เขาคลายกอดก่อนก้มลงมองหน้าไป๋ซินเหยาอย่างนึกแปลกใจ“เจ้าโกรธเรื่องใดกัน”“ท่านรู้ตอนไหนว่าเป็นอุบายของนาง”“ที่จริงข้าเริ่มเอะใจตั้งแต่ศิษย์ของเพ่ยเฉิงพาข้ามาที่สวนแล้ว”“แล้วท่านก็ตามนางมา”“ก็นางใช้ชื่อเจ้าแอบอ้าง แต่ข้าก็นึกแปลกใจที่เจ้าไม่เคยนัดข้าก่อน แต่วันนี้กลับนัด ข้าคิดว่าเจ้าคงอยากรู้เรื่องการประลอง ก็เลยนัดข้านอกเรือนพัก”“เจ้าก็ยอมเดินมานี่”“ข้าเพียงอยากรู้เรื่องการประลองของถงถง”“แต่เจ้าก็ไม่หนีกลับไป”“….”“ท่านยอมให้นางเปลื้องผ้า”“นั่นนางทำของนางเอง”“ท่านยอมให้นางกอดท่าน”“ก็นางกอดข้า มิใช่ข้าที่กอดนาง เหมือนที่ข้ากอดเจ้า”“ท่านไม่ยอมผลักนางออกเสียด้วยซ้ำไป ยอมให้นางกอด”“หากข้าปล่อย เป่าหยุนเซียนก็จะเปลือยกายต่อหน้าทุกคน เรื่องนั้น”“ข้ากลับล่ะ...”“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวสิ นี่เจ้าโกรธอะไรข้ากันแน่ ข้าแค่...”“ปกป้องท่านหญิง ก็ทำต่อสิเจ้าคะ”“เจ้าไม่ชอบที่ข้าทำเช่นนั้น”“ใช่ ข้าไม่ชอบ”“เจ้าไม่ชอบเพราะว่าเจ้าหึงข้า”“ใช่ ข้าหึงท่าน”“แสดงว่าเจ้าก็รักข้า เหมือนที่ข้ารักเจ้าใช่หรือไม่”ใจของลู่จื่อหยางเต้นรัวเมื่อรอฟังคำตอบ แต่นางหลบตาเขาและจะเดินหนี เขาไม่มีทางยอม ในเมื่
“เรื่องในราชสำนักช่างดูวุ่นวายจริงเจ้าค่ะ ว่าแต่ เรื่องการประลอง…”“พวกข้าหารือกันแล้วว่า จะให้ทั้งคู่ประลองกันใหม่ แต่ว่าแม่นางอันยังบาดเจ็บอยู่ จึงเป็นปัญหาว่าหากนางหายไม่ทัน อาจจต้องสละสิทธิ์ เรื่องนี้ทำเอาคณะอาจารย์ของตงหูไม่พอใจเจินฟางหรูอยู่เหมือนกัน”“พวกเขามิได้ตัดสิทธิ์เจินฟางหรูงั้นหรือเจ้าคะ”“แม้ข้าจะรู้ว่านางใช้เล่ห์กล หากแต่ว่าอีกสามสำนักที่เหลือก็ยังอยากให้โอกาสเพ่ยเฉิงได้ประลองใหม่ ข้าว่าหากไปตัดสิทธิ์นาง แม่นางอินอาจจะโกรธมากกว่า เพราะหากเป็นข้า คงอยากแก้แค้นนางมากกว่าจะให้นางถูกตัดสิทธิ์ไปง่ายๆ”“เป็นเช่นนั้นจริงเจ้าค่ะ แต่ว่า อาการบาดเจ็บของถงถง ก็ต้องดูว่าภายในสามวันนี้ นางจะหายทันหรือไม่”“นั่นก็อยู่ที่ตัวนางแล้วล่ะ เหยาเหยา แล้วเจ้าล่ะ อยากขึ้นประลองหรือไม่”“ข้ายังไม่ได้ตัดสินใจเจ้าค่ะ เรื่องนี้ สำหรับศิษย์นอกและคนนอก ต้องรอถึงรอบสุดท้ายมิใช่หรือเจ้าคะ ถึงจะขึ้นประลองได้”“ใช่ เห็นว่าเจ้าอยากได้ดอกบัวหิมะสวรรค์สีเงินนั่น ข้าเลยอยากถามดู แต่ว่าหากครั้งนี้เจินฟางหรูชนะคนของตงหูได้อีก มีสิทธิ์มากที่เจ้าจะได้พบกับนาง”“ข้ามิได้กลัวนาง นางไม่เคยชนะข้าได้"“เจ้าอย่าได
ลานประลอง“เหยาเหยา เจ้าว่าผู้ใดจะชนะ”“ข้าคิดว่าศิษย์พี่ไม่น่าจะพลาดเจ้าค่ะ”“คิดเหมือนข้า”“ท่านดูสิ คนของหงสุ่ยจะไม่ไหวแล้ว”เป็นดั่งที่คาด ซ่งจินเย่ชนะไปในรอบที่สองของการแข่งขันกับสำนักหงสุ่ย จินเย่ต้องเข้าไปสู้กับผู้ชนะของอ้ายเฟย นั่นก็คือเซียวจุนที่ชนะตงหูมาก่อนหน้านี้“เขาต้องเข้าไปสู้กับเซียวจุนจากอ้ายเฟย งานนี้ ยากสำหรับเพ่ยเฉิงแล้วล่ะ ศิษย์พี่ของเจ้าอาจจะแพ้”“เหตุใดท่านจึงคิดเช่นนั้นเจ้าคะ”“ทักษะยุทธ ความว่องไวและความเด็ดขาดของเขา ฝีมือน่าจะสูสีกับสิงอี้หานของฉีกวง หากเดาไม่ผิด คู่นี้คงเป็นคู่ชิงในรอบสุดท้าย”“ข้าก็คิดเช่นนั้นเจ้าค่ะ กระบวนท่าของศิษย์พี่ขาดความเด็ดขาดและความเร็วก็สู้สำนักอ้ายเฟยไม่ได้จริงๆ”“อ้อ ข้าลืมบอกไป วันประลองของแม่นางอันกับแม่นางเจินจะประลองกันอีกสามวันให้หลังนี้ เจ้าก็จงไปบอกให้นางเตรียมตัวเอาไว้ สองวันถัดจากนี้จะพักการประลองเพื่อให้ผู้ที่ผ่านเข้ารอบได้พักผ่อนและฝึกวิชาเพิ่มเติมเพื่อแข่งขันรอบสุดท้าย”“ฉะนั้น ถงถงกับฟางหรูก็จะเป็นคู่แรกของวันประลอง”“ถูกต้องแล้ว เหยาเหยา เจ้ายังคิดที่จะลงสนามหรือไม่”“อาจจะไม่แล้วเจ้าค่ะ หากข้าลง ก็ไม่แน่ว่าจะเจอศ
“ท่านเองก็รู้สึกงั้นหรือเจ้าคะ”“ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร แต่พอเห็นเขาเข้าไปหาพวกเจ้า ข้าก็เริ่มมั่นใจขึ้น เพียงแต่ เขาจะมาด้วยเรื่องใดนั้น ไม่แน่ใจ เอาเป็นว่าช่วงนี้เจ้าก็ระวังตัวเอาไว้ให้มาก ทางที่ดีอย่าอยู่ห่างข้ามากจะดีที่สุด”“ท่านคงไม่ได้คิดหึงหวงอีกใช่หรือไม่เจ้าคะ”“เจ้าคิดมากไปแล้ว อารมณ์นั้นต้องมีอยู่แล้ว แต่มันไม่เท่ากับความปลอดภัยของเจ้า ข้าเกรงว่าเป้าหมายของเขาจะใหญ่มากกว่านั้น”การประลองของศิษย์หญิงของซินอี้และอ้ายเฟยจบด้วยการชนะของซินอี้ ที่ไปรอคู่ชนะระหว่างถงถงและเจินฟางหรูในการประลองอีกสามวันข้างหน้า และเมื่อการประลองจบลง ก็เป็นการแจ้งเรื่องรายละเอียดรอบรองชนะเลิศสำหรับทีมศิษย์ของสี่สำนักที่เหลือ คือฉีกวง อ้ายเฟย ตงหู และซินอี้ที่จะทำการจับสลากในอีกสองวันข้างหน้าที่ลานประลองพร้อมกัน“ต้องรออีกสองวันจึงจะรู้ว่าจะได้สู้กับผู้ใด ศิษย์พี่แบบนี้เราจะไม่แย่หรือ”“ไม่หรอก เห็นๆ อยู่ว่าเขาตั้งใจให้เราฝึกซ้อมเพื่อรับมือได้ทุกสำนัก ตอนนี้มีเพ่ยเฉิงที่แพ้ไป เหลืออีกสามสำนักที่เราต้องเร่งศึกษากระบวนท่าและขยันฝึกซ้อม”สิงอี้หานเดินนำศิษย์น้องกลับเรือนพัก ก่อนที่จะถึงทางแยกที่สวน เขาก็ใ
“ท่านไปบอกเขาแบบนั้นจะดีหรือเจ้าคะ ถงถงยังไม่ได้พูดสิ่งใดเลย”“ก็ถ้ามัวแต่รอ ชาติหน้าก็คงไม่ได้บอกหรอก ดูอย่างเจ้าสิ หากว่าข้า…”“ท่านหยุดพูดไปเลยเจ้าค่ะ เรื่องแบบนี้เอามาเปรียบเทียบกันได้ด้วยหรือ ดื่มชาแล้วก็กลับไปได้แล้วเจ้าค่ะ”“อะไรกัน ใช้งานเสร็จก็ไล่ข้าเลยงั้นหรือ แล้วถ้าข้าบอกว่าไม่กลับเล่า เจ้าจะทำอะไรข้าได้”“เอาแต่ใจตัวเอง”“เหยาเหยา ด้านหลังน้ำตกนี่คืออะไรเจ้าเคยรู้หรือไม่”นางหันไปมองที่น้ำตก นางสังเกตว่าเขามองไปที่น้ำตกบ่อยครั้งแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมจนเขาเอ่ยถามขึ้นมา“ไม่ทราบเลยเจ้าค่ะ ตอนมาฝึกที่นี่ใหม่ๆ อาจารย์มักจะให้เรามาแช่น้ำตกและทำสมาธิที่นี่ แต่ก็ไม่ได้พูดสิ่งใดนี่เจ้าคะ ท่านสงสัยอะไรงั้นหรือ”“เจ้าเคยรู้หรือไม่ว่าสำนักเพ่ยเฉิงเคยมีผู้แอบฝึกวิชามารจนทำให้ถูกขับออกจากสำนัก”“พอทราบเจ้าค่ะ เป็นศิษย์น้องของอาจารย์ข้าอีกที แต่มิใช่ผู้ที่สอนข้า”“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขายังถูกขังอยู่ที่สำนักนี้ ตั้งแต่ที่อาวุโสลี่คุณทำลายวรยุทธของเขาทิ้ง”“ไม่ทราบเลยเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าเขาถูกเนรเทศลงเขา นี่ท่านกำลังจะบอกอะไรข้าเจ้าคะ”“ข้ากำลังสงสัยว่า ห้องลับที่กักขังนักโทษ ที่สามารถพรางตาคน
“ข้าไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเสียหน่อย เป็นท่านเองต่างหากที่มาหลงรักข้าเอง”“เจ้าไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร คืนนี้ข้าจะจัดการคนปากแข็งอย่างเจ้า ดูสิว่าจะปากแข็งแค่ไหน”เมื่อพูดจบเขาก็ช้อนร่างของนางไว้ในอ้อมกอด ซินเหยาเองก็มิได้ขัดขืนแต่อย่างใด นางโอบรอบคอผู้ที่อุ้มนางอย่างว่าง่ายและยอมให้เขาวางลงบนเตียง ม่านรอบเตียงถูกดึงออกมาเพื่อคลุมผู้ที่อยู่ด้านใน และลู่จื่อหยางก็เริ่มจัดการโจรสาวอย่างที่เขาพูดเมื่อครู่ทันทีไป๋ซินเหยาตื่นมาตอนเช้าก็พบว่าข้างกายนางว่างเปล่าเฉกเช่นทุกคืนที่ลู่จื่อหยางมาหานาง เขามักจะออกไปตอนก่อนรุ่งสางทุกคืนโดยที่นางยังหลับสนิทอยู่ เพียงแค่วันนี้ เขาปล่อยให้นางเปลือยเปล่าและไม่ได้สวมเสื้อผ้าเอาไว้ให้“คนบ้า นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป อูย ปวดเอวไปเสียหมด”นางนั่งบ่นพร้อมกับใช้มือทุบๆ รอบเอว เพราะเมื่อคืนนี้กว่าลู่จื่อหยางจะยอมให้นางได้พักผ่อนก็เกือบเข้ายามโฉ่ว (ตี1) ไปแล้ว จำได้เพียงว่านางนอนหอบหมดแรงและเขาเป็นผู้ที่ดึงผ้าห่มมาห่มและกอดนางเอาไว้ก่อนที่จะนอน“จริงด้วย วันนี้ต้องไปหาถงถงนี่นา”ซินเหยาลุกขึ้นไปอาบน้ำและแต่งตัวเดินออกมา นางจึงพบว่าสิงอี้หานมานั่งรอที่ระเบียงหน้าเรือนพ
“มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใดกัน มันรวดเร็วมากเหลือเกิน”“ข้าก็ไม่แน่ใจเจ้าค่ะ แต่ว่าความรู้สึกข้าไม่มีทางโกหกได้เจ้าค่ะ”“ข้าเข้าใจแล้ว ซินเหยา คุณชายลู่เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง หากเจ้าลงเอยกับเขาได้ ข้าก็จะดีใจด้วย เอาล่ะ ข้าไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของเจ้าแล้ว รีบไปพักเถิด”“เจ้าค่ะ ศิษย์พี่ ท่านก็เดินกลับดีๆ หายเร็วๆ นะเจ้าคะ”“ไม่ต้องห่วง ข้าใกล้จะหายแล้วล่ะ ขอบใจเจ้ามากนะ”ซินเหยาเดินกลับเข้าไปที่ห้องของนางและถูกร่างหนารัดเอวเอาไว้จนนางตกใจก่อนจะฟาดฝ่ามือไปและถูกเขาสกัดได้“ข้าเอง”“จื่อหยาง นี่ท่านมาแอบอะไรอยู่ตรงนี้”“หากข้าไม่แอบ เกรงว่าศิษย์พี่เจ้าจะมิกล้าสู้หน้าข้าแล้วนะ”“ท่านอยู่ที่นี่นานเท่าใดแล้ว”“ก็ตั้งแต่เจ้ามา”“ถ้าเช่นนั้น ท่านก็…ได้ยินหมดเลยสินะ”“เจ้าพูดได้ดีมาก ครั้งนี้ข้าจะให้รางวัลเจ้า”เขาไม่พูดเปล่า แต่กลับก้มหน้าเข้ามาหานางด้วย ไป๋ซินเหยาดันหน้าเขาที่ก้มลงมาออกไปและผลักเขาให้นั่งลงเก้าอี้ในห้อง“ท่านอย่าเอาเปรียบข้าสิ เหตุใดข้ารู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นรางวัล หรือการลงโทษจากท่าน มันถึงได้ไม่ต่างกันก็ไม่รู้สิ”“ข้าว่าต่างกันนะ ตรงความรู้สึกที่ทำ หากว่าให้รางวัลข้าก็จะนิ่มนวลกับ
เมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ทำภารกิจทุกอย่างเสร็จก็ไม่ผิดคาดของไป๋ซินเหยาที่นางต้องอยู่ค้างที่นี่ เพราะลู่จื่อหยางไม่ยอมให้นางกลับเรือนพัก ทั้งคู่สวมชุดนอนและเข้านอน คืนนี้เป็นอีกคืนที่ฝนตกหนัก“คืนนี้ฟ้าร้องเสียงดังจังเลย”“เจ้ากลัวหรือไม่”“ไม่เจ้าค่ะ”เขากระชับนางเข้ามาในอ้อมกอดให้แน่นขึ้น พร้อมกับลูบเรือนผมนุ่มของนางไปด้วย“เหยาเหยา เจ้าเคยคิดอยากจะไปเมืองหลวงบ้างหรือไม่”“ท่านถามข้าแบบนี้ทำไมเจ้าคะ”“ข้าแค่ถามดู หรือว่าเจ้าชอบอยู่ที่เจียงหยางมากกว่า”“ก่อนหน้านี้ข้าก็เคยมีความคิดจะย้ายไปที่อื่นเหมือนกันเจ้าค่ะ ชีวิตข้ามีแต่ท่านแม่ ตั้งแต่ที่บ้านถูกลอบวางเพลิงเมื่อหลายปีก่อน ข้าก็อยากย้าย แต่ท่านแม่ ยินยันที่จะอยู่ที่เจียงหยาง ข้าคิดว่าเป็นเพราะท่านพ่อ นางจึงไม่คิดจะย้าย แม้ว่านางจะตกอยู่ในอันตรายแค่ไหนก็ตาม”“แล้วตอนนี้เล่า เจ้าคิดเช่นไร ข้าอยากรู้”“ในเมื่อท่านแม่ก็กลับไปอยุ่กับท่านพ่อแล้ว และหากว่า…ข้าต้องแต่งงานออกไป ท่านอยู่ที่ใดข้าก็ต้องอยู่ที่นั่นเจ้าค่ะ”“แม้ว่าสถานที่นั้น จะเป็นที่ที่เจ้าไม่คุ้นเคย เต็มไปด้วยกฎระเบียบที่เจ้าไม่ชอบ เจ้าจะทนได้งั้นหรือ”“ท่านคงมิได้ให้ข้าเข้าไปอย
ใบหน้าของเขาตกใจระคนดีใจเมื่อมองไปที่ใบหน้าอันงดงามของพระชายาที่บอกเขาเรื่องนี้ มิน่าเล่านางจึงไม่ยอมให้เขาทำ เพราะต้องการบอกข่าวดีนี้ก่อนที่จะเข้าหอ“จริงหรือ เหยาเหยา เจ้าจะบอกว่า ในท้องเจ้าตอนนี้…มีลูกของเราอยู่เช่นนั้นหรือ”“เพคะ เพราะฉะนั้น พระองค์จะทำอะไร…ก็ จะหักโหมเช่นเดิมมิได้นะเพคะ”“ข้าดีใจยิ่งนัก ข้าดีใจที่สุดเลย เหยาเหยา นี่มันเรื่องดีมากจริงๆ เหตุใดเจ้าไม่บอกข้าก่อนหน้านี้ พิธีการทั้งหลายนั่น ข้าจะได้สั่งลดเพื่อไม่ให้เจ้าและลูกต้องเหนื่อยมากขนาดนี้”“ข้าปรึกษาแม่นมแล้วเพคะ แม่นมก็จัดการทุกอย่างให้รวบรัดแล้ว ก่อนหน้านี้หม่อมฉันมีอาการแพ้ท้องหนัก ทั้งจวนเลยวุ่นวายเกรงว่าข้าจะทนไม่ไหว ทั้งเครื่องประดับและชุดหนักๆ นี่ก็ถูกถอดออกไปหลายชิ้นเหลือเพียงสิ่งที่สำคัญๆ ไว้เท่านั้นเพคะ”“นี่ขนาดเจ้าเอาออกไปบ้างแล้ว แต่เหตุใดมันยังดูเยอะและหนักอยู่เล่า ตอนนี้เจ้ารู้สึกเช่นไรบ้าง อยากกินอะไรหรือไม่ เจ้ายังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้านี่นา ข้าจะไปสั่งให้คนยกอาหารมาให้นะ”ว่าแล้วเขาก็รีบเดินไปเปิดประตู แม่สื่อถึงกับตกใจที่เจ้าบ่าวจู่ ๆ ก็เปิดประตูออกมา แต่เขาเพียงสั่งอาหารเพื่อให้เจ้าสาวเ
พระราชพิธีผ่านไปด้วยความราบรื่นและโล่งอกของทั้งแม่นมหวงและพระชายาหลิวอ๋องที่มีความกังวลเกี่ยวกับอาการแพ้ท้องของเจ้าสาวซึ่งไม่ต้องการแจ้งข่าวนี้ให้กับผู้อื่นทราบเจ้าบ่าวเองก็แทบจะไม่อยากรับแขกอีกต่อไป เขาอยากจะเร่งให้จบงานเลี้ยงที่ท้องพระโรงเร็วๆ เสียเหลือเกินเพราะคิดถึงเจ้าสาวที่เฝ้ารอมาหลายสิบวันเต็มที่แล้วตำหนักบูรพา ห้องส่งตัวเจ้าสาว“พระชายา อีกประเดี๋ยวเมื่อองค์ไท่จื่อเข้ามา จะเปิดหน้าเจ้าสาวก่อน และดื่มสุรามงคล คืนนี้จะมีแม่สื่อเฝ้าอยู่หน้าห้องจนกว่าไฟในห้องจะดับลงเพื่อส่งตัวพวกท่านเข้าหอ พิธีเข้าหอ ห้ามมิให้คู่บ่าวสาวออกจากห้องหอจนกว่าจะรุ่งสาง”“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะแม่นม”“เอาล่ะ ตอนนี้ข้าจะออกไปแล้วนะเพคะ องค์ไท่จื่อน่าจะกำลังมาแล้ว”“ขอบคุณแม่นมเจ้าค่ะ”เป็นดังคาด องค์ไท่จื่อ เว่ยจื่อหยางเสด็จมาถึงห้องส่งตัวก่อนเวลาถึงสองเค่อ เขาไม่อาจรอได้อีกต่อไปแล้ว เขาทิ้งให้องค์ชายห้า เจ้าบ่าวอีกคนทำหน้าที่รับแขกแทนเขา แล้วเขาก็มาที่ห้องส่งตัวก่อน องค์ชายห้าเข้าใจความรู้สึกของจื่อหยางดี เขาจึงรับหน้าที่ดูแลแขกในงานแทนน้องชายประตูห้องส่งตัวถูกเปิดออก เว่ยจื่อหยางเดินเข้ามา ตอนแรกเขารี
ท่านหมอวิ่งเข้าไปยังห้องที่ซินเหยานอนพักอยู่ ตอนนี้นางหยุดอาเจียนแล้ว เขาเริ่มจับชีพจรของนางก่อนและก็หันมามองที่แม่นมหวงและพระชายาที่มองไปที่คนป่วยอย่างนึกเป็นห่วง ท่านหมอลุกขึ้นมาพร้อมกับความตกใจของทั้งคู่“ท่านหมอ เหตุใดตรวจเพียงนิดเดียว นางเป็นหนักถึงเพียงนี้ ท่านจะรีบลุกไปไหนกัน”“ยินดีกับพระชายาด้วย คุณหนูตั้งครรภ์แล้วขอรับ”ทั้งสองที่รอฟังเบิกตากว้างด้วยความตกใจระคนดีใจ พร้อมกับแม่นมที่คอยตบแขนพระชายาหลิวอ๋อง“พระชายา ท่านได้ยินหรือไม่ ข่าวดีเช่นนี้ พระชายา”“มีครรภ์ เหยาเหยามีครรภ์ แม่นม ข้ามิได้ฟังผิดไป”“ไม่ผิดเจ้าค่ะ เร็วเข้า พวกเจ้ารีบไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้คุณหนู ท่านน่ะ รีบไปเตรียมอาหารบำรุง ข้าจะรีบจดให้ว่าต้องซื้อสิ่งใดบ้าง พระชายา ท่านอยู่เป็นเพื่อนคุณหนูก่อน ข้าจะรีบไปช่วยท่านป้าฝูเตรียมของบำรุง”“ท่านหมอ แล้วช่วงนี้ต้องระวังสิ่งใดบ้างเจ้าคะ”“พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงไป ไม่มีอะไรหนัก ช่วงนี้ให้นางพักผ่อนมาก ๆ อย่ายกของหนัก ห้ามวิ่ง ระวังเรื่องอาหารรสจัด ส่วนเรื่องอื่น ไม่น่าต้องเป็นห่วง ช่วงครรภ์อ่อนๆ การพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญ”“ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ”“ยินดีด้วยๆ พระช
พระราชพิธีแต่งตั้งองค์ไท่จื่ออย่างเป็นทางการได้ผ่านไปสองวันแล้ว เหลืออีกเพียงสิบวันก็จะถึงวันพระราชพิธีสมรสและแต่งตั้งพระชายาองค์ไท่จื่อจวนสกุลหลิวต่างเร่งตกแต่งจวนและส่วนหนึ่งก็รีบจัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับงานใหญ่ ไม่คิดว่าการกลับมาเมืองหลวงในครั้งนี้จะเกิดเรื่องมากมายถึงเพียงนี้“พวกเขามากันแล้ว อาจารย์ ศิษย์จะไปต้อนรับพวกเขาเอง”“ไปเถอะๆ แล้วพาพวกเขาไปห้องพักด้วย”“ขอรับอาจารย์”เซียวจุนวิ่งออกไปหน้าจวน รถม้าสองคันที่จอดต่อกันอยู่เพื่อมาร่วมงานสำคัญที่จะเกิดขึ้นในอีกสิบวันข้างหน้า เซียวจุนวิ่งออกมารอรับพวกเขา ประตูรถม้าคันแรกเปิดออกมาแล้ว สิงอี้หานเดินนำหน้าออกมาพร้อมกับพยุงอันถงถงลงมาจากรถม้า ก่อนจะลงมาทักทายเซียวจุนที่รออยู่หน้าจวน“คุณชายสิง แม่นางอัน ยินดีต้อนรับ การเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง”""คุณชายเซียว""พวกเขาเอ่ยทักขึ้นพร้อมกัน ไป๋ซินเหยาเล่าเรื่องเซียวจุนในจดหมายให้พวกเขาฟังแล้วก่อนเดินทางมาที่นี่ พวกเขาพบเซียวจุนอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้ เซียวจุนจะดูเป็นมิตรมากกว่าที่เจอตอนอยู่เขาเซียนซี“พี่เซียว พวกข้าปลอดภัยดี ระยะทางค่อนข้างไกลแต่เดินทางสะดวก ได้ข่าวว่าท่านบาดเจ
จื่อหยางรีบลุกขึ้นจากตักของซินเหยาที่เขากำลังนอนหนุนอย่างสบาย และหันมากอดนางแทน“ข้าก็ไม่ได้อยากโกหกเจ้านะ เพียงแต่เหตุการณ์บางอย่างทำให้ข้าบอกเจ้าไม่ได้ หากบอกเจ้าไป เรื่องบางเรื่องอาจจะไม่เป็นเช่นนี้ ไหนเจ้าบอกว่าไม่โกรธข้าแล้วอย่างไรเล่า”“ข้าก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ เป็นท่านที่ร้อนตัวออกมาเอง”“ก็ได้ๆ ข้าผิดเองๆ ทุกเรื่องเลย ข้าผิดแต่เพียงผู้เดียว”“แล้วหลังจากนั้นเล่าเพคะ”“จากนั้น เซว่านชิงก็เอาขวดยานั่นมาให้ข้ากับเสด็จพี่ตรวจดู พบว่ามันเป็นยาพิษ พวกเราเลยสลับขวดใหม่และซ้อนแผนนาง ทำให้เซว่านชิงทำเหมือนทำตามแผนของนาง ข้ารู้ว่านางกำนัลนั่นเป็นคนของหยุนเซียน นางต้องฟ้องแน่ และก็อย่างที่เจ้าเห็นนั่นแหละ”“มีเพียงข้าคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องแผนการนี้”“นั่นเพราะพวกเราไม่มีเวลาบอกกับเจ้า เซว่านชิงเองก็บอกเจ้าไม่ได้เพราะนางกำนัลสองคนนั้นจับตาดูพวกเจ้าอยู่ นางจึงทำได้เพียงทำตามแผนเท่านั้น”“ท่านไม่เชื่อว่าข้าจะเป็นคนทำตั้งแต่แรก”“ข้าไม่มีทางเชื่ออยู่แล้ว เจ้าไม่ใช่คนแบบนั้น และคงไม่โง่ขนาดที่จะวางยาพิษอย่างโจ่งแจ้งแบบนั้น ดูก็รู้ว่าเรื่องนี้ต้องมีคนใส่ร้ายเจ้าแน่ ๆ”“ขอเพียงพระองค์เชื่อ หม่อม
“ข้ากลัวว่าเจ้าจะปฏิเสธข้า ไม่ยอมรับข้า เจ้าเป็นคนรักอิสระดั่งนกที่โบยบินอยู่บนท้องนภาที่ยิ่งใหญ่ แต่ตัวข้าคือพญาอินทรีที่ต้องคอยเฝ้ามองสรรพสิ่ง คอยจัดการกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องและกำจัดเหยื่อที่มารุกราน ข้ากลัวว่าหากเจ้าไม่รักข้าก่อน ข้าจะไม่สามารถกุมหัวใจเจ้าได้ เจ้าจะโบยบินจากข้าไป นั่นคงทำให้ข้าไม่มีแรงที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป”“แต่อย่างไรพระองค์ก็ต้องเลือก และสิ่งที่เลือกก็ช่างยิ่งใหญ่ แม้จะไม่มีหม่อมฉัน พระองค์ก็ยืนหยัดเพื่อราษฎรได้นะเพคะ”“เมื่อก่อนได้ แต่ตอนนี้ข้าไม่แน่ใจ เหยาเหยา เจ้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตข้า ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ที่หัวใจข้าถูกเจ้าขโมยมันไปจนหมดสิ้น ข้าไม่เป็นตัวของตัวเอง ข้าผู้ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใด กลับกลัวว่าเจ้าจะไม่พอใจ อารมณ์เจ้าขึ้นๆ ลงๆ ก็ทำให้ข้ากลัวจนทำอะไรน่าอับอายมากมาย ข้ามักจะทำตัวไม่ถูกเวลาที่อยู่ต่อหน้าเจ้า นึกๆ ไปแล้ว พอเป็นเรื่องของเจ้า ข้ารู้สึกว่าข้าเป็นเพียงแค่ลูกนกหัดบินเท่านั้น และไม่รู้ตัวว่าเมื่อไหร่ ที่ขาดเจ้าไม่ได้ รู้แต่ว่าตอนนี้ อีกครึ่งชีวิตที่เหลือของข้า อยากจะอยู่กับเจ้าตลอดไป”“พระองค์พูดเช่นนี้ ต้องการให้หม่อมฉันยกโทษให้งั
ไป๋ซินเหยาหันมามองหน้าเว่ยจื่อหยางด้วยความตกใจเช่นกัน เรื่องนี้เขาไม่เคยบอกนางมาก่อน ฐานะที่แท้จริงของเขาพึ่งมาเปิดเผยวันนี้ นางหันไปมองที่ท่านอา ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะรู้ก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว“ที่แท้พระองค์เฝ้าระวังมาโดยตลอด พระองค์ระแวงกระหม่อมมาโดยตลอด หึ นี่คือสิ่งตอบแทนข้ารับรับใช้ที่ซื่อสัตย์”“ซื่อสัตย์ ท่านยังกล้าพูดว่าท่านซื่อสัตย์เช่นนั้นหรือ ท่านอาศัยเอาความบาดหมางของพระชายารองหลิวอ๋อง ยุยงให้แม่ทัพหลิงร่วมมือกับท่านเพื่อจะก่อกบฏแบ่งแยกดินแดน ยังดีที่เสด็จพี่ข้าเชี่ยวชาญการทูต สามารถเกลี้ยกล่อมให้แม่ทัพหลิงล้มเลิกความคิดนี้ได้ คิดว่าท่านจะหยุด แต่ไม่เลย ท่านกลับหาเรื่องใช้บุตรสาวคิดแผนการร้าย จะป้ายสีให้พระสนมกับองค์หญิงแคว้นเหวยหน่วนมีความผิดเพื่อยุยงให้แคว้นเหวยหน่วนก่อสงครามและท่านก็จะเป็นนกขมิ้นที่ตามเก็บผลประโยชน์ในภายหลัง ท่านยังกล้าพูดว่าท่านเป็นขุนนางซื่อสัตย์ ท่านไม่อายปากบ้างหรือ”“ฮ่าๆๆ องค์ชาย ไม่ ไม่สิ องค์ไท่จื่อ แม้แต่เรื่องนี้ท่านก็สืบรู้จนหมด นับถือจริงๆ ที่แท้ พวกท่านเดินทางไปเจียงหยางเพราะเรื่องแม่ทัพหลิงนี่เอง ถึงว่า เขาไม่คิดจะติดต่อข้ามาอีกเลย ข้าคิดว่าทอ
ฝ่าบาทเป็นผู้สั่งการเองโดยไม่รอให้เสนาบดีเป่าร้องขอชีวิตบุตรสาว เขาเองก็คงไม่ได้อยากทำเช่นนั้น การเก็บบุตรสาวที่ทำให้ชื่อเสียงของสกุลเป่าเสื่อมเสียเอาไว้เป็นเรื่องที่ไม่มีอยู่ในความคิดของเขา ตัดเนื้อร้ายออก อย่างไรก็ยังดีกว่าที่เสียหายทั้งตระกูล“หมอหลวง อาการฮองเฮาเป็นเช่นไรบ้าง”“ทูลฝ่าบาท ฮองเฮาปลอดภัยดี ชีพจรเต้นคงที่ ราวกับว่าพระองค์กำลังพักผ่อนอยู่ ทางที่ดีปล่อยให้พระองค์นอนพักผ่อนอย่าให้ผู้ใดไปรบกวนจะเป็นการดีพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องนี้ก็ฝากให้พวกท่านจัดการก็แล้วกัน”“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ”หมอหลวงออกไปแล้ว พระสนมโม่เฟยเองก็ถูกสั่งให้ไปพักพร้อมกับองค์หญิงเซว่านชิง ตอนนี้เหลือเพียงฝ่าบาท องค์ชายทั้งสอง เสนาบดีเป่า ไป๋ซินเหยาและหลิวอ๋องที่อยู่ในกระโจม“ไป๋ซินเหยา เรื่องนี้ต้องขอโทษเจ้าที่ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม”“ฝ่าบาทอย่าได้ทรงกังวลเพคะ เพียงเรื่องคลี่คลายได้หม่อมฉันก็ไม่ติดใจเอาความแล้วเพคะ”“ฝ่าบาท บุตรีกระหม่อมอายุยังน้อย ที่ทำไปก็เพราะอารมณ์ชั่ววูบ หวังว่าฝ่าบาทจะไม่ลงโทษนางมากเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”“หึ เสนาบดีเป่า ท่านบอกว่านางอายุน้อย ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่ที่นางจะเอาชีวิตคือฮ
“เป่าหยุนเซียน แล้วที่เจ้าโวยวายว่าฮองเฮาถูกวางยาพิษและกล่าวโทษผู้อื่นนี่มันอย่างไรกัน ข้าต้องการคำอธิบาย”ฝ่าบาทหันมาถามเอาความกับหยุนเซียนที่นั่งคุกเข่าสั่นอยู่กับพื้น“ฝ่าบาท คิดว่านางคงตกใจเพราะนางนั่งอยู่กับฮองเฮาและคงตกใจเมื่อเห็นว่าฮองเฮาล้มลง จึงคิดว่านางถูกพิษพ่ะย่ะค่ะ”เป่าอี้หยวนเป็นผู้แก้ต่างให้บุตรสาวเพื่อให้นางได้พ้นข้อกล่าวหาโง่ๆ นี้ หากไม่ใช่นางที่โวยวายทำแตกตื่น เรื่องนี้คงมิได้ลุกลามเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้“งั้นหรือ แล้วเหตุใดนางถึงได้กล่าวโทษไป๋ซินเหยากับองค์หญิงทันทีที่คิดว่าฮองเฮาโดนยาพิษเล่าท่านเสนาบดี”“เรื่องนี้ข้าคิดว่าข้าอธิบายได้เพคะ”เซว่านชิงเดินก้าวออกมาเผชิญหน้ากับเป่าหยุนเซียนที่นั่งส่ายหน้าร้องขอความเห็นใจจากเซว่านชิงอยู่ แต่ตอนนี้นางเห็นธาตุแท้ของเป่าหยุนเซียนแล้ว เมื่อหลอกใช้นางแล้วยังจะโยนความผิดให้นางและเสด็จอาที่เป็นพระสนมรับเคราะห์ไปด้วยเพื่อให้ตนเองได้พ้นผิด“องค์หญิง เจ้าหมายความว่าเช่นไร”“ทูลฝ่าบาท ก่อนหน้านั้นเป็นท่านหญิงผู้นี้ที่เข้ามาทำตัวสนิทสนมกับหม่อมฉันและพระสนมเพื่อยุให้หม่อมฉันทำร้ายแม่นางไป๋เพคะ รวมถึงเหตุการณ์วันนี้...”“องค์หญิง ท่