หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป…วันนี้เป็นวันที่ฉันตื่นเต้นที่สุด และมีเรื่องให้ตื่นเต้นถึงสองเรื่องด้วยกัน ตื่นเต้นที่หนึ่งคือฉันจะได้ขึ้นเครื่ิงบิน ซึ่งตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยได้ขึ้นเครื่ิงบินเลยสักครั้งตื่นเต้นที่สองคือฉันกำลังจะได้ไปเยี่ยมนาลิน น้องสาวของฉันที่ถูกเอาตัวไปรักษาอาการป่วยที่ประเทศอังกฤษคุณเหนือบอกว่าหมอได้ทำการรักษานาลินแล้ว และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นและวิเคราะห์โรคว่าจะหายขาดหรือเปล่า อาจจะได้พักฟื้นที่โรงพยาบาลอีกหนึ่งถึงสองเดือน เพื่อรอดูอาการฉันเดินขึ้นเครื่องบินตามคุณเหนือ ก็รู้สึกแปลกใจที่เที่ยวบินนี้ไม่มีใครเลย นอกจากคุณเหนือกับฉัน และลูกน้องของเขา“ทำไมถึงไม่มีใครเลยล่ะคะ”คุณเหนือขมวดคิ้วราวกับว่าคำถามของฉันมันทำให้เขารำคาญใจ“ขอโทษที่รินถามอะไรโง่ๆ นะคะ คือรินแค่สงสัย”คุณเหนือเดินผ่านหน้าฉันไปโดยไม่พูดอะไร ฉันจึงรีบเดินตามเขา ถึงแม้จะยังสงสัยว่าทำไมเที่ยวบินนี้ถึงมีแต่เราก็ตามฉันนั่งลงที่นั่งข้างๆ กับคุณเหนือ แต่มีช่องว่างกั้นไว้เป็นทางเดิน เรานั่งหันหน้าเข้าหากัน ที่ต้องนั่งห่างแบบนี้เพราะฉันไม่อยากรบกวนเขา และไม่อยากให้เขารู้สึกรำคาญใจอีกฉันคอยสังเกตท่าทางข
ฉันเงียบไม่ได้พูดอะไร และก็พอเดาสายตาของคุณเหนือออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“เป็นยังไงบ้างอาการป่วยดีขึ้นหรือยัง” ฉันพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบเสียงของฉันทำให้คุณเหนือละสายตาออกจากนาลิน ก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟา ส่วนนาลินเธอยังมองคุณเหนือไปจนกระทั่งเขานั่งลงบนโซฟา“นาลิน ได้ฟังที่พี่ถามหรือเปล่า” ฉันถามเพื่อเรียกสติน้องสาวอีกครั้ง“อะ อ๋อ ดีขึ้นมากเลยค่ะพี่ริน หลังจากที่ได้รับการรักษาหนูก็รู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ ^_^”“หมอบอกว่าต้องรอดูอาการก่อนนะ” ฉันสำรวจดูเห็นว่านาลินเริ่มดีขึ้นมากจริงๆ เธอมีน้ำมีนวลขึ้นมากกว่าตอนแรก“อยากกินผลไม้ไหม เดี๋ยวพี่จะไปซื้อให้”“ไม่เอาค่ะ หนูยังไม่หิว” นาลินมองคุณเหนืออีกครั้ง “พี่รินจะมาอยู่กี่วันเหรอคะ”“หนึ่งอาทิตย์จ้ะ แต่พี่นอนเฝ้าเธอไม่ได้เพราะหมอห้าม”“หนูอยากให้พี่รินนอนเฝ้าจัง” ถึงแม้เธอจะพูดกับฉัน แต่กลับเอาแต่จับจ้องมองคุณเหนือจนฉันรู้สึกใจคอไม่ดี ที่นาลินแสดงกิริยาแบบนี้ออกมา“นาลิน” ฉันมองน้องสาวด้วยสายตาที่ดุกล่าว ทำให้เธอยิ้มแห้ง แล้วพูดแบบกระซิบกระซาบกับฉัน “นานๆ ทีหนูจะเจอผู้ชายหน้าตาดีๆ นี่นา”คำพูดของนาลิน ทำให้ฉันหยิกเธอเบาๆ ที่คิดเรื่องแบบนี้ท
ฉันตัดสินใจว่าจะขอเขาเรื่องนาลิน ฉันไม่อยากให้น้องสาวต้องเข้ามาติดอยู่ในบ่วงกามอย่างฉัน“น้องสาวของเธอทำไม ?” สายตาเย็นชาตวัดขึ้นมามองใบหน้าของฉันเพื่อรอฟังคำตอบ“อย่ายุ่งกับน้องสาวของรินได้ไหมคะ…”“เธอกล้าขอฉัน ?”“นะ นาลินไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย เธอไม่ควรถูกดึงเข้ามาอยู่ในวงจรแบบที่รินเป็นอยู่ในตอนนี้”นิ้วใหญ่ลากไล้วนไปมาบนพวงแก้มของฉัน ฉันพยายามค้นหาคำตอบจากดวงตาคู่นั้นของเขา แต่ก็ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้“แล้วถ้าน้องสาวของเธอเสนอตัวให้ฉัน เธอจะให้ฉันปฏิเสธ ?”“นาลินยังเด็ก….”“วันนี้น้องสาวของเธอดูท่าจะถูกใจฉันด้วยสิ” คุณเหนือพูดสวนขึ้นมา“…คุณเหนือ”ใบหน้าคมคายก้มลงมา ก่อนที่คุณเหนือจะใช้เขี้ยวฟันงับมาบนเนินหน้าอกของฉันอีกครั้ง“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพี่กับน้อง ใครจะเด็ดกว่ากัน”“……” คำตอบของคุณเหนือทำให้ฉันผิดหวัง แค่นี้ฉันก็รู้แล้วว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“เงียบทำไม”“รินขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” พูดจบฉันก็ลุกขึ้นจากตักแกร่ง กำลังจะก้าวขาเดินแต่ถูกรั้งแขนเอาไว้ “ปล่อยค่ะ”ฉันรู้อารมณ์ของตัวเองดีว่าตอนนี้ไม่พอใจเขามากแค่ไหน ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมักมาก ฉันไม่อยากให้เรื่องที่กลัวมันเ
ตอนนี้ฉันกลัวเขาจนตัวสั่น แต่ก็ยังอยากจะอธิบายว่าเรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดสงสัย“ฟะ ฟังรินก่อนได้ไหมคะ” ฉันยกมือขึ้นมารั้งมือของคุณเหนือ ที่กำลังบีบปลายคางของฉันอยู่“พูดมาสิ ฉันกำลังฟังเธออยู่” คุณเหนือเอามือออกไป อย่างน้อยเขาก็ยอมฟังและไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บตัวไปมากกว่านี้“คุณหมอคนนั้น เขาเป็นหมอที่ดูแลอาการป่วยของน้องสาวริน อีกอย่างเราแค่บังเอิญเจอกันในลิฟต์ ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเหนือคิดเลยนะคะ” ฉันใจเย็นและพูดอธิบายให้เขาฟังอย่างละเอียด“เธอไม่คิด แต่เหมือนว่ามันจะคิด”“คุณเหนือคะ รินกับเขาเพิ่งเจอกันแค่สองครั้งเองนะคะ”“ฉันจะให้หมอคนอื่นมาดูแลน้องสาวของเธอแทนมัน”คุณเหนือพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะเดินผ่านหน้าฉันไปที่รถ ฉันจึงต้องรีบเดินตามเขาไปวันนี้ไม่มีคนขับรถให้ คุณเหนือเป็นคนขับแถมเขายังขับเร็วมากๆ ฉันอยากจะท้วงให้เขาขับช้ากว่านี้หน่อย แต่ก็ไม่กล้าท้วงอะไรออกไป เพราะรู้ว่าตอนนี้เขากำลังโกรธ#คอนโดคุณเหนือถอดเสื้อแจ็กเก็ตตัวนอกออก เขาเหวี่ยงมันกระแทกลงพื้นอย่างไม่สนว่าราคาของเสื้อตัวนั้นจะแพงเท่าไหร่ เห็นแบบนั้นฉันจึงรีบเดินไปเก็บให้แต่เมื่อฉันก้มลงเก็บเสื้อ แขนก็ถูกกร
วันต่อมา…ฉันตื่นขึ้นมาข้างกายว่างเปล่า ทั้งที่เมื่อคืนคุณเหนือเขาอุ้มฉันมาทำเรื่องอย่างว่าต่อในห้อง และหลังจากเสร็จบทกามฉันก็หลับไปไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่าคุณเหนือกลับห้องของเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แกร็ก! ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ลุกจากเตียง ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาก่อนที่น้ำเสียงทุ้มต่ำจะออกคำสั่ง “ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เธอต้องไปทำธุระกับฉัน”“แต่รินต้องไปหาน้องที่…”“เธอได้ไปแน่ แต่หลังจากที่ธุระของฉันเสร็จแล้ว” คุณเหนือเดินมาหยุดข้างๆ กับเตียงนอน จากนั้นเขาก็โน้มตัวลงมาใช้สองมือวางค้ำไว้ระหว่างแก้มซ้ายและขวาของฉันสายตาคมกริบจ้องมองใบหน้าฉันอย่างจริงจัง แล้วพูดขึ้น “อย่าคิดว่าเธอจะได้ไปที่โรงพยาบาลนั่นคนเดียวอีก”ฉันได้แต่นอนตัวแข็งทื่อไม่กล้าพูดเถียงอะไรเมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของคนด้านบนคุณเหนือหยัดตัวตรง จากนั้นเขาก็หันหลังให้ฉันเดินออกไปจากห้อง หลังจากที่คุณเหนือเดินไปแล้ว ฉันจึงรีบลุกขึ้นอาบน้ำและเตรียมตัวเพราะหากชักช้าอาจจะเจอดุได้เมื่อทำธุระเสร็จแล้วคุณเหนือก็ขับรถพาฉันมาทำธุระของเขา ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเขาจะพาฉันไปที่ไหน เพราะฉันไม่คุ้นชินกับต่างประเทศ นี
ฉันถูกดึงให้เดินตามมายังห้อง ๆ หนึ่ง ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เขาจะพาฉันมาทำอะไร ในตอนนี้ใจของฉันมันเต็มไปด้วยความกลัว เมื่อประตูห้องถูกเปิดออก ด้านในห้องนั้นมันว่างเปล่าไม่มีใคร ร่างของฉันถูกเหวี่ยงเข้ามาด้านในห้อง ก่อนที่ผู้ชายคนที่เอาตัวฉันมาจะปิดประตู ฉันรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่ประตูใช้มือจับลูกบิด พยายามจะเปิดมันออกให้ได้ แต่กลับไม่สำเร็จเพราะถูกล็อกจากด้านนอก และฉันก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะมาขังฉันไว้แบบนี้ทำไม ในตอนนี้ฉันกลัวทุกอย่าง ภาพที่ฉันเห็นมันต้องเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ ชั้นบนนี้มันเหมือนเป็นที่ลับ คุณเหนือเขาน่ากลัวกว่าที่ฉันคิด ถ้าให้ฉันเดานี่คงจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของเขา ฉันเริ่มคิดหนักขึ้นมาเมื่อคิดถึงคุณเหนือ หากเขารู้ว่าฉันขัดคำสั่งของเขา แถมยังขึ้นมาเห็นอะไรแบบนี้ เขาจะโมโหมากขนาดไหน แกร็ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามา ทำให้ฉันสะดุ้งและยืนขาแข็งมองประตูอยู่แบบนั้น จนกระทั่งเห็นว่ามีร่างของผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง และผู้ชายคนนั้นก็คือคุณเหนือ คุณเหนือยืนหน้าประตู เขากอดอกแล้วจ้องหน้าฉันด้วยสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก โดยไม่ได้พูดอะไรเมื่อฉันเห็นว่าเป็น
หากว่าฉันไม่ยอมตอบคำถาม คงต้องถูกบีบคอจนตายแน่ๆ เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันจึงค่อยๆ ขยับริมฝีปากที่สั่นเทาตอบ“ระ รินเห็นว่าคุณเหนือออกมานานมากแล้ว เลยเดินออกมาจากห้อง ตะ แต่รินไม่ได้ตั้งใจ รินแค่เห็นประตูเปิดเลยเดินขึ้นมาชั้นบน…” ด้วยความกลัวทำให้ฉันพูดอะไรออกไปแบบไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่“เธอเห็นอะไร ?” คุณเหนือถามเสียงเย็น น้ำเสียงของเขามันทำให้อุณหภูมิในร่างกายของฉันลดฮวบลงในทันที“……” ฉันจะตอบว่าอะไรดี ถ้าตอบว่าไม่เห็นเขาจะเชื่อหรือเปล่า แล้วถ้าตอบในสิ่งที่เห็นล่ะในตอนนี้ไม่ว่าจะตอบคำไหนฉันก็กลัวทั้งนั้น“ฉันถามว่าเธอเห็นอะไร วาริน”“มะ ไม่เห็นอะไรเลยค่ะ” ฉันตอบคำตอบโง่ๆ ออกไป และแน่นอน ดูจากสายตาของคุณเหนือก็คงจะไม่เชื่อคำพูดของฉันอยู่แล้ว ฉันจึงหลบสายตาของเขา“…ฉันรู้ว่าเธอกำลังโกหก”คุณเหนือปล่อยปลายคางของฉันให้เป็นอิสระ จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่“ฉันให้โอกาสเธอตอบอีกครั้ง” สายตาคมกริบจ้องมองใบหน้าของฉันอย่างไม่ละสายตา“เธอเห็นอะไร ?”เมื่อรู้แล้วว่าคำโกหกไม่เป็นผล ฉันจึงเลือกตอบความจริง “หะ เห็นผู้หญิง กะ กับผู้ชาย”ฉันค่อยๆ เม้มปากแน่น เมื่อคำตอบของฉันทำให้คุณเหนือเงีย
ใบหน้าของฉันมันร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำที่คุณเหนือกระซิบบอก สมองมันกำลังคิดว่าจะปฏิเสธเขายังไงดี เพราะการทำเรื่องอย่างว่าในรถฉันว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่“ระ รินว่าเรากลับไปทำที่คอนโดดีกว่าไหมคะ”“ฉันอยากทำในรถ” คุณเหนือพูดย้ำอีกครั้ง และมันก็ยิ่งทำให้ฉันลำบากใจมากขึ้น“ริน…”ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อคุณเหนือก็ลุกขึ้น แถมยังดึงร่างของฉันให้ลุกขึ้นตามตัวเองด้วย“ไปที่รถกันเถอะ” น้ำเสียงเรียบๆ เอ่ยบอก ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปที่รถ ทิ้งให้ฉันยืนขาแข็งอยู่อย่างนั้นตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวไม่เป็นท่าเลยในตอนนี้ฉันค่อยๆ ก้าวขาเดินตามคุณเหนือไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเข้ามาในรถหัวใจของฉันมันก็ยิ่งเต้นรัวมากกว่าเดิม“รู้ไหมว่าฉันถูกใจเธอมากแค่ไหน”“ไม่รู้ค่ะ” ฉันตอบไปตามตรงเพราะไม่รู้จริงๆ เพราะการกระทำของเขาดูไม่ได้ถูกใจฉันเลยสักนิดคุณเหนือเอนตัวมาที่เบาะของฉัน เขาเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ แถมยังใช้มือสอดใส่เข้ามาในเสื้อแล้วบีบสะโพกของฉันเบาๆ พร้อมกับลูบไล้ไปมาปลายจมูกโด่งแตะลงมาตรงซอกคอของฉัน แล้วสูดดมกลิ่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของฉัน แล้วพูด “ฉันชอบกลิ่นแป้งเด็กบนตัวเธอ”