ซูเนี่ยนมองจิตสังหารในดวงตาของซูเยียนหรันนิ่งๆ ในใจยิ้มเยาะ“ไอ้หยา พูดถึงเรื่ององค์หญิงใหญ่จิ้งคังแล้ว ข้าไม่พูดไม่ได้เลย น้องสาว เมื่อวานเป็นวันมงคลของเจ้า แต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องกับองค์หญิงใหญ่เช่นนี้ ทั้งยังเจอกับสีเลือดด้วย นี่มันไม่เป็นมงคลเลยจริงๆ อี๋เหนียง[footnoteRef:1]ก็ถูกเจ้ากดจนไม่สามารถมีบุตรได้อีก แล้วยังเกิดเรื่องเช่นนี้กับองค์หญิงใหญ่อีก เฮ้อ” [1: อี๋เหนียง คำใช้เรียกอนุ ] ซูเนี่ยนสาดน้ำเสียให้กับซูเยียนหรัน จะว่าน้ำเสียก็ไม่ได้ เพราะใครให้ซูเยียนหรันใส่ร้ายตนก่อนล่ะ“พี่สาวล้อเล่นแล้ว ข้าเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นเหมือนกัน” ซูเยียนหรันหยิบผ้าเช็ดหน้า แล้วเช็ดน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริงเบาๆ จากนั้นเอ่ยโทษตัวเองว่า“พระชายา ท่านพูดเช่นนี้เกินไปแล้ว พระชายารองเองก็ไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกัน เมื่อคืนพระชายารองของเรายังสวดขอพรให้องค์หญิงใหญ่จนดึกดื่นถึงจะได้นอน” มั่วเอ๋อร์เอ่ยปกป้องฝูงชนเห็นใจซูเยียนหรัน มิน่าล่ะขอบตาถึงได้คล้ำ“งั้นหรือ เช่นนั้นเหตุใดข้าถึงได้ยินว่าตำหนักน้องสาวดับไฟตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ หรือว่าน้องสาวมีนิสัยสวดขอพรแบบหลบๆ ซ่อนๆ”เพื่อป้องก
ป้าจางนั่งพยุงจางสือโถ่วอยู่ข้างเตียง สีหน้าของจางสือโถ่วซีดเผือด มีเม็ดเหงื่อเล็กๆ ชุ่มอยู่บริเวณหน้าผาก“ย่า ข้าไม่เป็นอะไร”“แค่กๆ…”คำพูดปลอบโยนยังไม่ทันกล่าวจบ จางสือโถ่วก็ไอขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้ไอเป็นเลือดออกมา“ย่าจะไปทูลขอท่านอ๋อง ท่านอ๋องจะต้องมีวิธีแน่” ป้าจางตกใจจนจิตใจไม่เป็นสุข สีหน้าเทาขาว“ไม่มีประโยชน์หรอก อาการไข้ข้า ข้ารู้ดี อย่าไปรบกวนท่านอ๋องเลย” จางสือโถ่วพิงพักอยู่บนเตียงอย่างอ่อนล้า“ฮือๆๆ ย่าผิดเองที่ดูแลเจ้าไม่ดี ย่าทำผิดต่อพ่อเจ้า ทำผิดต่อตระกูลจาง” บนใบหน้าของป้าจางไร้ความโหดเหี้ยมเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป เพียงแค่ร้องไห้อยู่ข้างเตียง“ข้าขอดูอาการเขาที” ซูเนี่ยนเดินเข้าไป“ไม่ต้อง ที่สือโถ่วเป็นหนักถึงเพียงนี้ต้องขอบคุณพระชายามากจริงๆ พระชายาช่วยปล่อยเขาไปทีเถิด ถือเสียว่าทำความดีแล้วกัน” ป้าจางเงยหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้องทุกข์คนเป็นบ่าวจะอยู่หรือจะตายล้วนขึ้นอยู่กับคำพูดของนายเพียงประโยคเดียวเท่านั้น แต่ทว่าคนตระกูลจางของพวกเขาทั้งสามรุ่นล้วนรับใช้จวนอ๋อง แต่กลับต้องตกอยู่ในสภาพนี้ นางรับไม่ได้จริงๆ สวรรค์ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ!“อาการของเขายังไม่ถ
โชคดีที่ไม่ใช่วัณโรค เพียงแค่เลือดคั่งในปอดเท่านั้น เพราะเลือดสะสมเป็นก้อน ทำให้มีอาการไอเรื้อรัง ทั้งยังส่งผลให้ร่างกายไม่ดูดซับสารอาหาร ทำให้ผอมซูบเหมือนกิ่งไม้“ทานยานี้ซะ” ซูเนี่ยนหยิบยาแก้ไอที่ปรุงขึ้นเองจากกล่องยา แล้วยื่นให้ป้าจางป้าจางเทน้ำ แล้วให้จางสือโถ่วทานยานี้ทันที เม็ดยานั้นไหลลงไปจากลำคอ จางสือโถ่วรู้สึกเย็นชุ่มในคอ สบายเป็นที่สุดคนที่ยังไอไม่หยุดเมื่อครู่นี้ หลังจากทานยานี้เข้าไปกลับไม่ไออีกแล้วซูเนี่ยนโล่งใจ เพราะเดิมนางยังกังวลว่ายาที่ปรุงขึ้นในสมัยโบราณจะสู้สมัยใหม่ไม่ได้ ทว่าดูท่าแล้วจะไม่มีปัญหา“นี่มัน…” ป้าจางดีใจ “พระชายา บ่าวปฏิบัติไม่ดีต่อพระชายา บ่าวยอมมอบชีวิตนี้ให้พระชายาได้ระบาย ขอพระชายาได้โปรดช่วยสือโถ่วด้วยเถิด”ป้าจางคุกเข่าต่อซูเนี่ยน วินาทีนี้ นางถึงจะเชื่อว่าซูเนี่ยนสามารถรักษาสือโถ่วได้จริงๆ“ลุกขึ้นเถิด เรื่องนี้ข้าไม่อาจปัดความรับผิดชอบได้ โรคของสือโถ่ว ข้าจะรักษาให้หายแน่นอน”ซูเนี่ยนพยุงตัวป้าจางขึ้น “เพียงแค่ว่า ยานี้ช่วยบรรเทาอาการไอได้ก็จริง แต่ทว่าไม่สามารถรักษาที่ต้นเหตุได้ หากต้องการรักษาที่ต้นเหตุจำต้องผ่าตัดเปิดทรวงอกระบายเล
นับตั้งแต่ที่ขาทั้งสองข้างของเขาพิการ เขาก็ไม่ได้เข้าประชุมเช้าอีก ทว่าไม่รู้ฮ่องเต้ทรงมีแผนลับอะไรอีก จึงมีรับสั่งให้เขากลับราชวังอีกครั้งแน่นอนว่า ถึงแม้เขาจะเข้าเฝ้าเช้า แต่ทว่าฮ่องเต้ก็ไม่มีทางมอบภารกิจสำคัญให้เขาแน่นอน“ท่านอ๋อง ไม่ได้การแล้ว องค์หญิงใหญ่ไข้ขึ้นสูงเพคะ”ฉู่อี้หานที่เพิ่งถูกมั่วอีเข็นมาตรงหน้าประตูจวนอ๋อง สาวใช้ข้างกายองค์หญิงใหญ่ก็วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน“อะไรนะ ไข้ขึ้นสูงนั้นรึ รีบไปเชิญหมอหลวงมา” บริเวณหน้าประตูจวนอ๋องหลีมีบุรุษแต่งกายชุดบัณฑิตคนหนึ่งเข้ามาเอ่ยอย่างรีบร้อนว่า“อ๋องหลี ข้าขอเข้าไปดูองค์หญิงหน่อยได้หรือไม่”“เมื่อวาน พี่หญิงใหญ่ตกอยู่ในความอันตรายปานนั้น ก็ไม่เห็นราชบุตรเขยจะปรากฏ คราวนี้เสแสร้งทำเป็นห่วงเช่นนี้ให้ใครดูกัน” ฉู่อี้หานหมุนเก้าอี้ล้อเข้าหาราชบุตรเขย แววตาเหี้ยมโหด ทำให้ราชบุตรเขยตกใจตัวสั่น ชื่อเสียงในเรื่องความโหดเหี้ยมของฉู่อี้หาน ผู้ใดที่มีเรื่องด้วย โทษสถานเบาคือพิการ โทษสถานหนักคือตาย ขอแค่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ไม่มีใครไม่เกรงกลัวเป็นแน่“ข้าผิดเอง ข้าสัญญาว่าต่อจากนี้จะไม่ทำเช่นนี้อีก” ราชบุตรเขยทั้งอับอายทั้งรู้สึกผิด เมื
“พระชายา กล่องยาพร้อมแล้วเพคะ ของที่ท่านต้องการก็ใส่เข้าไปแล้ว” ท่าทีแบกกล่องยาของเฟิ่งเอ๋อร์ราวกับเป็นเด็กเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรอย่างไรอย่างนั้นช่วงเวลานี้ ซูเนี่ยนสอนหลักสมุนไพรพื้นฐานให้กับนางบ้าง เฟิ่งเอ๋อร์ไม่ใช่คนโง่เขลา นางจึงทำเป็นแล้วทั้งหมด“ให้ข้าเถอะ เจ้าอยู่ที่นี่นั่นแหละ” ซูเนี่ยนกล่าวและจะรับกล่องยามา“บ่าวถือเองเพคะ จะให้พระชายาถือเองได้อย่างไร” สาวใช้ผู้นั้นเห็นดังนั้น จึงแย่งกล่องยามาจากมือเฟิ่งเอ๋อร์ซูเนี่ยนพยักหน้า สาวใช้คนนี้จริงใจกว่าหมัวมัวเมื่อวานเยอะ“เพคะ” เฟิ่งเอ๋อร์ตอบอย่างนอบน้อมเมื่อซูเนี่ยนมาถึง หมอหลวงหูกำลังเดินไปมาอยู่กับที่แล้ว เขายิ่งรู้สึกว่าฝีมือด้านการแพทย์ของตนไม่ยอดเยี่ยมพอ เหนือฟ้ายังมีฟ้าจริงๆ“ท่านอาจารย์มาแล้วหรือ” เมื่อหมอหลวงหูเห็นซูเนี่ยน เขาก็ทำหน้าตื่นเต้นขึ้นมาข้าศึกษายาชานั่นแล้ว สุดยอดจริงๆ แต่ทว่ายังมีอีกหลายจุดที่ไม่เข้าใจต้องถามซูเนี่ยน“ท่านอ๋อง” ซูเนี่ยนพยักหน้าต่อฉู่อี้หานโดยไม่ทำความเคารพใดๆฉู่อี้หานเองก็ไม่ถือที่นางไม่ทำความเคารพ กล่าวว่า “รีบไปดูองค์หญิงใหญ่เถิด”ซูเนี่ยนมาถึงข้างเตียง ทำการตรวจชีพจรก่อน จากนั้
ฝีมือการแพทย์พอจะตบตากันได้ แล้วนิสัยใจคอเล่า เหตุใดจึงแตกต่างจากแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิงสายตาที่มองอย่างพินิจพิเคราะห์ของฉู่อี้หานยิ่งอยู่ยิ่งน่ากลัว ซูเนี่ยนเปลี่ยนเป็นท่าทางเกียจคร้าน แต่พูดอย่างจริงจังว่า“ท่านอ๋องหลี ที่ผ่านมาเป็นเพราะข้าไม่รู้จักประมาณตน ข้าไม่ควรเกาะแกะท่าน วันนี้ข้ากลับตัวกลับใจแล้วจริงๆ ข้าจะใช้ชีวิตใหม่ ท่านวางใจเถอะ ข้าจะไม่ตอแยท่านอีก เรื่องชอบท่านนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ ท่านสามารถเปลี่ยนใจไปรักกับซูเยียนหรันได้เลยเพคะ”ซูเนี่ยนพูดจริงจัง แต่ฉู่อี้หานฟังจบกลับหน้าดำทมึน ซูเนี่ยนพูดว่าจะไม่ตอแยเขาอีก นี่เป็นเรื่องดียิ่ง แต่เหตุใดเขากลับไม่ดีใจเลยล่ะไม่มาตอแยเขา แล้วจะไปตอแยหรงฉีหรือไงซูเนี่ยนยังเป็นพระชายาของเขาอยู่นะ“มีความรักไปเพื่ออะไร” ฉู่อี้หานกดความโมโหไว้แล้วกล่าว“ก็คนสองคนรักกัน กะหนุงกะหนิงไงเพคะ” ซูเนี่ยนอธิบายอย่างเจตนาดี“ไร้ยางอาย” ฉู่อี้หานสะบัดชายเสื้อ สีหน้าไม่สู้ดีนัก“เอ๋? ข้ารู้ความเช่นนี้เหตุใดท่านอ๋องจึงโกรธได้ล่ะเนี่ย” ซูเนี่ยนแบมือ พระชายาเอกเช่นนางผู้นี้จิตใจกว้างขวางมากแล้วนะ“ท่านพระชายาขอรับ แม้นว่าท่านจะหึงหวงท่านอ๋องก็ไม่
“เหอะ” องค์หญิงใหญ่แค่นเสียงเย็น ซูเนี่ยนอย่าได้คิดว่าช่วยชีวิตนางแล้วจะติดหนี้บุญคุณอะไรนางได้ หากไม่ใช่เพราะนาง หญิงแพศยาในจวนราชบุตรเขยจะทำตัวอวดดีกับนางใต้จมูกนางได้อย่างไรทุกวันซูเนี่ยนจนปัญญา หากเกลียดคนๆ หนึ่งแล้ว แค่นางหายใจก็คงผิดแล้วสินะ“เหอะๆ องค์หญิงใหญ่เพคะ พระวรกายมีตรงไหนที่เจ็บปวดอีกหรือไม่” ซูเนี่ยนยิ้มแห้งๆ“มี เจ้ามาตรวจให้ข้าที” องค์หญิงใหญ่จ้องตาซูเนี่ยนเขม็ง“เพคะ” ซูเนี่ยนเดินไปถึงข้างเตียงอย่างว่าหาย อยากจะจับชีพจรให้องค์หญิงใหญ่“เอาผ้ามารองให้ข้าที ข้าสะอิดสะเอียน” องค์หญิงใหญ่สั่งสาวใช้ซูเนี่ยนขมวดคิ้ว นี่มันอะไรกัน รังเกียจนางงั้นหรือ“เพคะ” สาวใช้วางผ้าผืนบางลงบนข้อมือขององค์หญิงใหญ่“อืม ขอบพระทัยองค์หญิงใหญ่ที่ทรงเมตตา เช่นนี้หม่อมฉันก็ไม่ต้องล้างมือแล้ว ลดความลำบากไปได้ องค์หญิงใหญ่ช่างเป็นผู้มีจิตใจดีเหลือเกิน ไม่เสียแรงที่หม่อมฉันช่วยชีวิตองค์หญิงแทบตาย” ซูเนี่ยนพูดไปทางองค์หญิงใหญ่อย่างยิ้มแย้มขณะเดียวกันก็เป็นการเตือนองค์หญิงใหญ่ ต่อให้นางจะไม่ชอบตนมากเพียงใด ตนก็เป็นผู้ช่วยชีวิตนาง!องค์หญิงใหญ่ยกมุมปาก นางเมตตาซูเนี่ยน? นางกำลังกลั่น
“รีบรับมาเร็ว เดี๋ยวทาให้ข้าเลยนะ” ดวงตาองค์หญิงใหญ่ส่องแสงวาบ ส่งสัญญาณให้สาวรับใช้รับยาไว้สาวรับใช้กำลังจะยื่นมารับยาไป ซูเนี่ยนดึงมือกลับ“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” น้ำเสียงองค์หญิงใหญ่ไม่ดีแล้ว“องค์หญิงเพคะ ยานี่ล้ำค่ายิ่งนัก ข้าสูญเสียไปมากเหลือเกินกว่าจะได้ยาขวดนี้มา ท่านว่า...” ซูเนี่ยนถูมือไปมาของที่ได้มาง่ายๆ ก็จะไม่ให้ค่ากับมันมากขนาดนั้น แม้ว่ายานี้จริงๆ แล้วก็จะนำมาให้องค์หญิงใหญ่อยู่แล้วนางอยากยืมมือองค์หญิงใหญ่ในการบอกต่อยานี้ ยานี้มีผลดีต่อการรักษารอยแผลเป็นทุกประเภท องค์หญิงใหญ่รักสวยรักงาม สตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวงก็ต้องรักสวยรักงามด้วยแน่ๆต่อให้คนที่ระมัดระวังมากเป็นพิเศษ อย่างไรก็ต้องชนนั่นชนนี่บ้าง ยานี่ต้องขายดีมากแน่ๆพอถึงตอนนั้นนางก็ไม่ต้องขอเงินจากเสี่ยวฮุยแล้วพูดถึงเสี่ยวฮุย เจ้าหนูอ้วนนี่ช่วยนางไว้ไม่น้อย นางตัดสินใจแล้วว่าเย็นนี้จะทำสันหมูทอดเพิ่มอีกหนึ่งชุด“เจ้าขาดเงินหรือ” องค์หญิงใหญ่มองภาพละโมบโลภทรัพย์ของซูเนี่ยนจึงถามขึ้นอย่างสงสัย“องค์หญิงใหญ่ไม่ทรงทราบ หม่อมฉันไม่ได้รับเบี้ยหวัดรายเดือนจากจวนอ๋อง ท่านอ๋องสั่งให้คนรับใช้ไม่ต้องมาปรนนิบั
ซูเนี่ยนกรอกตาบน ครั้งแรกเลยที่ได้เห็นคนระลึกความหลังกันแบบนี้กลิ่นยาสมุนไพรลอยมา ขอบตาแดงๆ ของฉู่อี้หานค่อยๆ จางหายไป กลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเห็นซูเนี่ยนมองค้อนเขาทีหนึ่ง เขาก็กลับมามีสติอีกครั้งมีพวกเราอยู่ก็มีความหวังอย่างนั้นเหรอ?ประโยคนี้ตอนนั้นดูเหมือนเสด็จแม่ของเขาก็เคยพูดไว้ เหตุใดซูเนี่ยนถึงได้พูดประโยคเดียวกัน?เพลงเซียวเซียงเยียนอวี่ที่ซูเนี่ยนเล่นใรงานชมดอกท้อ ความจริงแล้วเป็นบทเพลงที่เสด็จแม่ของเขาเคยบรรเลงร่วมกับลู่เจียว พวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วิธีการดีดพิณก็เหมือนกันในหลายจุดซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถดีดพิณได้ วิธีการดีดยังได้รับการสืบทอดมาจากลู่เจียว ครั้งก่อนเขาได้ยินแล้วตอนอยู่อีกเรือน แถมยังส่งมั่วอีไปแอบดูมาแล้วด้วยเขาอยากฟังอีกสักครั้งจัง"ท่านอ๋อง รบกวนหลีกทางหน่อย" ซูเนี่ยนโบกมือไล่ฉู่อี้หานอย่างรำคาญแม่นมไป๋ที่อยู่ด้านหลังรีบเข็นฉู่อี้หานออกไปด้านข้างทันทีไทฮองไทเฮาเม้มปาก มองดูซูเนี่ยนที่ดึงมือของตัวเองไป ความจริงนางค่อนข้างตื่นเต้น เพราะว่านางไม่อยากกินยา และไม่อยากฝังเข็มซูเนี่ยนจับชีพจรให้ไทฮองไทเฮาอย่างละเอียด ทั้งยังตรวจดู
"หึ" แววตาของฉู่อี้หานค่อนข้างร้อนแรง ซูเนี่ยนรู้สึกตกใจจนต้องชักมือกลับไป"ข้าเห็นเจ้าเปลือยหมดแล้ว เจ้าเองก็เห็นข้าเปลือยหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ข้ายังไม่เอาเรื่องที่เจ้ามองข้าเลยนะ" น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง สายตาของฉู่อี้หานจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ขาวสะอาดของซูเนี่ยน"หุบปากนะ!" ซูเนี่ยนหน้าดำ นางเห็นเขาเปลือยตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ท่านอ๋อง พระชายา ไทฮองไทเฮาตื่นแล้วเพคะ" ในขณะที่ซูเนี่ยนกำลังจะพูดอะไร แม่นมไป๋ก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยความดีใจ"ตื่นแล้ว? ไปดูสิ" ซูเนี่ยนพยักหน้า ดูจากเวลา ตอนนี้ไทฮองไทเฮาก็ควรจะตื่นแล้วซูเนี่ยนเดินอยู่ด้านหน้า ฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อตามมาอยู่ด้านหลัง พวกเขาเดินอย่างรีบร้อนเข้าไปในตำหนักของไทฮองไทเฮาตอนนี้ไทฮองไทเฮากำลังนั่งเอนหลังกินข้าวต้มเปล่าด้วยการดูแลของนางกำนัลอยู่บนศรีษะของนางไม่มีเครื่องประดับผมใดๆ สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าเล็กมาก เห็นได้ชัดว่าในตอนสาวๆ ก็เป็นหญิงงามคนหนึ่ง"ไทฮองไทเฮา ท่านอ๋องหลีกับพระชายาหลีมาแล้วเพคะ" แม่นมไป๋พูดรายงานอย่างนอบน้อม"ไม่กินแล้ว" ไทฮองไทเฮาโบกมือให้กับนางกำนัล ข้าวต้ม
มั่วอีค้อมตัวเล็กน้อย เหตุใดใบหน้าของท่านอ๋องถึงมีรอยช้ำได้นะ?ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าพระชายาคงเป็นคนต่อยแน่ หรือว่าท่านอ๋องทำเรื่องอะไรไม่ดีกับพระชายาอีกแล้วเหรอ?มั่วอีคิดอย่างใจลอย เมื่อสายตาเย็นเยียบของฉู่อี้หานมองมา มั่วอีจึงต้องเร่งมือขึ้นอีกเขาเข็นฉู่อี้หานออกจากบ่อน้ำร้อน อ๋องคังกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นหน้าของฉู่อี้หานเขาก็ดีใจ แต่เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าเขาก็ต้องยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นใครกันที่ไม่กลัวตายแอบลอบทำร้ายเสด็จพี่! ใครกันที่บังอาจขนาดนี้ เขาจะต้องไปพบสักหน่อยแล้ว"ฮ่าๆๆ เสด็จพี่ มะ มุมปากท่าน" อ๋องคังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าเย็นชา มีแผลมาประดับไว้ ช่างดูมีสีสันเหลือเกินแค่รู้สึกตลกไปสักหน่อย"มั่วอี พาท่านอ๋องคังไปประลองดาบที่เรือนหน่อยสิ ไม่ต้องรุนแรงมากล่ะ อย่าได้รบกวนไทฮองไทเฮา ข้าอยากจะรู้ว่าหลายปีนี้ท่านอ๋องคังมีฝีมือดีขึ้นบ้างไหม" ฉู่อี้หานหรี่ตาลง มองไปที่อ๋องคังอย่างน่ากลัว เขาอยากจะยกมุมปากขึ้นเหลือเกิน แต่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ฉับพลันความโกรธก็ฉายขึ้นมาในแววตายัยซูเนี่ยนนั่น ไม่ออมมือเลยสักนิด"เอ่อ ฮ่าๆๆ" เดิมทีอ๋องคังก
ท่าทางการต่อสู้ของซูเนี่ยนแปลกประหลาด หลังจากที่ฉู่อี้หานแกล้งนางไปสักพักก็ไม่กล้าที่จะดูถูกฝีมือนางอีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำตามกติกาเลยหลังจากที่ซูเนี่ยนทุบตีจนพอใจก็รู้สึกโล่งที่ได้ระบายความแค้น ไม่อยากที่จะมองฉู่อี้หานอีก คิดที่จะออกไปจากสระน้ำทันทีแต่นางไม่ทันสังเกตว่าผ้าม่านที่นางใช้พันร่างกายตรงหน้าอกไว้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงจากการที่นางขยับร่างกายมากเกินไปผ้าม่านนั้นได้ล่วงลงในจังหวะเดียวกันกับที่ซูเนี่ยนหมุนตัวเดิมทีฉู่อี้หานที่คิดจะคว้าตัวนางไว้ก็ต้องนิ่งอึ้งไปกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าซูเนี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางรีบหันไปมองฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่อย่างตกใจในหัวสมองของฉู่อี้หานตอนนี้ถูกเจ้าลูกกลมๆ เด้งๆ สองลูกทำเอาเบลอไปหมด ในหัวสมองมีแต่สองคำนี้วนเวียนอยู่ใหญ่...มาก..."อ๊า!"ซูเนี่ยนกรี๊ดออกมาเสียงดัง รีบเอาผ้าม่านกลับมาพันไว้ทันที นางไม่อาจอดกลั้นความโกรธในใจได้อีกต่อไปเตะขาออกไปอย่างแรง จนฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่ต้องล้มลงไปในน้ำ"ข้าจะตีท่านให้ตาย ข้าจะทำให้ท่านจมน้ำตายไปเลย! ลามก! สารเลว!"เสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของซูเนี่ยนดังขึ้นไม่หยุด นางกำนัลสองคนที่เฝ
เมื่อซูเนี่ยนมองไปในดวงตาของเขา ก็พบว่าดวงตาของเขายิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าก็ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงล้มเลิกความคิดที่จะกลั่นแกล้งฉู่อี้หานไปนางอย่าได้ไปหาเรื่องคนโหดร้ายอย่างเขาเลย"หากข้าบอกว่าได้ล่ะ" เขากอดร่างกายของซูเนี่ยนที่พยายามดิ้นแน่นขึ้น ฉู่อี้หานพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับมองใบหน้าขาวละเอียดของซูเนี่ยนไปด้วยความสวยของซูเนี่ยนดูไกลๆ ก็น่าประทับใจแล้ว ดูใกล้ๆ ยิ่งราวกับรูปสลักของนางฟ้าบนสวรรค์ ตอนนั้นความสวยของลู่เจียวเป็นที่พูดถึงกันในเมืองหลวงเท่าไร ซูเนี่ยนก็ยิ่งเป็นมากกว่านั้นอีกเพียงแต่เมื่อก่อนซูเนี่ยนเป็นคนอ่อนแอเอาแต่เก็บตัว คนอื่นก็เลยละเลยความสวยของนาง แต่ในตอนนี้ซูเนี่ยนเปล่งประกายความมั่นใจและสงบเยือกเย็นออกมาจากภายใน ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้กับใบหน้าที่น่าหลงไหลนี้ เพียงแค่ไม่นานก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนริมฝีปากของซูเนี่ยนกระตุก ทำไมนางถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กำลังหยอกล้อฉู่อี้หาน แต่เป็นฉู่อี้หานที่กำลังหยอกล้อนางกันนะเมื่อมองฉู่อี้หานใกล้ๆ ก็ทำให้ซูเนี่ยนอดที่จะพิจรณาใบหน้าของคนเย็นชาอย่างเขาไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่เขาจ้องหน้าของนาง ราวกับว่านางเ
ใครให้ฉู่อี้หานดึงเสื้อของนางล่ะ เช่นนั้นนางก็จะทำกับเขาแบบเดียวกัน ดึงเสื้อของนาง นางก็จะให้เขารับรู้ความรู้สึกของการโดนดึงเสื้อบ้าง!ในตอนที่เสื้อถูกดึงออก นอกจากแผ่นหลังที่แข็งแรงและผิวขาวเนียนที่ซูเนี่ยนเห็นแล้ว ก็ยังมีรอยแผลเป็นริ้วๆ ตรงด้านหลังด้วยมีทั้งแผลจากมีดและดาบ รอยโดนลวก...เยอะจนนับไม่ไหว แต่แผลพวกนั้นไม่เพียงไม่ได้ทำให้ฉู่อี้หานน่าเกลียด กลับยังเพิ่มเสน่ห์แบบดิบๆ ให้เขาอีกด้วยฉู่อี้หานเพิ่งพบว่าเขาดูถูกฝีมือของซูเนี่ยนไป ใบหน้าปรากฎเป็นรอยยิ้มอันตรายแววตามีความสนุก ไม่เลว กล้าดึงเสื้อของเขา กล้าไม่เบา แต่ในเมื่อกล้าดึงเสื้อของเขา เช่นนั้นก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยซูเนี่ยนเก็บความได้ใจของตัวเองไป นางสัมผัสได้ถึงความอันตราย หลังจากโยนเสื้อทิ้งไปซูเนี่ยนก็เตรียมหันหลังจะหนี แต่ฉู่อี้หานก็ตามติดนางไม่ปล่อยอีกทั้งฉู่อี้หานยังไม่อยากที่จะเล่นเกมไล่จับอีกต่อไป เขารวบรวมกำลังภายในที่ฝ่ามือ กระแทกน้ำจนสาดกระเซ็นตัวของซูเนี่ยนกระเด็นลอยไปในอากาศ จากนั้นก็จะร่วงลงมาอย่างแรงหากว่าร่วงลงไปแบบนี้ นางคงไม่พ้นตายก็พิการแน่"ฉู่อี้หาน..."ซูเนี่ยนตะโกนออกมาอย่างดัง ใบหน้าเล
คลื่นน้ำนั้นพุ่งกระแทกมาทางซูเนี่ยนอย่างแรงซูเนี่ยนตกใจมาก รีบยื่นมือออกไปคว้าเสื้อเอาไว้ทันทีแต่แรงกระแทกจากคลื่นน้ำนั้นรุนแรง ทำให้ซูเนี่ยนคว้าไว้ได้เพียงแค่เสื้อชั้นในเท่านั้นหมุนตัวหลบการโจมตีจากคลื่นน้ำ ซูเนี่ยนอาศัยจังหวะระหว่างนั้นใช้เสื้อชั้นในห่อร่างกายของตัวเองไว้ แต่เนื่องจากรีบร้อนทำให้เสื้อชั้นในสามารถปกปิดไว้ได้เพียงส่วนสำคัญเท่านั้น ร่างกายส่วนอื่นยังเปิดเผยอยู่อย่างเห็นได้ชัดฉู่อี้หานหรี่ดวงตาทั้งสองข้างมองไปยังเรือนร่างเล็กที่ๆ ที่กำลังหันหลังว่ายหนีตัวเองอย่างรวดเร็วอยู่คิดหนี? ต้องดูด้วยว่าเขายินยอมหรือไม่!เดิมทีเขาก็ไม่วางใจทางด้านไทฮองไทเฮาอยู่แล้ว ดังนั้นเลยส่งสิบแปดองค์รักษ์มาคอยแอบคุ้มกันอีกที คิดไม่ถึงว่าจะมีแอบเข้ามาถึงบ่อน้ำร้อนนี้ได้ แถมยังถูกเขาจับได้พอดี เขาไม่มีทางปล่อยนางไปแน่!ฉู่อี้หานรีบคว้าเอาเสื้อที่อยู่ริมสระน้ำมาสวม จากนั้นก็ยื่นมือคว้าไปทางซูเนี่ยนซูเนี่ยนรับรู้ได้ถึงพลังรุนแรงของฝ่ามือจากด้านหลัง ก็ตกใจรีบหลบทันทีไอน้ำขุ่นมัวล้อมรอบทั้งสองคนเอาไว้ เนื่องจากควันจากไอน้ำหนาเกินไป อีกทั้งซูเนี่ยนก็หัวเหอยุ่งเหยิง ทำให้มองเห็นหน้าไม
"ทำยังไงดีพระชายายังอยู่ข้างในเลย" นางกำนัลที่เฝ้าอยู่ด้านนอกมีสีหน้ากระวนกระวายทำไมอ๋องหลีถึงมาตอนนี้ล่ะ ก่อนหน้านี้อ๋องหลีก็มาแช่น้ำร้อนของไทฮองไทเฮาเช่นกัน ไม่มีใครเคยขวาง แต่ละคนต่างก็เคยชินแล้ว ก็เลยไม่มีใครรายงานก่อนแต่ว่าวันนี้มันต่างกัน ที่ในบ่อน้ำร้อนยังมีคนอื่นอยู่ด้วย"ไม่ต้องกลัว ด้านในก็ไม่ใช่ใครอื่นสักหน่อย เป็นพระชายาอ๋องหลีนะ ท่านอ๋องกับพระชายาจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องดีหรือยังไง" นางกำนัลอีกคนหนึ่งไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาเรื่องนี้จะโทษพวกนางไม่ได้ เป็นท่านอ๋องหลีที่น่ากลัวเกินไป พวกนางเจอทีไรเป็นต้องพูดติดๆ ขัดๆ ตลอด รอตอนที่พวกนางจะพูดจริง ก็สายไปซะแล้ว อ๋องหลีเข้าไปแล้วมั่วอีที่ได้ยินบทสนทนาของนางกำนัลทั้งสองคนก็ตกใจ แต่ตอนนี้ใครก็ไม่สะดวกเข้าไปแล้ว จะขวางท่านอ๋องได้อย่างไร?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่อยากขวาง ก็เหมือนกับที่นางกำนัลสองคนนี้พูด ให้ท่านอ๋องกับพระชายาใช้เวลาอยู่ร่วมกันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอมั่วอีเปลี่ยนทิศทางการเดิน สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีเลสนัย เดินออกไปทางนอกตำหนักฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อไปทางสระน้ำ ที่ปากของหงส์ท
เยือกเย็นมาก สงบมาก ลักษณะเช่นนี้ขนาดลูกคุณหนูตระกูลใหญ่ทั่วไปยังทำไม่ได้เลยอีกทั้งการปฏิบัติตัวกับคนอื่นก็โอบอ้อมอารี มีมารยาท ใส่ใจแต่เรื่องพวกนี้ นางคิดว่าซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถเป็นฐานะพระชายาอ๋องหลีได้ แถมยังคู่ควรกับอ๋องหลีอีกด้วยอีกอย่างดูจากท่าทางของอ๋องหลีเมื่อคืนนี้ เกรงว่าเขาก็คงมีใจให้กับซูเนี่ยนเหมือนกันสิ่งที่แม่นมไป๋คิดอยู่ในใจ ซูเนี่ยนไม่ได้รู้เลยสักนิด นางคิดเพียงอยากจะรีบอาบน้ำ ตอนนี้นางเหม็นตัวเองจะตายอยู่แล้วแม่นมไป๋เดินนำซูเนี่ยนมาจนถึงบ่อน้ำร้อนนี่คือบ่อน้ำร้อนที่จักรพรรดิเต๋อคังสร้างให้ไทฮองไทเฮาโดยเฉพาะ ภายในยังใส่สมุนไพรจีนไว้มากมาย มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากซูเนี่ยนเป็นหมอย่อมต้องดมรู้อยู่แล้วภายในบ่อน้ำร้อนมีควันพวยพุ่ง ขมุกขมัว บ่อน้ำร้อนใหญ่มาก มีปุ่มกดรูปหงส์สยายปีกสร้างไว้โดยรอบ แม่นมไป๋กดปุ่มรูปหงส์อันหนึ่ง ก็เห็นว่าน้ำในบ่อถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็วไม่ใช่บ่อสมุนไพรอีกต่อไป แต่กลายเป็นบ่อน้ำนมสีขาวที่มีกลีบดอกท้อลอยอยู่ด้านบนแทนอุณหภูมิน้ำที่อุ่นทำให้กลิ่นหอมจากกลีบดอกท้อลอยโชยขึ้นมาในอากาศ ซูเนี่ยนสูดหายใจเข้าไปลึกๆ รู้สึกว่าหอมมากสมแ