ฉันรู้ดีว่าเธอวางแผนใส่ร้ายเอมม่า แต่การได้ยินเธอยอมรับออกมาเองกลับยังทำให้ฉันช็อกอย่างบอกไม่ถูก เธอช่างโหดร้ายเหลือเกิน! เอมม่าถือว่าเป็นเพื่อนของเธอแท้ ๆ แต่เธอกลับไม่ลังเลที่จะเหยียบย่ำเพื่อนเพื่อเอาตัวรอด ใครกันที่ทำแบบนี้ได้นอกจากคนโรคจิต?"หมายความว่ายังไงที่บอกว่า 'พวกเรา' น่ะคริสติน?" ฉันถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลฉันเคยคิดว่ามันเป็นฝีมือของเธอคนเดียว แต่ดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด เธอไม่ได้ทำเรื่องนี้คนเดียวแน่ เพราะถ้าไม่มีใครช่วย เธอจะทำเรื่องทั้งหมดนี้มาได้ยังไง?คริสตินเริ่มเดินวนไปมาราวกับคนกระวนกระวาย เอาจริง ๆ ฉันก็ไม่มั่นใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอดูเหมือนคนที่ใกล้จะแตกสลาย ฉันไม่รู้ว่าสิ่งนี้มันสะสมมานานแค่ไหนแล้ว หรือว่าเพิ่งมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นจนผลักเธอให้ถึงขีดสุด“ก็หมายถึงฉันกับลุงน่ะสิ” เธอพูดเสียงล่องลอย “เขาเป็นคนที่พวกแกเรียกว่ามาเฟียนั่นแหละ เขาเป็นผู้ปกครองตั้งแต่พ่อแม่ฉันเสีย เราเก็บเรื่องความสัมพันธ์เราเอาไว้เพื่อที่ฉันจะได้มีชีวิตปกติ แต่หลังจากที่ฉันเล่าให้เขาฟังว่าแกทำอะไรกับฉันไปบ้าง และแกพรากอะไรจากฉัน เขาก็พร้อมจะช่วยฉันกำจัดแกไปซะ”ฉันถอนหายใจออกม
“ปล่อยเธอไป คริสติน ไม่งั้นฉันสาบานเลยว่าฉันจะฆ่าเธอแน่!”คริสตินผลักฉันไปอีกทางด้วยความเดือดดาล ก่อนเริ่มยิงออกไปนอกห้อง “คุณรักฉัน! คุณควรอยู่ข้างฉัน ไม่ใช่ข้างมัน คุณกำลังทำร้ายฉันด้วยการเลือกมัน”เสียงปืนยังดังต่อเนื่อง ฉันได้ยินเสียงครางเจ็บปวดและคำสบถดังลอดเข้ามา หัวใจฉันเหมือนจะหยุดเต้น ความกลัวแล่นขึ้นมาเต็มอก ถ้ากระสุนนั้นโดนโรแวนล่ะ?ความกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ ฉันลุกขึ้นยืน ไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่ฉันในบ้านของตัวเองหรือทำร้ายผู้ชายที่ฉันรักอีกแล้ว วันนี้มันต้องจบ ฉันไม่ยอมปล่อยให้เธอเหยียบย่ำฉันอีกต่อไปฉันคว้าสิ่งที่อยู่ใกล้มือที่สุดแล้วปาใส่เธอ มันพุ่งเข้าใส่ศีรษะของเธอ และฉันถึงรู้ว่ามันคือแจกัน ความสะใจแล่นวาบขึ้นมาเมื่อแจกันแตกกระจายบนหัว คริสตินหันมาจ้องฉันอย่างตกตะลึง ราวกับไม่อยากเชื่อว่าฉันจะกล้าทำแบบนี้ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้ ฉันพุ่งตัวเข้าหาเธอและกระโจนใส่เต็มแรง เธอเสียหลักล้มลงไปกับพื้น ปืนหลุดจากมือของเธอ แต่ฉันไม่หยุด ฉันระบายความโกรธด้วยความดุร้ายที่ไม่เคยรู้ว่าตัวเองมี“นังสารเลว!” ฉันตะโกนใส่หน้าเธอ ความโกรธบดบังทุกสิ่ง “แกเกือบทำลายทุกอย่างของฉัน แก
ผ่านมาหกเดือนแล้วหลังจากวันนั้น และจะบอกว่าฉันมีความสุขก็อาจจะเป็นการพูดที่น้อยเกินไป คริสตินถูกตัดสินให้เข้าสถานบำบัดจิตเวชตลอดชีวิต แต่เธอกลับเสียชีวิตอย่างลึกลับหลังจากเข้าไปได้ไม่กี่สัปดาห์ ส่วนลุงของเธอไม่มีใครพบร่องรอย แต่มีข่าวลือว่าเขาถูกฆ่าและร่างถูกโยนให้จระเข้กิน ทุกอย่างชวนให้นึกถึงการกระทำของกลุ่มรีเปอร์ แต่แปลกที่ฉันไม่ได้รู้สึกกังวลเลยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โรแวนได้แสดงให้ฉันเห็นว่าความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร หัวใจของฉันเติบโตและเบ่งบานภายใต้การดูแลของเขา และฉันไม่เคยเสียใจที่ตัดสินใจก้าวข้ามความกลัวและให้โอกาสเขาฉันอาจจะเล่าเรื่องความสุขนี้ได้เรื่อย ๆ แต่คำพูดใด ๆ ก็ดูจะไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของฉันได้อย่างครบถ้วน ทุกวันฉันรู้สึกขอบคุณ และทุกวันฉันยิ่งหลงรักเขามากขึ้นเรื่อย ๆชีวิตของฉันเต็มไปด้วยความสุข ความสงบ และความเบิกบาน สิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นได้เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันรู้สึกซาบซึ้งกับทุกสิ่งทีเ่กิดขึ้น แม้สิ่งต่าง ๆ จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่เขามีความอดทนกับฉัน และการบำบัดทั้งแบบรายบุคคลและแบบคู่ก็ช่วยเราได้มาก หลายสิ่งก็ยังคงเป็นรูปแบบเดิม ๆ แน่นอน
โรแวนผมมองเห็นความสับสน ความสุข และความยินดีปรากฏในดวงตาของเธอ น้ำตาคลอเต็มดวงตา แต่เธอพยายามกลั้นไม่ให้มันไหลออกมาผมจับมือของเธอที่กำลังสั่นและจูบเบา ๆ“เอวาครับ” ผมเริ่มพูดพร้อมหัวใจเต้นระรัว “คุณทำให้ทุกวันของผมสดใส และนอกจากโนอากับไอริสแล้ว คุณคือคนที่ดีที่สุดในชีวิต ผมไม่เคยรู้เลยว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร จนกระทั่งผมตกหลุมรักคุณ ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไรหรืออย่างไร แต่รู้แน่ชัดว่าผมรักคุณหมดหัวใจ เราผ่านอะไรมามากมาย ส่วนใหญ่เป็นเพราะความผิดของผมเอง แต่เราก็ยังอยู่ตรงนี้ และก็ถือว่าโชคดีมากที่คุณให้โอกาสผมอีกครั้ง”บ้าเอ้ย ผมไม่เก่งเรื่องแบบนี้เลย ความคิดนั้นหายไปทันทีที่เห็นความรักที่เปล่งประกายจากดวงตาของเธอโนอาหัวเราะคิกคักเมื่อได้ยินสิ่งที่ผมพูด ผมแน่ใจว่าหลังจากนี้เจ้าลูกชายคงแซวเรื่องนี้ นั่นทำให้ผมยิ้มออกมาพร้อมมองเอวา“ผมสัญญาว่าจะรักและดูแลคุณทุกวันในชีวิตนี้ เพราะผมไม่สามารถและจะไม่มีวันหยุดรักคุณได้ ผมเชื่อว่าความรักของเราเป็นรักที่ไม่มีอะไรมาเอาชนะได้ เพราะเราผ่านอุปสรรคมามากมาย และตอนนี้ก็ไม่มีอะไรหยุดเราจากการมีตอนจบที่มีความสุขได้ ผมจะรักคุณเสมอ ไม่ว่าจะเ
เอวาผ่านมาสองสามวันแล้วตั้งแต่คริสตินพยายามฆ่าฉัน ฉันไม่โกหกหรอก ตอนนี้ฉันยังรู้สึกสะเทือนใจอยู่เลย เมื่ออาการตื่นเต้นจากอะดรีนาลีนลดลง ฉันก็พังทลายลงและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ฉันไม่เข้าใจเลยว่าคนเราจะชั่วร้ายและโหดร้ายได้ถึงขนาดนี้ แค่เพราะเธอโทษฉันในสิ่งที่ฉันไม่ได้ควบคุมหลังจากเธอถูกจับกุม หมายจับสำหรับลุงของเธอก็ถูกส่งออกไป ในใจลึก ๆ ฉันรู้ว่าคงไม่มีวันเจอเขา อย่างน้อยก็ในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ ฉันรู้ได้ยังไงเหรอ? มันง่ายมาก ก็รีเปอร์โทรมาหาฉัน เขาบอกเพียงว่าฉันไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับลุงของคริสตินอีกต่อไป ซึ่งแปลตรง ๆ ได้ว่าเขาจะฆ่าลุงของเธอเมื่อพบตัวมันทำให้ฉันเป็นสัตว์ประหลาดหรือเปล่าที่ฉันไม่แคร์? บางทีการที่ฉันข้องเกี่ยวกับรีเปอร์อาจทำให้ฉันกลายเป็นคนเลือดเย็น แต่ฉันไม่สนใจเลยว่าเขาจะอยู่หรือตาย จริง ๆ แล้ว ฉันหวังว่ารีเปอร์จะทำให้เขาทรมานก่อนที่จะจบชีวิตที่น่าสมเพชของเขาส่วนคริสติน ฉันขอให้เธอพบเจอแต่สิ่งเลวร้ายที่สุด เธอเกือบจะทำให้ฉันและลูกสาวต้องเสียชีวิต ไม่มีทางที่ฉันจะให้อภัยเธอ ฉันหวังว่าเธอจะต้องลำบากในคุก หวังว่าเธอจะต้องทนทุกข์ทรมาน หวังว่าเธอจะตายอย่างเจ็บปวด แล
ตอนนี้ฉันเติบโตมากพอที่จะเข้าใจโรแวนและการกระทำของเขาได้ดีขึ้น เขาสูญเสียผู้หญิงที่เขาคิดว่าจะใช้ชีวิตด้วยไปตลอดชีวิต ถ้าฉันอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ฉันคงตอบสนองแบบเดียวกัน ฉันคงโกรธและระบายมันออกใส่คนที่ฉันคิดว่าทำให้ฉันเจ็บปวด เหมือนที่ฉันเคยทำกับเขาหลังจากการหย่าของเรา โดยปฏิบัติกับเขาด้วยความเกลียดชังและขมขื่น“ฉันเสียใจจริง ๆ ที่ใช้เวลานานขนาดนี้กว่าจะเห็นว่าฉันทำให้คุณเจ็บปวดมากแค่ไหนในตอนนั้น” ฉันกระซิบเสียงเบา ความรู้สึกท่วมท้น “ฉันขมขื่นมานานมาก โดยเฉพาะหลังจากที่เอมม่ากลับมา และฉันตระหนักว่าฉันไม่เคยเป็นในสิ่งที่คุณต้องการหรือปรารถนา ฉันเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้ และบางทีถ้าไม่ทำแบบนั้น คุณกับเอมม่าอาจมีโอกาสได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ฉันขอโทษจริง ๆ คุณไม่รู้หรอกว่าฉันเสียใจแค่ไหน”ฉันชะงักเมื่อรู้สึกถึงมือที่แข็งแรงกุมมือฉันไว้ ฉันประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเขาย้ายมานั่งข้าง ๆ ฉันแล้วเขาสูดลมหายใจลึก และฉันกุมมือเขาไว้แน่นราวกับเป็นสายช่วยชีวิตของฉัน “สิ่งที่ผมทำกับคุณมันแย่กว่านั้นมาก ความเจ็บปวดที่ผมทำให้คุณต้องทนทุกข์มาตลอดหลายปีเป็นสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะให้อภัยตัวเองได้ ผมก็เห็นแก่ตั
ฉันก้าวลงมาจากรถพร้อมเดินมุ่งไปยังคฤหาสน์ตรงหน้า มือสั่นสะท้านและเหงื่อชุ่มร่างกายฉันเองยังทำใจเชื่อไม่ได้เลยว่าความสัมพันธ์เดินมาถึงจุดจบ ทำใจไม่ได้ว่าท้ายที่สุดฉันก็หย่าร้างกับเขา กระเป๋าข้างกายมีหลักฐานยืนยันการหย่าครั้งนี้ ฉันเดินทางมาที่นี่เพื่อนำเอกสารฉบับนี้มามอบให้เขาและรับโนอากลับขณะเดินเข้าไป ฉันเดินตามเสียงฟังไม่ได้ศัพท์ไปและยั้งฝีเท้าไว้เมื่อเข้าใกล้ห้องครัวตอนนี้เองฉันได้ยินเสียงนั้นถนัดหูและเนื้อความนั้นได้กระชากฉันลงไปสู่ห้วงเหวอันเย็นเยียบ“ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ พ่ออยู่กับผมกับแม่ไม่ได้หรือครับ?” เจ้าหนูโนอาเอ่ยถามผู้เป็นพ่อฉันยกสั่นเทากุมหน้าอก หัวใจทลายลงเพราะเสียงแสนเศร้าของเด็กน้อย ไม่ว่าเป็นสิ่งใดฉันพร้อมจะทำให้เขาเสมอ แต่การหย่าร้างนี้กลับหลีกเลี่ยงไม่ได้การแต่งงานครั้งนี้เป็นสิ่งผิดพลาด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราเป็นสิ่งที่ผิดพลาดทั้งหมด เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ฉันได้ตาสว่างพร้อมเห็นความจริง“โนอา ลูกน่าจะรู้อยู่แล้ว แม่กับพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” เสียงนุ่มของชายคนนั้นเอ่ยออกมาช่างน่าแปลกเสียจริง ตลอดช่วงเวลาที่เราครองคู่กัน เขาไม่เคยแม้แต่พูดจา
“ฉันต้องไปแล้ว รบกวนคุณช่วยอยู่กับโนอาก่อนได้ไหม? เพราะฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลนานแค่ไหน” ฉันเอ่ยประโยคเหล่านี้ออกไป มือพลางคว้ากระเป๋าข้างกายอย่างใจลอย“ได้ ผมขอไปรับแม่มาดูแลโนอาแทนก่อน แล้วจะรีบตามไป” โรแวนตอบรับ เพียงแต่รู้สึกราวกับเป็นเสียงกระซิบซึ่งดังแว่วเข้ามาในหูที่อึ้ออึงของฉันเท่านั้นฉันจำอะไรที่เหลือนอกเหนือจากการบอกลาลูกชายตัวน้อยไม่ได้ ฉันรีบดันตนเองขึ้นรถยนต์และขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลพร้อมความคิดที่ล่องลอยกระหวัดถึงความทรงจำตอนที่เติบโตขึ้นมา ใคร ๆ ก็ต่างพากันพูดว่าฉันเป็นพวกขาดความอบอุ่น ตอนเป็นเด็กทั้งคุณพ่อและคุณแม่ไม่ได้ใส่ใจฉันมากเท่าที่ควร ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของพ่อคงเป็นพี่สาว เอมม่า พ่อเคยเรียกเธอว่าสาวน้อยของพ่อด้วยซ้ำ ส่วนแม่ก็ประคบประหงมพี่ชาย ทราวิส พ่อรูปหล่อของแม่เสียยังกับอะไรดี ส่วนฉันก็เป็นแค่ เอวา ที่ไม่มีใครรักฉันรู้สึกเหมือนไม่เป็นที่ต้องการของใคร ๆ ไม่มีใครต้อนรับ ไม่ว่าจะกับพ่อแม่รวมถึงพี่น้องท้องเดียวกัน ไม่ว่าจะพิสูจน์ตนเองเท่าใด มีผลการเรียนระดับแนวหน้า กีฬาเด่น หรือกิจกรรมดีเพียงใด สถานที่เดียวซึ่งเหมาะกับฉันคืออยู่ข
ตอนนี้ฉันเติบโตมากพอที่จะเข้าใจโรแวนและการกระทำของเขาได้ดีขึ้น เขาสูญเสียผู้หญิงที่เขาคิดว่าจะใช้ชีวิตด้วยไปตลอดชีวิต ถ้าฉันอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ฉันคงตอบสนองแบบเดียวกัน ฉันคงโกรธและระบายมันออกใส่คนที่ฉันคิดว่าทำให้ฉันเจ็บปวด เหมือนที่ฉันเคยทำกับเขาหลังจากการหย่าของเรา โดยปฏิบัติกับเขาด้วยความเกลียดชังและขมขื่น“ฉันเสียใจจริง ๆ ที่ใช้เวลานานขนาดนี้กว่าจะเห็นว่าฉันทำให้คุณเจ็บปวดมากแค่ไหนในตอนนั้น” ฉันกระซิบเสียงเบา ความรู้สึกท่วมท้น “ฉันขมขื่นมานานมาก โดยเฉพาะหลังจากที่เอมม่ากลับมา และฉันตระหนักว่าฉันไม่เคยเป็นในสิ่งที่คุณต้องการหรือปรารถนา ฉันเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้ และบางทีถ้าไม่ทำแบบนั้น คุณกับเอมม่าอาจมีโอกาสได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ฉันขอโทษจริง ๆ คุณไม่รู้หรอกว่าฉันเสียใจแค่ไหน”ฉันชะงักเมื่อรู้สึกถึงมือที่แข็งแรงกุมมือฉันไว้ ฉันประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเขาย้ายมานั่งข้าง ๆ ฉันแล้วเขาสูดลมหายใจลึก และฉันกุมมือเขาไว้แน่นราวกับเป็นสายช่วยชีวิตของฉัน “สิ่งที่ผมทำกับคุณมันแย่กว่านั้นมาก ความเจ็บปวดที่ผมทำให้คุณต้องทนทุกข์มาตลอดหลายปีเป็นสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะให้อภัยตัวเองได้ ผมก็เห็นแก่ตั
เอวาผ่านมาสองสามวันแล้วตั้งแต่คริสตินพยายามฆ่าฉัน ฉันไม่โกหกหรอก ตอนนี้ฉันยังรู้สึกสะเทือนใจอยู่เลย เมื่ออาการตื่นเต้นจากอะดรีนาลีนลดลง ฉันก็พังทลายลงและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ฉันไม่เข้าใจเลยว่าคนเราจะชั่วร้ายและโหดร้ายได้ถึงขนาดนี้ แค่เพราะเธอโทษฉันในสิ่งที่ฉันไม่ได้ควบคุมหลังจากเธอถูกจับกุม หมายจับสำหรับลุงของเธอก็ถูกส่งออกไป ในใจลึก ๆ ฉันรู้ว่าคงไม่มีวันเจอเขา อย่างน้อยก็ในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ ฉันรู้ได้ยังไงเหรอ? มันง่ายมาก ก็รีเปอร์โทรมาหาฉัน เขาบอกเพียงว่าฉันไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับลุงของคริสตินอีกต่อไป ซึ่งแปลตรง ๆ ได้ว่าเขาจะฆ่าลุงของเธอเมื่อพบตัวมันทำให้ฉันเป็นสัตว์ประหลาดหรือเปล่าที่ฉันไม่แคร์? บางทีการที่ฉันข้องเกี่ยวกับรีเปอร์อาจทำให้ฉันกลายเป็นคนเลือดเย็น แต่ฉันไม่สนใจเลยว่าเขาจะอยู่หรือตาย จริง ๆ แล้ว ฉันหวังว่ารีเปอร์จะทำให้เขาทรมานก่อนที่จะจบชีวิตที่น่าสมเพชของเขาส่วนคริสติน ฉันขอให้เธอพบเจอแต่สิ่งเลวร้ายที่สุด เธอเกือบจะทำให้ฉันและลูกสาวต้องเสียชีวิต ไม่มีทางที่ฉันจะให้อภัยเธอ ฉันหวังว่าเธอจะต้องลำบากในคุก หวังว่าเธอจะต้องทนทุกข์ทรมาน หวังว่าเธอจะตายอย่างเจ็บปวด แล
โรแวนผมมองเห็นความสับสน ความสุข และความยินดีปรากฏในดวงตาของเธอ น้ำตาคลอเต็มดวงตา แต่เธอพยายามกลั้นไม่ให้มันไหลออกมาผมจับมือของเธอที่กำลังสั่นและจูบเบา ๆ“เอวาครับ” ผมเริ่มพูดพร้อมหัวใจเต้นระรัว “คุณทำให้ทุกวันของผมสดใส และนอกจากโนอากับไอริสแล้ว คุณคือคนที่ดีที่สุดในชีวิต ผมไม่เคยรู้เลยว่าความรักที่แท้จริงคืออะไร จนกระทั่งผมตกหลุมรักคุณ ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไรหรืออย่างไร แต่รู้แน่ชัดว่าผมรักคุณหมดหัวใจ เราผ่านอะไรมามากมาย ส่วนใหญ่เป็นเพราะความผิดของผมเอง แต่เราก็ยังอยู่ตรงนี้ และก็ถือว่าโชคดีมากที่คุณให้โอกาสผมอีกครั้ง”บ้าเอ้ย ผมไม่เก่งเรื่องแบบนี้เลย ความคิดนั้นหายไปทันทีที่เห็นความรักที่เปล่งประกายจากดวงตาของเธอโนอาหัวเราะคิกคักเมื่อได้ยินสิ่งที่ผมพูด ผมแน่ใจว่าหลังจากนี้เจ้าลูกชายคงแซวเรื่องนี้ นั่นทำให้ผมยิ้มออกมาพร้อมมองเอวา“ผมสัญญาว่าจะรักและดูแลคุณทุกวันในชีวิตนี้ เพราะผมไม่สามารถและจะไม่มีวันหยุดรักคุณได้ ผมเชื่อว่าความรักของเราเป็นรักที่ไม่มีอะไรมาเอาชนะได้ เพราะเราผ่านอุปสรรคมามากมาย และตอนนี้ก็ไม่มีอะไรหยุดเราจากการมีตอนจบที่มีความสุขได้ ผมจะรักคุณเสมอ ไม่ว่าจะเ
ผ่านมาหกเดือนแล้วหลังจากวันนั้น และจะบอกว่าฉันมีความสุขก็อาจจะเป็นการพูดที่น้อยเกินไป คริสตินถูกตัดสินให้เข้าสถานบำบัดจิตเวชตลอดชีวิต แต่เธอกลับเสียชีวิตอย่างลึกลับหลังจากเข้าไปได้ไม่กี่สัปดาห์ ส่วนลุงของเธอไม่มีใครพบร่องรอย แต่มีข่าวลือว่าเขาถูกฆ่าและร่างถูกโยนให้จระเข้กิน ทุกอย่างชวนให้นึกถึงการกระทำของกลุ่มรีเปอร์ แต่แปลกที่ฉันไม่ได้รู้สึกกังวลเลยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โรแวนได้แสดงให้ฉันเห็นว่าความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร หัวใจของฉันเติบโตและเบ่งบานภายใต้การดูแลของเขา และฉันไม่เคยเสียใจที่ตัดสินใจก้าวข้ามความกลัวและให้โอกาสเขาฉันอาจจะเล่าเรื่องความสุขนี้ได้เรื่อย ๆ แต่คำพูดใด ๆ ก็ดูจะไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของฉันได้อย่างครบถ้วน ทุกวันฉันรู้สึกขอบคุณ และทุกวันฉันยิ่งหลงรักเขามากขึ้นเรื่อย ๆชีวิตของฉันเต็มไปด้วยความสุข ความสงบ และความเบิกบาน สิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นได้เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันรู้สึกซาบซึ้งกับทุกสิ่งทีเ่กิดขึ้น แม้สิ่งต่าง ๆ จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่เขามีความอดทนกับฉัน และการบำบัดทั้งแบบรายบุคคลและแบบคู่ก็ช่วยเราได้มาก หลายสิ่งก็ยังคงเป็นรูปแบบเดิม ๆ แน่นอน
“ปล่อยเธอไป คริสติน ไม่งั้นฉันสาบานเลยว่าฉันจะฆ่าเธอแน่!”คริสตินผลักฉันไปอีกทางด้วยความเดือดดาล ก่อนเริ่มยิงออกไปนอกห้อง “คุณรักฉัน! คุณควรอยู่ข้างฉัน ไม่ใช่ข้างมัน คุณกำลังทำร้ายฉันด้วยการเลือกมัน”เสียงปืนยังดังต่อเนื่อง ฉันได้ยินเสียงครางเจ็บปวดและคำสบถดังลอดเข้ามา หัวใจฉันเหมือนจะหยุดเต้น ความกลัวแล่นขึ้นมาเต็มอก ถ้ากระสุนนั้นโดนโรแวนล่ะ?ความกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ ฉันลุกขึ้นยืน ไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่ฉันในบ้านของตัวเองหรือทำร้ายผู้ชายที่ฉันรักอีกแล้ว วันนี้มันต้องจบ ฉันไม่ยอมปล่อยให้เธอเหยียบย่ำฉันอีกต่อไปฉันคว้าสิ่งที่อยู่ใกล้มือที่สุดแล้วปาใส่เธอ มันพุ่งเข้าใส่ศีรษะของเธอ และฉันถึงรู้ว่ามันคือแจกัน ความสะใจแล่นวาบขึ้นมาเมื่อแจกันแตกกระจายบนหัว คริสตินหันมาจ้องฉันอย่างตกตะลึง ราวกับไม่อยากเชื่อว่าฉันจะกล้าทำแบบนี้ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้ ฉันพุ่งตัวเข้าหาเธอและกระโจนใส่เต็มแรง เธอเสียหลักล้มลงไปกับพื้น ปืนหลุดจากมือของเธอ แต่ฉันไม่หยุด ฉันระบายความโกรธด้วยความดุร้ายที่ไม่เคยรู้ว่าตัวเองมี“นังสารเลว!” ฉันตะโกนใส่หน้าเธอ ความโกรธบดบังทุกสิ่ง “แกเกือบทำลายทุกอย่างของฉัน แก
ฉันรู้ดีว่าเธอวางแผนใส่ร้ายเอมม่า แต่การได้ยินเธอยอมรับออกมาเองกลับยังทำให้ฉันช็อกอย่างบอกไม่ถูก เธอช่างโหดร้ายเหลือเกิน! เอมม่าถือว่าเป็นเพื่อนของเธอแท้ ๆ แต่เธอกลับไม่ลังเลที่จะเหยียบย่ำเพื่อนเพื่อเอาตัวรอด ใครกันที่ทำแบบนี้ได้นอกจากคนโรคจิต?"หมายความว่ายังไงที่บอกว่า 'พวกเรา' น่ะคริสติน?" ฉันถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลฉันเคยคิดว่ามันเป็นฝีมือของเธอคนเดียว แต่ดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด เธอไม่ได้ทำเรื่องนี้คนเดียวแน่ เพราะถ้าไม่มีใครช่วย เธอจะทำเรื่องทั้งหมดนี้มาได้ยังไง?คริสตินเริ่มเดินวนไปมาราวกับคนกระวนกระวาย เอาจริง ๆ ฉันก็ไม่มั่นใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอดูเหมือนคนที่ใกล้จะแตกสลาย ฉันไม่รู้ว่าสิ่งนี้มันสะสมมานานแค่ไหนแล้ว หรือว่าเพิ่งมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นจนผลักเธอให้ถึงขีดสุด“ก็หมายถึงฉันกับลุงน่ะสิ” เธอพูดเสียงล่องลอย “เขาเป็นคนที่พวกแกเรียกว่ามาเฟียนั่นแหละ เขาเป็นผู้ปกครองตั้งแต่พ่อแม่ฉันเสีย เราเก็บเรื่องความสัมพันธ์เราเอาไว้เพื่อที่ฉันจะได้มีชีวิตปกติ แต่หลังจากที่ฉันเล่าให้เขาฟังว่าแกทำอะไรกับฉันไปบ้าง และแกพรากอะไรจากฉัน เขาก็พร้อมจะช่วยฉันกำจัดแกไปซะ”ฉันถอนหายใจออกม
“เธอมาทำอะไรที่นี่?” ฉันเอ่ยถามด้วยความกลัวฉันเห็นความมาดร้ายจากสายตาเธอ วันนี้เธอดูโหยหาบางสิ่ง และฉันก็รู้ดีว่านั่นต้องเป็นอะไรที่เกี่ยวกับฉันแน่นอนเธอดูยุ่งเหยิงในแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เบื้องหลังดวงตาของเธอมีความเย็นชาแบบที่ทำให้ฉันขนลุกขึ้นมา ดวงตาที่แดงฉานของเธอจ้องมาที่ฉันด้วยความเกลียดชังที่ไม่มีอะไรอื่นนอกจากความมุ่งร้าย"ไม่เห็นเหรอ? ฉันมาเยี่ยมไง" เธอบอกพร้อมกับเหยียดปาก ขณะที่ดึงปืนออกจากเข็มขัด "ก็นั่นไงล่ะ ฉันอยากเห็นผู้หญิงที่ทำลายชีวิตฉันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ฉันจะจบชีวิตที่น่าสมเพชของแก"ฉันก้าวถอยหลังด้วยมือยกขึ้นในอากาศ เธอเสียสติไปแล้ว เธอเพิ่งจะยอมรับว่าเธอมาที่นี่เพื่อจะฆ่าฉันฉันหมายถึง นี่มันแย่มากจริง ๆ เธอเลือกเวลาที่แย่ที่สุดเลย นี่ไม่ใช่ทางที่ฉันอยากจะไกล่เกลี่ยกับโรแวนเลย แล้วถ้าฉันไม่รอดล่ะ? จากท่าทางที่ฉันเห็น คริสตินดูเหมือนจะฆ่าฉันจริง ๆ“เธอกำลังพูดอะไรอยู่ คริสติน? ฉันไม่ได้ทำลายชีวิตเธอสักหน่อย" ฉันพยายามทำตัวให้เย็นชาฉันรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร แต่ฉันก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องเพื่อที่จะซื้อเวลาสักนิด หลังจากที่ฉันออกจากสถานีตำรวจวันนั้น เอมม่
"ซาราห์..." ฉันพยายามพูด แต่เธอกลับตัดบทฉันทันที"พวกเราผิดเอวา เราผิดและฉันเชื่อว่าเหตุผลที่ทุกคนยึดติดกับสิ่งที่อาจจะเป็นไปได้ระหว่างโรแวนกับเอมม่าทำให้พวกเขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ เมื่อมองย้อนกลับไป ฉันเห็นมันชัดเจนมาก ตอนนั้นพวกเธอยังเป็นแค่เด็ก ถ้าพวกเราปล่อยวาง พวกเขาก็คงทำตาม แต่เพราะเรายึดติดกับอดีตแน่นเกินไป พวกเขาเลยทำตาม ส่งผลให้โรแวนทำร้ายเธออย่างที่เขาทำ" เธอหยุดพูดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ"ฉันไม่ได้แก้ตัวในสิ่งที่เขาทำ แต่ฉันอยากให้เธอเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำอาจเป็นผลโดยตรงจากพฤติกรรมของเราที่เป็นพ่อแม่"ฉันเข้าใจสิ่งที่เธอพูด แต่นั่นไม่ได้อธิบายการกระทำของเขาในเวลาต่อมา ใช่ เราแต่งงานกันตอนยังเด็ก แต่เราก็เติบโตขึ้นมาแล้ว การกระทำและความโหดร้ายของเขายังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลาเก้าปี นั่นคือสิ่งที่ฉันไม่สามารถก้าวข้ามไปได้"ฉันรู้ว่าฉันกำลังขอร้องให้เธอทำในสิ่งที่ยาก แต่โปรดให้โอกาสเขาสักครั้ง ฉันรู้จักลูกชายของฉันดี และฉันรู้ว่าถ้าเขารักใครสักคน เขาจะรักอย่างลึกซึ้ง เขาจะใช้เวลาทั้งชีวิตที่เหลือเพื่อรักเธอและดูแลเธออย่างที่เธอสมควรได้รับ ถ้าเธอให้โอกาสเขา เขาจะทำทุกวิถี
ผ่านมาได้หนึ่งสัปดาห์แล้วตั้งแต่วันที่ฉันบอกให้โรแวนให้เวลาแก่ฉัน เขาพยายามรักษาระยะห่าง แต่มันไม่ง่ายเลยสำหรับเราทั้งคู่ฉันจะไม่โกหก ฉันคิดถึงเขามาก คิดถึงการอยู่ใกล้เขา คิดถึงบทสนทนาของเรา คิดถึงทุกอย่างที่เป็นเขา มันยากที่จะปรับตัวให้เข้ากับโรแวนที่ฉันเคยรู้จัก กับโรแวนที่ฉันตื่นมาพบหลังจากออกจากอาการโคม่าไม่ต้องเป็นอัจฉริยะก็รู้ว่าเขารักฉัน แต่คำถามคือนั่นเพียงพอไหม? ส่วนหนึ่งของฉันอยากให้อภัยเขาและก้าวไปข้างหน้า แต่อีกส่วนหนึ่งกลัวว่าความทรงจำในอดีตจะเป็นหนามที่ทิ่มแทงความสัมพันธ์ของเรา ฉันหมายถึง เราจะมีความสุขได้อย่างไรในเมื่อฉันยังปล่อยวางอดีตไม่ได้?มันเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่สำหรับโนอาและไอริสเช่นกัน พวกเขาแสดงออกชัดเจนว่าคิดถึงโรแวน โนอาพูดถึงเขาตลอดเวลา และถามว่าเมื่อไหร่เราจะกลับไปอยู่กับพ่อของเขา ไอริสหงุดหงิดง่ายตั้งแต่เราออกมาเธอร้องไห้บ่อยและกระสับกระส่าย มีเพียงตอนที่โรแวนโทรมาและเธอได้ยินเสียงของเขาเท่านั้นที่เธอสงบลง สายสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ แม้ว่าโรแวนจะไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของเธอ มันทำให้ฉันประหลาดใจและฉันก็ไม่รู้จะจัดการกับมันอย่างไรฉันอาจจะกลับไปเพื่อเห็นแก่ล