“ไม่ได้ด่าแล้วหนีทำไม แน่จริงกลับมาพูดกันให้รู้เรื่องสิ ไอ้เพลิง!” กวียังไม่ยอมหยุด ก็ก่อนที่เมียเขาจะเดินมาหามันเธอยังยิ้มพูดคุยปกติอยู่เลย แต่พอมาเจอมัน เธอกลับร้องไห้ขี้มูกโป่ง ไม่ใช่มันแล้วจะเป็นใครที่ทำให้เมียเขาต้องร้องไห้เสียน้ำตาแบบนี้
“พี่วี!” พรรณดาราผลักคนที่เธอกอดไว้ออกสุดแรง หญิงสาวมองหน้าเขาด้วยสายตาคาดโทษ คนอะไรไม่มีเหตุผล ไม่ฟังคนอื่นบ้างเลย เอาแต่เอะอะโวยวายอยู่นั่นแหละ
“ไอ้เพลิงมันว่าอะไรหนู บอกพี่มา พี่จะไปจัดการมันให้” คนห่วงเมียจนขาดสติไม่สังเกตสักนิดว่า เมียโมโหจนจะกลายร่างเป็นนางยักษ์เขมือบหัวเขาอยู่แล้ว
“พี่เพลิงไม่ได้ว่าอะไรหนู” พรรณดาราพยายามอธิบายอย่างใจเย็นทั้งที่ในใจเดือดปุดๆ
“อ้าว! แล้วหนูร้องไห้ทำไมครับ” กวีถามเสียงอ่อนลง เห็นตาดุๆของเธอแล้วชักเสียวสันหลัง
“แล้วทีเมื่อกี้ทำไมไม่ถามก่อน ไปโวยวายพี่เพลิงทำไมคะ คนอะไรชอบใช้อารมณ์เป็นใหญ่”
“ก็พอเห็นหนูร้องไห้แล้วพี่ใจไม่ดี”
พรรณดารามองค้อนคนแก้ตัวเสียงอ่อย นี่แหละเขา ไม่ว่าอะไรก็ขอให้ได้พาลคนอื่นก่อน แล้วค่อยมาคุยมาถามทีหลัง แบบนี้ต้องปล่อยให้คาใจต่อไป เธอจะ
เพลิงตะวันยิ้มเยาะ แล้วหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปก่อน ปล่อยให้คนถูกด่าว่าเป็นสากกะเบือมองตามด้วยความอาฆาตแค้น ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เพลิง!“ไม่มีชีวิตคู่ของใครสมบูรณ์แบบไปทุกอย่างหรอก ทุกคนต้องเจอบททดสอบกันทั้งนั้น ชีวิตคู่จะไปต่อหรือสิ้นสุดลง ขึ้นอยู่กับเราสองคนว่ารักกันมากพอที่จะจับมือกันฝ่าฟันบททดสอบไปได้หรือเปล่า ที่ผ่านมาก็ขอให้เป็นบทเรียน ต่อไปมีอะไรก็คุยกันดีๆนะลูก” แม่พราวบอกสอนลูกสาวและลูกเขย ทั้งยกมือซับน้ำตาที่หางตาอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้ลูกสาวตัดสินใจกลับไปคืนดีกับลูกเขย ท่านก็ถือว่านี่เป็นเรื่องที่น่ายินดี หลานๆจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกเสียที แม้ตัวเองจะต้องทนคิดถึงหลานตัวน้อย ท่านก็ยอม เพราะดูจากการเกาะติดนั่งตักคนเป็นพ่ออย่างแน่นเหนียว ไม่ยอมลุกไปไหนเลยของหลานทั้งสองคนแล้ว ก็พอรู้ได้ว่าอยากกลับไปอยู่กับพ่อเขาขนาดไหน แล้วยายพราวจะกล้าขัดขวางความสุขของหลานๆได้อย่างไร“ขอบคุณครับคุณแม่ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้ลูกสาวคุณแม่ต้องเสียใจอีก”“จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหมกวี ไม่มีอะไรที่พ่อต้องกังวลใช่ไหม” พ่อนนท์ถามลูก
“ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ผมจะไม่มีวันให้น้องสาวผมกลับไปเสี่ยงกับพี่อีกแน่” เพลิงตะวันเปิดฉากขู่ทันทีเมื่อแน่ใจว่าจะไม่มีใครได้ยินบทสนทนาระหว่างเขากับน้องเขย“กูรู้แล้ว”“เออ...รู้แล้วก็ดี จะทำอะไรทีหน้าทีหลังก็หัดคิดซะก่อน ไม่ใช่พอมันเกิดเรื่องแล้วก็ทำให้คนอื่นเขาวุ่นวายไปทั่ว ทำให้เมียต้องเสียใจ ทำให้ลูกต้องลำบาก แบบนี้มันใช่เหรอ”“มึงจะบ่นทำซากอะไร กูก็พยายามทำดีที่สุดแล้ว แล้วตอนนี้มันก็โอเคแล้ว”“โอเคเชี่ยอะไร ได้ข่าวว่ายังจับตัวไอ้ห่านั่นไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ที่จริงพี่ควรรอให้ทุกอย่างมันเคลียร์กว่านี้ก่อนแล้วค่อยมารับลูกเมียกลับไปอยู่ด้วย”“ก็กูคิดถึงลูกคิดถึงเมีย”“ทนคิดถึงนิดหน่อยไม่ได้หรือไงวะ ห่างกันไม่กี่ปีเองก็จะเป็นจะตายเลยหรือไง อีกอย่างหนูพรรณก็พาลูกไปหาอยู่บ่อยๆไม่ใช่เหรอ”“ไปหาแล้วได้แต่มองน้ำลายหยดติ๋งๆ แต่ทำเชี่ยไรไม่ได้เลยเนี่ยนะ มึงไม่สงสารกูบ้างเหรอไอ้เพลิง จิตใจมึงมันทำด้วยอะไร”“สงสารทำไม พี่ทำตัวเองไม่ใช่เหรอ ไปเสือกเรื่องของคนอื่นเขาทำไม”“มึงคิดว่ากูอยากเสือกงั้นสิ ถ้ากูไม่ตกกระไดพลอยโจนไปกับมัน
“หนูทำแบบนี้ใช่ไหม” กวีลูบล้วงลงใต้ชายกระโปรงชุดนอน เขาสอดมือเข้าไปตรงขอบกางเกงในตัวจิ๋ว ขยับนิ้วกลางแทรกลงกลางกลีบเนื้อนุ่ม“พี่วี!” พรรณดาราผวาเฮือก สะโพกสาวแอ่นขึ้นน้อยๆ หญิงสาวจิกมือทั้งสองบนบ่ากว้าง สบสายตาเขาอย่างขัดเขิน สองแก้มแดงปลั่งด้วยสะเทิ้นอายตาคมมองหน้าคนเขินจัด กวีอมยิ้มเอ็นดูเมื่อภรรยาสาวหลุบตาหนี ไม่ยอมสบตาเขา“อายทำไม พี่ก็ทำเหมือนกัน เวลาทำพี่คิดถึงหนู คิดถึงตอนที่พี่อยู่ในตัวหนู แล้วหนูล่ะ เวลาทำแบบนี้ คิดถึงพี่ไหม” กวีขยับกดคลึงปุ่มเนื้อนุ่มช้าๆแต่หนักแน่น คนใต้ร่างบิดส่าย สั่นสะท้านเป็นระยะ ทว่ายังไม่ยอมปริปากพูด พรรณดารากัดริมฝีปากล่างไว้แน่น“ดื้อ...” กวีต่อว่าคนที่เอาแต่หลบหน้าเขา ไม่ยอมตอบคำถามวาบหวิวสักที“อื้อ! พี่วี!” พรรณดาราอุทานเรียกสามี พร้อมกับแอ่นสะโพกลอยเหนือที่นอน เมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกระทุ้งเข้าสู่ร่องรักอุ่นอ้าว เขาจงใจแกล้ง เพราะอยากให้เธอตอบคำถามน่าอาย“เวลาทำเอง เสียวแบบนี้ไหมครับ” กวีก้มลงกระซิบถามชิดใบหูเล็ก เขาตวัดลิ้นเลียเบาๆ ยิ่งได้ยินเสียงครางแผ่วพร่าของเมียรัก ยิ่งคึกคัก ยิ่งอยากแกล้ง“
พรรณดาราแหงนเงยหน้า หลับตาพริ้ม กรีดร้องรัญจวนใจ หญิงสาวแตะเส้นวิมานในทันที แอ่งเนื้อนุ่มพร่างพรมหยาดน้ำกระเซ็นรินรดตัวเองและสามีจนชุ่มโชกกวีช้อนท้ายทอยเล็กเบี่ยงหน้าเธอขึ้นมา ก่อนจะก้มลงจูบดุดัน บดขยี้ริมฝีปากนุ่มด้วยอารมณ์รักร้อนแรง ในขณะที่ตาคมปลาบยังจับจ้องผืนเนื้อสาวที่เปียกชุ่มฉ่ำวาวเต็มไปด้วยหยาดน้ำรักของเธอ นิ้วเรียวเล็กยังคงแตะต้องอยู่ตรงนั้น เขาเห็นเธอขยับมันน้อยๆ และทุกครั้งที่เธอขยับนิ้ว กายสาวก็สั่นสะท้านกวีจัดการชุดนอนและบราไร้ค่าบนร่างภรรยาออกจนหมด เขาลูบไล้เนื้อนวลแผ่วเบาปลอบประโลม ปล่อยให้ภรรยาเก็บเกี่ยวความหวามหวานอยู่ชั่วครู่ กระทั่งจังหวะลมหายใจเธอเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ“ทีนี้ของจริงนะครับ” เสียงแหบพร่ากระซิบบอกชิดใบหูยังผลให้ขนอ่อนบนกายสาวลุกชัน แม้จะเสร็จสมด้วยตัวเองไปแล้ว แต่กลับรู้สึกยังไม่เพียงพอ เพราะพรรณดารารู้ดีว่ายามสามีโจนจ้วงเข้าหานั้น ให้ความรู้สึกที่มากกว่าที่เธอทำไปเมื่อครู่เป็นไหนๆ“หนูรออยู่ค่ะ” พรรณดาราอาจจะเขินอายเป็นบ้างบางครั้ง แต่เมื่อถูกสามีปลุกเร้าจนกู่ไม่กลับแล้ว หญิงสาวก็พร้อมที่จะกระโจนเข้ากองไฟสวาทที่เขาจุดขึ
เมื่อเกมพลิก คนที่เคยเป็นฝ่ายรุกก็เลยต้องตั้งรับ จากที่เคยเป็นผู้ควบคุม กลับต้องกลายเป็นผู้ตามอย่างจำนน พรรณดาราทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากครวญครางจนเสียงแหบแห้ง เธอถูกสามีส่งไปแตะเส้นวิมานแล้วหลายต่อหลายครั้ง กระนั้นเธอก็ไม่ได้รับความปรานีจากเขา สามีของเธอยังคงโหมกระหน่ำจ้วงแทงเธอราวกับเขาไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยกวียิ้มพอใจ กับร่างขาวโพลนที่คุกเข่ายกสะโพกสูง เธอซุกหน้าแนบที่นอน ร่างสาวสั่นไหวไปตามแรงโยกโยนตัวเข้าหาของเขา เสียงครวญครางแหบแห้งกระตุ้นเร้าให้เขาคึกคักจนไม่อาจออมแรงไว้ได้ ชายหนุ่มเร่งขยับสะโพกสอบเข้าลึกออกเกือบสุด กระแทกกระทั้นจนคนที่ถูกเขาจู่โจมต้องอ้อนวอน“พะ..พี่วี อ๊ะ! สะ...เสร็จสักทีเถอะ นะ...หนูไม่ไหวแล้วนะ อื๊อ!” พรรณดาราบอกสามีเสียงกระท่อนกระแท่น เธอยอมรับก็ได้ว่าเธอยอมแพ้เกมสวาทในยกนี้ให้แก่เขาอย่างราบคาบ“ร้องขอพี่สิ” กวีโน้มตัวลงกระซิบแนบใบหูเล็ก เขาโอบกอดร่างนุ่มนิ่มเต็มสองแขน มือร้อนบีบกำขยำฟอนเฟ้นเต้าอวบรุนแรง ขณะที่สะโพกสอบก็ยังไม่หยุดขยับโยก“พะ...พี่วีขา ได้โปรด อ๊ะ! หนูมะ...ไม่ไหวแล้วค่ะ”“น่ารักที่สุด”กวีหอมแก้ม
แม้จะบอกตัวเองว่าเธอเข้าใจสามี เพราะเขาทำงานหนักเพื่อครอบครัว แต่ตอนนี้พรรณดาราก็ชักจะหมดน้ำอดน้ำทนขึ้นมาแล้ว เมื่อขณะนี้นาฬิกาที่โต๊ะตัวเล็กข้างหัวเตียงบอกเวลาสามทุ่ม และสามีของเธอก็ยังไม่โทรมาบอกว่าเขาติดอะไรอยู่ เมื่อไรจะกลับ เธอไม่ได้โกรธที่เขาไม่โทรรายงานตัว แต่โกรธที่เขาช่างไม่รู้เอาเสียเลยว่าการกลับบ้านผิดเวลานั้นทำให้เธอเป็นห่วงเขามากแค่ไหน นี่เพิ่งกลับมาอยู่ด้วยกันไม่ทันถึงสัปดาห์ด้วยซ้ำ เขาก็เริ่มทำตัวน่าสงสัยอีกแล้วคนห่วงสามีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในเมื่อเขาไม่ยอมโทรมา เธอก็จะเป็นฝ่ายโทรไปก็ได้ คอยดูเถอะถ้าคิดจะกลับบ้านเกินสี่ทุ่ม เธอจะปิดล็อกห้องไม่ให้เข้ามานอนด้วย ทว่าการพยายามโทรติดต่อสามีหลายต่อหลายครั้ง คนที่เธอโทรหาก็ไม่ยอมรับสาย หญิงสาวจึงเปลี่ยนไปโทรหาคนติดตามของเขาแทน แต่ก็ไม่มีใครรับสายเธอสักคน“ไปไหนของเขานะ เดี๋ยวก็ตามไปหาถึงโรงแรมซะหรอก” พรรณดาราพูดอย่างหงุดหงิด หญิงสาววางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง เดินไปเดินมาในห้องด้วยความโมโหปนกังวล ก่อนหน้านี้ที่เคยอยู่ด้วยกันมา เขาจะโทรบอกเธอทุกครั้งที่กลับบ้านผิดเวลา จะมีก็แต่ตอนช่วงก่อนจะเก
สองปีที่แล้วธนพลขายหุ้นให้กวี เพราะประสบปัญหาการขาดทุน และขาดสภาพคล่อง ก่อนหน้านั้นเขาได้ขายหุ้นให้มยุรีไปก่อนแล้วสี่สิบเปอร์เซ็นต์ โดยเขามารู้ทีหลังว่ายายนั่นมีเสี่ยศักดิ์สิทธิ์ผู้ทรงอิทธิพลในจังหวัดเป็นผู้ออกเงินให้ในการซื้อหุ้นจากเขา แต่หลังจากนั้นร้านก็ไม่มีอะไรดีขึ้น สถานการณ์ทางการเงินย่ำแย่ลงกว่าเดิม เพราะผู้ถือหุ้นรายใหม่อย่างมยุรีเริ่มเข้ามาวุ่นวายระบบการเงินและการจัดการร้าน ธนพลจึงขอร้องให้กวีเข้ามาช่วยซื้อหุ้นไว้และช่วยจัดการบริหารให้ก่อน ระหว่างที่รอเขาประกาศขายที่ดินเพื่อทำเงินมาซื้อหุ้นคืนจากเพื่อนและมยุรี แต่ความซวยก็มาเยือนเมื่อหลังจากที่กวีซื้อหุ้นและเข้าไปบริหารได้ไม่นาน ยายมยุรีที่จ้องจะคลุกวงในเพื่อนเขาอยู่แล้วก็ก่อเรื่อง หล่อนใช้อภิสิทธิ์ว่าเป็นหุ้นส่วนกิจการร้านด้วยกันขึ้นไปหาเพื่อนเขาถึงห้องส่วนตัวบนโรงแรม โดยที่พนักงานไม่กล้าขวาง เพราะยายนั่นพาบอดี้การ์ดมาด้วยร่วมสิบคน ซึ่งกวีเพิ่งมารู้ทีหลังว่ายายนั่นแอบถ่ายรูปห้องทุกซอกทุกมุมและส่งให้เมียเขาดู เพื่อให้เธอเข้าใจผิด และความวุ่นวายที่มากกว่านั้นก็ตามมาติดๆในคืนเดียวกันคืนนั้นคนของเขาโทรมาบอกว่า มีลูกค้
“พี่มั่นใจว่าไร่ภูอิงฟ้ามีอิทธิพลมากพอที่จะคุ้มครองลูกกับเมียพี่ได้ และคนอย่างไอ้เพลิงไม่มีทางปล่อยให้น้องสาวกับหลานเป็นอะไรไปหรอก”เมื่อเขาพูดถึงพี่ชาย เธอก็มองไปทางห้องฉุกเฉิน“แล้วพี่เพลิงเป็นอะไรมากไหมคะ” พรรณดาราถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลกวีบีบมือนุ่มแน่นขึ้น“บ้าๆอย่างมัน ยมบาลไม่เอาหรอก”“พี่วี! หนูซีเรียสนะคะ”กวีถอนหายใจ เขามองตามสายตาของภรรยา โอบกอดเธอมาแนบกาย“มันไม่เป็นไรหรอกน่า ทำแผลเสร็จแล้วก็นอนค้างโรง’บาลสักคืนสองคืนเดี๋ยวก็หาย”“กระสุนถูกตรงไหนหรือคะ” เมื่อเห็นสามีพูดราวกับว่าอาการของพี่ชายไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย พรรณดาราจึงสอบถามเพื่อความแน่ใจ“โดนแค่ถากๆ แถวต้นขา” กวีบอกแล้วยิ้มให้คนที่ยังไม่คลายกังวลกับอาการพี่ชาย“แค่นี้ไกลหัวใจ คนหนังหนาอย่างมัน ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก”“ยังจะมาพูดเล่นอีก พี่เพลิงต้องเจ็บตัวเพราะไปช่วยพี่วีนะคะ สงสารก็แต่น้ำฝน ป่านนี้ไม่ตกใจแย่แล้วเหรอ น้องยิ่งขวัญอ่อนอยู่ด้วย”“ไม่หรอก พี่บอกแล้วว่าแค่โดนถากๆ ไม่เป็นไรมาก”“น้ำฝนครับพี่หิวน้ำ”
เพลิงตะวันจับตามองน้องสาวตั้งแต่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา กระทั่งเดินมานั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ในซุ้มไม้ที่เขากับภรรยานั่งอยู่ก่อนแล้ว“ช้า!” คนใจร้อนและหัวร้อนง่ายว่าน้อง แล้วมองอย่างจับพิรุธ“ติ๊บเป็นผู้หญิงนะพี่เพลิง จะให้วิ่งผ่านน้ำหรือไงเล่า มันก็ต้องให้เวลากันหน่อยสิคะ” พลอยชมพูว่าแล้วทำปากยื่นให้พี่ชาย“น้ำฝนไม่เห็นอาบนานเหมือนติ๊บเลย” คนข้องใจยังคงหาเรื่องจับผิดน้องต่อ“ที่อาบไม่นานเพราะพี่เพลิงเข้าไปอาบด้วยหรือเปล่าคะ อาบไม่นาน เพราะทำอย่างอื่นด้วย” ถึงเธอจะเพิ่งเสียพรหมจรรย์มาเมื่อคืนนี้เอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเลย เรื่องแบบนี้ถึงไม่อยากรู้แต่ก็ได้รู้ เพราะทั้งเพื่อนฝูงคุยกัน ทั้งหนังทั้งละครมีฉากแบบนี้ออกเยอะแยะ และพลอยชมพูก็ฉลาดพอที่จะดึงน้องสาวเข้ามาจัดการพี่เพลิง“พี่ติ๊บ!” หยาดพิรุณอุทานเรียกพี่สาวด้วยน้ำเสียงตกใจ แล้วหันไปมองสามีด้วยสายตาดุ เพราะเขานั่นแหละไปจุกจิกวุ่นวายถามจับผิดพี่สาวเธออยู่ได้ พี่ติ๊บเลยสวนหมัดกลับมา แต่แทนที่หมัดนี้จะโดนเขา กลับมาฮุกเข้าใต้ลิ้นปี่เธอเสียนี่“ตื่นสายโด่งขนาดนี้ พี่พบเขายังจ
หยาดพิรุณมองตามหลังสามีแล้วได้แต่ส่ายหน้า หญิงสาวหันมายิ้มให้พี่สาว แล้วเดินเข้าไปสวมกอดด้วยความคิดถึง “ขอโทษแทนพี่เพลิงด้วยนะคะพี่ติ๊บ พี่เพลิงเนี่ยไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเกรงใจใครหรอกค่ะ นี่มันห้องส่วนตัวของพี่ติ๊บ ก็ยังดื้อรั้นจะเข้าไปอีก เดี๋ยวกลับถึงไร่ น้ำฝนจะจัดการให้นะคะ” “ขอบใจมากนะน้ำฝน ถ้าไม่ได้น้ำฝนพี่คงแย่” หยาดพิรุณคลายอ้อมกอด ผละออกมาจ้องมองหน้าพี่สาวอย่างแปลกใจ คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความสงสัย อดไม่ได้ที่จะชะเง้อคอมองเข้าไปในห้อง แย่อะไร...พี่ติ๊บมีอะไรซ่อนไว้ในห้อง คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดประโยคชวนสงสัยออกไปรีบขยับตัวบังสายตาน้อง “เอ่อ...น้ำฝนไปรอพี่ข้างล่างก่อนนะ พี่ขอเวลาอาบน้ำแต่งตัวแป๊บเดียว เดี๋ยวพี่ตามลงไปคุยด้วย” “ค่ะ” แม้จะสงสัยเพียงใด แต่หยาดพิรุณก็เคารพความเป็นส่วนตัวของพี่ เมื่อน้องสาวเดินลงบันไดไปแล้ว พลอยชมพูจึงรีบปิดประตู ลงกลอนแน่นหนา หญิงสาวพิงหลังกับบานประตู ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาที่มีแววกังวลม
“คุณพบไปหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้าก่อน แล้วก็ห้ามส่งเสียง ห้ามออกมาจนกว่ากว่าติ๊บจะเปิดประตูให้” พลอยชมพูลุกขึ้นจากเตียง เธอไม่สนหรอกว่าจะโป๊เปลือยอยู่ เพราะตอนนี้เธอกังวลอยู่เรื่องเดียว คือกลัวว่าพี่เพลิงจะรู้ว่าเธอกับเจ้านายมีอะไรเกินเลยกันแล้ว คนตัวเล็กลากร่างสูงกำยำลงมาจากเตียง พบรักลงมาแต่โดยดี ไม่ได้กลัวไอ้หมาบ้าเพลิงที่เคาะประตูอยู่หรอก แต่เขายอมลุกดีๆก็เพราะมีอาหารตาให้มองต่างหาก“เอาเสื้อผ้าคุณพบเข้าไปด้วย” พลอยชมพูก้มลงเก็บเสื้อผ้าของเขา แล้วยัดใส่มือให้ หญิงสาวรุนหลังเขาไปหน้าตู้เสื้อผ้า เปิดประตูตู้แล้วออกแรงผลักเขาให้เข้าไป ทว่าคนตัวโตกลับไม่ยอมขยับ“สัญญามาก่อนว่าจะไม่หนีกลับบ้าน”“โอ๊ย! ไม่มีเวลามาสัญญิงสัญญาอะไรแล้วค่ะ คุณพบหลบเข้าไปอยู่ในตู้ก่อนนะคะ”“ไม่! ผมจะไม่เข้าไปอยู่ในตู้ จนกว่ากระติ๊บจะสัญญามาก่อนว่าจะไม่หนีกลับบ้าน”พบรักมองสบตาคู่สวยแน่วแน่ พลอยชมพูถอนหายใจแรง คนขี้โกงมาบังคับเอาคำสัญญาตอนหน้าสิ่วหน้าขวานนี่นะ“ค่ะ ติ๊บจะไม่หนีกลับบ้าน”พบรักยิ้มในหน้าเขาสวมกางเกงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบพาตัวเองเข้าไปหลบอยู่ในตู้
“อยู่กับผมนะครับ” เสียงกระซิบทุ้มนุ่มของพบรักทำให้คนที่หลับอยู่บนอกเขาครางงึมงำขยับตัวเล็กน้อย คนเข้าข้างตัวเองตีความเอาว่านั่นคือเสียงตอบรับจากเธอ พลอยชมพูขยับตัวไล่ความเมื่อยขบที่เกาะกินไปทั้งสรรพางค์กาย ความอบอุ่นที่แนบชิดอยู่ทำให้เธอไม่อยากตื่น ในห้วงฝันเลือนรางเธออิ่มเอมสุขล้ำเสมือนจริงเสียจนไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเพียงความฝัน หญิงสาวถอนหายใจบางเบา ซุกตัวเข้าหาความอบอุ่นอีกนิด ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มหวานละมุน จนคนที่ตื่นก่อนและแอบมองเธออยู่นานแล้วพลอยยิ้มตามไปด้วย “ตื่นได้แล้วครับ สายแล้ว” เสียงกระซิบอยู่เหนือศีรษะทำให้คนที่กำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้งขมวดคิ้วมุ่น พลอยชมพูลืมตาขึ้นแล้วกะพริบปริบๆ หญิงสาวกลอกตาไปมาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนก้มสำรวจมองตัวเอง แต่เพียงแค่ขยับก็รับรู้ได้ว่าเธอไม่ได้นอนอยู่คนเดียว ใบหน้างามค่อยๆแหงนเงยขึ้นมองเจ้าของเสียงที่ปลุกเธอเมื่อครู่ ใบหน้าคุ้นเคยที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบทำใ
“โอ้ว! กระติ๊บ” พบรักขบกรามแน่น แหงนเงยหน้าขึ้น เส้นเลือดลำคอปูดโปนเด่นชัด เขาต้องใช้ความอดทนอย่างที่สุด ที่จะไม่บุกทะยานไปข้างหน้า“ชู่ว์...อยู่นิ่งๆนะครับ” พบรักสอดมืออีกข้างลงใต้แผ่นหลังเนียน กอดเธอแนบแน่น ทิ้งน้ำหนักตัวลงกดทับเธอไว้ทั้งหมด เพื่อกักกันให้เธอสงบนิ่ง กระทั่งมือที่ทั้งจิกข่วนผลักไสเขาเมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นโอบกอดรัดรอบตัวเขาไว้ ชายหนุ่มจึงถอนหายใจบางเบา พรมจูบบนหน้าผากมนชื้นเหงื่อ พร่ำคำปลอบโยนให้เธอคลายความตื่นตระหนก“ดีขึ้นไหมครับ” พบรักถามเสียงเอื้อเอ็นดู เขาผงกศีรษะขึ้นมองใบหน้าน่ารัก เธอหลับตาพริ้มหอบหายใจหนัก“ไม่ดีเลยค่ะ” พลอยชมพูเบะปากคล้ายจะร้องไห้ เธออึดอัด และคับแน่นเหมือนจะปริแตก“มันจะดีหลังจากนี้” พบรักบอก พร้อมกับเริ่มส่ายวนสะโพกโยกคลึงตัวตนในแอ่งเนื้อแน่นหนึบ พลอยชมพูลืมตาขึ้น มองสบสายตาคมอย่างสงสัยใคร่รู้ เพียงแค่เขาเคลื่อนไหวเนิบนาบบนตัวเธอ ก็ก่อเกิดความแปลบปลาบหวามไหว ท้องน้อยแขม่วเกร็ง กล้ามเนื้อในร่องรักสาวตอดรัดความเป็นชายหนุบหนับ กลีบเนื้ออ่อนเหมือนขยับตอบรับสิ่งที่เขาทำ เธอรู้สึกเสียววาบในช่องท้อง แล้วความเจ็บเมื่อสั
เขาตวัดปลายลิ้นเหนือปุ่มที่ไวต่อสัมผัส เสียงครางแว่วหวานทำให้เขารัวลิ้นเร็วขึ้น เขาหงายฝ่ามือ ค่อยๆสอดนิ้วกลางเข้าสู่ช่องทางที่บีบรัดแน่นหนึบจนสุดโคนนิ้ว แช่นิ่งเพียงครู่ ก่อนชักออกสอดเข้าเชื่องช้า และเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนเสียงน้ำในแอ่งเนื้อนุ่มปะทะฝ่ามือใหญ่ดังหยาบโลนต่อเนื่องพลอยชมพูหวีดร้องเสียงหลง ใบหน้าแหงนเชิด หลับตาแน่น ร่างสาวสั่นสะท้านหวามไหว เมื่อถูกเขาเร่งเร้าผลักส่งจนใกล้ถึงจุดสิ้นสุดความอดทน บั้นท้ายอวบอัดแอ่นหยัดลอยเหนือที่นอน หัวใจกระตุกวูบ ให้ความรู้สึกราวกับร่วงหล่นจากที่สูง วูบไหว วาบหวิว ดำดิ่งลึกลงเรื่อยๆ เธอไม่รู้ว่าก้นบึ้งของหุบเหวกามานี้จะสิ้นสุดตรงไหน หญิงสาวกรีดร้องระงมให้กับความรู้สึกเสียวสะท้านแทบขาดใจ กระทั่งพบรักรวบดูดสัดส่วนหวงแหนของเธอเต็มปากแนบแน่น และกระทุ้งนิ้วสุดแรงครั้งสุดท้าย พลอยชมพูสะท้านเฮือก กรีดร้องสุดเสียง หญิงสาวปลดปล่อยตัวเองให้แตกซ่านหลั่งน้ำสวาทหยาดเยิ้ม ก่อนทิ้งตัวลงแนบที่นอนอย่างไร้เรี่ยวแรงราวกับอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก ลอยคว้างบางเบาอยู่ท่ามกลางปุยเมฆนุ่มขาว สุขสม ผ่อนคลาย พลอยชมพูหลับตา หอบหายใจหนักเพียงครู่ ก่อ
พบรักถอนจูบอ้อยอิ่ง คลอเคลียใบหน้ากับดวงหน้าใส ทั้งเขาและเธอหอบหายใจหนักพอกัน จะต่างกันหน่อยก็ตรงที่เขาต้องข่มกลั้นอารมณ์เร่าร้อนที่ปะทุรุนแรงอยู่ภายใน แต่เธอกำลังสับสนกับความต้องการที่ถูกเขาปลุกเร้าขึ้นมา “กระติ๊บ” พบรักเรียกเสียงแตกพร่า เขาเลื่อนใบหน้าลงซุกไซ้ลำคอขาวผ่อง พลอยชมพูกึ่งรู้ตัวกึ่งหลับ มันเหมือนฝันมากกว่าที่จะเป็นความจริง แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่รู้สึกตัวเอาเสียเลย ความวาบหวิวถูกปลุกให้ตื่นเพริด จูบอ่อนหวานเรียกร้องทำให้เลือดในกายสาวแล่นพล่าน สัมผัสจากมือระอุร้อนทำให้เธอสั่นสะท้าน สัดส่วนลี้ลับในกายสาวปวดหน่วงบีบรัดตอบสนองต่อการปลุกเร้า หญิงสาวบิดกายน้อยๆ ครางเสียงหวานแผ่วเบา ต่อเมื่อเต้าทรวงอวบอิ่มถูกปากร้อนครอบครองเชยชม สองมือบางก็ยกขึ้นขยุ้มเส้นผมดกหนาของคนที่ซุกซบอยู่แนบอก แผ่นหลังแอ่นโค้งเย้ายวนโดยไม่รู้ตัว “อืม...” ในความสับสนแสนร้อนรุ่ม พลอยชมพูถูกชักนำได้โดยง่าย เธอเหมือนเด็กน้อยที่ถูกล่อลวงด้วยขนมหวาน รสชาติของมันละมุนลิ้นแต่แฝงไว้ด้วยความหวานหวามน่าลิ้มลอง ผู้
เรือนร่างสาวสวยสะพรั่งเปลือยเปล่าถูกอุ้มมาวางลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุด คนอุ้มสวมเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบอยู่ผืนเดียวถอยห่างไปทันที แต่ไม่ไวไปกว่ามือเรียวบางที่คว้าหมับกระตุกเอาชายผ้าเช็ดตัวหลุดติดมือไป จนเจ้าของผ้าเช็ดตัวต้องถลาตามไปดึงเอาไว้ด้วยความตกใจ แต่กลับพลาดสะดุดขาตัวเองล้มลงทาบทับกายเปลือยนุ่มนิ่มที่นอนหงายอยู่บนเตียงเสียเต็มเปา ยังดีที่เขายั้งตัวเองไว้ได้ทันด้วยการใช้ข้อศอกดันตัวเองไว้ ไม่ให้น้ำหนักตัวทุ่มลงไปบนตัวเธอทั้งหมด ไม่อย่างนั้นคนตัวเล็กอาจจะกระดูกหักก็เป็นได้“กระติ๊บ ทำอะไรของคุณฮึ!” พบรักว่าเสียงเข้มทว่าไม่มั่นคง“นอนๆ นอนด้วยกันค่ะ” พลอยชมพูว่าเสียงอู้อี้ แถมยังใช้สองแขนกอดรัดร่างเกือบเปลือยของคนที่คร่อมทับตัวเองอยู่ไว้แน่น“จะนอนก็นอนไป ปล่อยผม”“ไม่ปล่อย จุ๊บๆก่อนนะคะพี่ต่าย”พบรักถอนหายใจ พลอยชมพูคงเข้าใจว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอ ชายหนุ่มจึงตัดใจหลับตาจุ๊บไปหนึ่งทีที่หน้าผากมน“ฝันดีนะคะ” พลอยชมพูว่าแล้วปล่อยวงแขนออก หญิงสาวหลับตาลงเอาดื้อๆ เป็นพบรักเสียเองที่เริ่มลังเลว่าจะลุกไปจากตรงนี้ทั้งที่มีโอกาสแล้วหรือไม่ เขาไ
“กระติ๊บ” พบรักเรียกคนที่ยังเมาไม่รู้เรื่อง หวังให้เธอได้สติสักน้อยนิดก็ยังดี เขาจะได้บอกให้เธอจัดการอาบน้ำทำความสะอาดตัวสักหน่อย ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่“ขา...” พลอยชมพูเงยหน้าขึ้น ขานรับเสียงยานคางหวานจ๋อย ทว่าดวงตาคู่งามยังหลับพริ้ม ริมฝีปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มหวานเย้ายวน“คุณควรอาบน้ำ” พบรักถอนหายใจ แล้วบอกคนที่ยืนอิงแนบอกตัวเองอยู่ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ควรอาบน้ำหรอก เขาก็ด้วย เพราะเปื้อนไปทั้งตัว ทั้งกลิ่นก็ชวนให้คลื่นเหียนอาเจียนออกมาสมทบกับเธอเหลือเกิน“ไม่อาบ จะนอนค่ะ” พลอยชมพูบอกแล้วซบหน้ากับอกกว้าง“ไม่อาบไม่ได้” พบรักบอกเสียงเข้ม จับบ่าของคนยืนโงนเงนดันตัวเธอออกห่าง“ไม่หวายยย...ง่วงค่ะ มึนหัวด้วย” พลอยชมพูส่ายหน้า โบกไม้โบกมือว่าไม่ไหวจริงๆพบรักถอนหายใจแรง ชักรำคาญยายเมรีขี้เมา ถ้ายังต่อล้อต่อเถียงกับเธออยู่นี่ เขาก็คงไม่ได้พักผ่อนสักที ชายหนุ่มจึงตัดสินใจดันร่างสาวไปยืนใต้ฝักบัว แล้วเปิดน้ำชำระล้างร่างกายเธอ ทว่าเมื่อคนเมาถูกสายน้ำรินรดตัวก็สะดุ้ง กระโดดเข้ามากอดเขาไว้แน่น“กระติ๊บ! ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย” พบรักอยากจะจับแม่ตั