เหม่ยอิงถูกนายท่านหนุ่มลากนางมาจนถึงเรือนเล็กของเขาแล้วผลักประตูลากนางเข้าไปจนถึงในห้องนอนด้านหลัง “ ต่อไปนี้เจ้าย้ายมาอยู่ที่เรือนนี้มิต้องกลับไปพักที่เรือนของสาวใช้อีกแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเลือกอาภรณ์ใหม่ เครื่องประดับและเครื่องประทินโฉมใหม่ทั้งหมด เจ้าอยากจะได้สิ่งใดข้าจะซื้อหาให้เจ้าเอง มิต้องไปรับของๆบุรุษอื่นเช่นนี้ ” เหม่ยอิงที่ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะกลมกลางห้องนอนของเขา“ ท่านกับพวกเขาก็เป็นผู้อื่นสำหรับข้าเช่นกัน ใครจะมอบของกำนัลให้ก็มีค่าเท่ากัน ทำไมจะข้าจะรับของพวกเขามิได้ ท่านอย่าลืมสิ ท่านเกลียดชังข้ายิ่งนัก มิอาจจะรับข้าเป็นแม้กระทั่งอนุของท่าน เช่นนั้นแล้วระหว่างเรามิได้มีสถานะเป็นอะไรกัน ข้าจะชอบพอใครหรือจะพึงใจบุรุษคนไหนหัวใจของข้าคงจะเป็นอิสระแก่ตนเองอยู่กระมัง ” นายท่านหนุ่มหันขวับมาจ้องนางทันที “ เริงรักกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เจ้าคือเมียของข้าและข้าเป็นผัวของเจ้า แม้เราไม่ได้แต่งงานกัน แต่เจ้าก็คือเมียของข้า ข้ามิมีทางปล่อยให้เจ้าสวมหมวกเขียวให้ข้าเด็ดขาด ต่อไปไม่ต้องไปทำการแสดงแล้ว อยู่แต่ในเรือนเล็กนี้ ข้าจะให้คนมารับใช้เจ้า มิต้องทำสิ่งใด อาหาร
เหม่ยอิงจึงได้จับลูกชายของเขาที่มันพรักพร้อมเหลือเกิน ขยายตัวยิ่งกว่าที่นางเคยเห็น สอดเข้าไปในร่องอวบของนางที่มีน้ำรักหล่อเลี้ยงเอาไว้ไม่น้อยแล้ว จากนั้นก็ค่อยยกสะโพกอวบขย่มเขาทันที จากช้าๆแล้วค่อยๆเร่งจังหวะอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นกระแทกเขาอย่างรุ่นแรง นางโยกบั้นเอวควงเป็นวงกลมเพื่อหยอกเย้าเขา“ เมียจ๋า ได้โปรดรักข้า อย่าทำเช่นนี้ อ๊าาก อ๊ากก อ๊า อ๊ากก ” สามีหมาดๆของนางร้องครวญครางปานจะขาดใจ พลางวิงวอนเมียรักให้รักเขาอย่างเร่าร้อน อย่าให้เขารอเช่นนี้อีกเลย แต่มีหรือเมียหมาดๆของเขาที่เพิ่งรู้สึกว่านางเพิ่งได้อำนาจควบคุมเขา“ อ้อนวอนข้าสิท่านพี่ อ้อนวอนให้ข้าพอใจแล้วข้าจะให้สิ่งที่ท่านต้องการ นางโน้มตัวไปกระซิบเขาด้วยเสียงกระเส่า ส่งสายตายั่วยวนเขาอย่างเป็นต่อยิ่งนัก “เมียจ๋า เมียรักของพี่ ได้โปรดเจ้าอย่าทรมานพี่เช่นนี้เลย ข้ารักเจ้า รักมากที่สุด อ๊าก อ๊ากกก อ๊ากก ” เมื่อเห็นสามีทรมานเช่นนี้ นางจึงได้เร่งขย่มร่างอวบบนร่างแกร่งของเขาอย่างรุนแรง นางโยกขย่มเขาอย่างเร่าร้อน นางหลับตาจินตนาการว่าตนเองควบขี่ม้าตัวผู้ที่กำลังคึกคะนองและแสนจะพยศนี้“ อ๊าย อ๊ะ อ๊าย อ๊ายย อ๊ากก อ๊ากก อ๊ากก” ทั้
ยามซื่อ (เก้าโมงกว่าๆ) วันต่อมา ทั้งสองอาบน้ำชำระกายด้วยกัน เหม่ยอิงช่วยเปลี่ยนอาภรณ์ให้กับสามีหมาดๆของนาง “ พี่จะพาเจ้าไปหาซื้ออาภรณ์ที่ถูกใจเจ้า แล้วขอเวลาอีกสองสามวันค่อยแต่งเจ้าเป็นอนุนะ เราแค่ไหว้ทั้งสี่ตามประเพณีที่เรือนของเรานี้พอเป็นพิธีเจ้าจะขัดข้องหรือไม่ เพราะพี่ยังไม่ได้บอกท่านแม่เรื่องของเรา อาจจะต้องใช้เวลาสักพักให้ท่านแม่เข้าใจเรื่องของเราตอนนี้แต่งงานรับเจ้าเป็นอนุประตามประเพณีก่อน แล้วค่อยว่ากันใหม่ เจ้าจะยินดีอยู่กับพี่หรือไม่ ” เขาเอ่ยกับนางขณะที่ช่วยเขาแต่งตัว “ ข้าแล้วแต่ท่านพี่เจ้าค่ะ เพราะข้าเองก็ไม่เหลือใครแล้ว มีแต่ท่านที่เป็นที่พึ่งพา หากท่านพี่รับข้าเป็นอนุข้าก็พอใจแล้ว อนาคตหากมีโอกาสข้าเพียงอยากจะพบครอบครัวของข้าสักครั้ง อยากจะรู้ว่าท่านพ่อท่านแม่สบายดีหรือไม่เพียงเท่านั้น ” คุณชายตงเหวินเชยคางเมียรักขึ้นมาสบตากับเขา“ โอกาสที่บิดามารดาของเจ้าจะกลับแคว้นนี้คงจะยากยิ่ง แม้ก่อนหน้าที่พี่วิ่งเต้นใช้เส้นสายเพื่อจะซื้อตัวเจ้ามาก็แทบเลือดตากระเด็น ใช้เงินไปมากมายยิ่งนัก แต่พี่จะส่งคนไปสืบดูและช่วยเหลือท่านอาทั้งสองเท่าที่จะทำได้ พี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าสบาย
เมื่อรถม้าแล่นมาจนถึงที่หน้าหอคณิกา คุณชายตงเหวินก้าวลงจากรถม้า แล้วรอรับภรรยาของเขา จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปทางด้านข้างของหอคณิกาเพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ จึงได้พากันเดินเข้าไปทางด้านข้างเพื่อกลับไปยังเรือนเล็ก ขณะนั้นพบมาม่าฟางเซียนยืนรอนายท่านหนุ่มอยู่จึงได้หยุดทักทาย“ นายท่านเจ้าคะ มีแต่คนมาขอพบเพื่อจะขอไถ่ถอนตัวของนายหญิง พวกเขายังไม่ทราบว่านางเป็นภรรยาของนายท่านและมิได้ทำการแสดงอีกแล้ว ” นายท่านฟังมาม่าฟางเซียนพูดจบก็เอ่ยบอกนางว่า “ บอกพวกเขาไปว่านางทำการแสดงแทนนางรำที่ไม่มาทำงาน แต่นางเป็นภรรยาของข้าที่ตอนนี้ไม่ให้นางทำการแสดงอีกแล้ว และข้ากำลังจะแต่งงานกับนางในอีกสองสามวันนี้ ” มาม่าฟางเซียนพยักหน้าอย่างยินดีและยิ้มกว้างให้กับทั้งสอง“ ยินดีกับนายท่านและนายหญิงจริงๆเจ้าค่ะ ข้าดูแลรับใช้นายท่านมาหลายปีแล้ว ต่อไปก็ขอฝากนายหญิงดูแลนายท่านให้ดีด้วยเจ้าคะ ข้ายินดีกับนายท่านจริงๆที่จะได้มีคนดูแลแล้วเช่นนี้ ” มาม่าฟางเซียนยิ้มกว้างอย่างยินดี นางติดหนี้บุญคุณนายท่านที่ช่วยชีวิตนางไว้และทำให้นางได้มีชีวิตที่ดีขึ้น พ้นความทุกข์ทรมานเมื่อครั้งอดีต และได้ช่วยเหลือครอบครัวของนางให
วันต่อมาคุณชายหยางตงเหวินพาอนุเหม่ยอิงไปที่จวนหยางเพื่อยกน้ำชาให้มารดาของเขา เพราะเขาคิดว่าหากจะปิดบังมารดาไปก็คงได้ไม่นานเพราะข่าวของเขาต้องมีคนนำไปบอกมารดาอย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจพาเหม่ยอิงไปพบมารดาของเขาเสียในวันนี้ เมื่อไปถึงจวนหยางก็พานางเข้าไปหามารดาที่เรือนหลักเมื่อเดินเข้าไปก็พบมารดากำลังนั่งขัดถูเครื่องประดับของนางอยู่ที่โต๊ะกลมกลางห้องนั้น โดยมีหญิงงามผู้หนึ่งที่ดูงดงามน่ารักนั่งอยู่ข้างๆมารดา “ ท่านแม่ขอรับ วันนี้ข้าพาลูกสะใภ้มายกน้ำชาขอรับ ” มารดาของเขาเงยหน้าขึ้นจากกองเครื่องประดับตรงหน้านาง แล้วหันมามองบุตรชายและสตรีที่ยืนอยู่ข้างกายเขาใบหน้าของนางเปลี่ยนสีไปทันทีเมื่อเพ่งพิศมองใบหน้าของเหม่ยอิง “ จ้าวเหม่ยอิง นั่นนางใช่หรือไม่ ตงเหวินเจ้าบ้าไปแล้วหรือไร ถึงได้คิดแต่งหญิงใจดำเช่นนี้มาเป็นภรรยา ข้ามิอาจยอมรับได้หรอกนะ หากเจ้าอยากจะได้นางนัก ก็รับนางเป็นนางบำเรอก็พอแล้ว หญิงเช่นนางที่มาจากบิดามารดาที่ใจดำและไม่มีความจริงใจ หากเรายังมีประโยชน์ให้พวกเขาก็จะมองเราเป็นสหายหากเราตกต่ำพวกเขาก็พร้อมจะสลัดเราทิ้งอย่างไม่ไยดี ไม่ได้มีความจริงใจให้ใคร ที่นางยอมเป็นเมียของเจ้าก็
เหม่ยอิงอึ้งงันไปทันที แม้ในใจของนางนั้นรักสามีเหลือเกิน แต่ในเมื่อแม่สามียื่นคำขาดต่อนางว่ามิอาจจะรับนางเป็นลูกสะใภ้มิว่าตำแหน่งใดๆและมิอยากจะให้หลานของนางกำเนิดมาจากสะใภ้เช่นเหม่ยอิง เมื่อแม่สามีพูดถึงขนาดนี้แสดงว่ามิให้อภัยอย่างเด็ดขาด เหม่ยอิงจึงคิดว่าแม้นางจะรักพี่ตงเหวินมาก แต่นางและครอบครัวก็ทำผิดต่อครอบครัวของพี่ตงเหวินไว้มากจนท่านป้าหยางมิอาจจะให้อภัยและยอมรับนางได้ จึงได้เอ่ยว่า“ หากท่านป้าต้องการเช่นนั้นข้าก็พร้อมจะทำตามเพื่อให้ท่านป้ากับพี่ตงเหวินมีความสุขและยอมให้อภัยข้าและท่านพ่อ หากท่านป้าจะให้รถม้าไปส่งข้าวันไหนก็ขอได้โปรดส่งคนไปบอกข้า ข้าจะรีบออกไปจากชีวิตของพี่ตงเหวินทันทีเจ้าค่ะ ” นางตัดสินใจเอ่ยด้วยมองไม่เห็นทางที่นางกับสามีจะครองรักกันได้ สามีของนางเป็นบุรุษที่หล่อเหลา เขาย่อมจะมีหญิงมาพึงใจมากมาย และยิ่งเขามีฐานะร่ำรวยแล้ว หากนางหนีไป เพียงไม่นานเขาคงจะลืมนางได้ ยิ่งมีสตรีที่งดงามน่ารักที่ท่านป้าเต็มใจอยากจะได้เป็นสะใภ้อยู่ใกล้ชิดเขา อีกไม่นานเขาก็คงจะลืมนางไปเอง เส้นทางชีวิตของนางกับพี่ตงเหวินเป็นเส้นขนานที่มิอาจจะมาบรรจบกันได้ แม้จะเพียงผ่านพบกันแค่ช่วงระยะเว
หลายวันต่อมามีคนของฮูหยินหยางมาส่งข่าวโดยฝากจดหมายน้อยมาให้เหม่ยอิง นางเปิดออกอ่านแล้วพบว่ารถม้าจะมารอรับนางที่หน้าหอคณิกาในอีกสองวัน แต่วันนั้นจะมาคนช่วยนางเบี่ยงเบนความสนใจของคนดูแลหอคณิกาและยามรักษาการณ์ของที่นี่ให้นาง และมิต้องขนข้าวของสิ่งใดติดตัวไป ฮูหยินหยางจะให้คนเตรียมของจำเป็นใส่ไว้ให้นางในรถม้า และเงินจะมีผู้นำมาให้นางระหว่างเดินทางเองมิต้องเป็นห่วงอะไรเพียงเตรียมตัวเดินทางเพียงเท่านั้นเมื่อรู้เวลาที่แน่นอนที่จะต้องจากสามีของนางแล้ว นางคอยปรนนิบัติเขาและเริงรักกันอย่างเร่าร้อน นางอยากจะดูแลเขาไปจนถึงวันสุดท้าย เขาไปที่ไหนนางมักจะอ้อนขอติดตามเขาไปในทุกที่ แม้เขาไปตรวจงานที่นอกเมือง นางก็จะติดตามไปด้วย เพราะเวลาของนางเหลืออีกไม่มากแล้ว วันที่จะต้องออกเดินทางไปจากแคว้นหนิงโจวมาถึงแล้ว นางขึ้นไปบนหอคณิกาและตรงไปพบชุ่ยหลินที่ห้องแต่งตัวของนางรำและมอบปิ่นเล็กๆที่มีพลอยหลากสีประดับไว้พร้อมกับเครื่องประทินโฉมหนึ่งตลับให้นาง “ นายหญิง ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะที่มอบของมีค่าเช่นนี้ให้กับข้า ตั้งแต่ท่านไม่ได้ทำการแสดงอีกแล้ว ข้าเหงามากเลยเจ้าค่ะ ไม่มีคนคุยด้วยเลย เพราะนางรำผู้อื่นรับงานก
ด้านเหม่ยอิงเมื่อรถม้าที่นางโดยสารมาหยุดนิ่งหลังจากที่วิ่งห้อตะบึงมานานนับชั่วยาม มันเกิดอะไรขึ้นกัน แต่นางก็นั่งฟังเสียงด้านนอกที่เงียบอยู่จากนั้นประตูรถม้าก็เปิดผางออก“ นายหญิงขอรับ นายท่านให้มารับกลับจวนขอรับ นายท่านไม่อนุญาติให้นายหญิงเดินทางไปไหนหากไม่มีนายท่านไปด้วย โปรดกลับไปกับข้าเถิดขอรับ ” แล้วชายในชุดดำนั้นก็ได้รอคำตอบ เขาเดินเข้ามาในรถม้าคล้ายจะกดดันนางให้ลุกขึ้น แต่มิได้แตะต้องตัวของนาง เหม่ยอิงจึงได้ลุกขึ้นช้าๆหอห่อผ้าที่มีเงินซุกซ่อนไว้ในนั้นโดยทิ้งของกินเอาไว้เพราะนางหอบหิ้วไปไม่ไหว แล้วยอมเดินออกไปจากรถม้านั้นแต่โดยดีเมื่อเดินลงมาจากรถม้าคันเดิม ก็มีอีกคันหนึ่งจอดรอรับนาง ชายชุดดำผายมือให้นางเดินไปขึ้นรถม้าคันนั้น เหม่ยอิงยอมเดินขึ้นไปอย่างว่าง่ายเพราะนางมิอาจขัดขืนชายชุดดำสามสี่คนที่ยืนขนาบข้างรถม้า และนางคิดว่าคนเหล่านี้คงจะเป็นคนของสามีของนางนั่นเอง เขาหูตาไวมากสมกับที่สร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวยเป็นคหบดีใหญ่ด้วยตนเองโดยใช้เวลาไม่กี่ปีเท่านั้น นางจึงยอมขึ้นรถม้าคันใหม่นั้นแต่โดยดี ในรถม้าก็มีห่อของกินและน้ำดื่มเช่นกัน สองคนนี้สมกับเป็นแม่ลูกกันจริงๆ แม้สิ่งของที่จ
คืนนั้นทั้งคืนเหม่ยอิงก็ร้องครวญครางใต้ร่างสามี เขาร้อนแรงยิ่งนัก มิได้ปล่อยให้นางได้พักร่างเลย แม้นางจะประท้วงว่านางกำลังตั้งครรภ์ แต่เขาก็ยังเคี่ยวกรำนางทั้งคืน แต่แล้วเหม่ยอิงก็เอาแต่ส่งเสียงร้องครวญครางและเคลิบเคลิ้มไปกับรสรักของสามีที่หลอกล่อจนนางหลงลืืมไปหมดจนได้ ทั้งสองเริงรักกันที่จวนนอกเมืองแห่งนี้จนหลายวันผ่านไป นายท่านถึงจะออกไปตรวจงานนอกจวนสักครั้ง กิจการใดที่เขาไว้วางใจคนดูแลเขาก็มักจะให้ส่งเพียงรายงานและบัญชีมาให้เขาตรวจสอบ เหม่ยอิงก็ช่วยงานสามีบ้างเท่าที่นางจะช่วยได้แต่เขามิอยากให้นางเคร่งเครียดเพราะนางกำลังตั้งครรภ์จึงให้ทำแต่งานเบาๆ ชีวิตของเหม่ยอิงตอนนี้ดียิ่งกว่าอดีตคุณหนูจ้าวเสียอีก นางอยากจะได้สิ่งใดปรารถนาสิ่งใด สามีของนางก็บันดาลให้ทุกอย่างเขาขอเพียงนางคลอดลูกให้เขาหลายๆคนเพียงเท่านั้น นางได้ข่าวคราวของบิดามารดาเพราะสามีให้คนไปสืบมาและได้ทำการช่วยเหลือไปแล้วจนครอบครัวของนางมีจวนขนาดกลางอยู่อาศัยและมีเงินทุนจำนวนมากเพื่อทำกิจการค้าต่อไป ทุกคนสบายดี และฝากความคิดถึงมาให้นางและอวยพรขอให้นางและสามีครองรักกันอย่างมีความสุข หากมีโอกาสขอให้พาหลานๆไปเที่ยวที่แคว้นสู่
ด้านเหม่ยอิงเมื่อรถม้าที่นางโดยสารมาหยุดนิ่งหลังจากที่วิ่งห้อตะบึงมานานนับชั่วยาม มันเกิดอะไรขึ้นกัน แต่นางก็นั่งฟังเสียงด้านนอกที่เงียบอยู่จากนั้นประตูรถม้าก็เปิดผางออก“ นายหญิงขอรับ นายท่านให้มารับกลับจวนขอรับ นายท่านไม่อนุญาติให้นายหญิงเดินทางไปไหนหากไม่มีนายท่านไปด้วย โปรดกลับไปกับข้าเถิดขอรับ ” แล้วชายในชุดดำนั้นก็ได้รอคำตอบ เขาเดินเข้ามาในรถม้าคล้ายจะกดดันนางให้ลุกขึ้น แต่มิได้แตะต้องตัวของนาง เหม่ยอิงจึงได้ลุกขึ้นช้าๆหอห่อผ้าที่มีเงินซุกซ่อนไว้ในนั้นโดยทิ้งของกินเอาไว้เพราะนางหอบหิ้วไปไม่ไหว แล้วยอมเดินออกไปจากรถม้านั้นแต่โดยดีเมื่อเดินลงมาจากรถม้าคันเดิม ก็มีอีกคันหนึ่งจอดรอรับนาง ชายชุดดำผายมือให้นางเดินไปขึ้นรถม้าคันนั้น เหม่ยอิงยอมเดินขึ้นไปอย่างว่าง่ายเพราะนางมิอาจขัดขืนชายชุดดำสามสี่คนที่ยืนขนาบข้างรถม้า และนางคิดว่าคนเหล่านี้คงจะเป็นคนของสามีของนางนั่นเอง เขาหูตาไวมากสมกับที่สร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวยเป็นคหบดีใหญ่ด้วยตนเองโดยใช้เวลาไม่กี่ปีเท่านั้น นางจึงยอมขึ้นรถม้าคันใหม่นั้นแต่โดยดี ในรถม้าก็มีห่อของกินและน้ำดื่มเช่นกัน สองคนนี้สมกับเป็นแม่ลูกกันจริงๆ แม้สิ่งของที่จ
หลายวันต่อมามีคนของฮูหยินหยางมาส่งข่าวโดยฝากจดหมายน้อยมาให้เหม่ยอิง นางเปิดออกอ่านแล้วพบว่ารถม้าจะมารอรับนางที่หน้าหอคณิกาในอีกสองวัน แต่วันนั้นจะมาคนช่วยนางเบี่ยงเบนความสนใจของคนดูแลหอคณิกาและยามรักษาการณ์ของที่นี่ให้นาง และมิต้องขนข้าวของสิ่งใดติดตัวไป ฮูหยินหยางจะให้คนเตรียมของจำเป็นใส่ไว้ให้นางในรถม้า และเงินจะมีผู้นำมาให้นางระหว่างเดินทางเองมิต้องเป็นห่วงอะไรเพียงเตรียมตัวเดินทางเพียงเท่านั้นเมื่อรู้เวลาที่แน่นอนที่จะต้องจากสามีของนางแล้ว นางคอยปรนนิบัติเขาและเริงรักกันอย่างเร่าร้อน นางอยากจะดูแลเขาไปจนถึงวันสุดท้าย เขาไปที่ไหนนางมักจะอ้อนขอติดตามเขาไปในทุกที่ แม้เขาไปตรวจงานที่นอกเมือง นางก็จะติดตามไปด้วย เพราะเวลาของนางเหลืออีกไม่มากแล้ว วันที่จะต้องออกเดินทางไปจากแคว้นหนิงโจวมาถึงแล้ว นางขึ้นไปบนหอคณิกาและตรงไปพบชุ่ยหลินที่ห้องแต่งตัวของนางรำและมอบปิ่นเล็กๆที่มีพลอยหลากสีประดับไว้พร้อมกับเครื่องประทินโฉมหนึ่งตลับให้นาง “ นายหญิง ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะที่มอบของมีค่าเช่นนี้ให้กับข้า ตั้งแต่ท่านไม่ได้ทำการแสดงอีกแล้ว ข้าเหงามากเลยเจ้าค่ะ ไม่มีคนคุยด้วยเลย เพราะนางรำผู้อื่นรับงานก
เหม่ยอิงอึ้งงันไปทันที แม้ในใจของนางนั้นรักสามีเหลือเกิน แต่ในเมื่อแม่สามียื่นคำขาดต่อนางว่ามิอาจจะรับนางเป็นลูกสะใภ้มิว่าตำแหน่งใดๆและมิอยากจะให้หลานของนางกำเนิดมาจากสะใภ้เช่นเหม่ยอิง เมื่อแม่สามีพูดถึงขนาดนี้แสดงว่ามิให้อภัยอย่างเด็ดขาด เหม่ยอิงจึงคิดว่าแม้นางจะรักพี่ตงเหวินมาก แต่นางและครอบครัวก็ทำผิดต่อครอบครัวของพี่ตงเหวินไว้มากจนท่านป้าหยางมิอาจจะให้อภัยและยอมรับนางได้ จึงได้เอ่ยว่า“ หากท่านป้าต้องการเช่นนั้นข้าก็พร้อมจะทำตามเพื่อให้ท่านป้ากับพี่ตงเหวินมีความสุขและยอมให้อภัยข้าและท่านพ่อ หากท่านป้าจะให้รถม้าไปส่งข้าวันไหนก็ขอได้โปรดส่งคนไปบอกข้า ข้าจะรีบออกไปจากชีวิตของพี่ตงเหวินทันทีเจ้าค่ะ ” นางตัดสินใจเอ่ยด้วยมองไม่เห็นทางที่นางกับสามีจะครองรักกันได้ สามีของนางเป็นบุรุษที่หล่อเหลา เขาย่อมจะมีหญิงมาพึงใจมากมาย และยิ่งเขามีฐานะร่ำรวยแล้ว หากนางหนีไป เพียงไม่นานเขาคงจะลืมนางได้ ยิ่งมีสตรีที่งดงามน่ารักที่ท่านป้าเต็มใจอยากจะได้เป็นสะใภ้อยู่ใกล้ชิดเขา อีกไม่นานเขาก็คงจะลืมนางไปเอง เส้นทางชีวิตของนางกับพี่ตงเหวินเป็นเส้นขนานที่มิอาจจะมาบรรจบกันได้ แม้จะเพียงผ่านพบกันแค่ช่วงระยะเว
วันต่อมาคุณชายหยางตงเหวินพาอนุเหม่ยอิงไปที่จวนหยางเพื่อยกน้ำชาให้มารดาของเขา เพราะเขาคิดว่าหากจะปิดบังมารดาไปก็คงได้ไม่นานเพราะข่าวของเขาต้องมีคนนำไปบอกมารดาอย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจพาเหม่ยอิงไปพบมารดาของเขาเสียในวันนี้ เมื่อไปถึงจวนหยางก็พานางเข้าไปหามารดาที่เรือนหลักเมื่อเดินเข้าไปก็พบมารดากำลังนั่งขัดถูเครื่องประดับของนางอยู่ที่โต๊ะกลมกลางห้องนั้น โดยมีหญิงงามผู้หนึ่งที่ดูงดงามน่ารักนั่งอยู่ข้างๆมารดา “ ท่านแม่ขอรับ วันนี้ข้าพาลูกสะใภ้มายกน้ำชาขอรับ ” มารดาของเขาเงยหน้าขึ้นจากกองเครื่องประดับตรงหน้านาง แล้วหันมามองบุตรชายและสตรีที่ยืนอยู่ข้างกายเขาใบหน้าของนางเปลี่ยนสีไปทันทีเมื่อเพ่งพิศมองใบหน้าของเหม่ยอิง “ จ้าวเหม่ยอิง นั่นนางใช่หรือไม่ ตงเหวินเจ้าบ้าไปแล้วหรือไร ถึงได้คิดแต่งหญิงใจดำเช่นนี้มาเป็นภรรยา ข้ามิอาจยอมรับได้หรอกนะ หากเจ้าอยากจะได้นางนัก ก็รับนางเป็นนางบำเรอก็พอแล้ว หญิงเช่นนางที่มาจากบิดามารดาที่ใจดำและไม่มีความจริงใจ หากเรายังมีประโยชน์ให้พวกเขาก็จะมองเราเป็นสหายหากเราตกต่ำพวกเขาก็พร้อมจะสลัดเราทิ้งอย่างไม่ไยดี ไม่ได้มีความจริงใจให้ใคร ที่นางยอมเป็นเมียของเจ้าก็
เมื่อรถม้าแล่นมาจนถึงที่หน้าหอคณิกา คุณชายตงเหวินก้าวลงจากรถม้า แล้วรอรับภรรยาของเขา จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปทางด้านข้างของหอคณิกาเพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ จึงได้พากันเดินเข้าไปทางด้านข้างเพื่อกลับไปยังเรือนเล็ก ขณะนั้นพบมาม่าฟางเซียนยืนรอนายท่านหนุ่มอยู่จึงได้หยุดทักทาย“ นายท่านเจ้าคะ มีแต่คนมาขอพบเพื่อจะขอไถ่ถอนตัวของนายหญิง พวกเขายังไม่ทราบว่านางเป็นภรรยาของนายท่านและมิได้ทำการแสดงอีกแล้ว ” นายท่านฟังมาม่าฟางเซียนพูดจบก็เอ่ยบอกนางว่า “ บอกพวกเขาไปว่านางทำการแสดงแทนนางรำที่ไม่มาทำงาน แต่นางเป็นภรรยาของข้าที่ตอนนี้ไม่ให้นางทำการแสดงอีกแล้ว และข้ากำลังจะแต่งงานกับนางในอีกสองสามวันนี้ ” มาม่าฟางเซียนพยักหน้าอย่างยินดีและยิ้มกว้างให้กับทั้งสอง“ ยินดีกับนายท่านและนายหญิงจริงๆเจ้าค่ะ ข้าดูแลรับใช้นายท่านมาหลายปีแล้ว ต่อไปก็ขอฝากนายหญิงดูแลนายท่านให้ดีด้วยเจ้าคะ ข้ายินดีกับนายท่านจริงๆที่จะได้มีคนดูแลแล้วเช่นนี้ ” มาม่าฟางเซียนยิ้มกว้างอย่างยินดี นางติดหนี้บุญคุณนายท่านที่ช่วยชีวิตนางไว้และทำให้นางได้มีชีวิตที่ดีขึ้น พ้นความทุกข์ทรมานเมื่อครั้งอดีต และได้ช่วยเหลือครอบครัวของนางให
ยามซื่อ (เก้าโมงกว่าๆ) วันต่อมา ทั้งสองอาบน้ำชำระกายด้วยกัน เหม่ยอิงช่วยเปลี่ยนอาภรณ์ให้กับสามีหมาดๆของนาง “ พี่จะพาเจ้าไปหาซื้ออาภรณ์ที่ถูกใจเจ้า แล้วขอเวลาอีกสองสามวันค่อยแต่งเจ้าเป็นอนุนะ เราแค่ไหว้ทั้งสี่ตามประเพณีที่เรือนของเรานี้พอเป็นพิธีเจ้าจะขัดข้องหรือไม่ เพราะพี่ยังไม่ได้บอกท่านแม่เรื่องของเรา อาจจะต้องใช้เวลาสักพักให้ท่านแม่เข้าใจเรื่องของเราตอนนี้แต่งงานรับเจ้าเป็นอนุประตามประเพณีก่อน แล้วค่อยว่ากันใหม่ เจ้าจะยินดีอยู่กับพี่หรือไม่ ” เขาเอ่ยกับนางขณะที่ช่วยเขาแต่งตัว “ ข้าแล้วแต่ท่านพี่เจ้าค่ะ เพราะข้าเองก็ไม่เหลือใครแล้ว มีแต่ท่านที่เป็นที่พึ่งพา หากท่านพี่รับข้าเป็นอนุข้าก็พอใจแล้ว อนาคตหากมีโอกาสข้าเพียงอยากจะพบครอบครัวของข้าสักครั้ง อยากจะรู้ว่าท่านพ่อท่านแม่สบายดีหรือไม่เพียงเท่านั้น ” คุณชายตงเหวินเชยคางเมียรักขึ้นมาสบตากับเขา“ โอกาสที่บิดามารดาของเจ้าจะกลับแคว้นนี้คงจะยากยิ่ง แม้ก่อนหน้าที่พี่วิ่งเต้นใช้เส้นสายเพื่อจะซื้อตัวเจ้ามาก็แทบเลือดตากระเด็น ใช้เงินไปมากมายยิ่งนัก แต่พี่จะส่งคนไปสืบดูและช่วยเหลือท่านอาทั้งสองเท่าที่จะทำได้ พี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าสบาย
เหม่ยอิงจึงได้จับลูกชายของเขาที่มันพรักพร้อมเหลือเกิน ขยายตัวยิ่งกว่าที่นางเคยเห็น สอดเข้าไปในร่องอวบของนางที่มีน้ำรักหล่อเลี้ยงเอาไว้ไม่น้อยแล้ว จากนั้นก็ค่อยยกสะโพกอวบขย่มเขาทันที จากช้าๆแล้วค่อยๆเร่งจังหวะอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นกระแทกเขาอย่างรุ่นแรง นางโยกบั้นเอวควงเป็นวงกลมเพื่อหยอกเย้าเขา“ เมียจ๋า ได้โปรดรักข้า อย่าทำเช่นนี้ อ๊าาก อ๊ากก อ๊า อ๊ากก ” สามีหมาดๆของนางร้องครวญครางปานจะขาดใจ พลางวิงวอนเมียรักให้รักเขาอย่างเร่าร้อน อย่าให้เขารอเช่นนี้อีกเลย แต่มีหรือเมียหมาดๆของเขาที่เพิ่งรู้สึกว่านางเพิ่งได้อำนาจควบคุมเขา“ อ้อนวอนข้าสิท่านพี่ อ้อนวอนให้ข้าพอใจแล้วข้าจะให้สิ่งที่ท่านต้องการ นางโน้มตัวไปกระซิบเขาด้วยเสียงกระเส่า ส่งสายตายั่วยวนเขาอย่างเป็นต่อยิ่งนัก “เมียจ๋า เมียรักของพี่ ได้โปรดเจ้าอย่าทรมานพี่เช่นนี้เลย ข้ารักเจ้า รักมากที่สุด อ๊าก อ๊ากกก อ๊ากก ” เมื่อเห็นสามีทรมานเช่นนี้ นางจึงได้เร่งขย่มร่างอวบบนร่างแกร่งของเขาอย่างรุนแรง นางโยกขย่มเขาอย่างเร่าร้อน นางหลับตาจินตนาการว่าตนเองควบขี่ม้าตัวผู้ที่กำลังคึกคะนองและแสนจะพยศนี้“ อ๊าย อ๊ะ อ๊าย อ๊ายย อ๊ากก อ๊ากก อ๊ากก” ทั้
เหม่ยอิงถูกนายท่านหนุ่มลากนางมาจนถึงเรือนเล็กของเขาแล้วผลักประตูลากนางเข้าไปจนถึงในห้องนอนด้านหลัง “ ต่อไปนี้เจ้าย้ายมาอยู่ที่เรือนนี้มิต้องกลับไปพักที่เรือนของสาวใช้อีกแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเลือกอาภรณ์ใหม่ เครื่องประดับและเครื่องประทินโฉมใหม่ทั้งหมด เจ้าอยากจะได้สิ่งใดข้าจะซื้อหาให้เจ้าเอง มิต้องไปรับของๆบุรุษอื่นเช่นนี้ ” เหม่ยอิงที่ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะกลมกลางห้องนอนของเขา“ ท่านกับพวกเขาก็เป็นผู้อื่นสำหรับข้าเช่นกัน ใครจะมอบของกำนัลให้ก็มีค่าเท่ากัน ทำไมจะข้าจะรับของพวกเขามิได้ ท่านอย่าลืมสิ ท่านเกลียดชังข้ายิ่งนัก มิอาจจะรับข้าเป็นแม้กระทั่งอนุของท่าน เช่นนั้นแล้วระหว่างเรามิได้มีสถานะเป็นอะไรกัน ข้าจะชอบพอใครหรือจะพึงใจบุรุษคนไหนหัวใจของข้าคงจะเป็นอิสระแก่ตนเองอยู่กระมัง ” นายท่านหนุ่มหันขวับมาจ้องนางทันที “ เริงรักกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เจ้าคือเมียของข้าและข้าเป็นผัวของเจ้า แม้เราไม่ได้แต่งงานกัน แต่เจ้าก็คือเมียของข้า ข้ามิมีทางปล่อยให้เจ้าสวมหมวกเขียวให้ข้าเด็ดขาด ต่อไปไม่ต้องไปทำการแสดงแล้ว อยู่แต่ในเรือนเล็กนี้ ข้าจะให้คนมารับใช้เจ้า มิต้องทำสิ่งใด อาหาร