“อะไร? ก็เรื่องจริง และแม่ก็ภูมิใจในตัวลูกมากด้วย”เขาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ฉัน และฉันก็รู้ทันทีว่าเขาล่อลวงฉันสำเร็จ“ในเมื่อผมเป็นอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์ งั้นผมขอไปเล่นวิดีโอเกมได้ไหมครับ?”ฉันว่าแล้วไม่มีผิด เขาวางแผนทั้งหมดไว้แล้วฉันถอนหายใจ “ก็ได้ แต่แค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้นนะ”เขารีบวิ่งขึ้นบันไดพร้อมตะโกนขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้ม“มาเรีย เธอกลับบ้านได้เลยนะ” ฉันบอกพี่เลี้ยงเด็กขณะเดินเข้าไปในครัว“จะดีเหรอคะ?”“ใช่ ไปเถอะ”เธอส่งยิ้มให้ฉันก่อนจะเก็บของของเธอ สิบห้านาทีต่อมาเธอก็จากไป และฉันเริ่มเสียใจที่ยืนกรานให้เธอกลับเมื่อโนอาอยู่ในห้องของเขา ฉันก็อยู่คนเดียว ฉันไม่มีอะไรให้ทำ ความคิดของฉันจึงเริ่มฟุ้งซ่านฉันกำลังจะเริ่มทำอาหารเย็น แต่ประตูหน้าบ้านก็ถูกเปิดออก“ฮัลโหลลล เอวา อยู่ไหน?”เสียงของเล็ตตี้ทำให้ฉันยิ้ม“อยู่ในครัว” ฉันตะโกนตอบไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็เดินเข้ามาในครัวและฉันก็ประหลาดใจเมื่อเห็นโครินเดินตามหลังเธอมา“ดูสิว่าฉันเจอใคร เรามาถึงที่นี้พร้อมกันพอดี” เล็ตตี้พูดขณะนั่งที่เคาน์เตอร์ครัวฉันเล่าให้เล็ตตี้ฟังว่าโครินยืนหยัดเพื
วันนี้เป็นวันที่ผ่อนคลาย ฉันไม่มีอะไรทำมากนัก โนอาก็ไปโรงเรียนแล้ว ส่วนฉันอยู่บ้านเพื่อพักผ่อนหลังจากที่ฉันมีอาการเจ็บป่วยทางจิตใจ ฉันจึงตัดสินใจพักจากงานสักพัก นักเรียนของฉันไม่พอใจกับเรื่องนี้ แต่พวกเขาเข้าใจว่าฉันไม่เป็นตัวของตัวเองในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาฉันวางแผนที่จะกลับไปทำงานอีกครั้งหลังจากที่คลอดลูก ตอนนี้ฉันมุ่งความสนใจของฉันไปที่ลูก ๆ และมูลนิธิโฮปฉันยังคงพยายามทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของทุกคนด้วยคนเดียวที่ยังคงบุคลิกที่เกลียดชังของเธอเอาไว้เหมือนเดิมคือเอมม่า ส่วนที่เหลือดูเหมือนจะเปลี่ยนใจในชั่วข้ามคืนแทนที่จะจดจ่อกับความคิดเหล่านั้น ฉันผลักความคิดเหล่านั้นออกไป หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรของแม่ เธอรับสายทันที“สวัสดีค่ะแม่” ฉันทักทายเธอ ฉันไม่คุ้นเคยกับการเรียกเธอแบบนั้นนัก แต่ตอนนี้ฉันเริ่มชินแล้ว“เอวา!” เธอตะโกนผ่านโทรศัพท์ เธอตื่นเต้นเสมอเมื่อได้ยินเสียงฉัน “ธีโอที่รัก ลูกสาวสุดที่รักของเราโทรมา”ฉันได้ยินเสียงกดแป้นก่อนที่เสียงสะท้อนจะดังก้องในโทรศัพท์ ฉันรู้ว่าเธอกำลังเปิดลำโพง“สวัสดี
“ผมไม่เคยเห็นใครใจอ่อนกับหมาของผมเร็วขนาดนี้มาก่อนในชีวิต คนส่วนใหญ่คิดว่ามันน่ารำคาญเป็นบ้า” เสียงที่อบอุ่นทำให้ฉันต้องหันศีรษะอย่างรวดเร็วจนเกือบจะคอหักได้พระเจ้าช่วย ผู้ชายคนนี้เซ็กซี่มากเมื่อมองใกล้ ๆ ผมเขาสีดำ ตาสีเขียว โหนกแก้มสูง กรามคม ริมฝีปากที่อ้อนวอนขอให้จูบ และร่างกายที่ล่อลวงให้คุณทำเรื่องสกปรก เขาเซ็กซี่สุด ๆ และเขาก็รู้ตัวดีฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ‘ช้าลงหน่อย เอวา เธอเคยโดนหลอกด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดี อย่าทำผิดซ้ำอีก’ไม่ใช่นะ ฉันสาบานว่าจะเลิกรักและเลิกคบผู้ชาย แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่สามารถชื่นชมคนหน้าตาดี ๆ ได้เมื่อพบคนอย่างนั้น ฉันไม่ได้ตาบอดนะ“เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าคะ?” คำพูดเหล่านั้นหลุดออกจากปากของฉันก่อนที่ฉันจะหยุดมันได้ “คุณดูคุ้นมากเลย”เขามองฉันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ใช่ เราเคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน คุณอายุน้อยกว่าผมสองปี”ฉันพยายามจำเขา แต่ก็ยังไม่ค่อยคุ้นเท่าไร อาจเป็นเพราะฉันหมกมุ่นอยู่กับโรแวนมากจนไม่เห็นใครอื่นในสายตาเลย“ผมคาลวิน การ์เซีย” เขาพูดเมื่อฉันยังคงมองเขาด้วยความสับสนทันทีที่เขาเอ่ยชื่อตัวเอง ฉันก็นึกออกทันที“โอ้พระเจ
“โนอา ทำการบ้านเสร็จหรือยังลูก?” ฉันเรียกเขาแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบตอนนั้นเป็นบ่ายวันศุกร์ ฉันเหนื่อยจนเท้าบวม ฉันลืมไปว่าตอนที่คุณท้อง คุณจะเหนื่อยง่ายแค่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้ฉันเหนื่อยไปหมดสิ่งเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณก็คือฉันไม่เคยมีอาการแพ้ท้องเลย ไม่เหมือนตอนที่ฉันท้องโนอา“โนอา?” ฉันเรียกเขาอีกครั้งฉันสงสัยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ฉันมักจะได้รับคำตอบทันที เว้นแต่จะมีบางอย่างดึงดูดความสนใจของเขาและทำให้เขาลืมสิ่งรอบกายก่อนที่ฉันจะพาร่างกายที่เหนื่อยล้าของฉันขึ้นไปชั้นบนเพื่อดูเขา กริ่งประตูของฉันก็ดังขึ้นฉันถอนหายใจอย่างหนัก ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเจอใคร ฉันแค่อยากพักผ่อน อาจจะด้วยการแช่น้ำนาน ๆฉันใช้เวลาทั้งวันอยู่ที่มูลนิธิโฮปเพื่ออ่านเอกสารมากมายที่ต้องการความสนใจจากฉัน ตาของฉันแห้งผาก จิตใจของฉันเหนื่อยล้า และร่างกายของฉันก็ปวดไปหมดฉันลากตัวเองไปเปิดประตูและรู้สึกประหลาดใจที่พบคาลวินและกันเนอร์อยู่ที่หน้าประตูบ้านของฉัน สองวันผ่านไปแล้วนับตั้งแต่วันนั้นที่สวนหลังบ้านของฉันเมื่อกันเนอร์ไม่ปรากฏตัวขึ้นเมื่อโนอากลับมาจากโรงเรียน ฉันก็คิดว่าอาจเป็นเพราะคาลวินไม่อยากยุ่งเกี่
“หวังว่าโนอาจะพาเขาออกจากกรอบนั้นได้นะ” ฉันพึมพำพลางยื่นคัพเค้กให้เขาฉันเดินรอบเกาะกลางห้องครัว นั่งลงบนเก้าอี้บาร์ตัวหนึ่งและหายใจออกด้วยความโล่งใจที่ได้พักเท้าของฉัน ฉันหยิบคัพเค้กขึ้นมากิน ใจฉันว่างเปล่า“ผมอยากจะขอโทษ” คาลวินพูดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน“เรื่องอะไรเหรอ?”“ที่ผมดูหยาบคายเมื่อวันก่อน”ฉันโบกมือและมองเขา “ฉันสิต้องขอโทษ ฉันทำตัวเกินเหตุไป อย่ากังวลไปเลย”การพูดถึงวันนั้นทำให้ฉันนึกถึงความเจ็บปวดที่ฉันเห็นในดวงตาของเขา ตอนนี้เขาพยายามซ่อนมันไว้อย่างดีคนอื่นอาจคิดว่าเขาสบายดี แต่ฉันบอกได้ว่าไม่ใช่ ฉันเข้าใจถึงความดิ้นรนในจิตใจของเขา เพราะปกติฉันก็เคยเจอเรื่องแบบนี้เหมือนกันเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนที่เคยเจ็บปวดที่จะเห็นความเจ็บปวดที่คนอื่นพยายามซ่อนไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นความเจ็บปวดประเภทเดียวกับที่คุณกำลังเผชิญอยู่“แล้วคุณทำอาชีพอะไรเหรอ?” เขาถาม อาจเป็นเพราะพยายามหาเรื่องคุยเล่น“ฉันเป็นครู แต่ฉันลาพักร้อนสองสามเดือน”ฉันเคยคิดที่จะกลับไป แต่ตัดสินใจที่จะไม่ทำ แม้จะเบื่อกับการอยู่บ้านคนเดียว แต่ฉันรู้ว่าฉันต้องการเวลาส่วนตัว ไม่ใช่แค่เพราะตั้งครรภ์เท่านั้
โรแวนวันนี้ เราต่างมารวมตัวกันเนื่องจากงานสังสรรค์ประจำเดือน ตระกูลวูดส์และชาร์พริเริ่มงานสังสรรค์นี้มานับตั้งแต่ผมอายุได้ห้าขวบครอบครัวทั้งสองมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น หลัก ๆ อาจเป็นเพราะแม่ของเราทั้งสองเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่สนิทกันเป็นอย่างมากนั่นจึงฟังดูสมเหตุสมผลหากลูกของหญิงทั้งสองจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตามสายสัมพันธ์แสนสนิทชิดเชื้อของทั้งสองตระกูล“พ่อครับ ทำไมขับรถช้าเป็นเต่างี้ล่ะ? เดี๋ยวก็อดกินหมูย่างบาร์บีคิวของคุณปู่หรอก” โนอาบ่นอุบ คิ้วขมวดด้วยความหงุดหงิดหากไม่เห็นแก่โนอา ผมก็ไม่มีทางโผล่หน้าไปร่วมงานนี้แน่ ผมเคยรักใคร่ครอบครัวนี้ โดยเฉพาะตอนที่รู้ว่าเอวาไม่ได้ร่วมงานนี้ด้วย ตอนที่รู้ว่าไม่มีใครเชิญชวนเธอมาด้วยผมเคยคิดว่านี่คงเป็นสถานที่เดียวที่สามารถหลีกหนีจากเธอได้ ได้อยู่ในสถานที่ซึ่งอบอวลไปด้วยความรู้สึกเกลียดชังเอวาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แม้ว่าโนอาจะไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นก็ตามแต่ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย ผมกับเกลียดตนเองและคนอื่นเพราะเราเอาแต่ทำให้เธอเจ็บปวดอยู่ร่ำไป“พ่อจะรีบขับรถเร็ว ๆ เลย” ผมเอ่ยตอบ“ไม่ใช่เลยอ่ะ พ่อไม่ได้ขับเร็วเลย พ่
เหตุผลที่ผมยังสามารถอยู่ในชีวิตของเอวาได้นั้นเพราะว่าผมเป็นพ่อของโนอา และผมยังคงแสดงเจตจำนงอันเด็ดเดี่ยวอยู่ มิฉะนั้นเธอคงโยนผมออกไปอย่างไร้เยื่อใยเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ “เอาไว้ครั้งหน้าแล้วกันจ้ะ” เคทส่งรอยยิ้มแสนเศร้าให้หลานชายน้ำตาเคทเอ่อล้นจวนเจียนจะไหลออกมาเต็มที โนอาไม่เคยรับรู้ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง ผมปล่อยให้ลูกชายเห็นคุณยายของตนแตกสลายต่อหน้าไม่ได้ เด็กน้อยจะเริ่มตั้งคำถามกับทุกสิ่งและเมื่อใดที่ล่วงรู้ว่าเอวาต้องเผชิญกับสิ่งใดมาบ้าง เขาก็พร้อมจะระเบิดออกมาแน่โนอารักแม่ของตนเหนือว่าสิ่งอื่นใด หากเขารู้ว่าเราทุกคนต่างพากันทำร้ายเอวามากขนาดไหน ในสายตาของโนอา เราคงกลายเป็นศัตรูและพร้อมจะถูกตัดความสัมพันธ์เป็นแน่“ไปกันเถอะ…พ่อว่าตอนนี้อาหารคงรอเราจนเย็นชืดหมดแล้ว” ผมเดินเข้าไปขัดกลางระหว่างยายหลาน และดันทั้งสองเข้าไปภายในบ้านเคทขอเวลาสักครู่และเดินไปยังห้องน้ำ ขณะที่โนอาและผมเดินไปยังสวนหลังบ้านผมร้องโอดครวญอยู่ภายในเมื่อตระหนักได้ว่าตอนนี้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า โนอารีบวิ่งไปและทิ้งผมไว้ด้านหลังเด็กน้อยกล่าวทักทายทุกคนเว้นเพียงเอมม่า เขาไม่แม้แต่ชายหางตามอง โนอาไม่ชอบเธ
ศีรษะผมหมุนวนด้วยความจริงใหม่ที่เพิ่งค้นพบ ผมเคยคิดว่าความรักที่มีให้กับเอมม่านั้นจะเป็นนิรันดร์ แต่เมื่อตระหนักว่าไม่ใช่อย่างนั้น ทั้งสมองและหัวใจก็ได้รับผลกระทบขึ้นมาผมรีบเดินไปนั่งข้างโนอา ตอนนี้ผมอยากให้เรื่องทั้งหมดนี้จบลงเร็วมากกว่าที่เคย ผมอยากออกไปจากที่นี่มากจนรู้สึกราวกับผิวหนังกำลังจะลุกเป็นไฟ"พ่อคุยเรื่องอะไรกับป้าเอมม่ามาเหรอครับ" โนอาถามทันทีที่ผมหย่อนตัวลงนั่งเสียงของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ทุกคนไม่จำเป็นต้องบอกซ้ำสองว่าลูกชายเกลียดผู้หญิงที่ผมตั้งใจจะใช้ชีวิตที่เหลือด้วยนั้นเข้าไส้ความเกลียดนี้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมต้องหยุดความสัมพันธ์กับเอมม่าไว้ก่อน ผมจะคบกับเธอได้อย่างไร? จะอยู่กับเอมม่าได้อย่างไรในเมื่อคนที่ผมรักที่สุดเกลียดเธอขนาดนี้? ผมจะคิดก้าวเดินไปพร้อมความสัมพันธ์นี้ได้อย่างไรในเมื่อเธอก็ไม่ได้ชื่นชอบโนอาเช่นกัน?อ้างอิงถึงสิ่งที่เธอพูดถึง มันชัดเจนว่าเธอรังเกียจเขา เพราะเขาเป็นลูกของเอวาหรือเพราะเขาเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมต้องแต่งงานกับเอวา หรืออาจจะเป็นทั้งสองอย่าง"ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอกลูก" ผมพึมพำพร้อมรู้สึกสับสนกับความคิดมากมายเรานั่งเ
“แล้วทำไมมานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเอวา” เกเบรียลเอ่ยถามขณะเข้ามานั่งข้างผมตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีมากนักถึงขั้นที่มองว่าสิ่งต่าง ๆ จากบริษัทน่ารำคาญ รวมถึงน้องชายตนเองด้วย ผมจึงเมินเฉยต่อคำถามเขาและดื่มวิสกี้เข้าไปอีกหนึ่งอึกผมนั่งอยู๋ในโซนวีไอพีของหนึ่งในร้านเหล้าที่เราชื่นชอบ เพลงเปิดเสียงดังกระหึ่ม ผีเสื้อราตรีต่างพากันโยกย้านและออกลวดลายกันอย่างสนุกสนาน พร้อมน้ำเมาที่ลอยล่อง และไม่สิ่งใดเป็นผลกับผมเลยค่ำคืนนี้ผมเพียงต้องการลืมเลือน ลืมภาพแห่งความทุกข์ระทมของเอวา ผมรู้ดึว่าอาจเป็นเป็นเพิ่งเรื่องเพ้อเจ้อหากคิดจะลืมเลือนนั้นเพราะว่าภาพนั้นยังคงฝังแน่นในจิตใจ แต่ผมก็อยากลองลืมภาพเหล่านั้นการอยู่บ้านกลายเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจขึ้นมา บรรยากาศแห่งความรื่นรมย์น่ายินดีไม่มีอีกต่อไปแล้ว ผมปรารถนาให้มันกลายไปเป็นอย่างเดิมที่ควร แต่ก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร ผมไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า จะต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้อย่างไรดีคำพูดที่เคยออกจากปากไม่มีวันหวนกลับและไม่มีวันลบออกไปได้ ผมไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดได้ หากเป็นไปได้ ผมคงรีบลงมือทำไปแล้วเพราะผมรักเธอเหลือเ
หัวใจของผมแทบหยุดเต้นลง เมื่อความกลัวว่าเธอจำเรื่องทุกอย่างแล้วประดังเข้ามา“บอกผมหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น เอวา ผมช่วยไม่ได้ถ้าผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมวิงวอนเธอน้ำตาของเธอยังคงไหลรินลงมาบนใบหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวบดบังดวงตาของเธอ มันทำให้หัวใจผมสลายจริง ๆ ที่เห็นเธอเป็นแบบนี้“ความทรงจำฉันกลับมาแล้ว” เธอกล่าวก่อนจะเริ่มหัวเราะราวกับเป็นบ้า “รู้ไหม ฉันอยากมีเซ็กส์กับคุณ ฉันอยากนอนกับคุณ แถมฉันยังบอกให้ตัวเองคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะฉันต้องการคุณมาก พอฉันเห็นคุณช่วยตัวเองในห้องน้ำ ฉันก็อยากจะร่วมด้วย ฉันถึงกับจินตนาการว่าตัวเองกำลังออรัลเซ็กส์กับคุณในขณะที่คุณหลั่งบนหน้าอกของฉัน”ผมขมวดคิ้วแต่ก็เงียบไว้ อะไรบางอย่างบอกผมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น และผมจะไม่ชอบสิ่งที่เธอจะพูดต่อไป “ฉันเคยรู้สึกกระหายคุณ โหยหาคุณ แต่สมองของฉันกลับย้ำเตือนบางสิ่งที่คุณเคยพูด” เธอสะอื้น “คุณอยากรู้ไหมว่ามันคืออะไร”ผมไม่อยากรู้ เพราะผมรู้ว่ามันจะทำลายการพัฒนาเล็ก ๆ ที่เรามีร่วมกัน แต่ผมก็ยังพยักหน้าตอบ“คุณพยายามจะทำให้ดีในการมีเซ็กส์ แต่คุณไม่เก่งเลย ทุกครั้งที่ผมอยู่ข้างในคุณ คนที่ผมต้องการคือเอ
โรแวนการเดตนั้นสมบูรณ์แบบ ถ้าผมเลือกได้ ผมคงไม่อยากให้มันจบลง ทุกช่วงเวลาที่ผมอยู่กับเธอเหมือนอยู่ในสวรรค์ และผมหวังว่าผมจะได้อยู่กับเธอเร็วกว่านี้ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมผมถึงไม่เคยให้โอกาสตัวเองได้มีความสุขกับเอวาเลย ผมรู้สึกแย่ที่เราอาจจะได้มีความสุขกันมาตลอดหลายปีนี้ถ้าผมปล่อยเอมม่าไปความรักที่ผมมีต่อเอมม่าคือความรักของวัยรุ่น มันคงไม่ยืนยาว เมื่อมันถูกทดสอบก็พังทลายลง สิ่งที่ผมรู้สึกต่อเอวานั้นเป็นแบบผู้ใหญ่ แข็งแกร่งและลึกซึ้งกว่าสิ่งที่ผมคิดว่ามันคือความรักตอนอายุสิบเจ็ดผมเริ่มเชื่อว่าเกเบรียลพูดถูก ความรักไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนอย่างที่เขาพูด ผมคิดว่าลึก ๆ แล้วผมรักเอวา ผมแค่ปล่อยให้ความรู้สึกผิดที่ทำร้ายเอมม่าครอบงำผม ผมยื้อเอมม่าไว้เพราะรู้สึกว่าผมต้องการควบคุม ซึ่งการแต่งงานกับเอวาและอยู่กับเธอก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของผมผมยังเชื่อด้วยว่าการปล่อยให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อเอวาเติบโตขึ้นนั้นเหมือนกับการทรยศต่อความรักที่ผมมีต่อเอมม่า สิ่งที่ผมไม่รู้ในตอนนั้นก็คือความรักนั้นได้ตายไปนานแล้วผมถอนหายใจและถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะมุ่งหน้าไปอา
“งั้นก็ตกลงตามนี้ เราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในบ้านนี้” โรแวนพูดขณะที่ฉันจ้องมองเขาฉันรู้สึกตกใจ แต่ก็มีความสุขไปพร้อม ๆ กัน ฉันอยากเปลี่ยนอะไรหลายอย่างมานานแล้ว แต่ฉันก็รู้ว่าเขาคงไม่ยอมแน่ไม่รู้สิ เหมือนกับว่านี่เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเขาปล่อยวางจากเอมม่าได้จริง ๆ และแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจฉันจริง“โอเค” ฉันยิ้มให้เขา ปล่อยให้ความจริงนั้นซึมลึกเข้าไปในใจ"เราสามารถปรึกษากับนักออกแบบตกแต่งภายในได้พรุ่งนี้ ผมมั่นใจว่าเบียงก้า เมเยอร์ส จะสามารถรับงานเราได้ แม้เธอจะมีตารางงานแน่นแค่ไหนก็ตาม คุณสามารถบอกเธอได้เลยว่าอยากได้อะไรแล้วปล่อยให้เธอจัดการ หรือจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยก็ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณ"และเซอร์ไพรส์ก็ยังไม่หมด ทุกคนรู้จักเบียงก้า เมเยอร์ส เธอเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในที่เก่งที่สุดในประเทศ และเธอทำงานเฉพาะให้กับคนรวยและผู้มีอิทธิพลเท่านั้น ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะได้ร่วมงานกับเธอ“ตกลง” ฉันบอกเขาโดยพยายามเก็บความตื่นเต้นไม่ให้ล้นจนเกินไป “แต่ฉันอยากให้คุณกับโนอามีส่วนร่วม เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านของพวกคุณเหมือนกัน และฉันก็อยากให้พวกคุณรู้สึกสบายใจที่นี่”"ผ
“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องจริง” ในที่สุดเขาก็ตอบฉันตกใจมาก ฉันคิดเสมอว่ามันเป็นแค่ข่าวลือโง่ ๆ“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน แล้วตอนนั้นคุณอายุเท่าไร? ไม่ใช่ว่าฉันตัดสินหรืออะไรทำนองนั้นนะ”“ผมอายุสิบเจ็ด ส่วนหล่อนอายุยี่สิบหก ผมคิดว่า... ผมเป็นเด็กหนุ่มฮอร์โมนพลุ่งพล่าน แถมแมนดี้โคตรเซ็กซี่ ผมอยากมีเซ็กส์กับคนที่อายุมากกว่าผมเสมอ และหล่อนก็ยิ่งทำให้มันง่ายขึ้นเมื่อหล่อนเอาหน้าอกของหล่อนมาแนบหน้าผม หรือกางขาออกในขณะที่ใส่กระโปรงตัวจิ๋วทุกครั้งที่หล่อนเรียกผมไปที่โต๊ะของหล่อน”ฉันประทับใจแต่ในขณะเดียวกันก็รังเกียจแมนดี้ ฉันหมายถึงเธอเป็นครูนะ ให้ตายเถอะ แต่กลับพยายามล่อลวงนักเรียนของตัวเอง ฉันเองก็เป็นครูเหมือนกัน และฉันจะไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนั้นเด็ดขาด“คุณเป็นคนขอเองนะ” โรแวนพูดเมื่อสังเกตเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของฉัน “ฉันรู้ แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่ครูตั้งใจจะล่อลวงนักเรียนอายุสิบเจ็ดปี”เขาเพียงแค่ยักไหล่ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลังจากนั้นการสนทนาก็ผ่อนคลายลง ฉันเพลิดเพลินไปกับมันอย่างเต็มที่ ราวกับมันเป็นความฝันและฉันไม่อยากให้เดตจบลง เราคุยกันทุกเรื่องเป็นชั่วโมงภายใต้แสงจันท
ฉันจ้องมองเขาอย่างมึนงง ไม่รู้จะพูดหรือทำอะไรดี“คุณชอบกลิ่นหอม และคุณชอบกลิ่นที่มีเบอร์รี่ผสมอยู่มากกว่า ขอแค่น้ำหอมหรือสบู่เหลวอาบน้ำมีส่วนผสมของเบอร์รี่ คุณก็จะยอมซื้อ คุณไม่มีอาหารจานโปรดจริง ๆ เพราะคุณจะกินอะไรก็ได้ตราบใดที่มันอร่อย คุณชอบอาบน้ำอุ่นนาน ๆ เพราะมันทำให้คุณผ่อนคลาย คุณเกลียดความสูง คุณเกลียดการไปสาย และคุณเกลียดการขึ้นเครื่องบินด้วย คุณเกลียดแมลงสาบ คุณมักจะพูดว่าอยากให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยแมงมุมมากกว่าพวกแมลงสีน้ำตาลน่ารังเกียจนั่น... ให้ผมจะพูดต่อไหม”เขาไม่ให้โอกาสฉันตอบ“คุณชอบรวบผมเป็นหางม้าและมวยผม คุณไม่ชอบแต่งหน้ามากนักและแต่งหน้าเฉพาะเมื่อจำเป็นหรืออยากแต่ง คุณไม่ชอบนอนหงายเพราะมันทำให้คุณนึกถึงคนตายในโลงศพ คุณเกลียดความไม่เป็นระเบียบและสีเหลืองด้วย…”ฉันยกมือให้เขาหยุดพูดเพราะฉันพูดอะไรไม่ออกเลย ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง เพราะเราไม่เคยสนิทกันมาก่อน ครอบครัวชาร์พคงไม่ได้บอกเขาหรอก เพราะพวกเขาแทบจะไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ“ได้ยังไง?” ฉันพูดติดขัด ในหัวไม่สามารถประมวณผลทุกอย่างได้“ผมบอกคุณแล้ว” เขากล่าวพร้
ฉันมองออกไปนอกรถแล้วตะลึงงัน สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเป็นสวรรค์ มันเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่มีหญ้าเขียวขจีและคงมีดอกไม้มากมายนานาพันธุ์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบที่สุดของที่นี่ แต่มันคือเพราะทิวทัศน์ต่างหาก ดวงดาวนับพันเปล่งแสงระยิบระยับราวกับกำลังเห็นด้วยกับเดตนี้“คุณชอบไหม” โรแวนถาม และคำตอบเดียวของฉันคือการพยักหน้าฉันค่อย ๆ ออกจากรถ สูดอากาศบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจ ฉันเดินไปเกือบถึงขอบถนนและมองลงไปที่เมืองเบื้องล่าง ฉันไม่รู้ว่าโรแวนไปเจอสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร และฉันก็ไม่สนใจฉันหลับตาลง รู้สึกว่าความกังวลทั้งหมดมลายหายไป นี่คือฉากในแบบที่ฉันชอบ ฉันชอบมันมากเมื่อฉันหันกลับไป ฉันพบว่าโรแวนจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มีผ้าห่มและตะกร้าปิกนิกพร้อมสิ่งที่ฉันเดาว่าเป็นช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่และไวน์ นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารที่เราสั่งอยู่ด้วยฉันเดินช้า ๆ ไปหาเขา ถอดรองเท้าและนั่งลงข้าง ๆ เขา “นี่มันสุดยอดเลย โรแวน ขอบคุณนะคะ”เขาพยักหน้า “อะไรก็ตามที่จะทำให้คุณมีความสุขที่รัก ตอนนี้เรามาทานอาหารกันเถอะ เพราะผมหิวจะแย่แล้ว”เราทานอาหารกันเงียบ ๆ ฉันใช้โอกาสนี้ชื่นชมทิวทัศน์
การเดินทางใช้เวลาไม่นานนัก และนอกจากการคุยกันเล็กน้อยเป็นครั้งคราว เราก็เงียบกันเกือบตลอดเวลา แต่ก็เป็นครั้งแรกเท่าที่ฉันจำได้ ที่ความเงียบระหว่างเราให้ความรู้สึกสบายใจในช่วงเวลาที่หาได้ยากที่เราขับรถไปด้วยกัน โรแวนมักจะพยายามทำเป็นไม่สนใจฉัน ขณะที่ฉันพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อชวนเขาคุย ซึ่งมันมักจะทำให้บรรยากาศดูอึดอัดและแปลก ๆ เสมอ“คุณยิ้มทำไม” ฉันถามเขาเมื่อเขาลงจากรถเพื่อช่วยฉันออกจากรถรอยยิ้มของเขาควรจะเป็นอาวุธทำลายล้างสำหรับผู้หญิงโดยแท้ แน่นอนว่าเขาหล่ออยู่แล้ว แต่เมื่อโรแวนยิ้ม มันยิ่งทำให้ความหล่อของเขาก้าวไปอีกระดับหนึ่ง“ผมจะมีความสุขที่พาผู้หญิงของตัวเองออกมาข้างนอกไม่ได้เหรอ” เขาถามพร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อยไม่รู้ทำไม ฉันถึงหัวเราะคิกคักขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ปกติฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหัวร่อต่อกระซิก ฉันไม่เคยหัวเราะแบบนี้มาก่อนเลยทั้งชีวิต จริง ๆ แล้วฉันเคยคิดว่ามันดูน่ารังเกียจด้วยซ้ำเมื่อเห็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันกลับเป็นคนที่ทำเสียเอง“ขอโทษที ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงหัวเราะแบบนั้น” ฉันเอ่ยขอโทษขณะที่พยายามรวบรวมสติเขาจับมือฉัน และฉันก็คล้อ
ฉันมองตัวเองในกระจก และมีความสุขกับลุคของตัวเอง ฉันเกล้าผมเป็นมวยต่ำและม้วนผมเป็นลอนเข้ากับกรอบหน้า คืนนี้ฉันต้องการอะไรที่แปลกใหม่ เพราะเป็นเดตครั้งแรกของฉันกับโรแวน ฉันจึงตัดสินใจเลือกอายแชโดว์สีสโมกี้ที่ดูไม่ฉูดฉาดแต่เย้ายวนกับลิปสติกสีแดงส่วนชุดเดรส ฉันเลือกชุดเดรสสีดำยาวระดับเข่า มีคอเสื้อเว้าลึกที่ยึดด้วยสายรัดบาง ๆ เผยให้เห็นเนินอกเล็กน้อย พอให้ดูยั่วยวนแต่ไม่เกินงาม อีกทั้งเป็นชุดเปิดหลังซึ่งฉันมั่นใจว่าจะทำให้บรรดาหนุ่ม ๆ ต้องคลั่งฉันยังคงจ้องมองตัวเองในขณะที่ลูบมือไปตามเนื้อผ้าที่นุ่มนวล ชุดนี้เข้ารูปพอดีตัว และต้องขอบคุณที่ฉันเพิ่งผ่านช่วงตั้งครรภ์ เลยทำให้ตอนนี้ฉันมีส่วนเว้าโค้งที่พอดิบพอดี“โอ้โหที่รัก ถ้าฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย ฉันคงจีบเธอไปแล้วแน่ ๆ” เล็ตตี้กล่าวชมด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่ม “เธอเซ็กซี่มาก แบบที่ไม่มีอะไรจะเทียบได้เลย” “เธอพูดถูก” โครินพูดเสริมพวกเธอกลับไปเมื่อสองสามชั่วโมงก่อน ตอนนี้เรากำลังคุยกันทางวิดิโอคอล เพราะฉันต้องการฟังความคิดเห็นที่จริงใจของพวกเธอ เดตครั้งนี้สำคัญมาก อย่างที่ฉันบอก นี่เป็นเดตครั้งแรกของโรแวนกับฉัน ฉันจึงอยากให้ทุกอย่างออกมาสมบูร