Share

ไร้อนาคต

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-25 21:42:34

     การไม่เป็นที่ต้องการ ไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว

     ความเหงา อ้างว้าง และเจ็บปวดที่ถูกหมางเมินนั่น นำพาให้ความรู้สึกของสามีภรรยาในนามค่อยๆ เปลี่ยนไป คนหนึ่งอยากก้าวผ่านความสัมพันธ์และครองรักกันไปจนแก่เฒ่า แต่กับอีกคน...อย่างไรก็ไม่อาจตอบรับความรู้สึกและขอมอบเพียงมิตรภาพกลับไปเท่านั้น

     “กู่เสี่ยวถิง! เจ้าฟังพ่ออยู่ไหม!”

     กู่เสี่ยวถิงสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เงยหน้ามองกู่กวงซิวพร้อมอ้าปากหาว “ท่านพ่อ ฟ้ายังไม่ทันสางเลยนะเจ้าค่ะ เหตุใดต้องให้พวกสาวใช้ลากข้ามาด้วย”

     “เดี๋ยวเถอะนะ! นี่เจ้ายังไม่รู้อีกหรือว่าทำอะไรผิดไว้” หลี่เฟยที่นั่งอยู่ข้างสามีเอ่ยตำหนิ

     “เรื่องที่ข้าขอหมั้นหมายกับโจวโซวเชินน่ะหรือ”

     กู่กวงซิวพ่นลมหายใจ บุตรสาวคนนี้ชอบก่อปัญหาไม่หยุดหย่อนเลยจริงๆ หากไม่ไปหาเรื่องคนอื่น ก็มักหาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเองอยู่เสมอ ใจนั่นอยากให้นางรีบแต่งออกเรือนไปเสีย เขาและภรรยาจะได้ไม่ต้องคอยตามเช็ดตามล้างสิ่งที่นางทำไว้

     “ท่านพ่อกำลังคิดว่า ควรให้ข้าออกเรือนไปเร็วๆ ใช่ไหมเจ้าคะ”

     กู่กวงซิวผงะ กำลังจะตอบปฏิเสธ แต่ก็ปฏิเสธไม่ลง

     “ข้ารู้ว่าข้าเป็นตัวปัญหาของพวกท่าน ทางที่ดีควรให้สามีในอนาคตอบรมสั่งสอนให้อยู่ในกฎเกณฑ์ แต่ข้าซึ่งเป็นสตรีดื้อรั้นไม่ยอมแต่งกับใคร ยกเว้นแม่ทัพจงหยางอี้ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่พวกท่านกลุ้มใจใช่หรือไม่”

     กู่กวงซิวชำเลืองมองไปทางหลี่เฟย ส่งสายตาคล้ายจะถามว่ากู่เสี่ยวถิงอ่านใจเขาออกได้อย่างไรกัน

     “ท่านพ่อท่านแม่ อย่างไรสตรีก็ต้องออกเรือน หากข้าไม่เลือกคู่ด้วยตัวเอง ไม่ช้าก็เร็ว พวกท่านก็ต้องยัดเหยียดหามาให้ข้ามิใช่หรือ”

     กู่เสี่ยวถิงในนิยายมิสามารถขโมยหัวใจของจงหยางอี้มาได้ หนำซ้ำยังทำให้สกุลกู่ต้องถูกผู้คนประณามว่าอบรมบุตรสาวอย่างไรถึงโตขึ้นมามีนิสัยร้ายกาจเพียงนี้

     บิดามารดาไม่อาจแบกรับความอับอายได้ไหวอีกแล้ว พวกเขาจึงยกกู่เสี่ยวถิงให้แต่งกับบุตรชายคนเล็กของท่านอ๋อง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าชายผู้นี้เสเพลเพียงใด ไม่เพียงตบตีทำร้ายแต่ยังยกนางให้เป็นนางบำเรอแก่เหล่าสหายของตนอีกด้วย

     ด้วยเคราะห์กรรมที่สาดซัดดุจเกลียวคลื่นนี้เอง กู่เสี่ยวถิงยิ่งบ่มเพาะความชั่วช้าเลวทรามมากขึ้น นางไม่เพียงอาฆาตหวงหนิงเซียนที่แย่งจงหยางอี้ไป แต่ยังสั่งคนให้มาสังหารบิดามารดาของตนอีกด้วย!

     “หากต้องถูกจับคลุมถุงชน สู้ให้ข้าเลือกคู่ครองที่ต้องการเองดีกว่านะเจ้าค่ะ” กู่เสี่ยวถิงขอร้อง

     กู่กวงซิวครุ่นคิดสักพักก่อนจะส่ายหน้า “อย่างไรก็ไม่ได้”

     “ท่านพ่อ”

     “เป็นคนอื่นไม่ได้หรือไง คุณชายคนอื่น ยกเว้นคุณชายสาม เจ้าก็รู้ว่ามารดาเขาเป็นสตรีที่น่ารังเกียจแค่ไหน แต่งกับเขา เจ้ามีแต่จะเป็นที่ครหา”

     “สกุลโจวเองก็ถังแตก หากเกี่ยวดองกัน สกุลกู่เราไม่โดนดูดทรัพย์สมบัติไปหมดหรือ” หลี่เฟยกล่าวเสริมความคิดของกู่กวงซิว

     กู่เสี่ยวถิงยังคงไม่ยอมแพ้จึงกล่าวแย้ง “เรื่องที่มารดาของโจวโซวเชินเป็นหญิงสองใจนั่นไม่สามารถพิสูจน์ได้ และถึงจะเป็นเรื่องจริง มันก็ไม่ใช่ความผิดของผู้เป็นลูกมิใช่หรือเจ้าคะ”

     กู่กวงซิวกำลังจะค้าน แต่เด็กรับใช้คนหนึ่งก็เดินเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน

     “เรียนนายท่าน ฮูหยิน คุณหนูรอง คุณชายสามสกุลโจวมาขอเข้าพบพวกท่านขอรับ”

     กู่เสี่ยวถิงลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ นางรีบบอกให้เด็กรับใช้ไปเชิญโจวโซวเชินเข้ามาด้านในเร็วๆ

     “เสี่ยวถิง นั่งลง!” หลี่เฟยดุบุตรสาว

     กู่เสี่ยวถิงยิ้มน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆ นั่งลงตามเดิม ทว่ามิวายชะเง้อคอมองออกไปนอกประตูเรือนด้วยความตื่นเต้น

     ครู่เดียวบุรุษในอาภรณ์ขาวสง่าราวเทพเซียนก็ค่อยๆ ก้าวเข้ามาพร้อมผู้ติดตามหนึ่งคนทางด้านหลัง

     “โจวโซวเชินคารวะนายท่านกู่และกู่ฮูหยินขอรับ”

     ครั้งแรกที่พบกัน โจวโซวเชินสวมเสื้อผ้าเก่าๆ ดูไม่เรียบร้อยนัก ผมดำยาวถูกรวบเก็บไว้แค่ครึ่งเดียว ใบหน้าหมองหม่น ต่างจากตอนนี้ที่ไม่ว่าจะมองจากมุมใดก็หล่อเหลาเหลือคณา

     “โซวเชิน! เจ้าดูดีน่ะ”

     โจวโซวเชินเหลือบมองกู่เสี่ยวถิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง เห็นนางโบกมือพลางฉีกยิ้มกว้างมาให้แล้วก็รีบก้มหน้าหลบตาทันที

     กู่กวงซิวกระแอม “เสี่ยวถิง มารยาทของเจ้าหายไปไหนหมดฮึ!”

     เมื่อเห็นบุตรสาวเก็บไม้เก็บมือเรียบร้อยแล้วก็หันมากล่าวกับบุรุษที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า “คุณชายสามลุกขึ้นเถิด”

     โจวโซวเชินกล่าวขอบคุณก่อนสั่งให้ตู้ฟู่ส่งม้วนภาพที่ตนเตรียมมามอบให้ผู้นำสกุลกู่

     แต่ขณะที่โจวโซวเชินกำลังจะนำของไปมอบให้ กู่กวงซิวกลับพูดโพล่งขึ้น “ไม่ทราบว่าคุณชายสามนำของขวัญมาให้ข้าเนื่องในโอกาสอะไรหรือ”

     โจวโซวเชินนิ่งไป นึกสงสัยว่ากู่เสี่ยวถิงยังไม่ได้บอกเรื่องที่จะหมั้นหมายกับเขาหรืออย่างไร

     “ความจริงนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบคุณชาย ตั้งแต่...เอ่อ...เก้าหรือสิบน่ะที่ท่านถูกสั่งห้ามออกนอกจวนโจว”

     “สิบสามขอรับ”

     “งั้นหรือ นานมาเลยนะ” กู่กวงซิวว่าพลางหัวเราะไปด้วย แต่ใจจริงนั้นเขากลับไม่ได้รู้สึกขำขันแต่อย่างใด “ดูแล้วคุณชายสามก็เป็นคนฉลาดน่ะ เช่นนั้นข้าขอพูดแบบไม่อ้อมค้อมเลยละกัน เรื่องที่ตกลงกันระหว่างท่านกับบุตรสาวข้าจะไม่มีวันเกิดขึ้น”

     “ท่านพ่อ! ข้าคิดว่าท่านเข้าใจข้าแล้วเสียอีก”

     “เพราะข้าเป็นห่วงชื่อเสียงของเจ้า! กลัวเจ้าจะลำบาก ข้าจึงไม่อยากให้เจ้าแต่งกับชายไร้อนาคตแบบนี้!” กู่กวงซิวตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว อย่างไรก็คงยอมให้บุตรสาวที่รักร่วมหัวจมท้ายกับโจวโซวเชินไม่ได้เด็ดขาด

     “คุณชายสามกลับไปเถอะ ไว้ข้าจะส่งของกำนัลไปขอโทษคนที่สกุลโจวเอง โปรดถือว่าบุตรสาวข้าไม่เคยพูดว่าจะแต่งกับท่านก็แล้วกัน”

     หัวใจโจวโซวเชินกระตุกวูบ รู้สึกตัวชาไปทั้งร่าง มือที่ถือม้วนภาพนั่นสั่นระริกจนเกือบทำมันตกพื้น

     นี่ข้า...ถูกมองข้ามอีกแล้ว ถูกคนอื่นดูแคลนอีกแล้วหรือ บุรุษฝืนข่มความรู้สึกของตนไว้ ก่อนจะพยักหน้าแล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

     “ขออภัยที่ข้ามารบกวน”

     โจวโซวเชินโค้งศีรษะแล้วเดินจ้ำออกมาจากเรือนทันที รู้สึกเหมือนพื้นดินโคลงเคลงจนยากจะทรงตัว ครั้นกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากจวนกู่ได้แล้ว ชายหนุ่มก็ยกกำปั้นขึ้นทุบอกตัวเองเบาๆ สูดหายใจเข้าออกช้าๆ

     “คุณชาย ไหวไหมขอรับ” ตู้ฟู่วิ่งตามออกมาพลางยกมือขึ้นลูบแขนนายของตนด้วยความเป็นห่วง

     “ข้าไม่เป็นไร”

     โจวโซวเชินค่อยๆ เงยหน้ามองป้ายชื่อสกุลกู่ที่แขวนอยู่เหนือประตูใหญ่ ใจนั่นนึกเวทนาตัวเองนัก ทำไมเขาถึงคิดว่าตัวเองจะโชคดีได้แต่งกับคุณหนูจากตระกูลใหญ่ได้กัน ไม่เจียมตัวเอาเสียเลย

     โจวโซวเชินโยนม้วนภาพในมือทิ้ง “เจ้ากลับไปก่อนละกัน”

     ตู้ฟู่รีบย่อตัวเก็บม้วนภาพขึ้นมาถือไว้ด้วยความเสียดาย “คุณชายจะไม่กลับไปพร้อมกันหรือ คือ...ถ้าคุณชายไม่รีบกลับ เกรงว่าจะถูกนายท่านใหญ่...”

     “กลับเร็วหรือช้าก็เหมือนกัน หากท่านย่าและท่านพ่อรู้ว่าสกุลกู่ไม่ปรารถนาจะรับข้าเป็นเขย ข้าก็คงไม่แคล้วถูกไล่กลับไปอยู่เรือนเล็ก” โจวโซวเชินฝืนยิ้ม “ขอข้าใช้ชีวิตที่เป็นอิสระอีกสักพักเถอะ”

     เพราะไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ตนจะมีโอกาสได้ออกมาเดินข้างนอกอีกไหม ดังนั้นโจวโซวเชินจึงอยากฉกฉวยช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ไว้นานๆ

     “ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ”

     โรงเตี๊ยมและร้านน้ำชาหลายแห่งถูกปรับปรุงและเปลี่ยนรูปลักษณ์จากเดิมไปมาก แต่ร้านค้าเล็กๆ และแผงลอยนั่นยังคงคึกคักและวุ่นวายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

     โจวโซวเชินเดินผ่านผู้คนและร้านค้ามากมายด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งเศร้า เหงาและท้อแท้ บางครั้งก็นึกสงสัยว่าจะมีใครต้องการเขาจริงๆ บ้างหรือไม่ ใครสักคนที่พร้อมจะอ้าแขนและจูงมือเดินเคียงข้างไปด้วยกัน

     “โจวโซวเชิน!”

     จู่ๆ ก็มีมือหนึ่งคว้ามือของโจวโซวเชินเอาไว้ ชายหนุ่มหันกลับไปมองด้วยความตกใจ แต่แล้วเมื่อเห็นว่าเป็นกู่เสี่ยวถิง ใบหน้ากลับแสดงความประหลาดใจมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

     “เจ้าอยู่นี่เอง ข้าตามหาเสียตั้งนาน” กู่เสี่ยวถิงว่าพลางหอบหายใจ

     “คุณหนูรอง ไยท่านถึงมาอยู่ตรงนี้ได้”

     “ทำไมน่ะเหรอ ก็มาตามหาเจ้าไง ก่อนหน้าที่เจ้าจะมาที่จวน ข้ากับท่านพ่อก็ทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้แล้ว พอท่านเห็นหน้าเจ้าก็เลย...พลั้งปากพูดจารุนแรงไป”

     “คุณหนูรองอย่าคิดมากเลย ความจริงที่นายท่านกู่พูดก็มีเหตุผล ข้าไม่คู่ควรกับคุณหนูจริงๆ”

     โจวโซวเชินกำลังจะหมุนตัวกลับทว่ากู่เสี่ยวถิงก็รั้งมือเขาไว้ “ไม่จริงเสียหน่อย หากเจ้าไม่คู่ควรแล้วจะมีใครบนโลกคู่ควรอีกเล่า”

     โจวโซวเชินนิ่งอึ้ง มองกู่เสี่ยวถิงที่ทำหน้ามุ่ยแล้วรีบร้อนชักมือตนกลับ “คุณหนูรองอย่าพูดล้อเล่นเช่นนี้ ถึงข้าจะไม่ได้ออกนอกจวนมาหลายปี แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ทราบถึงข่าวคราวด้านนอก”

     เห็นกู่เสี่ยวถิงขมวดคิ้วสงสัย โจวโซวเชินจึงกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณหนูรองมีใจแก่จงหยางอี้ ทว่าถูกเขาปฏิเสธ ด้วยเหตุนี้จึงอยากจะเข้าทางข้าซึ่งเป็นสหายของเขาใช่หรือไม่”

     “หะ? เข้าทางเจ้าหรือ”

     “ถึงข้ากับจงหยางอี้จะเป็นสหายกัน แต่ข้าก็คงช่วยท่านโน้มน้าวใจเขาไม่ได้หรอกนะ”

     “เดี๋ยวก่อนนะ เจ้าคิดว่าข้าจะใช้เจ้าเป็นทางผ่านเพื่อเข้าใกล้จงหยางอี้หรือ เจ้าเห็นข้าเป็นคนอย่างไรกันเนี่ย!”

     แต่เดี๋ยวนะ ทำไมรู้สึกเหตุการณ์นี้มันคุ้นๆ เหมือนเคยอ่านเจอมาก่อน...

     โจวโซวเชินต้องแต่งงานกับหวงหนิงเซียนตามคำสั่ง ทว่ามิได้ร่วมหลับนอนกันแต่อย่างใด เพราะรู้ว่าหวงหนิงเซียนเป็นสตรีที่เพื่อนรักของตนหมายปอง จึงไม่คิดจะล่วงเกินนาง

     กระทั่งจงหยางอี้กลับมาจากสนามรบ เขาที่รู้เรื่องการแต่งงานที่ไม่ยินยอมนี้จึงรีบมาพบคนทั้งสอง แต่แทนที่จะโกรธ เขากลับวางใจมากกว่า เพราะรู้ว่าเพื่อนรักของเขาอย่างโจวโซวเชินจะต้องไม่หักหลังเขาอย่างแน่นอน

     โจวโซวเชินกลายเป็นสะพานที่เชื่อมให้คู่รักทั้งสองได้มาพบเจอกัน เฝ้ามองพวกเขาโผกอดและพร่ำบอกรักซึ่งกันและกันอย่างหวานชื่น โดยที่จงหยางอี้และหวงหนิงเซียนไม่เคยรู้เลยว่า...ความรู้สึกของโจวโซวเชินที่มีต่อหวงหนิงเซียนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

     “ข้าไม่มีทางใช้เจ้าเป็นสะพาน!” กู่เสี่ยวถิงโพล่งขึ้นอย่างฉุนเฉียว “คนดีอย่างเจ้าสมควรมีความสุข ข้าจะไม่มีวันทำผิดต่อเจ้าเด็ดขาด”

     โจวโซวเชินยังไม่หายอึ้งกับคำพูดที่ได้ยิน พลันถูกหญิงสาวคว้ามือทั้งสองไปกุมไว้แน่น

     “ข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขเอง ฉะนั้น...อย่าลังเลที่จะแต่งกับข้าเลย”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   สายเปย์

    นี่ข้าไม่ได้ออกมาเจอโลกภายนอกนานเกินไปหรือเปล่าน่ะ เหตุใดสตรีจึงกล้าขอบุรุษแต่งงานได้หน้าตาเฉยเช่นนี้?! “ทำไมไม่กินเล่า ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ ถือเสียว่าข้าเลี้ยงปลอบขวัญเจ้าแล้วกัน” โจวโซวเชินหรี่ตามองกู่เสี่ยวถิงที่นั่งเคี้ยวข้าวจนแก้มตุ้ย แล้วทำไมข้าถึงได้ตามนางมากินข้าวด้วยล่ะเนี่ย “อาหารที่นี่อร่อยจริงๆ นะ อร่อยกว่าที่จวนข้าเสียอีก เอ้า! เจ้าก็กินด้วยสิ” กู่เสี่ยวถิงคีบหมูติดมันชิ้นหนึ่งวางลงบนถ้วยข้าวของชายหนุ่มพลางคะยั้นคะยอให้เขาลองชิมดู โจวโซวเชินชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก็คีบชิ้นหมูเข้าปาก ทันทีที่กัดลงไป รสชาติหวานเค็มปนเผ็ดเล็กน้อยพลันแผ่ซ่านอยู่ภายในปาก “อาหารก็มีรสชาติด้วย...” กู่เสี่ยวถิงชะงัก แววตาเต็มไปด้วยความฉงน “ปกติเจ้ากินอะไรเนี่ย อาหารก็ต้องมีรสอยู่แล้วสิ” “ข้าน่ะ...แค่มีกินในแต่ละมื้อก็ยากเย็นแล้ว ไหนเลยจะมาสนใจเรื่องรสชาติกัน” กู่เสี่ยวถิงกะพริบตาถี่ รู้สึกว่าเนื้อที่ตนกำลังกลืนนั้นฝืดคอขึ้นมาจนแทบอยากจะคายทิ้ง “โจวโซวเชิน... ข้า...” “ไม่จำเป็นต้องมาสงสารข้าหรอก” ว่าพลางคีบหมูอีกชิ้นเข้าปาก “ข้าไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร” ถ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-31
  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   คนที่ร้ายที่สุด

    “ทำไมเจ้าไม่บอกข้า” เมื่อกลับมายังเรือน โจวโซวเชินก็กอดอกมองตู้ฟู่ตาเขม็ง “บุรุษมิควรรับของมากมายเช่นนี้จากสตรี เจ้าไม่รู้หรือไง!” ตู้ฟู่ก้มหน้าบ่นพึมพำกับตัวเอง “ก็เพราะรู้นิสัยท่านไง คุณหนูกู่จึงสั่งห้ามไม่ให้พูด” ดวงตาคมจ้องบ่าวของตนอย่างคาดคั้น รังสีความกดดันนี้ทำตู้ฟู่เริ่มหายใจไม่ออก ในที่สุดก็จำต้องยอมเปิดปากบอก “คุณหนูกู่สั่งห้ามไว้ขอรับ บอกให้ข้าน้อยเก็บเป็นความลับจนกว่าจะกลับถึงจวน” นี่เป็นนิสัยปกติของสตรีชนชั้นสูงหรืออย่างไร ทุ่มเงินทองมากมายเพื่อซื้อตัวบุรุษที่ถูกใจหรือนี่!? กู่เสี่ยวถิงเป็นสตรีที่ชอบดูถูกผู้อื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ชื่อเสียงความเอาแต่ใจและเจ้าเล่ห์ของนาง มีหรือโจวโซวเชินจะไม่รู้ ที่แท้เรื่องในวันนี้อาจเป็นเพียงการเล่นละครของนาง หวังจะซื้อใจเขาและครอบครัวให้ตกเป็นทาสนางก็เป็นไปได้ ถึงจะยังไม่รู้แน่ชัดว่าสตรีร้อยเล่ห์วางแผนอะไรไว้ แต่โจวโซวเชินจะไม่มีวันติดกับนางอย่างเด็ดขาด! ตู้ฟู่เห็นโจวโซวเชินทำหน้าเครียด พลันเกิดความคิดว่าคุณชายสามอาจจะกำลังโกรธคุณหนูรองผู้นั้นอยู่หรือไม่ ไม่ได้นะ!!! ถึงคุณหนูรองกู่จะเจ้าแผนการไปบ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   รวมหัว

    เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ กู่เสี่ยวถิงยืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่ตรงประตูทางเข้าวัดหงอี้ ชะเง้อคอมองอย่างคาดหวังทุกครั้งที่ได้ยินเสียงรถม้าดังเข้ามาใกล้ “คุณหนู พวกเราเข้าไปรอข้างในดีกว่านะเจ้าค่ะ” ซูฉางร้องบอกนายของตนเป็นรอบที่สามแล้ว แต่กู่เสี่ยวถิงหาได้สนใจไม่ “ไม่เอา ข้าจะรอรับคุณชายสาม ไม่รู้ว่าคนสกุลโจวจะยอมปล่อยเขาออกมาหรือไม่” “เหตุใดถึงจะไม่ให้มาเล่าเจ้าคะ ข้าคิดว่าคงจะระริกระรี้รีบโยนคุณชายสามมาให้ท่านเสียมากกว่า” กู่เสี่ยวถิงหุบยิ้ม หันมามองซูฉางพลางกอดอกไม่พอใจ “เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร” “โธ่คุณหนู ท่านก็รู้ว่าคนสกุลโจวหน้าเงินเพียงใด สิ่งใดที่ทำให้คุณหนูพอใจ คนพวกนั้นย่อมต้องทำแน่เจ้าค่ะ” สีหน้ากู่เสี่ยวถิงเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันที “ขออภัยที่บ่าวต้องพูดตรงๆ แต่บ่าวเป็นห่วงคุณหนูนะเจ้าค่ะ อย่างที่นายท่านว่า แต่งกับคุณชายสามไม่เห็นมีดีตรงไหน คุณชายสามไร้ลาภยศเงินทอง ครอบครัวของเขาก็ไม่น่าคบหาสักคน เหตุใดคุณหนูต้องเอาตัวเองไปคลุกคลีกับคนพวกนั้นด้วยเล่าเจ้าคะ” “ซูฉาง สิ่งที่เจ้าพูด ใช่ว่าข้าจะไม่รู้” “อ้าว แล้วทำไมคุณหนูยั

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   พระอาทิตย์ตก

    เวลาล่วงเลยไปหลายชั่วยาม ตะวันเริ่มคล้อยลงต่ำ ผู้คนอิ่มท้อง ผู้รวมบุญสุขใจ นั่งพักกันให้หายเหนื่อยอีกสักครู่จึงจะทยอยขนของกลับจวน “นี่ เอาไปกินสิ” หวงหนิงเซียนที่นั่งเหม่ออยู่ตรงขั้นบันไดเงยหน้ามอง นางผงะทันทีที่เห็นว่าเป็นกู่เสี่ยวถิง “ข้ายังไม่เห็นเจ้ากินอะไรเลย คงจะหิวแย่แล้วสิ” หวงหนิงเซียนรีบส่ายหน้า ขอไม่รับน้ำใจของหญิงสาว “เจ้าไม่ต้องกลัวข้าหรอก” กู่เสี่ยวถิงนั่งลงข้างๆ แล้วแบ่งหมั่นโถวที่ตนถือมาออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเอาเข้าปากตัวเอง อีกส่วนยื่นให้หวงหนิงเซียน “รับไปสิ” หวงหนิงเซียนลังเล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตนกำลังหิวจึงยื่นมือออกมารับอย่างกล้าๆ กลัวๆ กู่เสี่ยวถิงยิ้ม “เจ้าต้องไม่อิ่มแน่ เช่นนั้นไปกินข้าวที่จวนของข้าไหม” “มะ... ไม่กล้ารบกวนเจ้าค่ะ” “ถ้าเจ้าเป็นกังวลกลัวข้าจะรังแก งั้นเราแวะทานอาหารที่ภัตตาคารใกล้ๆ ก่อนกลับดีหรือไม่” “ไม่กล้ารบกวนเจ้าค่ะ” “นี่เจ้าพูดเป็นคำเดียวหรือ” กู่เสี่ยวถิงพ่นลมหายใจแล้วยัดหมั่นโถวในมือเข้าปากจนหมด หญิงสาวหน้าบูดที่มีอาหารอยู่เต็มปาก ไม่เหลือเค้าของคุณหนูผู้ร้ายกา

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   จอมวางแผน

    “ซูฉาง ข้าสวยหรือยัง” วันนี้กู่เสี่ยวถิงสวมชุดสีส้มสลับขาวให้ความรู้สึกสดใสร่าเริง นางหมุนตัวไปรอบๆ พลางถามสาวใช้ว่าตนดูดีแล้วหรือยัง “คุณหนู ทำไมพอถึงเวลาเรียนทีไรจึงต้องแต่งตัวสวยด้วยเจ้าคะ” ซูฉางถามขณะยื่นกล่องเครื่องประดับให้กู่เสี่ยวถิงเลือกปิ่นปักผมที่ถูกใจ “เจ้ารู้คำตอบอยู่แล้ว เหตุใดยังต้องถามข้าอีกเล่า” “ข้าก็แค่อยากถามให้แน่ใจเจ้าคะ มิเคยเห็นคุณหนูพยายามทำเพื่อใครมากเท่านี้มาก่อน ตื่นแต่เช้ามาแต่งตัว ไหนเลยจะเตรียมอาหารว่างด้วยตัวเองอีก” “ความสุขของข้าน่า” “ความสุขของท่าน แต่บิดามารดาท่านไม่น่าจะสุขด้วยนะเจ้าค่ะ” “ซูฉาง หากเจ้ายังพูดมากอีก ข้าจะไม่เรียกใช้เจ้าแล้วนะ” ซูฉางเม้มปากอย่างขัดใจ ก่อนจะรีบวิ่งตามกู่เสี่ยวถิงไปยังเรือนรับรองที่อยู่ติดกับสวนดอกไม้ขนาดย่อม ด้านข้างมีสวนหินจำลอง ถัดออกไปเป็นเรือนใหญ่ซึ่งกู่กวงซิวที่อยู่ในอาการกระสับกระส่ายกำลังเดินวนไปวนมาด้วยความร้อนใจ “มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง!” กู่กวงซิวตวาดลั่น “ข้าวางแผนให้โจวโซวเชินอยู่กับหวงหนิงเซียนสองต่อสอง แต่ทำไมกลับกลายเป็นว่าเดินจูงมื

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   ศิษย์ไม่รักเรียน

    “โซวเชิน เจ้าดูหงุดหงิดนะ เป็นอะไรหรือไม่” กู่เสี่ยวถิงที่ลอบสังเกตบุรุษมาสักพัก ตัดสินใจเอ่ยถาม โจวโซวเชินทำหน้านิ่ว ตวัดพู่กันในมือไปมา “เขามาพูดอะไรกับท่าน” “ใคร” “โจวฮุ่ยชิว เขาพูดอะไรกับท่าน” ที่แท้ก็หึงนี่เองสินะ กู่เสี่ยวถิงลอบยิ้มดีใจ ในที่สุดก็สามารถทำให้พระรองใจหวั่นไหวได้แล้วสินะ ถือว่านางใกล้จะบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการแล้ว “เขาบอกว่าชอบข้า” กู่เสี่ยวถิงคิดอยากแกล้งให้โจวโซวเชินหึงอีกสักหน่อย จึงบอกออกไปโดยแต่งเติมเรื่องราวอีกสักหน่อย “จู่ๆ มาบอกว่าชอบข้า ทำข้าตกใจแทบแย่ ดีนะที่เจ้ามาก่อน มิเช่นนั้นข้าก็ไม่รู้จะต้องทำเช่นไร” มือที่กำพู่กันอยู่เริ่มสั่น โจวโซวเชินไม่รู้แล้วว่าตัวอักษรที่เขากำลังเขียนอยู่คือตัวอะไร ในหัวนั่นว่างเปล่า รู้สึกใจร้อนรุ่มขึ้นมา “แล้วท่านคิดอย่างไร” “คิดอย่างไรหรือ อืม... โจวฮุ่ยชิว ความจริงเขาก็หน้าตาดีอยู่หรอกนะ คารมคมคาย ดูมีภูมิฐานมิน้อย” โจวโซวเชินวางพู่กันในมือ เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่กำลังนั่งเท้าคางอยู่ตรงหน้า “แสดงว่าชอบใช่หรือไม่” ท่าทางจะโกรธจริงๆ แล้ว ใบหน้าเคร่งครึมดูไม่สบอารมณ์ของโจวโซวเชิน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   พี่น้องสกุลโจว

    “พี่เสี่ยวถิง พวกเราออกมาข้างนอกแบบนี้จะดีแน่หรือ” หวงหนิงเซียนถามด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก “อย่างไรถึงว่าไม่ดี พวกเรามาเดินเล่นนะ ไม่ได้มาทำเรื่องอะไรเสียหายสักหน่อย” “ตะ...แต่ว่า” เพราะถูกเรียกให้ออกมาพบกะทันหัน หวงหนิงเซียนคิดเพียงว่ากู่เสี่ยวถิงอาจมีเรื่องสำคัญจะคุยกับตนหรือไม่ ไม่คิดเลยว่าจะถูกลากให้ออกมาเดินเที่ยวตลาดด้วยกันเช่นนี้ “เอาน่าๆ อยู่กับข้าไม่มีอะไรต้องกังวล” กู่เสี่ยวถิงคล้องแขนของตนเข้ากับแขนของหวงหนิงเซียน “ข้าออกหน้าแทนเจ้าเอง วันนี้มาเที่ยวกันให้สนุกเถอะ” หวงหนิงเซียนยังคงไม่หายกังวล แต่พอเวลาผ่านไป นางพลันลืมความกังวลจนหมดสิ้น หัวเราะและสนุกไปกับคำพูดติดตลกของกู่เสี่ยวถิงแทน “อันนี้อร่อยมาก เจ้าชิมดูสิ” หวงหนิงเซียนอ้าปากรับขนมก้อนกลมเล็กคลุกเคล้าน้ำตาล ก่อนดวงตาจะเบิกโตแล้วพยักหน้ารัวๆ “อร่อย!” “โบราณว่าอาหารอร่อยจะนำโชคมาให้ ฉะนั้นวันนี้พวกเราออกไปตามล่าอาหารอร่อยกันเถอะ” หวงหนิงเซียนไม่ขัด หญิงสาวตอบรับแข็งขัน ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขยิ่ง นางไม่เคยมีเพื่อน อีกทั้งไม่กล้าคิดจะมี การที่ได้ออกมาเที่ยวเล่นกับสตรีอย่างกู่เสี่ยว

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   เข้าใจถูกต้อง

    “เจ็บใจนัก! เจ้าจงหยางอี้! คิดว่าตัวเองเป็นคนโปรดของฝ่าบาทเลยคิดจะข่มเหงกันได้ง่ายๆ หรือไง!” โจวสวี่เฉิงบ่นพลางลูบบั้นท้ายของตัวเอง โจวซุ่นหยวนช่วยพยุงน้องชายที่ไม่เจียมสังขารพลางบ่นอุบอย่างหัวเสียเช่นกัน “มันกลับมาแบบนี้ พวกชาวบ้านคงได้ใจ ไม่เกรงบารมีพวกเราอีก” “ข้าเกือบจะได้เชยชมโฉมงามแล้วแท้ๆ” โจวซุ่นหยวนชำเลืองสายตา “สวี่เชิง โฉมงามที่เจ้าว่าเป็นสตรีที่จงหยางอี้ประกาศจะแต่งด้วย เจ้าโดนแค่นี้นับว่าดีถมไปแล้ว” จงหยางอี้ได้ชื่อว่าเป็นแม่ทัพเลือดเย็นที่สุดในกองทัพ ตอนไปออกรบคราวก่อน เขาสามารถตัดศีรษะรองแม่ทัพฝ่ายศัตรูได้ถึงสามคน จากนั้นนำศีรษะส่งคืน ส่วนร่างกายแขวนประจานไว้หน้ากำแพงเมือง ด้วยความป่าเถื่อนและโหดเหี้ยมนี่เอง ทำให้เขาสามารถคว้าชัยตั้งแต่เท้ายังไม่เหยียบลงสนามรบเสียด้วยซ้ำ “พี่ใหญ่เองก็ยุ่งกับสตรีที่มีเจ้าของแล้วเหมือนกัน ยังจะมาทำเป็นสอนข้าอีก” โจวซุ่นหยวนหัวเราะ “เจ้าโง่! โจวโซวเชินมีอะไรให้พวกเราต้องการกังวลด้วยหรือไง ของของโซวเชินก็เหมือนของของข้านั่นแหละ” โจวซุ่นหยวนกล่าวอย่างไม่อายปาก คิดว่าตนนั้นเหนือกว่าและเป็นที่หนึ่งข

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01

Bab terbaru

  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   สุขสมหวัง

    “หยางอิ่ง นางเคยมีคนรักอยู่ก่อนจะแต่งเข้าสกุลโจว เขาเป็นญาติผู้พี่ของข้าเอง ทั้งสองตกหลุมรักกันมานานหลายสิบปี แต่เพราะต่างฝ่ายต่างมีคู่หมายอยู่แล้วจึงไม่อาจสมหวังในรัก” ใต้เท้าโฮ่วพูดพลางถอนหายใจ “ในวันหนึ่งในฤดูหนาว พี่ชายและข้ารับพระราชโองการไปรบที่ชายแดน ด้วยเพราะเกรงว่าจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย ข้าจึงอยากให้ทั้งสองคนได้เจอกัน ผนวกกับได้ข่าวว่าสุขภาพของหยางอิ่งไม่ค่อยแข็งแรง ข้าจึงอยากเพิ่มแรงใจให้นาง ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าข้าจะเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้” จงหยางอี้เดินเข้ามาตบบ่าโจวโซวเชิน “พี่ชายของใต้เท้าโฮ่วตายในสงคราม ส่วนใต้เท้านั่นบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่นานหลายปีกระทั่งได้รับราชโองการให้ประจำอยู่ที่ชายแดนเป็นการชั่วคราว จึงไม่ได้รับข่าวคราวของมารดาเจ้าอีก” เพราะสกุลโจวปกปิดการตายของหยางอิ่ง พวกเขาจับนางไปขังไว้ในห้องที่ทั้งมืดและชื้น ไม่มีเตาไฟ ผ้าห่ม หรือกระทั่งอาหารให้กินจนอิ่มท้อง ส่งผลให้สุขภาพที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้วยิ่งทรุดหนัก “โซวเชิน” กู่เสี่ยวถิงกระซิบเสียงเบา รู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของโจวโซวเชินนัก แต่เมื่อเห็นแววตานิ่งสงบของเขา นางก็เริ่ม

  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   เผยความจริง

    “อะไรนะ!? ฮุ่ยชิว เจ้าไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นใช่ไหม เจ้าถูกกล่าวหาใช่ไหมหลาน ตอบย่าสิ” ฮูหยินผู้เฒ่าไม่เชื่อ พยายามเค้นถามความจริงจากโจวฮุ่ยชิวอย่างเดียว “น่ารำคาญ!!!” โจวฮุ่ยชิวผลักฮูหยินผู้เฒ่าออกไป แล้วหันมาพูดกับจงหยางอี้ “ข้าว่าเรื่องนี้เราคุยกันได้นะแม่ทัพจง” จงหยางอี้เค้นเสียงพูด “ข้าไม่เหมือนขุนนางโลภมากพวกนั้นหรอกนะ เจ้าอย่าโน้มน้าวข้าเสียให้ยากเลย” “เจ้าไม่รู้หรือว่ามีขุนนางกี่คนที่อยู่ข้างข้า” “รู้สิ และก็สั่งจับขุนนางพวกนั้นไปหมดแล้วด้วย” หัวใจพลันกระตุกวาบพร้อมกับความหวาดกลัวที่แล่นพรูขึ้นมา โจวฮุ่ยชิวรีบเปลี่ยนเป้าหมาย หันไปทางโจวโซวเชินแทน “พี่สาม อย่างไรพวกเราก็เป็นสกุลโจวเหมือนกัน ข้า...” “ข้าฟังอยู่ จะแก้ตัวอะไรก็รีบพูดมา” ได้ยินเสียงเย็นชากล่าวเช่นนี้ โจวฮุ่ยชิวก็จำต้องกลืนคำขอของตนลงคอ ครั้นหันกลับมองทางครอบครัวตัวเอง ไม่ว่าจะท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ หรือพี่ชายทั้งสองของตนล้วนแต่พึ่งพาไม่ได้ หากจะบอกว่าแผนการล้มเหลว มันอาจจะล้มเหลวมาตั้งแต่วันที่เขาเกิดแล้วก็ได้ “หวังพึ่งใครไม่ได้สักคน” โจวฮุ่ยชิวขบกรามแน่น “ทำไมข้าต้อ

  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   อยากแต่งกับเจ้า

    ราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงกลางศีรษะ กู่เสี่ยวถิงพูดอะไรไม่ออก หัวใจบีบรัดแน่นจนหายใจไม่ออก โจวฮุ่ยชิวยื่นมือออกมาตรงหน้า “ไปกันกับข้าเถอะ” กู่เสี่ยวถิงส่ายหน้า ให้ตายอย่างไรนางก็ไม่มีวันไปกับโจวฮุ่ยชิวแน่ นี่มันอะไรกัน... โจวฮุ่ยชิวสอบได้ตำแหน่งจ้วงหยวนได้อย่างไร?! “อย่ายุ่งกับนาง!” โจวโซวเชินปัดมือโจวฮุ่ยชิวทิ้งแล้วจูงมือพาตัวกู่เสี่ยวถิงกลับเข้าไปในงาน “โซวเชิน เดินช้าหน่อย ข้าตามไม่ทัน” กู่เสี่ยวถิงก้าวขาไม่ทันร่างสูงที่กึ่งฉุดกึ่งลากนาง “โอ๊ะ!” กู่เสี่ยวถิงสะดุดขาตัวเอง โจวโซวเชินรีบหมุนตัวกลับมารับร่างบางไว้ “บาดเจ็บหรือไม่” กู่เสี่ยวถิงส่ายหน้าแล้วพยายามจะลุกขึ้นยืน ทว่ากลับรู้สึกเจ็บที่ข้อเท้าจนทรงตัวไม่ไหว “เป็นอะไร เจ็บเท้าหรือ” โจวโซวเชินก้มลงจับที่ข้อเท้าของหญิงสาว พอได้ยินเสียงร้องว่าเจ็บ เขาก็ตกใจจนหน้าเสีย รีบอุ้มตัวนางขึ้น บอกจะรีบพาไปให้หมอตรวจดูอาการ “ขะ...ข้าไม่เป็นอะไร เจ้าปล่อยข้าลงก่อน” “ไม่เป็นอะไรได้อย่างไร เมื่อครู่ท่านยังร้องอยู่เลย ยืนก็ไม่ไหวด้วยเนี่ย” “อาจจะแค่ข้อเท้าแพลงก็ได้ เจ้าอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่สิ”

  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   ขุนนางใหม่

    ความรู้สึกกดดันนี้มันอะไรกัน กู่กวงซิวเหงื่อแตกพลั่กเหลือบมองบุตรสาวที่ยืนเท้าสะเอวพลางจ้องตนตาเขม็ง “ท่านพ่อ ท่านไม่มีอะไรจะสารภาพหรือ” กู่กวงซิวอ้ำอึ้ง ชำเลืองหางตาไปทางหลี่เฟยเพื่อขอความช่วยเหลือ “เอ่อ เสี่ยวถิง มีอะไรหรือเปล่าลูก” หลี่เฟยเอ่ยถามเสียงละมุน แต่มิวายถูกสายตาคมกริบตวัดมองมาเช่นกัน “ท่านแม่ มิใช่ว่าท่านก็รู้เห็นด้วยหรอกนะ” เมื่อถูกเค้นหนักเข้า สองสามีภรรยาตระกูลกู่ก็เริ่มทนไม่ไหวจึงตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดแก่กู่เสี่ยวถิง “พ่อแค่อยากไล่โจวฮุ่ยชิวไปให้พ้น หากเขาเห็นว่าสกุลกู่ไม่อาจให้ในสิ่งที่เขาต้องการ เขาคงไม่มายุ่งกับพวกเราอีก” “นอกจากนี้ยังสามารถคัดกรองสหายที่มีอยู่ หากพวกเขาเป็นมิตรแท้ย่อมไม่หันหลังให้สกุลกู่แน่ กลับกันแล้ว หากหนีไปเข้าพวกกับโจวฮุ่ยชิว แสดงว่ามิใช่คนซื่ออย่างแท้จริง” หลี่เฟยเอ่ยต่อ เหตุผลที่บุพการีบอกนั้นก็ฟังมีเหตุผล พวกเขาเพียงอยากกันโจวฮุ่ยชิวให้พ้นทาง แต่ว่า...นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเขาจะต้องมาโกหกนางนี่!? “เอ่อ...พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะโกหกลูกนะ เพียงแต่...” ราวกับหลี่เฟยอ่านความคิดของกู่เสี่ยว

  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   ไม่ให้ตัดใจ

    “อาภรณ์ชุดนี้งดงามยิ่งนัก สีสันสดสวยประณีตงดงาม” เถ้าแก่ที่เข้ามาประเมินราคาสิ่งของในจวนกู่เอ่ยขณะลูบมือลงยังอาภรณ์สีครามเข้ม “คุณหนูรองกู่แน่ใจหรือว่าจะขายทั้งหมดนี้” กู่เสี่ยวถิงพยักหน้า “เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์” นางตอบเสียงเศร้า “อืม งั้นข้าให้คนขนไปที่รถเลยนะ” กู่เสี่ยวถิงกวาดตามองเหล่าเสื้อผ้า รองเท้า และตำราเรียน ราวกับต้องการบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ “รบกวนเถ้าแก่ด้วย” กู่เสี่ยวถิงเรียกพ่อบ้านประจำจวนให้มาตกลงเรื่องราคาและรับเงินจากเถ้าแก่ แล้วจึงหมุนตัวเดินออกไป ระหว่างทางบังเอิญผ่านเรือนที่นางเคยใช้เรียนหนังสือกับโจวโซวเชิน เรือนหลังใหญ่ที่เพิ่งทำความสะอาดเสร็จ ประตูและหน้าต่างทุกบานถูกเปิดออกเพื่อระบายอากาศ กู่เสี่ยวถิงค่อยๆ ย่างเท้าเข้าไปด้านใน มองสำรวจห้องแล้วพลันนึกถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกับโจวโซวเชิน รอยยิ้มของเขา สัมผัสอ่อนโยนและจุมพิตแรกที่เขามอบให้ หางตากู่เสี่ยวถิงเหลือบเห็นภาพเขียนที่ถูกแขวนไว้เหนือโต๊ะเขียนหนังสือ เป็นภาพเขียนของโจวโซวเชินที่นางย้ายออกมาจากห้องนอนและไม่ยอมที่ขายออกไป “ถึงไม่มีวาสนาต่อกัน

  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   ช่วยเหลือ

    “เห็นคุณชายสามนิ่งขรึมมาตลอด ไม่คิดเลยว่าจะ...เอ่อ” หวงหนิงเซียนคิดคำที่จะช่วยอธิบายเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่ออก โจวโซวเชินไม่เคยแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว คุกคาม หรือกระทั่งออกคำสั่งไล่ใครมาก่อ “คงมีเพียงกู่เสี่ยวถิงคนเดียวที่ทำสหายข้าเสียอาการเช่นนี้ได้” จงหยางอี้วิเคราะห์ “ป่าเถื่อนสิไม่ว่า ที่นี่มิใช่จวนโจวนะ กล้าทำเรื่องไร้มารยาทที่นี่ได้อย่างไร!” ถึงจะบ่นอย่างนั้น แต่ส่วนลึกหวงลี่หรูก็ไม่กล้าสู้กับสายตาแข็งกร้าวของโจวโซวเชินสักเท่าไรนัก ให้พญานกยูงอย่างนางไปขวางทางหมาป่าโมโหร้ายหรือ! หาเรื่องตายสิไม่ว่า “พวกเขาจะปรับความเข้าใจกันได้หรือไม่นะ” หวงหนิงเซียนเป็นกังวล มือกระตุกชายเสื้อแม่ทัพหนุ่มเบาๆ “อย่าห่วงเลย โซวเชินเป็นคนใจเย็น เขาจะต้องค่อยๆ ใช้คำพูดอธิบายให้กู่เสี่ยวถิงเข้าใจ และไม่นานทั้งคู่ก็จะคืนดีกัน...” ตู้ม!!!!! เสียงตู้มดังสนั่น คนทั้งสามต่างตื่นตกใจแล้วรีบวิ่งวนกลับมาทางศาลา เบื้องหน้ากู่เสี่ยวถิงยืนอยู่บริเวณสระบัวพลางหอบหายใจอย่างหนัก ส่วนโจวโซวเชิน...ล้มหน้าคว่ำอยู่ในสระบัว โชคดีที่ว่าระดับน้ำสูงเพียงเข่า โจวโซวเชินจึงค่อยๆ พยุงตั

  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   สหายรัก

    หลังจากกู่เสี่ยวถิงถูกอุ้มหายออกไปจากโรงน้ำชา หวงลี่หรูก็รีบเร่งมารอพบกู่เสี่ยวถิงแต่เช้าตรู่ ครั้นได้ยินสาวใช้บอกว่าหญิงสาวปลอดภัยดี ทั้งยังนอนหลับอุตุไม่ยอมตื่นเสียอีก หวงลี่หรูไม่อยากรบกวนจึงลากลับมาก่อน พอรุ่งเช้าอีกวันก็มาขอพบกู่เสี่ยวถิงอีก ทว่าน่าแปลกที่ว่ากู่เสี่ยวถิงเอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมออกมาพบหน้าใครอยู่นานหลายวัน หวงลี่หรูที่เทียวไปเทียวมาจวนกู่รู้สึกเป็นห่วงสหายยิ่งนัก ท้ายที่สุดจึงนำเรื่องนี้ไปบอกแก่หวงหนิงเซียน เผื่อว่าหากหวงหนิงเซียนไปจวนกู่ด้วยกันแล้วกู่เสี่ยวถิงอาจจะยอมออกมาพบ “หากไม่ใช่เพราะจนปัญญา ข้าคงไม่แบกหน้ามาขอร้องเจ้าหรอก หากเจ้ายอมช่วย เจ้าอยากได้อะไรข้าจะยกให้” “เรื่องใหญ่เพียงนี้ ทำไมท่านพี่ไม่รีบบอกข้าเล่า ข้าเองก็เป็นห่วงพี่เสี่ยวถิงเหมือนกันนะเจ้าค่ะ” หวงหนิงเซียนเอ่ยเสียงสะอื้น มือเล็กรีบคว้ามือของพี่สาวแล้วดึงไปทางหน้าจวนโดยเร็ว “พวกเรารีบไปกันเถอะเจ้าค่ะ ข้าเป็นห่วงพี่เสี่ยวถิงจะแย่แล้ว” แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองสาวจะวิ่งพ้นประตูจวน กู่เสี่ยวถิงกลับเดินสวนเข้ามาเสียก่อน “เสี่ยวถิง!” “พี่เสี่ยวถิง!”

  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   ตบตา

    ราวกับฝันไป... คล้ายว่าได้นอนขดอยู่ในอ้อมกอดของโจวโซวเชินตลอดคืน กู่เสี่ยวถิงบิดตัวลุกขึ้นนั่ง หันไปมองรอบๆ ก่อนจะยกมือขึ้นกุมศีรษะ “ปวดหัวจัง” ซูฉางที่ยกกะละมังใส่น้ำเข้ามาเห็นกู่เสี่ยวถิงตื่นแล้วก็รีบเข้ามาถามไถ่อาการ “คุณหนูได้สติแล้วหรือเจ้าคะ เป็นอย่างไรบ้าง ล้างหน้าล้างตาก่อนนะเจ้าค่ะ” “นี่ข้า... กลับมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร” “กลับมาเมื่อไรไม่สำคัญเท่ากับกลับมากับใครมากกว่าเจ้าค่ะ” ซูฉางกล่าวเสียงหยอกล้อ “ข้าไม่ได้กลับมากับลี่หรูหรือ” ซูฉางหันขวับมามองพลางวางกะละมังทองเหลืองลงตรงหน้านายหญิง “โธ่ นี่คุณหนูดื่มไปเท่าไรกันเจ้าคะ เหตุใดถึงจำอะไรไม่ได้เช่นนี้” “ข้าเผลอไปน่ะ ดื่มไม่กี่จอกก็ภาพตัด จำอะไรไม่ได้เลย ปวดหัวอีกต่างหาก” ซูฉางถอนหายใจ ช่วยจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาวก่อนจะส่งน้ำแกงสร่างเมาให้นางดื่ม “คุณหนูหลับไปหนึ่งวันเต็มเลยนะเจ้าค่ะ ยามนี้ก็เที่ยงแล้ว เดี๋ยวบ่าวไปยกอาหารมาให้เจ้าค่ะ” กู่เสี่ยวถิงพยักหน้า แต่แล้วก็ตะโกนถาม “ซูฉาง ท่านพ่อท่านแม่รู้เรื่องที่ข้าเมากลับมาหรือไม่” ซูฉางยิ้มเย็นเยือก เอ่ยบอก “หลังคุณหนูทานอาหารเส

  • นางร้ายเช่นข้าหมายครองคู่กับพระรอง   สตรีขี้เมา

    “เสี่ยวถิง! จะ...เจ้าจะทำอะไร” โจวโซวเชินพยายามดันคนตัวเล็กออก แต่หญิงสาวกลับติดหนึบเสียยิ่งกว่าอะไร ยิ่งแกะนางยิ่งซุกไซ้ไม่เลิก กระทั่งกระโจนขึ้นมานั่งบนตักกว้างพร้อมยกมือขึ้นโอบรอบคอชายหนุ่มไว้แน่น โจวโซวเชินรู้สึกว่าร่างกายของตนร้อนขึ้นวูบหนึ่ง หัวใจเต้นโครมครามไม่หยุด รู้สึกทรมานกึ่งกลางกายนัก “กลิ่นตัวเจ้าเหมือนโซวเชิน ตัวก็ด้วย เท่ากันเป๊ะ!” ที่แท้นางก็ละเมอเข้ามากอดเพื่อวัดตัวเขาเองหรือนี่? “โซวเชิน ทำไมเจ้าไม่ยอมใส่สีชมพู ข้าเตรียมชุดไว้เข้าคู่กับเจ้าด้วยนะ” โจวโซวเชินลอบหัวเราะ เขาจำเหตุการณ์ครั้งกู่เสี่ยวถิงหอบเอาบรรดาชุดสีสันแสบตามาให้ตนได้ หนึ่งในนั้นมีชุดที่เป็นสีชมพูไล่สีสลับขาวคล้ายกับดอกเหมยกำลังเบ่งบานก็มิปาน หญิงสาวยิ้มร่ารีบนำเสนอชุดที่นางสั่งตัดพิเศษพลางคะยั้นคะยอให้เขาลองสวมให้ดู แต่ฝันไปเถิดว่าบุรุษมาดแมนอย่างเขาจะใส่! แค่คิดก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว “ท่านเห็นข้าเป็นลูกหมาหรืออย่างไร อยากจะจับแต่งตัวอย่างไรก็ได้งั้นหรือ หือ” กู่เสี่ยวถิงเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตากลมฉ่ำหวานคล้ายมีไอหมอกจางๆ ปกคลุมไว้ ริมฝีปากบางอมชมพูเผยอขึ้นเล็กน้อย ข

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status