เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาที่มุมปากของหนุ่มจางๆ
การทำงานของนิดานั้นถือได้ว่าเธอทำงานอยู่ในขั้นที่เรียกว่าดีเยี่ยม ส่วนหน้าตาก็..น่ารักดี เขาแค่ชอบที่เธอชอบแทนตัวเองว่าหนูกับทุกคนในออฟฟิต อาจจะเป็นเพราะว่าเธออายุน้อยที่สุดก็เป็นได้ คำพูดของนิดาที่พูดกับคนอื่นมันถึงได้ ถ่อมตนอยู่เสมอ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแสงและมุมต่างๆ เอาไว้เป็นโลเกชั่นถ่ายรูปคร่าวๆ ในครั้งต่อไป คู่รักส่วนใหญ่นิยมมาถ่ายพรีเวดดิ้งที่ริมทะเลซะส่วนใหญ่ ทำให้เขาได้เดินทางมาที่นี่บ่อยๆ เขาชอบเวลาที่คลื่นซัดเข้าฝั่ง เสียงคลื่นที่ดังกระทบกับหาดทรายพร้อมกับลมเย็นๆ ที่ปะทะใบหน้ามันชวนให้เขาลืมเลือนเรื่องที่หนักอึ้งในใจเต็มไปหมดเลย ไม่นานนักเขาก็เดินมาที่โรงแรมที่นิดาจองห้องเอาไว้ ซึ่งเธอมายืนต้อนรับเขาที่ด้านหน้าลอบบี้ “หายไปนานเลยนะคะ หนูเอากุญแจห้องมาให้ค่ะ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าหนูได้จัดเตรียมเอาไว้ให้แล้วในห้อง ทั้งชุดนอนและชุดที่คุณหนุ่มจะใส่ในวันพรุ่งนี้ เรื่องมื้อเย็นบอสสามารถเลือกทานได้เลยนะคะว่าจะทานในห้องหรือว่าจะทานที่ห้องอาหารของโรงแรม” เธอเว้นช่องว่างเอาไว้อย่างชัดเจนพร้อมกับคำกล่าวอำลาที่แสนจะเรียบง่าย เขาได้แต่มองกุญแจห้องในมือก่อนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ตอนที่อยู่ในรถ ที่เธอพยายามดูแลเขา เขาคิดว่าเธอมีใจซะอีก.. แต่เท่าที่ดูจากแววตาของเธอแล้ว มันไม่ได้..มีความรู้สึกใดๆ แอบแฝงอยู่เลย คาดหวังอะไรอยู่กันเนี่ย ไม่สมเป็นเขาเลย นิดาเดินมาที่ร้านสะดวกซื้อ เธอซื้อข้าวกล่องและน้ำสองสามขวด ก่อนจะตรงเข้าห้องในทันที ทว่าเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องเธอก็พบกับวิวทะเลยามเย็น.. ห้องพักของเธออยู่ติดทะเลเลย เพราะแบบนั้นนิดาจึงวางของทั้งหมดที่ด้านหน้าห้อง เธอเปิดขวดเบียร์ออก พร้อมกับกรอกเบียร์ใส่ปากเร็วๆ ทั้งที่ควรจะได้ใช้เวลานี้พักผ่อนแท้ๆ แต่กลับต้องมีเรื่องให้คิดมาก วันนี้เธอควรจะมีความสุขที่สุดเพราะว่านิยายที่เธอเขียนมานานกำลังจะตีพิมพ์ เธอควรจะได้ฉลองความสำเร็จนี้กับใครสักคนสิ ไม่ใช่มานั่งเศร้าอยู่คนเดียวแบบนี้ เพื่อนสนิทก็ไม่มีเพราะตอนเรียนก็เอาแต่ตั้งใจเรียนเพื่อจะได้สอบชิงทุน พอทำงานก็ก้มหน้าตั้งใจทำงานมากจนกว่าจะมีแฟนคนแรกก็อายุเกือบสามสิบ “เฮ้อ ให้มันได้แบบนี้สิชีวิต” นิดาหลับตาลงช้าๆ แต่อยู่ๆ กลับมีมือมาแย่งขวดเบียร์ไปจากมือเธอ แสงสุดท้ายของดวงตะวันสาดส่องกระทบใบหน้าที่ไม่ว่าใครก็จะต้องหลงใหลไปกับเขาอย่างแน่นอน เขามองหน้าเธอในขณะที่กำลังกระดกขวดเบียร์ลงคอ “มีเรื่องกลุ้มใจรึไง? ทั้งที่ได้มาพักผ่อนแบบนี้แท้ๆ” พักผ่อนงั้นเรอะ เธอพึ่งจะขับรถจนเมื่อยไปทั้งตัว แถมพึ่งจะจัดการเรื่องงานเสร็จก่อนเขากลับมา เธอยุ่งขนาดนี้แต่เขากลับเรียกว่านี่คือการพักผ่อน..เยี่ยมจริงๆ “เปล่าค่ะ แค่บรรยากาศมันชวนให้อยากดื่ม มาทะเลทั้งทีก็ต้องเมาหน่อยสิคะ” “นึกว่างานที่เธอกำลังทำอยู่มันหนักไปซะอีก” นิดาลุกพรวดพราดขึ้นมาจากเก้าอี้ที่กำลังเอนนอน เธอมองหน้าของเจ้านายด้วยสายตาตกใจ “หากให้ตอบจริงๆ มันก็เหนื่อยค่ะ เพราะกับบางงานบอสไม่ให้พักเลยนี่หากว่างานไม่เสร็จ แต่เมื่อเสร็จงานก็ได้วันพักเท่ากับวันที่ทำงาน ได้นอนเต็มอิ่มแถมยังได้โอทีด้วย มันก็เลยทำให้ความเหนื่อยพอจะจางหายไปบ้าง..” เขานั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ เธอพร้อมกับมองไปเบื้องหน้า มองแสงของดวงตะวันที่กำลังหายไปจากปลายขอบฟ้า “ขยันทำงานจังเลยนะ จะรีบสร้างครอบครัวงั้นเหรอ?” เมื่อได้ยินคำถามแบบนั้นนิดาก็ค่อยๆ หุบยิ้มลง “ไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้นหรอกค่ะ..” เพราะว่าตอนนี้ความคิดของเธอกับแฟนมันดูเหมือนจะไม่ตรงกันแล้ว กลับไปก็ไม่รู้ว่าจะคุยกันยังไงดี ดูจากแววตาก็รู้แล้วว่าเธอกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับความรัก เรื่องนี้เขาให้คำแนะนำไม่ได้ซะด้วยสิ เพราะว่าเขาเองก็ไร้ประสบการณ์เรื่องความรักเหมือนกัน เพราะแบบนั้นเราทั้งสองคนจึงนั่งเคียงข้างกันเงียบๆ นั่งมองคลื่นลูกแล้วลูกเล่าที่ซัดเข้ามายังชายฝั่ง.. ........... “ลูกค้าพอใจกับงานมากเลย คิดถูกจริงๆ ที่ส่งนิดาไปดูสถานที่ก่อนถ่าย เราไม่เคยทำให้พี่ผิดหวังเลยรู้ไหม” หลังจากที่กลับมาจากทะเลก็ปาเข้าไปเกือบสองเดือนแล้ว เธอได้รับโบนัสเพิ่มเพราะว่าลูกค้าชอบงานของเรามาก อันที่จริงไม่ใช่แค่เธอที่ได้แต่เราทุกคนต่างก็ได้รับโบนัสปลายปีกันถ้วนหน้าเพราะความเมตตาจากบอส เหมือนว่าปีนี้จะได้มากกว่าทุกปีด้วย “วันพรุ่งนี้เป็นงานกินเลี้ยงปีใหม่นะ มาให้ตรงเวลาด้วยล่ะ” นิดาส่งยิ้มให้กับพี่เอื้อ พรุ่งนี้เป็นงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทที่จะจัดขึ้นในร้านอาหารชื่อดัง เธอได้รับคำชม ได้รับเงินโบนัสและนิยายของเธอเลื่อนเวลาตีพิมพ์เข้ามาเร็วขึ้น นิยายที่เธอเขียนขายหมดตั้งแต่ที่วางขายได้สามวันกับจำนวนหนึ่งพันเล่ม ยังไม่รวมกับยอดดาวน์โหลดของอีบุ๊คด้วย นี่เธอสามารถเรียกตัวเองว่านักเขียนชื่อดังได้รึยังนะ..ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะโรยด้วยกลีบกุหลาบยกเว้นความรักของเธอ เรามีปากเสียงกันตลอดตั้งแต่ที่เธอกลับมาจากทะเล เหมือนเขาไม่ใช่ตินที่เธอเคยรู้จักอีกต่อไป การมีแฟนมันเหนื่อยเพราะความสัมพันธ์ที่เขาด่าว่าเธอมากกว่าจะชวนคุย หากมีแฟนแล้วมันทำให้เป็นทุกข์มากขนาดนี้ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะยังรั้งเขาเอาไว้ทำไม.. เมื่อเดินออกมาจากบริษัท ก็พบกับอากาศที่เย็นจนต้องสวมเสื้อกันหนาว แต่มันไม่ได้หนาวเท่ากับภาพเบื้องหน้าที่เธอพบเห็น ช่วงเวลาที่ห่างกัน เราต่างก็กำลังสับสน และช่วงเวลานั้นอาจจะทำให้เขารู้ว่าเธอและเขา เราไม่ได้มีความคิดที่ตรงกันสักเท่าไหร่ เมื่อมีคนใหม่เดินเข้ามาและเธอคนนั้นมีความคิดและความต้องการตรงกันกับเขา คงจะเพราะแบบนั้นเขาถึงได้มีคนใหม่อย่างไม่ลังเลเลย ร้านกาแฟที่เธอเคยเข้าไปบ่อยๆ ตอนนี้เธอกลับไม่อยากเข้าไปแล้วล่ะสิ เมื่อเห็นเขากำลังจับมือกับผู้หญิงคนอื่น หากจะถามหาคนที่ผิดจากเรื่องนี้ คนคนนั้นมันคือเธอรึเปล่านะที่เธอเลือกความฝันของตัวเอง ไม่ได้เลือกความรัก.. “พรุ่งนี้มาคุยกันหน่อยสิ” นิดากดส่งข้อความไปหาเขา และเขาตอบกลับมาในทันทีราวกับว่ากำลังรอคอยข้อความของเธออยู่ “ดีเลย พรุ่งนี้พี่ก็มีเรื่องจะคุยกับเราเหมือนกัน” เมื่อถึงวันพรุ่งนี้..เรื่องราวความรักของเรามันคงจะจบลงและเอ่ยคำลาพร้อมกับหลงเหลือเอาไว้แค่คำว่าพี่น้องพี่น้อง...ซะที่ไหนกันล่ะโว้ย!!“พี่ว่าเราเลิกกันเถอะ พี่รับไม่ได้กับเรื่องการเป็นนักเขียนของเรา”อือ พูดแบบตรงๆ นี้ก็ดีเหมือนกัน!“แล้วระหว่างงานเขียนของหนูกับผู้หญิงคนนั้น ปัญหาของเรามันเริ่มมาจากตรงไหนก่อนคะ?”สีหน้าของเขามันเปลี่ยนไปเล็กน้อยเออ..เธอเขียนงานอีโรติกแต่แล้วมันผิดยังไงวะ! จะเอาเรื่องนี้มาบอกเลิกแล้วโยนความผิดให้เธอแบบนั้นมันใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ!!!“ไม่เกี่ยวกับเอวาเลย เอวาเข้ามาในตอนที่พี่ไม่มีใคร”อ๋อ แล้วเธอที่นั่งหัวโด่อยู่นี่คืออะไร?“พี่พูดออกมาแบบนี้ได้ยังไง ทั้งที่ตอนนั้นพี่ยังเป็นแฟนกับหนูอยู่เลย พี่แม่งโคตรเห็นแก่ตัวเลยว่ะ”“แล้วเราจะเอายังไง พี่ไม่ได้รักเราแล้วอ่ะ แล้วพี่ก็ทนไม่ได้ที่แฟนตัวเองเขียนเรื่องบนเตียงออกมาอย่างช่ำชองแบบนั้นทั้งๆ ที่ชีวิตจริงเราไม่เคยทำได้แบบที่เขียนเลย เราเลิกกันเหอะ เรื่องของเราพอแค่นี่เถอะนิดา”เธออ้าปากค้าง นิดาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขาไม่รอให้เธอได้กล่าวคำใดอีกเพราะว่าพี่ตินลุกขึ้นพร้อมกับเดินจากเธอไปสรุปว่าเขาเลิกกับเธอเพราะเธอคือนักเขียนและเพราะว่าเขามีคนอื่น แล้วยังมาด่าเธอว่าเรื่องบนเตียงไม่ได้เรื่อง แต่กลับเดินหนีไปเฉยๆแบบ
“....”หัวใจกำลังเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก ทว่า..เขามีความลับที่บอกใครไม่ได้อยู่..ความลับที่เป็นสาเหตุว่าทำไมเขาถึงไม่เคยทำเรื่องอย่างว่ากับใครมาก่อนในชีวิต“นี่ ออกไปสิวะไอ้ลูกโง่ มายืนอยู่ตรงนี้อยากดูด้วยรึไง?”คนที่เขาเรียกว่าพ่อ เหมือนไม่ใช่มนุษย์เลย ไม่มีตรงไหนที่เหมือนกับคนแต่กลับเหมือนสัตว์เดรัจฉานมากกว่าเพราะพ่อมีฐานะและมีหน้ามีตาในสังคม ศาลจึงตัดสินให้เขาอยู่กับพ่อแทนที่จะได้อยู่กับแม่แม่ของเขาทนทุกข์ทรมานมานานหลายปี ถูกทำร้ายจิตใจด้วยการที่พ่อพาผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเข้าบ้าน แม่เขาได้ชื่อว่าเป็นภรรยาหลวงก็จริงแต่ถึงอย่างนั้นการได้มีชื่อในทะเบียนสมรสมันไม่ได้ทำให้แม่ของเขาเจ็บปวดน้อยลงแม้แต่นิดเดียวและเมื่อแม่หย่ากับพ่อ พ่อก็พาผู้หญิงเข้ามาในบ้านหนักมากกว่าเดิม เขาในตอนนั้นอายุเพียงสิบห้าเท่านั้นมันมีเรื่องราวไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งในผู้หญิงที่พ่อพามา พยายามจะถอดเสื้อผ้าเขาออก เขาพยายามขัดขืนและหลบหนี แต่ก็ไม่เป็นผลความรู้สึกเจ็บปวด และขยะแขยง เขายังจำวันนั้นได้ดีวันที่ความรู้สึกทรมานมันเกิดขึ้นมาในชีวิต ทว่าแม่ของเขาก็เข้ามาช่วยเหลือได้เวลา แต่ถึงอย่างนั้น มันคือแผลที่เกิด
ไม่รู้ว่าด้วยฤทธิ์ของโซจูที่กินเข้าไป หรือว่าด้วยความเสียใจที่กลัดหนองและกลั่นกรองออกมาเป็นความโกรธ นิดาถึงได้ดูเหมือนกับคนที่กำลังคลั่ง..ฉันจะไม่มีทางยินยอมให้ใคร มากล่าวหาว่าเรื่องบนเตียงของฉันมันห่วยอีกแล้ว!!เธอมองหน้าเขาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะเห็นใบหน้าของเขาไม่ชัดเจนมากนัก แต่นิดามั่นใจว่าเขาจะต้องหน้าตาดีอย่างแน่นอน เธอชื่นชอบกลิ่นน้ำหอมที่มันยังคงติดตามร่างกายของเขาไม่แตกต่างจากชื่นชอบน้ำเสียงทุ้มต่ำที่มันกำลังเรียกชื่อของเธออยู่“อ่า..นิดา”มือนุ่มๆ กำลังสัมผัสอยู่ที่ความแข็งตึงตรงกลางกาย เขาจดจ้องทุกการกระทำที่ไร้อาการประหม่าของเธอด้วยใบหน้าที่เห่อร้อนนิดานั้นน่ารัก เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ดูอ่อนหวานและนุ่มฟูมากๆ สำหรับเขา ความน่ารักที่เขาเองก็เผลอแอบมองเธอบ่อยๆทว่าผู้หญิงที่น่ารักคนนั้น กับผู้หญิงที่แสนเร่าร้อนที่กำลังอยู่เหนือร่างกายของเขาในตอนนี้ ดูเหมือนคนละคนกันเลย แต่ความน่ารักยังคงอยู่บนใบหน้าและดวงตากลมโตนั่นอยู่ดีที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือความมั่นใจที่มีความโกรธเล็กๆ ผสมอยู่ปลายลิ้นร้อนกำลังไล่เลียไปตามเส้นเลือดที่ปูดโปนขึ้นมาเหนือลำแท่ง และการใช้ปากกระทำเรื่องเช่นนั
บรรยากาศมันน่ากระอักกระอ่วนใจไม่น้อยเลย เธอนั่งลงในอ่างอาบน้ำอุ่นโดยที่เขาเองก็ลงมานั่งในอ่างเหมือนกันเขาจะตามมาทำไมกันฟะ! ไหนว่าแค่มาส่งแล้วทำไมไม่ออกไปเข้ามานั่งในอ่างหน้าตาเฉย“อะ..เอ่อ หนูไม่รู้เลยนะคะว่าตัวเองจะเมาขนาดนี้ แหะ แหะ..”เขามองหน้าเธอ ดวงตาสีนิลของเขามันฉายแววลึกล้ำพร้อมกับร่างกายที่ขยับเข้ามาใกล้เธอมากยิ่งขึ้น ซึ่งนิดาก็พยายามจะขยับออกไปอีกทางเพราะว่าอ่างอาบน้ำในบ้านของเขามันเป็นทรงกลมที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ตอนนี้มันก็เลยเหมือนเรากำลังวิ่งไล่จับกันในอ่างน้ำ และดูเหมือนว่าความอดทนของหนุ่มจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เพราะว่าเขาคว้าแขนของเธอมาจับเอาไว้“ผมแค่อยากรู้ว่าที่เราทำกันเมื่อครู่ ผมทำได้ไม่ดีงั้นเหรอครับ”ห่างไกลคำว่าไม่ดีพอสมควรเลย มันดีมาก..เพียงแต่เธอดันรู้สึกเขินอายเวลาที่เขาพูดคำพวกนั้นออกมา“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ คือ..หนูแค่รู้สึกปวดหัวเท่านั้นเอง เหมือนว่านี่จะเป็นผลกระทบจากการดื่มที่..มากเกินไป”แววตาที่ลึกล้ำของเขาพลันอ่อนลงเมื่อเธอกล่าวเช่นนั้นออกมา แสดงว่าครั้งแรกของเขามันไม่ได้แย่อย่างที่เขากังวลเอาไว้เพียงแต่กับบางอย่าง..มันไม่สามารถหยุดกลางคันได้ เมื่อเริ่มขึ
นิดาลืมตาขึ้นมาในช่วงเย็นวันที่สามสิบ ธันวาคม เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องก็ไม่เห็นว่ามีใครอยู่ และตอนนี้ท้องของเธอมันกำลังส่งเสียงร้องคำรามด้วยความหิวโหยเธอสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงที่ใหญ่เกินตัวไปมาก เพราะแบบนั้นนิดาจึงต้องจับกางเกงเอาไว้ในยามที่เธอเดินลงบันไดมาชั้นล่าง และเมื่อเดินลงมาก็พบกับพ่อบ้านที่ส่งยิ้มทักทาย“มาทานมื้อเย็นก่อนสิครับ..อ่า อาจจะต้องบอกว่าเป็นมื้อแรกของวันรึเปล่า”เขาดูเป็นชายชราที่หน้าตาใจดี นิดาส่งยิ้มให้คุณลุงก่อนที่เธอจะเดินตรงไปยังโต๊ะอาหาร“ทานได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ นานๆ คุณหนุ่มจะพาแขกมาบ้านสักที”ใบหน้าพลันเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อคุณลุงพูดถึงเจ้านายของเธอ บ้านของเขานั้นใหญ่โตพอสมควรเลย เป็นบ้านหรูที่อยู่ใจกลางเมืองสวนด้านหน้ามีดอกไม้มากมายแปลกตาที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้อยู่กันสองคนอย่างนั้นหรือ?“ตื่นแล้วเหรอนิดา..”เธอกำลังเคี้ยวข้าวจนแก้มทั้งสองข้างพองออก และเมื่อเห็นหน้าเขามันทำให้เธอทำหน้าไม่ถูก“..ตะ ตื่นแล้วค่ะ”รอยยิ้มที่ไม่คุ้นชินปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา เธอควรจะรีบกินข้าวและรีบกลับบ้านเพราะหากว่ายังอยู่ที่นี่ อยู่กับเขามันจะต้อ
“ที่นี่แพงมากเลยไม่ใช่เหรอ ยิ่งชั้นสูงๆ แบบนี้..”“ใช่ค่ะ”เงินที่เธอเก็บมาตลอดระยะที่ทำงานอยู่ที่การซื้อคอนโดหมดเลย เพราะแบบนั้นเธอถึงไม่เคยถือกระเป๋าแบรนด์เนมหรือว่าใช้โทรศัพท์เครื่องละหลายหมื่นเลยเมื่อนิดาเปิดประตูห้องเข้าไปหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะตกใจกับความเป็นระเบียบของสิ่งของภายในห้อง..“ไม่รกเลยแฮะ..”เธอหรี่ตามองหน้าเขา“หนูดูเหมือนคนที่จะทำห้องรกงั้นเหรอคะ”เธอไม่มีทางทำรกอย่างเด็ดขาดเพราะว่าค่าผ่อนคอนโดมันแพง นิดาถึงไม่คิดทำลายสิ่งของที่มันได้มาด้วยความยากลำบากแน่นอน!“ไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่อย่างที่พี่รู้ คนที่ทำงานแบบเราไม่ค่อยมีเวลา เพราะแบบนั้นอาจจะมองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างการทำความสะอาดบ้าน”“หนูไม่มีทางทำห้องรกหรอกค่ะ ไม่มีทางอย่างแน่นอน! อันที่จริงคืนนี้ด้านล่างมีจุดพลุด้วยนะคะ เมื่อปีที่แล้วสามารถมองเห็นจากที่นี่ได้ชัดเจนเลย”เขามองหน้าเธอก่อนจะถอดเสื้อคลุมวางพาดไว้กับโซฟา“นี่กำลัง ชวนให้ผมค้างที่นี่อยู่รึเปล่า”เธอหัวเราะเบาๆ“หนูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อยค่ะ แต่ถ้ามันชวนให้บอสเข้าใจแบบนั้น แล้วละก็..จะลองค้างที่นี่ไหมคะ”เขาดึงเธอที่กำลังยืนอยู่ให้นั่งลงบ
ดวงตาสีนิลของเขาฉายแววลึกล้ำ พร้อมกับริมฝีปากที่เชิดรั้นขึ้นมาเขาหยักยิ้มก่อนจะจุมพิตลงมาที่แก้มของเธออย่างแผ่วเบาราวกับว่าเขาต้องการที่จะเอาคืน..“ได้กินแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”นิดาหัวเราะเบาๆ“ปกติแล้วตอนที่อยู่ในบริษัทหนูไม่เคยเห็นพี่ในมุมนี้เลยค่ะ กับเรื่องงานพี่ดู..จริงจังมากๆ”เขาเทเบียร์ใส่แก้วก่อนจะส่งให้เธอ“กับเรื่องคนรักพี่ก็จริงจังนะ..”อ่า..คราวนี้เป็นเธอบ้างสินะที่ถูกเขาเอาคืน“แต่พี่ในมุมที่ไม่จริงจังดูน่ารักมากกว่าเยอะเลย”“เราจะบอกว่าตอนที่พี่อยู่ที่ทำงาน พี่ไม่หล่องั้นสิ”“ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย หนูแค่จะบอกว่าตอนที่พี่ยิ้ม..มันดูดีมากๆ เลยค่ะ แบบนั้นก็ช่วยยิ้มบ่อยๆ หน่อยได้ไหมคะ”เขามองหน้าเธอนิ่งๆ ก่อนจะตักอาหารมากมายใส่จานแล้วมาที่โต๊ะอาหารที่ตั้งอยู่ติดกับกระจก..“พี่จะยิ้มให้กับคนที่อยากยิ้มให้เท่านั้น ยิ้มทั้งวันคนในบริษัทจะหาว่าพี่เป็นบ้าพอดี”เหมือนกันเราเริ่มสนิทกันมากขึ้นอีกนิดรึเปล่านะ ตอนนี้เธอสามารถเรียกเขาว่าพี่ได้อย่างไม่รู้สึกเขินอาย ส่วนเขาก็เริ่มพูดคุยกับเธอมากขึ้น ในแววตานั้นไม่ได้มีความประหม่าปะปนอยู่อีกแล้ว ซึ่งมัน..เหมือนจะดีมากๆเลยนิดาย
น่ารักชะมัดเลย.. เหมือนว่าที่ผ่านมาเขาเองก็ชื่นชอบนิสัยแบบเด็กๆ ของเธอมาก เลยนะ“ทำไมจะไม่อยากล่ะ พี่อยากให้มีเด็กมาอ้อนตั้งนานแล้ว อยากมีแชทที่ตั้งชื่อว่าที่รัก อยากมีใครสักคนให้คิดถึงตอนที่ทำงานเหนื่อยๆ ..”ไม่ไหวแน่ หัวใจของเธอรับไม่ไหวแน่ๆ เลย“คือหนูไม่ได้คิดจะปฏิเสธนะคะ แต่หนูก็ยังไม่ค่อยกล้าที่จะทุ่มเทให้กับความรัก เพราะแบบนั้นเรามาค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปก่อนเถอะค่ะ”ไม่รู้เหมือนกันว่าผลของการตอบตกลงในวันนี้มันจะเป็นแบบไหน แต่เธออยากจะลองเปิดใจให้เขาดูหมาวัดตัวนี้จะปีนขึ้นไปหาบอสที่อยู่บนฟ้าเองค่ะ หนูจะลองเด็ดดอกฟ้าดูสักครั้งริมฝีปากของนิดาผลิบานราวกับดอกไม้ รอยยิ้มที่แสนน่ารักไม่แพ้กับดวงตาที่กระจ่างใสนั่นเลยถึงแม้ว่าเรื่องราวของเรามันจะเริ่มต้นที่ความผิดพลาด แต่จากนี้ไปมันจะไม่มีเรื่องผิดพลาดอีกแล้ว หนุ่มตั้งใจว่ามันจะเป็นแบบนั้นจู่ๆ ใบหูของเขาก็รู้สึกร้อนขึ้นมา เขาเองก็ไม่เคยตั้งใจกับความสัมพันธ์อะไรเท่าครั้งนี้มาก่อนเลยนิดาละสายตาจากใบหน้าของเขาเพื่อไปมองที่วิวด้านนอก แสงไฟตามตึกและอาการยังคงส่องสว่างเหมือนเดิมหัวใจสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลย ทว่าบางอย่างยังค
“จะยังไม่ออกผลงานเล่มห้าจริงๆเหรอคะคุณนักเขียน นักอ่านถามหากันมาเยอะมากๆ เลยนะคะ หากว่าคุณนักเขียนออกเล่มห้ามาในตอนนี้จะต้องขายหมดตั้งแต่วันแรกแน่ๆ”นิดาหัวเราะเบาๆ เมื่อปลายสายกล่าวมาเช่นนั้น“หนูว่าจะหยุดออกผลงานสักสามปีค่ะ เพราะว่าตอนนี้กำลังทำตามความฝันที่สองอยู่ ขอบคุณบรรณาธิการมากเลยนะคะที่นึกถึงหนูตลอด..”“ไม่เป็นไรค่ะคุณดา ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ”นิดายกยิ้ม เธอวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะก่อนจะตรงเข้าไปอุ้มเด็กชายวัยสามขวบมากอดเอาไว้เพราะดูเหมือนว่าเขาพึ่งจะตื่นนอน“แม่มาแล้วครับอีธาน นอนนานมากๆ เลยนะ รู้ด้วยรึไงว่าพ่อกำลังจะกลับมา..”ลูกชายของเธอนั้นไม่มีส่วนไหนเลยที่เขาเหมือนเธอ ดวงตาสีนิลที่เหมือนกับพ่อของเขายังกับแกะ“นิดา ขออุ้มเจ้าตัวเล็กหน่อยสิ”คนที่แวะมาหาเธอบ่อยมากกว่าใครๆ คือคุณแม่ของพี่หนุ่ม คุณย่าเห่อหลานตัวน้อยมากทีเดียว“ดูเขาสิ ย่าจะอุ้มไม่ไหวอยู่แล้ว”นิดาส่งยิ้มพร้อมกับมองคุณย่าและหลานที่กำลังเล่นกัน เธอเดินตามความฝันของตัวเองด้วยการเขียนนิยายภาคต่ออีกสามเล่ม เล่มสองถึงสี่ ด้วยระยะเวลาสองปีเต็มๆ และเมื่อเธอคลอดอีธานออกมาเธอก็อยากจะทุ่มเทเวลามาดูแลลูกก่อนเพราะ
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อนิดาหรือเรียกสั้นๆ ว่าดาก็ได้ค่ะ หนูเคยมาฝึกงานที่นี่เมื่อสามเดือนที่แล้ว ดีใจมากๆ เลยค่ะที่ได้กลับมาทำงานที่นี่อีกครั้ง ฝากตัวด้วยนะคะ”เด็กใหม่ที่เข้ามาทำงานแนะนำตัวสั้นๆ แต่ด้วยรอยยิ้มที่น่าจดจำของเธอมันทำให้เขา..เผลอจ้องมองเธอไปโดยไม่รู้ตัวเลย“ยินดีต้องรับนะนิดา จากนี้ไปก็ใช้ความสามารถของเธอให้เต็มที่ได้เลย”แม่ของเขากล่าวสั้นๆ พร้อมกับตบไหล่ของนิดาเบาๆ หนุ่มก้มมองโทรศัพท์ที่มีการแจ้งเตือนของเพื่อนที่จะนัดกันไปดื่มเขาเลือกที่จะไม่ตอบเพราะว่าไม่ค่อยชอบเข้าสังคมสักเท่าไหร่ อีกทั้งปีหน้าเขาจะต้องมารับช่วงที่นี่ต่อจากแม่แล้วเขาไม่อยากใช้เงินของพ่อและเพราะแบบนั้นเขาจะทำให้ที่นี่โด่งดังและได้รับการยอมรับจากเจ้าสาวทุกคนที่กำลังจะแต่งงาน“ตรงนั้นยังดูเหมือนขาดอะไรไป นี่เธอตั้งใจทำงานจริงๆ ไหมเนี่ย แค่นี้ก็ดูไม่รู้เรื่องงั้นเหรอว่ามันยังขาดความสมดุลของดอกไม้”“ขะ..ขอโทษค่ะบอส”“ขอโทษงั้นเหรอ ขอโทษแล้วงานมันกลับมาดีขึ้นไหมละ ไปแก้ไขสิ เรื่องแค่นี้ก็จะต้องให้บอกด้วยรึไง”นิดามองเพื่อนร่วมงานที่ตัวสั่นเทาจากการถูกดุ เธอเดินเข้ามาก่อนจะหยิบดอกไม้ที่จัดแล้วออกมา“ใจเย็นๆ นะ
นิดากวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องทำงานของเธอ เธออยู่ที่นี่มานานหลายปี เข้ามาทำงานตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ทุ่มเทเวลามากมายไปกับการทำงาน แต่ตอนนี้จะต้องเดินออกไปจากห้องที่นั่งทำงานมาหลายปี “จะมาอาลัยอาวรณ์อะไร รีบๆ เก็บของได้แล้วเพราะว่าห้องนี้มันจะเป็นของพี่แล้ว” นิดาส่งยิ้มให้กับเอเดน “พี่จะทำงานได้สักกี่เดือนกันคะ เดี๋ยวก็ต้องกลับไปนั่งในตำแหน่งบอสของบริษัทไอทีแล้ว” เอเดนทำท่าครุ่นคิด “อาจจะนานมากกว่าที่เธอคิด พอดีพี่มีงานที่อยากเรียนรู้จากอาอีกมาก..” “สู้ๆ นะคะ พี่ทำได้อยู่แล้ว แค่ลดความขี้เกียจลงนิดหน่อย” “นี่เธอ..” นิดารีบยกกล่องกระดาษขึ้นมาเมื่อเอเดนทำท่าว่าจะด่าเธอ เดี๋ยวเอาของไปเก็บที่คอนโดเสร็จแล้วต้องออกเดินทางไปต่างจังหวัดเลย เพราะว่าจะต้องไปจัดดอกไม้ที่นั่น ถึงจะลาออกแต่ก็มีงานที่เธอต้องทำให้เสร็จอีกสองงาน นิดาเดินออกมาข้างนอกก็พบเจอกับพี่เอื้อและคนอื่นๆ ในบริษัทที่ยืนรอเธออยู่ “พี่ดีใจที่ได้ร่วมงานนะ และดีใจล่วงหน้าเลยกับเรื่องของบอส” “ขอบคุณค่ะพี่เอื้อ ขอบคุณที่เอ็นดูหนูแล้วก็สอนงานหนูมาตลอด” พี่เอื้อเดินเข้ามากอดนิดาเอาไว้หลวมๆ “การขอบคุณที่ดีที่สุดคือการบอกบอสให้เพิ
งานแต่งที่สองของเดือนจบไปอย่างสวยงาม และตอนนี้หนุ่มกำลังออกไปดูสถานที่ของงานที่สามในเดือนนี้ งานสุดท้ายจะเป็นงานแต่งคุณพิมน้องสาวของพราว“ลูกค้าต้องการงานแบบไหนครับ..”พี่เอื้อส่งยิ้มให้กับบอส พร้อมกับส่งกระดาษที่เป็นรายละเอียดของงาน“เจ้าสาวต้องการงานแต่งแบบในสวนหลังบ้านที่เป็นกันเอง เพราะตั้งใจจะเชิญแค่เพื่อนและคนในครอบครัวมาเท่านั้นค่ะ สิ่งที่ลูกค้าต้องการคืองานแต่งท่ามกลางสวนดอกไม้”ที่นี่สวยมากๆ เลย เป็นสวนโรงแรมที่ตั้งอยู่บนภูเขา ไม่บ่อยนักที่เขาจะออกเดินทางมาต่างจังหวัดเพื่อจัดงานแต่งงานถ้านิดามาเห็นอากาศที่นี่จะต้องชอบมากแน่ๆ เลย หากว่าจัดงานเสร็จแล้วเขาน่าจะพาเธอไปเที่ยวแถวๆ นี้สักหน่อยเพราะไหนๆ ก็เดินทางออกมาต่างจังหวัดแล้ว“ตามที่ออกมาแบบมาก็ถือว่าสวยตรงกับที่ลูกค้าต้องการแล้วครับ”“ฝีมือของนิดาก็แน่อยู่แล้วค่ะบอส นิดามาเปรยๆ เอาไว้แล้วว่าจะลาออก..หากว่านั่นมันเป็นความต้องการของนิดา เอื้อก็ไม่ขัดหรอกค่ะ แต่อดเสียดายฝีมือของนิดาไม่ได้ หวังว่าบอสจะแอบพานิดามาช่วยงานที่บริษัทบ่อยๆ นะคะ”บอสยกยิ้มขึ้นมา เมื่อพูดถึงนิดาแววตาของเขามักจะอ่อนโยนเสมอเลย นี่คืออาการของคนคลั่งรักสินะ
นิดาอยู่ที่บ้านของพี่หนุ่มตลอดระยะเวลาห้าวันที่เธอและเขาหยุดงาน แม่ของเขาน่ารักมากๆ เลย คุณแม่ชอบอ่านนิยายมากๆ แถมยังสนับสนุนให้เธอเขียนนิยายต่อไปอีกด้วยท่านไม่ได้มองว่ามันไร้สาระ แต่กลับมองว่ามันคือความสามารถที่มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถทำได้“อา พอหยุดงานยาวๆ แล้วไม่ชินเลยนะคะที่จะต้องไปทำงาน”หนุ่มลูบผมของนิดาเบาๆ โดยที่อีกมือยังขับรถอยู่“ก็พี่บอกแล้วให้เราลาออก พี่จะเลี้ยงดูเราเอง”นิดาหรี่ตามองหน้าเขา“นี่พี่พูดจริงเหรอคะ อันที่จริงหนูมีความฝันอีกอย่างที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนเหมือนกัน หนูอยากเป็นแม่ค่ะ อยากมีลูกน่ารักๆ ทำกับข้าวเพื่อรอสามีกลับมาจากทำงาน ตอนเช้าก็ส่งลูกไปโรงเรียน..แต่ความฝันนี้มันทำคนเดียวไม่ได้เพราะแบบนั้นหนูก็เลยกำลังพยายามตามหาคนที่จะมาร่วมสร้างความฝันไปด้วยกัน”เขาปรายตามองหน้าเธอ“พูดเหมือนจะขอแต่งงานเลยนะ..หน้าที่การขอแต่งงานมันหน้าที่พี่ต่างหากเล่า”นิดาหัวเราะเบาๆ“โอ้ นี่หนูกำลังทำเกินหน้าที่ของตัวเองอยู่ใช่ไหมคะ น่าอายจังเลยน้า”พูดคำว่าน่าอายทั้งที่ทำหน้าระรื่นแบบนั้นเนี่ยนะ น่าจับถอดเสื้อผ้าแล้วตีที่ก้นแรงๆ สักทีจริงๆ เลยวันเสาร์ที่ผ่านมาเธอออกไปพบเจอกับพ
เมื่อได้ยินคำกล่าวของคุณพราว รสขมเฝื่อนก็ผุดขึ้นมาในอกอย่างบอกไม่ถูกเลย เธอไม่ชอบใจกับคำสารภาพรักของแฟนเก่าพี่หนุ่มเลยสักนิดให้ตายเถอะ!!พราวหันกลับมาตามเสียงก็เห็นพี่หนุ่มที่กำลังยืนอยู่พร้อมกับพนักงานในบริษัทของเขา..ริมฝีปากของพราวสั่นเทาอย่างบอกไม่ถูก หลายๆ อย่างมันบอกว่าผู้หญิงที่กำลังยืนอยู่ข้างพี่หนุ่มจะต้องไม่ใช่พนักงานธรรมดาๆ แน่นอน เธอจ้องมองใบหน้าของนิดาด้วยสายตาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ“พราว พี่ไม่มีทางกลับไปหาพราวหรอกนะ พี่มีแฟนใหม่แล้ว”เขายกมือที่กำลังกุมมือของนิดาขึ้นมาให้พราวดูเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาและนิดาเป็นคนรักกันเธอไม่เคยเสียหน้ามากขนาดนี้ เขาทำให้เธอต้องเสียศักดิ์ศรีถึงสองครั้งสองครา“เหอะ! แล้วแฟนใหม่ของพี่รับได้เหรอคะที่ส่วนนั้นของพี่มันใช้การไม่ได้น่ะ พราวรับได้นะคะพี่หนุ่ม ไม่ว่าพี่จะเป็นยังไงตอนนี้พราวรับได้ทั้งหมดเลย แค่พี่ยอมให้พราวกลับไปหาพี่..”“จริงอย่างที่คุณพราวบอก หนูไม่รู้จริงๆ ค่ะว่าส่วนนั้นของพี่หนุ่มใช้การไม่ได้”พราวแสยะยิ้มออกมาด้วยความเหนือกว่า“เห็นไหมล่ะคะ ไม่มีใครรับเรื่องนี้ได้หรอกค่ะ มีแต่พราวเท่านั้น..”“ที่หนูไม่รู้ว่าส่วนนั้น
หัวใจเต้นรัวราวกับจะทะลุออกจากอก นิดายกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเองเอาไว้ เธอเดินตามบอสมาเพราะว่าต้องการถามเรื่องดอกไม้ที่เหลือ แต่กลับมาได้ยินเขาคุยกับนายสองแสน..ความอบอุ่นกระทบก้นบึ้งภายในใจ เธอไม่รู้จะบอกว่าตัวเองโชคดีหรือว่าอะไรกันแน่ที่ในวันที่เธอเมามายไม่ได้สติ เป็นเขาที่พาเธอออกไปจากที่นั่น และเป็นเขาที่ไม่ยอมปล่อยมือเธอการจะพบเจอใครสักคนที่รักเราในแบบที่เราเป็นมันไม่ง่ายเลยนะ แต่ว่าเธอหาเขาคนนั้นเจอแล้ว!นิดาตั้งมั่นในใจว่าเธอจะไม่มีทางปล่อยเขาให้หลุดมือไปอย่างแน่นอนเราทุกคนทำงานติดต่อกับเกือบๆ จะสามสิบชั่วโมง และด้วยมือของทุกคนที่ช่วยกันเนรมิตห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมออกมาเป็นเหมือนเทพนิยายเลยดอกไม้ที่ประดับตกแต่งเหมือนสวนในพระราชวังที่เจ้าหญิงในนิทานอยู่ ที่ด้านบนมีดอกไม้ห้อยระย้าลงมาเหมือนดวงดาวที่กำลังตกจากฟากฟ้าไม่ว่าจะเห็นสักกี่ครั้งก็ทำใจให้ชินยากเหมือนกันแฮะ มันสวยมากกว่าที่ภาพในหัวคิดซะอีก“อ่า..คุ้มค่ากับการอดหลับอดนอนจริงๆ”พี่เอื้อพูดด้วยดวงตาที่ใกล้จะปิด บอสกำลังคุยกับลูกค้าเพื่อส่งมอบงานและรอแก้ไข แต่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มของบอส เดาได้เลยว่าลูกค้าจะต้องชอบมากแน่ๆ เ
หน้างานวันนี้คือการจัดงานแต่งแสนอลังการงานสร้างของลูกสาวท่านเจ้าสัว เจ้าของโครงการหมู่บ้านกว่าหมื่นล้าน..เรื่องงบไม่มีจำกัดทางลูกค้าต้องการความสวยที่เหมือนกับเทพนิยาย ชุดเจ้าสาวสีขาวที่ไม่เหมือนชุดเจ้าสาวทั่วๆ ไปเพราะว่าเป็นชุดที่ปักด้วยมุกขนาดต่างๆ ตกแต่งชายด้วยลูกไม้ เป็นชุดเจ้าสาวแขนยาวแต่มีโชว์หลังเล็กน้อย ดูเรียบหรูสมเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ดอกไม้ในวันนี้เน้นสีแดงชมพูเป็นหลัก นี่คือการทำงานที่เหนื่อย เหนื่อยมากๆ การจัดดอกไม้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าจะจับดอกไม้แต่ละชนิดมาปักมั่วๆ ได้ แต่ละดอกจะต้องมีความเชื่อมโยงกัน..กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็มีมือมาโอบเอวเธอเอาไว้“มื้อเย็นมาแล้วครับ”“อ่า หนูลืมเรื่องทานข้าวไปเลย โชคดีจังเลยนะคะที่มีแฟนมาคอยเตือน หากรู้ว่ามีแฟนแล้วดีแบบนี้หนูมาจีบบอสไปตั้งนานแล้ว”เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะบีบจมูกของเธอ“ไปทานเถอะ แล้วรีบมาทำต่อ ถึงจะเป็นแฟนแต่เรื่องงานผมไม่อ่อนข้อให้หรอกนะครับ”นิดาหุบยิ้มในทันที“ทราบแล้วค่ะบอส ตอนนี้เป็นบอสใช่ไหมคะ แบบนั้นกลับบ้านไปก็เป็นบอสนะคะห้ามมาเป็นแฟน หนูจะให้พี่นอนนอกห้องเลยเคยดู”พี่เอื้อมองหน้ากับนี่น่า พร้อมกับหัวเราะออกมาเ
“หนูมีความฝัน และอยากจะเดินตามความฝันนั้นด้วยความคิดที่แน่วแน่ แต่ในวันที่หนูบอกกล่าวความฝันของตัวเองกับพ่อแม่ พวกท่านเอาแต่หัวเราะไม่หยุดเลย”อ่า..เหมือนว่าเขาจะเข้าใจถึงความกังวลของเธอแล้วละสิ“เพราะแบบนั้นหนูถึงได้เลือกที่จะเก็บเรื่องนี้มาโดยตลอดเลย หนูเคยบอกกับพี่ไปแล้วว่าหนูพยายามทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ไม่ต้องกังวลกับเรื่องการเงิน ให้มีเงินเก็บสักก้อน..เพื่อที่หนูจะได้ทำตามความฝันของตัวเองในวันที่ไม่มีเรื่องอะไรต้องมาคอยกังวล”“เราเก่งมากกว่าที่คิดอีกนะ..พยายามได้ดีมากๆ เลย”เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหม่า ปลายนิ้วสั่นเทาด้วยอาการหวาดหวั่น“แต่หนูไม่ได้เขียนนิยายความรัก หนูหลงใหลและชื่นชอบการเขียนนิยายอีโรติก บอกเล่าเรื่องความรักผ่านการกระทำบนเตียงมากกว่าคำพูด หนูเป็นนักเขียนนิยายอีโรติกค่ะ ไม่ใช่นักเขียนนิยายความรัก!”สองมือของเธอถูกกอบกุมด้วยมือใหญ่ของเขาอย่างอ่อนโยน พร้อมกับตบที่หลังมือเบาๆ“พี่ไม่เห็นว่าการนักเขียนของเรามันจะแปลกตรงไหนเลย ชีวิตของพี่เหมือนกับมีคำสาปติดตัวมาให้พี่จะต้องเหงาและมีความรักไม่ได้ เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะชอบผู้ชายที่ส่วนนั้นจะใช้กา