เด็กบ้าอะไรน่ารักชะมัด
“แค่กๆ” แค่นึกถึง สตรอว์เบอร์รีที่เคี้ยวอยู่ติดคอจนเพชรนิลไอหน้าดำหน้าแดง ชายหนุ่มทุบอกตัวเองแรงๆหลายครั้งทั้งไอถี่ไม่หยุดกระทั่งชิ้นสตรอว์เบอร์รีหลุดออกมาอยู่ในมือ
“คิดว่าจะกลัวเหรอ จะกัดกินกลืนลงท้องให้หมดเลย” เพชรนิลแก้แค้นผลไม้สีแดงรสหวานด้วยการส่งชิ้นที่อยู่ในมือเข้าไปในปากใหม่แล้วเคี้ยวเร็วๆก่อนกลืนลงท้อง แล้วหันไปหยิบมากินอีกจนหมด ดวงตาคู่คมมองตะกร้าใบน้อยว่างเปล่าอย่างสะใจ
“ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร คิดว่าติดคอแค่นี้แล้วกระต่ายน้อยจะไม่กล้ากินเหรอ หึ!”
พลอยไพลินยืนหันรีหันขวางอยู่หน้าตึกของบริษัทคู่หมั้น หญิงสาวนั่งรถไฟฟ้ามาจากบริษัทของตัวเอง เธอลงสถานีที่อยู่ไม่ไกลตึกนี้มากนัก เดินต่ออีกไม่กี่นาทีก็มาถึงหน้าตึกแล้ว
“แล้วจะบอกพี่โยว่ามาทำไม” พลอยไพลินทำหน้ายุ่งเมื่อคิดได้ว่า เธอหาเหตุผลให้ตัวเองได้แล้วว่าควรมาหาเขาเพราะอะไร แต่เธอยังไม่มีเหตุผลให้เขาเลยว่ามาหาเขาทำไม มันคงไม่ดีแน่ถ้าเธอจะบอกเขาไปอย่างที่ใจเธอคิด
ขณะเดียวกันบนตึกชั้นสูงสุด ภายในห้องทำงานของเจ้าของตึกและ
“เต็นไม่น่ามาหาพี่โยเลย อุ๊ย!” เมื่อน้องรั้งรอไม่ยอมนั่งลงสักที เจ้าของที่นั่งเวรี่วีไอพีจึงออกแรงดึง พร้อมกับตวัดแขนรัดเอวคอด รั้งร่างงามให้นั่งลงบนตักแกร่ง แล้วรวบกอดเอาไว้แนบอก พลอยไพลินซุกหน้ากับอกกว้าง ทอดถอนใจอย่างยอมจำนน แม้เธอจะอิดออดไม่อยากจะนั่งบนตักเขา แต่เมื่อได้สัมผัสแนบชิด ได้ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา หญิงสาวก็อดยอมรับกับตัวเองไม่ได้ว่า เธออบอุ่นและสุขใจเสมอ ลำแขนเรียวค่อยๆโอบกอดร่างกำยำซ่อนรูป ใบหน้าสาวระบายยิ้มซุกซน อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ วาโยยิ้มในหน้าเมื่อน้องกอดตอบ ชายหนุ่มลูบเรือนผมนุ่มเบาๆ กดจมูกและปากลงบนศีรษะทุย งึมงำพูดเสียงเบา “เสร็จงานยุ่งๆแล้ว พี่จะให้คุณพ่อเข้าไปคุยเรื่องงานแต่งของเรากับคุณน้าทั้งสอง เต็นดูไว้หรือยังว่าจะจัดงานแบบไหน” “ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ เลื่อนไปอีกหน่อยก็ดีนะคะ เต็นจะได้มีเวลาเตรียมตัว” “เลื่อนให้เร็วขึ้นน่ะได้ แต่เลื่อนออกไปอีกไม่ได้ เพราะพี่คงใจขาดตายก่อนแน่ๆ” “งั้นก็แต่
“อื๊อ! พี่โย!” แผ่นหลังบางแอ่นโค้งเมื่อปากร้อนชื้นครอบครองเต้าทรวงข้างซ้าย พลอยไพลินหลับตาแน่น ร่างสาวสั่นสะท้าน ทั้งเขินอาย ประหม่าและตื่นตระหนกกับสัมผัสที่ไม่เคยคุ้นวาโยใช้มือข้างหนึ่งประคองดันแผ่นหลังไว้ ไม่ให้เธอห่อตัวหลีกหนีการสำรวจเนื้อตัวจากนายช่างชำนาญการอย่างเขา วงแขนอีกข้างรวบกอดเอวน้อง และป่ายมือลงไปนวดคลึงเหนือเนินสาวผ่านเนื้อผ้ากระโปรงตัวสวยที่เธอสวมอยู่ ก่อนจะเลื่อนลงต่ำอีกนิด แล้วสอดหายเข้าไปใต้ชายกระโปรง แตะต้องสัดส่วนที่เขาเคยลิ้มรสมาแล้ว และรู้ว่าหวานล้ำเพียงใดพลอยไพลินดิ้นยุกยิกคัดค้านเขาได้ไม่นาน ร่างสาวก็อ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟ สองมือที่ก่อนหน้านี้ทั้งดันทั้งผลักไสเขากลับเลื่อนขึ้นไปด้านหลังท้ายทอยแกร่งแล้วกดนวดคลึงเบาๆ“พี่โย...” ความสุขสมในค่ำคืนนั้นแวบเข้ามาในความคิด รสสวาทที่เขาเคยปรนเปรอให้จนสุดทางทำให้หญิงสาวถวิลหา เขาจะพาเธอไปถึงจุดนั้นไหม พี่โยจะหยุดอยู่ตรงไหน พลอยไพลินครางเสียงหวาน เบียดเนื้อตัวเข้าหาอย่างยินยอมพร้อมใจ พายุสวาทก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรง ความต้องการถูกเร่งเร้าด้วยลิ้นสากที่ป่ายปัดเหนือยอดอก ปากอุ่นร้อนดูดดึงขบเม้มสลับข
วาโยยกต้นขาอวบข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าแกร่ง เปิดแยกกลีบสาวให้เบ่งบานต่อสายตา กลีบเนื้อสาวสีสดฉ่ำวาวปลุกเร้าอารมณ์หนุ่มให้ปั่นป่วน“เต็นจ๋า...” วาโยครวญเสียงแหบแห้ง สายตาคมวาวจับจ้องความงามตรงหน้าอย่างหลงใหล กลิ่นสาบสาวเย้ายวนให้เขามัวเมา เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้อีก ยื่นริมฝีปากจุมพิตเบาๆบนดอกไม้สาวเบ่งบาน พลอยไพลินสั่นสะท้านหวามลึกในอก มวนในท้องราวกับมีลมพายุหมุนก่อตัวอยู่ในนั้น กลีบเนื้อสีสดสั่นระริก ปวดหน่วงช่องเร้นรับในซอกสาว น้ำหวานใสเอ่อซึมชโลมกลีบเนื้ออ่อนจนเปียกชื้นฉ่ำวาว“พี่โย! อื้อ...” พลอยไพลินเงยหน้าพิงศีรษะกับผนังห้องน้ำ ปากจิ้มลิ้มครวญครางกังวานหวาน เมื่อริมฝีปากหยักที่แนบประกบกลางกายขยับจูบซับไปทั่วผืนเนื้อสาวของเธอวาโยเหมือนคนหลงทางอยู่ในทะเลทรายมานานแรมเดือน เขาหิวโซ อดอยากปากแห้ง เมื่อมาเจอบ่อน้ำหวานกลิ่นหอมยั่วยวน ชายหนุ่มจึงดื่มกินอย่างตะกละตะกลาม ริมฝีปากขบเม้มดูดดึงกลีบเนื้ออ่อน ฟันซี่คมกัดขย้ำติ่งเนื้อนุ่มเบาๆ ลิ้นสากตวัดไล้กวาดหยาดน้ำหวานเข้าสู่โพรงปาก กลืนกินลงท้องอย่างอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ รสชาติหวานล้ำและกลิ่นสาวหอมหวนมอมเมาให้เขาติดกับจนโงหัวไม่
พลอยไพลินกอดเกี่ยวลำคอแกร่งไว้ หญิงสาวหลับตาปี๋ เม้มปากแน่น ซุกหน้าอยู่กับอกกว้าง สองขางอตรงข้อพับ ปลายเท้าชี้สูง แยกกว้างให้ร่างสูงได้ยืนอยู่ตรงกลาง“เกี่ยวเอวพี่ไว้ทูนหัว” แม่ทูนหัวของวาโยรีบทำตามคำสั่งอย่างไม่อิดออด“เราต้องทำเวลา พี่รีบ พี่มีประชุม” ดูเหมือนวาโยจะเพิ่งนึกได้ว่าเขามีประชุม ชายหนุ่มพรูลมหายใจออกมายืดยาว จับตัวตนแข็งคึกแนบลงตรงกลางรอยปริแยกกลางกายสาว เขาถูไถเนิบช้า ส่วนปลายถูครูดติ่งเนื้อนุ่มทุกครั้งที่โยกสะโพกเสือกไสไปด้านหน้า เสียงหวานครางกระเส่า เร่งเร้าให้อารมณ์หนุ่มให้พุ่งพรวดพราด จนใกล้จะทะลุขีดความอดกลั้นอยู่รอมร่อ“พี่โยขา...อืม...” สะโพกสาวบิดส่าย ไฟราคะโหมกระพือขึ้นอีกครั้ง“เต็นจ๋า...” วาโยขบกรามแน่น หักห้ามใจไม่ให้รักเธอตั้งแต่ต้นว่ายากแล้ว และในที่สุดเขาก็ทำไม่ได้ นี่จะต้องมาหักห้ามใจ ไม่ครอบครองเธอก่อนเวลาอันควรอีก เขาจะทำได้ไหม จะอดทนได้แค่ไหนกัน“พี่โย พี่โย...” พลอยไพลินกอดคอเขาไว้แน่น สายรุ้งสีสวยก่อตัวขึ้นรอบกายเธออีกครั้ง มันพร่างพรายวิบวับ เย้ายวนชวนให้เธอไขว่คว้าไปให้ถึง หญิงสาวแอ่นกระดกสะโพกขึ้น เกร็งกายรับก
วาโยดับเครื่องยนต์แล้วลงจากรถเดินมาหาน้อง เขาใช้หลังมืออังหน้าผากมน และแตะแก้มเนียนเบาๆด้วยความเป็นห่วง“หลับตลอดทางเลย ไม่สบายหรือเปล่าครับ”พลอยไพลินส่ายหน้า ยิ้มน้อยๆให้คนที่เอาใจใส่เธอ“เปล่าค่ะ เต็นแค่รู้สึกเพลียนิดหน่อย”“นี่แค่ซ้อมนะครับ ถ้าลงสนามจริงจะไหวไหมเรา หืม...”“พี่โย!” พลอยไพลินมองค้อนคนขี้ล้อ ก็เขาเองไม่ใช่เหรอที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพไร้เรี่ยวแรงแบบนี้ แล้วยังจะมีหน้ามาล้อเธออีก“เต็นแค่เหนื่อยเพราะเดินตากแดดไปนั่งรถไฟฟ้า แล้วไหนจะต้องเดินจากสถานีไปที่ตึกพี่โยอีก อากาศก็ร้อนด้วย ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย”“เรื่องนั้นคือเรื่องไหนหรือครับ” วาโยโน้มใบหน้าลงกระซิบถามเบาๆ คนที่พลาดท่าเอ่ยถึงเรื่องที่ร้อนกว่าอากาศยามบ่ายเอามือปิดปาก มองคนยิ้มล้อเลียนตรงหน้าด้วยสายตางอนๆ“ว่าไงครับ เรื่องไหนน้า จะใช่เรื่องเดียวกับที่พี่คิดอยู่หรือเปล่า”“เต็นไม่พูดกับพี่โยแล้ว” น้ำเสียงหยอกเย้าของชายหนุ่ม ทำให้พลอยไพลินค้อนวงใหญ่ให้เขา หญิงสาวเดินหนีคนขี้ล้อเข้าบ้านไปก่อน วาโยมองตามด้วยสายตาหวานเชื่อม เขายิ้มกว้างอย่า
แม่กระแตมองลูกสาวด้วยสายตาเอ็นดู เพราะเข้าใจรักวัยหนุ่มสาวซึ่งตัวเองเคยผ่านช่วงวัยนั้นมาก่อนแล้ว พี่กระต่ายน้อยส่ายหน้ายิ้มๆให้กับการพลาดในครั้งนี้ของน้องสาว คู่หมั้นหอมแก้มกัน เรื่องธรรมดามากสำหรับเพลย์บอยอย่างเขา ส่วนยัยตัวจุ้นยิ้มกว้าง มองพี่สาวด้วยสายตาล้อเลียน “เอ่อ...เต็นเหนียวตัวจัง ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะคะ” พลอยไพลินอับจนข้อแก้ตัวใดๆ เพราะเธอเป็นจำเลยที่สารภาพผิดโดยไม่มีใครซักฟอก หญิงสาวรีบหมุนตัวเดินออกมาจากพื้นที่น่าอาย แล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดไปด้วยความรู้สึกเขินอายพ่อแม่พี่น้องทั้งบ้าน วาโยขับรถไปจอดที่บริษัท เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถอีกคันที่คนของเขาสตาร์ตเครื่องไว้รอ และเตรียมอาวุธไว้พร้อมมือรอท่าอยู่ก่อนแล้ว “พวกมันมีห้าคนครับ ตำรวจยังตามไม่เจอ แต่ข่าววงในแจ้งมาว่า ตำรวจเจอตอเสียก่อน จึงถอยกลับไปจัดกระบวนทัพใหม่” วัลลภรีบรายงานเพิ่มเติมทันที เมื่อเจ้านายลงมาจากรถ “ใคร” วาโยเอ่ยถาม สีหน้าเคร่งขรึม เขาแกะกระดุมแขนเส
เพราะไม่ทันระวังตัว วาโยจึงโดนยิงเข้าที่หัวไหล่หนึ่งนัด ลูกน้องของเขารีบดันตัวเจ้านายเข้าไปในรถ แล้วปิดประตูทันทีคนที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ฟังเพียงนัดเดียวก็รู้ว่าต้นเสียงของกระสุนดังมาจากทางไหน นี่มันยิงรัวตั้งหลายนัด จึงไม่ยากเลยที่จะหาที่ที่มันแอบซุ่มอยู่ ชายหนุ่มสองคนย่อตัวลงนั่งคอยยิงคุ้มกันเจ้านาย หนึ่งในสองคนรีบแจ้งสถานการณ์ข้างนอก และบอกตำแหน่งของคนร้ายผ่านเครื่องมือสื่อสารที่ติดไว้ข้างหูให้คนอื่นได้รับทราบ ไม่นานนักเสียงปืนที่สาดมาทางรถที่พวกเขานั่งคุ้มกันอยู่ก็เงียบเสียงลงวัลลภวิ่งเร็วตรงมายังรถยนต์คันที่เจ้านายนั่งอยู่ เขาเปิดประตูออกด้วยความร้อนใจ“คุณโยเป็นยังไงบ้างครับ”“ถูกยิงที่หัวไหล่ ไม่เป็นไรมาก” วาโยบอกเสียงราบเรียบเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ไม่เข้ากันกับเลือดที่ไหลทะลักจนเสื้อเชิ้ตสีขาวที่สวมใส่อยู่ชุ่มโชกและเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานวงกว้าง“คุณโยไปโรงพยาบาลก่อนเถอะครับ ผมจะเก็บรายละเอียดที่นี่ให้เอง”“ฝากด้วยนะวัลลภ”“ครับ”ระหว่างเดินทางไปโรงพยาบาล วาโยโทรศัพท์บอกบิดาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น คุณวาทิตตกใจเล็ก
“คุณหมอบอกว่าจะหายตอนไหนหรือคะ” ดวงตาคู่สวยหลุบมองตำแหน่งที่มือตัวเองแตะอยู่“แค่เห็นหน้าเต็นพี่ก็หายแล้วล่ะ” วาโยบอกยิ้มๆ“ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลย” พลอยไพลินอุบอิบว่าคนที่ชอบทำให้เธอเขิน ขนาดเจ็บตัวอยู่ก็ยังไม่วายหยอดให้เธอต้องหน้าแดง“เต็นจ๋า พี่อยากเข้าห้องน้ำ” วาโยขยับตัวจะลุกขึ้นจากเตียง คนตัวเล็กรีบเข้าช่วยพยุงคนตัวโตอย่างระมัดระวัง“เดินไหวไหมคะ” หญิงสาวถามด้วยความเป็นห่วง“เมื่อยขาจัง ช่วยพาพี่ไปหน่อย” คนเจ็บแขนแต่เมื่อยขาอ้อนน่าสงสารพลอยไพลินจึงช้อนแขนข้างที่ไม่เจ็บวางบนบ่าบอบบางของตน ช่วยพยุงเขาเดินไปยังห้องน้ำ หญิงสาวเข็นเสาน้ำเกลือตามเข้าไปด้วย เมื่อส่งเขาถึงในห้องน้ำแล้ว เธอก็ปล่อยให้เขาทำธุระส่วนตัว แต่ยังยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ เผื่อว่าเขาต้องการอะไรเธอจะได้หยิบจับหาให้“เต็นจ๋าช่วยพี่หน่อย” เสียงอ้อนหวานๆดังขึ้นหลังจากเสียงกดชักโครกเงียบลงครู่หนึ่ง พลอยไพลินแง้มประตูแล้วยื่นหน้าเข้าไปถามความต้องการของเขาอย่างใส่ใจ“พี่โยจะเอาอะไรหรือคะ”“พี่อยากโกนหนวด แล้วก็อยากแปรงฟัน”“เอ่อ...”“พี่เจ็บแขนข
“คุณวี ฉันเป็นห่วงลูก” พรรณดารามองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน เธอเป็นห่วงลูกจริงๆ กลัวว่าถ้าลูกตื่นมาแล้วไม่เห็นเธอ เจ้าตัวเล็กทั้งสองจะร้องไห้งอแง“อย่าห่วงไปเลย มีคนอาสาดูแลลูกของเราให้แล้วทั้งคืน”“ฉัน...”“ชู่ว์! ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดครับที่รัก เรามีอะไรต้องทำกันเยอะแยะ”พรรณดาราถอนหายใจเบาๆ หญิงสาวปรายตามองไปทางประตูแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาเงยหน้าจ้องมองคนที่ยืนขวางอยู่ตรงหน้า“คุณวี...” พรรณดาราเรียกเขาด้วยน้ำเสียงทอดอ่อน หญิงสาวเอนกายลงนอนลงบนเตียงเมื่อเขาโน้มตัวลงมาวางสองมือคร่อมร่างเธอ“ว่าง่ายๆ แบบนี้ ค่อยน่ารักหน่อย” กวียิ้มพอใจกับท่าทีอ่อนลงของอดีตภรรยา หัวใจแกร่งเต้นระทึก เขาแทบรอไม่ไหวที่จะส่งตัวตนแข็งกร้าวเข้าไปซุกซบในแอ่งเนื้อนุ่มอุ่นอ้าวคุ้นเคยพรรณดารากำมือทั้งสองข้างแน่น เธอไม่มีวันยอมเขาง่ายๆ หรอก เขาทำให้เธอเจ็บช้ำจนต้องซมซานกลับไปรักษาหัวใจที่บ้านนานเกือบสองปี แล้วอยู่ดีๆ จะมาทำราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมาทวงสิทธิ์ความเป็นสามี เรียกร้องเอาแต่ใจอย่างนี้ไม่ได้ ถึงแม้เธอกับเขาจะยังไม่ได้หย่าขาดจากกันก็ตามเถอะ นั
“หยุดอยู่ตรงนั้น! อย่าเข้ามานะ!” เสียงตวาดเบาๆ แต่หน้าตาบูดบึ้งแสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ทั้งสายตาเคืองขุ่นที่มองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ และนิ้วเรียวที่ชี้ตรงมาที่เขา ทำให้กวียิ้มมุมปาก“จะเข้า ใครจะทำไม จะเข้าให้ลึกสุดตัวเลยด้วย”คำพูดสองแง่สองง่าม น้ำเสียงยียวน และท่าทางกวนประสาท อีกทั้งสายตาวิบวับไม่น่าไว้ใจของคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งของเตียงทำให้พรรณดาราอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ“คนบ้า! คนลามก!” หากแต่หญิงสาวก็ทำได้เพียงบริภาษออกมาเบาๆ และสาดสายตาดุใส่เขาเท่านั้น เพราะเธอกลัวลูกน้อยทั้งสองที่นอนหลับอยู่บนเตียงจะตื่น“ลามกน่ะใช่ แต่ไม่ได้บ้า” กวีกดเสียงต่ำขู่แม่ของลูกๆ ขายาวก้าวมั่นคงอ้อมไปทางปลายเตียง ขณะที่สายตาหมายมาดจับจ้องร่างอวบอิ่มน่าฟัดของคุณแม่ลูกสองไม่วางตา“คุณวี! ถ้าคุณเข้ามาใกล้ฉันอีกนิดเดียว ฉันจะกรี๊ดให้ลั่นบ้านเลย” พรรณดาราขู่คนที่เดินไม่กี่ก้าวก็มายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ระยะห่างเพียงแค่หนึ่งช่วงแขนแบบนี้ ไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ หญิงสาวก้าวถอยหลังอย่างระวังตัว ทั้งหันซ้ายหันขวา หาทางหนีทีไล่&nb
ปักลึกในซอกสาว วงแขนแกร่งกอดเกี่ยวร่างบางไว้แน่น ปลดปล่อยหยาดรักถ่ายเทเข้าสู่ร่างสาวจนหมดสิ้น “เต็นจ๋า เมื่อไรเจ้าตัวน้อยจะมาสักที” วาโยรำพึงเบาๆคลอเคลียแก้มเนียน เขาแช่ลำรักร้อนผ่าวในร่องสาว ให้เธอตอดรัดเขาอย่างแสนสุข ร่างเปลือยเปล่าแข็งแกร่ง และร่างเกือบเปลือยแสนเย้ายวนนอนกอดก่ายกันอยู่บนเบาะแคบ พลอยไพลินนอนหนุนอกสามี หญิงสาวก่ายเกยอยู่บนร่างเขา แนบแก้มกับอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจแกร่งเต้นเป็นจังหวะหนักแน่น มือบางลูบไล้ผิวเนื้อเรียบตึงอย่างเพลินมือ ใบหน้าสาวอมยิ้ม ทอดถอนใจอย่างมีความสุข วาโยนอนหนุนแขนตัวเองข้างหนึ่ง วงแขนอีกข้างกอดน้องไว้แนบอก และป่ายมือลงไปวางบนสะโพกหนั่นแน่น เคล้นคลึงเบาๆ “พี่โยขา” “ครับ” “เต็นมีอะไรจะบอกค่ะ” พลอยไพลินขยับตัวขึ้นไปนอนคว่ำอยู่บนตัวสามี ดวงตาคู่งามเป็นกระกายวิบวับ หญิงสาวยิ้มน้อยๆให้เขา คิ้วเข้มขมวดมุ่น มองหน้าน้องอย่างจับผิด ท่าทางแบบนี้ต้องมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาอยู่แน่ๆ “เต็
วาโยใช้นิ้วกดกลางรอยแยกหว่างขา เขาสูดลมหายใจเข้าปอดยาวๆ หัวใจแกร่งเต้นแรง เขาต้องข่มกลั้นอารมณ์เต็มที่เมื่อพบว่ามันเปียกชุ่ม น้ำสวาทสาวซึมผ่านเนื้อผ้าออกมาชายหนุ่มกดปลายลิ้นลงบนเนื้อผ้าเปียกชุ่ม ตวัดช้าๆเน้นหนัก นิ้วโป้งข้างขวาบดขยี้ตำแหน่งปุ่มเนื้อระรัว“อ๊ะ พี่โย อ๊า...” พลอยไพลินเด้งสะโพกสูงส่ายร่อนร้อนร่าน หญิงสาวควานมือลงมาขยุ้มเส้นผมสามีไว้แน่น การสัมผัสผ่านเนื้อผ้าให้อารมณ์เร้าใจแปลกใหม่ เสียดเสียวทรมาน“เต็นจ๋า...เมียพี่หอมเหลือเกิน” วาโยพร่ำเพ้ออยู่กับซอกขาสาว เขากัดขย้ำ ขบเม้ม และลงลิ้นแทงเร็วๆสลับกันไป มือหนาบีบนวดโคนขาหนีบ เร่งเร้าอารมณ์สาวคนถูกสามีกัดกินโดยไม่ปอกเปลือกเสียวกระสันจนมิอาจกลั้นเสียงครวญครางไว้ได้ แรงซุกไซ้จากคนหลงเนื้อนวลเมียส่งผลให้ร่างสาวเขยื้อนกระเพื่อมไหว ยิ่งเขาเพิ่มความรุนแรงในการจ้วงลิ้นแทงมากเท่าไร พลอยไพลินก็เสียดเสียวมากขึ้น เธอกำลังจะระเบิดพร่างทั้งที่เขาไม่ได้แตะต้องโดยตรง“พี่โย พี่โย อ๊ะ! อ๊าย...” พลอยไพลินดีดเด้งสะโพกขึ้นสูง ความเสียดเสียวทิ่มแทงบาดลึกในความรู้สึก จนหญิงสาวหลงลืมตัวตน ยกขาเรียวขึ้นตวัดรัด
“อ้าว! กลับไปแล้วเหรอ กูนึกว่ามึงจะอยู่ต่ออีกนาน เลยไปเดินเล่นรอ ถูกพี่เมียไล่ตะเพิดอีกล่ะสิ อือๆ งั้นกูกลับเลยแล้วกัน”พบรักเดินหนีไปทันทีที่วางสาย เขาตรงไปยังรถกระบะสี่ประตูของตนที่จอดอยู่ไม่ไกล เขามางานนี้เพราะกวีซึ่งเป็นอดีตสามีของพรรณดาราชวนมาเป็นเพื่อนเผื่อกูถูกไอ้เพลิงยิงตาย มึงจะได้ช่วยเก็บศพกูกลับไปให้พ่อแม่กูทำพิธีนั่นเป็นเหตุผลที่มันบอกกับเขา ตอนที่โทรไปขอร้องให้เขามาเป็นเพื่อนพลอยชมพูมองตามร่างสูงใหญ่เดินห่างออกไป จะตะโกนเรียกก็ไม่รู้จักชื่อ กระทั่งเขาขึ้นรถคันใหญ่ขับออกไปแล้ว หญิงสาวก็ยังมองตามด้วยความหงุดหงิด เธอรู้สึกติดค้างหนี้บุญคุณเขา“ต้องตามไปชดใช้ในชาติหน้าไหมเนี่ย”วาโยยิ้มบางเมื่อเปิดประตูห้องฟิตเนสส่วนตัวเข้ามา แล้วพบว่าภรรยาของตนกำลังเล่นโยคะอยู่บนเบาะรองที่กลางห้อง เธออยู่ในท่วงท่าคลาน เข่าสองข้างห่างกันเล็กน้อย กดเอวลงจนสะโพกยกสูง สองแขนยืดตึง และเงยหน้าเชิดขึ้น ชายหนุ่มรออยู่เงียบๆ กระทั่งเธอเปลี่ยนท่าและมองเห็นเขาเอง“พี่โย มานานแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถาม พร้อมกับเปลี่ยนท่วงท่าไปตา
“คงต้องสระผมด้วย” วาโยบ่นงึมงำขณะแกะมวยผมออกให้น้องอย่างเบามือ“อาบน้ำอย่างเดียวจริงๆเหรอคะ” คนที่เคยร่วมอาบน้ำพร้อมกับเขาถามอย่างไม่ไว้ใจวาโยมองสบตาน้อง เขายิ้มกรุ้มกริ่ม ย่อตัวลงอุ้มน้องขึ้นแนบอก แล้วกระซิบตอบเสียงแหบพร่า“ไม่น่าจะจริงครับ”“ฮือ...หายไปไหนนะเงินหนึ่งล้านของฉัน”หลังจากส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอเรียบร้อย แขกเหรื่อก็ร่วมรับประทานอาหารกันและเริ่มทยอยกลับจนเกือบหมดแล้ว บรรดาญาติสนิทที่จะพักค้างคืนที่นี่ก็พาไปรวมตัวกันที่บ้านหลังใหญ่ ปล่อยให้บ่าวสาวอยู่ในห้องหอภายในบ้านไม้เพียงลำพัง แต่คนที่ทำเช็คมูลค่าหนึ่งล้านบาทหายกลับต้องกลับมาที่บ้านไม้อีกครั้ง เพื่อตามหามัน“เช็คจ๋า ออกมาหาติ๊บเถอะ”พลอยชมพูก้มหน้าเดินหาไปรอบๆบ้าน เธอมั่นใจว่ามันต้องตกอยู่ข้างล่าง เพราะก่อนก้าวลงจากบันได เธอเอามือจับดูก็พบว่ามันยังอยู่ตรงชายพก ตอนนั้นเธอลงมาแล้ววิ่งไล่จับพี่พร้อมน้องพริ้งช่วยพี่หนูพรรณ เช็คอาจจะหล่นตอนนั้นก็ได้หญิงสาวในชุดไทยประยุกต์ที่กำลังถลกผ้าถุงเดินไปมา แล้วเอาแต่ก้มหน้าเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างทำให้คนที
“จะไปรู้เหรอ ก็เห็นทั้งร้ายทั้งใจร้อนแบบนี้ นึกว่าจะไม่มีความยับยั้งชั่งใจ”“มึงจะพูดมากทำไม ลงไปแดกเหล้าดีกว่า เขาเข้าหอกันแล้ว จะนั่งอยู่ทำซากอะไร” เพลิงตะวันตัดบท ขืนให้มันพูดต่อไปเขาคงถูกมันลากไส้ออกมาจนหมดพุงแน่ ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปทางบันไดก่อน แต่ก็ยังได้ยินเสียงกวนตีนแว่วตามหลังมาอีก“รักน้องจะตายห่า รักมาตั้งแต่น้องยังเด็ก ยังกล้าทำให้น้องเสียใจนะพี่น่ะ”เพลิงตะวันหันกลับไปขึงตาใส่ไอ้คนปากมาก ไอ้คนได้ทีขี่แพะไล่ มันจะรื้อฟื้นความหลังความเก่าหาพระแสงอะไร แต่เพราะแขกเหรื่ออยู่เต็มบ้าน เขาจึงไม่โต้ตอบ แต่...ฝากไว้ก่อนเถอะมึงภายในห้องหอชั่วคราว ผู้หลักผู้ใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้บุผ้าลายวิจิตรที่จัดเตรียมไว้กำลังให้พรให้โอวาทในการครองเรือน คู่บ่าวสาวนั่งพับเพียบประนมมืออยู่บนพื้นห้อง“พ่อดีใจที่ได้เต็นมาเป็นลูกสะใภ้ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก ถ้าพี่เขาทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจฟ้องพ่อได้นะ พ่อจะจัดการให้” คุณวาทิตเข้าข้างลูกสะใภ้เต็มที่“ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ” พลอยไพลินรับคำยิ้มๆ หญิงสาวชำเลืองตามองคนที่นั่งข้างๆ เขายิ้มตอบเธอแล้วกระซิบบอกเบาๆ
“คนละล้าน! เรารวยแล้วน้ำฝน” พลอยชมพูจูบเช็คเบาๆ โบกพัดไปมาอย่างมีความสุข หยาดพิรุณอมยิ้มไปกับท่าทางดีใจเกินเหตุของพี่สาว“พี่ติ๊บต้องขึ้นไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวนะคะ รีบขึ้นไปบนบ้านเถอะค่ะ“จริงสิ พี่ไปก่อนนะ”พลอยไพลินรีบเหน็บเช็คไว้ที่ชายพก แล้ววิ่งขึ้นบันไดไป หยาดพิรุณหัวเราะเบาๆกับท่าทางที่ขัดกันกับชุดไทยประยุกต์งดงามที่พี่สาวสวมอยู่ ก่อนเดินตามพี่สาวขึ้นบันไดไปร่วมพิธีมงคลหลังจากฝ่าด่านประตูเงินประตูทองขึ้นมาได้ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เจรจาสู่ขอตามประเพณี ตรวจนับสินสอดมูลค่าหลายสิบล้านบาท เมื่อเรียบร้อยแล้ว จึงอนุญาตให้เจ้าบ่าวไปรับตัวเจ้าสาวออกมาจากห้องเพื่อทำพิธีมงคลเสียงเปิดประตูห้องทำให้คนที่นั่งรออยู่อย่างใจจดจ่อเงยหน้าขึ้น คนที่เปิดประตูเข้ามาคือเจ้าบ่าวของเธอ เขาสวมชุดราชปะแตนคุมโทนสีเดียวกับชุดที่เธอสวมอยู่ ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มประดับอยู่ หญิงสาวระบายยิ้มหวานเต็มดวงหน้า มองสบสายตาเขาตลอดเวลาที่เขาก้าวใกล้เข้ามา“พี่โย” พลอยไพลินลุกขึ้นจากเก้าอี้ ยืนรอด้วยหัวใจเต้นระทึกวาโยก้าวมั่นคงไปยังร่างงดงามราวกับนางฟ้า เจ้าสาวของเขาสวยจนเข
“ลูกแม่เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด” แม่กระแตแตะแก้มลูกสาวเบาๆ ท่านยิ้มอย่างปลื้มใจ เห็นลูกสาวมีความสุข คนเป็นแม่ก็พลอยมีความสุขไปด้วยพลอยไพลินยิ้มตอบมารดา หญิงสาวย่อตัวลงเล็กน้อย ซบหน้ากับอกอบอุ่นและโอบกอดท่านไว้เต็มวงแขน“คุณแม่ก็เป็นแม่เจ้าสาวที่สวยที่สุดในโลกค่ะ”แม่กระแตทอดถอนใจเบาๆ มือบางลูบหัวลูบหลังลูกอย่างอ่อนโยน แม้ในใจลึกๆจะยังห่วงและอยากดึงรั้งลูกไว้กับอกนานกว่านี้ ทว่าเมื่อลูกได้เลือกแล้วว่าจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ คนที่พ่อและแม่ก็รู้ดีว่าเขาสามารถปกป้องดูแลลูกสาวให้มีความสุขได้ตลอดไป และที่สำคัญเขารักลูกสาวของท่านจนหมดหัวใจ ท่านจึงไร้ซึ่งคำทัดทาน“คุณแม่ขา ถ้าพี่เต็นเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด แล้วติ๊บจะเป็นเจ้าสาวที่สวยกว่าพี่เต็นได้ยังไง” พลอยชมพูกางแขนกอดมารดาอีกข้าง หญิงสาวซบหน้ากับบ่าบอบบางออดอ้อน“หาเจ้าบ่าวให้ได้ก่อนเถอะน่า” พี่สาวว่ายิ้มๆ ทำให้ใบหน้าระรื่นของคนเป็นน้องบูดบึ้ง แก้มชมพูใสป่องน้อยๆอย่างคนงอน พลอยชมพูมองค้อนพี่สาว ก่อนเงยหน้าขึ้นฟ้องมารดา“คุณแม่ขาพี่เต็นว่าติ๊บ”“อย่าว่าน้องสิเต็น” พลอยชมพูยิ้มเยาะอย่างผ