การเดินทางผ่านอุโมงค์มืดมิดทำให้ทั้งสามคนรู้สึกเหมือนกับอยู่ในโลกที่ไร้จุดหมาย เสียงฝีเท้าของพวกเขาดังขึ้นในความเงียบ ทั้งซาเอบะและหลินหลินเริ่มรู้สึกถึงความกดดันที่สะสมขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลินหลินที่รู้สึกถึงการกัดกินของความเหนื่อยล้าและความวิตกกังวล“เราจะถึงที่ไหนกันแน่?” หลินหลินถามขึ้นเสียงเบาๆ ขณะที่เธอก้าวตามชายที่นำทาง“อีกไม่นาน เราใกล้จะออกจากที่นี่แล้ว” ชายคนนั้นตอบ แม้จะไม่รู้แน่ชัดว่าข้อมูลที่เขาพูดเป็นจริงหรือไม่ แต่ซาเอบะและหลินหลินก็พยายามเก็บความหวังไว้อยู่หลังจากเดินต่อไปอีกสักพักหนึ่ง พวกเขาเริ่มสังเกตเห็นว่ามีแสงสว่างเล็กน้อยลอดเข้ามาในทางเดิน เมื่อก้าวเข้าไปใกล้ แสงสว่างนั้นก็เพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นช่องเปิดที่พวกเขารอคอย“ไปกันเถอะ!” ซาเอบะพูดพลางเร่งรีบไปข้างหน้า ทันใดนั้นพวกเขาก็ถึงประตูเหล็กขนาดใหญ่ที่มีรอยสนิมเกาะอยู่ทั่ว ประตูนี้อาจเป็นทางออกที่พวกเขาหมายถึงชายคนนั้นก้มตัวลงไปค้นหากุญแจในกระเป๋าของเขา “นี่คือที่ที่พวกเขาใช้ขนของออกจากเมือง แต่อาจจะมีการเฝ้าระวังอยู่” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“เราต้องระวังให้ดี” ซาเอบะพูด เขามองไปที่หลินหลินที่ยืนอยู่ข้างๆ
หลินหลินนั่งอยู่ในพุ่มไม้ ขณะที่ซาเอบะและชายที่นำทางได้หลบอยู่ใกล้ๆ ใจของเธอกำลังเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นและวิตกกังวล ขณะที่เสียงของกลุ่มคนที่ตามมากำลังเข้าใกล้เรื่อยๆ พวกเขาไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นคือใคร แต่ทุกคนล้วนเข้าใจดีว่านี่คือช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด“เงียบๆ” ซาเอบะกระซิบเบาๆ ขณะที่พวกเขามองไปที่กลุ่มคนที่เดินเข้ามา กลุ่มนั้นประกอบไปด้วยชายฉกรรจ์ประมาณห้าคน โดยมีโทโมะเป็นผู้นำ สายตาที่ดุดันของเขาทำให้บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความตึงเครียด“หาตัวพวกมันให้เจอ!” โทโมะพูดเสียงดัง และคำสั่งนั้นทำให้หลินหลินรู้สึกเหมือนโลกกำลังจะพังทลาย“เราต้องรีบออกจากที่นี่” ชายที่นำทางกระซิบ ขณะที่เขามองไปรอบๆ เพื่อหาทางออก“พวกมันจะไม่หยุดจนกว่าจะเจอเรา” ซาเอบะกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แต่เราจะต้องหาทางกลับไปให้ได้”“ไปทางไหนดี?” หลินหลินถาม ขณะที่ความวิตกกังวลเริ่มกัดกินหัวใจของเธอซาเอบะมองไปที่เส้นทางที่มีรั้วกั้นอยู่ในระยะไกล “นั่น! เราสามารถปีนข้ามรั้วและวิ่งไปทางทิศตะวันออกได้” เขาชี้ไปที่รั้วที่สูงพอสมควร ซึ่งอาจจะเป็นทางออกจากสถานการณ์นี้“แต่เราจะถูกจับได้ถ้าเราทำแบบนั้น” ชายที่นำทางแย้ง “เร
ยามเช้าในกรุงเทพมหานคร อากาศยังคงอบอ้าวและควันรถจากถนนสายหลักก็ลอยคลุ้งไปทั่ว ซาเอบะ นักสืบเอกชนที่มีชื่อเสียงด้านการไขคดีที่ซับซ้อนและเป็นที่รู้จักในวงการสืบสวน เดินทางมาที่สำนักงานเล็กๆ ของเขาที่ตั้งอยู่ในย่านเงียบสงบไม่ไกลจากใจกลางเมือง สำนักงานของซาเอบะนั้นเรียบง่าย มีโต๊ะทำงานไม้ที่ดูเก่าๆ หนังสือกองพะเนิน และบอร์ดที่เต็มไปด้วยรูปถ่ายและโน้ตที่แปะไว้ซาเอบะเป็นชายวัยกลางคน ใบหน้าของเขามีแววครุ่นคิดเสมอ และมักจะมีลักษณะเงียบขรึม เขามักจะเริ่มต้นวันด้วยกาแฟดำเข้มๆ และหนังสือพิมพ์รายวัน แต่วันนี้ไม่เหมือนวันอื่นๆ เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติเมื่อได้เห็นซองจดหมายสีน้ำตาลวางอยู่บนโต๊ะทำงานของเขาจดหมายนี้ถูกส่งมาโดยไม่มีชื่อผู้ส่ง มีเพียงคำว่า "ด่วน" เขียนไว้ด้านหน้า ซาเอบะเปิดจดหมายออก และพบว่ามีการ์ดขนาดเล็กที่พับเอาไว้ ข้างในการ์ดมีข้อความสั้นๆ ที่พิมพ์ด้วยตัวอักษรเรียบง่ายแต่ชัดเจน:“ช่วยหาตัว เมย์ ให้ที เธอหายตัวไปแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อดี”ซาเอบะอ่านข้อความนั้นด้วยความสนใจแต่ก็ยังสงสัย จดหมายนี้มาจากใคร? เมย์เป็นใคร? และทำไมเขาถึงต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้? ขณะที่เขา
ซาเอบะเริ่มการสืบสวนโดยเริ่มจากการขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากหลินหลินเกี่ยวกับเพื่อนที่หายตัวไป เขาถามถึงกิจวัตรประจำวันของเพื่อนเธอ คนที่เพื่อนเธอคบหา รวมถึงสถานที่สุดท้ายที่เธอถูกพบเห็น"เธอชื่ออะไรครับ?" ซาเอบะถามขณะจดบันทึก"ชื่อเมย์ค่ะ" หลินหลินตอบ "เธอเรียนวิศวกรรมเหมือนกันกับฉัน แต่ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าเธอหายไปได้อย่างไร ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ได้กลับบ้าน"ซาเอบะพยักหน้าและถามต่อ "มีอะไรผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเธอก่อนจะหายตัวไปไหมครับ?"หลินหลินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ "สองสามวันที่ผ่านมา เธอบอกว่ารู้สึกเหมือนมีคนตามเธอ แต่เราคิดว่าเธออาจจะแค่เครียดจากการสอบ"ซาเอบะขมวดคิ้ว ความรู้สึกว่าถูกตามเป็นสัญญาณอันตรายที่เขาไม่ควรละเลยหลังจากที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากหลินหลิน ซาเอบะตัดสินใจเริ่มต้นที่หอพักของเมย์ ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายที่เธอถูกพบเห็น เขาเชิญหลินหลินให้ไปด้วยกัน เพื่อที่เธอจะได้ช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติมในกรณีที่จำเป็นเมื่อทั้งคู่มาถึงหอพัก พวกเขาได้รับการต้อนรับจากบรรยากาศที่เงียบสงบ ผิดปกติสำหรับสถานที่ที่นักศึกษาควรจะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลินหลินนำทางไปที่ห้องของเมย์ แต่เมื
ซาเอบะและหลินหลินใช้เวลาสำรวจห้องของเมย์อย่างละเอียด ซาเอบะตรวจสอบทุกมุมมอง ค้นหาเบาะแสเพิ่มเติมที่อาจช่วยเขาไขปริศนาการหายตัวไปของเมย์"หลินหลินครับ เธอเคยพูดถึงใครบางคนที่เธอไม่สบายใจบ้างไหม?" ซาเอบะถามขณะที่เขาพยายามคิดถึงความเป็นไปได้ที่ว่าเมย์อาจถูกคุกคามจากใครบางคน"เธอเคยพูดถึงอาจารย์คนหนึ่งที่คอยกดดันเธอในเรื่องโปรเจกต์สุดท้ายค่ะ แต่ฉันไม่คิดว่าเขาจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้" หลินหลินตอบ เธอพยายามนึกถึงทุกอย่างที่เมย์เคยพูดถึงซาเอบะเก็บข้อมูลนี้ไว้ในใจ เขารู้ดีว่าบางครั้งการกดดันมากเกินไปอาจทำให้คนเราไปถึงจุดที่ไม่คาดคิดได้เมื่อพวกเขาตรวจสอบห้องจนเสร็จ ซาเอบะก็พบสมุดบันทึกเล่มเล็กที่ถูกซ่อนอยู่ใต้เตียง เขาค่อย ๆ เปิดมันออกดู พบว่ามันเต็มไปด้วยบันทึกส่วนตัวของเมย์ บางส่วนถูกเขียนด้วยลายมือสั่น ๆ เหมือนกับจดหมายที่พวกเขาพบก่อนหน้านี้"ดูเหมือนว่าเมย์มีอะไรที่กังวลจริง ๆ" ซาเอบะกล่าวหลินหลินอ่านบันทึกนั้นด้วยความสนใจ เธอพบว่าเมย์พูดถึงการถูกสะกดรอยตาม และความรู้สึกหวาดระแวงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ"ทำไมเมย์ไม่บอกเรื่องนี้กับฉันนะ?" หลินหลินถามตัวเอง"บางทีเธออาจไม่อยากทำให้คุณกังว
หลังจากสอบถามเพื่อน ๆ ของเมย์ ซาเอบะและหลินหลินเดินทางไปยังห้องทำงานของอาจารย์คนที่ถูกกล่าวถึง อาจารย์ชาญชัย ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงว่าเป็นคนที่เข้มงวดและไม่ยอมใครง่าย ๆ ในเรื่องของวิชาการเมื่อทั้งสองมาถึงหน้าห้องทำงาน ซาเอบะเคาะประตูเบา ๆ ไม่นานนัก ประตูเปิดออกเผยให้เห็นอาจารย์ชาญชัย ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นตาและมีท่าทางขึงขัง"มีอะไรให้ช่วยหรือครับ?" อาจารย์ชาญชัยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงความรู้สึก"สวัสดีครับ ผมซาเอบะ นักสืบอิสระ และนี่คือหลินหลิน เพื่อนของนักศึกษาที่ชื่อเมย์ครับ เรามีคำถามเกี่ยวกับเธอ" ซาเอบะตอบกลับเมื่อได้ยินชื่อเมย์ อาจารย์ชาญชัยดูเหมือนจะเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงท่าทางสงบอยู่"เธอมีปัญหาอะไรหรือครับ?" เขาถาม"เมย์หายตัวไปครับ และเราพบว่าเธอเคยรู้สึกว่าถูกกดดันในเรื่องของโปรเจกต์ ผมจึงอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับเธอในช่วงก่อนที่เธอจะหายตัวไป" ซาเอบะถามตรง ๆอาจารย์ชาญชัยถอนหายใจ ก่อนจะเล่าให้ฟังว่าเขามีความกังวลเกี่ยวกับผลการเรียนของเมย์ เธอเป็นนักศึกษาที่มีศักยภาพสูง แต่ดูเหมือนเธอจะมีปัญหากับการจัดการเวลาและความเครียดในช่วงหลัง"ผมพยายามช่วยเธอ แต
หลังจากออกจากมหาวิทยาลัย ซาเอบะและหลินหลินเดินทางกลับไปยังหอพักของเมย์อีกครั้ง ทั้งสองรู้สึกว่ามีบางอย่างที่พวกเขาอาจจะมองข้ามไปในการตรวจสอบครั้งแรกเมื่อกลับมาถึงห้องของเมย์ ซาเอบะตัดสินใจตรวจสอบรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเป็นเบาะแสสำคัญ เขาเริ่มจากการค้นหาที่อยู่ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ของเมย์ ซึ่งอาจมีข้อมูลสำคัญสามารถเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเธอ"หลินหลิน คุณรู้ไหมว่าเมย์เก็บคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ไว้ที่ไหน?" ซาเอบะถาม"ปกติเธอจะเก็บไว้ในลิ้นชักข้างเตียงค่ะ" หลินหลินตอบพร้อมกับชี้ไปยังลิ้นชักที่ว่าซาเอบะเปิดลิ้นชักและพบว่าโทรศัพท์ของเมย์ยังคงอยู่ที่นั่น แต่คอมพิวเตอร์หายไป ซาเอบะรู้สึกว่ามันแปลก เพราะคนส่วนใหญ่มักจะพกโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา แต่การที่คอมพิวเตอร์หายไปอาจหมายถึงมันอาจจะถูกใครบางคนเอาไปเพื่อปิดบังข้อมูลสำคัญ"ใครบางคนอาจจะเอาคอมพิวเตอร์ไปเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง" ซาเอบะกล่าว "แต่ทำไมถึงไม่เอาโทรศัพท์ไปด้วย?"ซาเอบะตัดสินใจเปิดโทรศัพท์ของเมย์เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่เขาพบว่ามันถูกล็อคด้วยรหัสผ่าน เขาจึงขอให้หลินหลินช่วย
ซาเอบะและหลินหลินตัดสินใจที่จะสืบหาต้นตอของเบอร์โทรศัพท์ที่ส่งข้อความข่มขู่มาหาเมย์ ด้วยความหวังว่าจะสามารถพบเบาะแสที่นำไปสู่การค้นหาตัวเมย์ได้"เราควรจะเริ่มจากการตรวจสอบข้อมูลของเบอร์โทรศัพท์นี้" ซาเอบะกล่าว ขณะเขากำลังใช้เครื่องมือค้นหาข้อมูลเพื่อดูว่าเบอร์นี้อาจจะเกี่ยวข้องกับใครซาเอบะทำการค้นหาข้อมูลเบื้องต้นและพบว่าเบอร์โทรศัพท์นี้เป็นของหมายเลขที่ถูกลงทะเบียนในชื่อของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซาเอบะบันทึกชื่อบริษัทและที่อยู่ที่แสดงไว้"เราควรไปที่บริษัทนี้และถามข้อมูลเพิ่มเติม" ซาเอบะเสนอ "บางทีอาจมีข้อมูลบางอย่างที่สามารถเชื่อมโยงกับคดีนี้"ทั้งสองเดินทางไปยังบริษัทที่เบอร์โทรศัพท์นั้นลงทะเบียนอยู่ บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ดูแลด้านความปลอดภัยและระบบสื่อสาร ซาเอบะและหลินหลินเข้าไปในสำนักงานและขอพบกับผู้จัดการผู้จัดการของบริษัทคือชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกดีใจนักที่มีคนมาเยี่ยม เขานั่งลงและฟังเรื่องที่ซาเอบะเล่า"ผมเข้าใจว่าคุณค้นหาเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ส่งข้อความข่มขู่ใช่ไหม?" ผู้จัดการถาม"ใช่ครับ เราต้องการทราบว่าเบอร์นี้เชื่อมโยงกับใคร และเหตุใดถึงส่งข้อความข่มขู่ไปยังเมย์" ซ