Share

บทที่ 103

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
เอวา

ฉันจ้องพวกเขา หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะและสมองของฉันเต้นระรัว ฉันมาอยู่จุดนี้ได้ยังไง? ทำไมฉันถึงมองไม่ออกว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น?

ฉันชะงัก เสียใจจนพูดอะไรไม่ออก โลกของฉันพังทลายลงและแตกเป็นเสี่ยง ๆ รอบตัวฉัน

‘หัวหน้า’

คำ ๆ เดียวนั้นวนเวียนอยู่ในหัวฉันตลอดเวลาและทำให้ฉันเกือบคลั่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันทั้งสงสัย คาดเดาและค้นหาศัตรูของฉัน แต่เขากลับเป็นคนใกล้ตัว

“นี่มันเรื่องอะไรกัน” เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวทำให้ฉันต้องกลับมาสู่ความเป็นจริงที่แสนเจ็บปวดนี้

ฉันหันไปข้างหลังเพียงเพื่อตกใจอีกครั้ง

เล็ตตี้ถูกมัดกับเก้าอี้ เธอดูกลัวและโกรธในเวลาเดียวกัน เธอมีเลือดไหลออกจากหัว ฉันเดาว่าไอ้สารเลวที่ลักพาตัวเรามาคงฟาดหัวเธอเช่นกัน

ฉันมัวแต่กลัวตายและพยายามหาทางออกจนไม่ทันสังเกตว่าเธอก็อยู่ที่นี่ แต่ฉันขอแก้ตัวว่านั่นเป็นเพราะเธออยู่ข้างหลังฉัน ฉันไม่คาดคิดว่าจะมีใครอยู่ข้างหลังฉัน

“มันยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? ฉันลักพาตัวพวกเธอมาไง” ผู้ที่ลักพาตัวพวกเรากล่าว

“ทำไมคุณถึงต้องลักพาตัวเธอในเมื่อฉันคือคนที่คุณต้องการ?” ฉันถามพร้อมกับมองลง

ฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับผู้ที่ทรยศฉัน การมองใบหน้า
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 104

    เอวา“เวร” เสียงตะโกนนั้นทำให้ฉันลืมตาขึ้นอีธานจับไหล่ของเขาที่กำลังมีเลือดไหล“ทิ้งปืนซะอีธาน ไม่งั้นฉันระเบิดสมองแกแน่” เสียงโกรธของโรแวนแทรกเข้ามาในสมองที่มึนงงของฉันเขาเป็นคนสุดท้ายที่ฉันอยากเจอในตอนนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าฉันรู้สึกเสียหน้า เขาพยายามเตือนฉันแล้ว แต่ฉันกลับไม่ฟังเขาเลย“คนของฉันล้อมอาคารทั้งหลังไว้แล้วอีธาน นายไปไหนไม่รอดหรอก” โรแวนเสริมทันใดนั้นฉันก็ได้ยินเสียงไซเรนของตำรวจและถอนหายใจด้วยความโล่งอกอีธานลดปืนลงก่อนที่จะวางมันลงบนพื้น ดวงตาของเขาสบตากับฉัน ฉันอยากจะหลบสายตาเขาแต่กลับทำไม่ได้ ฉันอยากเตือนตัวเองว่าฉันโง่แค่ไหนตลอดเวลาที่ผ่านมา“เอวา ที่รัก มองผมสิ” เสียงของเขาทำให้ฉันละสายตาจากสายตาที่เย็นชาของอีธาน ตอนนั้นเองที่ฉันตระหนักว่าโรแวนกำลังยืนอยู่ตรงหน้าฉันการได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างใกล้ชิดทำให้ฉันน้ำตาซึม คำพูดสุดท้ายที่เขาพูดกับฉันเมื่อสองเดือนที่แล้วยังคงก้องอยู่ในหัวของฉันฉันจับตาดูเขาขณะที่เขาปลดโซ่ตรวน เขาราวกับเป็นสมอเรือของฉันในตอนนี้ บางทีถ้าฉันมุ่งความสนใจไปที่เขา ฉันอาจจะไม่จมลงในน้ำแห่งความเจ็บปวดของความทรยศ“ไม่เป็นไรนะ ผมอยู่นี

  • ธุลีใจ   บทที่ 105

    ฉันรู้ว่าเธอคงรู้สึกยังไง ฉันแนะนำเธอให้รู้จักกับอีธาน และพวกเราสามคนยังไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้งด้วย เธอคงรู้สึกถูกทรยศเช่นเดียวกับฉัน“ใช่ เขายังไม่ยอมพูดอะไรเลย” ไบรอันส่ายหัวฉันหันไปเผชิญหน้ากับอีธานแต่กลับพบว่าเขากำลังจ้องมองฉันอย่างตั้งใจ สายตาไร้อารมณ์ของเขาดึงดูดฉันทันที“ทำไม? ทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับฉัน อีธาน?” เสียงของฉันสั่นเครือในขณะที่พูดเขาจ้องมองฉัน สายตาเย็นชาของเขาทำให้ฉันแสบร้อน ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกน้ำแข็งกัด ฉันยังคงไม่รู้ว่าความอบอุ่นทั้งหมดที่เขาเคยมีหายไปไหน เขามีสวิตช์ควบคุมอารมณ์หรือเปล่า และเขาสามารถเปิดและปิดมันได้เมื่อเขาต้องการเหรอ? หรือว่ามันไม่เคยมีอยู่เลย? ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาก็เป็นนักแสดงที่เก่งมาก ๆ คนหนึ่ง“ผมต้องการบริษัท” เขากล่าวอย่างเรียบง่ายฉันตกใจที่เขาตอบฉัน ฉันไม่คาดคิดว่าเขาจะตอบด้วยซ้ำความตกใจถูกผลักออกไปเมื่อฉันเริ่มเข้าใจสิ่งที่เขาพูด ในไม่ช้าความประหลาดใจของฉันก็กลายเป็นความสับสน“บริษัทอะไร?” ฉันถามฉันไม่มีบริษัท ฉันลงทุนในบริษัทต่าง ๆ แต่ไม่ได้มีบริษัทของตัวเองเหมือนโรแวน สิ่งเดียวที่ฉันมีคือมูลนิธิโฮป และฉันไม่เห็นว่าคนอย

  • ธุลีใจ   บทที่ 106

    ฉันรู้สึกได้ว่าโรแวนสะดุ้งเล็กน้อยข้าง ๆ ฉัน แต่ฉันไม่สนใจหรอก สิ่งที่ฉันพูดคือความจริง ครอบครัวจะต้องห่วงใยคุณ และไม่มีใครที่นี่ยกเว้นเล็ตตี้ ที่เคยห่วงใยฉัน“เรากลับมาที่เรื่องของอีธานได้ไหม?” เกเบรียลถามหลังจากนั้นไม่นานอีธานยักไหล่ “ผมจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงชื่อโนราให้คุณฟัง” เขาเริ่ม“โนรามาจากครอบครัวชนชั้นกลาง พ่อของเธอเป็นนักเทศน์ เขาและแม่ของเธอเป็นคริสเตียนที่เคร่งครัด เธอได้รับการเลี้ยงดูให้ปฏิบัติตามพระเจ้าและพระคัมภีร์อย่างเคร่งครัด และเธอก็ทำตามจนกระทั่งเธอได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อธีโอดอร์ แม้ว่าเขาจะชอบให้คนอื่นเรียกเขาว่าธีโอมากกว่าก็ตาม”พวกเราทุกคนต่างเคลิ้มไปกับการฟังเขา ฉันไม่รู้ว่าเรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไร แต่ทุกอย่างดูน่าสนใจ“พวกเขาพบกันตอนอายุสิบเอ็ด และแม้ว่าเธอจะพยายามอยู่ห่างจากเขา แต่เธอก็ทำไม่ได้ พวกเขาเริ่มเป็นเพื่อนกันและเริ่มคบหากันตอนอายุสิบสาม โนรารู้ว่ามันขัดกับคำสอนทุกประการที่เธอถูกสอน พ่อแม่ของเธอจะต้องฆ่าเธอถ้าพวกเขารู้ แต่เธอตกหลุมรักและไม่สามารถปล่อยมือธีโอได้ และเขาก็ทำไม่ได้เช่นกัน”“เธอคิดว่ามันจะง่าย และตั้งใจจะปิดความสัมพันธ

  • ธุลีใจ   บทที่ 107

    ฉันนั่งลงข้าง ๆ โรแวนด้วยอาการแข็งค้าง จิตใจของฉันไม่อาจเข้าใจสิ่งที่อีธานเพิ่งบอกฉันได้ ก่อนอื่น เลย เจมส์และเคท ชาร์พไม่ใช่พ่อแม่ของฉัน สอง เขาบอกว่าเขาเป็นน้องชายของฉัน“อะไรนะ?” ฉันกรีดร้องเมื่อรู้สึกถึงผลกระทบจากคำพูดของเขาในที่สุด “นายนอนกับฉันทั้งที่รู้ว่านายเป็นน้องชายฉันเหรอ? นั่นมันน่าขยะแขยงชะมัด”“คุณนอนกับเขาเหรอ? ทำไมคุณถึงนอนกับเขา?” โรแวนระเบิด ออร่าอันตรายแผ่ซ่านไปทั่วห้องและทำลายบรรยากาศรอบตัวเราฉันมองเขาอย่างเคียดแค้น “นี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ”ความคิดของฉันหมกมุ่นอยู่กับการเปิดเผยของอีธาน ถ้าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง นั่นหมายความว่าฉันมีเซ็กส์กับน้องชายตัวเอง และเขาก็มีเซ็กส์กับฉันทั้งที่รู้ความจริงเมื่อคิดอย่างนั้น ฉันก็รู้สึกขมขื่นขึ้นมาและขยะแขยงอย่างที่สุด ไอ้สารเลวประเภทไหนกันที่จะทำแบบนี้? คนเราจะนอนกับคนที่รู้ดีว่ามีสายเลือดเดียวกันทำไม?ยิ่งฉันรู้จักอีธานมากขึ้น ฉันก็ยิ่งสงสัยว่าเขาแสดงมาตลอดหรือเปล่า“คุณไม่ใช่พี่สาวของผม” อีธานพูดขึ้น“แต่นายเพิ่งบอกไปว่าโนราและธีโอเป็นพ่อแม่ของนาย” ฉันชี้แจง“ผมบอกคุณแล้วว่าผมถูกรับเลี้ยง นั้นคือความจริง พวกเขารับ

  • ธุลีใจ   บทที่ 108

    “การค้นหาของผมนำพาผมให้มาพบกับคุณ ผมรู้ว่าผมต้องฆ่าคุณ ถ้าคุณไม่มีตัวตน ข้อตกลงนั้นก็ถือเป็นโมฆะ ผมจึงมาที่นี่ และหลังจากถามเกี่ยวกับคุณ ผมก็ได้รับข้อมูลมากมาย เมื่อพิจารณาว่าผู้คนเกลียดคุณมากเพียงใด รวมถึงสามีและครอบครัวของคุณด้วย ผมก็คิดว่าสิ่งที่ผมจะทำจะเป็นการตอบสนองความต้องการของพวกเขา ยังไงซะผู้หญิงที่แย่งแฟนของพี่สาวตัวเองได้ก็ไม่น่าจะเป็นคนที่คุ้มค่าที่จะรู้จักหรือมีดีอะไร”ฉันหายใจไม่ทันเมื่อได้ยินแบบนั้น ฉันยังคงไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายคนที่รับรองกับฉันว่าคืนนั้นกับโรแวนเมื่อเก้าปีก่อนไม่ใช่ความผิดของฉัน คือผู้ชายคนเดียวกันที่คิดว่าฉันไม่สมควรมีชีวิตอยู่เพียงเพราะเรื่องนั้นฉันพยายามหายใจเข้าท่ามกลางความเจ็บปวด แต่มันช่างยากเหลือเกิน“ผมต้องชี้แจงว่าครั้งแรกที่มีคนจะฆ่าคุณไม่ใช่ฝีมือผม แต่ผมคว้าโอกาสนั้นไว้ ผมเห็นโอกาสที่จะเข้าใกล้คุณและผมก็คว้ามันไว้ มีวิธีใดจะดีไปกว่าการเป็นฮีโร่เพื่อให้คุณไว้วางใจ มันได้ผลและคุณก็เปิดประตูต้อนรับผม”บ้าเอ้ย มันเจ็บปวดมาก การรู้ว่าเขาตั้งใจจะเล่นงานฉันตั้งแต่ต้น และฉันตาบอดเกินกว่าจะมองเห็นความจริง มันทำให้ฉันแตกสลาย“ทำไมคุณต้องตีสนิทฉัน

  • ธุลีใจ   บทที่ 109

    ฉันตื่นนอนตอนเกือบเที่ยง ตอนแรกฉันคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็น แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลาย มันไม่ใช่ฝันร้ายอย่างที่ฉันคิด อีธานหักหลังฉันจริง ๆฉันรู้สึกน้ำตาคลอเบ้า ฉันร้องไห้จนหลับไปเมื่อวานและเหนื่อยกับการร้องไห้มาก ฉันเข้านอนโดยหวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อฉันตื่นขึ้น ฉันภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์ แต่ปรากฏว่าตอนนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย สิ่งที่ฉันต้องการให้เป็นเพียงฝันร้ายคือความจริงฉันค่อย ๆ ลุกจากเตียง ฉันไม่มีพลังงานที่จะทำอะไร แต่ฉันก็รู้ว่าฉันไม่สามารถนอนหลับและจมอยู่กับเตียงตลอดทั้งวันได้ฉันอาบน้ำเนิ่นนานและหวังว่ามันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ไม่เป็นอย่างนั้น ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรทำให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นดีขึ้นได้หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดและกางเกงโยคะแล้ว ฉันก็ไปที่ห้องครัวเพื่อกินอะไรซักอย่าง ฉันกำลังหยิบไข่ออกมาอยู่พอดีเมื่อกริ่งประตูบ้านของฉันดังขึ้น ฉันถอนหายใจด้วยความพ่ายแพ้ ฉันไม่รู้สึกอยากเจอใครเลย ฉันแค่อยากอยู่คนเดียว“สวัสดี” เล็ตตี้พูดพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อยเมื่อฉันเปิดประตูเธอดูเหนื่อยและอ่อนล้าเหมือนกับฉัน แต่เธออาจจะเหนื่อยทางกายมากกว่าฉันที่เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 110

    ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าใครแย่กว่ากันระหว่างโรแวนที่ใช้ฉันเพื่อมีเซ็กส์ในขณะที่เขาคิดถึงเอมม่า หรืออีธานที่หลอกฉันและยังใช้ฉันเพื่อมีเซ็กส์ในขณะที่เขาวางแผนจะฆ่าฉันเธอถอนหายใจ “ฉันไม่อยากพูดจาหยาบคาย แต่ฉันจะพูดความจริงกับคุณ ถ้าฉันรู้ว่าคุณคิดแบบนี้มาตลอด ฉันคงหยุดมันไปแล้ว”“คุณกำลังพูดถึงอะไร?”“คุณจะคอยตามหาผู้ชายที่รักคุณไม่ได้” เธอถอนหายใจอีกครั้ง “ฉันจะอธิบายเรื่องนี้โดยไม่ทำให้คุณเจ็บปวดไปกว่านี้ได้อย่างไร… คุณคบกับอีธานเพราะต้องการให้ใครสักคนรักคุณ คุณไม่สามารถทุ่มความคาดหวังทั้งหมดของคุณกับคนอื่นได้ คุณจะคิดว่าผู้ชายที่รักคุณจะรักษาบาดแผลที่โรแวนและครอบครัวของคุณทำเอาไว้ไม่ได้”ฉันไม่ทันได้พูดอะไรก่อนที่เธอจะพูดต่อ“คุณสร้างจินตนาการนี้ขึ้นมาและฉันไม่เคยรู้จนกระทั่งเมื่อเร็วนี้ คุณคิดว่าเมื่อคุณพบผู้ชายที่รักคุณ ทุกอย่างจะลงตัว แต่คนเดียวที่จะสามารถรักษาบาดแผลนั้นในหัวใจของคุณได้ก็คือตัวคุณเอง คุณเท่านั้นที่จะสามารถรักตัวเองในแบบที่คุณต้องการให้คนอื่นรัก คุณต้องรักตัวเองก่อน และจากที่ฉันเห็น คุณไม่เคยรักตัวเองเลย” เธอทรุดตัวลงบนพนักพิงโซฟา“คุณคิดผิด” ฉันจ้องเธอด้วยท่าทางป้

  • ธุลีใจ   บทที่ 111

    “เข้ามาก่อนค่ะ” เล็ตตี้พูดจากด้านหลังฉัน ทำให้ฉันตกใจสุดขีดฉันรู้ตัวว่าเพิ่งจ้องพวกเขาอย่างโง่เขลา ไม่รู้จะพูดอะไรกับพวกเขาดีฉันขยับเข้าไปข้าง ๆ แล้วปล่อยให้พวกเขาเดินผ่านไป จิตใจของฉันยังคงสั่นคลอนจากความจริงที่ว่าตอนนี้ครอบครัวโฮเวลล์อยู่ในบ้านของฉัน และพวกเขาก็อาจจะเป็นครอบครัวของฉัน“คุณออกมาได้ยังไง?” ฉันหันไปถามอีธานทันทีที่เราทุกคนนั่งลงเขาพูดเพียงว่า “ประกันตัว” สายตาของเขามองไปทุกที่ยกเว้นที่ฉันเมื่อวานนี้ ไบรอันได้ถามฉันว่าฉันต้องการแจ้งความกับอีธานหรือไม่ เขาบอกว่ามันจะทำให้คดีของเรากับอีธานแข็งแกร่งขึ้นฉันไม่สามารถตอบเขาได้เพราะไม่แน่ใจ ใช่ ฉันเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำกับฉันมันแย่มาก และฉันไม่รู้ว่าฉันจะให้อภัยเขาหรือลืมเขาได้หรือเปล่าแต่นอกเหนือจากนั้น อีธานก็ยังสอนอะไรฉันหลายอย่างเกี่ยวกับตัวฉันและชีวิต ฉันแค่ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถดำเนินคดีกับเขาได้หรือไม่ทราวิสตัดสินใจแจ้งความและกรมตำรวจก็เช่นกัน เพื่อเข้าไปในองค์กรนั้น อีธานได้ปลอมแปลงเอกสาร แม้ว่าฉันเองจะแจ้งดำเนินคดีต่อเขาไม่ได้ แต่ไบรอันก็บอกว่าพวกเขาจะยังดำเนินคดี เพราะพวกเขาได้เปิดคดีเกี่ยวกับฉันเมื่อเร

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 462

    เรียกฉันว่าคนขี้ขลาดก็ได้ ฉันไม่สน แต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรเมื่อฉันไปถึงห้องนั่งเล่น ฉันโทรสั่งอาหารเช้าให้มาส่งที่ห้องของเรา ก่อนจะนั่งลงรอฉันรู้ว่านี่จะเป็นหายนะตั้งแต่ตอนที่เกเบรียลบอกว่าเราจะใช้ห้องร่วมกัน ฉันคิดว่าหมอนจะช่วยได้ แต่ฉันแค่หลอกตัวเอง มันไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันก็เดินไปเปิด"อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณผู้หญิง" พนักงานเสิร์ฟทักทาย พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า"อรุณสวัสดิ์ค่ะ""ให้ดิฉันวางตรงไหนดีคะ?" เธอถามขณะที่ฉันหลีกทางให้เธอเข้ามา"บนโต๊ะอาหารก็ได้ค่ะ" ฉันตอบเธอเธอพยักหน้าและเดินไปที่นั่น เธอเพิ่งวางอาหารเช้าลงและกำลังจะออกไป เกเบรียลก็เดินออกจากห้องนอนพร้อมมือที่กำลังติดกระดุมเสื้อฝีเท้าเธอเริ่มช้าลง และเธอเกือบจะสะดุดเมื่อมองเห็นเขา เกเบรียลเป็นผู้ชายที่ดูดีมาก ดังนั้นฉันจึงไม่โทษเธอหรอก"ขอบคุณค่ะ" ฉันพูดเมื่อรู้ว่าสายตาของเธอยังคงอยู่ที่เกเบรียล ขณะที่สายตาของชายหนุ่มก็อยู่ที่ฉันเสียงของฉันดึงเธอออกจากภวังค์ เธอพยักหน้าก่อนจากไป เมื่อเธอไปแล้ว ฉันก็ปิดประตูให้เรียบร้อย"แล้วยังไงดี คุณจะแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเก

  • ธุลีใจ   บทที่ 461

    ให้ตายเถอะ แค่คิดถึงคืนนั้นรวมถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ก็ทำให้ฉันรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัวแล้ว ฉันขยับตัวเล็กน้อย หวังว่าจะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นและบรรเทาความปั่นป่วนในร่างกาย แต่มันกลับทำให้ทุกอย่างแย่ลง เพราะการขยับตัวทำให้ร่างกายแนบชิดกับเกเบรียลมากขึ้นกว่าเดิมเกเบรียลส่งเสียงครางต่ำ แหบพร่า และเร้าอารมณ์ เช่นเดียวกับที่เขาเคยเปล่งออกมาในคืนนั้น ทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหว เสียงนั้นพุ่งตรงเข้าสู่ความรู้สึกของฉัน ทำให้ฉันหยุดพยายามจะขยับตัวให้สบายขึ้นฉันค่อย ๆ หันไปมองเขา หวังว่าเขาจะยังหลับอยู่ พอเห็นว่าเปลือกตาของเขายังคงปิดสนิท ฉันก็รู้สึกโล่งใจ แต่แล้วหัวใจก็เต้นแรงขึ้นเมื่อได้มองใบหน้าของเขาชัด ๆตอนหลับ เขาดูสงบและงดงามเหลือเกิน ขนตายาวทอดเงาบนแก้ม ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย เพียงแค่มองฉันก็เกิดความรู้สึกอยากสัมผัสเขา อยากแนบจูบลงไปบนริมฝีปากนั้นฉันกำลังจมดิ่งลงไปอีกครั้ง กับผู้ชายที่กุมหัวใจฉันไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน คนเดียวกับที่ตอนนี้กำลังขอในสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นไปได้ฉันหลงใหลในตัวเขามาก จนกระทั่งฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนสายเกินไปเสียงครางหลุดออกจากริมฝีปากขอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 460

    มื้อค่ำที่เหลือเป็นไปอย่างเงียบสงัด เขาก็ยังต้องขอโทษฉันอยู่แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ถ้าจะพูดตามตรง ฉันไม่เคยคิดว่าเกเบรียลจะมาขอโทษฉันเลย ดังนั้นการที่เขาทำแบบนั้นและทำด้วยความจริงใจแบบนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออกจริง ๆเรารับประทานมื้อค่ำเสร็จและโทรเรียกพนักงานจากด้านล่างให้มาเก็บจาน"ฉันจะไปนอนแล้วนะ มีอะไรที่คุณอยากได้ก่อนหรือเปล่า?" ฉันถามเมื่อจานอาหารถูกเก็บไปและพนักงานจากโรงแรมก็ออกจากห้องไปแล้วลึก ๆ ในใจฉันกำลังตกใจและกังวลที่จะต้องนอนในห้องเดียวกับเกเบรียล แต่ความเหนื่อยจากการเดินทางก็ทำให้ความวิตกกังวลหายไป"ผมเองก็จะไปนอนเหมือนกัน เหนื่อยสุด ๆ เลย"ฉันพยายามกลั้นความตกใจที่เริ่มปะทุขึ้นมาในใจ ฉันคิดว่าจะนอนก่อนเขาเหมือนที่เคยทำ นั่นจะทำให้ฉันมีเวลาได้ผ่อนคลายและพักผ่อนก่อนที่เขาจะเข้ามานอน ฉันนึกไว้ว่าจะหลับไปแล้วก่อนที่เขาจะขึ้นมานอนฉันกัดฟันอย่างหงุดหงิดและเครียด ก่อนจะพยักหน้าหงุดหงิดแล้วเดินไปห้องนอน"คุณชอบนอนด้านไหน?" เขาถาม ขณะที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง"ฉันไม่ค่อยมีความชอบอะไรหรอก ขอแค่ได้นอน ด้านไหนก็เหมือนกัน"“รู้เรื่อง งั้นผมนอนฝั่งซ้ายนะ คุณก็ฝั่งขวาแล้

  • ธุลีใจ   บทที่ 459

    "อาบน้ำเสร็จแล้ว" ฉันบอกเกเบรียลเมื่อก้าวออกมาที่ห้องนั่งเล่น"ผมสั่งอาหารไว้แล้ว กินก่อน ไม่ต้องรอผมได้เลยนะครับ" เขาพูดก่อนเดินผ่านฉันเข้าไปในห้องนอนมันรู้สึกแปลกที่จะเริ่มรับประทานโดยที่ไม่มีเขาและฉันก็ไม่ได้หิวมากนัก ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีเมล และดูว่าวันพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้างฉันไม่ต้องรอนาน เพราะไม่ถึงสิบนาทีต่อมา เกเบรียลก็เดินออกมาจากห้องนอนในเสื้อยืดเก่า ๆ และกางเกงวอร์ม“ยังไม่กินเหรอ?” เขาถามพลางเลิกคิ้ว สายตาจ้องมองอาหาร“ก็รู้สึกไม่ดีนี่นาที่กินก่อนคุณแบบนั้น แถมคุณเป็นคนสั่งอาหารมาด้วย”เขาทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนจะเริ่มเปิดจานอาหาร ฉันตักอาหารเล็กน้อยแล้วเริ่มรับประทาน ความเหนื่อยถาโถมเข้ามา แม้ว่าฉันจะได้นอนบนเครื่องบินแล้วก็ตาม ฉันไม่อาจหยุดคิดถึงเตียงได้ ตอนแรกฉันไม่ชอบใจนักเรื่องการนอนร่วมเตียงกับเกเบรียล แต่ตอนนี้ฉันกลับเอาแต่คิดถึงมันเสียแล้ว ร่างกายร้องหาเพียงการพักผ่อน“แล้วคุณล่ะ เคยตกหลุมรักใครไหม?” คำถามเกเบรียลทำเอาฉันประหม่าฉันหันขวับไปมองเขา เจอสายตาคมกริบที่จ้องตรงมา ฉันกลืนอาหารลงคอและให้ปากทำหน้าที่ ตอนนี้คงมีอยู่แค่สองทางเลือก ไม่โกหกออกไป ก็บอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 458

    ไม่กี่นาทีต่อมา เรามายืนอยู่หน้าห้องสวีท ความรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ จู่โจมฉันทันที เกเบรียลไขกุญแจและผลักประตูเข้าไปโถงทางเข้าต้อนรับเราด้วยพื้นหินอ่อนขัดมันที่เปล่งประกายอยู่ใต้แสงนุ่มนวลของโคมไฟระย้าสุดหรู เงาสะท้อนทอดเป็นลวดลายงดงามบนผนังห้องนั่งเล่นกว้างขวางปรากฎสู่สายตา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู และหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดมุมมองสู่ทัศนียภาพของเมืองที่ระยิบระยับราวกับทะเลดาวระบบความบันเทิงล้ำสมัยให้คำมั่นถึงค่ำคืนอันแสนอบอุ่น ขณะที่ครัวสไตล์กูร์เมต์ดึงดูดใจด้วยเครื่องใช้สแตนเลสเงาวาวและเคาน์เตอร์กลางขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร ห้องรับประทานอาหารสุดเก๋ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสังสรรค์เล็ก ๆ ที่เป็นกันเอง"ดูท่าทางคุณจะชอบนะ?" เกเบรียลแกล้งเย้าฉันทำได้แค่พยักหน้า อย่างที่บอกไปแล้ว เราเคยรวย และฉันก็เคยพักในโรงแรมดี ๆ มาก่อน แต่ที่นี่คืออีกระดับหนึ่ง มันเป็นนิยามของความหรูหราที่แท้จริงสายตาฉันยังคงกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง แต่จู่ ๆ ฉันก็ชะงักเท้าเมื่อความจริงบางอย่างตีแสกหน้าเข้ามาเต็ม ๆ"เกเบรียล ห้องฉันอยู่ไหนคะ? ฉันเห็นแค่ห้องนอนเดียวเองนะ" ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 457

    เครื่องบินลงจอดที่รันเวย์ มือของเกเบรียลจับตัวฉันไว้ไม่ให้กระดอนตอนเครื่องบินลงจอด“ไม่เป็นไรนะ?” เขาเอ่ยถามพลางสบตาฉัน“ค่ะ”หลังจากที่เกเบรียลเล่าเรื่องผู้หญิงที่เขาเคยตกหลุมรัก ก็ไม่มีเรื่องอะไรไปมากกว่านั้น บาดแผลนั้นยังคงหลอกหลอนเขาอยู่ บาดแผลที่ฝังลึกลงไปข้างในฉันเห็นมันปรากฎอยู่ในดวงตาเขาอย่างชัดเจนขณะที่เล่าทุกอย่างให้ฟัง เขาไม่ต้องการพูดอะไรมากกว่านี้ เขาเพิ่งจะเปิดเผยความลับบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเขาที่ใครคนอื่นไม่เคยรู้ แม้แต่พี่ชายฝาแฝดเขาก็ไม่เคยรู้ฉันไม่ได้บังคับให้เขาเล่าออกมามากกว่านั้น ฉันไม่ได้ขอให้เขาเล่าให้ฟังว่าหลังจากรับรู้ความจริงพวกนั้นมันเป็นอย่างไรต่อหรือเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น เขารู้สึกเปราะบาง และฉันก็เข้าใจด้วยว่าเขาต้องการเวลาเพื่อตั้งสติ ดังนั้นฉันจึงให้พื้นที่กับเขาฉันใช้เวลากว่าครึ่งอ่านหนังสือและอีกครึ่งในการนอนหลับพักผ่อน เขายังเอาใจใส่แม้ตอนที่นั่งห่างออกไป เขาถามว่าฉันนั่งสบายไหมหรือต้องการอะไรอีกหรือเปล่าอยู่เป็นระยะมือของเขาเอื้อมมาแตะหน้าท้องฉันจนดึงฉันออกจากภวังค์ ฉันมองลงไปพบว่าเขากำลังปลดเข็มขัดนิรภัยของฉันออก“คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันท

  • ธุลีใจ   บทที่ 456

    ก็เป็นความรักที่สวยงามไม่ใช่เหรอ? แต่ฉันรู้สึกได้ว่ามันต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้น บางสิ่งที่เปลี่ยนไป ถ้าทุกอย่างมันดีจริง ๆ ตอนนี้เขาก็คงเคียงคู่กับเธอคนนั้นไปแล้ว ไม่น่าจะมาแต่งงานกับฉันแบบนี้เสียงของเขาเริ่มแหบพร่าและเริ่มเล่าต่อ “ทุกสิ่งมันดีไปหมดเลย เธอเป็นผู้หญิงที่สุดยอดมากและผมก็รู้สึกว่าหลงรักเธอมากขึ้นทุกวัน แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้แนะนำเธอให้โรแวนรู้จัก เพราะผมอยากเก็บเธอไว้กับตัว ผมไม่ได้เจตนาจะคบหาแบบเงียบ ๆ แต่แค่อยากใช้เวลากับเธอมากกว่านี้ก่อนที่จะพบครอบครัวผม ทุกวันที่ตื่นขึ้นมาผมนึกว่าตนเองโชคดีขนาดไหนที่ได้พบเจอคนอย่างเธอ อย่างที่คุณรู้ โลกของเรามันหาคู่รักที่เหมาะกันได้ง่ายเสียที่ไหนล่ะ ฮาร์เปอร์”และนั่นแหละก็เป็นสังคมของเรา มันยากมากเลยนะที่จะพบเจอคนที่รักเราจริง บางคู่ที่แต่งกันก็เป็นเพราะเรื่องของธุรกิจ และน้อยคนนักที่จะรักและเคารพจากใจจริง แล้วก็ยังมีพวกหวังรวยทางลัดอีก เป็นพวกที่แต่งงานกับคนรวย ๆ เท่านั้นและฉันว่านี่คงเกิดขึ้นบ่อยด้วย“ผมอยู่ในห้วงความรักเลยและคิดอะไรอย่างมีเหตุผลไม่ค่อยได้ เธอสามารถทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตนเองได้เพราะผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอ ไม่อยากให้เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 455

    “ฮาร์เปอร์?” เสียงของเขาเรียกฉันกลับมาสู่ความเป็นจริง“โอ๊ะขอโทษที ฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย” ฉันส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป “ค่ะ ฉันเก็บของเสร็จแล้ว”“ดีครับ งั้นไปกันเถอะ”หนึ่งชั่วโมงต่อมา เรานั่งอยู่ในเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเกเบรียล ครั้งนี้ฉันเดินทางไปกับเขาเพื่อเซ็นสัญญาธุรกิจ“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม? ต้องการอะไรหรือเปล่า? ผมให้พนักงานต้อนรับเอาอะไรมาให้ได้นะ” กาเบรียลถามขึ้นทันทีที่เครื่องบินเริ่มออกตัวเข้าใจที่ฉันบอกแล้วใช่ไหม? เขาใส่ใจฉันมากเหลือเกินแต่ตอนที่เรายังแต่งงานกัน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ฉันคิดว่าเขาไม่เคยทำอะไรเพื่อทำให้ฉันมีความสุขเลย จริง ๆ แล้วมันตรงกันข้าม เขาไม่เคยสนใจว่าฉันต้องการอะไร หรือว่าฉันสบายดีไหม ไม่เคยสนใจแม้แต่ฉันยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า เขาแค่ไม่เคยสนใจฉันเลยแต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ฉันสับสน มันเหมือนเขาเป็นยักษ์ในตะเกียงวิเศษที่คอยทำให้ความปราถนาของฉันเป็นจริง“ไม่ค่ะขอบคุณ ถ้าต้องการอะไร เดี๋ยวฉันจะบอกพนักงานเองได้ค่ะ” ฉันพึมพำตอบกลับเกเบรียลพยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบแล็ปท็อปขึ้นมาเปิดฉันเอนตัวลงกับเบาะหน

  • ธุลีใจ   บทที่ 454

    “แม่ต้องไปจริง ๆ เหรอคะ?” ลิลลี่ถาม สายตามองสลับไปมาระหว่างฉันกับกระเป๋าเดินทางที่เปิดอยู่บนเตียงฉันไม่เคยชอบการเก็บกระเป๋าแบบเร่งรีบในนาทีสุดท้ายแบบนี้เลย แต่ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา งานที่ทำงานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ พอกลับถึงบ้าน สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้ก็คือการนอนหลับ ฉันเหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหว ไม่มีแรงจะทำอะไรนอกจากกินแล้วก็นอน“ต้องไปจ้ะ” ฉันตอบเธออย่างอ่อนโยน “งานนี้สำคัญมากเลยลูก แล้วพ่อหนูต้องไปจัดการด้วยตัวเอง…”“แต่หนูยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหนูไปด้วยไม่ได้? หนูอยากเห็นว่าพ่อทำงานยังไง หนูอยากรู้ว่าพ่อจัดการเรื่องงานยังไงค่ะ”ฉันพับเสื้อผ้าชิ้นสุดท้าย ซึ่งเป็นเสื้อไหมสีฟ้า ก่อนจะวางมันลงไปในกระเป๋ากับของที่เหลือ พอทุกอย่างเรียบร้อย ฉันรูดซิปปิดแล้ววางกระเป๋าลงบนพื้น“ลูกก็รู้นี่ ว่าไปไม่ได้” ฉันตอบเธอขณะนั่งลงบนเตียง“ทำไมล่ะคะ?”“เพราะลูกยังเป็นเด็กไง ก็เลยไปไม่ได้ ถูกไหมคะ?”“หนูไม่ใช่เด็กนะคะ หนูจะสิบขวบแล้ว"ฉันกลอกตาให้กับคำโกหกที่ชัดเจน ก่อนจะดึงลิลลี่เข้ามากอดและหอมแก้มเนียนนุ่มของเธอเบา ๆ“หนูก็รู้ดีนะว่าเพิ่งแปดขวบ อีกนานเลยกว่าสิบขวบนะลิลลี่… แล้วอีกอย่าง เด็ก ๆ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status