่วยลุงมิ่งนะคะ นี่ถ้าเอางานไปให้นายเล็กไม่ทันก่อนตื่นล่ะก็ ลุงมิ่งต้องโดนเอ็ดแน่ๆเลย แล้วนายเล็กก็ต้องหักเงินเดือนลุงมิ่ง หรือไม่ก็อาจจะไล่ออก เพราะทำงานไม่เสร็จตามสั่ง” น้อยหน่าพูดพร้อมกับหันไปขยิบตาให้ลุงมิ่ง ไอรักนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากขอกุญแจกับลุงมิ่ง แล้วเดินไปที่รถจี๊ปที่จอดอยู่ใกล้ๆไอรักขึ้นนั่งประจำที่คนขับ แล้วเสียบกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ ครั้งที่หนึ่งรถไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ไอรักหันไปมอ
“พี่ขอโทษที่ไม่ดูแลแนนให้ดีกว่านี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น” น้ำเสียงสำนึกผิดและสายตาที่มองมายังรสิตาทำให้หญิงสาวหัวใจกระตุกวูบ เพราะคนที่ผิดน่าจะเป็นเธอมากกว่าที่เป็นคนเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนนั้นไทธรณ์ขยับเข้าใกล้รสิตา หญิงสาวกระชับผ้าห่มในมือแน่นโดยอัตโนมัติ ชายหนุ่มยิ้มกับอาการนั้น มือหนาปัดปอยผมที่ระหน้าผากมน มองหญิงสาวด้วยสายตาอบอุ่นและห่วงใย ก่อนจะดึงร่างบางนุ่มนิ่มเข้ามากอดแนบอกกว้าง รสิตาเอนซบอย่างไม่เกี่ยงงอน“ขอบคุณมานะคะที่ช่วยแนนไว้” เสียงหวานพึมพำอยู่กับแผงอกกว้าง“เป็นหน้าที่ของพี่ที่จะต้องดูแลแนนด้วยชีวิตของพี่เอง พี่สัญญาว่าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายแนนได้อีก” ชายหนุ่มหญิงสาวกระชับอ้อมกอดเพื่อถ่ายทอดความรักให้กันและกัน“ไปอาบน้ำก่อนไหมครับ เดี๋ยวพี่จะไปส่งที่บ้าน ป่านนี้เจ้าสัวปรีชาพลิกแผ่นดินหาแล้วล่ะ ลูกสาวหายไปทั้งคืนอย่างนี้”“เอ่อ...”“พี่เตรียมชุดไว้ในห้องน้ำให้แล้ว ไปอาบน้ำเถอะครับร่างกายจะได้สดชื่น” ไทธรณ์ส่งยิ้มอบอุ่นให้รสิตา แต่แววตาของหญิงสาวก็ยังบ่งบอกถึงความลังเล“พี่จะหันหลังให้ โอเคไหมครับ” ไทธร
“หนูไอไม่แต่งค่ะคุณแม่ มันหมดสมัยคลุมถุงชนแล้วนะคะ แล้วหนูไอก็ไม่ได้รักผู้ชายคนนั้นด้วย” ไอรักพูดเสียงดังอย่างโมโห “แต่หนูไอก็น่าจะรู้ว่าไม่มีใครขัดใจป๊าได้นะลูก”มารดาพยายามเกลี้ยกล่อมบุตรสาว ที่ตอนนี้นั่งชักสีหน้าแสดงถึงความไม่พอใจอย่างมาก อยู่บนเตียงนอนของตนเอง “แล้วอีกอย่าง ถึงตอนนี้ไม่ได้รัก เดี๋ยวอยู่ๆ กันไปก็รักกันเองแหละลูก”ไอรักหันขวับจ้องมองมารดาอย่างเอาเรื่อง “ไม่มีทางเป็นไปได้ค่ะ หนูไอมีแฟนแล้ว หนูไอโตแล้วนะคะ บรรลุนิติภาวะแล้ว หนูไอไม่ยอม”ไอรักยอมโกหกว่ามีแฟนเพื่อเอาตัวรอดผู้เป็นมารดาถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจเต็มที เดินเข้าไปกอดลูกแล้วลูบศีรษะเบาๆ“หนูไอ...แม่เข้าใจเหตุผลของลูกทุกอย่าง แต่มีเหตุผลหนึ่งที่หนูไอลืมไปหรือเปล่า?” ไอรักหันกลับมามองหน้ามารดาก็พบสายตาที่อ่อนโยนแต่จริงจัง “ความเหมาะสมไงจ๊ะ ผู้ชายคนที่ป๊าเลือกให้ เป็นเจ้าของไร่อ้อยพันกว่าไร่ทางภาคตะวันตก และครอบครัวของเขาก็มีกิจการท่าข้าวที่มีส่วนในการเอื้อกับธุรกิจของเรา แม่ไม่อยากบังคับหนูไอ แต่แม่รู้ว่าหนูไอจะเข้าใจความหวังดีของป๊ากับแม่ และเข้าใจคำว่าความเหมาะสมนะ” หญิงสาวนิ่งเงียบกับเหตุผลที่ได้ฟัง ใช่
“พี่ขอโทษที่ไม่ดูแลแนนให้ดีกว่านี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น” น้ำเสียงสำนึกผิดและสายตาที่มองมายังรสิตาทำให้หญิงสาวหัวใจกระตุกวูบ เพราะคนที่ผิดน่าจะเป็นเธอมากกว่าที่เป็นคนเปิดโอกาสให้ผู้ชายคนนั้นไทธรณ์ขยับเข้าใกล้รสิตา หญิงสาวกระชับผ้าห่มในมือแน่นโดยอัตโนมัติ ชายหนุ่มยิ้มกับอาการนั้น มือหนาปัดปอยผมที่ระหน้าผากมน มองหญิงสาวด้วยสายตาอบอุ่นและห่วงใย ก่อนจะดึงร่างบางนุ่มนิ่มเข้ามากอดแนบอกกว้าง รสิตาเอนซบอย่างไม่เกี่ยงงอน“ขอบคุณมานะคะที่ช่วยแนนไว้” เสียงหวานพึมพำอยู่กับแผงอกกว้าง“เป็นหน้าที่ของพี่ที่จะต้องดูแลแนนด้วยชีวิตของพี่เอง พี่สัญญาว่าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายแนนได้อีก” ชายหนุ่มหญิงสาวกระชับอ้อมกอดเพื่อถ่ายทอดความรักให้กันและกัน“ไปอาบน้ำก่อนไหมครับ เดี๋ยวพี่จะไปส่งที่บ้าน ป่านนี้เจ้าสัวปรีชาพลิกแผ่นดินหาแล้วล่ะ ลูกสาวหายไปทั้งคืนอย่างนี้”“เอ่อ...”“พี่เตรียมชุดไว้ในห้องน้ำให้แล้ว ไปอาบน้ำเถอะครับร่างกายจะได้สดชื่น” ไทธรณ์ส่งยิ้มอบอุ่นให้รสิตา แต่แววตาของหญิงสาวก็ยังบ่งบอกถึงความลังเล“พี่จะหันหลังให้ โอเคไหมครับ” ไทธร
“เรื่องแค่นี้ไม่น่าจะว่าอะไรนะคะ รถคันนี้ก็รู้ๆกันอยู่ว่าสภาพไม่ดี แล้วจะมาว่ากันมันก็ไม่ถูกนะคะ” ไอรักพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ“นายเล็กหวงรถคันนี้มากค่ะพี่หนูไอ ลุงมิ่งไม่น่าขับมาเลย”“บ๊ะ! เอ็งนี่ ใครจะไปอยากให้มันพังล่ะวะ ก็ข้ารีบมาเอาเอกสารให้นายเล็ก เห็นรถคันนี้จอดอยู่ใกล้ๆข้าก็รีบขับมา เดี๋ยวพอนายเล็กตื่นขึ้นมาเอกสารยังไม่ถึงมือ ข้าจะโดนว่าเอาได้ เฮ้อ!แต่ดันมาทรยศเอาซะได้” พูดจบลุงมิ่งก็ถอนหายใจพร้อมกับส่ายศีรษะ“งั้นลองให้พี่หนูไอขับดูไหมล่ะลุง รถคันนี้พี่หนูไอก็เคยขับได้นะ” น้อยหน่าพูดขึ้นพร้อมกับดึงแขนไอรักเบาๆ ด้วยสายตาละห้อย“นะ...พี่หนูไอ ถือว่าช่วยลุงมิ่งนะคะ นี่ถ้าเอางานไปให้นายเล็กไม่ทันก่อนตื่นล่ะก็ ลุงมิ่งต้องโดนเอ็ดแน่ๆเลย แล้วนายเล็กก็ต้องหักเงินเดือนลุงมิ่ง หรือไม่ก็อาจจะไล่ออก เพราะทำงานไม่เสร็จตามสั่ง” น้อยหน่าพูดพร้อมกับหันไปขยิบตาให้ลุงมิ่ง ไอรักนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากขอกุญแจกับลุงมิ่ง แล้วเดินไปที่รถจี๊ปที่จอดอยู่ใกล้ๆไอรักขึ้นนั่งประจำที่คนขับ แล้วเสียบกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ ครั้งที่หนึ่งรถไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ไอรักหันไปมอ
“อากาศดีจัง เอ๊ะ!มีต้นดอกปีบด้วย” ไอรักอุทานเบาๆก่อนจะก้าวลงจากศาลาทรงไทย แล้วสาวเท้าเดินตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ใบเขียวครึ้ม มีดอกสีขาวเป็นช่ออยู่เต็มต้น บริเวณใต้ต้นของมันมีดอกหล่นอยู่เต็มไปหมด สีขาวโพลนของดอกปีบที่ตัดกับสีเขียวเข้มของใบหญ้า ทำให้ดอกดูเด่นชัดยิ่งขึ้น ยิ่งเดินเข้าใกล้ไอรักก็ยิ่งได้กลิ่นหอมของมันที่ใต้ต้นปีบหญิงสาวนั่งลงกับพื้นสนามหญ้า และเก็บดอกปีบทีละดอกไว้ในมือพร้อมกับรอยยิ้ม ดอกปีบมีสีขาว ก้านดอกยาวประมาณสองนิ้ว และมีกลีบดอกสีขาวประมาณสี่ห้าแฉกเพียงชั้นเดียวบานอยู่ตรงปลายก้านดอก เป็นดอกไม้ที่ไอรักชอบมากเพราะมีกลิ่นหอมเย็นแบบไทยๆ หญิงสาวเก็บดอกปีบหลายดอกไว้ในกำมือ แล้วยกขึ้นดมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด“หอมจังเลย” ไอรักเผลอยิ้มให้กับบรรยากาศตอนสายกับดอกไม้หอมที่ชื่นชอบ ก่อนจะตื่นจากภวังค์ด้วยเสียงแหลมเล็กๆ“พี่หนูไอคะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองไปทางเสียงเล็กๆที่ได้ยิน ก่อนจะยิ้มกว้างให้กับเจ้าของเสียง“อ้าว! น้อยหน่า” เด็กหญิงน้อยหน่าวิ่งหน้าตั้งกระหืดกระหอบตรงไปหาไอรัก แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ“เป็นไงบ้างหายดีแล้วเหรอ พี่มัวแต่ยุ่งๆเรื่องโน้นเ
ถึงแม้จะไม่สามารถกุมรอบพื้นที่แข็งแกร่งได้ทั้งหมดเนื่องจากความใหญ่โตของมัน ก่อนจะเงยหน้าสบตาชายหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มยั่ว ไทธรณ์ประกบปากเข้ากับเธออีกครั้ง พร้อมๆกับวางมือของตนทาบทับมือเล็ก แล้วสอนจังหวะการขยับมือที่จะให้ความสุขกับตนเอง รสิตาทำตามอย่างนักเรียนหัวไว จนไทธรณ์ต้องขบกรามจนเป็นสันนูนเพื่อข่มความเสียวซ่านไว้ เมื่อร่างของหญิงสาวบิดเร่าอีกครั้ง ชายหนุ่มก็รู้ถึงสิ่งที่รสิตาต้องการ เขาส่งนิ้วเรียวใหญ่เข้าไปสำรวจแปลงดอกไม้งามอย่างรู้งานหนุ่มสาวสองคนต่างมอบความสุขให้แก่กัน เมื่อรสิตาเพิ่มความเร็วของมือขณะที่ครอบครองความแข็งแกร่งของเขาไว้ ไทธรณ์ก็เร่งความเร็วตาม น้ำเย็นเฉียบในอ่างไม่ได้ช่วยดับอารมณ์ร้อนรักของทั้งคู่ได้เลย อีกฝ่ายเกิดจากถูกมอมยา อีกฝ่ายเกิดจากอารมณ์รักที่คุกรุ่นในใจมานาน หากแต่ไทธรณ์ก็พยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะไม่ก้าวข้ามความต้องการของตนไปมากกว่าสัมผัสภายนอก เขาท่องไว้อยู่ในใจว่ายังไม่ถึงเวลาเสียงหวานและเสียงครางทุ้มต่ำดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน เมื่อทั้งสองจับจูงกันไปท่องวิมานแสงดาวอย่างมีความสุข ร่างบางกระตุกเกร็งผวาเข้ากอดร่างแกร่งตรงหน้าแนบแน่น สายธารอุ่
“แนน” ไทธรณ์แทบจะหยุดหายใจเมื่อหันกลับไปมองคนตัวเล็กบนเตียงอีกครั้ง รสิตาถอดชุดสวยเหวี่ยงลงไปกองอยู่ข้างเตียง ร่างทั้งร่างมีเพียงซับในตัวจิ๋วปกปิดไว้อย่างหมิ่นเหม่ หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนา“พี่ไทขา...ช่วยแนนด้วย” ร่างบางนอนแผ่หลายั่วยวนอย่างไม่อาย และกำลังวอนขอให้เขาทำให้หลุดพ้นจากความรู้สึกทรมานเสียที ความสุขที่เธอรับรู้ไปเมื่อสักครู่ใหญ่ ไม่ได้ทำให้ความร้อนรุ่มในร่างกายลดน้อยลงเลยไทธรณ์นั่งลงบนเตียงข้างๆร่างเกือบเปล่าเปลือยที่สมส่วนของรสิตา เขามองระเรื่อยไปทั่วทั้งร่างบางที่กำลังถูกแผดเผาด้วยเพลิงปรารถนา ผิวสาวขาวอมชมพูไปทั้งร่างเมื่อต้องแสงไฟในห้อง และเขาก็รู้ดีว่าผิวเนียนนี้ลื่นมือเพียงไรเมื่อสัมผัสแตะต้อง หน้าอกอวบอิ่มที่ชูยอดท้าทายรอการดูดกลืนจากปากหนาและลิ้นสากของเขา หน้าท้องแบนราบยามสัมผัสเพื่อผ่านไปสู่ร่องกลางกลีบดอกไม้ที่แสนจะชุ่มฉ่ำนั่น หากไทธรณ์ก็ไม่มีเวลาคิดอะไรมากไปกว่านั้น เมื่อรสิตายกตัวขึ้นดึง รั้งรอบคอของเขาให้ล้มทับตัวเองรสิตาสอดมือเข้าไปในสาบเสื้อของไทธรณ์ และลูบไล้อย่างโหยหา มือบางอีกข้างรั้งท้ายทอยชายหนุ่มเข้าใกล้ และเ
“พี่ไทช่วยแนนด้วย” รสิตาพาตัวเองขึ้นไปนั่งอยู่บนตักของไทธรณ์ทั้งร่าง สะโพกหนั่นแน่นหน้าอกอวบอิ่มร่างนุ่มนิ่มทั้งร่างแนบชิดกายแกร่งไปทุกส่วน หญิงสาวบิดกายเร่าๆความต้องการจากการถูกวางยากระตุ้นอารมณ์ดิบพุ่งทะยานจนควบคุมตัวเองไม่ได้ มือบางคล้องคอไทธรณ์ไว้แน่น ริมฝีปากบางพยายามแต้มไต่ไล้เลียไปตามใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่ม“แนนตั้งสติหน่อยครับ แนน...” เสียงของไทธรณ์หายไปเมื่อริมฝีปากบางทาบทับริมฝีปากหนาได้รูปของเขา ชายหนุ่มเข้าใจดีว่ารสิตาถูกวางยา และตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงนี้ได้เลย เขาตัดสินใจจูบตอบคนที่กล้าดีมาเริ่มรุกรานเขาก่อน จุมพิตเบาๆอ่อนละมุนแสนหวานไม่สามารถตอบสนองความต้องการของหญิงสาวได้เลย เธอครางประท้วงเขาอยู่ในลำคอ เรียกร้องให้เขาทำอะไรที่มากกว่านี้ ร่างกายเบียดกระแซะอย่างเว้าวอนไทธรณ์ถอนริมฝีปากออกจ้องมองดวงหน้าของรสิตา ที่แสดงออกว่าขัดใจกับสิ่งที่เขาทำให้ มันไม่พอกับความต้องการของเธอ หญิงสาวกำลังทรมานต้องการปลดปล่อย ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนจะประกบริมฝีปากลงบนกลับปากบางอีกครั้ง จูบที่เขามอบให้ครั้งนี้หนักหน่วงเร่าร้อนราวกับจะดู
“คุณแนนครับ”“คะ” รสิตาหันกลับมายิ้มหวานให้กับผู้ชายตรงหน้า“ดื่มครับ หมดแก้ว เพื่อมิตรภาพของเราในคืนนี้” ชายหนุ่มยกแก้วยื่นมาข้างหน้าเล็กน้อย รสิตาจึงยกแก้วเครื่องดื่มของเธอขึ้นมาแตะเบาๆกับแก้วของเขา“หมดแก้วนะครับ”“ค่ะ” หญิงสาวดื่มไวน์ในแก้วจนหมดแล้วคลี่ยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม รสิตาวางแก้วลงแล้วหันไปมองที่โต๊ะของไทธรณ์ แต่ก็พบเพียงโต๊ะว่างเปล่า หญิงสาวเหลียวหน้าเหลียวหลังมองหาเขาแต่ก็ไม่พบ“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณแนน”“เอ่อ...ดึกมากแล้วแนนขอตัวกลับก่อนนะคะ ขอบคุณคุณกฤษณ์มากนะคะสำหรับคืนนี้” รสิตาผุดลุกขึ้นยืนตั้งใจว่าจะรีบวิ่งตามไทธรณ์ออกไป เธอคิดว่าเขาคงไปที่ลานจอดรถแล้ว แต่หญิงสาวกลับรู้สึกเวียนศีรษะจนเซไปกระทบร่างของชายหนุ่มที่รอท่าอยู่แล้ว“เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณแนน” น้ำเสียงของชายหนุ่มฟังดูราวกับว่าห่วงใยเธอ ทั้งที่ในความเป็นจริงเขาแอบยิ้ม และยักคิ้วให้กับกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน แต่เลี่ยงไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่งหลังจากที่รสิตาเดินเข้ามาเสนอตัวขอร่วมโต๊ะด้วย กลุ่มเพื่อนสี่ห้าคนต่างยกนิ้วโป้งให้แล้วทำท่าพยักพเยิด“กลับกันเถอะครับ”
กลับกลายเป็นความเงียบเข้ามาแทนที่ ลูกน้องทุกคนต่างรู้ดีว่าห้องทำงานของไทธรณ์เป็นเขตหวงห้ามเด็ดขาด หากไม่ได้รับอนุญาตจะไม่มีใครย่างกรายเข้าไป จะมีก็เพียงแต่คนตัวเล็กๆสาวมั่นช่างเจรจาอย่างรสิตาคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่ว่าจะมาเมื่อไรก็ไม่เคยเคาะประตูขออนุญาต หญิงสาวจะถือวิสาสะเปิดประตูห้องทำงาน แล้วเดินเข้าไปทักทายเจ้าของห้องทำงานด้วยเสียงใสๆ พูดเจื้อยแจ้ว โดยไม่สนใจหน้าเคร่งขรึมของชายหนุ่ม ซึ่งหลังจากวันนั้นแล้วทุกครั้งที่มีคนเคาะประตูห้องทำงาน หรือเปิดประตูเข้ามาเขาจะยิ้มรับ เพราะนึกว่าเป็นรสิตา แต่ก็กลับผิดหวังไปเสียทุกครั้งจนถึงวันนี้ที่เขาไม่สามารถทนเสียงเรียกร้องของหัวใจตนเองได้ จากที่เคยเป็นคนเคยนิ่งเฉย ก็เลยอยู่เฉยไม่ได้ เพราะคนที่จะทรมานหัวใจตายน่าจะเป็นเขาเองนั่นแหละ หากแต่เขาพยายามติดต่อไปแต่รสิตาก็ไม่ยอมรับสาย“สวัสดีค่ะนายใหญ่” เสียงหญิงสาวในชุดวาบหวิวสองคนดึงไทธรณ์ให้กลับมาจากภวังค์ หญิงสาวสวยและเซ็กซี่ทั้งสองนั่งลงบนโซฟาประกบเขาทั้งซ้ายและขวา จงใจใช้หน้าอกอวบอึ๋มเบียดกระแซะที่แขนแกร่งทั้งสองข้าง“เอ่อ...ผมไม่ได้เรียกใช้บริการนี้นะครับ”
“คืนนี้ผมจะนอนที่นี่นะครับลุงมิ่ง ลุงไปพักผ่อนเถอะครับ เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว ไม่ต้องเอารถไปเก็บนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเข้าไปดูในไร่อีกที อ้อ!พรุ่งนี้เช้าลุงมิ่งช่วยไปเอาเอกสารที่โต๊ะทำงานของผม ที่บ้านคุณพ่อให้ด้วยนะครับ เอามาทั้งหมดเลยนะครับที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมจะรีบเคลียร์เอกสารให้พี่ไท”“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปเอาให้แต่เช้าเลยครับ” เมื่อจบการสนทนาลุงมิ่งก็เดินเลี่ยงออกไปทางบ้านพักคนงาน ธีร์ภาณุมองตามครู่หนึ่งก่อนจะหันหลังเดินขึ้นบันไดบ้านไปหลังจากเปิดประตูบ้านเข้าไปธีร์ภาณุเอื้อมมือไปกดเปิดสวิตซ์ไฟ เขารู้สึกแปลกๆเมื่ออยู่ในห้องกว้างที่เมื่อก่อนเคยอยู่คนเดียวได้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหงาอย่างประหลาด ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็กๆที่เพิ่งใกล้ชิดกันไม่นานจะมีอิทธิพลกับความรู้สึกของเขามากถึงขนาดนี้ เสียงเล็กๆที่คอยต่อล้อต่อเถียงดังก้องเข้ามาในหู กลิ่นกายหอมกรุ่นของไอรักลอยวนขึ้นมาในห้วงความคิด ชายหนุ่มยิ้มกับตัวเองพร้อมกับส่ายศีรษะเบาๆ คืนนี้เขาเหนื่อยเกินกว่าจะขับรถกลับได้ และพรุ่งนี้ก็คงมีงานอีกหลายอย่างในไร่ให้เขาต้องสะสางแต่เช้า ธีร์ภาณุจ