แชร์

บทที่ 470

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
คอนนี่

ฉันแทบจะยืนไม่อยู่ขณะที่ขึ้นลิฟต์ไปที่เพนท์เฮาส์ของฉัน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวันผ่านไป ที่ฉันทำงานล่วงเวลาจนเป็นเรื่องปกติเพื่อที่ตนเองจะได้ไม่ต้องกลับมาเจอกับห้องนอนที่ว่างเปล่า

ฉันคิดถึงรีเปอร์มากจริง ๆ

ตอนที่ฉันได้เห็นเขาครั้งแรกที่โรงพยาบาลหลังจากที่เอวาถูกยิงครั้งนั้น ฉันไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับแรงดึงดูดที่ฉันรู้สึกต่อเขา แน่นอนว่าแรงดึงดูดนั้นเกิดขึ้นทันที และฉันแค่รู้สึกเหมือนจิตวิญญาณตนเองรู้จักเขา แต่เขาคือรีเปอร์เชียวนะ ชายคนเดียวกับที่เคยลักพาตัวเพื่อนสนิทของฉันไป

ถ้าพูดกันตามตรง ฉันไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหนเหมือนที่ฉันรู้สึกกับรีเปอร์ในครั้งแรกนั้นเลย ฉันไม่เคยรู้สึกดึงดูดกับผู้ชายตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นพวกเขา มันเป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเมื่อฉันได้รู้จักพวกเขามากขึ้น ทว่ากับรีเปอร์มันแตกต่างออกไป และนั่นทำให้ฉันกลัวแทบตาย

ฉันคิดว่าการพบกันครั้งแรกนั้นจบแล้ว ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เจอเขา และในไม่ช้าแรงดึงดูดก็จะจากหายไป และนั่นคือความตั้งใจที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเขาปรากฏตัวที่หน้าห้องฉันในคืนหนึ่ง

ฉันควรจะรู้สึกอับอายที่จะบอกว่าฉันยอมนอนกับเขาในคืนนั้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 1

    ฉันก้าวลงมาจากรถพร้อมเดินมุ่งไปยังคฤหาสน์ตรงหน้า มือสั่นสะท้านและเหงื่อชุ่มร่างกายฉันเองยังทำใจเชื่อไม่ได้เลยว่าความสัมพันธ์เดินมาถึงจุดจบ ทำใจไม่ได้ว่าท้ายที่สุดฉันก็หย่าร้างกับเขา กระเป๋าข้างกายมีหลักฐานยืนยันการหย่าครั้งนี้ ฉันเดินทางมาที่นี่เพื่อนำเอกสารฉบับนี้มามอบให้เขาและรับโนอากลับขณะเดินเข้าไป ฉันเดินตามเสียงฟังไม่ได้ศัพท์ไปและยั้งฝีเท้าไว้เมื่อเข้าใกล้ห้องครัวตอนนี้เองฉันได้ยินเสียงนั้นถนัดหูและเนื้อความนั้นได้กระชากฉันลงไปสู่ห้วงเหวอันเย็นเยียบ“ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ พ่ออยู่กับผมกับแม่ไม่ได้หรือครับ?” เจ้าหนูโนอาเอ่ยถามผู้เป็นพ่อฉันยกสั่นเทากุมหน้าอก หัวใจทลายลงเพราะเสียงแสนเศร้าของเด็กน้อย ไม่ว่าเป็นสิ่งใดฉันพร้อมจะทำให้เขาเสมอ แต่การหย่าร้างนี้กลับหลีกเลี่ยงไม่ได้การแต่งงานครั้งนี้เป็นสิ่งผิดพลาด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราเป็นสิ่งที่ผิดพลาดทั้งหมด เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ฉันได้ตาสว่างพร้อมเห็นความจริง“โนอา ลูกน่าจะรู้อยู่แล้ว แม่กับพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” เสียงนุ่มของชายคนนั้นเอ่ยออกมาช่างน่าแปลกเสียจริง ตลอดช่วงเวลาที่เราครองคู่กัน เขาไม่เคยแม้แต่พูดจา

  • ธุลีใจ   บทที่ 2

    “ฉันต้องไปแล้ว รบกวนคุณช่วยอยู่กับโนอาก่อนได้ไหม? เพราะฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลนานแค่ไหน” ฉันเอ่ยประโยคเหล่านี้ออกไป มือพลางคว้ากระเป๋าข้างกายอย่างใจลอย“ได้ ผมขอไปรับแม่มาดูแลโนอาแทนก่อน แล้วจะรีบตามไป” โรแวนตอบรับ เพียงแต่รู้สึกราวกับเป็นเสียงกระซิบซึ่งดังแว่วเข้ามาในหูที่อึ้ออึงของฉันเท่านั้นฉันจำอะไรที่เหลือนอกเหนือจากการบอกลาลูกชายตัวน้อยไม่ได้ ฉันรีบดันตนเองขึ้นรถยนต์และขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลพร้อมความคิดที่ล่องลอยกระหวัดถึงความทรงจำตอนที่เติบโตขึ้นมา ใคร ๆ ก็ต่างพากันพูดว่าฉันเป็นพวกขาดความอบอุ่น ตอนเป็นเด็กทั้งคุณพ่อและคุณแม่ไม่ได้ใส่ใจฉันมากเท่าที่ควร ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของพ่อคงเป็นพี่สาว เอมม่า พ่อเคยเรียกเธอว่าสาวน้อยของพ่อด้วยซ้ำ ส่วนแม่ก็ประคบประหงมพี่ชาย ทราวิส พ่อรูปหล่อของแม่เสียยังกับอะไรดี ส่วนฉันก็เป็นแค่ เอวา ที่ไม่มีใครรักฉันรู้สึกเหมือนไม่เป็นที่ต้องการของใคร ๆ ไม่มีใครต้อนรับ ไม่ว่าจะกับพ่อแม่รวมถึงพี่น้องท้องเดียวกัน ไม่ว่าจะพิสูจน์ตนเองเท่าใด มีผลการเรียนระดับแนวหน้า กีฬาเด่น หรือกิจกรรมดีเพียงใด สถานที่เดียวซึ่งเหมาะกับฉันคืออยู่ข

  • ธุลีใจ   บทที่ 3

    ฉันเอนกายอยู่บนเก้าอี้โรงพยาบาลแสนเย็นเฉียบพลางกำหนดลมหายใจเข้าออก น้ำตาของแม่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย คำปลอบประโลมไหน ๆ คงส่งไปไม่ถึงจิตใจเธอ ฉันเจ็บปวดแทนแม่ ฉันเข้าใจเรื่องนี้ดีว่าการสูญเสียคนที่เรารักไปอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้นไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อยเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่น่าตระหนก ฉันเผื่อใจเอาไว้ว่าพ่อจะหายดีแต่กลับกลายเป็นหายไปจากโลกแทนเสียนี่ ฉันเลยไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดีความคิดเห็นของเราไม่เคยลงรอยกันและพ่อก็คงจะเกลียดฉันแต่ฉันก็รักเขา เขาเป็นพ่อผู้ให้กำเนิด ฉันจะไม่รักเขาได้อย่างไรกัน?“ไหวไหม?” โรแวนเอ่ยถามพลางนั่งลงข้างฉันชายหนุ่มเดินทางมาถึงได้ประมาณชั่วโมงกว่า และคำถามเมื่อครู่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับฉันนับตั้งแต่มาถึง ฉันรับมือกับความกังวลของเขาไม่ถูก อย่างไรเสียเขาคนนี้ไม่เคยเก็บเอาความรู้สึกของฉันไปใส่ใจมาก่อน“ไหวค่ะ” ฉันฝืนตอบกลับตั้งแต่ที่รู้ข่าวฉันก็ยังไม่ได้หลั่งน้ำตาแม้เลยสักหยด อาจเพราะยังตกใจจนทำอะไรไม่ถูกหรือน้ำตาของฉันที่มีให้พ่อนั้นเหือดแห้งไปหมดแล้วก็เป็นได้ ตอนนี้สิ่งเดียวที่ฉันควรทำมากที่สุดคือประคองสติตนเองให้ไหวแทนทุกคนที่สติแตกไปแล้วเท้าคู่

  • ธุลีใจ   บทที่ 4

    คุณทั้งหลายเคยรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็นหรือเปล่า? ฉันกำลังรู้สึกเช่นนั้นอยู่เมื่อมองพวกเขา ราวกับมีใครเดินเข้ามากระชากดวงใจออกจากอกก็มิปานหากฉันเป็นคนกระชากก้อนเนื้อไร้ค่านี้และปาทิ้งไปให้พ้นตาเองได้สาบานว่าจะทำเสียตอนนี้ เพราะมันช่างเจ็บจนไร้คำบรรยายใด ๆ มาเปรียบได้ฉันต้องการหนีไปให้พ้นแต่กลับทำไม่ได้ สายตาของฉันจับจ้องทั้งสอง ไม่ว่าสมองจะสั่งให้หลีกหนีจากภาพตรงหน้าเท่าใด แต่ฉันก็ไม่อาจละสายตาไปจากฉากรักหวานชื่นเสียดแทงนัยน์ตานี้ได้ฉันเฝ้ามองทั้งสองผละอ้อมกอดจากกัน โรแวนแววตาอ่อนโยนเมื่อมองหญิงในดวงใจ ฉันมองฝ่ามือที่กำลังบรรจงประคองแก้มของเอมม่า ชายหนุ่มดึงร่างของหญิงผู้เป็นที่รักเข้าใกล้เล็กน้อย เขาไม่ได้จูบเธอเพียงแต่เอาหน้าผากแนบชิดกันเขาดูสงบสุขราวกับเดินทางมาเจอที่พักผ่อนของตนเสียที ในที่สุดเขาก็รู้สึกเติมเต็ม‘ผมคิดถึงคุณ’ ฉันอ่านการขยับปากเรียวบางนั้นออกฉันไม่อยากคิดว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นตอนนี้หากทั้งสองไม่ได้พบกันในสถานการณ์เช่นนี้ หากทั้งสองพบกันตอนที่ฉันและเขาแต่งงานกันอยู่ โรแวนจะนอกใจไปหาเอมม่าเลยหรือเปล่า?ส่วนศีลธรรมของฉันรีบโต้แย้งว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่แต่กลับไม

  • ธุลีใจ   บทที่ 5

    ไร้วี่แววของเหตุร้ายใด ๆ ในวันนี้ แสงแดดทอประกายตลอดเส้นทางที่คุ้นตา ดูเหมือนทุกสิ่งจะดำเนินไปได้ด้วยดีเมื่อเดินทางไปถึง โบถส์ก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทุกคนต่างพากันมาเคารพพ่อเป็นครั้งสุดท้ายฉันเดินตรวจตราดูความเรียบร้อยของสถานที่จัดงานด้วยความพอใจเมื่อเห็นว่าทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควร คนอื่นแทบไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยในช่วงการจัดเตรียมงานศพ เรียกได้ว่าฉันเป็นแม่งานผู้รับผิดชอบทุกสิ่งในงานนี้ฉันไม่ได้บ่นอะไรทั้งนั้น คิดเสียว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณผู้เป็นพ่อที่ให้กำเนิดฉันมา ยังไงเสียเขาก็ป้อนข้าวป้อนน้ำ ซื้อเสื้อผ้าและให้ที่ซุกหัวนอนแก่ฉันช่วงพิธีการกำลังจะเริ่มและผู้ร่วมงานส่วนใหญ่เข้านั่งประจำที่นั่ง ฉันตัดสินใจหลบไปนั่งอยู่อีกมุมเพราะรู้สึกผิดที่ผิดทางหากต้องไปนั่งรวมกับครอบครัวนั้น โดยเฉพาะหากต้องไปนั่งข้างเอมม่า“แม่ครับ เรามานั่งตรงนี้กันทำไมครับ… เราไม่ควรไปนั่งข้าง ๆ คุณยายหรือ?” โนอาตัวน้อยเอ่ยถามพร้อมกับชี้นิ้วไปในทิศทางที่คนอื่นนั่งอยู่แน่นอนว่าเราย่อมได้รับสายตาแปลก ๆ แต่ฉันก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เพราะยังไงการที่ฉันเป็นแกะดำที่ไม่เคยได้รับการยอมรับจากครอบค

  • ธุลีใจ   บทที่ 6

    โรแวนความรู้สึกบางอย่างแล่นผ่านห้วงความคิดของคุณไป ยามที่คุณเห็นร่างของภรรยาเก่า ผู้เป็นแม่ของลูกโดนยิงและมีเลือดนองเต็มพื้นสุสานอันเยือกเย็น เป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยคิดว่าจะมีให้เอวาเมื่อผมเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์หันกระบอกปืนเข้าใส่เรา ผมไม่ทันได้คิดอะไร ผมรู้ว่าโนอาปลอดภัยอย่างแน่นอนเพราะอยู่กับคุณปู่คุณย่า ดังนั้นสามัญสำนึกสั่งการให้ร่างกายกระโจนเข้าไปปกป้องเอมม่าทันที ผมเต็มใจตายเพื่อเธอและผมก็พร้อมจะทำเช่นนั้นผมรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นพวกมือปืนหนีไปเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์ กระนั้นความโล่งใจก่อนหน้ากลับมลายสิ้นทันทีที่ได้ยินเจ้าหน้าที่เรียกหารถพยาบาล ความฉงนกระตุ้นให้ผมหันไปเพื่อหาคำตอบว่าใครกันที่เคราะห์ร้าย เข่าผมแทบทรุดลงกับพื้นเพราะคาดไม่ถึงว่าผู้เคราะห์ร้ายต้องเจ็บเจียนตายคือเอวาจากนั้นสถานการณ์ที่สับสนอลหม่านจึงเริ่มขึ้น รถพยาบาลมาถึงที่เกิดเหตุและเจ้าหน้าที่ตำรวจสวมเสื้อกันกระสุนคนนั้นกันท่าไม่ยอมห่างจากเอวาจนกว่าจะแน่ใจว่าเธอจะปลอดภัยเมื่อถึงมือแพทย์ผมรู้สึกขุ่นเคืองที่เขาไม่ยอมห่างเอวาเพราะเธอเป็นภรรยาของผม แม้ว่าจะเป็นอดีตก็ตาม แต่ที่มากกว่านั้นก็คือผม

  • ธุลีใจ   บทที่ 7

    เอวาฉันลืมตาตื่นพร้อมความปวดร้าวบริเวณหลังและแขนแล่นผ่านไปทั่วร่าง โนอานอนหลับอยู่กับฉันเพราะเมื่อคืนหลังจากดูโทรทัศน์ด้วยกัน เจ้าตัวน้อยงอแงไม่ยอมไปนอนคนเดียว รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าทันทีที่ความทรงจำเมื่อคืนผุดขึ้น เด็กน้อยยืนยันว่าจะทำหน้าที่ดูแลฉันอย่างแข็งขันตลอดทั้งคืนขณะนี้ราวแปดโมงเช้าได้ อาหารเช้าควรพร้อมรับประทานก่อนลูกชายจะตื่นนอน ฉันก้าวลงจากเตียงโดยที่ไม่ปลุกเขาเข้าแม้ว่าจะลำบากเล็กน้อยก็ตาม หลังจากเสร็จกิจวัตรประจำวันยามเช้าเรียบร้อย ฉันจึงเดินลงไปด้านล่าง หยุดฝีเท้าก่อนจะก้าวเข้าห้องครัวพลางสงสัยกับตนเองว่าจะทำอาหารออกมาด้วยแขนเพียงข้างเดียวได้อย่างไรขณะที่เดินไปหยิบวัตถุดิบมาเตรียมทำแพนเค้ก ความทรงจำเมื่อวานพลันแล่นเข้ามาในห้วงความคิด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับเป็นภาพลวงจนฉันสงสัยว่ามันเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หากไม่มีผ้าพันแผลบริเวณไหล่กับแขนที่อยู่ในสายคล้องช่วยย้ำเตือนถึงความจริง ฉันคงคิดว่าเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้นเมื่อฉันตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลหลังจากหมดสติไป ฉันก็ตื่นกลัวไม่น้อย บรรดาแพทย์และพยาบาลต่างพากันรีบเข้ามาสงบสติฉันและยืนยันว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี พยาบาลบอกฉัน

  • ธุลีใจ   บทที่ 8

    โรแวนผมเห็นจังหวะที่อารมณ์ของเอวาเปลี่ยนเป็นเฉยชา วินาทีที่แสงแห่งความอบอุ่นก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความหนาวเหน็บทำให้ผมรู้สึกสะท้านถึงขั้วหัวใจ“คุณมาทำอะไรที่นี่?” น้ำเสียงของเธอปราศจากซึ่งอารมณ์ใด ขณะที่ผมฝืนแทรกตัวเข้าไปด้านในบ้านราวกับว่าเอวากำลังสนทนากับชายแปลกหน้าอยู่ ราวกับว่าผมเป็นแค่ฝุ่นผงไร้ค่าสำหรับเธอไปเสียแล้ว ผมจ้องมองใบหน้านั้นโดยอ่านสิ่งใดไม่ออก ผมอยู่กับผู้หญิงคนนี้มาเกือบสิบปีแต่ตอนนี้กลับหาคำดี ๆ เพียงสักคำพูดกับเธอยังไม่ได้ผมมองแขนของเธอที่ยังคล้องอยู่บนสายห้อย จุดประสงค์วันนี้คือมาตรวจดูอาการของเธอและรับโนอา เพราะนี่เป็นช่วงสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นเวลาของผมกับลูกชายภาพของชายหนุ่มก่อนหน้าที่เห็นว่าเดินออกไปผุดขึ้นมา ผมก็คิ้วกระตุก ต้องเป็นชายคนนี้แน่ที่เอวามอบรอยยิ้มให้ เมื่อตระหนักได้ดังนี้ ผมอดไม่ได้ที่กัดฟันกรอด“ผู้ชายคนนั้นมาทำอะไรที่นี่?” ผมเอ่ยถามแทนที่จะตอบเธอพร้อมทั้งเก็บซ่อนอารมณ์เดือดดาลที่หาเหตุผลที่มาไม่ได้เอาไว้ผมรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและยังเป็นคนที่เข้ามาช่วยชีวิตเอวาเอาไว้ แต่เขาก็ล้ำเส้นเกินไป ผมไม่ชอบผู้ชายคนนั้นและไม่ต้องการใ

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 470

    คอนนี่ฉันแทบจะยืนไม่อยู่ขณะที่ขึ้นลิฟต์ไปที่เพนท์เฮาส์ของฉัน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวันผ่านไป ที่ฉันทำงานล่วงเวลาจนเป็นเรื่องปกติเพื่อที่ตนเองจะได้ไม่ต้องกลับมาเจอกับห้องนอนที่ว่างเปล่าฉันคิดถึงรีเปอร์มากจริง ๆตอนที่ฉันได้เห็นเขาครั้งแรกที่โรงพยาบาลหลังจากที่เอวาถูกยิงครั้งนั้น ฉันไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับแรงดึงดูดที่ฉันรู้สึกต่อเขา แน่นอนว่าแรงดึงดูดนั้นเกิดขึ้นทันที และฉันแค่รู้สึกเหมือนจิตวิญญาณตนเองรู้จักเขา แต่เขาคือรีเปอร์เชียวนะ ชายคนเดียวกับที่เคยลักพาตัวเพื่อนสนิทของฉันไปถ้าพูดกันตามตรง ฉันไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหนเหมือนที่ฉันรู้สึกกับรีเปอร์ในครั้งแรกนั้นเลย ฉันไม่เคยรู้สึกดึงดูดกับผู้ชายตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นพวกเขา มันเป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเมื่อฉันได้รู้จักพวกเขามากขึ้น ทว่ากับรีเปอร์มันแตกต่างออกไป และนั่นทำให้ฉันกลัวแทบตายฉันคิดว่าการพบกันครั้งแรกนั้นจบแล้ว ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เจอเขา และในไม่ช้าแรงดึงดูดก็จะจากหายไป และนั่นคือความตั้งใจที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเขาปรากฏตัวที่หน้าห้องฉันในคืนหนึ่งฉันควรจะรู้สึกอับอายที่จะบอกว่าฉันยอมนอนกับเขาในคืนนั้

  • ธุลีใจ   บทที่ 469

    “เกเบรียล”เมื่อเห็นแล้วว่าช่องทางขยายมากขึ้นและแน่ใจว่าฉันพร้อมดีแล้ว เขาก็เพิ่มนิ้วอีกนิ้ว ทั้งสองนิ้วกระแทกเข้าออกฉัน ชนและขูดกับจุดตรงนั้นของฉัน ไม่นานก็สัมผัสได้ว่าฉันใกล้ถึงจุดสุดยอดสายตาของเกเบรียลที่หรี่ลงสบกับสายตาของฉัน ริมฝีปากของเราอยู่ห่างกันเพียงเล็กน้อย ขณะที่เราหายใจร่วมกันเป็นฟองอากาศเล็ก ๆ สิ่งที่เขาเห็นบนใบหน้าของฉันทำให้เขายิ้มและนิ้วอีกนิ้วหมุนวนแน่นอยู่เหนือจุดนั้นของฉันฉันบดขยี้เขา ไล่ตามความรู้สึกจนทั่วร่างสั่นสะเทือนอยู่ในอ้อมกอดของเขา เขายังคงกระแทก ดันฝ่ามือของเขากับจุดนั้นของฉัน ดึงมันออกมาจนกระทั่งฉันเสร็จอีกครั้ง เสียงหอบและร้องไห้ออกมาดังไปทั่วห้องเมื่อต้นขาหยุดสั่นและประกายแวววาวหายไปจากดวงตา ในที่สุดฉันก็เงยหน้าขึ้นไปหาเขา ขากรรไกรของเกเบรียลขบกันแน่น และเขายังคงมีความร้อนแรงในสายตามันทำให้ฉันรู้สึกดี และฉันคิดที่จะขออีกรอบ แต่ตัดสินใจว่าฉันต้องการดูแลเขาแทน ฉันต้องการมันฉันอยากลิ้มรสเขาเหลือเกินฉันดันหน้าอกของเขาและเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว ฉันเลื่อนลงไปตามร่างกายของเขาจนกระทั่งฉันคุกเข่าอยู่ระหว่างขาของเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเพียงเสี้

  • ธุลีใจ   บทที่ 468

    เหมือนกับเช้าวันก่อน ๆ ที่ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับมือของเกเบรียลวางอยู่บนหน้าอกของฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรแต่เขามักทำแบบนี้เสมอวันนี้เราจะเดินทางกลับบ้านและฉันไม่แน่ใจว่าจะรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนั้น เมื่อวานนี้ฉันข้ามเส้นตอนที่เปิดทางให้เขาทำแบบนั้นด้วย ฉันรู้สึกว่าไม่มีทางย้อนกลับไปได้แล้วอย่าเข้าใจฉันผิดนะ ฉันรักทุกนาทีที่เราร่วมกิจกรรมกัน ฉันรักทุกวินาทีที่ใช้เวลากับเขาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา... ทว่า ความกลัวว่าสิ่งเหล่านี้มันจะไม่ใช่เรื่องจริงมันเกิดขึ้น กลัวว่าฉันจะตื่นขึ้นในไม่ช้าและรู้ว่ามันไม่มีอะไรนอกจากเป็นความฝันเท่านั้นใจหนึ่งต้องการสิ่งนี้มากจนฉันเจ็บปวด แต่อีกใจหนึ่งก็นึกสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราราวกับเขารับรู้ได้ถึงความคิดของฉัน มือของเกเบรียลซึ่งอยู่รอบหน้าอกของฉันลดลงและโอบรอบเอวแทน เขาดึงฉันเข้ามาใกล้ จนฉันรู้สึกถึงความต้องการบนผิวกาย มันเหมือนกับว่าเขากำลังพยายามขจัดความสงสัยที่เริ่มแทรกซึมเข้ามาในความคิดของฉันออกไปฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอก รู้สึกว่าความกังวลและความสงสัยทั้งหมดหายไป การอยู่ในอ้อมแขนของเกเบรียล ได้นอนหลับและตื่นขึ้นข้าง

  • ธุลีใจ   บทที่ 467

    เกเบรียลถอดกางเกงในของฉันออก และฉันรู้สึกว่ามือข้างหนึ่งลูบไล้ลงมาตามหน้าท้องของฉันและเลื่อนอยู่ระหว่างขา หัวใจแทบเต้นผิดจังหวะ แต่ฉันยังคงต้องการสัมผัสของเขาอย่างมาก ปากเริ่มเปิดรับจูบของเขา เสียงครางออกจากริมฝีปากของเขา ขณะที่ฉันยกสะโพกเข้าหาสัมผัสตรงนั้น อ้อนวอนให้เขาอย่าหยุด นิ้วลูบไล้บนผิวที่ลื่น บรรจงคลึงจุดนั้นของฉันและปั่นทุกสัมผัสประสาทไปหมดฉันกำลังจะเสร็จอยู่แล้ว ขาเริ่มสั่นอยู่บนเตียง ศีรษะเอนไปข้างหลังบนที่นอน เกเบรียลร้องครางกับผิวของฉันด้วยความพอใจ ขาแยกออกกว้าง เผยทุกมุมมองให้เขาเล้าโลมลงไปทั่วร่างกายของฉัน ดวงตาลืมขึ้น สายตาแสนร้อนแรงของเขาอยู่ตรงหน้าใบหน้านี้“โคตรยั่วเลย” เขาขยับจากจุดนั้นของฉันไปสอดใส่ภายในพร้อมกับถูไถตรงนั้นไปทั่วร่างกายกระตุก เสียงครางหลุดออกจากลำคอของฉัน เกเบรียลส่งยิ้มลงมาที่ฉัน กระแทกนิ้วเข้าไปในตัวฉันก่อนเพิ่มนิ้วที่สองและร้องครางให้กับความแน่นตรงนั้น ร่างกายสั่นสะท้านและสะโพกกระแทกกับมือของเขา พยายามคว้าจุดสุดยอดที่รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้แค่เอื้อมในที่สุดเขาก็ให้ฉันปลดปล่อยออกมา ขยับไปถูจุดนั้นของฉันอีกครั้งเป็นวงกลมแน่น เพิ่มแรงกดที่เหมาะ

  • ธุลีใจ   บทที่ 466

    ริมฝีปากของเกเบรียลทาบลงมาทันทีที่ประตูห้องปิดลงข้างหลังเรา จูบช่างหนักแน่นราวกับการลงทัณฑ์"ไม่มีใครแตะต้องของของผมได้ และจำไว้ให้ดีว่าคุณคือของของผม ฮาร์เปอร์" เขาคำราม เสียงเต็มไปด้วยความโกรธ"ฉันแค่เต้นอยู่ดี ๆ เขาก็เข้ามา" ฉันแก้ตัว "ฉันพยายามหนีแล้วนะ แต่เขาก็จับฉันเอาไว้น่ะสิ"ความสัมพันธ์ระหว่างฉันและเกเบรียลตึงเครียดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่ตึงเครียดนั้นไม่ใช่เพราะว่าเพราะสิ่งต่าง ๆ เลวร้าย แต่เพราะว่ามันดีมากเลยต่างหาก ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกหลังจากอาหารเย็นคืนนั้น เรารับประทาน ดื่ม และพูดคุยกัน แต่จูบนั้นเป็นไฮไลท์ของค่ำคืนรอยจูบอีกมากมายเกิดขึ้นระหว่างเราตั้งแต่นั้นมา จูบที่ทำให้ฉันต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ จูบของเขากลายเป็นเหมือนยาเสพติด มันบ้ามากฉันรู้ แตฉันอดไม่ได้ ทุกครั้งที่เขาสัมผัสริมฝีปากของฉัน ฉันก็แทบละลายเป็นเวลาสี่วันแล้วตั้งแต่มื้อค่ำวันนั้น ฉันเลิกวางหมอนกั้นระหว่างเราในคืนที่สาม มันไร้ประโยชน์เพราะสุดท้ายฉันก็อยู่ในอ้อมแขนของเขาอยู่ดี"ไม่สำคัญหรอก" เสียงของเขาดึงฉันกลับสู่ความเป็นจริง "ไม่มีผู้ชายคนไหนได้รับอนุญาตให้แตะต้องคุณทั้งนั้น""อย่างนั้นเหร

  • ธุลีใจ   บทที่ 465

    ฉันขยับไปตามจังหวะเพลง รู้สึกเหมือนความกลัวทั้งหมดหายไป พูดกันตามตรง ฉันไม่เคยไปร้านเหล้ามาก่อน ไม่เคยเข้าร่วมงานปาร์ตี้ใด ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานเลี้ยงพ่อแม่ นี่เป็นครั้งแรกของฉันเลยก็ว่าได้พ่อแม่ไม่ใช่ประเภทเข้มงวดขนาดนั้น แต่ฉันไม่มีเพื่อน และฉันเป็นคนเก็บตัวมากจนไม่มีใครในโรงเรียนรู้ว่าฉันมีตัวตน ฉันไม่ได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้เพียงเพราะฉันเก็บตัวมากเกินไป อาจเรียกว่าเป็นพวกไร้ตัวตนก็ว่าได้ฉันรู้สึกดีที่ได้ดื่มและผ่อนคลาย วันนี้เป็นวันสุดท้ายในโตเกียว และทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น เกเบรียลสามารถทำให้พวกเขาทำตามตามเงื่อนไขของข้อตกลงได้เราอยู่ที่นี่ในร้านเหล้าสุดหรูแห่งนี้ เพราะหนึ่งในนักลงทุนต้องการเฉลิมฉลองการบรรลุข้อตกลงนี้ ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ยิ่งใหญ่ที่จะนำเงินหลายพันล้านมาสู่บริษัทวู้ดฉันยังคงโยกตัวไปตามจังหวะเพลง หลับตาและยกมือขึ้น ทำไมฉันไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน? โอ้ ใช่ ฉันแต่งงานตอนอายุสิบแปด อยู่ในชีวิตแต่งงานเป็นเวลาสามปี ตั้งท้อง หย่าร้าง คลอดลูก แต่งงานใหม่ เลี้ยงลูก เป็นม่าย จากนั้นแต่งงานเป็นครั้งที่สามให้ตายสิ พอมองชีวิตตัวเองตอนนี้ ฉันรู้ว่ามันไม่ต่างอะไรกับร

  • ธุลีใจ   บทที่ 464

    ‘เหมือนกับที่ผมกำลังตกหลุมรักคุณอยู่แบบนี้ไง’คำพูดของเกเบรียลวนเวียนอยู่ในหัวของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดทั้งวัน เรามีการประชุมติด ๆ กันกับนักลงทุนหลายราย แต่ฉันไม่สามารถจดจ่อกับอะไรได้เลย ยกเว้นประโยคนั้นอย่างที่คุณคงเดาได้ ฉันเป็นคนคิดมาก ฉันวิเคราะห์และคิดมากทุกอย่างจนมันทำให้ฉันใกล้บ้า นั่นคือสิ่งที่ฉันทำมาทั้งวันคำพูดเหล่านั้นหมายความว่าอย่างไร? เป็นไปได้จริงหรือที่เขากำลังตกหลุมรักฉัน? ถ้ามันเป็นกลลวงล่ะ? ถ้าเขาแค่หลอกฉันล่ะ? ฉันควรเชื่อสิ่งที่เขาพูดไหม? ถ้ามันเป็นความจริงและเขาหมายความตามนั้น ฉันจะทำอย่างไร? ฉันควรทำอย่างไร?ฉันอยากถามเขาแทบแย่ แต่ฉันไม่อยากดูเหมือนกระตือรือร้นหรือสิ้นหวังเกินไปฉันคิดถูกแล้ว ว่าการที่ยอมเป็นภรรยาของเกเบรียลอีกครั้งมีแต่ทำให้วุ่นวาย“เป็นอะไรไหม?” เขาเอ่ยถามมองด้วยสายตาที่แสดงความเป็นห่วง“ไม่ค่ะ” ฉันกระซิบ พยายามผลักความคิดเหล่านั้นออกไปการคิดถึงเรื่องนี้ต่อไปไม่ได้ช่วยอะไร สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องมานั่งปวดหัวไมเกรนอยู่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่ต้องการเลย“เราพักอยู่ในห้องก็ได้ถ้าคุณต้องการ ไม่ต้องลงไปก็ได้”ฉันฝืนยิ้มเล็กน้อยและตั้งสติ "ไม

  • ธุลีใจ   บทที่ 463

    "ผมได้ยินว่าคุณแต่งงานแล้ว แต่ไม่ยักรู้ว่าภรรยาจะสวยขนาดนี้" หนึ่งในหุ้นส่วนกล่าวหลังจากการประชุม ขณะที่เรากำลังเก็บของ "เสียดายผมไม่ได้พบเธอก่อนคุณ"เขาดูไม่แก่กว่าเกเบรียลมากนัก อาจจะอยู่ในช่วงกลางหรือสามสิบปลาย ๆ ฉันไม่แน่ใจนักดวงตาของเขามองสำรวจเรือนร่างฉันไปทั่ว ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกเปิดเผยและอึดอัด ฉันขยับเข้าไปใกล้เกเบรียลมากขึ้นเพราะรังเกียจสายตาของเขาฉันแต่งงานแล้วนะให้ตายเถอะ และสามีของฉันก็นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาถึงกับกล้าทำแบบนี้ได้อย่างไร? มันน่าขยะแขยงนัก"ถ้าไม่หยุดมองภรรยาของฉันแบบนั้น อิชิโร่ ฉันจะควักลูกตานายออกมาด้วยช้อนชาอันนี้ แล้วเอาไปปั่นเป็นน้ำแข็งไส จากนั้นยัดลงคอนาย" เกเบรียลเตือนด้วยน้ำเสียงขู่เข็ญที่ทำให้ฉันขนลุกอิชิโร่กลืนน้ำลาย สีหน้าหวาดหวั่นต่อคำขู่ของเกเบรียลฉันรู้ว่ามันไม่ควรจะทำให้รู้สึกดี แต่การที่เกเบรียลแสดงว่าตนเองเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกดีมาก ฉันรักมันเหลือเกิน"ขอโทษด้วยนะครับ" อิชิโร่พูดเสียงเบา ดวงตาไม่สบตาฉันหรือเกเบรียลเกเบรียลแค่นเสียงแต่ไม่รับคำขอโทษ และฉันก็เช่นกัน"มาเริ่มกันเถอะครับ" ชายคนหนึ่ง ซึ่งฉันคิดว่าเ

  • ธุลีใจ   บทที่ 462

    เรียกฉันว่าคนขี้ขลาดก็ได้ ฉันไม่สน แต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรเมื่อฉันไปถึงห้องนั่งเล่น ฉันโทรสั่งอาหารเช้าให้มาส่งที่ห้องของเรา ก่อนจะนั่งลงรอฉันรู้ว่านี่จะเป็นหายนะตั้งแต่ตอนที่เกเบรียลบอกว่าเราจะใช้ห้องร่วมกัน ฉันคิดว่าหมอนจะช่วยได้ แต่ฉันแค่หลอกตัวเอง มันไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันก็เดินไปเปิด"อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณผู้หญิง" พนักงานเสิร์ฟทักทาย พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า"อรุณสวัสดิ์ค่ะ""ให้ดิฉันวางตรงไหนดีคะ?" เธอถามขณะที่ฉันหลีกทางให้เธอเข้ามา"บนโต๊ะอาหารก็ได้ค่ะ" ฉันตอบเธอเธอพยักหน้าและเดินไปที่นั่น เธอเพิ่งวางอาหารเช้าลงและกำลังจะออกไป เกเบรียลก็เดินออกจากห้องนอนพร้อมมือที่กำลังติดกระดุมเสื้อฝีเท้าเธอเริ่มช้าลง และเธอเกือบจะสะดุดเมื่อมองเห็นเขา เกเบรียลเป็นผู้ชายที่ดูดีมาก ดังนั้นฉันจึงไม่โทษเธอหรอก"ขอบคุณค่ะ" ฉันพูดเมื่อรู้ว่าสายตาของเธอยังคงอยู่ที่เกเบรียล ขณะที่สายตาของชายหนุ่มก็อยู่ที่ฉันเสียงของฉันดึงเธอออกจากภวังค์ เธอพยักหน้าก่อนจากไป เมื่อเธอไปแล้ว ฉันก็ปิดประตูให้เรียบร้อย"แล้วยังไงดี คุณจะแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status